แชร์

ฉันถือเถ้ากระดูกบุกไปอาละวาดงานวันเกิดรักแรกของผู้ชายเลว
ฉันถือเถ้ากระดูกบุกไปอาละวาดงานวันเกิดรักแรกของผู้ชายเลว
ผู้แต่ง: มู่เหลียนชิง

บทที่ 1

ผู้เขียน: มู่เหลียนชิง
“คุณหนูหนิง คุณไม่รู้เหรอ? ลูกของคุณเป็นโรคมะเร็งกระดูกที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม อาจมีชีวิตอยู่ได้มากสุดสองเดือนเท่านั้น”

“ถ้าผมจำไม่ผิด แม่ของคุณก็เสียเพราะโรคนี้”

“ผมแนะนำว่า คุณเองก็ควรตรวจร่างกายอย่างละเอียดด้วย...”

ทันใดนั้น หนิงหนานเสว่ก็รู้สึกเหมือนแรงทั้งหมดที่มีในร่างกายถูกดูดหายไปในพริบตา

คำพูดของหมอวนเวียนอยู่ในหัวของเธอไม่หยุดหย่อน เธอตัวสั่นเทาอย่างไม่อาจควบคุมได้

“เป็นอะไรเหรอคะ มามี้?” ฟู่สุยสุยเอ่ยเสียงใสพลางมองหนิงหนานเสว่ด้วยความเป็นห่วง “สุยสุยทำอะไรให้คุณแม่ไม่สบายใจหรือเปล่าคะ?”

หนิงหนานเสว่มองใบหน้าเล็ก ๆ ที่ผอมซูบจนเห็นกระดูกของฟู่สุยสุยที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยด้วยความรู้สึกผิดเต็มหัวใจ

“ถ้าเป็นความผิดของสุยสุย หนูขอโทษนะคะ” พูดจบ ฟู่สุยสุยก็ฝืนยิ้มออกมาอย่างเข้มแข็ง

หัวใจของหนิงหนานเสว่ปวดร้าวราวกับโดนทิ่มแทง เธอไม่อยากจะเชื่อว่าลูกรักของเธอเหลือเวลาแค่หกเดือน เธอไม่มีพ่อแม่ ไม่มีครอบครัว และชีวิตคู่ก็เหลือเพียงแค่ชื่อ

สุยสุยคือความหวังเดียวที่เธอจะมีชีวิตอยู่ต่อไป

หนิงหนานเสว่กลั้นน้ำตาไว้ “แม่ไม่ได้ไม่สบายใจหรอก แม่ดีใจมากเลย เพราะสุยสุยกำลังจะหายดีแล้ว”

ดวงตาของฟู่สุยสุยเป็นประกาย เอ่ยอย่างดีใจว่า “ดีจังเลยค่ะ... แล้ววันนี้คุณพ่อจะมาหาหนูไหมคะ?”

ดวงตากลมโตคมเข้มเปี่ยมไปด้วยความหวังที่เลือนลาง แต่พอพูดจบก็หลบตาลง ราวกับไม่กล้าหวังมากเกินไปอย่างไงอย่างงั้น

ทว่าคำพูดนี้กลับทำให้หนิงหนานเสว่เจ็บปวดยิ่งกว่าถูกเฉือนเนื้อซะอีก

หนิงหนานเสว่พยายามข่มหัวใจที่เต้นเร็วรัว “แน่นอนจ้ะ มามี้สัญญาว่าวันนี้คุณพ่อจะมาหาหนูค่ะ”

“จริงเหรอคะ...” น้ำเสียงใสซื่อแฝงไปด้วยความสงสัยที่ไม่มั่นใจ

หนิงหนานเสว่รู้ดีว่าที่สุยสุยไม่มั่นใจเกิดจากอะไร เพราะเธอเป็นแม่ที่ไม่ได้รับการยอมรับจากพ่อ

เด็กวัยสี่ขวบไม่เข้าใจความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนของพ่อแม่ ลูกแค่ต้องการครอบครัวที่ปกติธรรมดา และความรักจากพ่อเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

