เมื่อเควินยอมบอกเรื่องราวของตัวเองให้ฟัง เขาเองก็อยากฟังเรื่องของชมพูบ้างเพราะเขาคิดเองว่าชมพูคงอยากเล่าระบายความไม่สบายใจพวกนั้นให้ใครฟังบ้าง เขาได้รับรู้เรื่องราวของหญิงสาวได้ตลอดเพราะคอนเนคชั่นของตัวเอง
เขาเป็นผู้ชายที่ไม่ได้อยากจะช่วยแล้วจะช่วยอย่างไม่ลืมหูลืมตา เขาพยายามช่วยในรูปแบบของเขา การใช้งานเธอเขาให้ค่าตอบแทนตามเนื้องานจริงที่เธอเข้ามาช่วย แต่ถ้าหลังจากนี้เธอจะไม่ได้เป็นคนที่เขาจ้างทำงานแต่เลื่อนสถานะขึ้นมาเป็นมากกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้เธอจะได้รับความช่วยเหลือจากเขามากกว่านี้อย่างแน่นอน
“คุณจะอยากรู้ไปทำไมล่ะคะ มันไม่มีอะไรน่าสนใจหรอก”
“เราอยู่ด้วยกันขนาดนี้แล้วคุณยังไม่ไว้ใจให้ผมเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตคุณอีกเหรอ”
“คือฉันว่ามันคงเป็นไปได้ยากค่ะเพราะเราไม่มีอะไรที่เหมาะสมกันเลย”
“เอาอะไรมาวัดถึงความเหมาะสมเหรอ ดูอย่างพ่อแม่ผมสิก็ไม่เหมาะสมกันนะแต่ท่านก็ยังอยู่กันได้”
“นั่นก็เพราะท่านรักกันไงคะ”
“แล้วเราไม่ได้รักกันเหรอ” เขาถามออกไปแบบนั้นยิ่งทำให้ชมพูตาโตที่เขาพูดเรื่องความรักกับเธอขึ้นมา
“คุณหมายความว่าอะไรคะ เราสองคนมันมีความรักด้วยเหรอคะมันเป็นเพียงซื้อขายแลกเปลี่ยนกันเฉย ๆ ไม่ใช่เหรอคะ”
“ถ้าคุณจะคิดกับผมนั้นก็ได้ครับ ผมไม่ว่าอะไรคุณหรอกเพราะผมเองจะรับใครสักคนมาเป็นแฟนนั้นมันมีหลายเรื่องราวอยู่ในนั้นมากมาย และบางอย่างที่ว่าเป็นเหตุผลสำคัญที่สุดคือผลประโยชน์ที่เราสองคนจะได้รับ”
“นั่นสิคะ ฉันไม่ได้มีผลประโยชน์อะไรให้คุณเลยแม้แต่น้อย อีกอย่างถ้าคุณคบกับฉันชื่อเสียงของคุณมันจะไม่แย่ไปกว่านี้เหรอคะ”
“ผมไม่ได้ต้องการชื่อเสียงที่ใคร ๆ ต่างพากันตั้งให้หรอกนะ ปกติทุกวันนี้ผมก็ไม่ได้เน้นภาพลักษณ์ที่สวยหรูอะไร ออกจะเจ้าชู้มีคู่ควงหลายคนด้วยซ้ำไปที่ไหนก็มีคู่นอนที่นั่น คนที่เป็นแฟนผมสิ่งที่ต้องทำก็คือห้ามตามหึงหวงเด็ดขาดเพราะผมจะเลิกทันที”
ชมพูมองเขาแบบไม่อยากจะเชื่อว่าเขาจะทำแบบนี้ได้จริง ๆ
“ถ้าคุณอยากรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับผมคุณหาข่าวจากเน็ตได้อยู่แล้ว และคงรู้แล้วว่าผมน่ะเป็นคนที่ใคร ๆ ต่างก็บอกว่าเลวร้ายมากคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ใช่ไหม”
