Home / แฟนตาซี / ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย / ตอนที่ 36 :  กว่าจะรู้ถึงความลึกของน้ำ ก็เป็นตอนที่จมอยู่ก้นบ่อเสียแล้ว

Share

ตอนที่ 36 :  กว่าจะรู้ถึงความลึกของน้ำ ก็เป็นตอนที่จมอยู่ก้นบ่อเสียแล้ว

last update Last Updated: 2025-04-11 15:26:16

〝อย่างที่วางแผนเอาไว้... พอปลดเวทย์ออกก็เข้าฟอร์เมชั่นเลยนะ〞

          หลังจากที่กร มีอา และเมอร์ลินเรียนรู้สกิลและความสามารถของกันและกันจนหมด รวมถึงฝึกความเข้ากันและฟอเมชั่นต่างๆเรียบร้อยแล้ว ก็เตรียมพร้อมที่จะสู้กับทศกัณฑ์ซึ่งเป็นบอสชั้นสุดท้าย ในทันทีที่ปรับสภาพจิตใจเรียบร้อย กรจึงเป็นคนให้สัญญาณก่อนเริ่มออกมาในทันทีที่ทุกคนพร้อมลุยแล้ว

〝อื้ม!〞

〝รับทราบ!〞

          เมอร์ลินและมีอาตอบกรกลับอย่างแข็งขันในทันที ซึ่งส่วนนึงก็เพื่อปลุกจิตสู้ของตัวเองไปพร้อมกันนั่นแหล่ะ

〝5.... 4…. 3….〞

ชึบ!

          ทันทีที่เมอร์ลินเริ่มนับถอยหลัง กรและมีอาก็ตั้งสมาธิจดจ่อกับยักษ์ที่อยู่ตรงหน้าในทันที

〝2…. 1…. ศูนย์!!!!〞

วูม!

          ทันทีที่การนับถอยหลังสิ้นสุดลง สภาพแวดล้อมโดยรอบที่เคยหยุดนิ่งเมื่อเสี้ยววินาทีที่แล้วก็กลับมาเคลื่อนไหวต่อในทันที ทศกัณฑ์ที่อยู่ตรงหน้าทั้งสามคนก็ยังคงเอื้อมมือทั้ง 10 มาทางทั้งสามคนที่อยู่ห่างออกไป 10 เมตรดังเช่นก่อนที่เมอร์ลินจะใช้เวทย์หยุดเวลา

          และในเสี้ยววินาทีที่สภาพแวดล้อมกลับมาเคลื่อนไหว ทั้งสามคนก็ถีบตัวเองถอยห่างออกไปจากจุดที่เคยอยู่ราวๆ 500 เมตร และทำการเรียกอาวุธคู่ใจมาอยู่ในมือพร้อมๆกัน โดยเมอร์ลินอยู่เยื้องไปข้างหลังเล็กน้อย ทำให้รูปแบบของทั้งสามคนเป็นแบบสามเหลี่ยม โดยมีเมอร์ลินที่อยู่หลังสุดเป็นจุดยอด

〖หึหึ! อะไรกัน... บรรยากาศของพวกเจ้าเปลี่ยนไปเยอะเลยนี่〗

โห๋! เป็นประเภทมีสติปัญญาจริงๆสินะเนี่ย แบบนี้ก็หินยิ่งกว่าเดิมอีกหน่ะสิ

แต่ก่อนหน้านั้น... ยังมีอีกเรื่องที่ต้องยืนยัน...

         

〝แกหน่ะ คือ ทศกัณฑ์ ใช่รึเปล่า...〞

          กรถามออกไปแบบนั้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆ นั่นก็เพื่อให้มีอาและเมอร์ลินปรับจังหวะก่อนโจมตีรวมถึงตัวเองด้วยเช่นกัน

          มีอาง้างดาบเอสต็อคไปข้างหลัง ส่วนเมอร์ลินก็เอาคฑามาไว้ข้างหน้าเพื่อตอบสนองคำพูดของกรในทันที

〖นั่นสินะ... ข้าเป็นทศกัณฑ์ แต่ไม่ใช่ทศกัณฑ์... ข้าเป็นเพียงบอส รู้แค่นั้นก็พอแล้ว〗

〝…...〞

          ทศกัณฑ์ตอบออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบๆเช่นเดียวกับที่กรถาม แต่กรก็ยังคงนิ่งสงบและพยายามวิเคราะห์สถานการณ์ที่คาดไว้แล้วนี้อย่างใจเย็นเช่นเคย

เป็นอย่างที่เมอร์ลินว่า... สิ่งที่บอสไร้รูปร่างนำมาจากความทรงจำของเรา ดูเหมือนจะมีแค่รูปลักษณ์กับพลังความสามารถเท่านั้น แต่ประสบการณ์หรือบุคลิกของต้นแบบกลับไม่ได้นำมาด้วย

ถ้างั้นทำไมถึงมีสติปัญญากันหล่ะ? ก็อยากจะถามอยู่ แต่ถามไปก็เท่านั้นหล่ะมั้ง เพราะไม่มีผลกับการต่อสู้มากเกินจุดปลอดภัยที่ขีดไว้ด้วย งั้นช่างมันแล้วกัน

เรื่องความสามารถเองก็เหมือนกัน... มีความเป็นไปได้ว่าไอ้หมอนี่จะ『ฆ่าไม่ตาย』 ด้วย... ก็ไอ้กล่องดวงใจเจ้าปัญหานั่นแหล่ะ...

