“คือ ฉันก็ไม่ได้อยากเป็นแบบนี้ แต่ฉันเครียดเรื่องพี่พลอย”
“พี่พลอยทำไม”
“ก็พี่พลอยไม่ยอมรักษาดวงตาต่อน่ะสิ พูดแค่ว่าไม่อยากรบกวนเงินของคุณภูมากไปกว่านี้”
“อ้าว แต่คุณภูเค้าก็เต็มใจช่วยไม่ใช่เหรอ”
“อืม เออ แล้วพี่ข้าวจะกลับมาจากต่างประเทศเมื่อไหร่ ฉันอยากให้พี่ข้าวลองคุยกับพี่พลอยดู” ตอนนี้พราวฝนอยากให้ขวัญฤดีพี่สาวของขวัญฤทัยได้ลองพูดคุยกับพี่สาวของเธอมากๆ เพราะขวัญฤดีเป็นเพื่อนสนิทกับพลอยฟ้า หากได้ขวัญฤดีมาช่วยพูดตะล่อมให้พี่สาวของเธอยอมลดศักดิ์ศรีแล้วใช้เงินของภูมินทร์รักษาตัวไปก่อนพี่สาวเธออาจจะรับฟังก็ได้
“เห็นบอกว่าอีกเดือนนึงเลย ให้พี่ข้าวโทรคุยได้ไหมล่ะ” ขวัญฤทัยหน้าเจื่อน จำได้ว่าเมื่อวานพี่สาวเธอโทรมาบอกแม่ว่าตอนนี้เจ้านายของพี่สาวเธอเลื่อนกำหนดกลับช้ากว่าเดิมเพราะการคุยงานยังไม่เรียบร้อยดี
“พี่พลอยไม่ใช้โทรศัพท์เลยน่ะสิ”
“งั้นเดี๋ยวฉันจะลองถามพี่ข้าวดูนะว่าจะกลับมาไวกว่านั้นได้ไหม”
“ขอบใจนะ” เห็นจะมีความหวังอีกครั้งกับขวัญฤดี ภาวนาว่าหากขวัญฤดีกลับมาพูดตะล่อมให้พี่สาวของเธอรักษาแล้วพี่ของเธอจะเชื่อบ้าง
หลังเลิกงานพราวฝนเลือกที่จะไม่กลับไปพักผ่อนที่ห้องหรูในโรงแรม แต่เธอเลือกที่จะเดินเล่นจนมาถึงสวนสาธารณะใจกลางเมือง เพราะอยากจะมองอะไรไปเรื่อยเปื่อย เผื่อว่าเธอจะคิดออกว่าจะหาทางหาเงินเยอะๆ ได้ในเวลาอันรวดเร็วได้ยังไง
“พราว”
เสียงของใครบางคนที่ดังมาจากด้านหลัง พราวฝนรีบหยุดชะงักฝีเท้าและหันกลับไปมองตามเสียงเรียก
เมื่อสายตามองไปเห็นหญิงสาวหน้าสวยทรงโตในชุดออกกำลังกายเธอก็เริ่มขมวดคิ้ว เพราะไม่รู้เลยว่าคนที่กำลังยิ้มให้รู้จักเธอได้อย่างไร
“จำฉันไม่ได้เหรอพราว”
“ขอโทษจริงๆ ค่ะ คุณเป็นใครเหรอคะ”
“คนที่เธอชอบห่อข้าวมาเผื่อตอนเรียนปีหนึ่งไง”
“หนึ่งเหรอ?” ใจตอนนี้นึกไปถึงเพื่อนสมัยเรียนปีหนึ่งที่ชื่อหนึ่งธิดา แต่จำได้ว่าหนึ่งธิดาไม่ได้หน้าตาสวยราวกับตุ๊กตาแล้วก็ทรงโตอย่างที่เธอเห็นตอนนี้ หนึ่งธิดาที่เธอจำได้หน้าตาออกจะเป็นสาวหมวยมากกว่า
“ฉันเปลี่ยนไปมากใช่ไหมล่ะ”
พราวฝนพยักหน้าหงึกๆ
