นอกจากม่านชิงเฉียว ก็ไม่มีผู้ใดรู้ส่วนผสมของโอสถหยดโลหิตมังกร แม้กระทั่งเจ้าสำนักหมื่นพิษก็ยังหาคำตอบนี้ไม่ได้ เขาพยายามคาดเดาจากข้อมูลสมุนไพรที่บุตรสาวใช้แต่ก็ไม่สามารถสรุปได้
เจ้าสำนักหมื่นพิษคงไม่รู้ว่า เป็นเพราะคาดเดาผิดตั้งแต่แรกว่าจะต้องมีสมุนไพรล้ำค่าและหายาก
ทว่าความจริงแล้ว ส่วนผสมของโอสถหยดโลหิตมังกรคือสมุนไพรธรรมดาที่สามารถหาซื้อได้ในร้านขายยาทั่วไป มูลค่าของพวกมันใช้เงินซื้อมาไม่ถึงตำลึงด้วยซ้ำ
เว่ยเยว่ซินปรายตามองส่วนผสมที่จัดเตรียมไว้คลี่ยิ้มอย่างพึงพอใจ จากนั้นก็เริ่มปรุงโอสถอีกครั้งและตอนนี้ก็ไม่มีใครสนใจนางเหมือนครั้งแรกที่เริ่มลงมือ พวกเขาต่างคุ้นชินว่านางกำลังปรุงขี้ผึ้งทาผิวอีกแล้ว
ตะวันคล้อยต่ำ กลิ่นหอมอ่อน ๆ ลอยฟุ้งอยู่ในอากาศ
เว่ยเยว่ซินยิ้มจนตาหยี กลิ่นนี้ถูกต้องแล้ว!! นางหยิบตลับงดงามใบหนึ่งแล้วใส่โอสถที่พึ่งตกผลึกเสร็จใส่ลงไป
คราวนี้ก็เหลือแค่ส่งมอบ
จ้าวลี่อิงยังคงมาตรวจชีพจรให้เว่ยเยว่ซิน ในขณะที่นางกำลังจับชีพจร เว่ยเยว่ซินก็เอ่ยขึ้น
“เรียนถามท่านหมอ ช่วงที่ข้าปรุงขี้ผึ้งระหว่างก้มเงยหน้าจะรู้สึกวิงเวียนศีรษะอยู่เรื่อยๆ”
จ้าวลี่อิงขบคิดชั่วขณะแล้วยิ้มบาง ๆ กล่าว “เป็นอาการปกติของผู้ที่รับโอสถหยดโลหิตมังกรหัวใจกลับมาเต้นยังไม่ปกตินัก แต่พระชายาไม่ต้องกังวล ขอเพียงรักษาร่างกายเป็นอย่างดี ภายในหนึ่งถึงสองเดือนนี้ก็หายเป็นปกติแล้ว”
เว่ยเยว่ซินขมวดคิ้วแสร้งสงสัย “ข้าได้ทานหยดโลหิตมังกรเมื่อไรกัน?” จ้าวลี่อิงได้ยินเช่นนั้นก็ตกใจแต่ก็สงบได้อย่างรวดเร็วแล้วอธิบาย
เว่ยเยว่ซินฟังพลางเบิกตากว้างแสดงสีหน้าซาบซึ้ง หลังจากจ้าวลี่อิงกลับไป นางก็หยิบตลับโอสถทิพย์ออกมาจากนั้นก็เดินตรงไปยังห้องอักษร คนเฝ้าประตูเห็นนางเดินมาก็รีบออกมาต้อนรับ
“คารวะพระชายา”
“ช่วยไปเรียนท่านอ๋องว่าข้าขอพบ”
“พระชายารอสักครู่ผู้น้อยจะรีบเข้าไปรายงาน”
เว่ยเยว่ซินผงกศีรษะแล้วก็ยืนรอเพียงชั่วเดียว บ่าวคนนั้นก็ออกมา
“เชิญพระชายาพ่ะย่ะค่ะ”
กู้เซียวอวิ้นวางหนังสือในมือ ชายหนุ่มลุกขึ้นเดินเข้ามาหาอีกฝ่ายพลางผายมือเชิญเว่ยเยว่ซินนั่ง
เว่ยเยว่ซินย่อคารวะอีกฝ่าย แล้วนั่งลงยื่นตลับโอสถออกไป “หม่อมฉันพึงทราบเพื่อช่วยชีวิตข้า ท่านอ๋องถึงกับเสียสละโอสถหยดโลหิตมังกรให้”
กู้เซียวอวิ้นหลุบตาต่ำมองตลับโอสถกล่าว “เป็นสิ่งที่ข้าควรจะต้องทำ...สิ่งนี้คือ?”
