แชร์

บทที่ 3 ย้อนเวลากลับมา

ผู้เขียน: องค์หญิงโนเนม
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-04-05 20:24:10

แคว้นผิงเป่ย

รัชศกผิงอันปีที่ห้าสิบ

"คุณหนูรองเจ้าคะ ตื่นเถอะเจ้าค่ะ ตอนนี้สายมากแล้ว หากท่านยังไม่ยอมตื่นฮูหยินใหญ่ต้องตำหนิท่านอีกเป็นแน่!!! คุณหนูรอง!!!"

เสียงเรียกที่คุ้นหูทำให้เสี่ยวจิ่วฮวาค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมา นางขมวดคิ้วมุ่น ดวงตาคู่สวยกลอกกลิ้งไปมาพลางมองดูไปโดยรอบ ก่อนจะครุ่นคิดในใจ

ข้าตายแล้วหรือนี่ แล้วที่นี่คือที่แห่งหนใดกัน?

"คุณหนู รีบตื่นเถอะเจ้าค่ะ"

เสียงเรียกที่คุ้นเคยดังขึ้นอีกครั้ง ทำให้เสี่ยวจิ่วฮวาต้องหันไปมอง ก่อนจะพบกับสาวใช้ของนางนั่นก็คือหูเป่า เสี่ยวจิ่วฮวาลุกพรวดขึ้นมานั่ง ก่อนจะมองไปโดยรอบด้วยความตื่นตระหนก

ที่นีี่มัน?

ห้องนอนของข้ามิใช่หรือ?

ก่อนหน้านี้นางพลัดตกหน้าผาและขาดใจตายไปแล้ว พี่สาวพี่ชาย ท่านแม่ล้วนตายสิ้น ส่วนท่านพ่อก็ไม่ได้พบหน้ากันอีกตลอดกาล แล้วเหตุใดข้าจึงมานอนอยู่ในห้องนอนตนเองยามนี้ได้เล่า?

ยิ่งคิดเสี่ยวจิ่วฮวาก็ยิ่งปวดหนึบที่ศีรษะ นางยกมือขึ้นกุมศีรษะตนเอง พยายามครุ่นคิดเท่าใดก็ยิ่งปวดหัวหนักกว่าเดิม หูเป่าที่เห็นท่าทีเช่นนี้ของผู้เป็นนายจึงรีบเอ่ยถาม

"คุณหนูรองเจ้าคะ ท่านเป็นอันใดไป รอสักครู่บ่าวจะนำน้ำอุ่นมาให้ท่านเช็ดหน้า เผื่อว่าจะรู้สึกดีขึ้น"

หูเป่ายังไม่ทันได้ลุกขึ้นก็ถูกเสี่ยวจิ่วฮวาคว้าจับแขนเอาไว้ สาวใช้น้อยหันกลับมามองผู้เป็นนายด้วยแววตาที่หวาดหวั่น นี่มิใช่ว่าเพราะถูกนางปลุกจนทำให้คุณหนูรองอารมณ์เสียแล้วจะพาลมาตบตีนางหรอกนะ

เสี่ยวจิ่วฮวามัวแต่ครุ่นคิดจนไม่ทันสังเกตท่าทีหวาดกลัวของหูเป่าเลยแม้แต่น้อย

"หูเป่า ยามนี้รัชศกใด?"

หูเป่าที่ได้ยินก็ขมวดคิ้วมุ่น นี่คุณหนูรองนอนเยอะไปจนสมองเลอะเลือนไปแล้วหรือ

แม้ในใจจะสงสัยแต่หูเป่ากลับไม่กล้าชักช้ารีบเอ่ยตอบทันที

"รัชศกผิงอันปีที่ห้าสิบเจ้าค่ะ"

รัชศกผิงอันปีที่ห้าสิบอย่างนั้นหรือ?

เสี่ยวจิ่วฮวาลุกพรวดพราดจากเตียงนอน ก่อนจะวิ่งออกไปที่ด้านนอกทันที

เมื่อวิ่งออกมา นางก็มองเห็นว่าตอนนี้ดอกหลานฮวากำลังออกดอกงดงามยิ่งนัก ทั่วทั้งจวนเต็มไปด้วยร่มไม้เขียวขจี ชิงช้าที่ผูกอยู่ใต้ต้นไม้แกว่งไกวไปมาตามสายลม เสี่ยวจิ่วฮวาดวงตาแดงก่ำ ก่อนจะยิ้มออกมาทั้งน้ำตา

รัชศกผิงอันปีที่ห้าสิบ ฤดูใบไม้ผลิปีนั้น ปีที่นางมีอายุเพียงสิบสี่ปี ปีที่ฉินอี๋เหนียงเพิ่งจะตายจากไป ปีที่นางได้รู้ว่าตนเองคือบุตรสาวที่เกิดจากภรรยาเอก ปีที่ยังไม่เกิดโศกนาฏกรรรมเลวร้ายขึ้น!!!

