โปรดทราบ เครื่องบินของสายการบินไทเกอร์แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TJ789 ซึ่งเดินทางมาจากท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง นำท่านสู่ท่าอากาศยานนานาชาติอุดรธานีอย่างปลอดภัยแล้ว ขอบพระคุณทุกท่านที่ใช้บริการสายการบินของเราหวังว่าเราจะได้รับใช้ท่านอีก กัปตันและลูกเรือทุกคน ขอบพระคุณค่ะ
“คุณ คุณ ตื่นได้แล้ว นอนน้ำลายยืดหกเต็มแขนผมหมดแล้ว” ผู้โดยสารหนุ่มที่นั่งข้างๆปลุกหญิงสาวให้ตื่นเพราะตอนนี้ได้เดินทางมาถึงอุดรธานีแล้ว
“ฮื้มม แง่มๆ กำลังสบายเลย หือ ห๊ะ ว๊ายยยย คุณ เอ่อ ฉันขอโทษค่ะ” หญิงสาวรีบกุลีกุจอใช้มือเล็กปัดเสื้อของชายหนุ่มบริเวณที่เธอทำเลอะ
“ไม่เป็นไรคุณ ช่างมันเถอะ”
“แต่ฉันทำเสื้อคุณเลอะนะคะ” หญิงสาวก้มหน้าลงตอบเขาด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิดและอายที่เผลอทำอะไรน่าเกลียด
“อื้อ ผมบอกว่าไม่เป็นไรก็คือไม่เป็นไร เอ่อ ผมทีนะ เผื่อเราได้เจอกันอีก คุณรีบลุกเถอะ ทั้งเครื่องจะเหลือแค่ผมกับคุณแล้วนะ” กันต์นทีพูดกับหญิงสาวขณะกำลังลุกจากเก้าอี้ผู้โดยสาร ทำให้ชัญญ่ารีบลุกขึ้นเช่นกัน เธอรีบจัดการตัวเองแล้วรีบออกมาอยู่ตรงบริเวณทางเดินเพื่อให้เขาลุกได้สะดวกขึ้น เขาก็ตัวสูงขายาวจริงๆนั่นแหละ ชัญญ่าเองก็เพิ่งมีสติได้พิจารณารูปร่างชายหนุ่มตัวโตที่เธอไม่ค่อยจะสบอารมณ์คุยด้วยเท่าไหร่ในตอนเริ่ม เขาแต่งตัวง่ายๆสบายๆด้วยเชิ้ตแขนสั้นผ้าลินินสีครีมและกางเกงยีนส์ขายาวสบายๆกับรองเท้าผ้าใบสีขาวยี่ห้อดัง ใบหน้าเรียวคมชัดจนเห็นสันกรามที่มีหนวดเคราบางๆ ผิวหน้าเนียนละเอียดดูสะอาดตาขัดกับทรงผมวูฟคัททรงสั้นเซ็ทมาเซอร์ๆ ดูแล้วเข้ากับบุคลิกเงียบขรึมของเขาไม่น้อย ริมฝีปากหนารูปทรงกระจับดูมีเสน่ห์ ผิวหน้าและผิวกายมีรอยคล้ำจากการตากแดดมาอย่างเห็นได้ชัดเพราะเนื้อสีผิวแท้ใต้เสื้อเชิ้ตแขนสั้นนั้นผิวขาวละเอียดจนธัญญ่าแอบกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่
“จ้องผมขนาดนี้ กลืนผมลงไปทั้งตัวเลยมั้ย ถอยด้วยครับผมจะเอากระเป๋าบนชั้นวาง” รู้ตัวอีกทีชายหนุ่มก็แกล้งยื่นใบหน้าหล่อเข้ามาใกล้ๆ ดวงตากลมโตกระพริบตาถี่รัวนับครั้งไม่ทัน กว่าเธอจะได้สติก็เกือบหยุดหายใจไปแล้ว
