เมื่อชมพูเริ่มรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาจากนิทราที่เหมือนจะยาวนานเพราะกิจกรรมที่เควินกระทำต่อเธอนั้นทำให้ร่างกายเมื่อยขบไปหมด แขนยาวของเขาพาดผ่านลำตัวของหล่อนจนทำให้ขยับลำบาก เขายังคงหลับตาสนิทอยู่ตรงหน้า
ชมพูอยากตบเขาแรง ๆ สักครั้งเพราะความทรมานที่เกิดขึ้นตอนนี้ขยับทีหน้าตาก็บูบี้ไปด้วยความเจ็บ มันไม่ได้เจ็บปวดแบบทรมานหรอกนะ แต่มันรู้สึกเจ็บแบบน่ารำคาญมากกว่า ตอนนี้หล่อนยากลุกออกไปเพื่อชำระล้างคราบต่าง ๆ ที่มันทำให้อึดอัดนี่ด้วย พยายามขยับตัวน้อย ๆ เพื่อไม่กระทบต่อเขาแต่เหมือนกับมันไม่ได้ผล เขายิ่งกอดเธอแน่นขึ้น ชมพูตัดสินใจทุบลงไปแรง ๆ บนอกแกร่งที่พ้นผ้าห่มออกมา เขาทำเป็นนิ่งแต่ที่จริงแล้วเควินตื่นก่อนชมพูแล้วแต่แกล้งหลับเพื่ออยากเห็นปฏิกิริยาของเธอว่าจะเป็นอย่างไร “ตื่นแล้วก็ปล่อยค่ะ” “ฮื้ม ยังไม่อยากปล่อยเลยนอนต่ออีกหน่อยน่า” “ไม่ค่ะ อยากไปอาบน้ำแล้ว” “งั้นให้ผมช่วยอาบให้นะ คุณน่าจะยืนไม่ไหว” “คนบ้า ไม่ต้องฉันอาบเองได้” “ไม่ได้หรอก เชื่อผมสิป่ะเดี๋ยวผมพาไป” เมื่อลุกขึ้นมาได้ร่างเปลือยของชายหนุ่มก็ปรากฏต่อสายตาหล่อนเต็มตา ทำให้ชมพูรู้สึกเขินไม่น้อยถึงแม้ว่าจะทำกิจกรรมกันไปหลายครั้งแล้วก็ตาม เขาอุ้มหล่อนขึ้นมาแนบอกแล้วพาไปห้องน้ำอย่างที่เขาพูดจริง ๆ และชมพูก็ไม่สามารถยืนเองได้โดยที่ขาไม่สั่นจริงอย่างที่เขาบอกเอาไว้ ชายหนุ่มถือวิสาสะทำตามใจคือการช่วยหล่อนอาบน้ำ สระผมถึงแม้ว่าอยากกระทำบางอย่างนอกจากนี้มากแค่ไหนเขาก็ยังสงสารหล่อนกลัวจะหักโหมมากเกินไปไม่ดีต่อสุขภาพ หลังจากนั้นเปลี่ยนชุดให้ใหม่เขาจึงไปอาบน้ำต่อและสั่งอาหารมาเพื่อทั้งสองจะได้ทานก่อนจะให้ชมพูได้พัก ส่วนตัวเขาต้องไปทำงานต่อนั่นเอง ชมพูติดต่อไปหาทิวที่เป็นเจ้านายของหล่อนที่พามาทำงานด้วยในครั้งนี้ เขารับสายและตอบกลับแบบง่าย ๆ ว่าให้ลางานได้ตามสบายและยังจ่ายเงินค่าจ้างให้เท่าเดิมและวางสายไป ชมพูรู้สึกไม่เข้าใจจะโทรหาอีกครั้งแต่เขาตัดสายไปเลยไม่อยากรบกวนอีก เมื่อได้รับอนุญาตแบบนี้แล้วหล่อนจึงยอมพักผ่อนเพราะพลังที่มีตอนนี้เริ่มอ่อนลงไปมากเหมือนกัน เวลาเย็นชมพูตื่นขึ้นมาพร้อมกับรู้สึกหิวอีกครั้ง เพราะเธอนอนตั้งแต่เช้าหลังอาหารเช้าจนถึงตอนนี้ พอจะหาวิธีสั่งอาหารก็มีสายโทรเข้ามาเสียก่อน “ค่ะ คุณเควิน” เธอรับสาย “คุณจะทานอะไรเป็นพิเศษไหมผมกำลังสั่งอาหารให้ แล้วผมจะรีบกลับไปทานด้วยนะ” “คุณสั่งไปแล้วนี่คะ ไม่เพิ่มหรอกค่ะ” “ดีมาก เดี๋ยวอีกชั่วโมงผมจะถึงโรงแรมนะครับ” เขาวางสายไปโดยที่ชมพูมองโทรศัพท์อย่างงง ๆ เธอควรอยู่ต่อหรือกลับไปเลยดีนะ กลับตอนนี้ก็ต้องซื้อตั๋วเครื่องบินเองมันแพงมากเลยเธอจึงคิดว่าไม่สมควรจะเสียเงินโดยใช่เหตุแบบนั้น จึงนั่งรออาหารมาส่งและรอเขากลับมาเพื่ออธิบายเรื่องต่าง ๆ ให้ฟังเพราะเธอไม่เข้าใจสิ่งที่เขาทำแบบนี้กับหล่อน อีกหนึ่งชั่วโมงต่อมาเควินกลับมาจากทำงานแล้วและเขากลับมาพร้อมกับอาหารที่ซื้อมาเพิ่มเขาและรอเพื่อจะได้ทานข้าวพร้อมกับชมพู ระหว่างทานข้าวไปชมพูคิดอยู่ตลอดเวลาว่าจะถามเรื่องที่คาใจนี้ต้องเริ่มต้นอย่างไรดี เขาที่มองดูอยู่ตลอดเวลานั้นเข้าใจว่าเธอรู้สึกอะไรจึงถามขึ้นมาก่อนว่า “อยู่แต่ในห้องเบื่อไหม” “ก็นิดหน่อยค่ะ” “ไปเที่ยวกันไหม พรุ่งนี้ผมว่างไปเที่ยวพักผ่อนหาอะไรทานไปด้วยเดินเล่นชายหาดสวย ๆ ด้วยกันนะ” “ถ้าไม่ไปได้ไหมคะ อยากกลับกรุงเทพฯแล้ว” “ทำไมล่ะ ได้มาถึงที่นี่แล้วไปเที่ยวเถอะที่นี่มีอะไรน่าเที่ยวเยอะแยะ” “ฉันเกรงใจน่ะ” “ไม่อยากอยู่กับผมว่างั้นเถอะ” “ก็ใช่มั้งคะ” “เพราะอะไรเหรอที่ทำให้คุณคิดแบบนั้น” “คุณมีแฟนอยู่แล้ว และฉันไม่เหมาะสมกับคุณเท่าเขาหรอกค่ะ” “เรื่องแค่นี้เอง แฟนผมเขาเป็นดารามีงานเยอะแยะจะมาสนใจอะไรเรื่องเล็กแค่นี้กัน” “คุณไม่ได้รู้สึกผิดต่อแฟนเลยเหรอ” “ก็ไม่นะ เขาก็ไม่ได้ใส่ใจผมขนาดนั้น ผมจะทำอะไรเขาไม่เคยว่าหรือบ่นหรือตามหึงอะไรผมคิดว่าเราอาจจะไม่ได้รักกันหรอก” ชมพูฟังแล้วสงสัยว่ามันจะมีคนแบบนี้ได้อย่างไรกัน เธอจึงไม่รู้สึกเข้าใจอะไรให้มากขึ้นกว่าเดิมจึงยังอยากถามต่อให้รู้เรื่อง “ฉันกับเขาเราไม่ได้รู้จักกันก็จริงค่ะ แต่มันก็ไม่ควรเป็นแบบนี้หรือเปล่า เรื่องระหว่างเรามันจะเป็นเพราะอะไรก็ช่างเถอะฉันไม่เก็บมาคิดหรอกเพราะฉันเองก็ผิดที่ไม่ได้ปฏิเสธให้ชัดเจน แต่ฉันว่าคุณที่มีแฟนอยู่แล้วควรให้เกียรติเธอบ้างนะคะ” “คุณกังวลเรื่องนี้นี่เอง เอาเป็นว่าผมกลับมาที่นี่เพราะคุณและยังอยากอยู่ต่อก็เพราะคุณ เรื่องอื่นผมจะไม่อธิบายอีกอย่างนะ ผมกับเขาเราเคลียร์กันได้ทุกเรื่อง คุณไม่ต้องห่วงเลยอีกอย่างผมจะไปเที่ยวคุณต้องไปกับผมแค่นั้นพอ” จบบทสนทนาไว้แบบนั้นเขาไม่พูดไม่อธิบายอะไรต่อถึงแม้ว่าชมพูจะยังไม่เข้าใจในตัวเขาและสถานะของตัวเองเลยก็ตามงานของเควินกำลังจะจบลงและเขาต้องไปส่งชมพูกลับกรุงเทพฯ ซึ่งเขาค่อนข้างเสียดายไม่อยากให้ชมพูต้องกลับไปแต่เพราะเขาเองยังมีงานต่อที่ต่างประเทศอีกจึงจำเป็นต้องส่งเธอกลับในที่สุดเมื่อชมพูได้กลับมาทำงานเพื่อนร่วมงานต่างสงสัยมากว่าเธอหายไปไหนนานขนาดนี้ ชมพูเล่าให้ฟังแค่ว่าเธอไปช่วยเควินทำงานเพราะทิวสั่งให้เธออยู่ต่อ ทุกคนจึงไม่ได้คาดคั้นอะไรอีก พอกลับมางานต่าง ๆ ที่ชมพูเคยรับผิดชอบถูกโอนไปให้คนอื่นทำ ส่วนเธอได้เปลี่ยนตำแหน่งงานที่ทำร่วมกับทิวและฝ่ายบริหารมากขึ้นชมพูยังคงเป็นคนที่ตั้งใจและเรียนรู้การทำงานใหม่ ๆ เหมือนเดิมจนกระทั่งเวลาผ่านมาสักพักหนึ่ง บางคนคิดว่าชมพูนั้นต้องมีเส้นสายที่ไม่ธรรมดาแน่ ๆ ตำแหน่งจึงขึ้นเป็นหัวหน้าแผนกได้ในเวลาเพียงปีกว่า ๆ เท่านั้น แต่สำหรับชมพูแล้วมันเป็นช่วงเวลาที่เธอแสนเหนื่อยแทบขาดใจก็ว่าได้อีกไม่นานต่อมา เควินก็มีข่าวออกมาอีกครั้งว่าเลิกรากับแฟนสาวดาราคนนั้นแล้ว และดาราคนนั้นก็แต่งงานกับผู้ชายอีกคนอย่างรวดเร็ว ทำให้ชมพูที่ปกติก็พูดคุยกับเขาในเวลาที่ว่าง ๆ จากงานได้รับรู้เรื่องราวจากปากของเขามาก่อนแล้ว แต่ตอนนี้ชมพูมีความรับผิดชอบมากขึ้นในงานการตลาด จึงทำให้
เมื่อเควินยอมบอกเรื่องราวของตัวเองให้ฟัง เขาเองก็อยากฟังเรื่องของชมพูบ้างเพราะเขาคิดเองว่าชมพูคงอยากเล่าระบายความไม่สบายใจพวกนั้นให้ใครฟังบ้าง เขาได้รับรู้เรื่องราวของหญิงสาวได้ตลอดเพราะคอนเนคชั่นของตัวเองเขาเป็นผู้ชายที่ไม่ได้อยากจะช่วยแล้วจะช่วยอย่างไม่ลืมหูลืมตา เขาพยายามช่วยในรูปแบบของเขา การใช้งานเธอเขาให้ค่าตอบแทนตามเนื้องานจริงที่เธอเข้ามาช่วย แต่ถ้าหลังจากนี้เธอจะไม่ได้เป็นคนที่เขาจ้างทำงานแต่เลื่อนสถานะขึ้นมาเป็นมากกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้เธอจะได้รับความช่วยเหลือจากเขามากกว่านี้อย่างแน่นอน“คุณจะอยากรู้ไปทำไมล่ะคะ มันไม่มีอะไรน่าสนใจหรอก”“เราอยู่ด้วยกันขนาดนี้แล้วคุณยังไม่ไว้ใจให้ผมเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตคุณอีกเหรอ”“คือฉันว่ามันคงเป็นไปได้ยากค่ะเพราะเราไม่มีอะไรที่เหมาะสมกันเลย”“เอาอะไรมาวัดถึงความเหมาะสมเหรอ ดูอย่างพ่อแม่ผมสิก็ไม่เหมาะสมกันนะแต่ท่านก็ยังอยู่กันได้”“นั่นก็เพราะท่านรักกันไงคะ”“แล้วเราไม่ได้รักกันเหรอ” เขาถามออกไปแบบนั้นยิ่งทำให้ชมพูตาโตที่เขาพูดเรื่องความรักกับเธอขึ้นมา“คุณหมายความว่าอะไรคะ เราสองคนมันมีความรักด้วยเหรอคะมันเป็นเพียงซื้อขายแลกเปลี่ยนกันเ
