Share

บทที่ 5

Author: wmtawisa9a
last update Last Updated: 2025-04-06 20:13:13

รู้สึกเหมือนกับว่ากำลังถลุงเงินเล่นอยู่เลยแฮะ ตั้งแต่มายังโลกมนุษย์ฉันก็เอาแต่ซื้อทุกอย่างที่ขวางหน้า ประหนึ่งว่าเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไปหลายต่อหลายครั้งในขณะที่ฉันยังคิดไม่ออกเลยว่าจะให้อะไรกับเขาดี หรือบางทีอาจเป็นพวกไวน์องุ่นไม่ก็แซนวิช อืม ฉันเลือกไวน์องุ่นก็แล้วกัน คิดว่ามันคงจะสร้างความประทับใจแรกให้กับฉันมากพอดู

“ครับ คุณมีธุระอะไรรึเปล่าครับ”

คนร่างสูงโปร่งเปิดประตูออกมาต้อนรับฉันอย่างสับสน เนื่องจากเขาไม่ได้รู้จักคนตรงหน้านี้เลย สีหน้าของเขาจึงบ่งบอกทุกอย่างออกมาหมด

“คือฉันเพิ่งย้ายเข้ามาน่ะค่ะ อยู่ห้องถัดจากคุณ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ ฉันยูโร ชิยูอิน และนี่ก็ของฝากค่ะ คิดซะว่าเป็นของขวัญจากเพื่อนข้างห้องนะคะ”

อทินมีสีหน้าลำบากใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไรนอกเสียจากยอมรับขวดไวน์ราคาแพงมาถือเอาไว้เองพลางหลบเลี่ยงสายตาฉันนิดๆ

“ขอบคุณครับ”

“แค่นี้เองเหรอคะ นึกว่าคุณจะยอมบอกชื่อกับเพื่อนข้างห้องของคุณซะอีก”

ฉันแกล้งตัดพ้อใส่คนร่างสูงซึ่งยืนลังเลใจอยู่พักนึงก่อนจะเอ่ยออกมา

“ผมชื่ออทิน ถ้าไม่มีอะไรแล้วขอตัวก่อนนะครับ”

ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรต่อเขาก็ดันปิดประตูใส่หน้าฉันดังปังเลยให้ตายสิ คนๆ นี้ กลัวคนขั้นสุดเลยรึไงนะ แต่คิดไปก็หัวเสียซะเปล่าๆ ดังนั้นฉันก็เลยกลับมาอยู่ห้องของตัวเองพลางคิดต่อว่าจะเอายังไงต่อไปดี ความรักของเขาและเธอดูท่าทางจะลำบากกว่าถนนลูกรังที่ขรุขระในตัวเมืองซะอีก และนั่นมันก็ช่างไม่ยุติธรรมเลยในขณะที่ฉันกำลังคิดวิตกจนหัวหมุนไม่ยอมหยุดอยู่แบบนี้แต่เขากลับไม่รับรู้ถึงมันด้วยซ้ำไป

“มาคนเดียวงั้นเหรอ”

“ค่ะ ฉันมาสำรวจที่อโคจรน่ะค่ะ”

ฉันเอ่ยตอบผู้ชายผมสีเทาที่เดินมานั่งโต๊ะของฉันด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ราวกับจิ้งจอกหนุ่มจ้องจับเหยื่ออย่างไม่ยอมคาดสายตา เพียงแต่ว่าฉันไม่ใช่เหยื่อในค่ำคืนนี้ของเขาหรอกนะ ขอโทษด้วยก็แล้วกัน

“จะดีเหรอครับ เป็นผู้หญิงแล้วมาคนเดียวแบบนี้ให้ผมนั่งเป็นเพื่อนไหมล่ะครับ”

คำพูดอ่อนหวาน นัยต์ตาแฝงไปด้วยรอยยิ้มชั่วร้ายจ้องตาฉันพลางยิ้มรับอย่างไม่ละสายตา นึกว่าฉันดูไม่ออกรึไง