แต่เธอกำลังจะเสียลูกไป

แต่เธอกลับให้สิ่งนั้นกับลูกไม่ได้

“สุยสุย แม่สัญญานะ ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม วันนี้แม่จะพาพ่อมาหาหนูให้ได้ สุขสันต์วันเกิดนะ” เธอลูบศีรษะของฟู่สุยสุยเบา ๆ แล้วก้มลงหอมหน้าผากลูก

ฟู่สุยสุยยิ้มอย่างมีความสุข

หลังจากกล่อมลูกนอนหลับ หนิงหนานเสว่จึงโทรหาเลขาจาง

เธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ “ฟู่เฉินอยู่ไหน บอกเขาว่าฉันคิดได้แล้ว”

ปลายสายเงียบไปครู่หนึ่งก่อนตอบกลับว่า “ท่านประธานฟู่กำลังฉลองวันเกิดกับคุณสวีอยู่ครับ ถ้าคุณหนิงอยากคุยไว้พรุ่งนี้ผมจะแจ้งท่านประธานฟู่ให้นะครับ”

เมื่อหนิงหนานเสว่ได้ยินคำว่า ‘คุณสวี’ ก็กลืนน้ำลายทันที “บอกฟู่เฉินไปว่า นอกจากวันนี้ ก็ไม่รอแล้ว”

พูดจบ หนิงหนานเสว่ก็วางสายทันที

ผ่านไปไม่ถึงสิบนาที เลขาจางก็โทรกลับมา และบอกสถานที่กับหนิงหนานเสว่—โรงแรมเยี่ยนจิง

...

เมื่อหนิงหนานเสว่มาถึง เลขาจางก็ออกมารับเธอ

ตอนที่ทั้งสองคนเดินมาถึงหน้าห้องจัดเลี้ยง ยังไม่ทันที่เธอจะเข้าไป เสียงภายในก็ดังลอดออกมา

“พี่เฉิน วันนี้พี่บอกกับทุกคนต่อหน้าพี่สาวผมว่า พี่แต่งงานกับหนิงหนานเสว่มาตั้งหลายปี ถึงขั้นมีลูกด้วยกัน แต่พี่ไม่มีความรู้สึกอะไรเลยอย่างนั้นเหรอ?”

หนิงหนานเสว่หน้าซีดในทันใด

หลังเสียงทุ้มต่ำแฝงไปด้วยความเย็นชาดังขึ้น บรรยากาศภายในห้องพลันเงียบสงัด

“นายคิดว่าฉันจะรักผู้หญิงที่นิสัยต่ำทราม และใช้วิธีสกปรกแบบนั้นเหรอ? ส่วนเด็ก... นอกคอกคนนั้น? ใช่ลูกฉันรึเปล่าก็ยังไม่แน่”

“อย่ามาทำให้ฉันรู้สึกขยะแขยง”

คำพูดเย็นชาและเรียบเฉย แต่กลับทำร้ายจิตใจได้มากที่สุด

ราวกับเข็มทิ่มแทงใส่เธอ

เธอยอมรับได้ที่ฟู่เฉินรังเกียจเธอ

และเกลียดชังเธอ

แต่เธอรับไม่ได้ที่ฟู่เฉินใช้คำว่า ‘เด็กนอกคอก’ เรียกขานลูกของเธอ!

หนิงหนานเสว่ผลักประตูเปิดออก คนที่อยู่ข้างในถูกเสียงนั้นดึงดูดทันที เมื่อทุกคนเห็นหนิงหนานเสว่ยืนอยู่หน้าประตูต่างก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปฉับพลัน

ฟู่เฉินนั่งอยู่หัวโต๊ะ เขาเป็นดั่งดวงเดือนที่ถูกรายล้อมไปด้วยดวงดาวมาแต่ไหนแต่ไร เขามองหนิงหนานเสว่ด้วยสายตาเย็นชาพลางขมวดคิ้ว

ส่วนสาวสวยมีเสน่ห์ที่นั่งข้างเขาคือ ‘คุณสวี’ ที่เลขาจางพูดถึง ซึ่งก็คือสวีจือหรู แฟนเก่าของฟู่เฉิน

เมื่อเธอเห็นหนิงหนานเสว่ก็อึ้งไปชั่วขณะ และไม่เป็นธรรมชาติเช่นกัน

“หนานเสว่?” สวีจือหรูเอ่ยด้วยความประหลาดใจ “เธอมาได้ยังไง? อาเฉิน ทำไมคุณไม่บอกเลยล่ะว่าเธอจะมา...”