ความสามารถของแขนทั้ง 20 ... รวมถึงความสามารถอื่นๆที่ไม่ได้มาจากเนื้อเรื่องในรามเกียรติ์ก็เป็นไปได้เหมือนกัน... ไม่สิ เป็นไปได้มากเลยหล่ะ

〖แล้วยังไง? ...ข้าให้พวกเจ้าเป็นคนเริ่มก่อน จะเริ่มเมื่อไหร่ก็ตามสบาย〗

หยามกันน่าดูเลยนี่หว่า... แต่จะประมาทไม่ได้ นี่อาจจะเป็นคำลวง ดูเหมือนทั้งมีอาและเมอร์ลินเองก็ยังไม่คลายสถานะต่อสู้ลงซักนิด แบบนี้แหล่ะดีแล้ว

          แม้จะโดนดูถูกแต่ทั้งสามคนก็ไม่ได้แสดงอาการหงุดหงิดออกมาแต่อย่างใด กลับกันแล้ว นั่นยิ่งทำให้ทั้งสามคนระวังตัวขึ้นอีกโขเลยทีเดียว

          พอเห็นว่าทั้งสามคนยังไม่เริ่มโจมตีเสียที ทศกัณฑ์ก็ถอนหายใจออกมา และก็เอื้อมมือทั้ง 20 เข้าหาทั้งสามคนอย่างรวดเร็ว และจังหวะนี้แหล่ะ คือเวลาที่ทั้งสามคนกำลังรออยู่

〝ตอนนี้แหล่ะเมอร์ลิน!!!!!〞

〝【ละการร่าย!!!!】〞

          หลังจากที่กรตะโกนออกไปแบบนั้น เมอร์ลินก็ทำการใช้เวทย์เฉพาะที่ได้รับมาจากฉายาจากการจุติครั้งแรกของเธอ〘ควบคุมเวทย์สมบูรณ์〙ในทันที 

          ซึ่งฉายาดังกล่าวจะทำให้เมอร์ลินสามารถ ควบคุมปริมาณพลังเวทย์ที่ใช้ได้อย่างสมบูรณ์ โดยทำให้สามารถใช้พลังเวทย์จำนวนน้อยนิดในการร่ายเวทย์มโหฬาร สามารถสร้างเวทย์ใหม่ได้แต่จำเป็นต้องเข้าใจหลักการ ซึ่ง【 ไพรเวทไดเมนชั่น】เองก็เป็นหนึ่งในเวทย์ที่เธอสร้างขึ้นมาเองเช่นกัน

          หรือสามารถทำการร่ายเวทย์หรือสกิลเฉพาะที่ใช้เวทย์มนต์เป็นพลังงานหลัก โดยไม่จำเป็นต้องร่ายแต่ยังมีพลังเทียบเท่ากับตอนที่ร่ายในระดับนึง ซึ่งพลังนี้ก็คือ เคล็ดลับที่ทำให้เธอใช้เวทย์ได้โดยที่ไม่ต้องร่ายตอนสู้กับกรที่ชั้น 75 นั่นเอง

          แล้วพอเข้าปาร์ตี้กับคนอื่น ก็ยังสามารถส่งต่อผลลัพธ์นี้ไปยังสมาชิกปาร์ตี้ทุกคนได้อีกด้วย และนั่นก็ทำให้ทั้งกร มีอาและตัวเมอร์ลินเอง สามารถใช้สกิลเฉพาะตัวระดับสูงได้โดยที่ไม่ต้องร่ายเลยด้วยซ้ำ

〝【ออร่าเทพเจ้า!!!!】【ปักษาสวรรค์!!!!】【แขนยักษา!!!!】〞

〝【แองเจิ้ลโหมด เบิร์สท!!!!】〞

〝【เมจิคชาร์จ!!!!】【อักขระมาร!!!!】〞

          ทันทีที่ทั้งสามคนประกาศสกิล ทั่วทั้งร่างของกรก็มีออร่าสีขาวเข้าคลุมร่าง รวมถึงปีกสีขาวที่งอกออกมาข้างหลังพร้อมๆกับแขนข้างขวาที่เปล่งแสงสีแดงออกมา มีอาเองก็มีออร่าสีชมพูอ่อนเข้าคลุมร่างพร้อมกับปีกที่งอกออกมาจากกลางหลัง ส่วนทั่วทั้งร่างของเมอร์ลินก็มีอักขระสีแดงแบบเดียวกับแขนขวาของกรปรากฏออกมา พร้อมกับออร่าสีแดงดำก็เข้าคลุมร่างของเธอด้วยเช่นกัน

