หน้าหลัก / รักโบราณ / ชายาขี้เหร่นี้เป็นของท่านนะเจ้าคะ / บทที่ 4 ตกเป็นของเขาอีกครั้งจนได้ nc

แชร์

บทที่ 4 ตกเป็นของเขาอีกครั้งจนได้ nc

ผู้เขียน: Lovedee
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-17 23:40:38

เมื่อท่านอ๋องรุ่ยหยางเปิดประตูเข้าไปในห้องนั้นอีกครั้ง เขาก็ตกใจจนหน้าซีด เฟยฮวายืนตะลึงอยู่หน้าประตู น้ำตาของนางไหลรินลงมาช้าๆ นางห่อกายด้วยผ้าผวยผืนที่เขาเอาคลุมกายนางนั่นเอง เพราะนางไม่มีเวลาสวมอาภรณ์เพราะเมื่อได้ยินเสียงพูดคุยหน้าห้องเป็นเสียงของชายหลายๆคน

นางจึงเอาหูไปแนบประตูห้องนั้น ฟังตั้งแต่ต้นจนจบจึงเข้าใจเรื่องราวโดยละเอียดว่าสาเหตุที่ท่านอ๋องรุ่ยหยางมาพูดคุยตีสนิทกับนาง หลอกนางว่าจะคบหากับนาง และนัดนางมาเพื่อกินอาหารกันนั้น มันเป็นแผนการณ์ที่จะเผด็จศึกนางเพื่อของเดิมพันเป็นม้าชั้นดี จำนวนห้าตัว ที่เหล่าองค์ชายจะให้ท่านอ๋องรุ่ยหยางเมื่อทำภารกิจสำเร็จ นางอึ้งงันไปพักใหญ่เมื่อรู้ความจริงทั้งหมด น้ำตาของนางไหลพรากลงมาทันที นางสะอื้นไห้เสียงดัง เมื่อท่านอ๋องรุ่ยหยางกลับเข้าห้องมาแล้ว นางก็ตรงเข้าทุบตีเขาไม่ยั้งด้วยความเจ็บใจเหลือแสนที่เขาเห็นความรู้สึกนางเป็นเพียงการพนันขันต่ออย่างสนุกสนานกับเหล่าพี่น้องของเขาเท่านั้น 

ท่านอ๋องเจ็บกายไปหมดเพราะนางทุบตีเต็มแรงของนาง เขาตกใจจึงสะบัดนางจนล้มลงกับพื้นห้อง “ เจ้าบ้า กล้าที่จะหลอกลวงข้าขนาดนี้ เห็นความรักของข้าเป็นเรื่องตลกในหมู่พี่น้องของท่าน ถึงกับเอามาเดิมพันที่จะเชยชมร่างกายของข้าเล่นๆ เพียงเพื่อของเดิมพันเป็นม้าห้าตัวเท่านั้น ชีวิตและความสาวของข้ามีค่าแค่ม้าห้าตัว และยังต่ำต้อยกว่านางโลมด้วยซ้ำไป เพราะท่านคงเสพสุขกับข้าแทบไม่ลง เพราะพี่น้องของท่านยังไม่เชื่อว่าท่านจะกล้าพาข้าขึ้นเตียง ยังคิดว่าท่านจะหลอกลวงพวกเขาโดยการพานางโลมมาเข้าห้องแทนข้า จึงได้ใช้เวลายาวนานเช่นนี้ ข้าเพิ่งรู้ว่าในสายตาของพวกท่านคุณหนูอย่างข้ามีค่าต่ำต้อยยิ่งกว่านางโลมคนหนึ่ง ” นางร้องไห้ออกมา และต่อว่าเขาไม่หยุด  โดยมิเกรงกลัวว่าพวกเขาเป็นราชวงศ์จะล่วงเกินมิได้ เป็นเพราะตอนนี้นางโมโหจนขาดสติเลยมิเกรงกลัวสิ่งใด 