ชมพูยอมรับว่ารู้แล้วเพราะเรื่องของเขานั้นหาไม่ยากจริงอย่างที่เขาว่านั่นแหละ
“จริง ๆ แล้วผมอยากคบกับผู้หญิงไทยนะ เพราะแม่ผมท่านเป็นคนสวยและน่ารักมาก ผมจึงชอบเอาท่านมาเป็นต้นแบบเพื่อจะหาแฟน แต่ผมหาไม่ได้เลยจนถึงวันนี้”
เขามองชมพูอย่างลึกซึ้งจนชมพูต้องหลบสายตา ใช่ว่าเขาจะพูดจาไม่น่าเชื่อถือแต่ชมพูบอกตัวเองว่ามันเชื่อไม่ได้เพราะเขาก็มีประวัติไม่ดีเท่าไหร่เกี่ยวกับผู้หญิง
“แต่ผมมีความลับบางอย่างจะบอกคุณนะ คุณแม่ของผมท่านอยากให้ผมมีแฟนเป็นคนไทยมากกว่าชาวต่างชาติเพราะท่านยังหวังว่าคุณตากับคุณยายจะให้อภัยและผมจะได้อยู่ในไทยได้อย่างสบายมากกว่านี้ แต่ผมเองก็ไม่อยากเชื่อหรอกว่าจะทำได้”
ชมพูไม่อยากคิดว่าตัวเธอเองจะกลายเป็นซินเดอเรลล่าที่เจอกับเจ้าชายที่แสนร่ำรวย และจะให้เธอเป็นคนรักเพียงคนเดียวไปทั้งชีวิตและใช้ชีวิตต่อไปอย่างสงบสุขเหมือนในเทพนิยายหลอกเด็กพวกนั้น เธอไม่ได้มีความคิดแบบนี้เหมือนคนอื่นเลยเพราะทั้งชีวิตมีแต่ดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอดเห็นพ่อและแม่ต้องทำงานในทุกวันเพื่อส่งให้เธอและน้องเรียน พอเรียนจบมาแล้วยังต้องเร่งรีบหางานทำเพื่อทำให้ครอบครัวได้เบาภาระลงให้ตัวเองได้พึ่งพาตัวเองได้
เพราะสายตาที่ดูเศร้า ๆ ของชมพูทำให้เควินยังอยากได้คำตอบเกี่ยวกับชีวิตของเธอก่อนที่จะมาเจอกับเขา
ชมพูตัดสินใจเล่าไปตามความจริงคิดว่าถึงแม้ว่าระหว่างเธอกับเขาจะไม่สามารถพัฒนาไปได้มากกว่านี้ก็ตาม
งานของเควินกำลังจะจบลงและเขาต้องไปส่งชมพูกลับกรุงเทพฯ ซึ่งเขาค่อนข้างเสียดายไม่อยากให้ชมพูต้องกลับไปแต่เพราะเขาเองยังมีงานต่อที่ต่างประเทศอีกจึงจำเป็นต้องส่งเธอกลับในที่สุดเมื่อชมพูได้กลับมาทำงานเพื่อนร่วมงานต่างสงสัยมากว่าเธอหายไปไหนนานขนาดนี้ ชมพูเล่าให้ฟังแค่ว่าเธอไปช่วยเควินทำงานเพราะทิวสั่งให้เธออยู่ต่อ ทุกคนจึงไม่ได้คาดคั้นอะไรอีก พอกลับมางานต่าง ๆ ที่ชมพูเคยรับผิดชอบถูกโอนไปให้คนอื่นทำ ส่วนเธอได้เปลี่ยนตำแหน่งงานที่ทำร่วมกับทิวและฝ่ายบริหารมากขึ้นชมพูยังคงเป็นคนที่ตั้งใจและเรียนรู้การทำงานใหม่ ๆ เหมือนเดิมจนกระทั่งเวลาผ่านมาสักพักหนึ่ง