เสี่ยวจิ่วฮวายกมือขึ้นเช็ดน้ำตา อีกทั้งยังหัวเราะออกมาเล็กน้อย ก่อนจะยกมือขึ้นหยิกเอวตนเองเต็มแรงเพื่อให้แน่ใจว่าภาพตรงหน้าไม่ใช่เพียงความฝันตื่นหนึ่งและอาจจะมลายหายไป ความเจ็บทำให้นางได้สติแจ่มชัดมากกว่าเดิม

สวรรค์ สวรรค์ยังเมตตาข้าอยู่ใช่หรือไม่!!!

เสี่ยวจิ่วฮวามองไปยังเรือนใหญ่ ซึ่งเป็นที่อยู่ของมารดาที่แท้จริงของนาง ก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อย พร้อมกับครุ่นคิดในใจ

ท่านแม่เจ้าคะ ลูกกลับมาแล้วเจ้าค่ะ!

เมื่อตั้งสติและรับรู้ได้ว่าสิ่งใดเป็นสิ่งใด เสี่ยวจิ่วฮวาจึงรีบกลับเข้ามาในห้องนอน และสั่งให้หูเป่าเตรียมน้ำมาให้นางล้างหน้า ก่อนจะรีบอาบน้ำและผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าอาภรณ์ทันที เมื่อรับอาหารมื้อเช้าเรียบร้อยแล้ว นางก็รีบไปเรือนใหญ่อย่างไม่รอช้า

เสี่ยวจิ่วฮวาพยายามเก็บความลนลานในใจของตนเองและทำตัวให้เป็นปกติ การย้อนเวลากลับมาในครั้งนี้กระทันหันมากเกินไป นางยังไม่ทันได้เตรียมใจวางแผนตั้งรับสิ่งใดก็พบว่าตนเองได้ตื่นขึ้นมาอีกครั้งในตอนที่ีอายุเพียงสิบสี่ปีเสียแล้ว

เหตุการณ์ใดจะเกิดขึ้นต่อไปนางไม่อาจควบคุมมันได้และยังไม่มีแผนรับมือในตอนนี้ แต่สิ่งที่นางจะทำได้ในตอนนี้ก็คือ การทำตัวใหม่ ทำให้ทุกสิ่งเป็นไปในทางที่ดี ส่วนเรื่องอื่นนั้นค่อยว่ากันเถอะ!!!

เสี่ยวจิ่วฮวามองไปโดยรอบ ตอนนี่ทั่วทั้งจวนบ่าวไพร่กำลังเดินไปมา บ้างก็ไปทำความสะอาดสวน บ้างก็คอยเก็บกวาดเช็ดถูตามส่วนต่างๆ ของเรือน แต่ทว่าเมื่อเหล่าบ่าวรับใช้เห็นนางก็แทบจะไม่กล้าสบตา พากันทำความเคารพและก้มหน้างุด เสี่ยวจิ่วฮวาส่งเสียงเฮอะในลำคอ นางรู้ดีวาเพราะเหตุใดบ่าวรับใช้จึงมีท่าทีหวาดกลัวนางถึงเพียงนี้

ในชาติก่อนนั้นมีสาวใช้น้อยนางหนึ่งมองนาง เพียงแค่มองเท่านั้นแต่นางกลับไม่ชอบใจเสียแล้ว ถึงกับสั่งตบปากสาวใช้น้อยจนเลือดกลบปาก และบอกว่าอย่าคิดมาจ้องมองหน้านาง หัดรู้จักที่ต่ำที่สูงเจียมกะลาหัวเสียบ้าง!!!

เสี่ยวจิ่วฮวาหลับตาลง ก่อนจะครุ่นคิดในใจ

เสี่ยวจิ่วฮวาเอ๋ย เขาก็แค่มองเจ้า ไม่ได้ทำสิ่งใดให้เจ้าเจ็บแค้นขุ่นเคืองใจเลยแม้แต่น้อย!!