          อนึ่ง เวทย์อีกอย่างที่เมอร์ลินใช้【เมจิคชาร์จ】นั้น คือเวทย์เฉพาะตัวที่ได้รับมาตอนจุติจากฉายา〘คลังพลังเวทย์〙 มันคือเวทย์ที่ใช้สร้างพลังเวทย์สำรองเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลัง โดยสามารถเก็บได้มากกว่าจำนวนพลังเวทย์สูงสุดในตัวเมอร์ลินถึง 20 เท่า หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆในภาษาเกมก็คือ เมอร์ลินนั้นมีหลอด MP อยู่ถึง 25 หลอด รวมที่มีอยู่ในตัวก็มีถึง 26 หลอดเลยทีเดียว ซึ่งสกิลนี้นั้นสามารถทำงานได้ทั้งแบบอัตโนมัติและแมนนวลอีกด้วย

          หรือก็คือ แม้จะอยู่ในสถานะซีโร่เซนส์ที่แม้จะอยากเติมพลังเวทย์ แต่จิตใจที่ยอมแพ้และอ่อนล้าก็จะทำให้ไม่อยากเติมไปเองนั้น ก็สามารถเติมพลังเวทย์ให้กลับมาเท่าเดิมได้ในเสี้ยววินาทีโดยอัตโนมัติ ซึ่งนี่ก็เป็นอีกเคล็ดลับนึง ที่เมอร์ลินสามารถเติมเต็มพลังเวทย์อันมหาศาลได้ในเสี้ยววินาทีทั้งที่อยู่ในสภาพที่ไม่ควรจะเติมได้อย่างซีโร่เซนส์ในตอนที่สู้กับกร

          เหมือนกับการ【ละการร่าย】ของ〘ควบคุมเวทย์สมบูรณ์〙...【เมจิคชาร์จ】ของ〘คลังพลังเวทย์〙 ก็สามารถเติมให้กับเพื่อนร่วมปาร์ตี้ได้เช่นกัน ซึ่งเรียกได้ว่าเหลือกินเหลือใช้เลยทีเดียว เพราะพลังเวทย์ที่มีอาต้องใช้ไปกับแองเจิ้ลโหมดคือ ประมาณ 10-15 ล้านจุด แต่เมอร์ลินมีพลังเวทย์มากถึง 500 ล้าน นั่นจึงทำให้เรื่องพลังงานของแองเจิ้ลโหมดไม่เป็นปัญหา

          นอกจากนี้ เมอร์ลินก็ยังมีฉายา〘จิตวิญญาณแห่งจอมเวทย์〙 ทำให้สเตตัสทุกอย่างเพิ่มขึ้น 10 เท่า และเพิ่มสเตตัสพลังเวทย์เป็นพิเศษขึ้นอีก 5 เท่าในตอนที่สู้อีกต่างหาก ซึ่งมีผลคล้ายกับ〘พรสวรรค์เทพเจ้าแห่งดาบ〙นั่นเอง 

          ส่วน〘อักขระมาร〙ก็ยังทำให้ค่าสเตตัสพลังเวทย์และความต้านทานเวทย์สูงขึ้นเท่ากับ ค่าเฉลี่ยสเตตัสทั้งหมดของเมอร์ลินบวกกับสเตตัสพลังเวทย์ของทุกอย่างโดยรอบรวมถึงบอสก็เช่นกัน ซึ่งก็เหมือนกับ『แองเจิ้ลโหมด』ของมีอาอีกนั่นแหล่ะ

          จากที่ฟังความสามารถของปาร์ตี้ของกรในตอนนี้มาเมื่อครู่ จะเห็นได้ว่าพวกเขาได้เปรียบแบบสุดๆ เพียงแต่... โลกนี้ไม่มีอะไรง่ายดาย...

.

.

〖หืม!!!?〗

          มือของทศกัณฑ์ชะงักไปชั่วครู่ เมื่อทั้งสามคนตรงหน้าของมัน เปลี่ยนรูปลักษณ์ไปอย่างมากในเวลาเพียงเสี้ยววินาที และนั่นก็เป็นสัญญาณดีในการเริ่มโจมตีอีกครั้งของพวกกร

ตู้ม!!!!!!!!