ขณะที่นางต่อว่าเขา สายตาของอ๋องรุ่ยหยางมองนางไปทั้งตัวเพราะผ้าผวยของนางหล่นลงไปไกลจากตัวนาง ตอนนี้ร่างนางเปลือยเปล่าขาวผ่อง ขาวอวบนวลเนียนไปทั้งร่างแม้มันจะอวบมากแต่มันก็น่าขยำ้เหลือเกิน เขากลืนน้ำลายลงคอ แล้วกระโจนเข้าหานางทันที " เมื่อเจ้าคิดว่าเจ้ามีค่าเพียงนางโลม ถ้าเช่นนั้นก็ปรนนิบัติข้าอีกครั้งก็แล้วกัน คงจะหายเหนื่อยแล้วใช่หรือไม่ จากนั้นเขาก็ประกบจูบนางอีกครั้งอย่างดูดดื่ม นางพยายามหันหน้าหนีเขาก็จับศีรษะนางไว้ไม่ให้หันหน้าหนีเขาไป 

นางจึงจำต้องปล่อยให้เขาจูบไป จนในที่สุดนางก็ยอมจูบตอบเขาอย่างเร่าร้อน และจากนั้นใบหน้าหล่อคมคายก็ก้มลงไล้เลียอกอวบใหญ่เต็มมือของเขานั้นอย่างเมามัน เขาดูดดึงผลอิงเถาสองลูกนั้นไปมาอย่างดูดดื่ม ดูดมันจนร่างอวบแอ่นหลังขึ้นจนโค้งเพราะความเสียวซ่าน จากนั้นเขาก็สอดลำกายแกร่งที่มันพรักพร้อมแล้วนั้นเข้าไปในร่องอวบของนางทันทีมิดลำกาย แล้วโยกขย่มนางบนพื้นนั้นอย่างเร่าร้อน เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังก้อง ทั้งสองร้องครวญครางผสานกันอีกครั้ง จนองค์รักษ์สองคนของเขาที่ยังยืนเฝ้าหน้าห้องหันมามองหน้ากัน เพราะมิเคยสักครั้งที่ท่านอ๋องได้เชยชมหญิงใดแล้วจะยาวนานเช่นนี้ ส่วนมากเมื่อเสร็จสมแล้วก็จะกลับจวนเลย หรือให้หญิงนั้นออกจากห้องไป มิเคยยาวนานอย่างนี้มาก่อน 

ทั้งสองผลักกันรุกผลักกันรับอย่างเร่าร้อน เขาพลิกกายนางไปมาหลายท่าทาง ทั้งพานางไปเที่ยวชมห้องนั้นจนทั่วมิเว้นแม้ริมหน้าต่างที่อาจมีผู้เงยหน้าขึ้นมาเห็นได้ เพลงรักของพวกเขารุนแรงเร่าร้อนเหมือนโหยหากันมานาน และเพิ่งหากันพบเช่นนั้น จากนั้นต่างช่วยกันบรรเลงเพลงรักนั้นจนกระทั่งรุ่งสางของอีกวันหนึ่ง จึงได้หมดแรงล้มตัวลงนอนกอดกันแน่นบนพื้นนั้น 

เฟยฮวาสะดุ้งตื่นขึ้นมาหลังหลับไปได้เพียงชั่วยาม นางผุดลุกขึ้น แล้วค่อยๆเก็บอาภรณ์ของตนขึ้นมาสวมอย่างเร่งร้อน นางพลาดไปแล้ว กลายเป็นของเล่นของชายที่มิคิดจะจริงจังกับนาง เขาเพียงพนันขันต่อกับพี่น้องของเขาเพียงเท่านั้น เมื่อได้สมใจของเขาแล้วก็คงคิดจะทอดทิ้งนาง