“ฉันไปทำศัลยกรรมมาทั้งตัวจะไม่เปลี่ยนได้ไง แล้วนี่ทำไมเดินเหม่ออยู่คนเดียวแบบนี้ล่ะ ฉันเรียกเธอหลายรอบแล้วแต่เธอก็เหมือนจะไม่ได้ยิน”
“ฉันว่าเราไปนั่งคุยตรงนั้นกันดีกว่า” พราวฝนรู้ว่าคงได้คุยกับหนึ่งธิดาอีกยาว เพราะยังไงมายังไงหนึ่งธิดาถึงได้เปลี่ยนไปขนาดนี้เป็นอีกเรื่องที่เธอก็อยากรู้
“ตั้งแต่เธอออกจากมหาลัยไป เธอไปอยู่ที่ไหนเหรอหนึ่ง แล้วทำไมต้องตัดขาดการติดต่อจากทุกคนด้วย”
“ถ้าฉันบอกเธอ เธอจะรังเกียจฉันไหม”
“เราเป็นเพื่อนกัน ฉันจะไปรังเกียจเธอเรื่องอะไร”
“ก็ตั้งแต่ที่ธุรกิจของที่บ้านฉันมีปัญหาจนไม่มีเงินแม้แต่จะซื้อข้าวทาน จนเธอต้องช่วยแบ่งเงินค่าข้าวให้ฉันตอนนั้นจำได้ไหม”
“อืม”
“หลังจากธุรกิจประสบปัญหาหนัก บ้านฉันก็ถูกฟ้องล้มละลายแล้วก็ถูกยึดทรัพย์ทุกอย่าง ตอนนั้นฉันเลยได้ออกจากมหาลัยกะทันหัน แล้วคุณพ่อคุณแม่ฉันเค้าก็ตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง ฉันก็เหลือตัวคนเดียวเลยเลือกที่จะตามคุณพ่อกับคุณแม่ไป จนไปเจอพี่คนนึงเค้าช่วยฉันไว้แล้วฉันก็ได้ไปทำงานกับเค้า ชีวิตฉันเลยเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือในไม่กี่เดือน”
“งานอะไรเหรอ”
“ฉัน ขาย ตัว” หนึ่งธิดาอ้อมแอ้มตอบ
ได้ยินคำนี้พราวฝนก็นั่งอ้าปากค้าง ไม่ได้คิดรังเกียจที่เพื่อนขายตัว แต่หดหู่กับโชคชะตาที่เพื่อนเธอต้องเจอ จะว่าไปเธอเองก็ยังดีที่หลังจากบ้านล้มละลายจนคุณพ่อของเธอเสียยังมีภูมินทร์คอยมาดูแลเธอและพี่สาวให้ไม่ลำบาก
“เธอรังเกียจฉันรึเปล่า”
“ไม่หรอก ฉันเห็นใจเธอมากกว่า บ้านฉันเองก็ล้มละลายจนคุณพ่อป่วยแล้วก็เสีย ดีที่มีคุณภูมินทร์คอยดูแล”
“ฉันพอจะได้ข่าวครอบครัวเธออยู่เหมือนกัน เสียใจด้วยนะ”
“ขอบใจนะ”
“แล้วตอนนี้พี่พลอยล่ะ ตอนนี้สบายดีใช่ไหม” หนึ่งธิดาไม่ลืมที่จะถามหาพลอยฟ้า เพราะตอนที่เธอลำบากสองพี่น้องคู่นี้ก็ช่วยเหลือเธอเอาไว้เยอะเหมือนกัน
“นี่แหละที่ฉันเครียด”
“ทำไมเหรอ” หนึ่งธิดาหน้าเสียตามพราวฝน
พราวฝนนั่งชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับพลอยฟ้าให้เพื่อนฟัง เรื่องของพลอยฟ้าทำหนึ่งธิดารู้สึกสงสารไม่น้อย