〖โห้!!!〗

          ทศกัณฑ์แสดงอาการชื่นชมออกมาอีกครั้ง ในจังหวะที่กรและมีอาถีบพื้นจนเกิดแรงระเบิด แล้วกระพือปีกพร้อมกับพุ่งตัวเข้ามาหาตนด้วยความเร็วสุดยอดโดยเหลือทิ้งไว้แต่เงาติดตาราวกับดาวหาง พร้อมกับหันปลายดาบของตัวเองแล้วพุ่งต่อไปด้วยความเร็วที่มากขึ้นเพื่อไปยังจุดปะทะ ซึ่งอยู่ตรงบริเวณหน้าอกของทศกัณฑ์ที่ไร้เกราะป้องกันนั่น

แคร๊ง!!!

〝〝 !!!!! 〞〞

          ทันทีที่ปลายดาบของทั้งสองคนกระทบเข้ากับผิวหนังของทศกัณฑ์ มันก็ถูกสะท้อนกลับและเกิดเสียงดังราวกับโลหะกระทบกันในทันที

ไม่เข้า!!! บ้าหน่ะ! ผิวไอ้ยักษ์นี่มันแข็งขนาดไหนกันเนี่ย!?

〖น่าเสียดาย... ร่างกายของข้ามีสกิลต้านทานระดับสูง... หากไม่โจมตีมากกว่า 100 ครั้งในเสี้ยววินาทีก็ทะลวงไม่ผ่านหรอก 〗

เฮ้ยๆ!!! ไหงสปอยพลังตัวเองออกมาเองหล่ะฟ่ะ เหมือนกับเคลเบรอสตอนที่เป็นบอสเลยนี่หว่า พวกบอสนี่ขี้อวดชะมัด!

ไม่รู้จริงรึเปล่า แต่ยังไงก็ต้องเชื่อไว้ก่อนนั่นแหล่ะ... แต่ถ้าเป็นงั้นก็งานยากเลยนี่หว่า ทั้งที่คิดว่าจะทำศึกตัดสินระยะสั้นแท้ๆเชียว!!!

ฟุบ!!!

〝 !!!!! 〞

          ขณะที่กรกำลังหาทางรับมือ ทศกัณฑ์ก็ง้างหมัดบนสุดทั้ง 4 ของตัวเองออกไปข้างหลัง แล้วซัดไปยังบริเวณที่กรและมีอาอยู่ ซึ่งรัศมีการโจมตีของมันกว้างพอจนทำให้ทั้งสองคนหลีกไม่พ้นได้เลย แถมยังรวดเร็วถึงขนาดที่สุดยอดการประมวลผลตรวจจับทันแต่กลับเคลื่อนไหวไม่ทันเสียอย่างงั้น

〝【อัลติเมทโพรเทคชั่น!!!!】〞

〝มีอามาอยู่หลังฉันเร็วเข้า!!!!! 〞

          เมอร์ลินที่อยู่ข้างหลังร่ายเกราะเวทย์ระดับเทพเจ้าให้กับทั้งสองคนที่ลอยอยู่ในทันที มีอาก็ตอบสนองด้วยการกระพือปีกมาอยู่ข้างหลังของกรในทันทีเช่นกัน ส่วนกรก็ทำการสร้างโล่สีแดงจากสกิล『Ogre Armor Form』ขึ้นมาตรงหน้าเพื่อใช้รับการโจมตีจากหมัดของทศกัณฑ์

ตู้ม!!!!!

〝อั่กกก!!!!! 〞

          แต่เรื่องที่น่าเหลือเชื่อก็เกิดขึ้นอีกจนได้ เพราะหมัดของทศกัณฑ์ที่ปล่อยออกมานั้น ได้ทะลุผ่านทั้งเสื้อโค้ทและโล่ที่กรสร้างขึ้นราวกับกำลังแกว่งมือผ่านน้ำ แล้วอัดเข้าไปที่ตัวของกรโดยตรงจนเขาร้องออกมาดังลั่น และนั่นก็ทำให้กรและมีอากระเด็นออกไปข้างหลังจนไปชนเข้ากับเสาที่อยู่ใกล้ๆกันคนละต้น และทะลุเข้าไปข้างในเกือบถึงจุดศูนย์กลางเลยทีเดียว แต่นั่นก็ยังไม่รุนแรงพอที่จะทำให้ทั้งสองคนหมดสติในทันทีอยู่ดี แต่เพราะแบบนั้นเลยทำให้ความเจ็บปวดจากการถูกโจมตีร่างกายโดยตรงของกรทวีความรุนแรงขึ้นไปอีก

〝ฮึ่ย!【เพอร์เฟค ฮีล!!!!】〞

          ร่างของกรและมีอาถูกโอบล้อมไปด้วยออร่าสีเขียวอ่อน ทันใดนั้นความเจ็บปวดทั้งหลายก็บรรเทาลงและอาการฟกช้ำก็หายเป็นปลิดทิ้งทันตาด้วยเวทย์รักษาระดับสูงของเมอร์ลิน