“อ๊ะ... อ่อ เชิญเลยค่ะ ฉันหยิบกระเป๋าเสร็จพอดี ยังไงก็ขอโทษด้วยนะคะคุณที เดินทางปลอดภัยค่ะ แยกกันตรงนี้เลยนะคะ ขอตัวนะคะคุณที”
ชายหนุ่มพยักหน้าและยิ้มตอบกลับอย่างไมตรี ไม่คิดว่าจะได้เจอเธอในเที่ยวบินนี้ แถมยังได้ที่นั่งติดกันอีก เขาเห็นหญิงสาวตั้งแต่เดินนับเลขที่นั่งมาตั้งแต่ประตู มือหนายกตั๋วขึ้นมาดูและแน่นอนว่าเขาจึงสลับที่นั่งของตัวเองทันทีก่อนที่เธอจะเดินมาถึงเพื่อที่อย่างน้อยจะได้มีบทสนทนาเริ่มต้นขึ้นบ้างก่อนที่จะได้รู้จักกันอย่างเป็นทางการจริงๆเสียที ชัชชญา....ที่พี่รอ
กลับถึงบ้านคราวนี้เขาคงต้องโดนป๊ากับแม่บนหูชาแน่ที่เขาแอบหนีเที่ยวไปดำน้ำที่ทะเลใต้เกือบสองสัปดาห์ ถ้าถามว่าดำน้ำเก่งแค่ไหนสำหรับกันต์นทีแล้วเขาสอบผ่านการดำน้ำพื้นฐานมาแล้วเทียบทุกใบ นอกจากชอบดำน้ำแล้วกันต์นทีชอบกีฬาทางน้ำแทบจะทุกชนิดไม่ว่าเป็น ซับบอร์ด เซิร์ฟบอร์ด เวคบอร์ด เขาถนัดแทบทั้งสิ้น จริงๆแล้วป๊ากับแม่จะมาว่าเขาแอบหนีเที่ยวก็ไม่ได้สิ ก็แค่ขอไปพักผ่อนชาร์ตแบตให้ตัวเองหลังจากที่เขาทุ่มทำงานหนักให้กับธุรกิจที่บ้าน ที่เขาเข้ามารับช่วงต่อจากป๊ากับแม่เพราะท่านทั้งสองอยากจะใช้ชีวิตวัยเกษียณกับหลานๆลูกของพี่ชายพี่สาวของเขาอย่างเต็มที่เสียที.........
เขารักโลกใต้ท้องทะเลและแม่น้ำเป็นที่สุด โลกที่เขาเป็นอิสระจากทุกอย่าง โลกที่สงบที่สุดสำหรับเขา เขามีความสุขทุกครั้งที่ได้อยู่ในน้ำได้เป็นอันนึงอันเดียวกันกับฝูงปลาที่แหวกว่ายรอบกายเขา แต่ถึงแม้ว่าเขาจะยุ่งแค่ไหน เขาก็ยังจัดสรรเวลามาเป็นนักประดาน้ำอาสาที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำในจังหวัดเพื่อเป็นฝึกซ้อมตัวเองและได้ให้ความรู้ สร้างความสนุกให้เด็กๆและนักท่องเที่ยวทั้งในจังหวัดและต่างจังหวัดรวมทั้งนักท่องเที่ยวจากเพื่อนบ้านเช่นประเทศ ลาว จีน เวียดนาม ที่แวะเวียนมาชมความสวยงามของโลกใต้น้ำแห่งลุ่มแม่น้ำโขงแห่งนี้ ที่จังหวัดหนองคาย……
“อะไรนะคะ นางสาวมินตราเช่ารถไว้วันที่สิบเจ็ดแต่นี้ วันที่สิบเอ็ด พอจะแก้ไขอะไรได้ไหมคะ มีรถในระบบตอนนี้ไหมคะพี่ หนูจำเป็นต้องเดินทางต่อภายในวันนี้ค่ะพี่”
