Home / รักโบราณ / ชายาอ๋องตัวร้าย / ตอนที่1 ต้นเหตุเพราะข้า

Share

ชายาอ๋องตัวร้าย
ชายาอ๋องตัวร้าย
Author: เด็กน้อยคว้าฝัน

ตอนที่1 ต้นเหตุเพราะข้า

last update Last Updated: 2025-06-19 22:34:19

ตัวละครหลัก

*ฟางหนิงหลิน อายุ19หนาว บุตรสาวของฟางรั่วซานแม่ทัพผู้บัญชาการใหญ่รักษาเมืองหลวง

*เหยาลี่เซียน อายุ18หนาว องค์หญิงเกิดจากฮ่องเต้กับหลัวฮองเฮา(ฮองเฮาองค์ปัจจุบัน)

*เจียงเจียวซิน อายุ19หนาว บุตรสาวของเจียงจี้ต๋ารองแม่ทัพผู้บัญชาการรักษาเมืองหลวง

*เหยาซีฮัน อายุ24หนาว องค์ชายใหญ่เกิดจากฮ่องเต้กับหลัวฮองเฮา(ฮองเฮาองค์ปัจจุบัน) ตำแหน่งไท่จื่อหรือองค์รัชทายาท

*เหยาหวังเหว่ย อายุ23หนาว องค์ชายรองเกิดจากฮ่องเต้กับตงฮองเฮา(ฮองเฮาพระองค์ก่อน) ตำแหน่งชินอ๋อง

*เหยาซิงอี อายุ21หนาว องค์ชายสามเกิดจากฮ่องเต้กับตงฮองเฮา(ฮองเฮาพระองค์ก่อน) ตำแหน่งจวิ้นอ๋อง

*สวีจื้อซาน อายุ24หนาว บุตรชายของเสนาบดีสวี เสนาบดีสำนักตรวจราชการ ตำแหน่งองครักษ์

*เสิ่นหลิวหยาง อายุ23หนาว บุตรชายของแม่ทัพใหญ่เสิ่น ตำแหน่งแม่ทัพ

หน้ากระโจมหลังหนึ่งที่ตั้งอยู่หลังค่ายทหาร มีนายทหารสองคนยืนเฝ้าอยู่ด้านหน้า เพียงทหารผู้น้อยสองนายเห็นสตรีผู้หนึ่งเดินมา พวกเขาก็รีบก้มหน้าก้มตาทำความเคารพอย่างนอบน้อม

“พวกท่านถอยออกไปก่อนได้หรือไม่ ข้ามีเรื่องอยากจะพูดกับนางสักหน่อย” หญิงสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงและท่าทางที่อ่อนโยน

“พระชายา พระองค์ทรงเกรงใจพวกกระหม่อมมากไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ แค่เพียงพระองค์ตรัสสั่งมีหรือทหารต้อยต่ำอย่างพวกกระหม่อมจะกล้าไม่ทำตาม”

“เช่นนั้นข้าก็ขอบใจพวกท่านมาก”

“เชิญพระชายาตามสบาย พวกกระหม่อมจะถอยออกไปรออยู่ไม่ไกลมากนัก หากมีเรื่องอันใดพระองค์เรียกพวกกระหม่อมได้เลยพ่ะย่ะค่ะ”

เมื่อทหารทั้งสองนายพูดจบก็ถอยหลังเดินออกจากบริเวณนั้นไป สตรีสูงศักดิ์เดินเข้าไปด้านในกระโจม ขนาดของกระโจมหลังนี้ไม่ได้ใหญ่มากนัก ภายในมีสตรีผมเผ้ารุงรัง เสื้อผ้าขาดวิ่นเผยให้เห็นผิวขาวเป็นบางส่วน หน้าตามอมแมมเนื้อตัวดูสกปรก รูปร่างผอมโซไร้วี่แววว่าเคยเป็นคุณหนูตระกูลใหญ่ที่มีอำนาจ

สตรีนางนั้นเมื่อเห็นสตรีสูงศักดิ์เดินเข้ามาก็รีบลุกขึ้นวิ่งมาหานางทันที แต่ยังไม่ทันจะถึงตัวสตรีสูงศักดิ์โซ่ที่ล่ามขาของนางก็ตึงนางไว้จนล้มลงไปนอนกับพื้น