เว่ยเยว่ซินยิ้มเล็กน้อยกล่าว“นี่คือโอสถหยดโลหิตมังกร...”
คิ้วเรียวกระบี่ของกู้เซียวอวิ้นขมวดเข้า แววตาแหลมคมจ้องมองตลับโอสถ เขาหยิบขึ้นเปิดดูข้างใน
เว่ยเยว่ซินยิ้มแฝงเอียงอายกล่าว “คุณหนูเจ็ดจากสำนักหมื่นพิษมอบให้ข้า...เอ่อ..นางมอบให้เพราะชื่นชอบในความงามของข้า”
กู้เซียวอวิ้นชะงักงัน หากเป็นผู้อื่นอาจจะมองว่าเว่ยเยว่ซินช่างกล่าววาจาเหลวไหล ทว่าเมื่อเป็นกู้เซียวอวิ้นก็จะต่างออกไป เพราะตอนที่ม่านชิงเฉียวยอมขายโอสถหยดโลหิตมังกรให้เขาได้กล่าวมาหนึ่งประโยค
“เห็นแก่ที่ชินอ๋องหล่อเหลา ข้าจะขายให้ท่านหนึ่งเม็ด”
กู้เซียวอวิ้นเงยหน้าสบตากับเว่ยเยว่ซิน แววตากระจ่างใสนั้นแฝงความซุกซน แตกต่างจากเมื่อก่อนที่ว่างเปล่าไร้ความรู้สึก ชายหนุ่มยื่นตลับคืนกล่าว
มู่หยางชำเลืองมองไปยังมู่เยี่ยนส่งสายตาแฝงความจนใจ
“ข้าไม่อาจรับเอาไว้...เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพราะข้าจัดการคุ้มครองเจ้าบกพร่องสิ่งที่ทำล้วนสมควร”
มุมปากของเว่ยเยว่ซินเหยียดยิ้ม “ข้าคาดเอาไว้อยู่แล้ว ว่าท่านจะปฏิเสธ...” เว่ยเยว่ซินยืนมือไปรับตลับยาคืนพร้อมกับวางตลับยาอีกตลับลงไปกล่าว
“ยานี้?...” กู้เซียวอวิ้นขมวดคิ้วอย่างแปลกใจอีกครั้ง
“ข้ามีวาสนาไม่น้อย...คุณหนูเจ็ดเอ็นดูข้ายิ่งนัก นางยังมอบยาถอนพิษให้ข้าอีกหนึ่งกระปุก...ข้าแบ่งมามอบให้ท่านหวังว่าท่านจะไม่ปฏิเสธอีก”
หากกล่าวปฏิเสธอีกย่อมไม่เหมาะสมอีกฝ่ายอาจจะเกิดเรื่องค้างคาใจ กู้เซียวอวิ้นยื่นมือออกไปรับกล่าว
“พระชายาช่างมีน้ำใจนัก” เมื่ออีกฝ่ายรับไปแล้ว ก็ถือว่าหมดหน้าที่เว่ยเยว่ซินจึงลุกขึ้นกล่าว “ไม่รบกวนท่านอ๋องแล้ว”
กู้เซียวอวิ้นผงกศีรษะให้อีกฝ่าย พอหญิงงามออกไปชายหนุ่มก็ส่งสายตาให้กู้เยี่ยนนำยาไปเก็บ
ในสวนสมุนไพร
บ่าวรับใช้งานสวนที่กำลังพรวนดินกำลังพูดคุยกันด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“จริงด้วย...ใบหน้าผ่องใสผิวเนียนละเอียดขึ้นมากจริง ๆ”
สาวใช้ผู้หนึ่งเดินมาได้ยินฉุดคิดบางอย่าง นางรีบไปสาวใช้งานสวน เดินหาครู่หนึ่งก็เห็นเป้าหมายรีบเดินเข้าไปหา
“น้องสาว..เจ้า ใช่คนที่พระชายามอบขี้ผึ้งให้หรือไม่”
เด็กสาวพยักหน้าตอบ สาวใช้คนนั้นก็เบิกตากว้าง “ข้าขอดูมือด้านมือขวาของเจ้าหน่อยสิ” ไม่ทันได้รับอนุญาตนางก็จับมืออีกฝ่ายดูทันที
“ไม่มี รอยแผลเป็นนั้นหายไปแล้ว...อ่า น้องสาวคนดี ขี้ผึ้งตลับนั่นยังเหลือหรือไม่”