“จะว่าไปฉันก็เข้าใจพี่พลอยนะ แต่ถ้าไม่รีบรักษาตอนนี้มันก็อาจจะไม่มีโอกาสหาย”
“ก็ใช่น่ะสิ ตอนนี้ฉันไม่รู้จะหาวิธีไหนที่ทำให้ตัวเองมีเงินเร็วๆ ได้เลย”
“ถ้าฉันมีวิธีหาเงินได้เร็วๆ เธอจะยอมทำไหม”
“ถ้ามันไม่ได้ไปปล้นไปฆ่าหรือหลอกลวงใคร ฉันก็ทำได้ทุกอย่าง”
“ฉันไม่ได้คิดจะดูถูกอะไรเธอนะพราว เธอไม่มีแฟนใช่ไหม”
“เฉิ่มๆ อย่างฉันใครเค้าจะมาจีบล่ะ”
“กล้าทำเหมือนที่ฉันทำไหมพราว ถ้าเธอกล้าฉันจะช่วยให้เธอได้ลูกค้าวีไอพี ดีไม่ดีเธอทำงานแค่ครั้งเดียวก็อาจจะได้เงินที่ต้องการเลยก็ได้”
พราวฝนเงยหน้ามองหนึ่งธิดาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความตกใจ พลันความคิดที่กำลังตีกันในหัวก็ทำให้เธอเริ่มลังเลเล็กน้อย จะว่าไปการทำงานอย่างหนึ่งธิดาก็ไม่ใช่การเข่นฆ่าหรือหลอกลวงเอาเงินใคร หากร่างกายของเธอสามารถช่วยพี่สาวเธอได้ แล้วเธอจะรีรออะไรในการตอบรับความช่วยเหลือของหนึ่งธิดา
“แล้วคุณก้อยจะโดนกี่คดีคะ เธอทำไปเพราะแค่ความรักคำเดียวจริงๆ”“วิธีรักในทางที่ถูกมันก็มี แต่สิ่งที่เธอทำมันคือการเห็นแก่ตัวแล้วก็โหดร้ายเกินมนุษย์ พี่เองก็เคยตกอยู่ในวังวนมืดบอดเหมือนเธอ แต่ดีที่พี่ไม่ทำร้ายพลอยจนถึงแก่ชีวิต คิดแล้วก็...”“ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอดีตอีกแล้วก็ได้ค่ะ”“อืม พี่ดีใจที่พี่ปกป้องพลอยกับลูกเอาไว้ได้ ไม่อย่างงั้นพี่คงใจสลาย พักผ่อนเถอะนะ พี่จะนอนอยู่ข้างๆ พลอยไม่ห่างไปไหน” เขาค่อยๆ พาคนในอ้อมกอดลงนอนที่เตียงกว้าง“ค่ะ” พลอยฟ้าค่อยๆ หลับตาลงซุกอยู่กับอกอุ่น รู้สึกขอบคุณชายหนุ่มเหมือนกันที่แสดงออกถึงความเป็นห่วงเป็นใยและอยากปกป้องจนเธอรู้สึกอุ่นใจได้เร็วแม้จะผ่านเรื่องร้ายๆ มาไม่ถึงวัน“นี่ถ้าพราวอยู่กับพี่พลอยตอนนั้นต้องได้ตบหน้ายัยก้อยนั่นสักทีสองทีแล้ว ดีนะที่หลานพราวไม่เป็นอะไร” พราวฝนบ่นอุกขณะนั่งเรือข้ามฝั่งไปที่เกาะพร้อมกับภควัตร ภคพลและขวัญฤดี พอรู้ว่ากวินตราก่อวีรกรรมอะไรกับพี่สาวของเธอเอาไว้บ้างก็อยากจะฉีกเนื้อยัยคนหน้าเนื้อใจเสือนั่นเป็นชิ้นๆ“โหดเหลือเกินนะคุณ” ภควัตรเพิ่งเห็นพราวฝนโมโหหนักก็ครั้งนี้ จะว่าไปเวลาหญิงสาวโกรธก็น่ากลัวสำหรับเขาอยู่เหมือนกัน