สตรีสูงศักดิ์ถึงจะตกใจที่นางวิ่งเข้ามาหา แต่เมื่อเห็นนางล้มลงไปกองอยู่ที่พื้นก็ยกยิ้มขึ้นมาอย่างพอใจ สตรีสูงศักดิ์ก้าวเดินต่อเข้าไปหานาง และหยุดยืนอยู่ตรงหน้าของสตรีผอมโซ ก่อนจะใช้สายตาเหยียดหยามมองดูนางที่พยายามลุกขึ้นนั่ง

“เจียวซินช่วยข้าด้วย ข้าผิดไปแล้ว ข้าขอโทษ”

สตรีที่ถูกล่ามโซ่จับขาของสตรีสูงศักดิ์ไว้และร้องขออย่างน่าเวทนา แต่กลับไร้วี่แววว่าสตรีสูงศักดิ์ผู้นั้นจะเห็นใจในการกระทำของนาง มิหนำซ้ำนางยังสะบัดขาหนีและมองมายังหญิงสาวที่ถูกล่ามโซ่อย่างดูแคลน

แต่สตรีที่ถูกล่ามโซ่กลับคิดว่าตัวนางเองคงไร้มารยาท เพราะถึงอย่างไรตอนนี้นางและเจียงเจียวซินก็ฐานะแตกต่างกันมาก บวกกับสิ่งที่นางกระทำต่อเจียงเจียวซินก็คงทำให้เจียงเจียวซินโกรธเคืองอยู่ไม่น้อย

“ขออภัยเพคะ หม่อมฉันลืมตัวไปจึงได้แสดงท่าทางไร้มารยาทต่อพระองค์ หม่อมฉันขอร้องพระชายาองค์รัชทายาทช่วยหม่อมฉันด้วยเพคะ หม่อมฉันผิดไปแล้วหม่อมฉันขอโทษเพคะ พระองค์ยกโทษให้หม่อมฉันได้หรือไม่” นางลุกขึ้นนั่งพร้อมทั้งยกมือไหว้อ้อนวอนขอให้เจียงเจียวซินอภัยแก่นาง

“เจ้าทำอันใดผิดอย่างนั้นหรือ” เจียงเจียวซินพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน

“หม่อมฉันผิดที่วางยากำหนัดพระองค์กับองค์รัชทายาท ทำให้พระองค์เสียใจ แต่ที่หม่อมฉันทำไปเพียงเพราะหม่อมฉันอยากให้ท่านอ๋องเลิกคิดคำนึงถึงพระองค์ก็เท่านั้น หม่อมฉันคิดว่าหากพระองค์แต่งงานออกเรือนไปแล้ว ท่านอ๋องจะหันมาสนใจหม่อมฉันบ้าง หม่อมฉันรู้ว่าหม่อมฉันทำผิดต่อพระองค์ หม่อมฉันจึงเลือกวางยาองค์รัชทายาทแทนที่จะเลือกวางยาท่านแม่ทัพ เพราะหม่อมฉันคิดว่าหากให้พระองค์เป็นชายาองค์รัชทายาทก็คงดีกว่าเป็นฮูหยินท่านแม่ทัพ และนี่เป็นอย่างเดียวที่ทำให้หม่อมฉันรู้สึกผิดต่อพระองค์น้อยลง” นางเอ่ยความในใจที่มีออกมา

“ฟางหนิงหลินนะฟางหนิงหลิน เจ้าคิดจริง ๆหรือว่าข้าเสียใจ ข้าต้องขอบใจเจ้าด้วยซ้ำที่ทำให้ข้าสมหวัง” เจียงเจียวซินหัวเราะเสียงดังพร้อมแสดงสีหน้าเยาะเย้ย

“พระองค์หมายความว่าอย่างไรเพคะ” ฟางหนิงหลินคิ้วขมวดติดกันเมื่อเห็นท่าทางของเจียงเจียวซิน