“คือวันนี้รถหมดแล้วค่ะลูกค้าตอนนี้เวลาสี่ทุ่มกว่าแล้วเป็นรอบสุดท้ายที่เราจะปล่อยรถเช่าแล้วค่ะ แต่ทางบริษัทจะมีเงินชดเชยให้ลูกค้าเป็นค่าเสียเวลาเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ ภายในเวลายี่สิบสี่ชั่วโมงนะคะ ต้องขออภัยในความไม่สะดวกจริงๆค่ะ”
“ฮัลโหลมินนี่ ตอนจองรถเช่าให้เจ๊....บอกเค้าวันไหน” ชัญญ่าโทรถามรุ่นน้องอย่างร้อนรน
“หนูบอกวันที่สิบเอ็ดนะคะ มีปัญหาอะไรรึป่าวเจ๊”
“ก็เค้าจองรถให้เจ๊เป็นวันที่สิบเจ็ดนะซิ”
“หรือเค้าฟังสำเนียงหนูเป็นเจ็ดอ่ะเจ๊ สิบเอ็ด กับสิบเจ็ดสำเนียงอีสานออกเสียงใกล้กัน ต้องเป็นแบบนั้นแน่เลย แล้วเจ๊จะทำไงต่อนี้ก็ดึกแล้วด้วย”
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวเจ๊หาโรงแรมแถวนี้น้อง แค่โทรมาบ่นให้ฟังเฉยๆ แค่นี้นะ”
“งานเข้าแล้วยัย ญ่าเอ้ยย พรุ่งนี้มีคุยงานกับคุณเมธัสตอนเช้าด้วยสิ ถ้าเราโทรไปเลื่อนนัดอีกคงดูแย่แน่ๆเลย ไม่น่าเล่นตัวไว้เยอะเลย งื้อ” ชัญญ่ายืนบ่นอยู่คนเดียวที่หน้าเคาน์เตอร์รถเช่าให้กับมินนี่ผู้ช่วยคนสนิทที่น้องอาจจะเบลอจำวันเช่ารถกับวันเดินทางผิด ซึ้งวันนี้ก็ยุ่งมากๆจนไม่มีเวลาได้เช็คความเรียบร้อยกับน้องเลย
“มีปัญหาอะไรหรือเปล่าคุณ รอรถเช่าเหรอ” กันต์นทีเดินเข้ามาพร้อมกับสะพายกระเป๋าเป้ใบใหญ่ เขาพอจะเดาสถาณการณ์ออกว่าหญิงสาวน่าจะมีปัญหาอะไรซักอย่างเกี่ยวกับรถเช่า
“รออะไรกันคะ โดนเทต่างหากละ น้องผู้ช่วยจองรถเช่าให้ฉันผิดวัน ฮือ... พรุ่งนี้มีคุยงานเช้าที่หนองคายด้วย สงสัยวันนี้คงต้องนั่งแกรปไปเช่าโรงแรมที่อุดรก่อนแล้วค่อยมาเช่ารถใหม่พรุ่งนี้”
“อ้าวนึกว่ากลับมาเที่ยว มาทำงานเองหรอกเหรอ คุณเคยมาหนองคายรึยัง” กันต์นทีเอ่ยถาม แกล้งทำเป็นไม่รู้ว่าเธอมาเพื่อคุยงานกับเขานั้นแหละ
ชัญญ่าเม้มปากบางพร้อมกับส่ายหน้าเป็นการบอกให้รู้ว่านี้คือหนองคายครั้งแรก!!!! เธอเองก็ทำคลิปท่องเที่ยวมาเยอะแต่อย่างที่บอกช่องยูทูปของเธอเน้นเที่ยวธรรมชาติภูเขา คลิปส่วนใหญ่ของเธอเลยไม่พ้นคอนเทนต์ทางภาคเหนือหรือแหล่งท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพยอดฮิตอย่างเขาใหญ่หรือไม่ก็นครนายก พอนึกถึงเรื่องคอนเทนต์ช่องของเธอมันก็ตันจริงๆแหละ เห้ออออ
