Share

บทที่ 10

สองย่าหลานพากันจับจูงมือเดินขึ้นภูเขา ในขณะ เดียวกันฟางซินตัวน้อยก็ใช้พลังจิตของตนสำรวจรอบ ๆ ด้านไปด้วยแต่สิ่งที่นางยังไม่รู้ก็คือว่าพลังลึกลับของตนที่เทพสาวได้ปกปิดเอาไว้นั้นคือสิ่งใด

“หลานย่า เหนื่อยหรือยัง” นางโม่ถามหลานสาวตัวน้อยที่มีตะกร้าหวายใบเล็กอยู่บนหลัง

ฟางซินพยักหน้าขึ้นลงพลางยกมือปาดเหงื่อ ขาสั้นของเจ้าตัวในตอนนี้เริ่มล้าจนก้าวแทบจะไม่ออก

“หลานหิวไหม” นางโม่ถามอย่างเป็นห่วงในขณะนำผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดตามกรอบหน้ากลมขาวที่เริ่มแดงของคนตัวเล็ก

ฟางซินพยักหน้ายกมือกุมท้อง “หิว” เสียงท้องร้องดังขึ้นมาทำให้เจ้าตัวใบหน้าแดงมากกว่าเดิม

“ฮ่า ๆ หิวก็กิน ย่าเอาแป้งทอดต้นหอมมาเผื่อแล้ว และยังมีลูกไม้ที่พี่ของหลานได้ไปเก็บมาเมื่อวันก่อนด้วย

ผู้เป็นย่าพูดพร้อมกับหยิบห่อแป้งทอดกับลูกไม้ดังกล่าวออกมาให้คนตัวเล็ก “หลานเม่ย[1]” น้ำเสียงของฟางซินพูดไม่ชัดนักยามเมื่อเห็นลูกไม้สีน้ำเงินอมม่วง “หลานรู้จัก” นางโม่ถามขึ้นอย่างประหลาดใจ

ฟางซินตอบรับในลำคอพลางเคี้ยวแป้งทอดตุ้ย ๆ จนแก้มสั่น โม่โฉวยกมือขึ้นลูบผมดำเป็นเงาของหลานสาวสีหน้าเต็มไปด้วยความสุข (หลานของฉันต้องเป็นเทพธิดาน้อยมาเกิดแน่ ๆ) เจ้าตัวคิด

หากว่าฟางซินรู้ความคิดนี้ของผู้เป็นย่าเธอคงจะบอกว่า ย่าของเธอช่างมโนเก่งกาจยิ่ง หนึ่งคนตัวเล็กหนึ่งคนตัวใหญ่นั่งพักและกินแป้งทอดอยู่พักใหญ่ นางโม่จึงได้ถามหลานสาวออกมา “ไปต่อไหวไหม”

“ไหว” เจ้าตัวเล็กตอบพร้อมกันนั้นก็ลุกขึ้นยืน นำมือ น้อย ๆ ของตนไปปัดฝุ่นที่ก้น “ถ้าอย่างนั้นก็ไปกัน” นางโม่จับมือเล็กขาวนุ่มของหลานสาวก่อนที่หล่อนจะเดินไปยังจุดหมายที่ต้องการ

“ย่า ไหน” น้ำเสียงไม่ชัดของหลานตัวน้อยถามขึ้นด้วยความสงสัยเมื่อพวกเธอเริ่มเดินเข้ามาลึกมากกว่าทุกครั้ง

“ย่าจะพาหลานไปดูต้นนุ่น เมื่อช่วงฤดูใบไม้ร่วงปีก่อนย่าเคยเก็บฝักของมันมาแกะนุ่นด้านในออก และนำมาเย็บเสื้อบุนวมและผ้าห่มอย่างไรเล่า”

ฟางซินฟังที่ย่าพูดออกมาอย่างตั้งใจ จากนั้นเธอก็เดินตามการจับจูงของย่าไปเรื่อย ๆ บริเวณนี้แม้จะลึกมากกว่าทุกครั้งแต่ก็ยังไม่ถือว่าอันตรายจากสัตว์ร้าย เนื่องจากสัตว์ใหญ่มักจะอยู่ลึกเข้าไปอีก

เด็กหญิงเดินไปก็กินผลหลานเม่ยไป น้ำผลไม้ของมันนั้นให้รสชาติหวานสดชื่นฟางซินจึงค่อนข้างชื่นชอบเป็นพิเศษ

“อยู่ตรงนั้น” นางโม่พูดขึ้นก่อนที่ใบหน้าของนางจะหม่นลง “ดูท่ามันคงจะไม่รอด ต้นเริ่มแคระแกร็นขนาดนี้” น้ำเสียงของหญิงวัยกลางคนเศร้าอย่างเห็นได้ชัด