“เจ้าคิดว่าข้ารักท่านอ๋องอย่างนั้นหรือ” เจียงเจียวซินยกยิ้มขึ้นก่อนจะเอ่ยต่อ

 “เปล่าเลย ข้าเพียงแค่รู้ว่าเจ้าชอบท่านอ๋อง จึงคิดอยากแย่งเขามาเพื่อให้เจ้าเสียใจก็เท่านั้น ที่จริงตอนที่เจ้าแต่งกับท่านอ๋องข้าเองก็เจ็บใจอยู่บ้างที่เจ้าสมหวัง และไม่สามารถมีอำนาจมากกว่าเจ้าได้ ข้าต้องขอบใจเจ้ามากจริง ๆที่ทำให้ข้ามีอำนาจมากกว่าเจ้า และที่สำคัญไปกว่านั้นข้ายังสามารถทำให้เจ้าและครอบครัวตกต่ำได้อย่างเช่นวันนี้” เจียงเจียวซินพูดเสร็จก็หัวเราะออกมาเสียงดังอย่างสะใจ

ฟางหนิงหลินถึงกับใบหน้าถอดสีที่ได้รับรู้ความจริงจากปากเจียงเจียวซิน เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้นในวันนั้นนางก็รู้สึกผิดต่อเจียงเจียวซินมาตลอด แต่ตอนนี้นางได้รู้แล้วว่าไม่ใช่อย่างที่นางคิดไว้เลย นางต่างหากที่เป็นคนตกหลุมพรางกลายเป็นหมากให้ผู้อื่น

เจียงเจียวซินเห็นสีหน้าของฟางหนิงหลินก็ถึงกับยิ้มยกขึ้น นางย่อตัวลงไปนั่งใกล้ ๆกับฟางหนิงหลินก่อนจะเอ่ยเสียงเบา ๆ เพื่อเล่าถึงเรื่องราวต่าง ๆที่นางได้ทำกับฟางหนิงหลินและคนรอบตัวของฟางหนิงหลินด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกถึงความสาแก่ใจ

ฟางหนิงหลินที่นั่งเหม่อลอยคิดไตร่ตรองความผิดที่นางได้กระทำลงไปด้วยความโง่เขลาและดื้อรั้น นางได้ยินเรื่องราวทั้งหมดน้ำตาก็ไหลอาบแก้มจนหยุดไม่ได้ ก่อนที่นางจะตาเบิกโตเมื่อได้รับรู้สาเหตุการตายของท่านพ่อท่านแม่ว่าหาได้กระทำความผิดไม่ เพียงแต่ถูกใส่ความทำให้ถึงกับตรอมใจตาย เพียงแค่ได้ยินแค่นั้นก็ทำให้สติของนางขาดสะบั้น นางกระชากปิ่นทองที่ปักผมของเจียงเจียวซินอยู่ออกมาโดนที่เจียงเจียวซินไม่ทันได้ตั้งตัว

เจียงเจียวซินกว่าจะตั้งสติได้ก็หลบปลายแหลมของปิ่นไม่พ้นเสียแล้ว นางได้แต่ส่งเสียงกรีดร้องออกมาอย่างตกใจ ปลายปิ่นทองที่แหลมคมปักเข้าที่ลำคอของนางและถูกกระชากออกอย่างรวดเร็ว เลือดสาดกระเซ็นออกมาตามปิ่นที่ถูกกระชากออก

เจียงเจียวซินรีบใช้มือปิดบาดแผลที่คอ ก่อนจะร้องส่งเสียงให้ทหารเวรข้างนอกเข้ามาช่วยพร้อมกับรีบลุกขึ้นอย่างลุกลี้ลุกลนเพื่อหนีฟางหนิงหลินแต่ไม่ทันเสียแล้ว ฟางหนิงหลินจับข้อเท้าของเจียงเจียวซินจนนางล้มลงก่อนจะลากตัวนางเข้ามาใกล้และขึ้นคร่อมร่างของเจียงเจียวซินไว้

ฟางหนิงหลินใช้ปิ่นกระหน่ำแทงอย่างไม่คิดชีวิตราวกับคนเสียสติ นางไม่สนใจว่าปิ่นนั้นจะทิ่มแทงโดนที่ใดบ้าง นางหวังเพียงแค่แทงให้คนที่อยู่ใต้ร่างได้ตายอย่างทรมานเป็นพอ เจียงเจียวซินทั้งปัดป้องและร้องเรียกทหาร แต่แรงของนางก็ไม่สามารถจะสู้ฟางหนิงหลินที่กำลังคลุ้มคลั่งได้เลย

