Share

ฉันถือเถ้ากระดูกบุกไปอาละวาดงานวันเกิดรักแรกของผู้ชายเลว
ฉันถือเถ้ากระดูกบุกไปอาละวาดงานวันเกิดรักแรกของผู้ชายเลว
Author: มู่เหลียนชิง

บทที่ 1

Author: มู่เหลียนชิง
“คุณหนูหนิง คุณไม่รู้เหรอ? ลูกของคุณเป็นโรคมะเร็งกระดูกที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม อาจมีชีวิตอยู่ได้มากสุดสองเดือนเท่านั้น”

“ถ้าผมจำไม่ผิด แม่ของคุณก็เสียเพราะโรคนี้”

“ผมแนะนำว่า คุณเองก็ควรตรวจร่างกายอย่างละเอียดด้วย...”

ทันใดนั้น หนิงหนานเสว่ก็รู้สึกเหมือนแรงทั้งหมดที่มีในร่างกายถูกดูดหายไปในพริบตา

คำพูดของหมอวนเวียนอยู่ในหัวของเธอไม่หยุดหย่อน เธอตัวสั่นเทาอย่างไม่อาจควบคุมได้

“เป็นอะไรเหรอคะ มามี้?” ฟู่สุยสุยเอ่ยเสียงใสพลางมองหนิงหนานเสว่ด้วยความเป็นห่วง “สุยสุยทำอะไรให้คุณแม่ไม่สบายใจหรือเปล่าคะ?”

หนิงหนานเสว่มองใบหน้าเล็ก ๆ ที่ผอมซูบจนเห็นกระดูกของฟู่สุยสุยที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยด้วยความรู้สึกผิดเต็มหัวใจ

“ถ้าเป็นความผิดของสุยสุย หนูขอโทษนะคะ” พูดจบ ฟู่สุยสุยก็ฝืนยิ้มออกมาอย่างเข้มแข็ง

หัวใจของหนิงหนานเสว่ปวดร้าวราวกับโดนทิ่มแทง เธอไม่อยากจะเชื่อว่าลูกรักของเธอเหลือเวลาแค่หกเดือน เธอไม่มีพ่อแม่ ไม่มีครอบครัว และชีวิตคู่ก็เหลือเพียงแค่ชื่อ

สุยสุยคือความหวังเดียวที่เธอจะมีชีวิตอยู่ต่อไป

หนิงหนานเสว่กลั้นน้ำตาไว้ “แม่ไม่ได้ไม่สบายใจหรอก แม่ดีใจมากเลย เพราะสุยสุยกำลังจะหายดีแล้ว”

ดวงตาของฟู่สุยสุยเป็นประกาย เอ่ยอย่างดีใจว่า “ดีจังเลยค่ะ... แล้ววันนี้คุณพ่อจะมาหาหนูไหมคะ?”

ดวงตากลมโตคมเข้มเปี่ยมไปด้วยความหวังที่เลือนลาง แต่พอพูดจบก็หลบตาลง ราวกับไม่กล้าหวังมากเกินไปอย่างไงอย่างงั้น

ทว่าคำพูดนี้กลับทำให้หนิงหนานเสว่เจ็บปวดยิ่งกว่าถูกเฉือนเนื้อซะอีก

หนิงหนานเสว่พยายามข่มหัวใจที่เต้นเร็วรัว “แน่นอนจ้ะ มามี้สัญญาว่าวันนี้คุณพ่อจะมาหาหนูค่ะ”

“จริงเหรอคะ...” น้ำเสียงใสซื่อแฝงไปด้วยความสงสัยที่ไม่มั่นใจ

หนิงหนานเสว่รู้ดีว่าที่สุยสุยไม่มั่นใจเกิดจากอะไร เพราะเธอเป็นแม่ที่ไม่ได้รับการยอมรับจากพ่อ

เด็กวัยสี่ขวบไม่เข้าใจความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนของพ่อแม่ ลูกแค่ต้องการครอบครัวที่ปกติธรรมดา และความรักจากพ่อเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

