พราวฝนตกลงรับความช่วยเหลือของหนึ่งธิดาเรียบร้อย เย็นวันนี้หนึ่งธิดาก็รีบกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วพาพราวฝนไปหาเจ๊มะเหมี่ยว คนที่เป็นทั้งเจ้านายและเป็นเสมือนแม่บังเกิดเกล้าในทันที
มะเหมี่ยวหญิงวัยสี่สิบปลายๆ แต่ยังดูสวยไม่แพ้สาวแรกรุ่น ด้วยดูแลตัวเองดีทุกกระเบียดนิ้ว เพราะต้องใช้รูปร่างหน้าตาติดต่องานอยู่บ่อยๆ
เมื่อมะเหมี่ยวเห็นพราวฝนคราแรกก็แทบจะไม่อยากคิดจะหางานให้ เพราะไม่รู้ว่าจะทำงานเอาอกเอาใจลูกค้าระดับวีไอพีของเธอได้หรือเปล่า แม้จะหุ่นดีผิวพรรณงามแต่ก็ยังดูเฉิ่มและใสซื่อจนเกินไป
แต่เมื่อหนึ่งธิดาได้ลองถอดแว่นหนาๆ ของพราวฝนออก มะเหมี่ยวก็ตาลุกวาว รู้ได้ทันทีเลยว่าเธอได้เพชรเม็ดงามที่จะทำเงินให้เธอได้อย่างงามแน่นอน
“ดูซิเนี่ย ความสวยของหนูมันถูกแว่นหนาๆ บดบังไปหมดรู้ตัวรึเปล่า ทำไมไม่ใส่คอนแทคเลนส์ล่ะ”
“พราวไม่ค่อยชอบค่ะ ใส่แว่นมันก็ง่ายกับการใช้ชีวิตดีค่ะ”
“แต่ถ้าจะทำงานกับเจ๊ก็ต้องถอดแว่นนะจ๊ะ”
“ได้ค่ะ พราวจะถอดค่ะ”
“ดีมาก งั้นเรามาลองแต่งตัวกันดีกว่า แองจี้เอาน้องไปแต่งตัวเตรียมถ่ายรูป”
“ค่ะเจ๊”
สาวสองร่างสูงเข้ามารวบตัวพราวฝนเข้าไปในห้องแต่งตัวพักใหญ่ และแล้วหญิงสาวที่แสนจืดชืดก็ดูเปรี้ยวเข็ดฟันในทันตาเมื่ออยู่ในชุดเดรสเกาะอกสีดำ แต่งแต้มใบหน้าโฉบเฉี่ยวด้วยอายเชโดว์สีน้ำตาลทองกรีดตาจนคมเหมือนตาสุนัขจิ้งจอกติดขนตาจนสะพรึง ทาปากแดงขับผิว ลอนผมฟาร่าสยายเปลี่ยนเป็นคนละคน
“เพื่อนแกสวยเหมือนกันนี่ยัยหนึ่ง” มะเหมี่ยวยกมือทาบอก ตั้งแต่ดูแลเด็กในสังกัดมาไม่เคยเห็นใครที่เปลี่ยนการแต่งตัวแล้วดูสวยสะพรึงขนาดนี้มาก่อน
ตอนนี้เธอคิดว่ารูปร่างหน้าตาไม่มีผลอะไรต่องานแล้ว เชื่อว่าใครได้เห็นรูปพราวฝนคงต้องอยากจะใช้บริการแน่นอน ที่เหลือก็แค่การสอนจริตจะก้านการเอาใจลูกค้าให้ดีเท่านั้น
“ขอคนที่หนุ่มๆ โปรไฟล์ดีๆ กระเป๋าหนักให้เพื่อนหนูหน่อยนะเจ๊”
“รู้แล้ว รู้แล้ว แกย้ำกับฉันมาเป็นร้อยรอบแล้วมั้ง”