ทหารที่อยู่ด้านนอกเมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องก็รีบวิ่งกลับมายังกระโจมทันที เมื่อเขาเปิดกระโจมเข้ามาก็ถึงกับหน้าซีดเผือดเมื่อเห็นพระชายานอนอยู่ใต้ร่างของฟางหนิงหลิน เนื้อตัวของทั้งคู่เปรอะเปื้อนไปด้วยเลือด ถึงจะแยกไม่ออกว่าเลือดนี้เป็นของใคร แต่การที่พระชายาถูกทำร้ายขณะที่พวกเขาทำหน้าที่อยู่นั้น พวกเขาก็คงรักษาชีวิตไว้ไม่ได้เป็นแน่ ทหารนายหนึ่งรีบตวาดเสียงดังเพื่อให้ฟางหนิงหลินหยุด

แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้นเมื่อฟางหนิงหลินหันมาเห็นทหารทั้งสอง ถึงจะทำให้นางหยุดชะงักไปช่วงหนึ่ง แต่ทำให้นางคิดได้ว่าหากครั้งนี้ฆ่าเจียงเจียวซินไม่ได้นางคงไม่มีโอกาสลงมืออีกแล้ว นางจึงใช้ปิ่นแทงลงบนอกของเจียงเจียวซินและใช้แรงทั้งหมดกดย้ำลงไป จนในที่สุดเจียงเจียวซินก็นอนตาเหลือกแน่นิ่งไป

ทหารทั้งสองกระชากฟางหนิงหลินออกจากร่างเจียงเจียวซินทันทีที่ถึงตัวนาง นางตั้งสติได้และรับรู้ชะตาที่จะเกิดขึ้นกับตนเอง เมื่อเห็นมีดสั้นที่อยู่ข้างเอวของนายทหาร นางจึงลุกขึ้นไปกระชากมีดสั้นนั้นมา ถึงทหารผู้นั้นจะตั้งสติได้อย่างรวดเร็วแต่ก็ไม่ทันที่จะแย่งมีดนั้นมาได้เพราะบัดนี้นางได้ปักมีดสั้นเล่มนั้นลงบนอกของนางเสียแล้ว

นางล้มลงนอนบนพื้นเลือดค่อย ๆซึมออกมาจนไหลกองนองพื้น ภาพสุดท้ายก่อนนางจะหมดลมหายใจ กลับได้เห็นบุรุษที่นางรักวิ่งเข้ามาในกระโจมด้วยสีหน้าตกตะลึง

“ข้าขอโทษ ความผิดข้าเองหากมีโอกาสอีกครั้ง ข้าจะไม่ขอเป็นชายาของท่านอีก” นางเอ่ยด้วยเสียงแผ่วเบาก่อนจะสิ้นใจไปในที่สุด

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ชายาอ๋องตัวร้าย   ตอนพิเศษที่10 อยากเป็นคนเฝ้าประตูNc

    “จะว่าหม่อมฉันได้เช่นไรเพคะ ต้องโทษพระองค์ที่ทำตัวไม่เหมาะ ทั้งรถม้าเอย ทั้งเรือนนอกเมืองเอย อีกทั้งยังส่งองครักษ์คนสนิทไปคอยดูแลไหนเลยใครเห็นจะไม่เข้าใจผิด พระองค์รู้หรือไม่ยามนี้คนทั่วเมืองต่างพากันสงสัยแล้วว่าท่านอ๋องหรือท่านองครักษ์ซูที่เป็นบิดาของเด็กในท้อง จนถึงขั้นเปิดเดิมพันที่โรงพนันหลินหลงแล้วเพคะ”“เช่นนั้นพรุ่งนี้ข้าจะส่งซูโม่อี้ไปลงพนันกับพวกเขาเสียหน่อย แต่ว่ายามนี้ข้าอยากพักผ่อนแล้ว” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนลงในช่วงท้าย“เช่นนั้นก็นอนเถอะเพคะ หม่อมฉันจะไปเตรียมยากับอาหารไว้ให้” ฟางหนิงหลินระบายยิ้มอ่อน ๆ ส่งให้สามี พร้อมกับลุกขึ้นความหมายคำว่า ‘พักผ่อน’ ของเหยาหวังเหว่ยนั้นมิได้หมายความว่าเขาจะนอน เมื่อเห็นภรรยาตัวนอนลุกขึ้นเขาจึงรีบคว้ามือของนางทันที พร้อมเอ่ยกับภรรยาตัวน้อยด้วยเสียงออดอ้อน“หนิงหลินเจ้าจะเป็นสตรีเพียงคนเดียวที่ข้าจะเฝ้าเจ้าคลอดลูก เช่นนั้นเจ้าคลอดบุตรชายบุตรสาวให้ข้าได้หรือไม่”ใบหน้าของฟางหนิงหลินขึ้นสีเล็กน้อย นางค่อย ๆ พยักหน้าขึ้นลงช้า ๆ เพียงได้คำตอบจากภรรยา สวามีตัวสูงก็ดึงแขนภรรยาตัวน้อยลงมาพร้