แต่เธอกำลังจะเสียลูกไป

แต่เธอกลับให้สิ่งนั้นกับลูกไม่ได้

“สุยสุย แม่สัญญานะ ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม วันนี้แม่จะพาพ่อมาหาหนูให้ได้ สุขสันต์วันเกิดนะ” เธอลูบศีรษะของฟู่สุยสุยเบา ๆ แล้วก้มลงหอมหน้าผากลูก

ฟู่สุยสุยยิ้มอย่างมีความสุข

หลังจากกล่อมลูกนอนหลับ หนิงหนานเสว่จึงโทรหาเลขาจาง

เธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ “ฟู่เฉินอยู่ไหน บอกเขาว่าฉันคิดได้แล้ว”

ปลายสายเงียบไปครู่หนึ่งก่อนตอบกลับว่า “ท่านประธานฟู่กำลังฉลองวันเกิดกับคุณสวีอยู่ครับ ถ้าคุณหนิงอยากคุยไว้พรุ่งนี้ผมจะแจ้งท่านประธานฟู่ให้นะครับ”

เมื่อหนิงหนานเสว่ได้ยินคำว่า ‘คุณสวี’ ก็กลืนน้ำลายทันที “บอกฟู่เฉินไปว่า นอกจากวันนี้ ก็ไม่รอแล้ว”

พูดจบ หนิงหนานเสว่ก็วางสายทันที

ผ่านไปไม่ถึงสิบนาที เลขาจางก็โทรกลับมา และบอกสถานที่กับหนิงหนานเสว่—โรงแรมเยี่ยนจิง

...

เมื่อหนิงหนานเสว่มาถึง เลขาจางก็ออกมารับเธอ

ตอนที่ทั้งสองคนเดินมาถึงหน้าห้องจัดเลี้ยง ยังไม่ทันที่เธอจะเข้าไป เสียงภายในก็ดังลอดออกมา

“พี่เฉิน วันนี้พี่บอกกับทุกคนต่อหน้าพี่สาวผมว่า พี่แต่งงานกับหนิงหนานเสว่มาตั้งหลายปี ถึงขั้นมีลูกด้วยกัน แต่พี่ไม่มีความรู้สึกอะไรเลยอย่างนั้นเหรอ?”

หนิงหนานเสว่หน้าซีดในทันใด

หลังเสียงทุ้มต่ำแฝงไปด้วยความเย็นชาดังขึ้น บรรยากาศภายในห้องพลันเงียบสงัด

“นายคิดว่าฉันจะรักผู้หญิงที่นิสัยต่ำทราม และใช้วิธีสกปรกแบบนั้นเหรอ? ส่วนเด็ก... นอกคอกคนนั้น? ใช่ลูกฉันรึเปล่าก็ยังไม่แน่”

“อย่ามาทำให้ฉันรู้สึกขยะแขยง”

คำพูดเย็นชาและเรียบเฉย แต่กลับทำร้ายจิตใจได้มากที่สุด

ราวกับเข็มทิ่มแทงใส่เธอ

เธอยอมรับได้ที่ฟู่เฉินรังเกียจเธอ

และเกลียดชังเธอ

แต่เธอรับไม่ได้ที่ฟู่เฉินใช้คำว่า ‘เด็กนอกคอก’ เรียกขานลูกของเธอ!

หนิงหนานเสว่ผลักประตูเปิดออก คนที่อยู่ข้างในถูกเสียงนั้นดึงดูดทันที เมื่อทุกคนเห็นหนิงหนานเสว่ยืนอยู่หน้าประตูต่างก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปฉับพลัน

ฟู่เฉินนั่งอยู่หัวโต๊ะ เขาเป็นดั่งดวงเดือนที่ถูกรายล้อมไปด้วยดวงดาวมาแต่ไหนแต่ไร เขามองหนิงหนานเสว่ด้วยสายตาเย็นชาพลางขมวดคิ้ว

ส่วนสาวสวยมีเสน่ห์ที่นั่งข้างเขาคือ ‘คุณสวี’ ที่เลขาจางพูดถึง ซึ่งก็คือสวีจือหรู แฟนเก่าของฟู่เฉิน

เมื่อเธอเห็นหนิงหนานเสว่ก็อึ้งไปชั่วขณะ และไม่เป็นธรรมชาติเช่นกัน

“หนานเสว่?” สวีจือหรูเอ่ยด้วยความประหลาดใจ “เธอมาได้ยังไง? อาเฉิน ทำไมคุณไม่บอกเลยล่ะว่าเธอจะมา...”

