จูจิ้งเหวินย่อมมีแผนของตัวเอง “ท่านแม่ รอหนังสือจากทางการมาถึง อย่างไรข้าก็เป็นถึงผู้ว่าการอำเภอ ยังต้องกลัวว่าไม่มีเงินอีกหรือ?”แม้เป็นผู้ว่าการอำเภอที่ใสสะอาดสิบปี ก็ยังมีผลประโยชน์มากมายเข้าตัว ถึงเวลานั้น เขาสามารถหาได้มากกว่านี้เป็นร้อยพันเท่า เงินแค่นั้นของห่าวเจินเจินเขาไม่ต้องการหรอกฮูหยินผู้เฒ่าจูขมวดคิ้ว ยังคงรู้สึกปวดใจ ทั้งที่สามารถเก็บเงินเหล่านี้ไว้ กลับจะยกให้ห่าวเจินเจินทั้งหมดแต่เมื่อได้ยินคำอธิบายของจูจิ้งเหวิน ก็รู้สึกว่าลูกชายพูดถูก มีที่ไหนคนเป็นขุนนางขัดสนเรื่องเงินทอง สินเดิมแค่นั้นของห่าวเจินเจินนับอะไรไม่ได้เลย!“ก็ได้ เช่นนั้นก็ทำตามที่เจ้าพูด”หลังจากจูจิ้งเหวินปรึกษาฮูหยินผู้เฒ่าเสร็จ ก็หันไปมองห่าวเจินเจิน“ห่าวเจินเจิน เดิมทีเห็นแก่ที่เจ้ากับข้าเป็นสามีภรรยากันมาหลายปี ข้าอยากจะเหลือทางออกให้เจ้า แต่คิดไม่ถึงว่าเจ้ากลับเลือกหย่ากับข้า นี่จะโทษข้าไม่ได้แล้วนะและข้าก็ไม่ต้องการสินเดิมของเจ้าด้วย เด็กๆ ไปยกสินเดิมตามรายการที่อยู่ในมือนางออกมาให้หมด” ห่าวเจินเจินคิดไม่ถึงว่าจะราบรื่นเช่นนี้ ดูเหมือนจูจิ้งเหวินจะหารักแท้เจอแล้วจริงๆ และแทบรอไม่ไหวท
“ฮูหยินผู้เฒ่า แย่แล้วๆ ข้างหน้า เส้าฮูหยินกลับมาแล้วเจ้าค่ะ!” หญิงรับใช้คนสนิทของฮูหยินผู้เฒ่าจูวิ่งกลับมารายงานดวงตาจูตั่วลุกวาวโดยพลัน “พี่สะใภ้ใหญ่กลับมาแล้ว เยี่ยมไปเลย!”ฮูหยินผู้เฒ่าจูสะบัดเสียงเย็นอย่างถือตัว “ยังรู้จักกลับมาอีกหรือ ในฐานะสะใภ้ของสกุลจู กล้าหนีออกจากบ้าน แถมยังลงมือทำร้ายสามี ต้องลงโทษตามกฎประจำตระกูล! นางอยู่ไหน ให้นางมาหาข้า!” หญิงรับใช้คิดในใจ ‘ตอนนี้พวกท่านยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่ด้านหน้า’ “เส้าฮูหยิน นาง นางกลับมาเพื่อขอหย่าเจ้าค่ะ!” “นางถึงขั้นกล้าหย่า? ข้าไม่อนุญาต!” จูตั่วชิงกล่าวก่อนที่ฮูหยินผู้เฒ่าจะเอ่ยปาก “ท่านแม่ ให้พี่สะใภ้ใหญ่หย่าไม่ได้นะ หากพวกเขาหย่ากัน ใครจะดูแลร้านค้าของเรา แล้วก็ท่านด้วย…พี่สะใภ้ใหญ่ดูแลท่านดีกว่าข้าตั้งเยอะ”หญิงรับใช้กล่าวด้วยสีหน้าขมขื่น “คุณหนูรอง เส้าฮูหยินไม่เพียงจะขอหย่า ยังจะเอาสินเดิมไปด้วยเจ้าค่ะ”คราวนี้แม้แต่ฮูหยินผู้เฒ่าจูก็นั่งไม่ติดแล้ว นางเงยหน้าฉับพลัน “นางคิดจะเอาสินเดิมไปด้วย?” “ทำเช่นนี้ได้อย่างไร นางแต่งเข้าตระกูลของเรา สินเดิมก็เป็นของตระกูลเราแล้ว!” จูตั่วร้อนรนแล้วท้ายที่สุดสองแม่ลูกตั