  • ชายาอ๋องตัวร้าย   ตอนพิเศษที่9 เข้าใจผิด

    ตลอดทางที่อยู่ในรถม้า คนตัวสูงได้แต่นอนพิงคนตัวเล็กกว่าจนหลับไป ฟางหนิงหลินน้ำตาไหลเพราะนึกว่าเขานั้นหมดสติ นางเร่งคนขับรถม้าให้เพิ่มความเร็วขึ้น สารถีเมื่อได้ยินน้ำเสียงร้อนรนของพระชายาก็เร่งความเร็วขึ้นตามผู้เป็นนายสั่งฟางหนิงหลินพยายามปลุกเหยาหวังเหว่ยให้ตื่น แต่ทว่าบุรุษตัวโตไม่แม้แต่จะลืมตาขึ้นมาเพื่อให้นางสบายใจ เหยาหวังเหว่ยมิใช่ไม่ได้สติแต่เขานั้นอยากเอาคืนนางเสียหน่อยที่นางนั้นมิยอมเชื่อใจเขา และไม่แม้แต่จะฟังเขาอธิบายเมื่อมาถึงตำหนักเหล่าองครักษ์ก็พากันมาแบกเหยาหวังเหว่ยเข้าไปยังในตำหนัก เหยาหวังเหว่ยยังคงแกล้งไม่ได้สติจนกระทั่งหมอที่ซูโม่อี้ตามมาทำความสะอาดแผลพร้อมกับใส่ยาและพันแผลให้เหยาหวังเหว่ยเสร็จ เขาจึงแสร้งทำเป็นได้สติและลืมตาขึ้น“พระชายาอย่าได้เป็นกังวลไปพ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋องมีพระวรกายแข็งแรงไม่ช้าก็จะหายดี เพียงแต่ช่วงนี้อย่าให้ท่านอ๋องออกแรงมากมิเช่นนั้นแผลอาจฉีกอีก และระวังอย่าให้เป็นไข้มิเช่นนั้นอาจมีโรคอื่นแทรกซ้อนนะพ่ะย่ะค่ะ” หมอชราเอ่ยพร้อมยิ้มให้ฟางหนิงหลินก่อนจะกลับ“ขอบคุณท่านหมอมาก” ฟางหนิงหลินเอ่ยจบก็ยิ้มตอบ“ท่านหมอเ