ทุกคนในที่นี้รู้ว่าหนิงหนานเสว่กับฟู่เฉินกำลังจะหย่ากัน

ดังนั้นสวีจือหรูจึงสามารถใช้สถานะตัวจริงพูดแบบนั้นกับหนิงหนานเสว่อย่างเป็นธรรมชาติ

ฟู่เฉินเอ่ยด้วยสายตาเย็นชา “พวกคุณออกไปกันก่อนเถอะ...”

ทันใดนั้น สวีจือหรูพลันหน้าเสีย

หนิงหนานเสว่สบตากับสายตาเย็นชาอย่างยิ่งของฟู่เฉิน “ไม่ต้องหรอก... เรื่องระหว่างเรา ไม่มีอะไรที่พูดไม่ได้ ทุกคนอยู่นี่แหละ”

หากเป็นหนิงหนานเสว่เมื่อห้าปีก่อน เธอไม่มีทางพูดด้วยน้ำเสียงใจเย็นแบบนี้

สำหรับเธอ ฟู่เฉินเคยเป็นความรักที่โกลาหล

แต่ตอนนี้เหลือเพียงรอยเลือดเต็มตัวจากการถูกทุบตีด้วยความจริง

ในเวลานี้ เธอมีแค่ความตั้งใจเดียว

นั่นก็คือทำให้ลูกของเธอได้มีจุดเริ่มต้นและจุดจบที่สมบูรณ์

สวีจือหรูหน้าเสีย จับแขนของฟู่เฉิน

ฟู่เฉินหันมามองหนิงหนานเสว่อย่างเย็นชาทันที “เงื่อนไขของผมยังเหมือนเดิม คุณอยากจะเรียกร้องอะไรอีก?”

ในดวงตาดำขลับของหนิงหนานเสว่ดูเหมือนจะเหลือแค่ความสงบ “เงื่อนไขของฉันคือ ให้คุณอยู่กับสุยสุยหนึ่งเดือนในฐานะพ่อ นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป”

คำพูดนี้ดังสนั่นต่อหน้าทุกคนราวกับฟ้าร้อง

น้องชายของสวีจือหรู สวีจ้าวโกรธจัด “ฉันรู้อยู่แล้วว่าเธอมันไร้ยางอาย ยังอยากเกาะพี่เฉินอีก! ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ พี่สาวฉันจะต้องแยกจากพี่เฉินนานขนาดนั้นเหรอ!”

สวีจือหรูน้ำตาคลอ รีบดึงสวีจ้าวไว้ “นายหยุดพูดได้แล้ว...”

แต่ยิ่งเธอห้าม สวีเจ้าก็ยิ่งโมโห “พี่! พี่เป็นโรคซึมเศร้าตั้งหลายปี แต่ไม่ดีขึ้นเลย จะให้ไม่ผมโมโหได้เหรอ! พี่เฉิน หรือว่าครั้งนี้พี่จะยอมโดนผู้หญิงคนนี้หลอกอีก!”