หนึ่งธิดาหันมายิ้มพร้อมขยิบตาให้พราวฝน เพราะงานนี้เธอช่วยเพื่อนเต็มที่ ในเมื่อเจ๊มะเหมี่ยวเอ่ยปากชมแบบนี้รับรองว่าเจ๊มะเหมี่ยวต้องตั้งราคาค่าตัวพราวฝนแพงหูฉี่แน่ แล้วเพื่อนเธอก็คงจะเงินที่อยากได้ภายในการทำงานแค่ครั้งเดียวเท่านั้น
พราวฝนถูกจับแต่งตัวถ่ายรูปทำโปรไฟล์อยู่พักใหญ่ จากนั้นหนึ่งธิดาก็พาเธอไปนั่งพัก
“เหนื่อยไหมพราว”
“ไม่เลย แล้วเราต้องถ่ายอีกกี่ชุดเหรอ”
“อีกสองชุดก็เสร็จแล้ว”
“ไม่ต้องถ่ายแล้ว” มะเหมี่ยวเดินอารมณ์ดีเข้ามาหาสองสาว
“ทำไมเจ๊” หนึ่งธิดาขมวดคิ้วมองหน้ามะเหมี่ยว ทั้งที่เมื่อครู่เป็นคนบอกเธอเองว่ายิ่งถ่ายหลายชุดก็จะได้งานเร็ว
“เพื่อนแกขายออกแล้ว เศรษฐีหนุ่มที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศเลยนะ”
“เอ่อ...หนูจะได้เงินเท่าไหร่คะ” แม้จะตื่นเต้นที่จะได้รับงาน แต่พราวฝนก็ไม่ลืมที่จะพูดคุยตกลงค่าตัวก่อนเริ่มงาน เพราะตอนนี้เรื่องเงินสำคัญกับเธอมาก
“เจ๊ปิดดิวความบริสุทธิ์ของหนูไปที่สี่แสน แต่เจ๊หักห้าสิบเปอร์เซ็นต์นะ หนูโอเคไหม” มะเหมี่ยวเอ่ยไปตามตรงว่าจะต้องหักส่วนแบ่งของพราวฝนมากกว่าเด็กในสังกัดคนอื่นๆ เพราะรู้ว่าหญิงสาวน่าจะไม่ได้มารับงานประจำที่นี่
“ขอบคุณค่ะเจ๊”
“เอาอกเอาใจเค้าดีๆ ล่ะ เผื่อเค้าจะให้ทิปเพิ่ม”
“ค่ะเจ๊”
พราวฝนนั่งใจชื้น อย่างน้อยตอนนี้ก็รู้ตัวแล้วว่าเธอจะได้เงินสองแสนที่เพียงพอต่อการผ่าตัดดวงตาของพี่สาวเธอแล้วแน่ๆ เรื่องการทำงานค่อยทำใจรับเรื่องนั้นกันอีกที แค่รู้ว่าพี่สาวจะได้รับการรักษาในเร็ววันนี้เธอก็ดีใจจนพูดไม่ออกแล้ว
“แล้วต้องทำงานวันไหนอะเจ๊”
พราวฝนหลุดจากภวังค์เมื่อหนึ่งธิดาตั้งคำถามกับมะเหมี่ยว เพราะเธอเองก็มัวแต่ดีใจที่จะได้เงินจนลืมถามวันทำงาน
“คืนนี้เลย”
“คะ?/ฮะ!” สองสาวมองจ้องหน้ามะเหมี่ยวอ้าปากค้าง
“ไม่ต้องมาอ้าปากค้าง แกรีบเทรนเพื่อนแกเร็วๆ เลยว่าจะต้องเอาใจแขกยังไงบ้าง ห้าทุ่มตรงรถจะมารับ เข้าใจนะ”
“ค่ะเจ๊”
มะเหมี่ยวออกจากห้องไปได้หนึ่งธิดาก็หันมาถามพราวฝนที่กำลังมีสีหน้ากังวล
“สู้ไหมพราว”
“โอเค” เธอพยักหน้าหงึกๆ วินาทีนี้จะไม่สู้ก็ไม่ได้แล้ว