  • ชายาอ๋องตัวร้าย   ตอนพิเศษที่8 จุดจบความหมางเมิน

    “หลินเอ๋อร์เจ้าใจเย็นก่อน เดี๋ยวพี่จะไปจัดการเขาให้เอง” สวีจื้อซานรีบเอ่ย ถึงเรื่องที่เหยาหวังเหว่ยมีอนุเขานั้นไม่อาจสอดมือเข้าไปยุ่งได้ แต่เรื่องที่เหยาหวังเหว่ยได้ใหม่ลืมเก่ารังแกน้องสาวของเขาเช่นนี้เขาย่อมไม่อยู่เฉยฟางหนิงหลินมิได้เอ่ยตอบ นางหมุนตัวเพื่อเดินกลับเข้าไปด้านหลังร้าน เพราะไม่อยากให้ผู้ใดเห็นน้ำตาความรู้สึกผิดหวังถาโถมใส่กลางใจหญิงสาวเมื่อเดินมาถึงเรือนหลังร้านน้ำตาก็ไหลทะลักออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ นางยกหลังมือขึ้นปาดน้ำตาที่กำลังไหลรินเงียบ ๆ ไม่มีเสียงสะอื้นไห้ แต่ทว่าความเจ็บปวดร้าวนั้นทำนางแทบจะขาดใจหลังจากที่ฟางหนิงหลินเดินหายเข้าไปหลังร้าน เสียงซุบซิบภายในร้านก็ดังขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อน สวีจื้อซานกับเหยาซิงอีและเสิ่นหลิวหยางรับปากกับเหล่าสตรีว่าพวกเขานั้นจะไปคุยกับเหยาหวังเหว่ยให้รู้เรื่อง ให้พวกนางใจเย็น ๆ อย่าเพิ่งวู่วามแต่ยังไม่ทันที่เหล่าบุรุษจะก้าวเท้าออกไป บุรุษที่เพิ่งก้าวเท้าออกจากร้านไปก็เดินกลับเข้ามาอีกครั้ง พร้อมมุ่งหน้าตรงไปยังหลังร้าน เพื่อไปหาภรรยาของเขาทั้งสตรีทั้งบุรุษที่เป็นสหายเดินตามเหยาหวังเหว่ยเข้ามาถึงห

  • ชายาอ๋องตัวร้าย   ตอนพิเศษที่7 หย่า

    เหยาซิงอีจ้องมองดวงตาของสตรีตรงหน้าที่กำลังสั่นไหว นัยน์ตาของนางดูเศร้าราวกับโลกที่เคยเบิกบานของนางทลายลง ความเสียใจทั้งหมดทั้งมวลแสดงออกมาทางใบหน้า เขาทนไม่ไหวที่จะเห็นนางเป็นเช่นนี้ โทสะที่บังเกิดขึ้นก่อนหน้าหายไปเพียงแค่ได้เห็นตาและจมูกที่เปลี่ยนสีเป็นสีแดงระเรื่อ ท่าทางที่เหมือนกับนางกำลังจะร้องไห้ทำให้เขาต้องรีบเอ่ยประโยคที่ยังไม่ทันได้เอ่ยโดยพลัน“เพราะมีเพียงเจ้าเท่านั้นที่เราจะให้เกียรติเป็นพระชายาของเรา เช่นนั้นจะให้เราให้เกียรติเจ้าเหมือนสตรีนางอื่นได้เช่นไร”ดวงตาของลี่อินเบิกกว้างอย่างตกตะลึง นางนั้นพยายามตั้งสติเพราะคิดว่าตนเองอาจหูฝาดไป แต่เมื่อได้ยินคำอวยพรรวมทั้งคำยินดีจากสหายและลูกค้าที่อยู่ในร้านก็ทำให้นางรู้ว่าที่นางนั้นได้ยินไม่ผิด ใบหน้าหวานของนางขึ้นสีระเรื่อ ลี่อินเบือนหน้าหนีแสร้งหลบตาอย่างเขิน ๆท่วงท่าเขินอายของลี่อินเสริมเสน่ห์ให้นางจนเหยาซิงอีนั้นยากจะอดใจไหว เขาจับคางเล็กให้เงยขึ้นก่อนจะประกบปากลงไปจุมพิตริมฝีปากงาม โดยไม่สนใจสายตาของคนในร้านแม่นางน้อยใหญ่ที่อยู่ในร้านเมื่อได้เห็นการแสดงความรักของจวิ้นอ๋องเหยาซิงอีก็ต่างพากัน