ทุกคนในที่นี้รู้ว่าหนิงหนานเสว่กับฟู่เฉินกำลังจะหย่ากัน

ดังนั้นสวีจือหรูจึงสามารถใช้สถานะตัวจริงพูดแบบนั้นกับหนิงหนานเสว่อย่างเป็นธรรมชาติ

ฟู่เฉินเอ่ยด้วยสายตาเย็นชา “พวกคุณออกไปกันก่อนเถอะ...”

ทันใดนั้น สวีจือหรูพลันหน้าเสีย

หนิงหนานเสว่สบตากับสายตาเย็นชาอย่างยิ่งของฟู่เฉิน “ไม่ต้องหรอก... เรื่องระหว่างเรา ไม่มีอะไรที่พูดไม่ได้ ทุกคนอยู่นี่แหละ”

หากเป็นหนิงหนานเสว่เมื่อห้าปีก่อน เธอไม่มีทางพูดด้วยน้ำเสียงใจเย็นแบบนี้

สำหรับเธอ ฟู่เฉินเคยเป็นความรักที่โกลาหล

แต่ตอนนี้เหลือเพียงรอยเลือดเต็มตัวจากการถูกทุบตีด้วยความจริง

ในเวลานี้ เธอมีแค่ความตั้งใจเดียว

นั่นก็คือทำให้ลูกของเธอได้มีจุดเริ่มต้นและจุดจบที่สมบูรณ์

สวีจือหรูหน้าเสีย จับแขนของฟู่เฉิน

ฟู่เฉินหันมามองหนิงหนานเสว่อย่างเย็นชาทันที “เงื่อนไขของผมยังเหมือนเดิม คุณอยากจะเรียกร้องอะไรอีก?”

ในดวงตาดำขลับของหนิงหนานเสว่ดูเหมือนจะเหลือแค่ความสงบ “เงื่อนไขของฉันคือ ให้คุณอยู่กับสุยสุยหนึ่งเดือนในฐานะพ่อ นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป”

คำพูดนี้ดังสนั่นต่อหน้าทุกคนราวกับฟ้าร้อง

น้องชายของสวีจือหรู สวีจ้าวโกรธจัด “ฉันรู้อยู่แล้วว่าเธอมันไร้ยางอาย ยังอยากเกาะพี่เฉินอีก! ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ พี่สาวฉันจะต้องแยกจากพี่เฉินนานขนาดนั้นเหรอ!”

สวีจือหรูน้ำตาคลอ รีบดึงสวีจ้าวไว้ “นายหยุดพูดได้แล้ว...”

แต่ยิ่งเธอห้าม สวีเจ้าก็ยิ่งโมโห “พี่! พี่เป็นโรคซึมเศร้าตั้งหลายปี แต่ไม่ดีขึ้นเลย จะให้ไม่ผมโมโหได้เหรอ! พี่เฉิน หรือว่าครั้งนี้พี่จะยอมโดนผู้หญิงคนนี้หลอกอีก!”

