Share

บทที่ 2.2 ทวงคืนสถานะ

last update Last Updated: 2025-07-02 21:45:36

เมื่อครู่ท่านอ๋องกำลังยิ้มหรือ... เป็นไปได้อย่างไร

“อ่อ... ที่แท้ก็เป็นการลงโทษตามกฎบ้านตระกูลเสวี่ยนี่เอง”

“เจ้าค่ะ ท่านลุงบอกว่าท่านแม่ไม่เคารพผู้อาวุโส ลบหลู่ท่านป้าสะใภ้”

“ผู้อาวุโส? หากลำดับดูแล้วมารดาของนางเป็นบุตรีในภรรยาเอกของท่านอาจารย์ ส่วนฮูหยินของท่านเป็นสะใภ้ของบุตรชายจากภรรยารอง ท่านเสวี่ยดูเหมือนท่านจะลำดับความอาวุโสผิดไปหน่อยนะ”

“เป็นกระหม่อมที่เลอะเลือน ขอท่านอ๋องโปรดอภัย”

“พี่ชายกล่าวผิดแล้ว หากท่านแม่เป็นผู้อาวุโสของจวนทำไมท่านป้าสะใภ้ถึงได้จัดเรือนเล็กด้านหลังให้พวกเราพัก ไม่ใช่เรือนหลักด้านหน้าเล่าเจ้าคะ”

“โอ้ว! ยังให้อยู่ที่เรือนเล็กด้านหลังด้วย กฎบ้านท่านเสวี่ยช่างเยี่ยมยอดจริงๆ”

“ข้าเองก็คิดเหมือนพี่ชาย กฎบ้านเสวี่ยยอดเยี่ยมมากจริงๆ บางเรื่องก็ชวนให้ข้ารู้สึกสับสน”

“รู้สึกสับสนอย่างนั้นหรือ”

รุ่ยอ๋องเอ่ยถามเสียงสูง พลางหันมามองเด็กหญิงตรงหน้าในใจนึกอยากรู้ว่าอีกฝ่ายยังมีละครฉากใดที่ต้องการแสดงให้เขาดูอีก

“เจ้าค่ะ ตอนที่ข้ากับท่านแม่มาถึงท่านลุงใหญ่ถามถึงสินเดิมและสมบัติของตระกูลเมิ่งบอกว่าเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว แต่พอข้าบอกว่าตระกูลเมิ่งไม่มีทรัพย์มีเพียงหนี้สินท่านป้าสะใภ้ก็บอกว่าไม่นับเป็นครอบครัวอีก”

“เจ้าหมายถึงพวกเขาปรารถนาทรัพย์สินเดิมของมารดาเจ้าแต่ไม่ต้องการร่วมชดใช้หนี้สินเก่า”

“จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไรเจ้าคะทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเพียงกฎของบ้านเสวี่ยเจ้าค่ะ”

“หึ! ดูเหมือนพรุ่งนี้ตอนว่าราชการในท้องพระโรง ข้าจะต้องเอากฏบ้านเสวี่ยเป็นตัวอย่างเล่าให้เหล่าขุนนางฟังเสียหน่อย”

เสวี่ยเกาเยี่ยนได้ยินคำของรุ่ยอ๋องก็รีบทรุดตัวคุกเข่า โค้มศีรษะประสานมือพูดเสียงสั่น

“ท่านอ๋องโปรดเมตตา เรื่องนี้เป็น... เป็นภรรยาของกระหม่อมจัดการไม่ดี กระหม่อมจะรีบแก้ไขในทันที”

เสวี่ยชิงเยี่ยน ไม่เพียงเป็นบุตรีในภรรยาเอกของอดีตราชครูที่บรรดาขุนนางฝ่านบุ๋นยกย่องเคารพ นางยังเป็นฮูหยินเพียงหนึ่งเดียวของแม่ทัพเมิ่งชิงหยวนที่ขุนนางฝ่ายบู๊นับถือ หากเรื่องที่นางถูกรังแกในจวนเสวี่ยถูกเล่าลือออกไปเขาที่เป็นเพียงขุนนางขั้นห้าจะยังมีที่ยืนอยู่ได้อย่างไร