          มีอาและกรทำการถีบพื้นพุ่งตัวจากข้างในเสาออกมาข้างนอกในทันที จนทำให้เสาทั้งสองต้นพังทลายลงมาเป็นเศษหินเศษดินเล็กใหญ่ กระจัดกระจายไปทั่วเลยทีเดียว

〝เมอร์ลิน!〞

〝เข้าใจแล้ว!〞

          พอกรกับมีอาอยู่ในท่าเตรียมพร้อมตั้งรับแล้ว กรก็ตะโกนเรียกเมอร์ลินทันที เมอร์ลินที่เข้าใจได้ในทันที ก็ทำการสร้างวงเวทย์จำนวนมากกว่า 2,000 อันทางด้านหลังซ้อนกันไปมา ทั้งยังหลากหลายสีสันและหลากหลายขนาด ซึ่งมากกว่าที่ใช้ปะทะกับกรในชั้นที่ 75 เสียอีก

〝ย่าห์!〞

          ศรจำนวนมหาศาลพวยพุ่งออกมาจากวงเวทย์ที่อยู่ด้านหลังราวกับห่าฝนอย่างหนาแน่น ไปยังบริเวณลำตัวของทศกัณฑ์ซึ่งสูงกว่า 150 เมตรยืนอยู่ทั่วทั้งร่าง แถมความเร็วและความรุนแรงก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆเมื่อเวลาผ่านไปอีกด้วย แล้วเมอร์ลินยังกะให้จุดที่ถูกกระทบ ถูกโจมตีด้วยศรมากกว่า 100 ดอกพร้อมๆกันอีกด้วย เพียงแต่ว่า...

〖อืม... ได้แค่นี้งั้นรึ? 〗

〝〝〝 !!!!!!! 〞〞〞

          ทั้งที่การโจมตีด้วยศรเวทย์จำนวนมหาศาลของเมอร์ลินยังไม่หยุดลง แต่ทศกัณฑ์กลับพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสบายๆและเบื่อหน่ายหน่อยๆ แถมศรทั้งหมดยังไม่สามารถทำให้ทศกัณฑ์เกิดบาดแผล? ได้เลย

          และกรที่เห็นว่า แม้จะทำการโจมตีมากกว่า 100 ครั้งที่จุดเดิมอย่างแม่นยำ แต่ก็ไม่สามารถสร้างบาดแผลให้กับทศกัณฑ์ได้เลย จึงลองใช้นูเมรัลดิสเพลย์เปิดดูพลังชีวิตของทศกัณฑ์ แล้วก็ต้องพบกับเรื่องที่น่าตกใจเป็นอย่างมาก

【พลังชีวิตของทศกัณฑ์ คือ 57,424,950,407... 】

【พลังชีวิตของทศกัณฑ์ คือ 57,500,000,000... 】

【พลังชีวิตของทศกัณฑ์ คือ 57,404,842,359... 】

【พลังชีวิตของทศกัณฑ์ คือ 57,500,000,000... 】

          ตัวเลขจำนวนมากกว่าหมื่นล้านถูกเลื่อนกลับเป็นเลขเดิมอย่างต่อเนื่อง แม้ตัวเลขจะลดลงไปเท่าใด แต่อีกซักพักก็จะกลับมาอยู่ที่ ห้าหมื่นล้านเช่นเดิม นั่นเลยทำให้กรเข้าใจเหตุผลได้ในที่สุด

          กรพยักหน้าให้มีอาครั้งนึง ก่อนที่ทั้งคู่จะพุ่งตัวเข้าไปทางด้านหน้าของเมอร์ลินเพื่อบอกข่าวร้ายกับเธอ

〝แย่อย่างที่คิด! พลังชีวิตของมันฟื้นฟูได้แทบจะทันทีเลย〞

〝อุ๊ก! นั่นมันแย่เลยนี่นา... แต่ก็คาดไว้แล้วไม่ใช่เหรอ?〞

ถึงจะคาดไว้แล้วก็เถอะ.... งั้นนี่ก็คือความสามารถจากไอ้กล่องดวงใจสินะ

แต่เรื่องที่จะเก็บดวงใจไว้นอกดันเจี้ยนหรือที่ชั้นอื่นมันเป็นไปไม่ได้หรอก... มั้งนะ

เพราะตัวทศกัณฑ์ถูกตั้งค่าจากในดันเจี้ยนนี่นา...