เสียงกระทบเนื้อดังขึ้นเรื่อย ๆ ร่างหญิงสาวยิ่งอ่อนระทวยและร้องครางดังลั่นเพราะแรงที่โถมเข้าใส่ดั่งพายุชมพูเกาะเขาไว้แน่นเพราะแรงที่จะยืนไม่มีแล้ว แรงเพียงขาข้างเดียวไม่พอจะทำให้ตัวเองมั่นคงกว่านี้ เขาเห็นว่าชมพูจะหมดแรงเขาจึงรวบขาทั้งสองข้างของชมพูไว้แล้วยกขึ้นมาเกาะเกี่ยวที่เอวของเขาและใส่แรงลงไปกระแทกจุดซ่อนเร้นของกายสาวให้ยิ่งสร้างน้ำใสหล่อลื่นออกมาทำให้เขายิ่งเข้าออกได้ง่ายมากขึ้น“อึ้ก..อ๊า...มันเสียว...มากกว่าเดิมอีก”ชายหนุ่มยิ้มมุมปากและยังคงทำหน้าที่ต่อไปโดยมีหญิงสาวที่ตอนนี้คงไม่มีอะไรมากั้นความสุขสมที่ปลดปล่อยออกมาของเธอได้ ร่างบางกายโยกไหวบนร่างเขาก้อนกลมกลึงขยับขึ้นลงล่อตาล่อใจชายหนุ่มจนต้องใช้ปากครอบครองทั้งสองภูเขาแฝดนั้นไว้ ร่างบางแทบจะครางเสียงหลงเพราะถูกกระตุ้นจนร่างกายแทบจะหลอมละลาย“เควิน...อ๊า...อ๊า...”เสียงกระทบเนื้อดังขึ้น ๆ เพื่อจะพาให้ชายหนุ่มและหญิงสาวเดินทางไปสู่ฝั่งฝันด้วยกันทั้งคู่ทั้งสองกอดรัดกันจนเหมือนจะกลายเป็นเนื้อเดียวกันไปแล้ว และเมื่อท่านี้จะสร้างความเมื่อยให้ทั้งคู่มากไปพวกเขาจึงพากันเดินไปยังเตียงนุ่มกลางห้องเมื่อหลังหญิงสาวแตะที่นอน ชายหนุ่มจึง
การทำงานเริ่มขึ้นนายแบบ นางแบบในชุดบีกินีบนเรือต่างเริ่มเข้ามาถ่ายรูป และในนั้นมีต้าที่เจอกับชมพูมาแล้วเมื่อวาน เขายิ้มมาให้ชมพูอย่างออกนอกหน้าพอส่วนของเขาถ่ายเสร็จแล้วจึงรีบเข้ามาทักทาย“โลกกลมจังนะครับคิดว่าจะไม่ได้เจอเธออีกแล้วนะ”“ค่ะ”“นี่มาทำงานเหมือนกันใช่ไหม ผมก็คิดอยู่แล้วว่าสวย ๆ แบบคุณเนี่ยน่าจะได้มางานเดียวกัน”“คือว่าฉันมาทำงานให้....บอสน่ะค่ะ”“บอสเหรอ ใครกันครับผมจะได้ไปทักทาย”เมื่อเห็นว่าชมพูมีคนเข้ามาคุยด้วยตามสัญชาตญาณของเควินเขารู้ว่าเลขาคนสวยของเขากำลังมีคนเข้ามาจีบอย่างแน่นอนจึงเดินเข้ามาพร้อมทำหน้านิ่ง ๆ มองไปยังนายแบบหนุ่มที่ทำท่าทางเป็นมิตรเสียเต็มที่กับเขาและกับชมพู“ชมพูผมอยากดื่มกาแฟอีกสักแก้วคุณไปหามาให้ผมหน่อย” เดินเข้ามาสั่งงานเล็กน้อยเพื่อบอกนายคนนั้นว่าเขาเป็นอะไรกับชมพู“ได้ค่ะ” เธอเดินหายไปยังที่ที่เตรียมอาหารไว้บนเรือแห่งนี้“คุณเองเหรอครับที่เป็นบอสของคุณชมพู ผมต้านะครับยินดีที่ได้รู้จัก”“ผมไม่ได้อยากรู้จักคุณ”เควินเดินหนีออกไปทำให้นายแบบหนุ่มถึงกับหุบยิ้มทันที ดูก็รู้ว่าชายคนนี้ไม่ชอบตัวเองเขาจึงไม่สนใจเพราะเขาพอใจในเลขาของเขาไม่ได้ชอบเขาสักหน่อ