สีหน้าของฟู่เฉินเปลี่ยนไปเล็กน้อย ดวงตาสีดำสนิทจับจ้องชั่วครู่หนึ่ง ครู่ต่อมาเขาก็หันไปมองหนิงหนานเสว่ด้วยสายตาเย็นชา “ไม่มีทาง”

หนิงหนานเสว่รู้อยู่แล้วว่าฟู่เฉินจะพูดแบบนี้

“ฉันไม่เอาสินสมรสก็ได้ ไม่เอาอะไรทั้งนั้น เงื่อนไขเดียวในการหย่าของฉันคือให้คุณอยู่กับสุยสุยหนึ่งเดือน ในฐานะพ่อ”

เมื่อหนิงหนานเสว่เอ่ยถึงสุยสุย หัวใจของเธอก็เจ็บปวดรวดร้าว “ถ้าคุณไม่ตกลง ฉันก็จะไม่ยอมหย่า”

“เปรี้ยง!” สวีจ้าวเขวี้ยงถ้วยลงตรงหน้าหนิงหนานเสว่ด้วยความโมโห “อีกระหรี่ เธอไม่อายบ้างเหรอ!”

หนิงหนานเสว่มองเศษอาหารที่เปื้อนบนกระโปรงร่วงลงมา แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาจนน่ากลัวว่า “ฟู่เฉิน ถ้าคุณอยากกำจัดฉันไปให้พ้น มีแค่ทางนี้ทางเดียวเท่านั้น ไม่อย่างนั้น ต่อให้คุณอยากจะหย่า คุณก็จะต้องพัวพันกับฉันไปอีกอย่างน้อยสองปี”

“แต่ถ้าคุณอยู่กับสุยสุยหนึ่งเดือน หลังจากนั้นฉันจะหย่ากับคุณโดยไม่รีรอแน่นอน”

ดวงตาของฟู่เฉินเย็นชา

ส่วนสวีจือหรูกลับสูดหายใจยาว ๆ “ฟู่เฉิน คุณตอบตกลงเถอะ”

ทันทีที่สิ้นเสียงนี้ ทำให้ทุกคนไม่คาดคิดมาก่อน

“พี่?” สวีจ้าวถามกลับเสียงดัง

สวีจือหรูจับมือฟู่เฉินแน่นพร้อมยิ้มอย่างอ่อนโยน “ถือซะว่าเพื่อเราสองคน ฉันเชื่อใจคุณ”
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ฉันถือเถ้ากระดูกบุกไปอาละวาดงานวันเกิดรักแรกของผู้ชายเลว   บทที่ 100

    ทันที่เธอลงจากรถ เธอก็เอนตัวครึ่งหนึ่งไปพิงฟู่เฉิน ราวกับกลัวว่าใครจะไม่รู้ว่าพวกเขาสนิทกันมาก ฟู่เฉินก็โอบเอวเธอไว้ แล้วเดินเข้าไปข้างในทั้งอย่างนั้น จากนั้นพวกเขาก็เห็นหนิงหนานเสว่ที่กำลังจะเดินเข้าไปตรงหน้าประตูเมื่อสบตากับดวงตาที่เหมือนยิ้มแต่ไม่ยิ้มของหนิงหนานเสว่ ฟู่เฉินก็รู้สึกเหมือนถูกแทงเข้าที่หัวใจอย่างไม่ทราบสาเหตุ และถึงกับรู้สึกว่าการจับมือกับสวีจือหรูนั้นทำให้รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย“คุณหนิงคะ คุณอย่าโกรธเลยนะคะ เป็นเพราะฉันไม่เคยมางานเลี้ยงแบบนี้มาก่อน ก็เลยขอให้อาเฉินพามาน่ะค่ะ”“ฉันอยู่ที่โรงพยาบาลรู้สึกเบื่อมาก ก็เลยอยากออกมาผ่อนคลายบ้างค่ะ”“ฉัน... ฉันไม่รู้ว่าคุณก็อยู่ที่นี่ด้วย”สวีจือหรูพูดไปพลาง น้ำตาก็เริ่มคลออยู่ในเบ้าตานี่ถ้าเป็นเมื่อก่อน หนิงหนานเสว่คงจะอาละวาดไม่ยอมเลิกราง่าย ๆ แต่ตอนนี้หนิงหนาเสว่เพียงแค่ยิ้มจาง ๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “คุณสวีพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลคงลำบากมาก ในเมื่อมาแล้ว งั้นเดี๋ยวเข้าไปแล้วก็สนุกให้เต็มที่เลยนะคะ”“อาเฉิน คุณต้องดูแลคุณสวีให้ดีนะ เดี๋ยวถ้าเธอชอบอะไร อย่าลืมซื้อมันให้เธอนะ” หนิงหนานเสว่พูดด้วยน้ำเสียง