ฟางซินมองไปยังต้นไม้สูงตรงหน้าแล้วก็ต้องถอนหายใจออกมา “ย่านั่ง” น้ำเสียงเล็กของหลานทำให้โม่โฉวมองใบหน้าน้อยของเธอก่อนที่จะหย่อนก้นลงนั่งเนื่องจากหล่อนคิดว่าหลานคงจะเหนื่อย

นางโม่กำลังจะส่งน้ำในกระบอกให้หลานสาวก็เห็นว่าเจ้าตัวเดินเตาะแตะไปยังต้นนุ่นต้นหนึ่ง “เป่าเป้ย หลานจะทำอะไร” นางโม่ถามหลานสาวด้วยความสงสัย

ฟางซินทำเพียงหันใบหน้ากลมกลับมามองพร้อมกับฉีกยิ้มจนตาปิดโดยไม่พูดอะไร จากนั้นเด็กน้อยก็ทดลองทำในสิ่งที่ตนเองรู้สึก (จะได้ผลหรือเปล่านะไม่ลองไม่รู้)

สองมือเล็กของเจ้าตัววางทาบลงไปกับต้นนุ่นจากนั้นเธอก็หลับตาตั้งสมาธิผ่านฝ่ามือน้อยของตนไปยังลำต้นของต้นนุ่นเบื้องหน้า

แสงสีเขียวได้ปรากฏออกมาให้นางโม่เห็นและยังไม่ทันที่นางจะเอ่ยทักท้วงก็ต้องตกตะลึงดวงตาเบิกกว้างให้กับภาพตรงหน้า “เป่าเป้ย!” นางโม่รีบวิ่งเข้าไปรับร่างเล็กของหลานสาวที่ตัวอ่อนยวบด้วยความตกใจระคนหวาดกลัว

ฟางซินคล้ายรู้สึกว่าตัวของเธอนั้นเบาเหมือนนุ่นไม่มีผิด “เด็กน้อยเจ้าใช้พลังเกินตัวเกินไปแล้ว” น้ำเสียงของเทพสาวฉายแววตำหนิ

“เรื่องนี้ฉันไม่ผิดนะคะ ก็ท่านไม่ได้บอกนี่ว่าพลังลับคืออะไรและต้องใช้ยังไง” ฟางซินกล่าวแก้ตัวยังไม่ทันจบ

“ก็ข้าไม่รู้นี่ว่าเธอจะใจกล้าบ้าบิ่นทดลองเสียจนตัวเองถึงกับเป็นลม อีกทั้งยังต้องล้มหมอนนอนเสื่อแบบนี้”

“เอ๋! ท่านว่าอะไรนะคะ ล้มหมอนนอนเสื่ออย่างนั้นหรือ ตายแล้ว! ป่านนี้คนในครอบครัวของฉันไม่ทุกข์ร้อนใจกันแย่แล้วหรอกหรือ” เด็กน้อยในความฝันถามขึ้นอย่างตกใจ

“เธอยังไม่ตาย หากแต่ถ้าเกิดใช้พลังไม่ระวังเหมือนครั้งนี้อีกก็ไม่แน่” คำพูดของเทพสาวทำให้คิ้วของฟางซินกระตุก

(ก็ไม่ใช่เพราะท่านบอกไม่กระจ่างหรอกหรือถึงได้เกิดเหตุการณ์เช่นวันนี้ขึ้น แต่เอาเถอะจะโทษท่านเทพฝ่ายเดียวก็ไม่ได้เรื่องมันก็เป็นเพราะตัวเราด้วยนั่นแหละ เฮ้อ! ซวยจริง) เจ้าตัวคิด

ทางด้านนอก ภายในบ้านสามของครอบครัวกู้ “เป็นเพราะแม่เองที่ไม่ดูแลเป่าเป้ยให้ดี” นางโม่กล่าวโทษตัวเองยามเมื่อเห็นดวงตาของหลานสาวยังคงปิดสนิท

“แม่อย่าโทษตัวเองเลยครับ หากหลานรู้เธอจะไม่สบายใจเอาได้นะ ว่าแต่เรื่องมันเป็นมายังไงกันแน่

ทำไมจู่ ๆ เป่าเป้ยถึงนอนหลับไม่ได้สติมาสามวันแล้วได้กัน ไปหาหมอเขาก็พูดว่าร่างกายปกติดีเพียงหลับไปเฉย ๆ” ซานไห่ปลอบมารดาพลางถามขึ้นอย่างสงสัย