บรรยากาศที่กำลังอบอวลไปด้วยความรักของชมพูและเควินยังกอดกันอยู่ในห้องพักที่แสนอบอุ่น ทั้งสองคนเริ่มขยับตัวเพราะแสงจากภายนอกส่องเข้ามาในห้องยามเช้า ทั้งสองมองหน้ากันเมื่อยามตื่นแล้วไม่พูดอะไร ชมพูยังรู้สึกขัดเขินเหมือนเคยกับสายตาและการกระทำของเควิน เขาดูจะใส่ใจดูแลเธอดีจนมันเกิดความรู้สึกว่าภายในใจมันเกิดอาการวิบวับเหมือนแสงสีชมพูเรืองรองเขาเข้ามาใกล้เธอและจุมพิตเบา ๆ แล้วลุกออกจากเตียงไป เขาไปสั่งอาหารเช้าขึ้นมาและเขาไปอาบน้ำเพื่อจะต้องออกไปทำงานของตัวเองในเช้านี้ เมื่อทานอาหารเช้าด้วยกันแล้วเขาออกไปทำงาน ส่วนชมพูยังคงอยู่ในโรงแรมคนเดียว ด้วยความเหงาเธอจึงอยากออกไปเดินเล่นบ้าง จึงลงไปข้างล่างโรงแรมแห่งนี้ติดทะเล ชายหาดข้างหน้านั้นมีผู้คนไม่มากนักเพราะคนที่สามารถเข้ามาในส่วนนี้ได้ต้องเป็นแขกที่พักในโรงแรมเท่านั้นโทรศัพท์ 1 เครื่องของชมพูตามถ่ายรูปไปรอบ ๆ บริเวณแถวนั้นถ่ายทุกอย่างแม้แต่สุนัขและแมว พอเดินไปได้สักพักเหมือนมีใครคนหนึ่งเดินตามเธอมา เธอจึงรีบหันไปมองปรากฏว่าเป็นชายหนุ่มอายุไม่น่าเกิน 30 ปี เขาเดินตามชมพูมาสักพักแล้ว เธอจึงลองถามเขาว่า“คุณเดินตามฉันมาทำไมคะ”“ผมมาเดินคนเดี
วันต่อมา ชายหาดที่จัดว่าสวยและนักท่องเที่ยวเยอะที่สุดในจังหวัดภูเก็ตรายล้อมไปด้วยร้านอาหารมากมาย รวมทั้งร้านอุปกรณ์ดำน้ำต่าง ๆ ด้วยกิจกรรมที่เควินสนใจอย่างมากก็คือดำน้ำ เขาแอบซื้อแพคเกจดำน้ำเอาไว้และแน่นอนว่าชมพูต้องลงไปดำน้ำกับเขาด้วย ชมพูไม่เคยดำน้ำมาก่อนนั่นจึงทำให้ทั้งสองต้องอยู่ใกล้กันตลอดเวลาเพราะเควินต้องคอยสอนให้เธอดำน้ำตามเขาลงไปในทะเลให้ได้สอนกันไปมาอยู่พักใหญ่กว่าชมพูจะพอดำน้ำได้และใช้อุปกรณ์ได้อย่างมั่นใจว่าจะปลอดภัย พวกเขาดำดิ่งลงไปดูฝูงปลาแหวกว่ายใต้ทะเล และเหล่าปะการังที่มีอยู่ตามธรรมชาติมันงดงามของมันอยู่แล้ว โดยที่ไม่จำเป็นต้องนำมันขึ้นมาจากใต้น้ำ พอชมพูเริ่มดำน้ำได้แล้วเธอรู้สึกว่ามันสนุกมาก การว่ายน้ำมันทำให้ตอนนี้สมองของเธอที่ใช้งานหนักเพราะเรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้นได้เบาลงเพราะเลิกคิดวนเวียนอยู่เรื่องเดิม ๆ ซ้ำ ๆ นั้นได้หยุดลงชั่วคราวเมื่อหมดเวลาการดำน้ำแล้วกลับเข้าฝั่งก็เป็นเวลาเย็นมากแล้ว ร้านค้าแถวนั้นเปิดให้บริการมีอาหารหน้าตาน่าทานมากมาย ยิ่งซีฟู๊ดที่ชมพูค่อนข้างชอบมากอยู่แล้วเรียงรายให้เลือกหลายร้านเธอจึงชวนเขาไปหาร้านที่ดูแล้วน่าทานที่สุดนั่งรออาหารที่สั่ง