“คุณช่วยแนะนำโรงแรมใกล้สนามบินให้ฉันหน่อยได้ไหมคะ” ชัชชญา เอ่ยถามคนที่ดูเหมือนจะเป็นเจ้าถิ่น กันต์นทีนิ่งและครุ่นคิดชั่วครู่
“เอ่อ...พอดีผมเป็นคนหนองคาย แล้วจะขับรถกลับเลย ถ้าคุณไม่ติดอะไรผมแวะส่งคุณที่โรงแรมได้นะ เห็นว่าคุณมีนัดเช้า นี้ก็ดึกแล้วด้วย โรงแรมที่หนองคายคุณก็จองไว้แล้วใช่ไหม”
กันต์นทีเห็นแล้วก็สงสารคนตรงหน้าไม่น้อย จึงอยากจะให้ความช่วยเหลือเพราะเขาเองก็คือเจ้าถิ่นดีๆนั้น อีกอย่างถ้าคืนนี้เธอเป็นอะไรขึ้นไปคนที่เสียใจไปตลอดชีวิตก็คือตัวเขาเอง
“เอ่อค่ะจองไว้แล้ว แต่ ฉัน....เกรงใจคุณค่ะ ไม่ใช่ธุระอะไรของคุณเลย มันคือความผิดพลาดของฉันเองที่ไม่รอบคอบ ลำบากคุณเปล่าๆค่ะ”หญิงสาวเอ่ยตอบด้วยด้วยความเกรงใจแต่สีหน้ของเธอดูเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด
“หึ...ยังจะดื้ออีก งั้นก็ตามใจ โรงแรมที่ใกล้ที่สุดอยู่ข้างสนามบินเลี้ยวซ้าย ทางเปลี่ยวหน่อยนะ เป็นสาวเป็นนางเดินดุ่มๆ คนเดียวกลางถนนในสนามบินอุดรมืดนะคุณ อุดรไม่ใช่ดอนเมือง ที่นี้ สี่ห้าทุ่มก็ไม่มีคนแล้ว ถ้าคุณไม่สะดวกใจผมไปละนะ ง่วงแล้วจะกลับไปนอน “ พูดจบกันต์นทีก็เดินตรงไปสู่ประตูทางออกสนามบินเพื่อจะเดินไปบริเวณลานจอดรถที่เขาเช่าจอดไว้เวลาเดินทางไปทะเลหรือพักผ่อนส่วนตัวนานๆ ปกติแล้วเวลาเขาทำงานจะไม่ค่อยได้ขับรถเอง ส่วนใหญ่จะเป็นรถตู้ประจำของที่บ้าน หรือไม่ก็มีเมธัสผู้ช่วยคนสนิทขับไปด้วย รอบนี้เขาเลือกที่จะใช้รถญี่ปุ่นคันเล็กในการเดินทางเพราะสะดวกและไม่ต้องคอยเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยเวลาจอดค้างไว้ที่สนามบินนานๆ
เมื่อแผ่นหลังกว้างเดินออกจากประตูไปแล้ว เธอก็ค่อยๆใช้สายตามองไปรอบๆสนามบิน ชัญญ่ายืนคิดอยู่ไม่ถึงสิบวินาที ก็ตัดสินใจวิ่งตามเขาออกมาไม่คิดชีวิต คิดไปคิดมาก็น่ากลัวเหมือนที่เขาพูดไว้ บรรยากาศที่สนามบินตอนนี้ก็ดูเปลี่ยวโล่งจนวังเวงจนขนลุกซู่ ขืนเธอยืนอยู่ต่อมีหวังโดนขังในสนามบินแน่นอน คิดได้แล้วก็วิ่งสี่คูณร้อยเมตร พร้อมกับลากกระเป๋าใบใหญ่จนล้อกระเป๋าเกือบหลุด...