“กลิ่นฉุนจังเลยนะคุณน่ะ มันออกจะเสียมารยาทกันไปหน่อยไม่ใช่เหรอคะ คุณจิ้งจอกเก้าหาง”

“คุณรู้ด้วยเหรอ ว่าผมเป็น ถ้างั้นทางนี้ก็คงใช่จริงๆสินะครับ อยากดื่มอะไรรึเปล่าล่ะ ผมเลี้ยงเอง คิดไม่ถึงเลยว่าจะได้เจอคุณในที่แบบนี้ด้วย ผมรันเวย์”

พูดจบเขาก็ขยับมือมาทางฉันที่ยังคงจับตาดูผู้คนซึ่งคับคั่งไปด้วยกลิ่นไอของปีศาจปะปนไปกับของพวกมนุษย์ สถานที่ที่ขึ้นชื่อว่าไนต์คลับคงไม่พ้นเรื่องพวกนี้เลยสินะ

“รับอะไรดีครับ”

ทันทีหมอนี่นั่งลง เขาก็กวักมือเรียกบริกรหนุ่มให้มาทางนี้เป็นการเร่งด่วน พร้อมกับสั่งเมนูยอดฮิตติดชาร์ตในมือด้วยความคล่องแคล่ว

“ผมเอาเตกีล่า แก้วนึงครับ ~”

“แล้วคุณผู้หญิงท่านนั้นล่ะครับ”

บริกรที่นี่ดูขยันขันแข็งน่าดูเลยนะ ถ้าไม่สั่งคงเสียมารยาทแย่

“อืม...ฉันเอาดราย มาร์ตินี่แล้วกันค่ะ”

ฉันจิ้มไปตามเมนูเครื่องดื่มทั้งที่ไม่รู้จักมันซักนิดเดียว ก่อนจะคืนเมนูให้กับทางร้านไป แต่มันน่าหงุดหงิดจริงๆ นะ ที่เขาลอบยิ้มใส่ฉันที่กำลังจดบันทึกยุกหยิกอย่างตั้งใจอยู่ มีอะไรน่าขำมากรึไง ถ้ามีก็พูดออกมาสิ นั่งอมยิ้มอยู่ได้

“คิดไม่ถึงเลยนะครับว่าคุณจะมาหาข้อมูลการทำให้คนรักกันถึงที่นี่ แถมยังใจกล้าไม่เบา”

“นี่คุณไม่คิดจะไปที่อื่นเลยรึไงคะ”

“คุณยังไม่บอกชื่อของคุณเลยนี่ครับ อีกอย่างวันนี้ผมไม่ต้องการพลังงานจากพวกมนุษย์หรอกนะ แต่ถ้าเป็นคุณก็ไม่แน่”

“ฉันไม่จำเป็นต้องรู้จักคุณเลยค่ะ และไม่คิดอยากจะรู้จักด้วย ต่างคนต่างอยู่ดีกว่านะคะ ไม่งั้นฉันอาจจะทำอะไรที่มันจำเป็นซึ่งเป็นข้อยกเว้นของข้อห้ามก็ได้”

“ท้าทายดีจังครับ ผมยิ่งอยากรู้จักคุณมากขึ้นไปอีก”

ไม่คิดจะฟังกันเลยสินะ ปีศาจจิ้งจอกดื้อด้านแบบนี้ทุกตัวเลยรึเปล่า ฉันจะได้จับขังโรงเรียนฝึกสุนัขทุกตัวไปเลย

“เครื่องดื่มที่สั่งมาแล้วครับ ค่อยๆ ดื่มนะครับ”

พอดีเลยฉันยิ่งหงุดหงิดอยู่ด้วย ก็เลยหยิบแก้วดราย มาร์ตินี่ยกดื่มเข้าไปรวดเดียว ทำให้คนตรงหน้าอึ้งไปทันทีกับการกระทำของฉันพลางตบมือให้เบาๆ

“สุดยอดเลยครับ คุณนี่คอแข็งเป็นบ้า ผมนับถือเลย”

ตึง!