เด็กสาวไม่กล้าโกหกพยักหน้าตอบ
หญิงสาวเบิกตากว้างแววตาประกายยินดี “น้องสาวคนดี พี่สาวซื้อต่อเจ้าได้หรือเปล่า..นี้เจ้าดูนี้สิ” จากนั้นนางก็ถอดเสื้อออกเปิดให้ดูแผลบริเวณหน้าอก เอ่ยด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย
“เจ้าก็มีบาดแผลคงเข้าใจความทุกข์ใจของข้า...ขายให้ข้าเถอะนะ...ทำงานที่นี่ข้าพอมีเงินเก็บอยู่บ้าง เจ้าต้องการเท่าไร”
เด็กสาวมองดูแผลจากนั้นก็กล่าว “พระชายาให้ข้า...ข้ามิกล้านำมาขายหรอก”
หญิงสาวรีบกล่าวน้ำเสียงหนักแน่น “เรื่องนี้นอกจากข้ากับเจ้าจะไม่มีผู้ใดรู้”
เด็กสาวส่ายหน้า “ท่านเข้าใจผิดแล้ว” จากนั้นก็เดินเข้าไปในห้องพักแล้วถือตลับขี้ผึ้งออกมายื่นให้หญิงสาวกล่าว
“พี่นำไปใช้ เถอะข้าไม่กล้าคิดเงิน”
หญิงสาวมองดูอีกฝ่ายด้วยสีหน้าตกตะลึง....กล่าวด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “เจ้าคงไม่ล้อพี่สาวเล่นหรอกนะ”
เด็กสาวยิ้มสดใส “ข้ามิกล้า”
หญิงสาวยิ้มอย่างกว้าง “น้องสาวเจ้าชื่ออะไร...ข้าอิงเจา...ต่อไปมีอะไรเจ้าเรียกใช้พี่สาวคนนี้ได้เลย”
เด็กสาวยิ้มตอบ “ข้าเหยาชุน...ขอบคุณพี่สาวที่เมตตา” แน่นอนว่าขี้ผึ้งที่เว่ยเยว่ซินทำเองย่อมเป็นขี้ผึ้งอันดับหนึ่ง
ทุกคนที่ได้ใช้ต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่าทำให้ผิวหน้าเนียนละเอียดใสกระจางดั่งหยกชั้นดี
ทว่า ยังมีผู้หนึ่งที่ยังไม่ได้ใช้มัน สาวใช้ชั้นหนึ่งกัวผิง
ตอนที่ 5 สร้างชื่อเสียง เฉิงหยวนค่อย ๆ หยดยาลงบนเลือดสีดำม่วง เขาจับจ้องมองสีเลือดที่ค่อย ๆ เปลี่ยนสีมีสีแดงแจมขึ้นมาบ้าง ชายหนุ่มถอนหายใจโล่งอกอย่างแรง แม้จะถอนพิษไม่ได้แต่นับว่ายังดีเฉิงหยวนยุ่งอยู่กับการปรุงโอสถระงับพิษของกู้เซียวอวิ้น หลายวันแล้ว วันนี้คงได้มีเวลาผ่อนคลายบ้าง ขณะกำลังเอนกาย สายตาเหลือบไปเห็นตลับยาที่วางทิ้งเอาไว้ ขบคิดอยู่ครู่หนึ่งก็จำได้ว่าเป็นยาแก้พิษที่มู่เยี่ยนนำมา ชายหนุ่มไม่ได้ใส่ใจเอนกายกำลังจะหลับตาลงสายลมอ่อนพัดโชยกลิ่นหนึ่งเข้ามาแตะจมูก เขาพลันลืมตาเบิกกว้างขึ้น กระโดดลุกขึ้นแล้วเดินไปคว้าตลับยานั้นขึ้นมาดูดวงตาบอกว่าชายหนุ่มตกตะลึงสุดขีด รีบเอาเข็มมาทิ่มเม็ดยาจากนั้นก็รีบทดสอบบางอย่าง เขาจับจ้องมองปฏิกิริยาในถ้วยยาจนเหงื่อหยดเต็มใบหน้าเลือดค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีแดงฉาด อย่างที่ควรเป็น“ไม่น่าเชื่อ...นี่คือยาตัวนั้นจริง ๆ หรือนี่” เฉิงหยวนคว้าตลับตาแล้ววิ่งออกไป องค์รักษ์หน้าห้องมองหมอเทวดาที่มีท่าทีลุกลนด้วยแววตาฉงนห้องอักษร “มู่เยี่ยน ๆ” เสียงตะโกนเรียกอย่างไร้มารยาทในจวนอ๋องดังขึ้นกู้เซียวอวิ้นเงยนหน้าขึ้นมา เอ่ย “นั่นเสีย