บางคนคิดว่าชมพูนั้นต้องมีเส้นสายที่ไม่ธรรมดาแน่ ๆ ตำแหน่งจึงขึ้นเป็นหัวหน้าแผนกได้ในเวลาเพียงปีกว่า ๆ เท่านั้น แต่สำหรับชมพูแล้วมันเป็นช่วงเวลาที่เธอแสนเหนื่อยแทบขาดใจก็ว่าได้อีกไม่นานต่อมา เควินก็มีข่าวออกมาอีกครั้งว่าเลิกรากับแฟนสาวดาราคนนั้นแล้ว และดาราคนนั้นก็แต่งงานกับผู้ชายอีกคนอย่างรวดเร็ว ทำให้ชมพูที่ปกติก็พูดคุยกับเขาในเวลาที่ว่าง ๆ จากงานได้รับรู้เรื่องราวจากปากของเขามาก่อนแล้ว แต่ตอนนี้ชมพูมีความรับผิดชอบมากขึ้นในงานการตลาด จึงทำให้
เมื่อเควินยอมบอกเรื่องราวของตัวเองให้ฟัง เขาเองก็อยากฟังเรื่องของชมพูบ้างเพราะเขาคิดเองว่าชมพูคงอยากเล่าระบายความไม่สบายใจพวกนั้นให้ใครฟังบ้าง เขาได้รับรู้เรื่องราวของหญิงสาวได้ตลอดเพราะคอนเนคชั่นของตัวเองเขาเป็นผู้ชายที่ไม่ได้อยากจะช่วยแล้วจะช่วยอย่างไม่ลืมหูลืมตา เขาพยายามช่วยในรูปแบบของเขา การใช้งานเธอเขาให้ค่าตอบแทนตามเนื้องานจริงที่เธอเข้ามาช่วย แต่ถ้าหลังจากนี้เธอจะไม่ได้เป็นคนที่เขาจ้างทำงานแต่เลื่อนสถานะขึ้นมาเป็นมากกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้เธอจะได้รับความช่วยเหลือจากเขามากกว่านี้อย่างแน่นอน“คุณจะอยากรู้ไปทำไมล่ะคะ มันไม่มีอะไรน่าสนใจหรอก”“เราอยู่ด้วยกันขนาดนี้แล้วคุณยังไม่ไว้ใจให้ผมเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตคุณอีกเหรอ”“คือฉันว่ามันคงเป็นไปได้ยากค่ะเพราะเราไม่มีอะไรที่เหมาะสมกันเลย”“เอาอะไรมาวัดถึงความเหมาะสมเหรอ ดูอย่างพ่อแม่ผมสิก็ไม่เหมาะสมกันนะแต่ท่านก็ยังอยู่กันได้”“นั่นก็เพราะท่านรักกันไงคะ”“แล้วเราไม่ได้รักกันเหรอ” เขาถามออกไปแบบนั้นยิ่งทำให้ชมพูตาโตที่เขาพูดเรื่องความรักกับเธอขึ้นมา“คุณหมายความว่าอะไรคะ เราสองคนมันมีความรักด้วยเหรอคะมันเป็นเพียงซื้อขายแลกเปลี่ยนกันเ
เสียงกระทบเนื้อดังขึ้นเรื่อย ๆ ร่างหญิงสาวยิ่งอ่อนระทวยและร้องครางดังลั่นเพราะแรงที่โถมเข้าใส่ดั่งพายุชมพูเกาะเขาไว้แน่นเพราะแรงที่จะยืนไม่มีแล้ว แรงเพียงขาข้างเดียวไม่พอจะทำให้ตัวเองมั่นคงกว่านี้ เขาเห็นว่าชมพูจะหมดแรงเขาจึงรวบขาทั้งสองข้างของชมพูไว้แล้วยกขึ้นมาเกาะเกี่ยวที่เอวของเขาและใส่แรงลงไปกระแทกจุดซ่อนเร้นของกายสาวให้ยิ่งสร้างน้ำใสหล่อลื่นออกมาทำให้เขายิ่งเข้าออกได้ง่ายมากขึ้น“อึ้ก..