“ท่านอ๋อง! พี่ชายนี่ท่านคือท่านอ๋องหรือ ชิงเอ๋อร์ เอ่อ... หม่อมฉันมีตาหามีแวว แสดงกิริยาไม่เหมาะสมต่อหน้าพระพักตร์ขอท่านอ๋องโปรดอภัย”

เห็นท่าทางแสร้งทำหน้าตกใจ รีบขยับตัวคุกเข่าก้มหัวของเด็กหญิงรุ่ยอ๋องก็อดที่จะยกยิ้มกว้างไม่ได้

ยังเล่นละครต่อเช่นนี้ ดูแล้วนางคงไม่ได้ต้องการเพียงให้เขาช่วยให้มารดาพ้นโทษเท่านั้น

ร่างสูงย่อตัวลงจับไหล่เล็ก แล้วกล่าวเสียงอ่อนโยน

“ไม่เป็นไรข้าไม่ถือ อีกทั้งยังชอบที่เจ้าแทนตัวเองว่าชิงเอ๋อร์ และเรียกข้าว่าพี่ชาย”

เมิ่งหว่านชิงเห็นขาทองคำอยู่ตรงหน้า แน่นอนว่านางต้องรีบเกาะเอาไว้ รีบเงยหน้ายิ้มกว้างขานรับในทันที

“เช่นนั้นต่อไป ชิงเอ๋อร์จะเรียกท่านว่าพี่ชาย วันหน้าต้องไปเยี่ยมคาระวะแสดงความกตัญญูต่อพี่ชายที่วังอ๋องแน่นอนเพคะ”

รุ่ยอ๋องได้ฟังคนช่างเจรจาก็ขบขันในลำคอ ก่อนจะปลดป้ายห้อยประจำตัวของตนเองวางลงบนฝ่ามือเล็ก

“เช่นนั้นก็เก็บป้ายห้อยนี้เอาไว้ จะได้เข้าออกวังของข้าได้อย่างสะดวก”

“เจ้าค่ะ”

ป้ายประจำตัวของเชื้อพระวงศ์ ไม่เพียงมีไว้แสดงฐานะ แต่ยังเป็นเสมือนสิ่งแทนตัว เห็นป้ายดั่งเห็นคน เช่นนี้แล้วภายหน้าไม่เพียงแต่

เสวี่ยเกาเยี่ยน แม้แต่ตระกูลกู้ นางก็ไม่ต้องหวั่นเกรงอีกแล้ว

“ได้รับเมตตาจากพี่ชายรุ่ยอ๋อง ช่างเป็นวาสนาของชิงเอ๋อร์ยิ่งนักเพคะ”

รุ่ยอ๋องพยักหน้ารับก่อนจะเอ่ยขอตัวกลับ โดยไม่ลืมเน้นย้ำให้เสวี่ยเกาเยี่ยนจัดการเรื่องภายในเรือนให้ดี

...........................................

ยามที่เดินพ้นขอบประตูจวนเสวี่ยร่างสูงโปร่งหันกลับไปมองยังทิศทางในสวนอีกครั้ง ภาพใบหน้าเจ้าเล่ห์ ริมฝีปากช่างเจรจาของเด็กหญิงพลันผุดขึ้นในความคิด จนอดที่จะยิ้มอีกรอบไม่ได้

สาวน้อยข้าจะคอยดูว่า เจ้าจะจัดการหมาป่าบ้านเสวี่ยพวกนี้ได้อย่างไร

“ซางชุน ส่งคนมาคอยจับตามองคุณหนูเมิ่งอย่างลับๆ หากมีเรื่องอะไรผิดปกติให้รายงานข้าทันที”

“พ่ะย่ะค่ะ”

................................................

เพล้ง! จ้าวซูซินปัดชุดชาตรงหน้าตกแตกกระจายด้วยโทสะ มองดูเรือนหลังเล็กด้วยความคับแค้นใจ สิบห้าปีก่อนนางแต่งเข้าจวนตระกูลเสวี่ยในฐานะสะใภ้ใหญ่ แต่เพราะเสวี่ยเกาเยี่ยนเป็นบุตรชายจากฮูหยินรอง ดังนั้นนางจึงต้องอยู่ด้วยความหวาดระแวง ทุกวันต้องสังเกตสีหน้าคนในจวน