แต่นางนั้นตาสว่างแล้ว นางคิดได้แล้ว ว่าหญิงขี้เหร่ที่บรรดาพี่น้องของเขาใช้เรียกนางนั้น จะมีชายใดอยากจะได้มาเป็นคนรัก หรือยิ่งภรรยายิ่งมิมีทาง วันนี้นางต้องขอบคุณที่เขาช่วยให้นางเติบโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นในพริบตา นางมองโลกในแง่ดีและสวยงามเสมอ บางครั้งมันสวยจนเกินไปจนไม่มองความเป็นจริง ตอนนี้นางรู้แล้วว่าการแอบรักคนที่สูงศักดิ์เกินไป หล่อเหลาเกินไป เราจะต้องดูตัวเราด้วยว่าคู่ควรและมันเป็นไปได้หรือไม่ ในความเป็นจริง เพราะผู้อื่นจะเห็นเราเป็นตัวตลกที่พวกเขาเห็นเป็นเรื่องขบขับของพวกเขา จนเกิดกันพนันขันต่อกันสนุกสนานเยี่ยงนี้  

เมื่อคิดได้ดังนั้น นางรีบเดินออกจากห้องนั้นไปอย่างรวดเร็ว แล้วเปิดประตูห้องออกพบกันใบหน้าของชายสองคนที่ยืนอยู่ที่หน้าห้องนั้น คงจะเป็นองครักษ์ของเขานั้นเอง “ คุณหนู เอ่อ…ท่านอ๋องอนุญาติให้ไปได้แล้วหรือขอรับ ” นางพยักหน้าน้อยๆมิอยากพูดอันใดกับพวกเขา “ แล้วสาวใช้ของข้าล่ะนางอยู่ที่ไหน ” สององครักษ์มองหน้ากัน แล้วชี้มือไปที่ห้องถัดไปอีกสองห้อง เฟยฮวาจึงรีบเดินตรงไปเปิดประตูเดินเข้าไปในห้องนั้นเห็นเผยอันนอนหลับคุดคู้อยู่บนพื้น นางรีบเขย่าตัวสาวใช้ขึ้นมา เผยอันตกใจตื่นขึ้นเมื่อมองเห็นคุณหนูยืนมองนางอยู่ จึงรีบผุดลุกขึ้น กำลังจะอ้าปากถามเรื่องราว 

แต่เฟยฮวาส่ายหน้าน้อยๆให้นาง แล้วเอ่ยว่า" รีบไปกันเถอะ มีอะไรไปพูดกันที่จวน ป่านนี้ท่านพ่อคง  ตามหาข้าแล้ว " จากนั้นทั้งสองก็รีบออกมาจากห้องนั้น แล้วรีบเดินกลับลงไปจากชั้นบน เมื่อถึงด้านล่างก็รีบลงมาแล้วมองหารถม้าของนาง นางเพิ่งนึกได้ว่ารถม้ามาส่งแล้วรออยู่ด้านล่าง แล้วคนขับจะไปที่ไหนแล้ว

ป่านนี้ท่านพ่อจะว่าอย่างไรบ้าง ขณะนางกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น รถม้าของนางก็แล่นมาจอดตรงหน้าพอดี บ่าวชายคนขับเอ่ยขึ้นว่าเขานอนรอคุณหนูที่บนรถม้า จอดรอที่ข้างถนนเยื้องกับโรงเตี้ยมจนหลับไป ตื่นมาคุณหนูก็ยังไม่ออกมาเขาไม่กล้ากลับไปโดยไม่มีคุณหนู จึงนอนรอจนหลับไปอีก เพิ่งตื่นขึ้นมาตอนคุณหนูออกมาชะเง้อมองหา เขาเห็นพอดีจึงรีบขับรถม้ามารับ เฟยฮวาพยักหน้าให้เขา แล้วรีบพากันขึ้นรถกลับจวนเสนาบดีทันที เพราะเป็นห่วงท่านพ่อจะตามหานางกันให้วุ่นวายแล้ว 

เมื่อนางมาถึงจวนเสนาบดี นางบอกว่านางไปกินอาหารที่โรงเตี้ยมกับสหายแล้วเผลอนอนหลับไปจนรุ่งเช้าอีกวันแล้ว สหายกลับไปก่อนแล้วตั้งนานแล้วแต่ไม่ยอมปลุกนาง จึงได้มาถึงจวนช้า บิดาดุว่านางอย่างมากเพราะเป็นห่วง แต่เขาก็ใจอ่อนยวบทันทีที่เห็นหน้าหมอง ๆ ของนาง คิดว่านางถูกเขาดุจึงเศร้าซึมเช่นนี้ แต่ที่จริงนางเศร้าใจในเรื่องอื่นแต่มิกล้าบอกให้ท่านพ่อรู้ กลัวจะกลายเป็นเรื่องใหญ่

นางคิดว่าสิ่งที่เสียไปแล้วก็ให้มันแล้วไป เพราะเรื่องนี้นางก็มีส่วนผิดที่ใจง่ายและเชื่อใจคนง่ายเกินไป ทำให้เกิดเรื่องขึ้น ต่อไปนางก็จะได้เก็บมันไว้เป็นบทเรียนราคาแพง นางจะมิยุ่งเกี่ยวกับบุรุษง่ายๆอีกแล้ว นางจะมิหลงรักใครง่ายๆเพราะเห็นว่าเขาหล่อเหลา เขาท่าทางดี เขาเป็นผู้สูงศักดิ์ อีกแล้ว นางเข็ดแล้วจริง ส่วนเรื่องชายผู้นั้นนางจะลืมเขาไปให้เร็วที่สุด นางต้องขอบคุณเขาด้วยซ้ำที่นางจะได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้น มิคิดอะไรตื้นๆเช่นเด็กๆอีกแล้ว จะได้มองโลกตามความเป็นจริงว่าบางครั้งโลกมันก็โหดร้ายกับเรา ไม่ใช่จะมีแต่เรื่องดีๆเสมอไป 

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ชายาขี้เหร่นี้เป็นของท่านนะเจ้าคะ    บทที่ 25 ทุกอย่างล้วนลงตัว

    ตำหนักของท่านอ๋องรุ่ยหยางผ่านไปสามปี คึกคักยิ่งกว่าเดิมมาก พระชายาเฟยฮวาคลอดบุตรีออกมาอีกหนี่งคน คราวนี้สมใจบิดาของนางยิ่งนักที่ในที่สุดจะได้ท่านหญิงน้อยๆเสียที เพราะเขาชมชอบบุตรสาวตัวอ้วนๆ ที่จะมาวิ่งไล่ตามเขาต้อยๆ แล้วเรียกเขาว่าท่านพ่อเจ้าคะ มานานแล้ว แม่นมฟางตอนนี้ก็วุ่นวายเรื่องท่านหญิงตัวน้อย แต่ก็ได้พี่เลี้ยงที่คล่องงานแล้วสองนางมาช่วยกันดูแล นางแค่เฝ้ามองดูเท่านั้น ส่วนท่านชายน้อยก็วิ่งเล่นไปมาในตำหนักอย่างซุกซนยิ่งนัก ต้องมีพี่เลี้ยงคอยดูแลถึงสองคน เพราะท่านชายน้อยๆคนนี้ชอบปีนป่ายต้นไม้อย่างยิ่งพระชายาเฟยฮวาเมื่อท้องแก่ต้องคอแหบคอแห้งร้องเรียกท่านชายน้อยให้ลงมาจากต้นไม้เมื่อยามที่ทุกคนเผลอเขาก็จะตะกายขึ้นไปบนต้นไม้จนได้ ตอนนี้พระชายาพักฟื้นจากการคลอดจึงเป็นเผยอันที่ต้องคอยมาประกบท่านชายกับพี่เลี้ยงอีกสองคน เขาวิ่งเล่นอย่างรวดเร็วมากยิ่งมีพี่เลี้ยงคอยวิ่งไล่ตาม เขาก็จะสนุกสนานที่จะวิ่งหนี แต่อีกอย่างเขาชอบฝึกวิทยายุทธเป็นอย่างยิ่ง เขามักจะขอให้องครักษ์ของบิดาสอนเขา เขาจึงค่อนข้างจะเก่งกาจกว่าเด็กเล็กในวัยเดียวกันบางครั้งวิ่งซนและเหาะไต่ขึ้นไปบนที่ต่างๆตำหนัก ทำให้ข้าวของแตก