ตอนที่ 6 กล่าวส่งเดช กู้เซียวอวิ้นเดินนำหน้าเฉิงหยวนมายังเรือนของเว่ยเยว่ซิน สาวใช้ที่เฝ้าอยู่บริเวณหน้าประตู ชำเลืองมองมาเห็นชายหนุ่มก็รีบเดินมาย่อคารวะ “คารวะท่านอ๋อง” “พระชายาไม่อยู่ในเรือนหรือ?” “เรียนท่านอ๋อง พระชายาอยู่ในเรือนสมุนไพรเพคะ” ได้ยินเช่นนั้น กู้เซียวอวิ้นก็หันกายเดินไปอีกทาง เมื่อเดินเข้าไปใกล้ได้ยินเสียงหัวเราะพูดคุยของหญิงสาวกลุ่มใหญ่คิ้วเรียวขมวดเล็กน้อย พอไปถึงภาพตรงหน้าชวนให้ตกตะลึงอยู่บ้าง กัวผิงเห็นชิงอ๋องก็ตกใจรีบเดินเข้าไปหาอีกฝ่าย “คารวะท่านอ๋อง” บ่าวรับใช้พอได้ยินคำนั้นก็ต่างหยุดชะงักทั้งการกระทำและวาจา พวกนางต่างรีบพากันหมอบต่ำไม่กล้าเงยหน้า เกิดความเงียบสงัดขึ้นในทันที เว่ยเยว่ซินเห็นกู้เซียวอวิ้นแววตาก็มีประกายยินดีอย่างไม่ปกติ นางลุกขึ้นทำความเคารพอีกฝ่าย ใบหน้าประดับรอยยิ้มเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งอ่อนหวาน “ท่านอ๋องมาเยี่ยมเยือนถึงเรือน ไม่ทราบว่ามีเรื่องอันใดหรือเจ้าคะ” ชายหนุ่มพยักหน้ารับการคำนับอีกฝ่ายแล้วเบี่ยงกายเล็กน้อย พร้อมแนะนำ “
หญิงสาวอรชรผู้หนึ่งกระโจนลงจากหน้าผาท่ามกลางเสียงกระบี่แว่วแผ่วเป็นการหลบหนีจากการตามล่าที่ไม่มีทางรอดหัวหน้าคนชุดดำตะโกนลั่น “ตามลงไป! ตายก็ต้องเห็นศพ!”แต่ยังไม่ทันเคลื่อนไหว ก็มีเงาคนกระซิบเร่งข้างหู“หัวหน้า! มีกำลังคนจำนวนมากกำลังมาทางนี้!”สีหน้าของหัวหน้าคนชุดดำเปลี่ยนไปทันทีเขาตัดสินใจรวดเร็ว “ล่าถอย!”แม้จะรอดจากการตามล่าแต่บาดแผลทั้งภายนอกและภายในก็สาหัสเกินเยียวยาม่านชิงเฉียว หญิงสาวผู้นั้น...สิ้นลมหายใจกลางเงาไม้และเสียงสายลมขณะที่วิญญาณหลุดออกจากร่างนางนั่งเหม่ออยู่กลางความว่างเปล่าไม่มีความเจ็บ ไม่มีเสียงรอบข้างราวกับถูกแขวนลอยอยู่เหนือทุกสิ่งทันใดนั้น...เสียงกระบี่ดังแว่วขึ้นจากด้านบนหน้าผาพร้อมเสียงของสตรีผู้หนึ่งดังกึกก้อง “ข้ายอมตาย!!”ร่างของหญิงงามในชุดสูงศักดิ์พุ่งตกลงมากระแทกสายน้ำเป็นฟองวงกว้าง ไม่นาน...มีหญิงอีกคนกระโจนตามลงมาเสียงร้องเรียกชื่ออีกฝ่ายด้วยความสิ้นหวัง นางคือบ่าวรับใช้คนสนิทม่านชิงเฉียวลุกขึ้น มองเหตุการณ์เบื้องล่างด้วยความสนใจดวงตาสะท้อนภาพสตรีผู้หนึ่งยอมแตกละเอียดดั่งหยกแต่ไม่ยอมเป็นกระเบื้องที่สมบูรณ์ภายในใจของม่านชิงเฉียวเ