ทั้งนี้ทั้งนั้นเป็นเพราะตั้งแต่มารดาอุ้มเป่าเป้ยกลับลงมาจากภูเขาผู้เป็นแม่ก็ไม่ปริปากพูดอะไร

อีกทั้งยังคงเฝ้าโทษตัวเองอยู่ทุกวันและมาเฝ้าดูแลหลานอยู่ไม่ห่างจนถึงขนาดเอามานอนด้วย

โม่โฉวมองใบหน้าอ้วนกลมหลับตาพริ้มขนตาเป็นแพหนา หน้าอกของหลานสาวสะท้อนขึ้นลงอย่างสม่ำเสมอ

บางคราก็มีเสียงกรนออกมาให้ได้ยิน นางก็พลอยคลายความกังวลลงได้บ้างแต่กระนั้นก็หาได้ปล่อยวาง “เรื่องนี้แม่ก็ไม่เข้าใจมากนักแต่จะเล่าให้ฟังก็แล้วกัน” คำพูดของแม่สามีได้ทำให้ลี่จินละจากใบหน้าเล็ก ๆ ของลูกสาวมองมาทางนางด้วยความอยากรู้

สองตาของลี่จินแดงช้ำ ดูก็รู้ว่าผ่านการร้องไห้มานานมาก อีกทั้งมือของเธอก็ยังคงกอบกุมมืออวบอูมของลูกน้อยอย่างทะนุถนอมไม่ปล่อย

“เรื่องมันเป็นอย่างนี้.....แกคิดว่ายังไง แม่คิดว่ามันน่าจะมีความเกี่ยวข้องกันแต่ก็ยังไม่รู้ว่าเกี่ยวตรงไหนหรือว่าต้นไม้ดูดกลืนพลังชีวิตของหลาน” นางโม่เล่าเรื่องที่ตนประสบออกมาอย่างละเอียดก่อนจะอุทานออกมาเสียงดังอย่างหวาดหวั่น

“แม่ ใจเย็นก่อนครับ ที่แม่เล่าออกมาไม่ใช่ว่าเป็นความฝันแน่นะ ผมว่ามันออกจะเหลือเชื่อเกินไป” ซานไห่ทักท้วงสีหน้าฉายแววกลัดกลุ้ม

“สามีคะ ฉันคิดว่ามีความเป็นไปได้มากทีเดียว คุณจำเรื่องผิงกั่วไม่ได้หรือเพียงแต่ตอนนั้นต้นผิงกั่วไม่ได้กำลังจะตายเหมือนกับต้นนุ่น” ลี่จินพูดออกมาโดยมีน้ำตาไหลออกมาด้วย (หากเป็นอย่างที่แม่สามีว่า ท่านเทพได้โปรดมาเอาชีวิตของฉันไปแทนเป่าเป้ยเถิด)

ทางด้านพี่ชายของเจ้าตัวเล็ก ในตอนนี้เด็กทั้งห้าก็หาได้มีความสุขพวกเขาต่างนั่งอยู่ด้วยกันด้านนอกคอยเงี่ยหูฟังว่าเมื่อไหร่น้องสาวจะตื่นขึ้นมาวิ่งเล่นกับพวกตนด้วยใจจดจ่อ

ส่วนหยูเซียนกับสามีก็ต่างพากันกังวลไม่แพ้คนบ้านสามเลย แม้ว่าเป่าเป้ยจะไม่ใช้สายเลือดของตนก็ตาม

แต่ทว่าหลานสาวคนนี้นั้นเป็นเด็กรู้ความช่างออดอ้อนเอาใจเก่งทำให้ทั้งลุงกับป้าต่างก็รักใคร่เอ็นดู

“สามี เป่าเป้ยจะไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ ฉันคิดถึงแกเหลือเกิน เวลาฉันทำอะไรให้กินหล่อนก็กินอย่างเอร็ดอร่อยแม้ว่าสิ่งนั้นจะเป็นเพียงมันเผาหรือแป้งทอดที่แสนจะธรรมดา” หยูเซียนยกผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตา

ในขณะนั่งอยู่ในครัวบ้านสามเนื่องจากนางได้เป็นคนอาสาทำอาหารเอง

“ผมเชื่อว่าหลานจะต้องไม่เป็นอะไร คุณจำไม่ได้หรือว่าตั้งแต่เป่าเป้ยเกิดจนกระทั่งถึงตอนนี้บ้านอื่นต่างก็ประหยัดกินแค่พออิ่มแต่สำหรับบ้านเรากลับมีเนื้อกินวันเว้นวัน