สีหน้าของฟู่เฉินเปลี่ยนไปเล็กน้อย ดวงตาสีดำสนิทจับจ้องชั่วครู่หนึ่ง ครู่ต่อมาเขาก็หันไปมองหนิงหนานเสว่ด้วยสายตาเย็นชา “ไม่มีทาง”

หนิงหนานเสว่รู้อยู่แล้วว่าฟู่เฉินจะพูดแบบนี้

“ฉันไม่เอาสินสมรสก็ได้ ไม่เอาอะไรทั้งนั้น เงื่อนไขเดียวในการหย่าของฉันคือให้คุณอยู่กับสุยสุยหนึ่งเดือน ในฐานะพ่อ”

เมื่อหนิงหนานเสว่เอ่ยถึงสุยสุย หัวใจของเธอก็เจ็บปวดรวดร้าว “ถ้าคุณไม่ตกลง ฉันก็จะไม่ยอมหย่า”

“เปรี้ยง!” สวีจ้าวเขวี้ยงถ้วยลงตรงหน้าหนิงหนานเสว่ด้วยความโมโห “อีกระหรี่ เธอไม่อายบ้างเหรอ!”

หนิงหนานเสว่มองเศษอาหารที่เปื้อนบนกระโปรงร่วงลงมา แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาจนน่ากลัวว่า “ฟู่เฉิน ถ้าคุณอยากกำจัดฉันไปให้พ้น มีแค่ทางนี้ทางเดียวเท่านั้น ไม่อย่างนั้น ต่อให้คุณอยากจะหย่า คุณก็จะต้องพัวพันกับฉันไปอีกอย่างน้อยสองปี”

“แต่ถ้าคุณอยู่กับสุยสุยหนึ่งเดือน หลังจากนั้นฉันจะหย่ากับคุณโดยไม่รีรอแน่นอน”

ดวงตาของฟู่เฉินเย็นชา

ส่วนสวีจือหรูกลับสูดหายใจยาว ๆ “ฟู่เฉิน คุณตอบตกลงเถอะ”

ทันทีที่สิ้นเสียงนี้ ทำให้ทุกคนไม่คาดคิดมาก่อน

“พี่?” สวีจ้าวถามกลับเสียงดัง

สวีจือหรูจับมือฟู่เฉินแน่นพร้อมยิ้มอย่างอ่อนโยน “ถือซะว่าเพื่อเราสองคน ฉันเชื่อใจคุณ”
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ฉันถือเถ้ากระดูกบุกไปอาละวาดงานวันเกิดรักแรกของผู้ชายเลว   บทที่ 220

    หนิงหนานเสว่ส่ายศีรษะ เข้าไปในห้องพักพนักงาน หลังจากดื่มน้ำเย็นเข้าไปสองอึกใหญ่ ในที่สุดก็สงบลงถึงไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้ผิดปกติอะไรอยู่กันแน่ แต่ว่าหลังจากที่หนิงหนานเสว่เลิกงาน ก็ยังคงเดินไปยังร้านอาหารแบบส่วนตัวตามที่อยู่ที่นัดกันไว้ในข้อความเมื่อก่อนทั้งสองคนเคยมากินร้านอาหารร้านนี้แล้วครั้งหนึ่ง ตอนนั้นหนิงหนานเสว่รู้สึกว่าอาหารอร่อย จึงคิดอยากจะมาอีกสักครั้งอยู่ตลอด แต่น่าเสียดายที่ร้านอาหารแบบส่วนตัวนี้มีกฎที่เข้มงวดมาก ไม่เป็นสมาชิกก็เข้าไม่ได้ ถึงแม้เธอกับฟู่เฉินจะเป็นสามีภรรยากัน แต่กลับไม่มีบัตรสมาชิก สมาชิกของฟู่เฉินก็ไม่ได้ให้เธอใช้ตามใจชอบเมื่อมาสถานที่นี้อีกครั้ง ในใจของหนิงหนานเสว่รู้สึกแปลก ๆ เล็กน้อย ครั้งนั้นหลังจากที่มากินร้านอาหารแบบส่วนตัวร้านนี้ เธอกลับบ้านไปบอกสุยสุย และยังบอกอีกว่าวันหลังพ่อจะต้องพวกเขามากินด้วยกันอย่างแน่นอนสุยสุยในตอนนั้นตั้งตารออยู่ทุกวัน หวังว่าจะสามารถมากินข้าวด้วยกันกับพ่อแม่ได้ แต่จนกระทั่งถึงที่สุดแล้ว จนกระทั่งลูกไม่อยู่แล้ว เธอก็ไม่ได้กินอาหารของที่นี่เมื่อคิดถึงสุยสุย หัวใจของหนิงหนานเสว่ ก็เจ็บเหมือนโดนเข็มทิ่มแทง หายใจอย่างอ