ใช้เวลาถึงห้าปีจึงสามารถหาเหตุผลทำให้เสวี่ยชิงเยี่ยนแต่งออกไปได้ อีกทั้งยังต้องวางแผนมากมายอยู่อีกเกือบสิบปีจึงจัดการบรรดาผู้อาวุโสในจวนจนหมด ทำให้เสวี่ยเกาเยี่ยนกลายเป็นผู้นำของตระกูลเสวี่ยเช่นทุกวันนี้

ไม่คิดว่าเพียงไม่กี่ประโยคของเมิ่งหว่านชิงกลับทำให้ทุกอย่างที่นางลงมือไปหลายปีพังลงในชั่วพริบตา

“ข้าจะไม่ยอมแพ้นาง เสวี่ยชิงเยี่ยนข้าจะต้องให้เจ้าและนางเด็กสารเลวต้องชดใช้ความอับอายนี้ของข้า!”

................................................

ในขณะที่จ้าวซูซินกำลังอาละวาดในเรือนรอง เมิ่งหว่านชิงก็ประคองมารดาที่ร่างกายอ่อนเพลียเข้ามายังเรือนหลัก เสวี่ยชิงเยี่ยนกวาดตามองเรือนที่ตนเองเคยอาศัยมาสิบแปดปีด้วยดวงตาแดงก่ำ ภาพในวันวานหวนกลับคืนมาในห้วงความคิด ในทุกมุม ทุกจุด ล้วนเต็มไปด้วยกลิ่นไอความรักของมารดาและบิดา

“ฮูหยิน อาหารและน้ำอุ่นพร้อมแล้วเจ้าค่ะ”

เมิ่งหว่านชิงหันไปมองสาวใช้สี่นางที่ถูกส่งมารับใช้แล้วยกยิ้มพอใจ เพราะการกระทำของรุ่ยอ๋องในวันนี้ทำให้เสวี่ยเกาเยี่ยนไม่กล้าคิดละเลยนางและมารดาอีก เพียงแต่ขาทองคำนี้ของนางหากจำไม่ผิดเขาจะมีอายุอยู่ได้อีกแค่สองเดือนเท่านั้น

เกิดอะไรขึ้นกับรุ่ยอ๋องกันแน่ เหตุใดตอนนั้นเขาจึงได้พลัดตกเขาตาย

................................................

ชงเมิ่ง

ขาใหญ่ขนาดนี้ ชิงชิงกอดไว้ให้แน่นเลยนะลูก

| Like
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ชาตินี้ข้าไม่ขอเป็นสตรีตัวแทน   บทที่ 2.2 ทวงคืนสถานะ

    เมื่อครู่ท่านอ๋องกำลังยิ้มหรือ... เป็นไปได้อย่างไร“อ่อ... ที่แท้ก็เป็นการลงโทษตามกฎบ้านตระกูลเสวี่ยนี่เอง”“เจ้าค่ะ ท่านลุงบอกว่าท่านแม่ไม่เคารพผู้อาวุโส ลบหลู่ท่านป้าสะใภ้”“ผู้อาวุโส? หากลำดับดูแล้วมารดาของนางเป็นบุตรีในภรรยาเอกของท่านอาจารย์ ส่วนฮูหยินของท่านเป็นสะใภ้ของบุตรชายจากภรรยารอง ท่านเสวี่ยดูเหมือนท่านจะลำดับความอาวุโสผิดไปหน่อยนะ”“เป็นกระหม่อมที่เลอะเลือน ขอท่านอ๋องโปรดอภัย”“พี่ชายกล่าวผิดแล้ว หากท่านแม่เป็นผู้อาวุโสของจวนทำไมท่านป้าสะใภ้ถึงได้จัดเรือนเล็กด้านหลังให้พวกเราพัก ไม่ใช่เรือนหลักด้านหน้าเล่าเจ้าคะ”“โอ้ว! ยังให้อยู่ที่เรือนเล็กด้านหลังด้วย กฎบ้านท่านเสวี่ยช่างเยี่ยมยอดจริงๆ”“ข้าเองก็คิดเหมือนพี่ชาย กฎบ้านเสวี่ยยอดเยี่ยมมากจริงๆ บางเรื่องก็ชวนให้ข้ารู้สึกสับสน”“รู้สึกสับสนอย่างนั้นหรือ”รุ่ยอ๋องเอ่ยถามเสียงสูง พลางหันมามองเด็กหญิงตรงหน้าในใจนึกอยากรู้ว่าอีกฝ่ายยังมีละครฉากใดที่ต้องการแสดงให้เขาดูอีก“เจ้าค่ะ ตอนที่ข้ากับท่านแม่มาถึงท่านลุงใหญ่ถามถึงสินเดิมและสมบัติของตระกูลเมิ่งบอกว่าเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว แต่พอข้าบอกว่าตระกูลเมิ่งไม่มีทรัพย์มีเพียงหนี้สิ