หากชาติก่อนข้าคิดได้เช่นนี้ ชีวิตข้าคงไม่จมปลักอยู่กับความทะเยอทะยานและริษยาที่นำพาข้าไปสู่หายนะและความน่าหวาดกลัว

หูเป่าที่เดินตามเจ้านายก็หวาดหวั่นไม่น้อย นางเกรงว่าจะมีสาวใช้บางคนมายั่วโทสะคุณหนูรองเข้าจนเกิดการลงไม้ลงมือแล้วเสี่ยวฮูหยินอาจจะทำโทษคุณหนูรองได้

เสี่ยวจิ่วฮวาเดินมาเรื่อยๆ จนถึงเรือนใหญ่ ในขณะที่กำลังจะเดินเข้าไปด้านในนางก็ชะงักฝีเท้า ก่อนจะหันไปเอ่ยกับสาวใช้ที่ยืนเฝ้าหน้าประตู

"ไปแจ้งท่านแม่ว่าข้ามาแล้ว"

หูเป่าหันขวับมามองเสี่ยวจิ่วฮวาทันที พร้อมกับสงสัยไม่น้อย แต่ไหนแต่ไรหากมาที่เรือนของเสี่ยวฮูหยินคุณหนูรองไม่เคยบอกกล่าว นึกจะเข้าไปก็เข้าไม่สนใจกฎระเบียบหรือสิ่งใด แต่วันนี้กับบอกสาวใช้ให้ไปแจ้งฮูหยินใหญ่ก่อน

หรือว่านอนหลับมากไปจนสติพิกลพิการไปเสียแล้ว!!!

เสี่ยวจิ่วฮวาที่เห็นท่าทีสงสัยของสาวใช้ก็เอ่ยขึ้นมาทันที

"ทำไม ข้าสั่งพวกเจ้าก็ไม่ทำหรือ"

"ทำเจ้าค่ะ!!!บ่าวจะไปเดี๋ยวนี้"

เมื่อสาวใช้เข้าไปแจ้งเสี่ยวฮูหยินแล้ว เสี่ยวจิ่วฮวาก็ปรายตามองหูเป่า ก่อนจะเอ่ย

"เหตุใดทำหน้าเช่นนั้น นี่เจ้ากำลังสงสัยว่าเหตุใดวันนี้ข้าจึงมีมรรยาทมากกว่าทุกวันใช่หรือไม่"

"เอ่อ บ่าวไม่กล้า"

"ปากบอกไม่กล้า แต่แววตาเจ้ามันฟ้อง"

“บ่าวผิดไปแล้วเจ้าค่ะ!!!”

"เอาเถิด!! จะมาบ่าวผิดบ่าวไม่ผิดอันใดกัน ข้าแค่ถามไม่ได้จะฆ่าเจ้าเสียหน่อย ทำไมกัน แค่คุณหนูของเจ้าอยากจะเป็นคนดีดูบ้างเจ้าว่ามันแปลกหรือ"

"ไม่เจ้าค่ะ"

เสี่ยวจิ่วฮวายิ้มออกมาเล็กน้อย หูเป่าที่เห็นรอยยิ้มอ่อนโยนบนใบหน้าของเสี่ยวจิ่วฮวาเช่นนี้ก็ขนลุกขนชันขึ้นมาทันที

ทุกครั้งที่คุณหนูรองยิ้มเช่นนี้จะต้องมีคนเจ็บตัวเสมอ!!

รออยู่ไม่นานสาวใช้ก็เข้ามาแจ้งว่าเสี่ยวฮูหยินให้เสี่ยวจิ่วฮวาเข้าไปได้ นางไม่ได้เอ่ยสิ่งใด เพียงบอกให้หูเป่ารออยู่ด้านนอก ก่อนจะเดินเข้าไปในเรือนใหญ่

เสี่ยวฮูหยินที่กำลังนั่งปักผ้าเช็ดหน้าเมื่อเห็นว่าบุตรสาวเดินเข้ามาแล้วก็วางงานปักในมือลง ก่อนจะเอ่ย

"วันนี้เจ้านึกสนุกอันใดกัน จึงทำตามกฎระเบียบที่ข้าเคยสอน ทุกครั้งข้าเห็นเจ้านึกอยากจะเข้าออกเรือนใดก็ไปตามใจชอบ"

เสี่ยวจิ่วฮวาที่ได้ยินอย่างนั้นก็เพียงยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ย

"เมื่อคืนวิญญาณบรรพบุรุษมาเข้าฝันข้าน่ะเจ้าค่ะ บอกว่าให้ทำดีกับท่านแม่หน่อย ไม่อย่างนั้นคงไม่ได้เป็นลูกรักของท่าน"

เสี่ยวฮูหยินที่ได้ยินก็ขมวดคิ้วมุ่น ก่อนจะเอ่ย

"นี่เจ้ากล้าเอาวิญญาณบรรพบุรุษมาล้อเล่นเชียวหรือ เจ้านี่มัน!!!"