  • ฉันถือเถ้ากระดูกบุกไปอาละวาดงานวันเกิดรักแรกของผู้ชายเลว   บทที่ 219

    หนิงหนานเสว่เห็นท่าทางน้ำลายจะไหลลงมาอยู่แล้วของเธอก็หัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้ “ถึงยังไงเธอก็เป็นเพียงผู้หญิงเหมือนกัน เธอมองฉันแบบนี้เว่อร์ไปหรือเปล่า?”“ประธานหนิง คุณไม่รู้หรอกว่าก่อนที่ฉันจะได้พบคุณ ฉันไม่อยากทำงานแล้ว!” หนวนหน่วนถอนหายใจ เหลือบมองหนิงหนานเสว่อย่างเงียบ ๆ หลังจากแน่ใจว่าสีหน้าของเธอไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ถึงได้เอ่ยปากกล่าวต่อไปว่า “อาชีพของพวกเราสำหรับผู้หญิงแล้วเดิมทีก็ไม่ได้ยุติธรรมอยู่แล้ว พวกเขาชอบจะกีดกันฉัน รังแกฉันอยู่เรื่อย!”เมื่อเห็นท่าทางเช่นนี้ของเธอ อันที่จริงหนิงหนานเสว่เข้าใจอย่างมาก ในสายตาของผู้ชายหลายคน เดิมทีงานด้านเทคนิคนี้ ก็เหมือนกับโลกของพวกเขา ผู้หญิงในอุตสาหกรรมนี้มีความเสียเปรียบโดยธรรมชาติอยู่แล้วแต่ว่าพวกเธออาศัยความสามารถจนเดินมาถึงตรงนี้ได้ ดังนั้นหนิงหนานเสว่จึงไม่คิดเลยว่าตนเองจะด้อยกว่าผู้อื่นเธอหัวเราะพลางจับมือของหนวนหน่วน “ถึงเธอจะช้าสักหน่อย แต่มีความแม่นยำสูงที่สุด ผู้หญิงอย่างพวกเราย่อมมีข้อดีของพวกเราเอง ถึงแม้ตอนนี้เธอจะขาดประสบการณ์ไปบ้าง แต่ขอเพียงฝึกฝนให้มาก ต้องทำออกมาได้แน่นอน เมื่อถึงตอนนั้นก็จะไม่มีใครดูถูกเธอแล้

  • ฉันถือเถ้ากระดูกบุกไปอาละวาดงานวันเกิดรักแรกของผู้ชายเลว   บทที่ 218

    ขอบคุณทุกคน แต่ว่า งานที่ฉันมอบหมายให้ทุกคนไป เป็นยังไงบ้างคะ?หนิงหนานเสว่กอดดอกไม้ที่ฉานเฟิงให้มา และเริ่มสุ่มตรวจงานที่ตนเองมอบหมายไปเมื่อทุกคนเห็นท่าทางแบบนี้ของหนิงหนานเสว่ แต่ละคนต่างก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้ พวกเขาคิดไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าสิ่งที่หนิงหนานเสว่คิดถึงอยู่ตลอดในตอนนี้จะยังคงเป็นเรื่องงาน?แต่ละคนนำผลงานของตนเองในช่วงนี้ โชว์ให้หนิงหนานเสว่ดู ราวกับถวายสมบัติอย่างไรอย่างนั้น ทุกคนต่างก็เป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านเทคโนโลยี ถึงจะมีความผิดพลาดบ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่แนวคิดโดยรวมไม่มีปัญหาอะไร หลังจากที่หนิงหนานเสว่ดูข้อมูลของทุกคนอย่างละเอียดแล้ว ก็นั่งลงตรวจสอบการคำนวณของตัวเองฟู่เฉินกลับมาด้วยสีหน้าย่ำแย่ ไปยังแผนกเทคโนโลยีด้วยความโมโห ผลคือพอเข้าประตูไป ก็มองเห็นทุกคนกำลังทำงานอย่างจริงจัง รวมถึงหนิงหนานเสว่ที่อยู่ในนั้นด้วย เรื่องที่ทุกคนจดจ่ออยู่กับงาน และการเขาที่พุ่งเข้ามาอย่างโผงผางแบบนี้ กลับดูเหมือนว่าจะขัดแย้งกันเล็กน้อยเมื่อเห็นฟู่เฉินเข้ามาด้วยสีหน้าย่ำแย่ หานเฟิงและเพื่อนร่วมงานชายหลายคนก็เกือบจะยืนขึ้นมาในทันที คิดอยากจะปกป้องหนิงหนานเสว่โดยไม่รู้ตัว กลัวว่าเธ