เพราะงั้นความเป็นไปได้คร่าวๆจึงมีสองอย่าง หนึ่งคือ... หัวใจถูกเก็บไว้ที่ไหนซักที่ในห้องบอส หรือไม่ก็ในตัวของมันเอง ถ้าทำลายได้ก็เคลียร์

สองคือ... ความสามารถนี้เป็นแบบติดตัว หรือก็คือ ไม่มีไอ้เรื่องกล่องดวงใจนั่นอยู่ แต่ทั้งตัวมันคือกล่องดวงใจ... พูดง่ายๆว่า ต้องทำลายมันไม่ให้เหลือซากจนไม่มีที่ให้ฟื้นฟูเหมือนจอมมารบูนั่นแหล่ะ หรือไม่ก็สร้างดาเมจให้มันอย่างรวดเร็วจนฟื้นฟูไม่ทัน

แถมเนตรทวิกาล ก็ไม่สามารถดูความสามารถของศัตรูล่วงหน้าด้วย เพราะจากที่ดูแล้ว ที่มันทำได้คือ คาดการณ์วิถีการโจมตีล่วงหน้าเท่านั้น

แต่เรื่องที่เราไม่เคยรู้มาก่อนอย่างความสามารถศัตรู จะไม่แสดงออกมาในอนาคตเลย ถึงจะทดสอบไปแล้ว แต่มันก็น่าโมโหจริงๆ———

〖เบาไป... งั้นพอดีกว่า 〗

          ในขณะเดียวกัน ทศกัณฑ์ที่เห็นว่าการโจมตีของเมอร์ลินไม่เป็นผล จึงพูดจาตัดพ้อออกมา ซึ่งนั่นก็ทำให้เมอร์ลินหงุดหงิดไม่ใช่น้อย

          และในขณะเดียวกับที่พูดแบบนั้น ด้านขวาของทศกัณฑ์ก็มีคันธนูขนาดใหญ่เท่ากับครึ่งหนึ่งของลำตัวมันเองปรากฏขึ้นมา แล้วทศกัณฑ์ก็จัดการคว้ามันด้วยมือขวาทั้งสิบของมันเพื่อจับคันธนูไว้ ต่อจากนั้นมือซ้ายทั้งสิบของมันก็ปรากฏลูกธนูสีเงินทั้งดอกออกมา ข้างละอันเป็นรวมแล้วเป็นสิบดอกในเวลาเพียงเสี้ยววินาที

〖ข้าจะแสดงให้ดู... ว่าธนูของจริงเขายิงกันยังไง 〗

          จากนั้นทศกัณฑ์ก็นำลูกศรทั้งสิบมาเสียบไว้ข้างคันธนู แล้วก็ทำการดึงสายธนูจนตึง และอยู่ในท่าเตรียมยิงอย่างสง่างามราวกับพลธนูเจนศึก

〝แย่หล่ะสิ! กร!〞

〝โอ้!〞

          ตัวเมอร์ลินและกรนั้นตอบสนองตั้งแต่ที่ทศกัณฑ์เรียกคันธนูออกมาแล้ว พอถูกเมอร์ลินเร่ง กรก็ทำการสร้างโล่สีแดงและสีขาว โดยทำซ้อนกันมากกว่าสิบชั้นเป็นทางยาวเพื่อป้องกันการโจมตีที่ไม่อาจทราบความสามารถได้ ส่วนเมอร์ลินก็สร้างบาเรียสลายสสารออกมาอยู่ระหว่างช่องว่างของโล่ที่กรสร้างขึ้นไปพร้อมกันด้วย

〖รับมือซะ!!! 〗

ฟิ้ว!!!!!!!!

          ธนูทั้งสิบดอกถูกปล่อยออกมาจากคันธนู พร้อมกันด้วยความเร็วที่ตามองไม่ทัน แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาเพราะพวกกรสร้างโล่ป้องกันไว้ล่วงหน้าแล้ว ที่น่าตกใจและเป็นปัญหายิ่งกว่าก็คือธนูเพียงหนึ่งดอกนั้น ชั่วพริบตาที่ถูกปล่อยออกมา มันได้กระจายออกเป็นธนูนับพันดอกในเสี้ยววินาที

          และแน่นอนว่าลูกธนูที่เหลือเองก็มีความสามารถแบบเดียวกัน จนในที่สุดแล้วลูกศรหมื่นกว่าดอกพวยพุ่งมายังพวกกรที่เป็นเป้าโจมตีด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อในเวลาเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น

          แต่ในโชคร้ายก็ย่อมมีโชคดีอยู่ นั่นก็คือแม้ธนูจำนวนมหาศาลนั้นจะมีอานุภาพมากมายยังไง แต่ก็ไม่พ้นต้องสลายหายไปทั้งหมด เมื่อปลายลูกศรสัมผัสเข้ากับบาเรียสลายสสารของเมอร์ลิน นั่นเลยทำให้พวกกรหายใจได้ทั่วท้องอีกครั้ง