“คุณคะ คุณ คุณที รอ ฉันด้วยค่ะ ฉันขอรบกวนคุณได้ไหมคะ ขอร้องล่ะค่ะ” ชัญญ่าวิ่งตามเขามาทีลานจอดรถแทบไม่ทัน
กันต์นทีที่กำลังจะเปิดประตูรถยนต์หยุดและหันหลังมามองดูสาวน้อยพลัดถิ่นคนนี้นิ่งๆสายตาดุมองดูอย่างเหนื่อยหน่ายใจ สภาพแทบจะดูไม่ได้เลยทั้งคนทั้งกระเป๋าลากใบใหญ่
“นี้คุณกะย้ายบ้านมาอยู่หนองคายเลยรึไง ขนอะไรมาขนาดนั้นแม่คู้น” กันต์นทีบ่นแต่ก็ยังมีน้ำใจช่วยยกกระเป๋าให้หญิงสาว
“เรียบร้อยละก็ขึ้นรถเลยนะ” พูดจบนทีก็เปิดประตูรถยนต์ฝั่งคนขับ สตาร์ทรถและเปิดแอร์รอหญิงสาวที่ยังไม่มีท่าทีว่าจะยอมขึ้นรถง่ายๆ จนเขาต้องลดกระจกลดลงแล้วชะเง้อไปถาม
“อะไรของคุณอีกเนี้ย ถ่ายรูปรถผมทำไมครับ ” กันต์นทีพูดขึ้นเสียงหน่ายกับความขี้กังวลของหญิงสาวที่กำลังถ่ายรูปทะเบียนรถและรูปหน้ารถของเขา
“ป้องกันไว้ก่อนสิคะ เผื่อคุณจับฉันโยนทิ้งข้างทาง จะได้มีหลักฐานแจ้งตำรวจ เสร็จละคะ” ชัญญ่าพูดไปถ่ายรูปไปเมื่อถ่ายรูปเสร็จแล้วจึงส่งเข้าไลน์ให้มินนี่เผื่อไว้เป็นหลักฐานเผื่อเกิดอะไรขึ้นกับเธอแล้วเธอก็รีบขึ้นรถไปนั่งข้างหลัง
“หึจับโยนข้างทางเหรอ จับทำอย่างอื่นสิไม่ว่า”
“อะไรนะคะ” เสียงใสเอ่ยถามขณะที่เธอกำลังจะคาดเข็มขัดนิรภัยจากเบาะด้านหลัง
“นี่คุณ! ขึ้นมานั่งกับผมข้างหน้าเดี๋ยวนี้ ผมไม่ใช่คนขับรถของคุณนะ”
“ก็ ฉะ ฉัน ฉันก็ต้องป้องกันตัวเองไว้ก่อนสิคะ”
“หึ วิ่งตามมาขอขึ้นรถขนาดนี้ ควรเป็นผมต่างหากมั้ยที่ต้องกลัว ขึ้นมา ถ้าไม่มาเองดีๆ ผมจะเดินลงไปจับคุณอุ้มมานั่งข้างผมนะ”
“ขะ ขะ ค่ะ ลงไปเดี๋ยวนี้ค่ะ”
“แล้วหิวอะไรมั้ย ถ้าหิวจะพาแวะกินข้าวก่อน” กันต์นทีเอ่ยถามหน้านิ่ง
“อ้อ ไม่ค่ะ ปกติก็ไม่ค่อยกินข้าวเย็น” ชัชชญาตอบแบบเก็บอาการ จริงๆเธอหิวจะแย่วันนี้เธอแทบจะไม่ได้กินอะไรเลยนอกจากกาแฟและครัวซองหนึ่งชิ้นจากร้านกาแฟแถวสตู
คร่อกกกกกกกกกก!!!
คนตัวเล็กกลืนน้ำลายลงคอก่อนจะก้มศีรษะลงด้วยความเขินอายเพราะเธอนั้นโกหกไม่เนียน นี่เจอกันไม่ถึงสองชั่วโมงเธอทำเรื่องขายหน้าเยอะขนาดนี้เลยเหรอ
“แต่ผมหิวว..........” พูดจบกันต์นทีก็ขับรถออกมาจากสนามบินอุดรเพื่อแวะร้านข้าวต้มรอบดึกร้านประจำของเขา