“พี่ภูคะ พี่หมอมีเรื่องจะคุยด้วยค่ะ บอกว่าด่วนมาก”ภูมินทร์รีบรับโทรศัพท์มือถือจากอารียาขณะที่กำลังดูความเรียบร้อยของสถานที่จัดวานแต่งริมชายหาด ไม่รู้อคิณมีเรื่องด่วนอะไรจะคุยกับเขา แต่ถ้าหาดจะมาบอกว่าติดงานมาไม่ได้เขาได้เคืองแน่ เพราะก่อนหน้านี้รับปากเขาเอาไว้อย่างดิบดีแล้วว่าจะมางานแต่งให้ได้“ว่าไงคิณ อย่าบอกว่าจะมาไม่ได้นะ” เขาเอ่ยหยอกปลายสายสีหน้าระรื่น แต่เมื่อได้ยินเรื่องที่อคิณแจ้งให้ทราบก็เริ่มหน้าถอดสี“คุณก้อยเข้ามาทำอะไรในนี้คะ” พลอยฟ้าเข้าห้องนอนมาได้ก็แปลกใจที่เห็นกวินตราอยู่ในนี้ แถมเธอยังฉีกกล่องของขวัญที่เธอเตรียมเอาไว้ให้ภูมินทร์ยับยู่ยี่คามืออีก“มาก็ดีแล้ว”“โอ้ย” กวินตรากระชากพลอยฟ้าเหวี่ยงไปที่พื้น จากนั้นก็คร่อมหญิงสาวเอาไว้“คนอย่างแกไม่สมควรจะได้มีชีวิตที่มีความสุขอีพลอย คนที่ควรจะมีความสุขอยู่ตอนนี้คือกู”เพียะ “อ๊าย”เสียงร้องของความเจ็บปวดของพลอยฟ้าดังไปถึงหูภูมินทร์ที่กำลังวิ่งขึ้นบันไดนำหน้าอารียาขึ้นไปบนชั้นสองของบ้าน“กูจะทำให้มึงตายไปพร้อมลูก” กวินตราคว้ามีดสั้นออกมาจากกระเป๋ากางเกงหมายจะแทงเข้าไปที่หน้าท้องของพลอยฟ้า แต่พลอยฟ้าก็คว้าข้อมือกวินตราเอาไว
“ก็อย่างที่พี่เคยบอก ตอนที่พี่ไม่รู้เหตุผลว่าพี่ภูทำร้ายพี่ทำไมพี่ก็ทั้งโกรธทั้งเกลียดเค้า แต่พอรู้เหตุผลก็กลายเป็นพี่รู้สึกผิด แล้วก็สงสารพี่ภูที่สูญเสียคนรักไปก็เพราะพี่”“แล้วพี่ภูเค้าได้บอกไหมว่าเค้ารู้สึกดีกับพี่พลอยตอนไหน”“เค้ารู้สึกผิดเรื่องที่ทำลงไปกับพี่ก็เลยพยายามดูแลพี่เพื่อแก้ไขสิ่งที่ผ่านมา อยู่ๆ กันไปก็เกิดความรักความผูกพันธ์ขึ้นมามั้ง” เธอไม่อยากพูดเรื่องรายละเอียดยิบย่อยไปมากกว่านี้เพราะนั่นจะเท่ากับว่าเธอต้องพูดเรื่องที่แก้วเกล้าไม่ได้มีลูกกับภูมินทร์ แล้วก็เรื่องที่ภูมินทร์แกล้งเธอจนถูกพวกวัยรุ่นฉุดด้วย เมื่อเรื่องราวร้ายๆ มันผ่านไปแล้วเธอก็อยากให้มันเป็นแค่ความลับเท่านั้น ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องพูดถึงมันอีก“อย่างนี้นี่เอง พราวดีใจนะที่พี่สองคนหัวใจตรงกัน พราวอยากเห็นพี่พลอยมีความสุขแบบนี้ตลอดไปนะ”“ขอบใจนะพราว ขอบใจที่ห่วงพี่ตลอด แล้วเรื่องเรากับคุณพัตรล่ะ ทุกอย่างโอเคไหม”“ก็ดีค่ะ ถึงคุณพัตรจะดูกะล่อนแล้วก็เจ้าเล่ห์ไปหน่อย แต่เค้าก็เป็นคนที่รักษาคำพูดเป็นที่หนึ่งเลยนะคะ”“แสดงว่าบ้านนี้เค้าถูกเลี้ยงให้เป็นสภาพบุรุษกันจริงๆ สินะ คุณพลก็ดูอบอุ่นสุภาพแล้วก็ให้เกีย
พักหลังมาก็เห็นว่าหมอหนุ่มดูร่าเริงดี คิดว่าจะตัดใจจากพลอยฟ้าได้แล้วเสียอีก ที่ไหนได้พอรู้ข่าวว่าหญิงสาวจะแต่งงานกลับจะหนีหัวใจตัวเองไปที่ต่างประเทศเสียอย่างนั้นสาวเจ้าเข้ามาถึงห้องทำงานของหมอหนุ่มได้ก็วางกล่องขนมเค้กตรงหน้าของเขาเช่นวันอื่นๆ ที่ผ่านมา “แอ้มได้ข่าวว่าพี่หมอจะไปเรียนต่อที่อเมริกา จะไปจริงๆ เหรอคะ”“รู้มาจากไหน”“คุณพ่อบอกค่ะ”“พี่ก็ยังไม่แน่ใจเหมือนกันนะ ถ้าเป็นไปได้พี่ก็อยากไปเรียนต่อ”“เป็นเพราะพี่หมอรู้เรื่องที่พลอยจะแต่งงานใช่ไหมคะ”“เกี่ยวอะไรกับงานแต่งคุณพลอย” อคิณส่ายหัวน้อยๆ ไม่เข้าใจว่ามีอะไรที่ทำให้อารียาคิดแบบนั้น“ก็พี่หมอชอบพลอย แล้วก็ยังตัดใจจากพลอยไม่ได้ แอ้มพูดถูกใช่ไหมคะ ถ้าพี่หมอยอมมองคนอื่นบ้างก็คงไม่ต้องหนีหัวใจตัวเองแบบนี้” อารียาเอ่ยออกมาด้วยสีหน้าและน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความน้อยใจจนหมอหนุ่มดูออก เขาจึงอมยิ้มมุมปากหลังจากหญิงสาวพูดจบ“ห่วงพี่มากเลยเหรอ”“ค่ะ ห่วงมาก แอ้มไม่เข้าใจว่าทำไมพี่หมอไม่ลืมพลอยซะที”“เรื่องคุณพลอย พี่ทำใจได้ตั้งนานแล้ว พี่ไม่ฝืนให้หัวใจตัวเองต้องจมอยู่กับรักที่เป็นไปไม่ได้ อีกอย่างพี่ก็พอจะรู้ว่าพี่ควรจะสนใจใคร”“พี่หมอกำ
“ได้สิ พี่พร้อมตอบทุกอย่าง”“ทำไมพี่ภูถึงได้เปลี่ยนไปได้คะ”“พี่รู้ตัวแล้วว่าพี่ไม่ได้คิดกับพลอยแค่พี่น้อง ตั้งแต่ที่พี่ไม่ชอบให้คุณพลมายุ่งกับพลอย แล้วก็ไม่ชอบให้คุณพัตรมาทำให้พลอยดีใจ แทนที่จะเป็นพี่ที่ทำทุกอย่างให้พลอย แล้วพี่ก็รู้ด้วยว่าพลอยคิดยังไงกับพี่”“รู้ว่าคิดอะไรคะ”“พี่ได้ยินทั้งหมดตอนที่พลอยคุยกับคิณ ทำไมไม่เคยบอกให้พี่รู้”“พลอยรู้ว่าพี่ภูไม่มีทางมองพลอยนี่คะ” พลอยฟ้าหน้าร้อนผ่าวไม่กล้าสบตากับคนที่กำลังชันหัวมองจ้องหน้าเธอไม่วางตา“เค้าเรียกคิดไปเอง เมื่อคืนนี้คุณย่าคุยกับพี่ว่าให้มาคุยกับพลอยเรื่องงานแต่ง อยากจะให้มีขึ้นเร็วๆ นี้ไหม”“พลอยแล้วแต่พี่ภูเลยค่ะ อะไรที่พี่ภูมีความสุข พลอยเห็นด้วยค่ะ”“เพราะเราเป็นแบบนี้ไงพี่เลยตกหลุมรักเราง่ายๆ” พูดจบก็กระชับกอดคนตัวเล็กเอาไว้แน่น จะว่าไปเรื่องราวของเขากับเธอเริ่มต้นได้ไม่ค่อยดีนัก แต่พลอยฟ้าก็ไม่เคยคิดแก้แค้นการกระทำของเขาทั้งที่ถือไพ่เหนือกว่าเพราะมีน่าของเขาเป็นคนหนุนหลัง เธอเป็นห่วงคนอื่นก่อนเสมอ เขาแพ้ความดีข้อนี้ของเธอจริงๆ“พี่ภูหายโกรธพลอยเรื่องคุณพัตรหรือยังคะ พลอยไม่อยากให้พี่ภูคิดมาก”“อืม พี่ขอโทษที่ทำตัวงี่เง่า
หลังจากภูมินทร์ขอตัวไปคุยโทรศัพท์ พลอยฟ้าก็เปลี่ยนความสนใจที่ดินเป็นผืนท้องทะเลในเวลาที่พระอาทิตย์ใกล้จะตก เธอเดาไม่ออกเหมือนกันว่าภูมินทร์จะสร้างบ้านบนผืนดินแห่งนี้ในรูปแบบไหน แต่เธอเชื่อว่ามันคงเป็นบ้านพักตากอากาศที่วิวทิวทัศน์สวยที่สุดอีกหลังหนึ่งเลยก็ว่าได้สาวเจ้าเอาแต่เพลิดเพลินกับการชมวิวทิวทัศน์ที่นี่จนลืมเวลา เมื่อนึกขึ้นได้ว่าภูมินทร์หายไปนานแล้วเธอก็เริ่มหันกลับมามองหาเขา ทว่ามองหาไปรอบตัวแล้วก็มองไม่เห็นเธอรีบเดินกลับไปที่รถบ้านก็ไม่เห็นจะมีวี่แววว่าภูมินทร์อยู่ที่นี่ มองไปยังป่าสนแล้วก็ไม่เจอใคร เธอจึงรีบสาวเท้าไปที่ริมชายหาดเผื่อว่าชายหนุ่มจะอยู่แถวนั้นก็ไม่มี หัวใจตอนนี้เริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะด้วยความตื่นกลัว“พี่ภูคะ พี่ภูอยู่ไหนคะ” ขอบตาของพลอยฟ้าเริ่มร้อนผ่าว น้ำตาเริ่มไหลลงมาอาบแก้ม ภาพวันที่เขาทิ้งเธอให้เดินคนเดียวข้างถนนวันนั้นมันกลับมาอีกแล้ว เขาแกล้งเธออีกแล้วใช่ไหม“ร้องให้ทำไมพลอย” ภูมินทร์เดินเข้ามายืนตรงหน้าพลอยฟ้าที่กำลังร้องให้สะอึกสะอื้น“พี่ภู” เธอโผเข้ากอดเขาเอาไว้แน่น “พลอยนึกว่าพี่ภูทิ้งพลอยให้อยู่คนเดียวอีกแล้ว” โล่งใจเหลือเกินที่เขาไม่ได้คิดจะทิ้งเธ