  • ฉันถือเถ้ากระดูกบุกไปอาละวาดงานวันเกิดรักแรกของผู้ชายเลว   บทที่ 217

    เมื่อเห็นการเคลื่อนไหวที่คล่องแคล่วว่องไวของหนิงหนานเสว่ เลขาเฉินก็อุทานออกมาอย่างชื่นชม เขาไม่อยากจะเชื่อเลยจริง ๆ ว่าตอนนี้หนิงหนานเสว่จะเติบโตมาถึงขั้นนี้แล้วเดิมทีเขายังคิดว่าหนิงหนานเสว่จะยอมรับความเป็นจริงนี้อย่างคนขี้ขลาด แต่กลับคิดไม่ถึงเลยว่า จะถามหาความรับผิดชอบอย่างรวดเร็วแบบนี้เมื่อสบเข้ากับสายตาที่ประหลาดใจของเลขาเฉิน หนิงหนานเสว่ก็ยิ้มอยู่ชั่วครู่ จากนั้นก็กล่าวอย่างเรียบเฉยว่า “ฉันควรจะปกป้องสิทธิตามกฎหมายของตัวเองหน่อยไม่ใช่เหรอคะ?”“เยี่ยม เยี่ยมมากเลยครับ เดิมทีนี่เป็นสิ่งที่ควรจะเป็นอยู่แล้ว ควรปกป้องครับ!” เลขาเฉินแสดงทัศนคติของตนเองออกมาโดยทันทีหนิงหนานเสว่ถึงได้พยักหน้าอย่างพึงพอใจ “พวกเราไปกันก่อนเถอะค่ะ ยังมีธุระที่บริษัทอยู่ ไม่ต้องรอพวกเขาแล้ว”“แต่ว่าเราพวกเรามีรถแค่คันเดียวนะครับ”“พวกเขาเรียกรถแท็กซี่เป็นค่ะ”หนิงหนานเสว่เปิดประตูรถแล้วนั่งที่ตำแหน่งคนขับในทันที เธอมองเลขาเฉินเหมือนจะยิ้มแต่ไม่ยิ้ม“คุณก็จะเรียกรถแท็กซี่เหมือนกันเหรอคะ? ค่ารถนี่ขอเบิกไม่ได้นะคะ!”เลขาเฉินไม่ใช่คนโง่เสียหน่อย รถที่มีอยู่ไม่นั่ง ทำไมต้องไปเรียกรถแท็กซี่ด้วยล่ะ?อ