  • ชาตินี้ข้าไม่ขอเป็นสตรีตัวแทน   บทที่ 2.1 ทวงคืนสถานะ

    บทที่ 2.1ทวงคืนสถานะเมิ่งหว่านชิงหยุดเท้าที่ริมสระบัว ก่อนจะทอดสายตามองไปยังศาลาแปดเหลี่ยมซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามในความทรงจำเดิมวันนี้ รุ่ยอ๋อง หรือ องค์ชายเก้าหยางเทียนอี้ น้องชายคนโปรดของฮ่องเต้องค์ปัจจุบันจะมาที่จวนเสวี่ยเพื่อคุยเรื่องงานเลี้ยงต้อนรับคณะทูตกับเสวี่ยเกาเยี่ยน ริมฝีปากบางยกยิ้มเจ้าเล่ห์ จดจ้องสายตาไปยังบุรุษวัยยี่สิบต้นๆ ผู้มีรูปร่างโดดเด่น ท่าทีสง่างาม แม้ไม่เคยหน้าแต่เมิ่งหว่านชิงก็คาดเดาได้ในทันทีจะว่าชายผู้นี้จะต้องเป็นรุ่ยอ๋องอย่างแน่นอน เท้าเล็กขยับเตรียมกระโจนลงสระบัว ทว่ากลับถูกอวี้หรุนสาวใช้ข้างกายจับแขนเอาไว้เสียก่อน“คุณหนูจะทำอะไรเจ้าคะ”“สั่งสอนคนที่รังแกท่านแม่ของข้าอย่างไรเล่า”พูดจบก็สลัดแขนจากสาวใช้กระโจนลงสระบัวในทันที โดยจงใจทิ้งตัวให้เสียงกระแทกน้ำดังก้องไปทั่วทั้งสวน เพื่อดึงสายตาของคนในศาลาข้างสระฝั่งตรงข้าม“ช่วยด้วย! ช่วยข้าด้วย!”อวี้หรุนขมวดคิ้วเล็ก นางจำได้ว่าคุณหนูของตนไม่เพียงเชี่ยวชาญการขี้ม้า ยิงธนู ฟันดาบ เรื่องว่ายน้ำนี้ก็ชำนาญไม่แพ้ผู้ใด เหตุใดตอนนี้จึงทำท่าราวกับจะจมน้ำเล่าหรือว่าคุณหนู... นางจะเป็นตะคริวไม่คิดให้มากความอวี้หรุนก