เช้าวันจันทร์ที่แสนวุ่นวายในเมืองหลวง วันนี้ทีมงานของชัญญ่าไลฟ์ก็กำลังวุ่นวายเตรียมตัวพรีเซนต์เสนอแผนสตอรี่บอร์ดและไทม์ไลน์ในการโปรโมทโรงแรมในเครืออัศวนันท์ที่เหลืออีกห้าแห่ง เมธัสหัวหน้าการตลาดของโรงแรมนัดหมายสถานที่เป็น โรงแรมธารธารา โรงแรมสุดหรูระดับห้าดาว โลเคชั่นติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ออกแบบสะท้อนถึงความเรียบง่ายแต่หรูหราตกแต่งสไตล์ไทยร่วมสมัยดูแล้วเหมือนหลุดเข้ามาอยู่ในยุครัตนโกสินธุ์ตอนปลายเลยก็ว่าได้ ซึ่งโรงแรมนี้คือหนึ่งในสองของโรงแรมในเครือบริษัทที่มีในกรุงเทพ อีกที่จะเป็นโลเคชั่นใจกลางทองหล่อที่เจ้านายหนุ่มสุดหล่อใช้เปิดผับข้างล่างไปด้วย“สวัสดีครับคุณชัญญ่า นี้คงเป็นคุณมินนี่ใช่มั้ยครับ คุยงานผ่านโทรศัพท์มาตลอดวันนี้เพิ่งได้เห็นตัวจริง ยินดีที่ได้พบกันนะครับ” เมธัสกล่าวตอนรับทีมงานชัญญ่าไลฟ์อย่างเป็นกันเอง“สวัสดีค่ะคุณเมธัส ยินดีที่ได้พบเช่นกันค่ะ” มินนี่เอ่ยทักทายกลับอย่างเป็นทางการเพราะดูแล้วเขาน่าจะมีอายุมากกว่าเธอราวห้าหกปีเห็นจะได้“เรียกผมว่า เมธ เฉยๆก็ได้ครับมินนี่” เมธัสยิ้มส่งให้หญิงสาวตัวเล็กข้างหน้า“เดี๋ยวเชิญทีมงานคุณชัญญ่าขึ้นไปเตรียมตัวที่ห้องประชุม
ความหนาวเย็นจากเครื่องปรับอากาศตกกระทบลงสู่ผิวบอบบางจนทำให้เธอรู้สึกตัว“อื้อ...หนาวจัง”เธอหลับตาพริ้มขณะที่มือเล็กพยายามควานคว้าหาผ้าห่มอย่างที่เธอชอบทำเป็นประจำ มือเล็กสัมผัสได้ถึงไออุ่นจากวัตถุประหลาดที่พาดผ่านกลางลำตัว“อ๊ะ!!!..” เปลือกตาที่ปิดสนิทไปก่อนหน้าไม่กี่ชั่วโมงก่อน ค่อยๆเปิดขึ้นช้าๆ ภาพตรงหน้าที่ได้เห็นมันเป็นหลักฐานชั้นดีตอกย้ำว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนไม่ใช่แค่ฝันแต่มันดันเป็นความจริง......“คุณที......ทำไมถึง...” เธอถามตัวเองในใจไม่กล้าแม้จะปริปากมือเล็กยกขึ้นมาปิดเสียงกลั้น ก่อนจะย้อนนึกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมา เมื่อเธอดันเผลอไปมีสัมพันธ์สวาทกับผู้ชายที่เธอบังเอิญเจอที่สนามบินวันนั้นและเมื่อคืนก็...บังเอิญมีอะไรกับเขา เธอมองใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่ม อยู่ครู่หนึ่งก่อนจะค่อยๆแกะแขนของเขาที่กอดรัดเธอไว้แน่นทั้งคืน ร่างเล็กค่อยๆลุกออกจากเตียงนอนแล้วค่อยๆย่องเบาๆ ไล่เก็บเสื้อผ้าของเธอที่ตกกระจายตามพื้นขึ้นทีละชิ้นๆ ก่อนจะวิ่งหายไปในห้องน้ำเพื่อรีบจัดการตัวเองทันที ไม่นานเธอก็ออกมาในสภาพพร้อมเดินทาง ก่อนไปเธอหยิบเอาเสื้อสูทที่เขาสวมใส่เมื่อวานมาคลุมทับเพื่อปกปิดร