ผมเชื่อว่าสวรรค์จะต้องคุ้มครองหลานสาวคนนี้อย่างแน่นอน” แม้ในตอนนี้จะเป็นสังคมใหม่

เรื่องนี้บางคนอาจจะมองว่าเหลวไหลไปแล้ว แต่กระนั้นก็ยังคงมีคนเชื่ออยู่ไม่มากก็น้อยเช่นเดียวกับเอ๋อกั๋ว

เช้ามืดวันต่อมายังไม่ทันที่ฟ้าจะสว่าง นางโม่ผู้นอนเฝ้าหลานสาวตัวน้อยก็รู้สึกคล้ายกับว่าได้ยินเสียงดังออกมาจากปากเล็ก ๆ ของเด็กตัวกลม

“หิว” น้ำเสียงนั้นแผ่วเบามาก ทว่านางโม่ผู้มีหูดีกลับลืมตาตื่นและมองไปทางต้นเสียงผ่านแสงสลัวไปทางหลานสาวที่เปิดเปลือกตาของตนขึ้นอย่างงุนงงปากเล็กสีแดงอ้าปากหาว

“เป่าเป้ย! หลานตื่นแล้ว” นางโม่ร้องเรียกหลานสาวด้วยความดีใจระคนยินดี

เจ้าของชื่อฉีกยิ้มจนตาปิด “ย่า หิว” เด็กน้อยพยายามลุกขึ้นพูดออกมาในขณะเดียวกัน

“ได้ ๆ ย่าจะรีบไปต้มโจ๊กมาให้หลานกินเดี๋ยวนี้เลยหรือว่าหลานจะไปกับย่าดี” โม่โฉวเกิดอาการลังเลด้วยเกรงว่าหากตนเดินหายไปและเดินกลับมาหลานรักจะยังคงหลับสนิทเหมือนทุกวัน

ฟางซินนิ่งไปชั่วครู่ “ไป” คำตอบรับของเด็กน้อยทำให้หญิงวัยกลางคนลุกขึ้นจากเตียงก่อนจะอ้าแขนอุ้มหลานสาวตัวนุ่มนิ่มเข้าสู่อ้อมกอด

“หลานย่า ต่อไปอย่าหลับแบบนี้อีกนะย่าใจคอไม่ดี” ฟางซินฟังเสียงสั่น ๆ ของผู้เป็นย่าด้วยความรู้สึกผิด “ขอโทษ” เจ้าตัวยังคงพูดไม่ชัดนักกระนั้นหญิงวัยกลางคนก็ยังคงฟังเข้าใจ

“ไม่ต้องขอโทษ หลานไม่ได้ผิด เป็นย่าไม่ดีเองที่อยากได้นุ่น” โม่โฉวยังคงโทษตัวเองแต่ทว่าฟางซินกลับกอดย่าของตนแน่น “ย่า ดีที่สู๊ด” เจ้าตัวพูดเสียงสูง

เมื่อนางโม่เปิดประตูห้องของตนเดินออกมาก็เห็นลูกชาย ลูกสะใภ้รวมถึงหลานชายทั้งสองคนพากันยืนอยู่หน้าห้องตนอย่างพร้อมเพรียง “เป่าเป้ย/น้องสาว” พ่อแม่ลูกชายต่างพากันเรียกเด็กหญิงตัวกลมออกมาพร้อมกัน

“ถึง” ฟางซินหันใบหน้ามาตามเสียงเรียกพูดพลางยิ้มหวานออกมาซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่แสงแดดยามเช้าส่องเข้ามาทางคนตัวเล็กพอดิบพอดี ทำให้ร่างกายเล็กจ้อยของนางคล้ายเปล่งประกายสีทอง

รอยยิ้มแห่งความอบอุ่นและสดใสของครอบครัวได้คืนกลับมาแต่งแต้มให้กับทุกคนอีกครั้ง

เช่นเดียวกับบ้านรองเมื่อได้ทราบว่าหลานสาวผู้เป็นดวงใจของคนทั้งครอบครัวฟื้นคืนสติกลับมาแล้ว อีกทั้งเจ้าตัวยังคงกินเก่งเหมือนเดิมอีกด้วย

“เป่าเป้ย หลานอยากกินอะไรอีกป้าสะใภ้รองจะไปทำมาให้” หยูเซียนถามอย่างเอาใจหลานคนโปรด

“อิ่ม” คนตัวเล็กพูดพลางส่งยิ้มออกไปอย่างน่ารัก ทำให้หยูเซียนอยากจะเข้าไปฟัดแก้มกลมของเธอเป็นอย่างมากด้วยความมันเขี้ยว