พราวฝนอยู่ในชุดเดรสสายเดี่ยวคอถ่วงตัวยาวผ้าซาตินเปิดหลัง กระโปรงแหวกตั้งแต่ต้นขาอ่อนไปจรดข้อเท้า ผมเผ้าจากเป็นลอนฟาร่าก็ถูกหนีบตรงปล่อยยาวสลวยดังเดิม และแต่งแต้มใบหน้าด้วยเครื่องสำอางสีอ่อน เพราะถึงลูกค้าวีไอพีคนนี้จะถูกใจในรูปที่แสนเซ็กซี่โฉบเฉี่ยว แต่เขาก็อยากจะเชยชมหญิงสาวที่เลือกในรูปแบบสวยใสแสนบริสุทธิ์อยู่ดี
พราวฝนนั่งพ่นลมหายใจท่องยุบหนอพองหนอไปตลอดทาง โดยที่ไม่คิดจะสวมแว่นหรือใส่คอนแทคเลนส์ ภาพจำวันนี้จะต้องเป็นวันที่มันเลือนลางที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้
แอบรู้สึกวาบหวิวกับชุดที่ตัวเองใส่พอสมควร เพราะชั้นนอกก็บางแนบเนื้อเธอเสียเหลือเกิน ซ้ำชั้นในยังมีเพียงแค่แพนตี้ตัวจิ๋วที่หนึ่งธิดาหามาให้สวมใส่เท่านั้น ดีที่อกอวบอิ่มของเธอยังมีช่วงเนื้อผ้าคอถ่วงของเสื้อมาปกปิดให้หายอายไปบ้าง ทว่าก็ไม่ได้มากอยู่ดี
ริมฝีปากที่แต่งแต้มด้วยลิปสติกสีหวานขบเม้มกันครั้งแล้วครั้งเล่า รู้สึกว่าการเดินทางครั้งนี้ของเธอมันช่างยาวนานเหลือเกิน ในใจก็ได้แต่ภาวนาให้ตัวเองพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี เพราะจบคืนนี้ไปเธอก็ไม่ต้องมาทำอะไรแบบนี้อีกแล้ว
“แล้วคุณก้อยจะโดนกี่คดีคะ เธอทำไปเพราะแค่ความรักคำเดียวจริงๆ”“วิธีรักในทางที่ถูกมันก็มี แต่สิ่งที่เธอทำมันคือการเห็นแก่ตัวแล้วก็โหดร้ายเกินมนุษย์ พี่เองก็เคยตกอยู่ในวังวนมืดบอดเหมือนเธอ แต่ดีที่พี่ไม่ทำร้ายพลอยจนถึงแก่ชีวิต คิดแล้วก็...”“ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอดีตอีกแล้วก็ได้ค่ะ”“อืม พี่ดีใจที่พี่ปกป้องพลอยกับลูกเอาไว้ได้ ไม่อย่างงั้นพี่คงใจสลาย พักผ่อนเถอะนะ พี่จะนอนอยู่ข้างๆ พลอยไม่ห่างไปไหน” เขาค่อยๆ พาคนในอ้อมกอดลงนอนที่เตียงกว้าง“ค่ะ” พลอยฟ้าค่อยๆ หลับตาลงซุกอยู่กับอกอุ่น รู้สึกขอบคุณชายหนุ่มเหมือนกันที่แสดงออกถึงความเป็นห่วงเป็นใยและอยากปกป้องจนเธอรู้สึกอุ่นใจได้เร็วแม้จะผ่านเรื่องร้ายๆ มาไม่ถึงวัน“นี่ถ้าพราวอยู่กับพี่พลอยตอนนั้นต้องได้ตบหน้ายัยก้อยนั่นสักทีสองทีแล้ว ดีนะที่หลานพราวไม่เป็นอะไร” พราวฝนบ่นอุกขณะนั่งเรือข้ามฝั่งไปที่เกาะพร้อมกับภควัตร ภคพลและขวัญฤดี พอรู้ว่ากวินตราก่อวีรกรรมอะไรกับพี่สาวของเธอเอาไว้บ้างก็อยากจะฉีกเนื้อยัยคนหน้าเนื้อใจเสือนั่นเป็นชิ้นๆ“โหดเหลือเกินนะคุณ” ภควัตรเพิ่งเห็นพราวฝนโมโหหนักก็ครั้งนี้ จะว่าไปเวลาหญิงสาวโกรธก็น่ากลัวสำหรับเขาอยู่เหมือนกัน