อ๊า...มันเสียว...มากกว่าเดิมอีก”ชายหนุ่มยิ้มมุมปากและยังคงทำหน้าที่ต่อไปโดยมีหญิงสาวที่ตอนนี้คงไม่มีอะไรมากั้นความสุขสมที่ปลดปล่อยออกมาของเธอได้ ร่างบางกายโยกไหวบนร่างเขาก้อนกลมกลึงขยับขึ้นลงล่อตาล่อใจชายหนุ่มจนต้องใช้ปากครอบครองทั้งสองภูเขาแฝดนั้นไว้ ร่างบางแทบจะครางเสียงหลงเพราะถูกกระตุ้นจนร่างกายแทบจะหลอมละลาย“เควิน...อ๊า...อ๊า...”เสียงกระทบเนื้อดังขึ้น ๆ เพื่อจะพาให้ชายหนุ่มและหญิงสาวเดินทางไปสู่ฝั่งฝันด้วยกันทั้งคู่ทั้งสองกอดรัดกันจนเหมือนจะกลายเป็นเนื้อเดียวกันไปแล้ว และเมื่อท่านี้จะสร้างความเมื่อยให้ทั้งคู่มากไปพวกเขาจึงพากันเดินไปยังเตียงนุ่มกลางห้องเมื่อหลังหญิงสาวแตะที่นอน ชายหนุ่มจึง
การทำงานเริ่มขึ้นนายแบบ นางแบบในชุดบีกินีบนเรือต่างเริ่มเข้ามาถ่ายรูป และในนั้นมีต้าที่เจอกับชมพูมาแล้วเมื่อวาน เขายิ้มมาให้ชมพูอย่างออกนอกหน้าพอส่วนของเขาถ่ายเสร็จแล้วจึงรีบเข้ามาทักทาย“โลกกลมจังนะครับคิดว่าจะไม่ได้เจอเธออีกแล้วนะ”“ค่ะ”“นี่มาทำงานเหมือนกันใช่ไหม ผมก็คิดอยู่แล้วว่าสวย ๆ แบบคุณเนี่ยน่าจะได้มางานเดียวกัน”“คือว่าฉันมาทำงานให้....บอสน่ะค่ะ”“บอสเหรอ ใครกันครับผมจะได้ไปทักทาย”เมื่อเห็นว่าชมพูมีคนเข้ามาคุยด้วยตามสัญชาตญาณของเควินเขารู้ว่าเลขาคนสวยของเขากำลังมีคนเข้ามาจีบอย่างแน่นอนจึงเดินเข้ามาพร้อมทำหน้านิ่ง ๆ มองไปยังนายแบบหนุ่มที่ทำท่าทางเป็นมิตรเสียเต็มที่กับเขาและกับชมพู“ชมพูผมอยากดื่มกาแฟอีกสักแก้วคุณไปหามาให้ผมหน่อย” เดินเข้ามาสั่งงานเล็กน้อยเพื่อบอกนายคนนั้นว่าเขาเป็นอะไรกับชมพู“ได้ค่ะ” เธอเดินหายไปยังที่ที่เตรียมอาหารไว้บนเรือแห่งนี้“คุณเองเหรอครับที่เป็นบอสของคุณชมพู ผมต้านะครับยินดีที่ได้รู้จัก”“ผมไม่ได้อยากรู้จักคุณ”เควินเดินหนีออกไปทำให้นายแบบหนุ่มถึงกับหุบยิ้มทันที ดูก็รู้ว่าชายคนนี้ไม่ชอบตัวเองเขาจึงไม่สนใจเพราะเขาพอใจในเลขาของเขาไม่ได้ชอบเขาสักหน่อ