[1] ผลบลูเบอร์รี่
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ฉันเกิดใหม่เป็นหลานสาวชาวนายุค60   บทที่ 257

    “แต่ผมก็ยังมองว่าลูกยังเด็กอยู่ดีนะครับ นี่ลูกโตขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน” คำแก้ตัวของคู่ชีวิตทำให้ฟางซินส่งยิ้มคล้ายอ่อนอกอ่อนใจ วันคืนเปลี่ยนผัน จนกระทั่งคนทั้งคู่ผมเปลี่ยนเป็นสีขาวโพลน แม้จะเป็นอย่างนี้ทว่าร่างกายของมู่เฉินกลับยังคงแข็งแรงแม้ว่าเขาจะมีอายุมากกว่าภรรยารักถึงสิบปีเต็ม

  • ฉันเกิดใหม่เป็นหลานสาวชาวนายุค60   บทที่ 256

    หน้าสมุดบันทึกเล่มหนึ่งภายในนั้นได้มีตัวอักษรงดงามเรียบเรียงเอาไว้อย่างงดงามเป็นระเบียบ ลมจากทางหน้าต่างหอบใหญ่ได้พลิกหน้ากระดาษหลายหน้านั้นขึ้น จนทำให้หญิงสาวหน้าตาสะสวยผู้กำลังสาละวนอยู่กับการนำสิ่งของมากมายออกจากกล่องต้องรีบลุกขึ้นมาหยิบสมุดเล่มดังกล่าว “เฮ้อ! ดีนะที่ไม่เส

  • ฉันเกิดใหม่เป็นหลานสาวชาวนายุค60   บทที่ 255

    ฟางซินนั่งลงเอาศีรษะของตนซบลงบนตักของหญิงชราอย่างเศร้าสร้อยแม้ว่าเธอในตอนนี้จะไร้ซึ่งพลังแห่งจิตวิญญาณแต่เธอรู้ดีว่าหญิงชราจะสื่อถึงอะไร ปีก่อน ๆ อาจารย์ปู่ใหญ่กับเจิ้งลู่ก็ทยอยล้มหายจากไปกันทีละคนตามสังขารมาบัดนี้ย่าผู้ชราก็ยังมาพูดแบบนี้อีกแม้ว่าหล่อนจะทราบดีว่าเรื่องเช่นนี้ย่อมต้องเกิ

  • ฉันเกิดใหม่เป็นหลานสาวชาวนายุค60   บทที่ 254

    สวัสดีครับ ผมคือกู้ซินเซิงหรือคนในครอบครัวมักจะเรียกว่าเสี่ยวเซิง ผมหาใช่ลูกหลานตระกูลกู้อย่างแท้จริงไม่แต่เรื่องนี้ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับผมเลยในเรื่องของความรักและความกตัญญูที่ผมมีต่อคนในครอบครัวนี้ ทั้งนี้เป็นเพราะนับตั้งแต่วันที่พี่สาวคนดีของผมได้ช่วยให้รอดจากความตายตั้งแต่ครั้งยังเป็น

  • ฉันเกิดใหม่เป็นหลานสาวชาวนายุค60   บทที่ 253

    “หล่อนท้องได้สิบสัปดาห์แล้วมากกว่าเป่าเป้ยเล็กน้อยไปฝากท้องพร้อมกันเถอะ” ใบหน้าของคนภายในห้องโถงต่างเต็มไปด้วยรอยยิ้ม หลังจากเป่าเป้ยตั้งครรภ์มู่เฉินคอยดูแลภรรยาของตนเป็นอย่างดีเช่นเดียวกับบรรดาพี่ชายของหญิงสาว เพราะหลังจากฟางซินตั้งครรภ์จู่หว่านเองก็กำลังตั้งครรภ์กับเมิ่งกวา

  • ฉันเกิดใหม่เป็นหลานสาวชาวนายุค60   บทที่ 252

    “พ่อบุญธรรมรีบเลยครับ ผมช่วยอุ้มดีไหม” เจียอินแทบจะทำตามที่พูดเมื่อเห็นว่าพ่อผู้ชรายังนั่งคล้ายไม่ทุกข์ร้อนอยู่ที่เดิม “เฮ้อ! แกนี่นะโตจนป่านนี้แล้วยังทำตัวไม่มีสติอีก ดูเจ้าตัวเขายังไม่ร้อนใจขนาดแกเลย หล่อนต้องเดินเข้ามาหาฉันสิ แกลืมแล้วเหรอว่าฉันอายุเท่าไหร่แล้ว” เหตุที่อู๋เหยียนไม่รู้

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status