“พี่หญิง” ซ่งอวิ้นชิงเอ่ยปากก่อน แม้ปากเรียกพี่หญิง แต่การกระทำไม่เคารพห่าวเจินเจินเลยสักนิด น้ำเสียงในการพูดก็เรียบเฉยมาก“ท่านคิดตกและกลับมาเองได้ก็ดีแล้ว ข้าไม่ได้มีเจตนาจะแย่งผู้ชายของท่าน แต่ข้ากับท่านพี่รักกันด้วยความจริงใจ ท่านโปรดวางใจ ข้าจะไม่แย่งสิทธิ์ในการดูแลเรือนส่วนหลังกับท่าน ข้ามีเรื่องที่สำคัญกว่าต้องทำ และไม่ชอบดูแลเรือนส่วนหลังด้วย ขอแค่ต่อไปท่านอยู่อย่างสงบเสงี่ยม ไม่ใช้เล่ห์เหลี่ยมอะไรอีก ข้าจะอยู่ร่วมกับท่านอย่างสันติแน่นอน”ขณะที่ซ่งอวิ้นกล่าว แววตาเรียบเฉย และยังถึงขั้นจิบน้ำชาไปคำหนึ่ง เห็นห่าวเจินเจินเป็นผู้น้อยอย่างชัดเจนห่าวเจินเจินหัวเราะแล้วนางไม่ได้เอ่ยปากพูด เพียงแค่หันไปมองจูจิ้งเหวินอย่างเหยียดหยามแวบหนึ่งจูจิ้งเหวินรีบแสดงจุดยืนทันที “เจ้าไม่ต้องมองข้า ข้าฟังอวิ้นเอ๋อร์ทุกอย่าง นางพูดถูก ขอแค่เจ้าไม่ก่อปัญหา วันข้างหน้าข้าก็ยังจะให้เกียรติเจ้าเท่าที่ควรจะเป็นอีกทั้งพวกเราหารือกันแล้ว ข้าจะไปห้องเจ้าเดือนละหนึ่งครั้ง จนกว่าเจ้าคลอดลูก ก็ถือว่าคิดเผื่อเจ้าไว้แล้ว”ชั่วจริงๆ!กู้หว่านเยว่ที่ฟังอยู่ข้างๆ แทบพ่นน้ำชาออกจากปาก โชคดีที่กลั้นไว้ทั
ห่าวเจินเจินเป็นนายหญิงในจวนมานานหลายปี ปฏิบัติต่อบ่าวไพร่อย่างดี ช่วงเทศกาลยังแจกเงินพิเศษด้วย สำหรับพวกเขาไม่มีอะไรจะพูดนายหญิงไปจากจวน แม้ปากของบ่าวไพร่เหล่านี้ไม่พูด แต่ทุกคนกลับรู้ดีอยู่แก่ใจ ใครผิดใครถูกล้วนมองออกอย่างชัดเจนน่าสงสารเส้าฮูหยิน ทุ่มเททุกอย่างเพื่อครอบครัวนี้เดิมทีคิดว่าหลังจากคุณชายใหญ่สอบติดขุนนาง เส้าฮูหยินก็จะได้เป็นฮูหยินของขุนนาง คิดไม่ถึงว่าคุณชายใหญ่กลับพาภรรยารองคนหนึ่งกลับมาจากข้างนอก?“คุณหนูซ่งไม่ทันได้เข้าพิธีก็ท้องแล้ว ลูกสาวตระกูลดีๆ ที่ไหนเขาทำกันแบบนี้?”“ชู่ เลิกพูดได้แล้ว หากมีคนได้ยิน หนังเจ้าถลอกแน่!”สาวใช้สองคนกระซิบกระซาบลับหลัง เมื่อเห็นมีคนเดินผ่านมาก็รีบหุบปากรุ่งเช้าวันถัดมา ห่าวเจินเจินมาหากู้หว่านเยว่“ข้าส่งหนังสือหย่าไปที่ศาลาว่าการแล้ว แต่ข้ายังต้องกลับไปที่สกุลจูอีกครั้ง ให้พวกเขาคืนสินเดิมของข้า”สกุลจูคนมากอิทธิพลเยอะ นางกับสุ่ยซิงเป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็กๆ สองคน เกรงว่าจะถูกรังแกในเมื่อกู้หว่านเยว่ตัดสินใจจะช่วยห่าวเจินเจิน เวลานี้ย่อมไม่บ่ายเบี่ยง และตัดสินใจไปจวนสกุลจูกับนางทันที“ข้าไปจวนสกุลจูกับเจ้า มีเรื่องอ