“เอ๋? อย่าบอกนะว่า...”

ทำไมมันถึงมึนหัวได้ขนาดนี้ หนักไปทั้งตัวเลย รู้ตัวอีกทีฉันก็ฟุบหน้าลงไปกับโต๊ะแล้ว แต่ก็พอจะได้ยินเสียงจากคนข้างๆ อยู่บ้าง

“คุณเมาแล้วหรอครับ อย่าบอกนะว่าเพิ่งเคยมาครั้งแรก นี่ไม่เป็นไรแน่นะ?”

“อืม...ฉันก็แค่พัก...ไม่เป็นไร”

“ไม่เป็นไรแน่หรอครับ หน้าแดงแจ๋เลย”

“ดูเหมือนคอฉันจะไม่แข็งจริงๆ ”

ฉันพึมพำพลางพยายามยันตัวเองขึ้นมาจากโต๊ะโดยที่มีรันเวย์คอยช่วยพยุงอยู่ ไม่ไหวจริงๆ นั่นล่ะ แม้ว่าจะจำแลงร่างตัวเองเป็นผู้ใหญ่ขึ้น แต่ยังไงร่างจริงของฉันก็ยังเป็นเด็กอยู่ดี เหล้านั่นมันคงแรงไปสินะ ทั้งที่คิดว่าน่าจะเบาที่สุดแล้วแท้ๆ

“ยังไงดีล่ะ คุณในตอนนี้อ่อนแอกว่าปีศาจอย่างผมอีกนะ ไม่คิดว่าผมจะกินคุณบ้างรึไง”

“มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกค่ะ....ถ้าฉันปล่อยคลื่นพลังออกมาแค่เพียงเล็กน้อย...ไม่คิดหรอว่าพวกเขารับรู้ถึงตัวตนของฉัน...ถ้าเป็นแบบนั้นคงไม่ได้มีแค่คุณที่ต้องการฉันหรอก....”

ถึงจะพยามยามโฟกัสเท่าไร แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยได้ผลเลยแหะ ถ้าไม่ใช่สายรักษาก็คงต้องฝึกฝนมากกว่าคนพวกนั้นถึงเท่าตัวเพราะฉะนั้นแค่ฉันตอนนี้ทำได้เพียงประคองสติให้มีอยู่ก็เต็มกลืนแล้ว

“สมกับเป็นพวกคุณเลย แต่แค่ผมกลบพลังของคุณตอนนี้ ก็น่าจะพอทำได้นะ”

คนร่างสูงอมยิ้มเล็กน้อยพลางประคองศีรษะของคนคออ่อนมาพิงไหล่ของตัวเขาเอง

“......”

“หลับไปซะแล้วหรอ”

“.......”

“เมื่อกี้ยังขู่ฟ่อๆ เป็นลูกแมวน้อยอยู่เลยแท้ๆ ”

“.......”

“ชักอยากเลี้ยงลูกแมวน้อยขึ้นมาแล้วสิ”

รันเวย์ปลายตามองคนร่างบางที่หลับตาพริ้มอยู่ข้างๆ เขาด้วยลมหายใจสม่ำเสมอก่อนจะถูกหญิงสาวแปลกหน้ามองจิกใส่เขาด้วยอีกคน

“นั่นคุณคิดจะทำอะไรเพื่อนของฉันกันคะ!?”