บรรยากาศที่กำลังอบอวลไปด้วยความรักของชมพูและเควินยังกอดกันอยู่ในห้องพักที่แสนอบอุ่น ทั้งสองคนเริ่มขยับตัวเพราะแสงจากภายนอกส่องเข้ามาในห้องยามเช้า ทั้งสองมองหน้ากันเมื่อยามตื่นแล้วไม่พูดอะไร ชมพูยังรู้สึกขัดเขินเหมือนเคยกับสายตาและการกระทำของเควิน เขาดูจะใส่ใจดูแลเธอดีจนมันเกิดความรู้สึกว่าภายในใจมันเกิดอาการวิบวับเหมือนแสงสีชมพูเรืองรองเขาเข้ามาใกล้เธอและจุมพิตเบา ๆ แล้วลุกออกจากเตียงไป เขาไปสั่งอาหารเช้าขึ้นมาและเขาไปอาบน้ำเพื่อจะต้องออกไปทำงานของตัวเองในเช้านี้ เมื่อทานอาหารเช้าด้วยกันแล้วเขาออกไปทำงาน ส่วนชมพูยังคงอยู่ในโรงแรมคนเดียว ด้วยความเหงาเธอจึงอยากออกไปเดินเล่นบ้าง จึงลงไปข้างล่างโรงแรมแห่งนี้ติดทะเล ชายหาดข้างหน้านั้นมีผู้คนไม่มากนักเพราะคนที่สามารถเข้ามาในส่วนนี้ได้ต้องเป็นแขกที่พักในโรงแรมเท่านั้นโทรศัพท์ 1 เครื่องของชมพูตามถ่ายรูปไปรอบ ๆ บริเวณแถวนั้นถ่ายทุกอย่างแม้แต่สุนัขและแมว พอเดินไปได้สักพักเหมือนมีใครคนหนึ่งเดินตามเธอมา เธอจึงรีบหันไปมองปรากฏว่าเป็นชายหนุ่มอายุไม่น่าเกิน 30 ปี เขาเดินตามชมพูมาสักพักแล้ว เธอจึงลองถามเขาว่า“คุณเดินตามฉันมาทำไมคะ”“ผมมาเดินคนเดี
วันต่อมา ชายหาดที่จัดว่าสวยและนักท่องเที่ยวเยอะที่สุดในจังหวัดภูเก็ตรายล้อมไปด้วยร้านอาหารมากมาย รวมทั้งร้านอุปกรณ์ดำน้ำต่าง ๆ ด้วยกิจกรรมที่เควินสนใจอย่างมากก็คือดำน้ำ เขาแอบซื้อแพคเกจดำน้ำเอาไว้และแน่นอนว่าชมพูต้องลงไปดำน้ำกับเขาด้วย ชมพูไม่เคยดำน้ำมาก่อนนั่นจึงทำให้ทั้งสองต้องอยู่ใกล้กันตลอดเวลาเพราะเควินต้องคอยสอนให้เธอดำน้ำตามเขาลงไปในทะเลให้ได้สอนกันไปมาอยู่พักใหญ่กว่าชมพูจะพอดำน้ำได้และใช้อุปกรณ์ได้อย่างมั่นใจว่าจะปลอดภัย พวกเขาดำดิ่งลงไปดูฝูงปลาแหวกว่ายใต้ทะเล และเหล่าปะการังที่มีอยู่ตามธรรมชาติมันงดงามของมันอยู่แล้ว โดยที่ไม่จำเป็นต้องนำมันขึ้นมาจากใต้น้ำ พอชมพูเริ่มดำน้ำได้แล้วเธอรู้สึกว่ามันสนุกมาก การว่ายน้ำมันทำให้ตอนนี้สมองของเธอที่ใช้งานหนักเพราะเรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้นได้เบาลงเพราะเลิกคิดวนเวียนอยู่เรื่องเดิม ๆ ซ้ำ ๆ นั้นได้หยุดลงชั่วคราวเมื่อหมดเวลาการดำน้ำแล้วกลับเข้าฝั่งก็เป็นเวลาเย็นมากแล้ว ร้านค้าแถวนั้นเปิดให้บริการมีอาหารหน้าตาน่าทานมากมาย ยิ่งซีฟู๊ดที่ชมพูค่อนข้างชอบมากอยู่แล้วเรียงรายให้เลือกหลายร้านเธอจึงชวนเขาไปหาร้านที่ดูแล้วน่าทานที่สุดนั่งรออาหารที่สั่ง