  • ชาตินี้ข้าไม่ขอเป็นสตรีตัวแทน   บทที่ 1.3 กลับบ้านเดิม

    บทที่ 1.3กลับบ้านเดิม“ใกล้ได้เวลาอาหารกลางวันแล้ว ฮูหยินกับคุณหนูโปรดรอสักครู่ ข้าจะไปรับอาหารที่ห้องครัว อวี้หรุนฝากดูแลฮูหยินกับคุณหนูด้วย”“อืม! ไม่ต้องห่วง ข้ารับรองว่าจะไม่ยอมให้ใครแตะต้องฮูหยินกับคุณหนูแน่นอน”อวี้หรุน สาวใช้ติดตามจากจวนแม่ทัพเมิ่งบอกด้วยน้ำเสียงเจือความขุ่นเคืองใจ เมื่อเช้านี้ตอนที่มาถึงจวนตระกูลเสวี่ย เพราะฮูหยินต้องการพบปะพี่น้องเป็นการส่วนตัว นางกับเจียงซินจึงรออยู่ที่ด้านนอก ไม่คาดคิดว่ากลับกลายเป็นเปิดโอกาสให้คนอื่นมารังแกนายทั้งสอง“ข้ากับชิงเอ๋อร์ไม่เป็นอะไร แค่เรื่องเล็กน้อยเท่านั้นเอง”เสวี่ยชิงเยี่ยนสังเกตเห็นสีหน้าไม่พอใจของสาวใช้คนสนิท ก็คาดเดาความคิดนางได้ในทันที เพื่อไม่ให้นางไปก่อเรื่องใหญ่จึงพูดให้อีกฝ่ายรู้สึกผ่อนคลายลง เมิ่งหว่านชิงมองดูอวี้หรุนด้วยสายตารู้สึกผิดอยู่ในที แม้ว่าอวี้หรุนจะมีสถานะเป็นสาวใช้เช่นเดียวกับเจียงซิน ทว่าแท้จริงแล้วนางคือหนึ่งในทหารฝีมือดีของกองทัพตระกูลเมิ่ง เกิดและเติบโตในสนามรบ การต่อสู้ไม่เป็นสองรองใคร ทว่าข้อเสียของนางก็คือนิสัยมุทะลุยอมหักไม่ยอมงอ ยอมตายไม่ยอมถอย สุดท้ายก็ถูกเหลียงฮุ่ยหลินใช้จุดนี้มาเล่นงานแน่

  • ชาตินี้ข้าไม่ขอเป็นสตรีตัวแทน   บทที่ 1.2 กลับบ้านเดิม

    บทที่ 1.2กลับบ้านเดิม“ครอบครัวเดียวกันอะไร น้องสามีเจ้าแต่งออกไปแล้วก็นับเป็นคนนอก อย่าได้มาคิดยุ่งเกี่ยวกับเงินทองในบ้านเชียว ไม่อย่างนั้นแม้แต่ที่ซุกหัวนอนพวกเราก็ไม่อนุญาตให้เจ้าอยู่”เสวี่ยชิงเยี่ยนได้ยินคำดูแคลนของจ้าวซูซินก็กำมือแน่น สองตาแดงก่ำ ตั้งแต่เล็กเพราะนางเป็นบุตรีของภรรยาเอก ส่วนพี่ชายเป็นบุตรชายของภรรยารอง ทำให้ไม่คุ้นเคยสนิทสนมกันอย่างที่พี่น้องควรจะเป็น แต่ที่ผ่านมานางก็มองอีกฝ่ายเป็นพี่ชายเสมอ แม้แต่ตำแหน่งขุนนางขั้นห้าของเขาในตอนนี้ก็เป็นนางที่ร้องขอสามีให้ทูลขอพระราชทานมาให้ ไม่คิดว่าสุดท้ายกลับได้รับผลตอบแทนเช่นนี้“ตามกฎหมายของต้าเซี่ยเล่มที่สามสิบสอง บทที่หก กล่าวว่าหากสามีตาย ไร้ญาติผู้ใหญ่ให้พึ่งพา ไร้บุตรชายให้พึ่งพิง สตรีต้องกลับคืนตระกูลเดิม สัดส่วนสมบัติและมรดกก็จะถูกจัดแบ่งอย่างเหมาะสมเท่าเทียมกับบุตรคนอื่น ๆ พี่สะใภ้เล่าเรียนในหอเฟยเซียนมาหลายปีเรื่องพวกนี้หลงลืมไปหมดแล้วหรือ”เสวี่ยชิงเยี่ยนในอดีตไม่เพียงเป็นบุตรีภรรยาเอกของท่านราชครู ยังนับเป็นสตรีอันดับหนึ่งที่ผู้คนยกย่อง ด้วยเพียบพร้อมทั้งศักดิ์ฐานะ มารยาท คุณธรรม และความรู้ หากไม่เพราะมีใจรักมั่