ผู้หญิงหน้าสวยเดินตรงมาประคองคนร่างบางต่อจากรันเวย์ที่กำลังประมวลผลหญิงสาวซึ่งอ้างตัวเป็นเพื่อนของเจ้าลูกแมวน้อยอย่างนึกสนุก นี่ลูกแมวน้อยของผมมีเพื่อนเป็นมนุษย์กับเค้าด้วยหรอเนี่ย

“เดี๋ยวสิครับ ผมจะแน่ใจได้ยังไงว่าคุณเป็นเพื่อนของเธอ”

ชายหนุ่มยื้อแขนข้างนึงของคนร่างบางเอาไว้ทำให้หญิงสาวอีกคนปัดมือเขาออก

“ยูโร เป็นเพื่อนของฉันค่ะ การให้เธอไปกับฉันยังจะปลอดภัยว่าการไปกับผู้ชายอย่างคุณ”

ดูท่าเธอจะรู้จักกับเจ้าแมวน้อยของผมจริงๆ นะเนี่ย ช่วยไม่ได้แหะงั้นผมจะยอมปล่อยพวกเธอไปก่อนก็แล้วกัน ไม่อย่างนั้นเจ้าลูกแมวน้อยตัวนี้คงจะเกลียดจิ้งจอกเจ้าเล่ห์อย่างผมแน่ๆ

“ถ้างั้นรถของคุณอยู่ทางไหนล่ะครับ เดี๋ยวผมจะอุ้มเธอไปส่งให้”

ดูยังไง ผู้ชายคนนี้ก็ดูไม่ใช่คนดีเลย รอยลิปสติกที่คอ ไหนจะกลิ่นน้ำหอมของผู้ชายเจ้าชู้อีก คุณยูโรต้องโดนเขาหลอกมาแน่ๆ ดีนะที่ฉันมาเจอซะก่อน!

“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันจัดการเองได้ ยังไงก็ขอบคุณที่ช่วยดูแลเพื่อนของฉันนะคะ”

พูดจบฉันก็รีบพยุงคนร่างบางมายังโต๊ะที่มีกลุ่มเพื่อนๆ ของฉันนั่งอยู่ด้วยกันอย่างทุลักทุเล

“ยัยเมล แกหายไปไหนตั้งนานสองนาน เอ้า ! แล้วนี่แกไปหิ้วใครมาด้วยเนี่ย น่ารักนะยะ”

กลุ่มเพื่อนของฉันที่กำลังดื่มด่ำกับบรรยากาศรอบๆ ตัวของไนท์คลับแห่งนี้จ้องมายังคนร่างสวยที่ฉันพยุงอยู่ตาเป็นมัน นี่ฉันลืมบอกไปสินะ ว่ายัยพวกนี้มันได้หมดทั้งชายหญิง แต่ว่าฉันคงยกให้ไม่ได้หรอก

“หยุดเลย ห้ามคิดเด็ดขาด”

“ทำไมหวงหรอยะ ก็ได้ๆ รู้แล้วน่า ของๆ เพื่อนเราไม่แย่งหรอก”

“ไม่ใช่แล้วไหมล่ะ นี่พวกแกใครซักคนมาช่วยพยุงคุณยูโรไปที่รถที”

“ฉันๆ ฉันไปเอง”

วีน่าเสนอรับตัวเข้ามาคว้าแขนซ้ายของร่างสวยเอาไว้ก่อนที่จะโดนฉันเขม็งตาใส่

“เออ ไม่แย่งหรอกน่า หยุดจ้องฉันแบบนั้นสักที!”

“อืม....อย่าไป.....”

“อุ้ย! แก เค้าอ้อนฉัน ฉันคงต้องไปกับแกด้วยแล้วล่ะ!”

“หยุดเลย กลับเข้าไปได้แล้ว”

“โหดร้าย ไปเจอตรงไหนไม่ยอมบอกเพื่อนเลยนะยัยตัวดี ก็ได้ๆ หยุดทำหน้าแบบนั้นเลยนะ”

พอยัยวีน่าเดินกลับเข้าไปในคลับแล้วฉันก็ถือวิสาสะเปิดกระเป๋าของคนหน้าสวยออกดู เพื่อที่จะได้รู้ที่อยู่ของเธอ จนกระทั่งเจอกับสมุดบันทึกเล่มนึงเข้า

“แผนจับคู่ของอทิน โดย ยูโร งั้นหรอ”

“ไม่ให้ดู...”