เสี่ยวจิ่วฮวาลอบไว้อาลัยให้ตนเองในใจ ปากนางนี่มันไม่มีหูรูดจริงๆ ทั้งที่ตั้งใจว่าจะพูดดีดีกับท่านแม่แต่นางกลับละทิ้งนิสัยต่อปากต่อคำไม่ได้

จะว่าไปแล้วคนที่น่าโดนตบฟันร่วงไม่น่าใช่สาวใช้ น่าจะเป็นนางเองมากกว่า!!!

เสี่ยวจิ่วฮวาที่ถูกดุด่าก็ไม่ได้เอ่ยสิ่งใด นางปรายตามองเสี่ยวเย่วหยาที่ตอนนี้กำลังนั่งปักผ้าเช็ดหน้าในมือของละเมียดละไม พลันภาพเก่าๆ ก็ย้อนกลับมาอีกครั้ง

ภาพที่เสี่ยวเย่วหยาป้อนข้าวป้อนน้ำป้อนยาให้นาง ภาพที่เสี่ยวเย่วหยาตายอย่างไม่เป็นธรรมเพราะปกป้องนางและท่านแม่ ภาพที่นางทำร้ายพี่สาวแต่พี่สาวคนนี้กลับไม่เคยต่อว่านางเลยสักคำ

ฉับพลันเสี่ยวจิ่วฮวาก็รู้สึกว่าดวงตาของตนร้อนผ่าวขึ้นมาเสียดื้อๆ นางเงยหน้าขึ้นเพื่อไม่ให้น้ำตาไหลออกมา ตอนนี้จะแสดงท่าทีลึกซึ้งสำนึกผิดก็คงยังไม่ใช่เวลา

เสี่ยวเย่วหยาปีนี้ก็มีอายุยี่สิบปีแล้ว แต่เพราะสุขภาพไม่ดีมาตั้งแต่วัยเยาว์ จึงให้ออกเรือนล่าช้ากว่าสตรีจวนอื่นๆ ตั้งแต่เล็กสุขภาพของนางก็สู้ แต่เพราะได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจากเสี่ยวฮูหยินสองสามปีมานี้สุขภาพของนางจึงดีขึ้นมาก ได้ยินมาว่าเสี่ยวฮูหยินเองก็เริ่มจะมองหาบุรุษที่ดีให้นางบ้างแล้ว

เสี่ยวเย่วหยาที่ถูกน้องสาวจ้องมองก็ทำตัวไม่ถูก นางรีบก้มหน้างุด หลีกเลี่ยงการปะทะกับเสี่ยวจิ่วฮวา วันก่อนเพราะสาวใช้นางใจกล้าทนเห็นนางถูกเสี่ยวจิ่วฮวารังแกไม่ได้จึงต่อว่าเสี่ยวจิ่วฮวาอย่างไม่รู้จักกฎระเบียบ จึงถูกเสี่ยวจิ่วฮวาสั่งโบยปางตาย

นางรู้ตัวดีว่านางเป็นเพียงบุตรสาวที่เกิดจากอดีตฮูหยิน ไร้ที่พึ่งพา จะสู้บุตรสาวที่แท้จริงของฮูหยินคนใหม่ได้อย่างไรกัน

เสี่ยวฮูหยินปรายตามองท่าทีของเสี่ยวจิ่วฮวาก่อนจะถอนหายใจออกมา บุตรสาวที่แท้จริงของนางคนนี้ถูกฉินอี๋เหนียงเลี้ยงดูจนเสียนิสัยไปแล้ว มีหรือนางจะไม่รู้ว่าเสี่ยวจิ่วฮวาๆ วันนอกจะเอาแต่แต่งหน้าแต่งตัวแล้ว ยังชอบทุบตีบ่าวไพร่ หาเรื่องพี่สาว ใช้เงินมือเติบ ชอบออกไปแต่งตัวยั่วยวนบุรุษที่นอกจวน นางปวดหัวยิ่งนัก นี่ก็พยายามอบรมสั่งสอนมาร่วมหลายเดือนแล้วตั้งแต่ที่ฉินอี๋เหนียงตายจากไป แต่เสี่ยวจิ่วฮวาก็ยังไม่มีทีท่าจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย

ยิ่งนานวันยิ่งเลวร้ายลงเรื่อยๆ!!!