  • ฉันถือเถ้ากระดูกบุกไปอาละวาดงานวันเกิดรักแรกของผู้ชายเลว   บทที่ 216

    เดิมทีสวีจือหรูยังใช้สายตาประท้วง แต่กลับคิดไม่ถึงเลยว่าหนิงหนานเสว่จะรุนแรงง่าย ๆ ขนาดนี้ ถึงขนาดเอื้อมมือมาฉุดดึงเธอเลยเหรอ?เธอหน้าเปลี่ยนสี เห็นฟู่เฉินจากทางหางตา ก็รีบเก็บงำตัวตน และแสดงความน่าสงสารออกมา “คุณหนิง ฉันเมารถนิดหน่อย ถึงได้นั่งอยู่ด้านหน้า คุณอย่าโกรธเลยนะคะ” “คุณขับรถได้นี่นา นั่งหน้ารถเหมือน ๆ กัน”หนิงหนานเสว่กอดอก มองดูสวีจือหรูเหมือนจะยิ้มแต่ไม่ยิ้ม“ฉัน...”สวีจือหรูมองหนิงหนานเสว่อย่างไม่อยากจะเชื่อ คาดไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่า ตรรกะความคิดของคน ๆ นี้จะละเอียดได้ขนาดนี้? คำพูดที่พูดออกมาทำให้ผู้อื่นหมดหนทางโต้แย้ง“วันนี้ประธานฟู่ยุ่งมาก คุณเข้าอกเข้าใจคนอื่นที่สุดไม่ใช่เหรอ? งั้นยังเสียเวลาอยู่ตรงนี้ทำไมกัน?”“ในเมื่อเมารถ งั้นเธอขับก็สิ้นเรื่อง ถึงยังไงฉันก็ต้องนั่งในที่ที่เป็นของฉันอยู่ดี”หนิงหนานเสว่ไม่อยากจะดูผู้หญิงคนนี้เล่นละคร จึงเอาทิชชูมาฆ่าเชื้อโรคโดยทันที หลังจากเช็ดที่นั่งข้างคนขับอย่างละเอียดอยู่ชั่วครู่ ถึงได้นั่งลง เมื่อเห็นการกระทำของเธอ สวีจือหรูก็มองไปยังฟู่เฉินที่เดินออกมาและน้ำตาไหลในทันที “อาเฉิน ฉันเรียกรถแท็กซี่ไปเองดีกว่าไหมคะ?”

  • ฉันถือเถ้ากระดูกบุกไปอาละวาดงานวันเกิดรักแรกของผู้ชายเลว   บทที่ 215

    สิ่งที่ฟู่เฉินเกลียดที่สุดก็คือการที่หนิงหนานเสว่ยิ้มให้กับชายอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคน ๆ นี้คือเจียงเหยียนเชิน!เขาก้าวมาข้างหน้าหนึ่งก้าว แล้วโอบเอวหนิงหนานเสว่ต่อหน้าต่อตาเจียงเหยียนเชิน ประกาศความเป็นเจ้าของ บรรยากาศตึงเครียดภายในห้อง แผ่ขยายออกไปในทันทีอย่างไรก็ตามการกระทำของเขาตอนนี้ ในสายตาของเจียงเหยียนเชินมันช่างปัญญาอ่อนสิ้นดีเจียงเหยียนเชินลุกขึ้นอย่างไม่แยแส โบกมือให้กับหนิงหนานเสว่ “งั้นฉันไม่รบกวนเธอแล้ว ขอตัวกลับก่อนนะ”“หยุดก่อน ต่อไปอย่ามาเสมอหน้าต่อหน้าเมียผมอีก”ฟู่เฉินโอบหนิงหนานเสว่ พลางกล่าวเตือนเจียงเหยียนเชิน“เมีย? ถ้าคุณไม่บอกผมคงไม่รู้จริง ๆ เธอเป็นเมียของคุณงั้นเหรอ?”เจียงเหยียนเชินหยุดความอารมณ์ดีเอาไว้ สายตามองกลับไปกลับมาที่คนทั้งสองคน จากนั้นก็หัวเราะออกมาในทันที และกล่าวอย่างเรียบเฉยว่า “เสว่เอ๋อร์เข้าโรงพยาบาลหนึ่งอาทิตย์ ผมมาดูเธออยู่ทุกวัน ทำกับข้าวให้เธอกินด้วยตัวเอง ทำไมไม่เห็นคุณมาเลยล่ะ? คุณคู่ควรที่จะบอกว่าเธอเป็นเมียของคุณงั้นเหรอ?”“คุณ!” ฟู่เฉินถูกทำให้สำลัก มือที่โอบหนิงหนานเสว่เอาไว้ รัดแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัวต่อให้อยู่ในจุดที่เ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status