  • ฉันถือเถ้ากระดูกบุกไปอาละวาดงานวันเกิดรักแรกของผู้ชายเลว   บทที่ 99

    เดิมทีเรื่องนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนอย่างยิ่ง แต่ตอนนี้ฟู่เฉินกลับไม่รีบร้อนขนาดนั้นแล้วเขายืนอยู่ตรงนั้นพลางมองไปที่หนิงหนานเสว่ด้วยความสงสัย ไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงไม่โวยวายใส่เขาเมื่อรู้สึกได้ถึงความสงสัยของฟู่เฉิน หนิงหนานเสว่จึงมองกลับด้วยสายตาที่สงสัยเช่นเดียวกัน สุดท้ายเพียงแค่โบกมือ “ไปดีมาดี ไม่ส่ง”“รอผมกลับมา” ฟู่เฉินทิ้งคำพูดนี้ไว้แล้วหันหลังกลับเดินจากไปอย่างรวดเร็วหนิงหนานเสว่มองตามแผ่นหลังของเขาแล้วก็เปล่งเสียงออกจมูกอย่างดูแคลน ก่อนจะหันไปมองเลขาเฉินที่ยืนรออยู่ที่เดิม “มองอะไร รีบไปเตรียมรถสิ เราจะไปสายไม่ได้”“แต่ท่านประธานฟู่บอกให้คุณรอเขาไม่ใช่เหรอครับ?” เลขาเฉินมองหนิงหนานเสว่อย่างไม่เข้าใจคุณผู้หญิงของพวกเขาเริ่มมีความเห็นเป็นของตัวเองตั้งแต่เมื่อไหร่?หนิงหนานเสว่เห็นเลขาเฉินมีท่าทางสงสัยแล้วก็รู้สึกขำ และพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “คุณเพิ่งรู้จักท่านประธานฟู่ของพวกคุณเป็นวันแรกเหรอ? เขายังจะกลับมาอีกเหรอ?”ไม่ใช่ว่าไม่เคยมีสถานการณ์เช่นนี้มาก่อน เพียงแต่คนที่ได้รับคำสัญญาคือสุยสุย แต่พ่อคนนี้ไม่เคยรักษาสัญญาเลยแม้แต่ครั้งเดียวตอนแรกสุยสุยก็รอคอยอย่างโง่เ

  • ฉันถือเถ้ากระดูกบุกไปอาละวาดงานวันเกิดรักแรกของผู้ชายเลว   บทที่ 98

    หนิงหนานเสว่แสดงออกอย่างมั่นใจและสง่างามเมื่ออยู่ต่อหน้ากล้อง ไม่มีความกระอักกระอ่วนใจแม้แต่น้อย เนื่องจากถูกเปิดเผยเรื่องส่วนตัว ราวกับว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเธอเลยเดิมที ฟู่เฉินหวังว่าจะได้เห็นหนิงหนานเสว่ที่มีความเข้าใจและเป็นมืออาชีพแบบนี้ แต่ไม่รู้ทำไม เมื่อสบตากับดวงตาที่นิ่งสงบเหมือนน้ำนิ่งของเธอแล้ว ฟู่เฉินกลับรู้สึกไม่พอใจขึ้นมา!เมื่อก่อน สิ่งที่เขาเกลียดที่สุดคือการที่เธอทุ่มเทความคิดทั้งหมดให้กับเขา แต่ตอนนี้เมื่อไม่มีความคิดอะไรเลย เขากลับรู้สึกว่ามันยิ่งยากที่จะยอมรับมากกว่าเดิม“คุณผู้หญิงฟู่ แล้วความสัมพันธ์ระหว่างคุณสวีและคุณฟู่ เป็นยังไงกันแน่ครับ?”“คุณสวีเป็นเพียงคุณสวีเท่านั้น แต่ฉันคือคุณผู้หญิงฟู่ และตอนนี้อาเฉินก็อยู่ข้างฉัน นี่ไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุดหรอกเหรอ?”หนิงหนานเสว่ยิ้มบาง ๆ พลางจับมือฟู่เฉินไว้ และจงใจประสานนิ้วมือกันต่อหน้าสื่อ แถมยังอวดแหวนแต่งงานของพวกเขาอย่างเปิดเผยอีกด้วยจริง ๆ แล้วแหวนของหนิงหนานเสว่หายไปในกลีบเมฆตั้งนานแล้ว นี่เป็นแค่แหวนแบบเดียวกันที่ซื้อจากแอปพินซีซีเท่านั้น ไม่มีค่าอะไรเลยฟู่เฉินจ้องมองไปท