〖โอ้! อันนี้ต้องขอชม... เพียงแต่ข้าไม่ได้มีลูกเล่นแค่นี้หรอกนะ! 〗

          พอเห็นว่าพวกกรสามารถป้องกันการโจมตีราวกับพายุคลั่งเมื่อครู่ได้อย่างหมดจด โดยที่ไม่ได้รับบาดแผลเลยซักนิด ทศกัณฑ์จึงเอ่ยปากชมออกมาตรงๆ

          แต่พวกกรก็โล่งใจได้แค่ครู่เดียว หลังจากที่ทศกัณฑ์พูดแบบนั้นออกไป คันธนูที่ถูกจับอยู่ด้วยมือขวาทั้งสิบก็ถูกสับเปลี่ยนเป็นหอกซัดขนาดใหญ่ไปเสียแล้ว

〝หลบไปด้านข้างเร็วเข้า!〞

〝แต่บาเรียยัง———〞

〝เอาเถอะน่า เร็วเข้า!〞

          กรที่เห็นท่าไม่ดี และสัมผัสได้ด้วยสัญชาติญาณว่าอาวุธนี้ต้องอันตรายสุดๆแน่นอน จึงตะโกนบอกเมอร์ลินและมีอาในทันที พอมีอาได้ยินคำสั่งก็บินหลบออกไปด้านข้างในทันที แตกต่างจากเมอร์ลินที่ค่อนข้างจะไว้ใจบาเรียสลายสสารของตนจึงไม่ได้ทำตามที่กรบอกในทันที พอกรตะโกนใส่เธออีกครั้ง เธอจึงจำต้องพุ่งตัวหลบไปด้านข้างกว่า 100 เมตรตามคำสั่ง  และเพราะคำสั่งนี้นั่นแหล่ะที่ช่วยให้ตัวเมอร์ลินรอดชีวิตได้อย่างหวุดหวิด

ฟิ้ว!!!!!!!!

          หอกปลายแหลมถูกซัดมาแล้ววิ่งเป็นทางยาวจากจุดที่ขว้างมายังจุดที่พวกกรเคยยืนอยู่มาจนถึงเมื่อครู่ ผลลัพธ์ก็คือ ทั้งโล่สีขาว สีแดง บาเรียสลายสสารของเมอร์ลิน รวมถึงพื้นดันเจี้ยน ทั้งหมดที่ว่ามาถูกเป่าให้หายไปด้วยการซัดหอกเพียงครั้งเดียว แล้วหอกที่ว่าก็ยังคงพุ่งต่อลงไปข้างล่างแม้จะเป็นนอกดันเจี้ยนก็ตาม ซึ่งระยะทางจากจุดที่ขว้างออกไปจนถึงจุดที่หอกฝังอยู่กับพื้นใต้ดินนั้น เกือบ 5 กิโลเมตรเลยทีเดียว

〖หืม! ตัดสินใจได้ดีนี่นาเจ้าหนุ่ม 〗

〝...ขอบใจละกัน ว่าแต่แกหน่ะ ยังปล่อยของไม่หมดใช่ไหมหล่ะ!〞

〖โห้! นี่กำลังหยั่งเชิงข้าอยู่งั้นรึ... ช่างโง่เขลายิ่งนัก!〗

เข้าใจไปเองแบบนั้นซะแล้วแฮะ! แกนี่หงุดหงิดง่ายชะมัด!

ให้ตายสิ เพราะทำอะไรไม่ได้ต่างหากหล่ะโว้ย!

กับศัตรูที่สเตตัสต่างกันร้อยเท่าแบบนี้ จะไปหยั่งเชิงก็เหมือนกับฆ่าตัวตายนั่นแหล่ะ

ถึงจริงๆจะลองหยังเชิงอยู่ก็เถอะ แต่ก็แค่ 30% เท่านั้นแหล่ะ แต่ถึงงั้นก็ยังไม่รู้วิธีโค่นอยู่ดี.... สมเป็นลาสบอสจริงๆ!

〝【เมอร์ลิน... พอจะรู้วิธีจัดการบ้างรึยัง?】〞

〝【...คงต้องทำลายให้หายไปในทีเดียว】〞

〝【งั้นเหรอ】〞

          กรกระซิบถามเมอร์ลินที่เบี่ยงหลบมาทางเดียวกันด้วยเสียงที่เบาที่สุด มีอาที่หลบไปคนละทางพอเห็นว่าการโจมตีด้วยหอกซัดหยุดลงแล้ว ก็รีบกลับมารวมตัวกับพวกกรในทันที

มีแต่วิธีนี้จริงๆด้วยงั้นเหรอ... แต่ก็คิดแล้วหล่ะนะว่าเมอร์ลินจะตอบมาแบบนี้

ก็ถ้าจะให้ทดลองทุกวิธีหล่ะก็... ด้วยความต่างของสตตัสคงไม่มีทางทำได้หรอก กว่าจะทำได้ครบ ก็คงตายกันทั้งปาร์ตี้ไปก่อนแน่นอน

พอคิดจากเหตุผลนั้นแล้ว เลือกวิธีที่จัดการได้แน่นอนนั่นแหล่ะ ถึงจะดีที่สุด... แถมยิ่งยืดเยื้อไป เราจะยิ่งเสียเปรียบอีกด้วย... แต่นั่นเป็นในกรณีที่มีวิธีจัดการหน่ะนะ

ตู้ม!!!!!