ยิ่งได้เห็นท่าทีตอนนี้ของบุตรสาวที่แสร้งทำเป็นดวงตาแดงก่ำ นางก็ยิ่งปวดหัว

"อาจิ่ว เจ้าไม่ต้องมาทำท่าทางน่าสงสารเช่นนี้ วันก่อนที่เจ้าทำร้ายคนของพี่สาวเจ้าข้ายังไม่ได้กล่าวโทษเจ้าเลย เป็นเจ้านายคนเหตุใดไม่มีเมตตาบ้างเล่า ฉินอี๋เหนียงสอนเจ้ามาเช่นนี้หรือ!!!"

"ท่านแม่ อย่าตำหนิน้องรองเลยเจ้าค่ะ คนของลูกไม่รู้ที่ต่ำที่สูง เป็นบ่าวไม่ควรล่วงเกินนาย ถูกน้องรองสั่งสอนก็ถูกต้องแล้วเจ้าค่ะ"

เสี่ยวเย่วหยารีบเอ่ยขึ้นมาทันที ก่อนจะหันไปมองเสี่ยวจิ่วฮวาด้วยแววตาไม่สบายใจเท่าใด

เสี่ยวจิ่วฮวาที่ได้ยินอย่างนั้นก็กำมือแน่น ทุกครั้งที่ดุด่าท่านแม่ต้องเอาฉินอี๋เหนียงขึ้นมาอ้าง เหมือนต้องการจะย้ำเตือนนางอย่างไรอย่างนั้น โทสะในใจของเสี่ยวจิ่วฮวาเริ่มพลุ่งพล่าน แต่นางพยายามเก็บกดมันเอาไว้ ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย

"ข้าลงมือหนักไปหน่อย ต้องขออภัยพี่หญิงใหญ่ด้วยเจ้าค่ะ หากคนของพี่หญิงใหญ่ไม่พอใช้ ข้าจะมอบสาวใช้ของข้าทดแทนให้ท่านคนหนึ่ง หากไม่มีสิ่งใดแล้ว ข้าขอตัวก่อน"

นางเอ่ยเพียงเท่านั้นก่อนจะเดินออกไป เสี่ยวเย่วหยาขมวดคิ้วมุ่น เสี่ยวด้านฮูหยินก็แปลกใจเช่นกัน บุตรสาวตัวดีของนางวันนี้นอกจะรู้มรรยาท ไม่อาละวาดทุบตีคนแล้ว อีกทั้งยังมีน้ำใจจะมอบสาวใช้ให้เสี่ยวเย่วหยาอีกต่างหาก

นางมีแผนใดอยู่ในใจกันแน่!!!

เสี่ยวฮูหยินถอนหายใจออกมาก่อนจะหันไปเอ่ยกับเสี่ยวเย่วหยา

"เย่วหยา เจ้าอย่าถือโทษนางเลยนะ แม่จะชดเชยให้เจ้าเอง"

"ท่านแม่ ลูกบอกแล้วว่าไม่ใช่ความผิดของน้องรองเลยเจ้าค่ะ นางคงน้อยใจจึงเดินออกไปเช่นนั้น"

เสี่ยวฮูหยินไม่เอ่ยสิ่งใด ทั้งที่ในใจร้อนรนไม่น้อย ครั้งนี้ที่เห็นว่าเสี่ยวจิ่วฮวาไม่อาละวาดอีกทั้งยังเดินออกไปโดยไม่มองนางอีก ในใจของนางก็ไม่สบายใจเป็นอย่างยิ่ง

เมื่อคิดได้อย่างนั้นเสี่ยวฮูหยินจึงหันไปเอ่ยกับสาวใช้ของตนทันที

"เจ้าไปที่ห้องครัว ทำของกินไปส่งที่เรือนของคุณหนูรองมากหน่อย"

"เจ้าค่ะฮูหยิน"

เสี่ยวเย่วหยาที่ได้ยินอย่างนั้นก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะก้มหน้าก้มตาปักผ้าเช็ดหน้าในมือต่อไป