  • ฉันถือเถ้ากระดูกบุกไปอาละวาดงานวันเกิดรักแรกของผู้ชายเลว   บทที่ 97

    นี่คือผลลัพธ์ที่หนิงหนานเสว่ต้องการ ตอนนี้สวีจือหรูอยากใช้ชีวิตอย่างมีความสุขมันเป็นไปไม่ได้แล้ว เมื่อก่อนเธอเคยทำให้พวกเธอทุกข์ทรมานยิ่งกว่าตาย ตอนนี้ถึงเวลาที่เธอจะได้ลิ้มรสชาติของการนอนไม่หลับบ้างแล้ว!เมื่อเผชิญกับคำถามจากนักข่าว หนิงหนานเสว่แสดงออกอย่างใจกว้างและเหมาะสม และได้รับคำชื่นชมมากมาย เธอไม่เพียงแต่ใช้โอกาสนี้ยอมรับตัวตนของเธอต่อโลกภายนอกอย่างเป็นทางการเท่านั้น แถมยังส่งสัญญาณว่าเธอนั้นยอดเยี่ยมมากอีกด้วยสำหรับหนิงหนานเสว่ นี่เป็นโอกาสทองที่หาได้ยากในพันปี เธอต้องการให้ทั้งโลกได้รู้จักชื่อของเธอ เธอคือหนิงหนานเสว่ ไม่ใช่คุณผู้หญิงฟู่ที่เป็นเหมือนนกขมิ้นในกรงทองบ้า ๆ นั่น!เมื่อเห็นสถานการณ์ถูกควบคุมและนำโดยหนิงหนานเสว่ ฟู่เฉินก็เริ่มมองผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ ด้วยมุมมองใหม่ เดิมทีเขาคิดว่าเธอรู้แค่ราคาผักผลไม้ในซูเปอร์มาร์เก็ตเท่านั้น แต่ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเธอจะมีด้านที่ชำนาญเช่นนี้ด้วยไม่รู้ว่ามันเป็นภาพลวงตาหรือเปล่า แต่ฟู่เฉินรู้สึกอยู่เสมอว่าหนิงหนานเสว่ที่อยู่ตรงหน้านี้ดูเหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคนอย่างสิ้นเชิง ในอดีตเธอไม่มีตัวตนและจืดชืดไม่มีชีวิตชีวา เป็นเพียงเ