  • ชายาอ๋องตัวร้าย   ตอนพิเศษที่6 มีทางเลือกอย่างนั้นหรือ

    ยามนี้เป็นเวลาทำงานของสวีจื้อซาน กว่าคนของเขาจะฝากคนส่งข่าวเข้ามารายงานได้ก็กินเวลาไปเกือบ2เค่อแล้ว และกว่าที่เขานั้นจะออกมาจากพระราชวังได้ก็ป่าไปเกือบครึ่งชั่วยามทางด้านเหยาซิงอีที่เมื่อคืนร้อนใจจนนอนไม่หลับจึงได้ชวนเสิ่นหลิวหยางดื่มสุราด้วยกันที่จวนของเขานั้น เมื่อได้ยินรายงานจากคนของตนก็ไม่รอช้ารีบออกจากจวนไปทันที โดยมีเสิ่นหลิวหยางตามติดมาด้วยตอนแรกเหยาซิงอีจะไปหาลี่อินแต่เช้า แต่เสิ่นหลิวหยางบอกให้รอเหยาหวังเหว่ยมาจัดการเรื่องทุกอย่างก่อน ไม่เช่นนั้นที่ลี่อินเพียงแค่หมางเมินใส่อาจจะกลายเป็นทะเลาะกันก็เป็นได้ เหยาซิงอีจึงเชื่อคำของสหายไม่ไปหาลี่อินแต่เช้ากว่าเหยาซิงอีกับเสิ่นหลิวหยางจะมาถึง เหล่าสตรีก็นั่งพักจิบน้ำชากินขนมที่โรงน้ำชาไป่เหอกันเสียแล้ว เพียงพวกเขาทั้งสองเดินเข้ามาในโรงน้ำชา สายตาของพวกเขาทั้งสองก็มุ่งตรงไปยังกลุ่มของสตรีทั้งห้าคนทันที ถึงบุรุษทั้งสองจะมิใช้สายตามองผู้ใดนอกจากสตรีทั้งห้า แต่ทว่าบุรุษที่อยู่ในร้านที่จ้องมองพวกนางอยู่นั้นก็รีบเก็บสายตาและหันหน้าหนีทันทีทันใด เพราะไอสังหารที่แผ่ออกมาจากบุรุษทั้งสองนั้นมีมากพอที่จะทำให้พวกเขาหวาดกลัวเหยาซิงอีเมื่อมาถ

  • ชายาอ๋องตัวร้าย   ตอนพิเศษที่5 ช่อดอกไม้งาม

    วันต่อมาลี่อินกับเสี่ยวเยาตื่นแต่เช้า พวกนางออกมาจ่ายตลาดเพื่อจะได้เตรียมอาหารเช้าให้สตรีคนอื่น ๆ ที่ยังคงนอนไม่ตื่น และอีกอย่างเพราะเจียงเจียวซินออกมาค้างคืนข้างนอกกะทันหัน ยาบำรุงที่ควรจะดื่มในทุกวันจึงไม่ได้เอาออกมาด้วย เสี่ยวเยาจึงต้องมาโรงหมอที่เคยมารับยาทุกครั้ง เพื่อซื้อยาบำรุงให้คุณหนูของนาง“ข้ามาหาท่านหมออี้” เสี่ยวเยาเอ่ยถามเด็กรับใช้ที่อยู่ในโรงหมอ“ขอโทษทีขอรับ เมื่อคืนนี้ทั้งท่านหมออี้และอี้ฮูหยินออกไปนอกเมือง ถึงยามนี้ก็ยังไม่กลับมาขอรับ” เด็กหนุ่มเอ่ยตอบแขกผู้มาเยือนด้วยท่าทีนอบน้อม“เช่นนั้นเจ้ารู้หรือไม่ว่าท่านหมออี้ไปทำอะไรที่นอกเมืองและจะกลับมาเมื่อใด” เสี่ยวเยาเอ่ยถาม เพราะถ้าหากกลับช้าคุณหนูของนางอาจจะกินยาบำรุงไม่ตรงเวลา เช่นนั้นนางคงต้องกลับไปจวนตระกูลสวีเพื่อเอายา“ข้าน้อยก็ไม่ทราบขอรับ ข้าน้อยรู้แต่ว่าทหารของตำหนักชินอ๋องมาเชิญท่านหมออี้และอี้ฮูหยินไปทำคลอดให้สตรีที่อยู่นอกเมืองขอรับ ส่วนจะกลับมาเมื่อไรนั้นข้าน้อยไม่อาจคาดเดาได้”เพียงได้ยินคำตอบลี่อินและเสี่ยวเยาก็ต่างมองหน้ากัน พวกนางรู้เหตุผลแล้วว่าใยเมื่อคืนนี้ชินอ๋องเหยาหวังเหว่ยจึงไม่รีบกลับมาง้อฟางหนิ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status