“อะ ขอโทษทีค่ะ ฉันจะพาคุณไปส่งที่คอนโดนะคะ”

“......”

“หลับไปแล้วหรอคะ”

ฉันรีบคาดเข็มขัดให้กับคนร่างสวยที่นอนหลับตาพริ้มอีกครั้งก่อนจะขับรถออกไปยังคอนโดมิเนียมตามนามบัตรและเลขที่ห้องของเธอ

ระบบสแกนนิ้วงั้นหรอ....

“คุณยูโรคะ...ขอนิ้วหน่อยค่ะ ดะ เดี๋ยวสิคะ อย่ากอดกันสิคะ ”

ปี๊ป!

ในที่สุดก็เข้าได้ซักที ฉันรีบพยุงคนที่เมาไม่รู้เรื่องไปที่เตียงไซส์คิงโดยที่เธอยังคงกอดคอฉันเป็นลูกลิงไม่ยอมปล่อย

“ว้ายยย”

ล้มไปนอนทั้งคู่จนได้ พอเมาแล้วขี้อ้อนมากขึ้นเป็นเท่าตัวเลยนะคะ ฉันได้แต่บ่นพึมพำกับตัวเองก่อนจะยันตัวขึ้นมานั่งข้างๆ คนที่หลับไหลไม่รู้เรื่องพลางระบายยิ้มออกมาน้อยๆ

“เจอกันอีกแล้วนะคะ คุณกาแฟขม”

“......”

“คุณดูบอบบางจังเลย ถ้าฉันแตะต้องคุณมากเกินไป คุณจะบุบสลายไปไหมนะ....”

“......”

"แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนของคุณเองจนกว่าจะสร่างเมา เพราะฉะนั้นปล่อยชายเสื้อฉันเถอะค่ะ”

“.....”

“แกะไม่ออกเลย ถ้าอย่างนั้นก็หลับฝันดีแล้วกันค่ะ คุณยูโร ถือว่าคุณอนุญาตให้ฉันนอนด้วยแล้วนะคะ”

ปวดหัวจังเลย ทำไมปวดหัวขนาดนี้ล่ะ ฉันค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นช้าๆ ก่อนจะพบว่าตัวเองกลับมานอนห้องพักได้ตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้

“กลิ่นเหล้ายังไม่หายไปเลย คุณโอเคนะคะ”

ทันทีที่ฉันหันกลับไปก็พบเข้ากับคนร่างบางซึ่งกำลังผูกผ้ากันเปื้อนสีขาวแล้วเดินเข้ามาดูฉันพร้อมกับกำลังจัดโต๊ะอาหารให้ นี่มันเรื่องอะไรกัน ทำไมคนที่สาดน้ำใส่ฉันวันนั้นถึงได้มาอยู่ในห้องของฉันกันล่ะ

“ฉันบังเอิญไปเจอคุณที่ไนท์คลับน่ะค่ะ หลังจากนั้นก็เลยอาสามาส่งคุณที่คอนโดเพราะคุณดูไม่มีสติเลย”

นายจิ้งจอกนั่นคงยอมปล่อยฉันออกมาสินะ เมื่อคืนฉันคงประมาทตัวเองมากเกินไป….

“ไปอาบน้ำก่อนดีกว่าไหมคะ ฉันทำซุปแก้แฮงก์ให้คุณแล้ว คุณจะได้รู้สึกดีขึ้น”

คนร่างเพรียวพูดพลางดึงมือฉันให้เข้าไปที่ห้องน้ำ โดยที่ก็ยืนรออยู่ไม่ห่างจากที่นั่นมากนัก อาจเป็นเพราะเธอกำลังซักเสื้อผ้าของเธอในคืนนั้นอยู่ก็ได้

“ขอบคุณที่ช่วยพาฉันออกมานะ”

“ยินดีค่ะ”