  • ฉันถือเถ้ากระดูกบุกไปอาละวาดงานวันเกิดรักแรกของผู้ชายเลว   บทที่ 96

    “จริงเหรอ? นี่คือชุดแบบที่ซูเปอร์โมเดลระดับโลกเพิ่งใส่เดินแฟชั่นโชว์มานะ ทําไมถึงสําส่อนล่ะ?”“คนยุคราชวงศ์ชิงนี่ฆ่ายากจริง ๆ”หนิงหนานเสว่กลอกตามองบนใส่ทันที ปฏิเสธการใช้เทคนิคปั่นหัวของอีกฝ่าย แถมยังตอกกลับไปอีกหนึ่งประโยคนี่เป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เมื่อก่อนฟู่เฉินพูดอะไรก็จะเป็นอย่างนั้น แม้ว่าเขาจะใช้มุมมองหลายมิติในการโจมตีหนิงหนานเสว่ เธอก็ไม่เคยต่อต้านเลย แม้กระทั่งจะคิดทบทวนตัวเองว่าเธอทำผิดจริง ๆ หรือไม่แต่หนิงหนานเสว่คนปัจจุบันไม่โง่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว เพราะเธอรู้ว่าเธอไม่ผิดอะไร และเธอก็ไม่ได้ทำอะไรที่มันไม่ถูกเลย เป็นเพราะคนผิดต่างหากจึงถูกเกลียดชังแม้แต่สไตลิสต์คนเมื่อกี้ก็ยังรุมชมว่าเธอสวย มีแต่ผู้ชายตรงหน้าคนนี้เท่านั้นที่ทำหน้าเคร่งขรึมและบอกว่าไม่สวย นี่มันไม่ใช่แค่ไร้รสนิยม แต่ยังทำให้เสียบรรยากาศอีกด้วยฟู่เฉินเองก็คิดไม่ถึงว่าแค่สองคำของเขา จะถูกตอกกลับมาเป็นชุดยาวขนาดนี้?คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันแน่น “หนิงหนานเสว่ นี่คือกลยุทธ์ใหม่ของคุณเหรอ? คุณต้องการดึงดูดความสนใจของผมด้วยวิธีแบบนี้เหรอ? ฝันไปเถอะ”“ก็ไม่รู้ว่าใครที่กำลังฝันอยู่กันแน่ จะไปห

  • ฉันถือเถ้ากระดูกบุกไปอาละวาดงานวันเกิดรักแรกของผู้ชายเลว   บทที่ 95

    หลังจากแต่งงานแบบเรียบง่ายแล้ว ก็ยิ่งดูสวยสมบูรณ์แบบ ลี่หัวมองผลงานของตัวเองด้วยความพึงพอใจอย่างมากแม้ว่าสไตลิสต์อย่างพวกเขามีทักษะการแต่งหน้าที่ยอดเยี่ยมมาก แต่พวกเขาก็ยังชอบคนที่มีพื้นฐานดีอยู่แล้ว เพราะการเพิ่มความสวยงามให้กับสิ่งที่มีอยู่แล้วนั้นย่อมง่ายกว่าการทำศัลยกรรมมาก ที่สำคัญคือมันไม่เพียงแค่ประหยัดเวลาและยังได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดอีกด้วยดูเหมือนไม่ได้แต่ง แต่จริง ๆ แล้วแต่งนั่นคือระดับสุดยอดหนิงหนานเสว่มองดูตัวเองในกระจกแล้วก็รู้สึกขำอย่างสุดขีด ความจริงแล้วเมื่อก่อนเธอก็ชอบสีสันที่โดดเด่นแบบนี้ แต่เพราะหลังจากที่คบกับฟู่เฉินแล้ว ฟู่เฉินบอกว่ารสนิยมของเธอต่ำทรามเกินไป เธอจึงค่อย ๆ คล้อยตามเขา ปรับตัวเข้าหาเขา และเริ่มใส่เสื้อผ้าสีเก่า ๆ และจืดชืด ตอนนี้คิดดูแล้วก็รู้สึกว่าเธอได้ลืมตัวตนที่แท้จริงของตัวเองไปโดยไม่รู้ตัวจริง ๆ“ชุดนี้สวยมาก ฉันชอบมันมาก คุณไปหาฟู่เฉินเพื่อให้เขาจ่ายเงินเถอะ”หนิงหนานเสว่พูดอย่างมั่นใจเงินแค่นี้ สำหรับฟู่เฉินแล้วไม่ถือว่ามากมายอะไรเลย ยิ่งไปกว่านั้น เธออาจจะแลกกลับคืนมาได้มากกว่านั้น แล้วฟู่เฉินจะทำธุรกิจที่ขาดทุนได้ยังไงกัน?หนิงหนาน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status