  • ชาตินี้ข้าไม่ขอเป็นสตรีตัวแทน   บทที่ 1.1 กลับบ้านเดิม

    บทที่ 1.1กลับบ้านเดิมเมิ่งหว่านชิง มองดูภาพเบื้องหน้าที่ค่อย ๆ ชัดเจน แล้วแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตนเอง“เสวี่ยชิงเยี่ยนพาบุตรสาวกลับบ้านเดิม คารวะพี่ใหญ่ พี่สะใภ้”กลับบ้านเดิม นี่ไม่ใช่เหตุการณ์เมื่อสองปีก่อนที่นางจะแต่งเข้าจวนตระกูลเกาหรืออย่างไร ริมฝีปากของเมิ่งหว่านชิงในวัยสิบสี่ปียกยิ้มกว้างดูเหมือนข้าจะย้อนเวลามาอย่างนั้นสินะหัวใจของนางเต้นระรัวความยินดีเอ่อล้นอยู่ในอก ได้เกิดใหม่อีกครั้ง ชาตินี้ข้าไม่ขอเป็นสตรีตัวแทนผู้ใด ความแค้นในชาติก่อนข้าจะทวงคืนกลับทั้งต้น ทั้งดอก!หากแต่ไม่ทันได้รื้อฟื้นความทรงจำในอดีตเพิ่มเติมเสียงของสตรีเบื้องหน้าก็ดังขึ้น“ชิงเยี่ยน รีบลุกขึ้นเถิด เดินทางไกลเหนื่อยหรือไม่ เสี่ยวถิงยังไม่รีบรินน้ำชาให้น้องสามีข้าอีก โอ้ว! นี่คงเป็นชิงเอ๋อร์ของพวกเราใช่หรือไม่ งดงามแต่เยาว์วัยเหมือนเจ้าไม่มีผิด”เมิ่งหว่านชิงถูกพาดพิงถึงก็จดจำได้ในทันที สองสามีภรรยาตรงหน้านี้ก็คือ เสวี่ยเกาเยี่ยน และ จ้าวซูซิน ลุงและป้าสะใภ้ของนางนั่นเองหึ! ล้วนเป็นพวกหน้าซื่อใจคดในอดีตสองสามีภรรยาบ้านเสวี่ยคู่นี้แสร้งทำดี ตีสองหน้า จนมารดาของนางไว้วางใจนำสมบัติเก้ารุ่นของตระกูลเม

  • ชาตินี้ข้าไม่ขอเป็นสตรีตัวแทน   บทนำ หวนคืน

    บทนำหวนคืน“เกาอู๋ฮั่น ท่าน... แค่ก!”น้ำเสียงแผ่วเบาสั่นเครือเอ่ยถาม ก่อนที่จะกระอักเลือดออกมา แต่แม้จะบาดเจ็บปางตายนางก็ยังคงจดจ้องรอคอย... รอคอยคำอธิบายจากชายผู้เป็นสามี ดวงตาคมแดงก่ำจดจ้องใบหน้าของเขาด้วยความปวดร้าวผิดหวัง ในขณะที่สองมือสองเท้าถูกมัดเอาไว้หากแต่อีกฝ่ายกลับทำเพียงยกยิ้มดูแคลน สาวเท้าเข้ามาประชิดแล้วใช้ดาบในมือแทงเข้าที่กลางอกของนาง ด้วยสายตาเยือกเย็น“อั๊ก! ทะ... ทำไมถึงได้...”“ทำไมน่ะหรือ... เมิ่งหว่านชิง สตรีใจทรามหยาบช้าเช่นเจ้า กล้าถามคำถามนี้กับข้าอย่างนั้นหรือ”สตรีใจทรามหยาบช้า คิ้วเรียวเล็กขมวดมุ่น ความเจ็บปวดจากคมดาบเมื่อครู่เทียบกับประโยคนี้ของเขาแล้ว กลับสร้างความเจ็บปวดให้นางมากกว่านับร้อยนับพันเท่า“เกาอู๋ฮั่น เจ้ามันคนไร้คุณธรรม สามปีก่อนข้าก้าวเท้าเข้าจวน ยังไม่ทันเข้าประตูเรือนหอ มารดาของเจ้าก็ร้องขอให้ข้าออกรบแทนเจ้า เจ้าไม่เพียงไม่สำนึกบุญคุณของข้า ยังกล้าร่วมมือกับสตรีหน้าหนาผู้นี้ทรยศข้า!”เมิ่งหว่านชิงตวัดสายตามองไปทางสตรีที่ยืนข้างกายเขา กู้ฮวาหลัน พี่สาวบุญธรรมของนาง“ก่อนหน้านี้เป็นข้าที่ตาบอด ถึงได้มองสตรีงูพิษเช่นเจ้าไม่ออก”“สตรีงูพิษ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status