“คุณว่าไงนะ นี่ผิดหวังมากขนาดแกล้งจำกันไม่ได้เลยเหรอชัญญ่า” กันต์นทีตอบเธอเสียงเรียบต่ำ เขาจ้องมองใบหน้าสวยแดงก่ำจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ ดวงตากลมโตสีดำหยาดเยิ้ม ริมฝีบางอวบอิ่มสีแดงสั่นระเรื่อ มันทำให้เขาอดทนต่อไปอีกไม่ไหว เขาเอียงใบหน้าหล่อเหลาปรับองศาแล้วก้มลงประกบปากหยักได้รูปของเขาบนริมฝีปากอวบอิ่มนุ่มนิ่มที่สั่นระริกของเธอทันที ริมฝีปากหนาบดเบียดเคล้าคลึงกลีบปากอวบของเธออย่างเชื่องช้าเนิบนาบ จนคนตัวบางเบิกตากว้างด้วยความตกใจ หัวใจของเธอเต้นกระหน่ำรุนแรงจนอีกฝ่ายสัมผัสได้ กันต์นทียกยิ้มสายตาเฉียบมองสาวน้อยที่ตัวกำลังสั่นเทาอย่างผู้ชนะ ลิ้นสากไล้เลียริมฝีปากอวบอิ่มก่อนจะค่อยๆสอดแทรกลิ้นหนาเข้าไปควานหาความหวานในโพรงปากของเธอ เขาค่อยๆไล้เลียลิ้นน้อยๆของเธอจนมันค่อยๆแลบออกมาทีละน้อยให้เขาได้เกี่ยวกระหวัดดูดดึงอย่างเอาแต่ใจ“อื้อ คุณ พะ พอ ก่อน ฉันร้อน ช่วยฉัน..” หญิงสาวเผลอส่งเสียงครางหวานหูก่อนจะเอ่ยห้ามชายหนุ่ยเพราะตอนนี้ร่างกายของเธอนั้นร้อนลุ่มดังไฟแผดเผาแบบที่เธอไม่เคยเจอมาก่อน เขาค่อยๆถอนริมฝีปากออกมามามองใบหน้าหวานที่แดงซ่านของเธออย่างเสียดาย เขารู้ดีว่าต้องจัดการกับเธออย่างไรเพื่อท
@the crystal Club พับหรูย่านทองหล่อ“วู้ๆๆๆๆๆๆๆ เจ๊ของเรามาแล้วว โหหหห เจ๊เราวันนี้อย่างสุด แซ่บมากจนจำแทบไม่ได้เลยนะเนี่ย” เมื่อชัญญ่าเดินมาถึงโต๊ะที่จองไว้เธอก็โดนน้องๆในออฟฟิศโห่แซว เธอส่ายศีรษะเบาๆ อย่างเขินอาย ถึงแม้ว่าชีวิตส่วนใหญ่เธอจะเที่ยวแต่ป่าเขาลำเนาไพร แต่อายุขนาดนี้เธอก็ผ่านการเที่ยวกลางคืนกับเพื่อนฝูงอยู่หลายครั้ง วันนี้เธอเลือกใส่ชุดเดรสสายเดี่ยวสั้นสีเงินเมทัลลิค เนื้อผ้าซาตินแนบตัวจนเผยให้เห็นแทบทุกสัดส่วน เธอมัดผมห้างม้าสูงเผยให้เห็นช่วงไหล่และเนินอกอวบ ที่มีกลิสเตอร์ระยิบระยับสีทองขับกับผิวสวยของเธอดูแล้วเซ็กซี่ไปทางสายฝ. วันนี้เธอแต่งหน้าจัดทาปากด้วยลิปสติกสีแดงกระเป๋าถือสีดำที่แมตซ์เข้ากันกับร้องเท้าส้นสูงสีดำยี่ห้อแพง“อ๊ะ...วันนี้ก็ให้เจ๊นิดนึงโน๊ะ....นี่ใครเจ๊เอง เจ้าภาพก็ต้องเลิศสุดสิ วันนี้เต็มที่เลยนะทุกคน งบบริษัทจ้า เดี๋ยวมินนี่ช่วยจัดการค่าใช้จ่ายวันนี้ให้ด้วยนะ”“รับทราบค่ะบอสส” มินนี่ผู้เป็นทุกอย่างของออฟฟิศรับนโยบายทันที เวลาล่วงเลยผ่านไปทุกคนต่างกำลังโยกย้ายส่ายสะโพกตามจังหวะเพลง EDM อย่างสนุกสนาน ชัชชญาเองก็เริ่มมึนกับแอลกอฮอล์แล้วบ้าง แต่ก็ก