ตอนที่ 2 ชะตาลิขิตม่านชิงเฉียวลืมตาขึ้นในความมืด ทบทวนเรื่องราวต่าง ๆ จากความทรงจำของเว่ยเยว่ซินอย่างเงียบงันหญิงงามผู้นี้...เกิดมาพร้อมรูปโฉมเหนือสามัญชน หากแต่ชะตากลับอาภัพยิ่งนัก หัวใจของนางแตกสลายเพราะชายคนรักถูกสังหารเพียงเพราะพยายามยับยั้งการแต่งงานทางการเมืองของนางม่านชิงเฉียวทอดถอนใจให้กับโชคชะตาอันน่าเวทนาของอีกฝ่าย ขณะนั้นเอง ประตูห้องถูกเปิดออกอย่างเงียบงัน ร่างสูงของบุรุษผู้หนึ่งก้าวเข้ามา แม้ภายในห้องจะไร้แสงตะเกียง แต่เขาก็มองเห็นว่านางลืมตาตื่นอยู่ฝีเท้าของเขาชะงักเล็กน้อย ดวงหน้าฉายแววโล่งอก เขายกมือโบกให้สาวใช้ออกไป ก่อนจะก้าวเข้ามาอย่างช้า ๆ แล้วนั่งลงที่ขอบเตียง"รู้สึกอย่างไรบ้าง...ยังเจ็บตรงไหนหรือเปล่า" น้ำเสียงของเขาอ่อนโยน พร้อมรอยยิ้มอบอุ่นดุจฤดูใบไม้ผลิม่านชิงเฉียวปรายตามองอีกฝ่าย ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าไร้กลิ่นอายสังหารเฉกเช่นในวันก่อน บัดนี้เขาสวมอาภรณ์หรูหราสีคราม มวยผมรวบขึ้นสูง ครอบด้วยกวานหยก ใบหน้าแลดูหล่อเหลาและสง่างามดุจจันทร์ท่ามกลางสายลมอ่อนนางกะพริบตาเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยเสียงแผ่วเบา "มึนหัวเล็กน้อยเพคะ"นางมิได้โกหก...นางกำลังมึนหัวจริง ๆ เพราะ
ตอนที่ 3 ไม่เรียบเนียน เว่ยเยว่ซินเดินออกมาห้องนอน นางปรายดูเหล่าสาวใช้ที่ยืนอยู่แต่ละจุดพลางครุ่นคิด นางกำนัลที่ติดตามมาองค์หญิงเว่ยเยว่ซินถูกสังหารเสียชีวิตทั้งหมดในเหตุการณ์ครั้งนั้นและคาดว่ากู้เซียวอวิ้นได้เปลี่ยนสาวใช้ในตำหนักนางทั้งหมดเหมือนกัน นางส่งสายตาเรียกสาวใช้ผู้หนึ่งที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ “พระชายามีสิ่งใดให้หม่อมฉันรับใช้หรือเพคะ” เว่ยเยว่ซินยืนกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาพร้อมกล่าว “ข้าต้องการสมุนไพรเหล่านี้...ทั้งส่วนของต้นที่นำไปปลูกและตัวสมุนไพรแห้ง ...เจ้าช่วยเอาไปให้คนที่สามารถจัดการเรื่องนี้ให้ข้าที” สาวใช้รับมาอย่างนอบน้อมกล่าว “เพคะ..” เว่ยเยว่ซินกล่าวต่อ “และจัดหาคนที่แข็งแรงมือไม้คล่องแคล่วมาสักสามสี่คนมาช่วยข้าทำแปลงสมุนไพรด้วย...ได้เรื่องอย่างไรรีบมาแจ้งข้า...ไปได้” “เพคะ...หม่อมฉันจะรีบไปจัดการเดี๋ยวนี้” จากนั้นนางก็หันไปเรียกคนสาวใช้คนอื่น ๆ “พวกเจ้าตามข้ามา...ไปดูพื้นที่สักหน่อยตรงที่สามารถทำแปลงสมุนไพรได้” ห้องอักษรกู้เซียวอวิ้นกำลังอ่านเอกสารรายงานเกี่ยวกับกองทัพ ได้ย