  • ชายาขี้เหร่นี้เป็นของท่านนะเจ้าคะ    บทที่ 24 เกลียดกันเช่นไร nc

    แม้แต่ริมหน้าต่างก็มิเว้นที่จะพากันไปสำรวจ จนมาจบลงที่พื้นห้อง ฟางหรงโยกขย่มร่างหนาอย่างร่านรัก แม่ทัพฉีก็อ้าปากดูดดึงยอดอกสีแดงระเรื่อที่ส่ายไปมาเหมือนยั่วยวนเขานั้นอย่างเมามัน เสียงเขาครางกระหึ่มในลำคอหนานั้น เขารู้สึกสุขสมเกินจะบรรยาย ดวงตาคมมองใบหน้ายั่วยวนของนางอย่างหลงไหล มือหนาบีบเค้นไปตามร่างกายอวบอิ่มของนางอย่างมันเขี้ยว เขาบีบสะโพกอวบอัดนั้นจนมันขึ้นสี และกระแทกนางอย่างเมามัน ทั้งสองลืมวันเวลาต่างผลัดกันโยกขย่มกันเช่นนั้นเมื่อเหนื่อยก็ผล็อยหลับไป แล้วตื่นมาโยกขย่มกันในอ่างอาบน้ำใบใหญ่นั้นอีก อย่างเร่าร้อน ทั้งสองจูบกันอย่างดูดดื่ม “ ท่านพี่เจ้าขา ยังคิดว่าข้าด้อยกว่าเฟยฮวาอีกหรือไม่ ถ้าท่านคิดเช่นนั้นข้าจะไปหาบุรุษอื่นเพื่อพิสูจน์ดูว่าข้านั้นเด็ดกว่าหญิงเช่นเฟยฮวา ” นางเอ่ยขึ้นเหลียวมองใบหน้าคร้ามคมที่จ้องนางอยู่นั้น ขณะนั้นร่างหนากำลังขย่มนางอยู่ทางด้านหลัง เขาบีบสะโพกนางอย่างมันมือ “ ไม่แล้ว เมียรัก เจ้าเด็ดดวงที่สุด ข้าทั้งหลงทั้งรักเจ้าแต่เพียงผู้เดียว แต่ห้ามขาดที่เจ้าจะไปพิสูจน์กับบุรษอื่นอีก เพราะเจ้าเป็นเมียของข้าแล้ว ข้าจะรีบตบแต่งเจ้าให้เร็วที่สุด ” ร่างหนาเอ่ยขึ้

  • ชายาขี้เหร่นี้เป็นของท่านนะเจ้าคะ    บทที่ 22 ตกกะไดพลอยโจร nc

    หลังยามซื่อ (สิบโมงเช้า ) คนของจวนคหบดีเจีย ก็พาคหบดีเจียมาที่โรงเตี้ยมที่เมื่อวานบุุตรีของเขามาลงรถม้าที่หน้าโรงเตี้ยมตามที่บ่าวที่ขับรถม้าบอกเขาในเช้าวันนี้ เพราะเมื่อวานเขาก็เมามายมากเพราะดื่มมาจากงานเลี้ยงฉลองแต่งงานของท่านอ๋องรุ่ยหยาง เมื่อกลับถึงจวนเขาจึงเข้านอนทันที มิได้ถามไถ่ถามบุตรสาวว่ากลับมาถึงจวนแล้วหรือยัง แต่เมื่อตอนเช้านี้ สาวใช้ของนางเดินเข้ามาบอกเขาว่าคุณหนูมิได้กลับมาที่จวนเลยทั้งคืน เขาจึงได้เรียกคนขับรถม้ามาสอบถาม พบว่าเมื่อวานนางให้ไปส่งที่หน้าโรงเตี้ยมกวงไถ่ แล้วนางก็เดินเข้าไปในโรงเตี้ยมแห่งนั้น สายๆวันนี้เขาจึงได้มาตามหานางด้วยตนเองเพราะเป็นห่วงนางเหลือเกินว่านางไปอยู่เสียที่ไหน เขาพอจะรู้ว่านางหลงรักท่านอ๋องรุ่ยหยาง คิดว่านางคงจะเสียใจยิ่งที่ท่านอ๋องรุ่ยหยางแต่งงานไปแล้วกับหญิงอื่น เขาคิดไปว่านางคงจะไปดื่มเหล้าจนเมามายแล้วกลับจวนมิได้จึงได้นอนค้างที่โรงเตี้ยมแห่งนั้น เพราะเขารู้ว่าโรงเตี้ยมแห่งนั้นมีห้องพักให้เช่าราคาแพงพอสมควรเพราะเป็นโรงเตี้ยมชั้นดี คนที่มาใช้บริการย่อมมีแต่พวกขุนนางและคหบดีหรือเป็นพวกราชวงศ์เท่านั้นที่จะมีเงินพอที่จะจ่ายค่าที่พักและค่าอาห

  • ชายาขี้เหร่นี้เป็นของท่านนะเจ้าคะ    บทที่ 22 เรื่องมันเศร้า เอ้า..ชน nc

    เมื่อแม่ทัพฉีเจียอีและคุณหนูฟางหรงนั่งลงบนเก้าอี้หน้าโต๊ะตัวกลมใหญ่หน้าห้องนั้น เสี่ยวเอ้อได้นำสุราที่เหลืออยู่ของทั้งสองและกับแกล้มของพวกเขาขึ้นมาวางบนโต๊ะให้ด้วย ทั้งสองยกไหสุราซดกันต่อและตบไหล่ปลอบใจกันไปมาอย่างมิใครร่จะรู้เรื่องนัก จากนั้น เมื่อเมาได้ที่แม่ทัพฉีก็ลุกขึ้นถอดเครื่องแต่งกายของตนเองออกแล้วบ่่นออกมาว่าร้อนเหลือเกินฝ่ายเจียฟางหรงเห็นแม่ทัพฉีเจียอีถอดเครื่องแต่งกายออก นางก็ลงมือถอดของตนเองออกบ้างจนกระทั่งทั้งสองท้ากันว่าใครจะถอดอาภรณ์ได้เร็วกว่ากัน จนกระทั่งทั้งสองกายเปลือยเปล่าทั้งคู่ แม่ทัพฉีจ้องมองกายอวบขาวผ่องตรงหน้าเขาตะลึงงัน และมองใบหน้านางซ้อนไปมากับเฟยฮวา เขาหลงลืมตนไปชั่วครู่ จึงได้ดึงใบหน้าของเจียฟางหรงเข้ามาแล้วประกบจูบนางอย่างดูดดื่มทันทีฝ่ายเจียฟางหรงนางมองใบหน้าหล่อเหลานั้นแล้วนึกไปถึงท่านอ๋องรุ่ยหยาง แล้วก็คิดไปว่าบุรุษที่จูบนางอย่างดูดดื่มนี้คือท่านอ๋องรุ่ยหยาง นางจึงยกแขนเรียวนั้นขึ้นโอบรอบคอหนานั้นอย่างเต็มใจ คืนนี้นางจะแสดงฝีมือให้ท่านอ๋องรุ่ยหยางดูว่านางก็งดงามและเร่าร้อนไม่แพ้กับเฟยฮวาเช่นกัน จากจูบดูดดื่มนั้นกลายเป็นเร่าร้อน แม่ทัพจูบนางจนพอใจ