เมื่อก่อนตอนที่พี่สะใภ้ใหญ่ยังอยู่ นางเอาแต่สั่งคนอื่นได้ เพียงพริบตาเดียว ความสะดวกสบายนี้ก็มลายหายไปเสียแล้ว คาดไม่ถึงว่าครั้งนี้พี่สะใภ้ใหญ่จะหนีออกจากบ้านไปโดยไม่แยแสสิ่งใด ทิ้งภาระทุกอย่างให้นาง! “หากเป็นเช่นนั้น ให้พี่หญิงอวิ้นเถอะเจ้าค่ะ ถึงอย่างไรก็อีกครึ่งเดือนนางก็จะแต่งเข้ามาแล้ว ต่อไปก็จะกลายเป็นสะใภ้ของตระกูลเรา ให้นางเข้ามาดูแลท่านแม่ก่อนเป็นสิ่งที่สมควรทำนะเจ้าคะ” จูตั่วแอบวางแผนอยู่เงียบ ๆ จูจิ้งเหวินปฏิเสธอย่างไม่คิด “ได้อย่างไรกัน? มือของอวิ้นเอ๋อร์มีไว้เพื่อเขียนอักษร ไม่ได้มีไว้ปรนนิบัติผู้อื่น หากเจ้าดูแลคนไม่เป็น ก็ไปถามสาวใช้ก็จบเรื่องแล้ว” “ท่านพี่” “อย่ามากวนข้า” จูจิ้งเหวินปวดหัวมาก ในใจนึกเพียงว่าหากไม่มีห่าวเจินเจินคงไม่ได้ พรุ่งนี้จะต้องพาคนไปโรงเตี๊ยมไปพานางกลับเรือนให้จงได้ จูจิ้งเหวินกล่าวโดยไม่สนใจสีหน้าของจูตั่วอีก สาวเท้าเดินออกไป จูตั่วโกรธจนหมดคำพูด รู้เช่นนี้ ไม่สู้ให้พี่สะใภ้ใหญ่อยู่ในเรือน อย่างน้อย ๆ ก็ช่วยเหลือนางได้ “คุณหนูรอง ฮูหยินผู้เฒ่าคงต้องให้ท่านมาดูแลแล้วเจ้าค่ะ” สาวใช้รุดหน้าสองก้าว และเอ่ยเตือน จูตั่วถลึงต
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้กู้หว่านเยว่ก็ไม่ลังเลอีกต่อไป บอกความคิดของตัวเองทันที “ฮูหยิน หากท่านยินยอม ข้าจะช่วยท่านหย่าร้างเอง” ห่าวเจินเจินตื่นตกใจ “ทำไมกัน? เราเพิ่งจะรู้จักกันไม่นาน” กู้หว่านเยว่ยิ้มอย่างอ่อนโยน “แม้ว่าจะรู้จักกับฮูหยินได้ไม่นาน แต่กลับผูกพันเหมือนกับรู้จักกันมานาน อีกทั้งข้าก็ยังรู้สึกว่าสตรีที่อ่อนโยนและสง่างามอย่างฮูหยินไม่ควรผิดหวังเพราะบุรุษ” ห่าวเจินเจินซาบซึ้งใจ นางไม่ใช่คนชอบหาเรื่องใคร หลังจากที่เห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความเมตตาของกู้หว่านเยว่แล้ว ก็ถอนหายใจหนึ่งครั้ง ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินไปโค้งคำนับต่อกู้หว่านเยว่ “หากฮูหยินช่วยข้าหย่าร้างได้ บุญคุณอันใหญ่หลวงนี้ เจินเจินจะจดจำมันไว้ขึ้นใจไปตลอดชีวิต” กู้หว่านเยว่รีบประคองตัวของห่าวเจินเจินลุกขึ้น “ฮูหยินไม่ต้องเกรงใจ คืนนี้ท่านเองก็เหนื่อยมากแล้ว พักผ่อนเต็มที่เถอะ พรุ่งนี้ข้าค่อยมาหาท่าน” กู้หว่านเยว่เห็นว่าท้องฟ้านั้นมืดสนิทแล้ว ห่าวเจินเจินเองก็เหนื่อยล้ามากแล้ว จึงไม่อยากรบกวนนาง พาซูจิ่งสิงหมุนตัวและกล่าวลา “สุ่ยซิง ส่งฮูหยินและนายท่านด้วย” ห่าวเจินเจินรีบเอ่ย สุ่ยซิงเห็นกู้หว่านเยว่และ