ตอนที่ 6 กล่าวส่งเดช กู้เซียวอวิ้นเดินนำหน้าเฉิงหยวนมายังเรือนของเว่ยเยว่ซิน สาวใช้ที่เฝ้าอยู่บริเวณหน้าประตู ชำเลืองมองมาเห็นชายหนุ่มก็รีบเดินมาย่อคารวะ “คารวะท่านอ๋อง” “พระชายาไม่อยู่ในเรือนหรือ?” “เรียนท่านอ๋อง พระชายาอยู่ในเรือนสมุนไพรเพคะ” ได้ยินเช่นนั้น กู้เซียวอวิ้นก็หันกายเดินไปอีกทาง เมื่อเดินเข้าไปใกล้ได้ยินเสียงหัวเราะพูดคุยของหญิงสาวกลุ่มใหญ่คิ้วเรียวขมวดเล็กน้อย พอไปถึงภาพตรงหน้าชวนให้ตกตะลึงอยู่บ้าง กัวผิงเห็นชิงอ๋องก็ตกใจรีบเดินเข้าไปหาอีกฝ่าย “คารวะท่านอ๋อง” บ่าวรับใช้พอได้ยินคำนั้นก็ต่างหยุดชะงักทั้งการกระทำและวาจา พวกนางต่างรีบพากันหมอบต่ำไม่กล้าเงยหน้า เกิดความเงียบสงัดขึ้นในทันที เว่ยเยว่ซินเห็นกู้เซียวอวิ้นแววตาก็มีประกายยินดีอย่างไม่ปกติ นางลุกขึ้นทำความเคารพอีกฝ่าย ใบหน้าประดับรอยยิ้มเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งอ่อนหวาน “ท่านอ๋องมาเยี่ยมเยือนถึงเรือน ไม่ทราบว่ามีเรื่องอันใดหรือเจ้าคะ” ชายหนุ่มพยักหน้ารับการคำนับอีกฝ่ายแล้วเบี่ยงกายเล็กน้อย พร้อมแนะนำ “
ตอนที่ 5 สร้างชื่อเสียง เฉิงหยวนค่อย ๆ หยดยาลงบนเลือดสีดำม่วง เขาจับจ้องมองสีเลือดที่ค่อย ๆ เปลี่ยนสีมีสีแดงแจมขึ้นมาบ้าง ชายหนุ่มถอนหายใจโล่งอกอย่างแรง แม้จะถอนพิษไม่ได้แต่นับว่ายังดีเฉิงหยวนยุ่งอยู่กับการปรุงโอสถระงับพิษของกู้เซียวอวิ้น หลายวันแล้ว วันนี้คงได้มีเวลาผ่อนคลายบ้าง ขณะกำลังเอนกาย สายตาเหลือบไปเห็นตลับยาที่วางทิ้งเอาไว้ ขบคิดอยู่ครู่หนึ่งก็จำได้ว่าเป็นยาแก้พิษที่มู่เยี่ยนนำมา ชายหนุ่มไม่ได้ใส่ใจเอนกายกำลังจะหลับตาลงสายลมอ่อนพัดโชยกลิ่นหนึ่งเข้ามาแตะจมูก เขาพลันลืมตาเบิกกว้างขึ้น กระโดดลุกขึ้นแล้วเดินไปคว้าตลับยานั้นขึ้นมาดูดวงตาบอกว่าชายหนุ่มตกตะลึงสุดขีด รีบเอาเข็มมาทิ่มเม็ดยาจากนั้นก็รีบทดสอบบางอย่าง เขาจับจ้องมองปฏิกิริยาในถ้วยยาจนเหงื่อหยดเต็มใบหน้าเลือดค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีแดงฉาด อย่างที่ควรเป็น“ไม่น่าเชื่อ...นี่คือยาตัวนั้นจริง ๆ หรือนี่” เฉิงหยวนคว้าตลับตาแล้ววิ่งออกไป องค์รักษ์หน้าห้องมองหมอเทวดาที่มีท่าทีลุกลนด้วยแววตาฉงนห้องอักษร “มู่เยี่ยน ๆ” เสียงตะโกนเรียกอย่างไร้มารยาทในจวนอ๋องดังขึ้นกู้เซียวอวิ้นเงยนหน้าขึ้นมา เอ่ย “นั่นเสีย