ในที่สุดกลิ่นเหล้าก็ออกไปซักที ฉันเช็คสภาพตัวเองให้เรียบร้อยก่อนจะออกมาพบกับแขกหน้าสวย ซึ่งกำลังสำรวจห้องของฉันอย่างนึกสนุก

“ถ้ากำลังหาชุดของคุณอยู่ล่ะก็ ฉันส่งไปร้านซักรีดเรียบร้อยแล้ว เอาที่อยู่ของคุณมาสิ ฉันจะส่งกลับไปให้ค่ะ”

ฉันกอดอกมองสายตาซุกซนของคนร่างบางที่ทำเป็นไม่เห็นฉันพลางเบือนหน้าหนี เพราะการที่ฉันสวมชุดคลุมอาบน้ำอยู่มันดูไม่สุภาพงั้นเหรอ

“ฉันว่าคุณไปใส่ชุดให้เรียบร้อยก่อนดีกว่านะคะ ฉันจะไปรอที่โต๊ะอาหารค่ะ”

ฉันกำลังถูกเมินอยู่สินะ.....

“เรื่องชุดของคุณ”

ฉันที่เปลี่ยนชุดเสร็จเรียบร้อยก้าวเข้ามานั่งตรงกันข้ามกับคนที่พยายามหลบหน้าของฉันไปมา ก่อนจะตั้งสติอีกครั้งพลางเงยใบหน้าขึ้นมาสบตากับฉันเข้า

“คุณอยู่คนเดียวหรอคะ”

“ค่ะ ฉันอยู่คนเดียว กลิ่นตัวฉันยังเหม็นเหล้าอยู่เหรอคะ”

“ไม่เลยค่ะ กลิ่นตัวคุณหอมมากเลย!”

“งั้นก็ดีค่ะ ฉันนึกว่ายังเหม็นอยู่อีก คุณถึงพยายามหลบตาฉัน”

“ไม่ใช่นะคะ! ฉันแค่ประหม่าเวลาที่อยู่ต่อหน้าคุณ...”

“เป็นเพื่อนกันแล้วคุณยังประหม่าฉันอยู่อีกเหรอคะ”

“ตอนนั้นคุณไม่ได้หลับอยู่เหรอคะ”

คนร่างบางถึงกับทำหน้าตกใจที่ฉันสามารถจำเหตุการณ์ของเมื่อคืนได้เป็นอย่างดีจนเธอต้องเผลอยกมือปิดปากตัวเองไว้

“ก็ไม่เชิงหรอกค่ะ ฉันพอจำได้บ้างลางๆ น่ะ ว่าแต่ฉันไม่ได้ทำเผลออะไรแปลกๆ กับคุณใช่ไหม”

‘ทำสิคะ ทำมากด้วย ’ คนร่างบางคิด พลางส่ายหน้าไปมาเพื่อไม่ให้อีกคนคิดมาก

“ไม่ได้ทำอะไรหรอกค่ะ พอหัวถึงหมอนคุณก็หลับไปเลย”

“งั้นเหรอ ค่อยยังชั่ว นึกว่าจะทำให้คุณเดือดร้อนซะแล้ว ดีแล้วล่ะค่ะ ”

คนข้างๆ ฉันนิ่งค้างไปพักนึงก่อนจะยิ้มรับฉันด้วยแววตาเศร้าสร้อย เป็นอะไรของเธอกันนะ เมื่อกี้ยังดูร่าเริงอยู่เลย

“ชุดของฉันคุณไม่ต้องคืนฉันแล้วนะคะ ถือว่าฉันให้คุณเลยแล้วกันค่ะ จริงสิ นี่ก็สายมากแล้ว ฉันขอตัวกลับบ้านของฉันก่อนนะคะ”

“เดี๋ยว เราจะได้เจอกันอีกไหมคะ”

“คุณอยากเจอฉันอีกเหรอคะ”

“แน่นอนสิคะ ฉันอยากตอบแทนคุณด้วยนี่น่า คราวหน้าให้ฉันจะเลี้ยงข้าวเมลเองนะ คือฉันเรียกคุณแบบนี้ได้ใช่ไหม”