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้   ตอนพิเศษ 10

    เมื่อได้ยินว่าบุตรชายกลับมาถึงวังหลวงแล้ว เสี่ยวจิ่วฮวาก็ดีใจไม่น้อย นางโผเข้ากอดบุตรชาย ก่อนจะจ้องมองฮวาชิงเหยี่ยนที่ถูกคนหามเข้ามาคราหนึ่ง และจึงเอ่ยถามเติ้งจื่อหยวน"นางคือ?""เสด็จแม่ นางคือสตรีของข้า ข้ารักนาง ท่านอย่าให้นางไปที่ใดเลยนะพ่ะย่ะค่ะ"เสี่ยวจิ่วฮวาหันไปสบตากับเติ้งหมิงซีคราหนึ่ง เห็นว่าสามีเพียงพยักหน้าเล็กน้อย ก็ไม่ได้เอ่ยสิ่งใด ก่อนจะสั่งให้หมอหลวงในวังมาตรวจดูอาการของคนทั้งสองหลายวันต่อมาอาการของฮวาชิงเหยี่ยนก็ดีขึ้นมากแล้ว วันต่อมาก็มีนางกำนัลเข้ามาบอกว่า เสี่ยวฮองเฮาเรียกนางให้เข้าไปพบฮวาชิงเหยี่ยนไม่ได้ครุ่นคิดสิ่งใดให้มากความ นางตรงไปที่ตำหนักคุณหนิงในทันที เมื่อเข้ามาถึงก็พบกับเสี่ยวฮองเฮาที่กำลังนั่งจิบชาร้อนอย่างไม่รีบไม่ร้อนอยู่ภายในตำหนัก"ถวายพระพรฮองเฮาเพคะ"เสี่ยวจิ่วฮวาที่ได้ยินก็มองฮวาชิงเหยี่ยนเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ย"ลุกขึ้นเถิด หูเป่าหาที่นั่งให้นาง""เพคะฮองเฮา"ฮวาชิงเหยี่ยนรู้สึกประหม่าไม่น้อย นางมาที่นี่เดิมทีก็ใช้ชีวิตไม่ง่าย เมื่อมาอยู่ในวังและยังมีกฎเกณฑ์มากมายจึงยิ่งไม่คุ้นชิน เสี่ยวจิ่วฮวาเองก็พอจะมองออก จึงไม่ได้แสดงท่าทีกดดันนางเท่าใดนัก"

  • ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้   ตอนพิเศษ 9

    เติ้งหมิงซีลงมือจัดการเรื่องนี้ด้วยตนเอง ส่วนเสี่ยวจิ่วฮวาที่ได้ทราบข่าวก็เริ่มกระวนกระวายเพราะห่วงบุตรชาย โชคดีที่ได้ความช่วยเหลือจากทั้งเจียงซวี่และหลี่จิ่ง ทำให้ไม่กี่วันต่อมาก็สามารถสืบพบกบฏเหล่านั้นได้ และจัดการถอนรากถอนโคนพวกมันทิ้งไปเสีย แต่น่าเสียดายที่คนตระกูลฮวาเกือบทั้งหมดไม่มีใครรอดชีวิตเลยนอกจากฮวาชิงเหยี่ยน เมื่อสอบสวนอย่างละเอ่ียด ก็พบว่าคนพวกนั้นเดิมทีเป็นกลุ่มคนที่เคยขึ้นตรงต่อเติ้งเจี๋ยมาก่อน และหวังจะแก้แค้นแทนเจ้านายของตน ส่วนคนตระกูลฮวานั้นก็เป็นเพียงหมากตัวหนึ่งที่ไม่ได้เรื่องได้ราว และถูกหลอกใช้ให้ส่งข่าวความเป็นไปในเมืองหลวงให้ทราบเพียงเท่านั้น ยามนี้สกุลฮวาตายสิ้น บุตรชายเขาและบุตรสาวนักโทษนางนั้นก็ยังหายไปด้วยกันอีกเมื่อจัดการเรื่องนี้จบแล้ว ก็มีฎีการ้องเรียนไม่หยุดว่าเติ้งจื่อหยวนมีใจคิดไม่ซื่อ มีใจคิดก่อกบฏ เพราะเหตุนี้เติ้งหมิงซีจึงสั่งลงโทษพวกขุนนางเหล่านั้น จนเหล่าขุนนางต่างเงียบปากไม่กล้าเอ่ยปากพูดเรื่องใดออกมาอีกด้านเติ้งจื่อหยวนและฮวาชิงเหยี่ยนนั้น ยามนี้คนทั้งสองหลบมาอยู่ที่โรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งที่ด้านนอกเมืองหลวง ฮวาชิงเหยี่ยนรู้สึกเจ็บเท้าไม่น้อยเล

  • ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้   ตอนพิเศษ 8

    เช้าวันต่อมาก็มีคนพบศพของชายวัยกลางคนผู้นั้นที่โรงเตี๊ยม แต่ทว่าสิ่งที่ทำให้หวาดหวั่นยิ่งกว่าก็คือ ในตัวเขามีจดหมายฉบับหนึ่ง เนื้อหาในจดหมายเขียนเอาไว้ว่า เขากำลังติดต่อกับคนที่เติ้งจื่อหยวนและฮวาชิงเหยี่ยนพบเจอ และดูเหมือนว่าจะเป็นคนที่ร่วมมือกับกบฏนอกวังหลวงเติ้งจื่อหยวนรู้สึกว่ามันเกินความคาดหมายไปไม่น้อยเลย แต่เรื่องนี้จะเก็บเงียบไม่ได้ย่อมต้องกราบทูลเสด็จพ่อ เมื่อเติ้งหมิงซีรู้จึงสั่งตรวจสอบคนใกล้ชิดกับชายผู้นั้นทันทีไม่เว้นแม้แต่จวนสกุลฮวาสุดท้ายแล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อเขาพบว่าฮวาหยวนเองก็มีส่วนสมคบคิดกับชายผู้นั้นเช่นเดียวกัน เขาเป็นคนส่งเรื่องราวและความเป็นไปของในเมืองหลวงให้แก่เหล่ากบฏ เพื่อแลกกับเงินไปใช้จ่ายในโรงพนันเขาคิดว่าอย่างไรย่อมไม่มีคนสาวมาถึงตัวเขา แต่ฮวาชิงเหยี่ยนบุตรสาวตัวดีกลับไปรู้เรื่องเข้า เขาตัดใจฆ่านางไม่ลง จึงสั่งให้นางแต่งงานกับบุรุษผู้นั้นไปเสีย เมื่อแต่งงานออกไปไกลแล้ว ย่อมไม่สามารถก่อคลื่นลมใดได้อีกแต่เรื่องราวกลับไม่เป็นดังที่ใจของเขาคิด สุดท้ายตระกูลฮวาทั้งตระกูลกำลังจะถูกสั่งประหารชีวิตโทษฐานกบฏแต่เพราะเติ้งจื่อหยวนไปขอร้องบิดา ทำให

  • ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้   ตอนพิเศษ 7

    เติ้งจื่อหยวนหันมาสบตากับฮวาชิงเหยี่ยนอีกครา คนทั้งสองมองซ้ายมองขวา ก่อนจะเป็นฮวาชิงเหยี่ยนที่เอ่ยขึ้นมาเสียก่อน"ข้าเคยมาหาของป่าที่นี่อยู่บ่อยครั้ง ท่านกับข้าเราต้องลงเขาไปด้วยกันในเวลานี้ ซึ่งมีเพียงทางเดียวคือกระโดดลงไปในแม่น้ำด้านล่างนั่นถึงจะหนีได้ ท่านกลัวหรือไม่"เติ้งจื่อหยวนรู้สึกหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก ให้ตายเถอะ ประโยคนี้ควรเป็นเขาที่ถามนางมากกว่าสิ เหตุใดจึงกลายเป็นนางมาเอ่ยถามเขาเช่นนี้เล่ายามนี้ไม่มีเวลามาคิดเรื่องเช่นนี้แล้ว เขาต้องเร่งหนีออกไปจากที่นี่โดยเร็วที่สุด เมื่อคิดได้เช่นนั้นเติ้งจื่อหยวนจึงหันมาเอ่ยกับฮวาชิงเหยี่ยนในทันที"ข้าไม่เคยกลัวสิ่งใด เราไปกันเถอะ""อืม"เติ้งจื่อหยวนจับมือของฮวาชิงเหยี่ยนเอาไว้แน่น ในขณะที่คนทั้งสองกำลังจะพากันกระโดดหนีไปนั้น ก็มีธนูดอกหนึ่งพุ่งเข้ามาเฉียดที่แขนของฮวาชิงเหยี่ยน จนนางเบ้หน้าด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะหันไปมอง ทำให้สบตากับคนที่ยิงธนูใส่นางได้อย่างชัดเจน แต่ทว่ากลับไม่เห็นอีกคนที่หลบซ่อนอยู่ด้านหลัง เติ้งจื่อหยวนที่เห็นเช่นนั้นก็ตกใจไม่น้อย เขาใช้มีดสั้นที่มักพกติดกายมาด้วยเขวี้ยงใส่คนผู้นั้นจนได้รับบาดเจ็บ และสั่งให้อง

  • ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้   ตอนพิเศษ 6

    ฮวาชิงเหยี่ยนที่ถูกจู่โจมอย่างกะทันหันก็ตั้งรับไม่ทัน นางพยายามดิ้นให้หลุดจากเงื้อมมือของเฉินเย่ แต่ทว่าเฉินเย่เหมือนจะระวังตัวและเตรียมพร้อมมาเป็นอย่างดี จึงไม่เหลือทางให้นางได้จัดการเขาเลย "ดิ้นรนไปเถิด เจ้าไม่รอดเงื้อมมือของข้าหรอก ข้าชอบเจ้ามากนะชิงชิง เป็นของข้าเถอะ" พูดจบก็โน้มใบหน้าเข้ามาคิดจะจูบที่หน้าผากของนาง แต่ทว่าเฉินเย่ยังไม่ทันได้ทำเช่นนั้นก็ถูกใครบางคนลากไปจัดการเสียก่อน แสงเทียนที่สลัวรางทำให้มองเห็นทุกอย่างได้บ้าง ฮวาชิงเหยี่ยนมองเห็นว่าเติ้งจื่อหยวนกำลังจัดการเฉินเย่อย่างรวดเร็วและเงียบเชียบ ฝีมือของเขาดีมาก เฉินเย่ไม่ทันได้เอ่ยปากร้องขอความเมตตาก็โดนซ้อมจนสลบเหมือดไปเสียแล้ว เมื่อซ้อมคนเสร็จเติ้งจื่อหยวนก็สั่งให้คนของเขาลากเฉินเย่ไปโยนเอาไว้ที่ตลาดในสภาพเปลือยเปล่าไร้อาภรณ์ ต้องสั่งสอนให้รู้จักความอัปยศและความอับอายเสียบ้างเมื่อจัดการคนเรียบร้อย เติ้งจื่อหยวนก็หันมาเอ่ยถามฮวาชิงเหยี่ยนในทันที "เจ้าไม่เป็นอันใดใช่หรือไม่"ฮวาชิงเหยี่ยนส่ายหน้าไปมา ก่อนจะเอ่ยถามด้วยความสงสัย "เจ้าสาม ท่านมาได้อย่างไรกัน"เติ้งจื่อหยวนจ้องมองฮวาชิงเหยี่ยนคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย"เจ้

  • ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้   ตอนพิเศษ 5

    เมื่อจัดการทุกอย่างเรียบร้อย ฮวาชิงเหยี่ยนก็ดีใจเป็นอย่างมาก นางหันมามองเติ้งจื่อหยวนอย่างกระอักกระอ่วน ก่อนหน้านี้นางด่าเขาในใจเอาไว้มากมาย ยามนี้เมื่อได้เขาช่วยเหลือจนได้เงินคืนมาก็รู้สึกผิดในใจ"ท่านจะให้ข้าตอบแทนเช่นไรก็ว่ามา"เติ้งจื่อหยวนที่ได้ยินเช่นนั้นก็หันมามองฮวาชิงเหยี่ยนคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย "เลี้ยงบะหมี่ข้าก่อน แล้วข้าจะบอก"ฮวาชิงเหยี่ยนคิดว่านี่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อันใด นางจึงพาเขาไปกินบะหมี่ที่ร้านลุงหลี่ตามเดิม หลี่จิ่งมองดูคนทั้งสองก่อนจะยกยิ้มมุมปากคราหนึ่งเห็นทีอาจิ่วคงกำลังจะมีลูกสะใภ้คนที่สามเสียแล้ว!!เมื่อกินอิ่มแล้ว เติ้งจื่อหยวนจึงเอ่ยถามฮวาชิงเหยี่ยนทันที"เจ้าชื่ออันใด""ฮวาชิงเหยี่ยน เรียกชิงชิงก็ได้ ท่านเล่า""เรียกข้าว่า เจ้าสามก็ได้"ฮวาชิงเหยี่ยนพยักหน้าคราหนึ่ง ชื่อแปลกพิลึกดีเติ้งจื่อหยวนจ้องมองนางอย่างไม่ละสายตา ก่อนจะเอ่ย"ภาพเหล่านั้นเจ้าวาดได้เช่นไรกัน มันไม่เหมือนกับยุคสมัยนี้เลย ข้าชอบมาก มันคือที่ใดกัน"ฮวาชิงเหยี่ยนที่ได้ยินเช่นนั้นก็ชะงักไปครู่หนึ่ง ไม่รู้ว่าจะเอ่ยเช่นไรดี นางคิดใคร่ครวญคำพูด ก่อนจะเอ่ยออกมา"ความจริงมันก็เป็นเรื่องที่เหลือเ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status