ตอนที่ 4 เพราะงดงาม นอกจากม่านชิงเฉียว ก็ไม่มีผู้ใดรู้ส่วนผสมของโอสถหยดโลหิตมังกร แม้กระทั่งเจ้าสำนักหมื่นพิษก็ยังหาคำตอบนี้ไม่ได้ เขาพยายามคาดเดาจากข้อมูลสมุนไพรที่บุตรสาวใช้แต่ก็ไม่สามารถสรุปได้ เจ้าสำนักหมื่นพิษคงไม่รู้ว่า เป็นเพราะคาดเดาผิดตั้งแต่แรกว่าจะต้องมีสมุนไพรล้ำค่าและหายาก ทว่าความจริงแล้ว ส่วนผสมของโอสถหยดโลหิตมังกรคือสมุนไพรธรรมดาที่สามารถหาซื้อได้ในร้านขายยาทั่วไป มูลค่าของพวกมันใช้เงินซื้อมาไม่ถึงตำลึงด้วยซ้ำ เว่ยเยว่ซินปรายตามองส่วนผสมที่จัดเตรียมไว้คลี่ยิ้มอย่างพึงพอใจ จากนั้นก็เริ่มปรุงโอสถอีกครั้งและตอนนี้ก็ไม่มีใครสนใจนางเหมือนครั้งแรกที่เริ่มลงมือ พวกเขาต่างคุ้นชินว่านางกำลังปรุงขี้ผึ้งทาผิวอีกแล้วตะวันคล้อยต่ำ กลิ่นหอมอ่อน ๆ ลอยฟุ้งอยู่ในอากาศ เว่ยเยว่ซินยิ้มจนตาหยี กลิ่นนี้ถูกต้องแล้ว!! นางหยิบตลับงดงามใบหนึ่งแล้วใส่โอสถที่พึ่งตกผลึกเสร็จใส่ลงไป คราวนี้ก็เหลือแค่ส่งมอบจ้าวลี่อิงยังคงมาตรวจชีพจรให้เว่ยเยว่ซิน ในขณะที่นางกำลังจับชีพจร เว่ยเยว่ซินก็เอ่ยขึ้น “เรียนถามท่านหมอ ช่วงที่ข้
ตอนที่ 3 ไม่เรียบเนียน เว่ยเยว่ซินเดินออกมาห้องนอน นางปรายดูเหล่าสาวใช้ที่ยืนอยู่แต่ละจุดพลางครุ่นคิด นางกำนัลที่ติดตามมาองค์หญิงเว่ยเยว่ซินถูกสังหารเสียชีวิตทั้งหมดในเหตุการณ์ครั้งนั้นและคาดว่ากู้เซียวอวิ้นได้เปลี่ยนสาวใช้ในตำหนักนางทั้งหมดเหมือนกัน นางส่งสายตาเรียกสาวใช้ผู้หนึ่งที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ “พระชายามีสิ่งใดให้หม่อมฉันรับใช้หรือเพคะ” เว่ยเยว่ซินยืนกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาพร้อมกล่าว “ข้าต้องการสมุนไพรเหล่านี้...ทั้งส่วนของต้นที่นำไปปลูกและตัวสมุนไพรแห้ง ...เจ้าช่วยเอาไปให้คนที่สามารถจัดการเรื่องนี้ให้ข้าที” สาวใช้รับมาอย่างนอบน้อมกล่าว “เพคะ..” เว่ยเยว่ซินกล่าวต่อ “และจัดหาคนที่แข็งแรงมือไม้คล่องแคล่วมาสักสามสี่คนมาช่วยข้าทำแปลงสมุนไพรด้วย...ได้เรื่องอย่างไรรีบมาแจ้งข้า...ไปได้” “เพคะ...หม่อมฉันจะรีบไปจัดการเดี๋ยวนี้” จากนั้นนางก็หันไปเรียกคนสาวใช้คนอื่น ๆ “พวกเจ้าตามข้ามา...ไปดูพื้นที่สักหน่อยตรงที่สามารถทำแปลงสมุนไพรได้” ห้องอักษรกู้เซียวอวิ้นกำลังอ่านเอกสารรายงานเกี่ยวกับกองทัพ ได้ย