“ได้ค่ะ แน่นอนคุณเรียกได้ ฉันไปนะคะ”

พูดจบคนร่างบางก็ส่งยิ้มจางๆให้กับฉันก่อนที่เธอจะค่อยๆเปิดประตูออกไป

'เฮ้อ เป็นคนดีจนรู้สึกผิดเลยแหะ'
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • จู่ๆฉันก็กลายเป็นตัวแทนของพระเจ้า   บทที่ 143

    “ก็ไม่แน่ ถ้าไม่อยากให้ฉันขายก็ทำตัวดีๆ ”“อุ๊บ...ฮ่าฮ่าฮ่า โอเคค่ะฉันจะทำตัวดีๆเพื่อไม่ให้คุณขายฉันก็ได้ แต่แย่หน่อยนะคะ ฉันไม่มีความคิดจะไปเผ่าของคุณเลยสักนิด เพราะงั้นขอตัวก่อน”“เดี๋ยว!”“อะไรอีกล่ะคะ”“ฉันจะนำทางไปเอง”เปลี่ยนใจแล้วเหรอ อะไรกันจะเป็นคนดีก็ทำได้นี่น่า“ขอบคุณค่ะ”“เห็นแก่ที่เป็น

  • จู่ๆฉันก็กลายเป็นตัวแทนของพระเจ้า   บทที่ 142

    “ขี้โวยวายไปได้ถ้ารักษาทันก็ไม่ตายหรอกน่า”นี่มันคำพูดของคนที่เพิ่งจะแทงลำคอของฉันรึไง...เป็นบ้าอะไรของเธอเนี่ย“ก็อย่างพวกที่มาจากนอกโลกอะไรนั่นไง ถึงตายไปก็ฟื้นขึ้นมาอีก พวกขี้โกงนั่นตายๆไปให้หมดก็ดี ทำตัวเป็นผู้กล้าผู้ประสบความสำเร็จกันไปได้ แค่ได้เกิดใหม่ก็วิเศษวิโสนักรึไง จะข่มใครเขายังไงก็ได้ส

  • จู่ๆฉันก็กลายเป็นตัวแทนของพระเจ้า   บทที่ 141

    “ฉันไม่เห็นจะเข้าใจสักนิดเลยค่ะ!”“งั้นพวกเราก็จะไปด้วย”“ไม่ได้สิครับ พวกคุณไม่ได้รับอนุญาตให้ไปไหนมาไหนตามใจชอบได้สักหน่อย คนที่สามารถทำแบบนั้นได้ก็มีแต่พระเจ้าเท่านั้นล่ะครับ ถ้าฝืนมากไปล่ะก็อาจถูกกลืนตัวตนแล้วกลายเป็นคนของโลกนั้นไปเลยก็ได้นะครับ”“เอ๋ แล้วจะให้พวกเรานั่งรอเธออยู่ที่นี่กับคุณรึไง

  • จู่ๆฉันก็กลายเป็นตัวแทนของพระเจ้า   บทที่ 140

    “ระดับค่าพลังไม่คงที่ ทำการเริ่มปรับระดับในอีก สาม สอง หนึ่ง!”ตุบ!“กรร!!”“แย่ล่ะสิ ดันลืมไปว่าถ้าจำกัดพลังของท่านยูโร ฟานก็หลุดจากการรวบรัด”“วินเลซ! ปล่อยฉัน! ฉันจะช่วยคุณเอง”“ไม่ไหวหรอก ถ้าคุณอยู่ในโหมดบ้าคลั่งแบบเขาก็น่าจะอีกเรื่องนึง แต่นั่นก็ไม่ต่างอะไรนักหรอก เพราะคุณก็ควบตัวเองไม่ได้อยู่ด