“พี่ภูคะ พี่หมอมีเรื่องจะคุยด้วยค่ะ บอกว่าด่วนมาก”ภูมินทร์รีบรับโทรศัพท์มือถือจากอารียาขณะที่กำลังดูความเรียบร้อยของสถานที่จัดวานแต่งริมชายหาด ไม่รู้อคิณมีเรื่องด่วนอะไรจะคุยกับเขา แต่ถ้าหาดจะมาบอกว่าติดงานมาไม่ได้เขาได้เคืองแน่ เพราะก่อนหน้านี้รับปากเขาเอาไว้อย่างดิบดีแล้วว่าจะมางานแต่งให้ได้“ว่าไงคิณ อย่าบอกว่าจะมาไม่ได้นะ” เขาเอ่ยหยอกปลายสายสีหน้าระรื่น แต่เมื่อได้ยินเรื่องที่อคิณแจ้งให้ทราบก็เริ่มหน้าถอดสี“คุณก้อยเข้ามาทำอะไรในนี้คะ” พลอยฟ้าเข้าห้องนอนมาได้ก็แปลกใจที่เห็นกวินตราอยู่ในนี้ แถมเธอยังฉีกกล่องของขวัญที่เธอเตรียมเอาไว้ให้ภูมินทร์ยับยู่ยี่คามืออีก“มาก็ดีแล้ว”“โอ้ย” กวินตรากระชากพลอยฟ้าเหวี่ยงไปที่พื้น จากนั้นก็คร่อมหญิงสาวเอาไว้“คนอย่างแกไม่สมควรจะได้มีชีวิตที่มีความสุขอีพลอย คนที่ควรจะมีความสุขอยู่ตอนนี้คือกู”เพียะ “อ๊าย”เสียงร้องของความเจ็บปวดของพลอยฟ้าดังไปถึงหูภูมินทร์ที่กำลังวิ่งขึ้นบันไดนำหน้าอารียาขึ้นไปบนชั้นสองของบ้าน“กูจะทำให้มึงตายไปพร้อมลูก” กวินตราคว้ามีดสั้นออกมาจากกระเป๋ากางเกงหมายจะแทงเข้าไปที่หน้าท้องของพลอยฟ้า แต่พลอยฟ้าก็คว้าข้อมือกวินตราเอาไว
“ก็อย่างที่พี่เคยบอก ตอนที่พี่ไม่รู้เหตุผลว่าพี่ภูทำร้ายพี่ทำไมพี่ก็ทั้งโกรธทั้งเกลียดเค้า แต่พอรู้เหตุผลก็กลายเป็นพี่รู้สึกผิด แล้วก็สงสารพี่ภูที่สูญเสียคนรักไปก็เพราะพี่”“แล้วพี่ภูเค้าได้บอกไหมว่าเค้ารู้สึกดีกับพี่พลอยตอนไหน”“เค้ารู้สึกผิดเรื่องที่ทำลงไปกับพี่ก็เลยพยายามดูแลพี่เพื่อแก้ไขสิ่งที่ผ่านมา อยู่ๆ กันไปก็เกิดความรักความผูกพันธ์ขึ้นมามั้ง” เธอไม่อยากพูดเรื่องรายละเอียดยิบย่อยไปมากกว่านี้เพราะนั่นจะเท่ากับว่าเธอต้องพูดเรื่องที่แก้วเกล้าไม่ได้มีลูกกับภูมินทร์ แล้วก็เรื่องที่ภูมินทร์แกล้งเธอจนถูกพวกวัยรุ่นฉุดด้วย เมื่อเรื่องราวร้ายๆ มันผ่านไปแล้วเธอก็อยากให้มันเป็นแค่ความลับเท่านั้น ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องพูดถึงมันอีก“อย่างนี้นี่เอง พราวดีใจนะที่พี่สองคนหัวใจตรงกัน พราวอยากเห็นพี่พลอยมีความสุขแบบนี้ตลอดไปนะ”“ขอบใจนะพราว ขอบใจที่ห่วงพี่ตลอด แล้วเรื่องเรากับคุณพัตรล่ะ ทุกอย่างโอเคไหม”“ก็ดีค่ะ ถึงคุณพัตรจะดูกะล่อนแล้วก็เจ้าเล่ห์ไปหน่อย แต่เค้าก็เป็นคนที่รักษาคำพูดเป็นที่หนึ่งเลยนะคะ”“แสดงว่าบ้านนี้เค้าถูกเลี้ยงให้เป็นสภาพบุรุษกันจริงๆ สินะ คุณพลก็ดูอบอุ่นสุภาพแล้วก็ให้เกีย
พักหลังมาก็เห็นว่าหมอหนุ่มดูร่าเริงดี คิดว่าจะตัดใจจากพลอยฟ้าได้แล้วเสียอีก ที่ไหนได้พอรู้ข่าวว่าหญิงสาวจะแต่งงานกลับจะหนีหัวใจตัวเองไปที่ต่างประเทศเสียอย่างนั้นสาวเจ้าเข้ามาถึงห้องทำงานของหมอหนุ่มได้ก็วางกล่องขนมเค้กตรงหน้าของเขาเช่นวันอื่นๆ ที่ผ่านมา “แอ้มได้ข่าวว่าพี่หมอจะไปเรียนต่อที่อเมริกา จะไปจริงๆ เหรอคะ”“รู้มาจากไหน”“คุณพ่อบอกค่ะ”“พี่ก็ยังไม่แน่ใจเหมือนกันนะ ถ้าเป็นไปได้พี่ก็อยากไปเรียนต่อ”“เป็นเพราะพี่หมอรู้เรื่องที่พลอยจะแต่งงานใช่ไหมคะ”“เกี่ยวอะไรกับงานแต่งคุณพลอย” อคิณส่ายหัวน้อยๆ ไม่เข้าใจว่ามีอะไรที่ทำให้อารียาคิดแบบนั้น“ก็พี่หมอชอบพลอย แล้วก็ยังตัดใจจากพลอยไม่ได้ แอ้มพูดถูกใช่ไหมคะ ถ้าพี่หมอยอมมองคนอื่นบ้างก็คงไม่ต้องหนีหัวใจตัวเองแบบนี้” อารียาเอ่ยออกมาด้วยสีหน้าและน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความน้อยใจจนหมอหนุ่มดูออก เขาจึงอมยิ้มมุมปากหลังจากหญิงสาวพูดจบ“ห่วงพี่มากเลยเหรอ”“ค่ะ ห่วงมาก แอ้มไม่เข้าใจว่าทำไมพี่หมอไม่ลืมพลอยซะที”“เรื่องคุณพลอย พี่ทำใจได้ตั้งนานแล้ว พี่ไม่ฝืนให้หัวใจตัวเองต้องจมอยู่กับรักที่เป็นไปไม่ได้ อีกอย่างพี่ก็พอจะรู้ว่าพี่ควรจะสนใจใคร”“พี่หมอกำ
“ได้สิ พี่พร้อมตอบทุกอย่าง”“ทำไมพี่ภูถึงได้เปลี่ยนไปได้คะ”“พี่รู้ตัวแล้วว่าพี่ไม่ได้คิดกับพลอยแค่พี่น้อง ตั้งแต่ที่พี่ไม่ชอบให้คุณพลมายุ่งกับพลอย แล้วก็ไม่ชอบให้คุณพัตรมาทำให้พลอยดีใจ แทนที่จะเป็นพี่ที่ทำทุกอย่างให้พลอย แล้วพี่ก็รู้ด้วยว่าพลอยคิดยังไงกับพี่”“รู้ว่าคิดอะไรคะ”“พี่ได้ยินทั้งหมดตอนที่พลอยคุยกับคิณ ทำไมไม่เคยบอกให้พี่รู้”“พลอยรู้ว่าพี่ภูไม่มีทางมองพลอยนี่คะ” พลอยฟ้าหน้าร้อนผ่าวไม่กล้าสบตากับคนที่กำลังชันหัวมองจ้องหน้าเธอไม่วางตา“เค้าเรียกคิดไปเอง เมื่อคืนนี้คุณย่าคุยกับพี่ว่าให้มาคุยกับพลอยเรื่องงานแต่ง อยากจะให้มีขึ้นเร็วๆ นี้ไหม”“พลอยแล้วแต่พี่ภูเลยค่ะ อะไรที่พี่ภูมีความสุข พลอยเห็นด้วยค่ะ”“เพราะเราเป็นแบบนี้ไงพี่เลยตกหลุมรักเราง่ายๆ” พูดจบก็กระชับกอดคนตัวเล็กเอาไว้แน่น จะว่าไปเรื่องราวของเขากับเธอเริ่มต้นได้ไม่ค่อยดีนัก แต่พลอยฟ้าก็ไม่เคยคิดแก้แค้นการกระทำของเขาทั้งที่ถือไพ่เหนือกว่าเพราะมีน่าของเขาเป็นคนหนุนหลัง เธอเป็นห่วงคนอื่นก่อนเสมอ เขาแพ้ความดีข้อนี้ของเธอจริงๆ“พี่ภูหายโกรธพลอยเรื่องคุณพัตรหรือยังคะ พลอยไม่อยากให้พี่ภูคิดมาก”“อืม พี่ขอโทษที่ทำตัวงี่เง่า
หลังจากภูมินทร์ขอตัวไปคุยโทรศัพท์ พลอยฟ้าก็เปลี่ยนความสนใจที่ดินเป็นผืนท้องทะเลในเวลาที่พระอาทิตย์ใกล้จะตก เธอเดาไม่ออกเหมือนกันว่าภูมินทร์จะสร้างบ้านบนผืนดินแห่งนี้ในรูปแบบไหน แต่เธอเชื่อว่ามันคงเป็นบ้านพักตากอากาศที่วิวทิวทัศน์สวยที่สุดอีกหลังหนึ่งเลยก็ว่าได้สาวเจ้าเอาแต่เพลิดเพลินกับการชมวิวทิวทัศน์ที่นี่จนลืมเวลา เมื่อนึกขึ้นได้ว่าภูมินทร์หายไปนานแล้วเธอก็เริ่มหันกลับมามองหาเขา ทว่ามองหาไปรอบตัวแล้วก็มองไม่เห็นเธอรีบเดินกลับไปที่รถบ้านก็ไม่เห็นจะมีวี่แววว่าภูมินทร์อยู่ที่นี่ มองไปยังป่าสนแล้วก็ไม่เจอใคร เธอจึงรีบสาวเท้าไปที่ริมชายหาดเผื่อว่าชายหนุ่มจะอยู่แถวนั้นก็ไม่มี หัวใจตอนนี้เริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะด้วยความตื่นกลัว“พี่ภูคะ พี่ภูอยู่ไหนคะ” ขอบตาของพลอยฟ้าเริ่มร้อนผ่าว น้ำตาเริ่มไหลลงมาอาบแก้ม ภาพวันที่เขาทิ้งเธอให้เดินคนเดียวข้างถนนวันนั้นมันกลับมาอีกแล้ว เขาแกล้งเธออีกแล้วใช่ไหม“ร้องให้ทำไมพลอย” ภูมินทร์เดินเข้ามายืนตรงหน้าพลอยฟ้าที่กำลังร้องให้สะอึกสะอื้น“พี่ภู” เธอโผเข้ากอดเขาเอาไว้แน่น “พลอยนึกว่าพี่ภูทิ้งพลอยให้อยู่คนเดียวอีกแล้ว” โล่งใจเหลือเกินที่เขาไม่ได้คิดจะทิ้งเธ