เมื่อใกล้ถึงเวลานัด ชัชชญาก็ตรวจเช็คสิ่งของให้เรียบร้อยเพื่อรอเดินทางไปสนามบินอุดรโดยที่มีกันต์นทีอาสาไปส่ง เธอเองก็ไม่ได้ปฏิเสธน้ำใจจากเขา แต่กลับกลายเป็นอุ่นใจมากด้วยซ้ำที่มีคนรู้จักเดินทางไปด้วย แต่แล้วเมื่อเวลาหนึ่งชั่วโมงก่อนเวลานัด ก็มีเสียงข้อความทักเข้ามาKNT : วันนี้ผมไปส่งคุณไม่ได้แล้วนะ พอดีมีธุระด่วน แต่ผมโทรนัดรถของโรงแรมให้คุณแล้วสบายใจได้ ค่าใช้จ่ายผมจัดการไว้ให้เรียบร้อยแล้ว เดินทางปลอดภัยครับ ไว้ผมจะติดต่อกลับไป...Chanya : ขอบคุณค่ะ เธอตอบกลับชายหนุ่มสั้นๆและไม่ได้มีคำถามต่อว่าเขาติดธุระอะไรจึงมาส่งเธอไม่ได้ ในเมื่อทั้งเธอและเขาเป็นเพียงแค่คนบังเอิญรู้จักเธอก็ไม่จำเป็นต้องเร้าหรือเขา เธอรู้สึกขอบคุณเขาอย่างใจจริง จากนั้นเธอก็เตรียมตัวเดินทางกลับกรุงเทพ แต่พอเมื่อนึกถึงคำว่า ไว้ผมจะติดต่อกลับไป ทำไมจู่ๆเธอก็รู้สึกกำลังชาวาบที่ใบหน้าอย่างบอกไม่ถูก หรือเธอเองกำลังหวังอะไรจากเขากันแน่ แต่ช่างมันเถอะ เธอได้แต่บอกตัวเองว่าให้คิดถึงงานที่รออยู่ข้างหน้า เธอก็บอกกับตัวเองให้ฮึดสู้ในใจ เพราะยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องจัดการให้สำเร็จเพราะเรื่องปากท้องสำคัญกว่าหัวใจ @ชัญญ
เช้าวันรุ่งขึ้นกันต์นทีก็รีบตื่นนอนเพื่อที่จะไปรับหญิงสาวที่หน้าโรงแรมKNT : ตื่นยังคุณ อีกยี่สิบนาทีถึงนะChanya : ………..ไม่ตอบ..................ตื้ดดด ตื้ดดดด ตื้ดดดดดดดด“ฮัลโหล!!! ตื่นรึยัง นี้มันเก้าโมงกว่าแล้วนะคุณ”ชัญญ่าสะดุ้งตื่นจากเสียงโทรศัพท์ เธอลืมตั้งนาฬิกาปลุก แย่แล้วววว“ตะ ตะ ตื่นแล้วค่ะ ขอเวลาสิบนาทีนะคะ คุณนั่งรอข้างล่างเลยนะ แค่นี้นะคะฉันรีบ” ชัญญ่ารีบกระโดดออกจากเตียงถอดเสื้อผ้าแล้ววิ่งเข้าไปอาบน้ำไวอย่างกะเดอะฟาสก๊อก ก๊อก ก๊อก“นี้มันเลย สิบนาทีมานานมากแล้วนะคุณ เปิดประตูหน่อย” ไม่รู้ว่าเขารีบอยากจะเห็นใบหน้าสวยๆของเธอหรือนึกอะไรอยู่กันแน่ถึงได้ขึ้นมาเคาะประตูห้องของเธออย่างวิสาสะ“โอ้ยคุณ! จะรีบไปไหนฉันแต่งตัวอยู่ยังไม่เรียบร้อย” เสียงหวานตะโกนตอบโต้เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูอยู่หลายทีจนนึกรำคาญ“คนอะไร...ไม่รู้จักเกรงใจคนอื่นเอาซะเลย” ถึงปากจะบ่นแต่ก็รีบเปิดประตูห้องน้ำออกมาปัง ปัง ปัง กันต์นทีเคาะประตูเสียงดัง“จะเปิดประตูให้ผมเข้าไปดีๆมั้ยครับ”“ไม่เปิด ถ้าคุณอยากเข้ามา ก็ไปหาคีย์การ์ดเข้ามาเองแล้วกัน ฉันแต่งตัวอยู่ แล้วก็จะไม่รีบด้วย ไม่ต้องมาเร่ง!!!!”