  • ชายาขี้เหร่นี้เป็นของท่านนะเจ้าคะ    บทที่ 21 งานแต่งงานกับศาลาคนเศร้า

    งานแต่งของท่านอ๋องรุ่ยหยางและเฟยฮวามิได้เอิกเกริกนัก เพราะเฟยฮวามิอยากให้งานใหญ่นัก เพียงจัดให้ถูกต้องตามประเพณีก็เพียงพอแล้ว ทางวังหลวงส่งคนมาจัดการเรื่องงานให้ทั้งหมด คนจากในวังมาจัดการงานต่างๆตั้งแต่เริ่มจนกระทั่งเสร็จสิ้น ราชวงศ์และขุนนางน้อยใหญ่ รวมถึงคหบดีทั้งหลายก็มาร่วมงานนี้ ต่างพากันนำของขวัญมาอวยพรท่านอ๋องและพระชายากันอย่างคับคั่งแม้มิได้เชิญแขกเหรื่อมากมาย แต่จำนวนแขกก็ยังมากมายอยู่ดีในงานมีอาหารและสุราชั้นดีเลี้ยงอย่างไม่อั้น มีคนนำหมูหัน และเป็ดย่างจำนวนมากมายมาให้เพื่อเลี้ยงแขกในงาน รสชาติของมันดังเช่นอาหารเหลาชั้นดี ในงานนั้นมีแต่เสียงอวยพรกันไม่ขาดสาย แขกเหรื่อต่างยกจอกขึ้นดื่มอวยพรท่านอ๋องรุ่ยหยางจนเขาต้องยกจอกขึ้นรับการดื่มอวยพรนั้นจนกระทั่งเมามายไม่น้อย ในโต๊ะกลมตัวใหญ่ที่เป็นโต๊ะของคหบดีเจีย มีร่างของเจียฟางหรงนางนั่งดื่มสุราแล้วแอบเช็ดน้ำตาป้อยๆ นางไม่คิดเลยว่าท่านอ๋องจะแต่งงานอย่างรวดเร็วเช่นนี้ มิทันรู้ตัวท่านอ๋องก็จััดงานแต่งงานและมีพระชายาเรียบร้อยแล้ว นางคาดหวังไว้มากว่านางคงจะมีโอกาสได้เป็นพระชายาของท่านอ๋องในสักวันหนึ่ง เมื่อก่อนนางก็เคยรู้้มาว่าเฟยฮวาบ

  • ชายาขี้เหร่นี้เป็นของท่านนะเจ้าคะ    บทที่ 20 ฟางเหนียงย้ายออกไป

    องค์ชายทั้งสองเห็นด้วยกับจึงแม่นมฟางเอ่ยขึ้นว่า “ เรื่องเพียงเท่านั้นมิต้องกังวล ข้ากับเจ้าห้าจะซื้อจวนเล็กๆให้นางอยู่เป็นส่วนตัวและจะให้ทรัพย์สินกับนางพอประมาณให้นางไว้เลี้ยงตนในอนาคต และให้นางอยู่ในฐานะหญิงอุ่นเตียงของพวกข้า ไม่ต้องห่วงเรื่องความเป็นห่วงของนางในตอนนี้และอนาคต หากมีสิ่งใดเปลี่ยนแปลงไป พวกข้าจะจัดการมอบทรัพย์สินไว้ให้นางเอาไว้เลี้ยงตนมิให้ต้องลำบาก เพราะได้ชื่อว่าเคยเป็นเมียของพวกข้ามาก่อน ย่อมมิต้องลำบากอย่างแน่นอน ” องค์ชายสามเอ่ยขึ้นและองค์ชายห้าพยักหน้าสนับสนุนความคิดเห็นของเขา เมื่อตกลงกันได้แล้ว แม่นมฟางโบกมือให้ทุกๆคนออกไปจากห้องนั้น แล้วนางก็ตามออกไปแล้วหันมาปิดประตูตามหลังไว้เพราะเกรงว่าสาวใช้คนอื่นๆ ที่ผ่านไปมาจะมองเข้าไปเห็นคนด้านใน แม่นมฟางเดินกลับเรือนตนเองไป ในใจก็ครุ่นคิดเรื่องที่เกิดขึ้นกับหลานสาว แล้วนางก็ถอนหายใจออกมาดังๆ เฮ้อ !! ช่างมันเถอะ ในเมื่อข้าวสารกลายไปเป็นข้าวสุกเสียแล้ว อย่างน้อยถ้าจะยัดเยียดหลานสาวของตนให้ท่านอ๋องรุ่ยหยางก็คงยากที่จะสำเร็จ เพราะท่านอ๋องมิเคยมองหลานสาวของนางเลยด้วยซ้ำแถมเมื่อคืนหญิงผู้นั้นไม่อยู่แค่เพียงคืนเดียวก็วิ่งโร

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status