  • จู่ๆฉันก็กลายเป็นตัวแทนของพระเจ้า   บทที่ 139

    “มันก็ไม่ใช่หน้าที่ของผมนี่น่า ผมสนแค่เด็กคนนี้เท่านั้นล่ะ ค่าพลังงานมหาศาลขนาดนี้ไม่ได้มีมาถึงมือผมบ่อยๆสักหน่อย...”วินเลชยังคงจับจ้องไปยังเด็กทารกน้อยซึ่งทำหน้าไม่พอใจใส่เขาอย่างมากก่อนที่เธอจะเร่งพลังมากขึ้นไปอีกทำให้เจ้าตัวกักตุนพลังของเขาเริ่มเกิดอาการรวนขึ้นมาดื้อๆ“หึหึหึ คุณนี่วิเศษสมกับที่

  • จู่ๆฉันก็กลายเป็นตัวแทนของพระเจ้า   บทที่ 138

    “ก็อย่างที่ว่ามา คุณยูโร ชิยูอิน คือคุณอย่างนั้นสินะครับ”หลังจากนั้นประมาณสามสัปดาห์ผ่านมาได้ก็เกิดเรื่องแปลกประหลาดขึ้นมากับฉัน อย่าว่าแต่ฉันจะไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองเลยพวกเขาก็ด้วย ร่างกายของฉันมันเกิดร่วนจนกลายเป็นภาวะเข้าขั้นวิกฤต เดี๋ยวก็เปลี่ยนร่างกลายเป็นเด็กสาว เดี๋ยวก็กลายเป็นร่างผู้ใหญ่แล

  • จู่ๆฉันก็กลายเป็นตัวแทนของพระเจ้า   บทที่ 137

    “หมายความว่าถ้าพลังไม่คงที่หรือมีอัตราเพิ่มขึ้นเรื่อยๆก็ต้องจำกัดพลัง ไม่สิต้องเกิดใหม่อีกเรื่อยๆเลยเหรอคะ”“ถูกต้องตามนั้น เว้นแต่จะยอมถูกดูดพลังไปอ่านะ แต่ถึงยังไงถ้าเป็นพวกหายากแบบเธอล่ะก็ถึงให้ไปเดี๋ยวก็เพิ่มกลับมาอีกอยู่ดี เปลี่ยนไปเรื่อยๆถ้าคงที่เดี๋ยวก็หยุดเองล่ะ”“อย่าพูดเหมือนกับว่าเป็นเรื่

  • จู่ๆฉันก็กลายเป็นตัวแทนของพระเจ้า   บทที่ 136

    “กะ ก็ตามที่พูด...”“ไม่ใช่เรื่องนั้น”“แล้วเรื่องอะไรกันคะ”“คิดถึงกันบ้างรึเปล่า”“คิดถึง…เหรอคะ? ”ฉันจ้องใบหน้าสวยซึ่งเท้าคางมองฉันอย่างไม่วางตาทำเอาฉันทำตัวไม่ถูกและหลบสายตาเธออย่างสู้ไม่ได้ ทำไมฉันถึงมักจะแพ้สายตาให้กับเธอกันนะ...“ใช่ คิดถึงกันไหม นั่นล่ะสิ่งที่ฉันอยากรู้”“อื้ม...คิดถึง...ก็

  • จู่ๆฉันก็กลายเป็นตัวแทนของพระเจ้า   บทที่ 135

    อวดดี? เธอเป็นใครถึงกล้าพูดคำนั้นกับฉันกันนะ ดูๆไปแล้วก็รู้สึกคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก ไม่แน่ว่าเธออาจจะตำแหน่งสูงกว่าฉันก็เป็นได้“จะรังแกล้งคนที่ตำแหน่งต่ำกว่าเหรอคะ หึ ฉันว่าแล้วว่าพวกคุณมันนิสัยเสียจริงๆด้วย”“กลับมาพูดภาษาเดิมได้แล้วสิเนี่ย ฉันแค่กระตุ้นนิดๆหน่อยๆ ก็เริ่มจะจำได้แล้วเหรอ นี่ก็หมายค

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status