ตอนที่ 2 ชะตาลิขิตม่านชิงเฉียวลืมตาขึ้นในความมืด ทบทวนเรื่องราวต่าง ๆ จากความทรงจำของเว่ยเยว่ซินอย่างเงียบงันหญิงงามผู้นี้...เกิดมาพร้อมรูปโฉมเหนือสามัญชน หากแต่ชะตากลับอาภัพยิ่งนัก หัวใจของนางแตกสลายเพราะชายคนรักถูกสังหารเพียงเพราะพยายามยับยั้งการแต่งงานทางการเมืองของนางม่านชิงเฉียวทอดถอนใจให้กับโชคชะตาอันน่าเวทนาของอีกฝ่าย ขณะนั้นเอง ประตูห้องถูกเปิดออกอย่างเงียบงัน ร่างสูงของบุรุษผู้หนึ่งก้าวเข้ามา แม้ภายในห้องจะไร้แสงตะเกียง แต่เขาก็มองเห็นว่านางลืมตาตื่นอยู่ฝีเท้าของเขาชะงักเล็กน้อย ดวงหน้าฉายแววโล่งอก เขายกมือโบกให้สาวใช้ออกไป ก่อนจะก้าวเข้ามาอย่างช้า ๆ แล้วนั่งลงที่ขอบเตียง"รู้สึกอย่างไรบ้าง...ยังเจ็บตรงไหนหรือเปล่า" น้ำเสียงของเขาอ่อนโยน พร้อมรอยยิ้มอบอุ่นดุจฤดูใบไม้ผลิม่านชิงเฉียวปรายตามองอีกฝ่าย ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าไร้กลิ่นอายสังหารเฉกเช่นในวันก่อน บัดนี้เขาสวมอาภรณ์หรูหราสีคราม มวยผมรวบขึ้นสูง ครอบด้วยกวานหยก ใบหน้าแลดูหล่อเหลาและสง่างามดุจจันทร์ท่ามกลางสายลมอ่อนนางกะพริบตาเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยเสียงแผ่วเบา "มึนหัวเล็กน้อยเพคะ"นางมิได้โกหก...นางกำลังมึนหัวจริง ๆ เพราะ
หญิงสาวอรชรผู้หนึ่งกระโจนลงจากหน้าผาท่ามกลางเสียงกระบี่แว่วแผ่วเป็นการหลบหนีจากการตามล่าที่ไม่มีทางรอดหัวหน้าคนชุดดำตะโกนลั่น “ตามลงไป! ตายก็ต้องเห็นศพ!”แต่ยังไม่ทันเคลื่อนไหว ก็มีเงาคนกระซิบเร่งข้างหู“หัวหน้า! มีกำลังคนจำนวนมากกำลังมาทางนี้!”สีหน้าของหัวหน้าคนชุดดำเปลี่ยนไปทันทีเขาตัดสินใจรวดเร็ว “ล่าถอย!”แม้จะรอดจากการตามล่าแต่บาดแผลทั้งภายนอกและภายในก็สาหัสเกินเยียวยาม่านชิงเฉียว หญิงสาวผู้นั้น...สิ้นลมหายใจกลางเงาไม้และเสียงสายลมขณะที่วิญญาณหลุดออกจากร่างนางนั่งเหม่ออยู่กลางความว่างเปล่าไม่มีความเจ็บ ไม่มีเสียงรอบข้างราวกับถูกแขวนลอยอยู่เหนือทุกสิ่งทันใดนั้น...เสียงกระบี่ดังแว่วขึ้นจากด้านบนหน้าผาพร้อมเสียงของสตรีผู้หนึ่งดังกึกก้อง “ข้ายอมตาย!!”ร่างของหญิงงามในชุดสูงศักดิ์พุ่งตกลงมากระแทกสายน้ำเป็นฟองวงกว้าง ไม่นาน...มีหญิงอีกคนกระโจนตามลงมาเสียงร้องเรียกชื่ออีกฝ่ายด้วยความสิ้นหวัง นางคือบ่าวรับใช้คนสนิทม่านชิงเฉียวลุกขึ้น มองเหตุการณ์เบื้องล่างด้วยความสนใจดวงตาสะท้อนภาพสตรีผู้หนึ่งยอมแตกละเอียดดั่งหยกแต่ไม่ยอมเป็นกระเบื้องที่สมบูรณ์ภายในใจของม่านชิงเฉียวเ