〖หึหึ... หากไม่เห็นโลงศพ คงไม่หลั่งน้ำตากันสินะ!!!  〗

〝〝〝 !!!!!!! 〞〞〞

          ในขณะที่ทศกัณฑ์หงุดหงิดไปเองอยู่คนเดียวอย่างเงียบๆ มันก็ทำการกระทืบเท้าของตัวเองจนเสียงดังลั่น เพื่อแสดงความไม่พอใจออกมา

กึกๆๆ!!!!!

〝อึก!〞

〝นี่มัน!〞

〝ชิ!〞

          แล้วชั่วพริบตานั้น ทั่วทั้งห้องบอสก็เกิดการสั่นไหวไปทั่ว ทั้งสามคนสบถออกมาพร้อมกัน นั่นเพราะทันทีที่เสียงกระทืบเท้าเงียบลง ร่างกายของทั้งสามคนก็หนักขึ้นราวกับกำลังแบกของหนักๆไว้ข้างหลังจนแทบจะล้มคะมำไปกับพื้นยังไงอย่างงั้นเลย

〝เมอร์ลิน!〞

〝อื้ม!〞

          เมอร์ลินทำการร่ายเวทย์เสริมพลังให้กับทั้งปาร์ตี้รวมถึงตัวเองด้วย กรเองก็ใช้เวทย์สนับสนุนเพื่อเพิ่มพลังของกล้ามเนื้อให้กับทั้งปาร์ตี้ไปพร้อมกันด้วย

〖ไม่เลว... แต่ว่า!!!  〗

ตู้ม!!!

〝หนอย!〞

〝บ้าจริง!〞

          ทศกัณฑ์ลงน้ำหนักเท้าใส่พื้นที่อยู่ใต้เท้าของมันมากกว่าเดิม จนเกิดรอยแตกระแหงไปทั่ว 

          แล้วผลลัพธ์ของการกระทำนี้ ก็ทำให้น้ำหนักที่ทั้งสามคนต้องแบกรับมากขึ้นอีกหลายสิบเท่าไปเสียแล้ว แล้วน้ำหนักกดทับที่มากขึ้นนี้ ถึงกับทำให้มีอาและเมอร์ลินถึงกับต้องล้มลงไปข้างหน้า แล้วคุกเข่าติดกับพื้นราวกับต้านทานแรงกดดันของยักษ์สูงร่วม 150 เมตรนี้ไม่ไหว จนต้องยอมสวามิภักดิ์ต่อมันแต่โดยดีเลยทีเดียว

วูม!!!!!

〖โห... เจ้าหนุ่ม แกทำข้าประหลาดใจอีกแล้ว!  〗

          คนๆเดียวที่ไม่ยอมล้มลงไปก็คือกร แขนขวาที่เปล่งแสงสีแดงออกมามากยิ่งขึ้นกว่าเดิมนั้น เป็นสัญลักษณ์บ่งบอกว่า การสะสมของพลังเวทยได้เพิ่มขึ้นอีกขั้นนึงแล้ว และสเตตัสที่เพิ่มขึ้นมานั่นแหล่ะคือสาเหตุที่กรยังยืนอยู่ได้

ตั้งแต่ตอนที่เริ่มใช้ก็ผ่านมาได้ราวๆ 67.564 วินาที

สเตตัสของเราคือ 100 ล้าน เพิ่มขึ้น 50 เท่าทุก 30 วินาที

เพราะงั้นตอนนี้ก็น่าจะอยู่ที่ราวๆ 15,000 ล้าน ซึ่งถ้าเป็นไปตามที่เมอร์ลินบอก... สเตตัสของเราตอนนี้เพิ่มขึ้น 100 เท่าจากตอนที่เข้ามาในห้องบอสพอดี...

ก็หมายความว่าสเตตัสของเราตอนนี้พอๆกับบอสเลยนั่นแหล่ะ.... แต่ว่า...

อย่างที่บอกไป... นี่เพิ่งผ่านไปได้แค่นาทีกว่าๆเท่านั้นเอง มีอากับเมอร์ลิน... เราเองก็ด้วย อยู่ในสภาพร่อแร่เต็มที...

ถึงจะกลัวแต่ก็ต้องใช้นูเมรัลดิสเพลย์คำนวณเวลาขั้นต่ำอยู่ดี ส่วนผลหน่ะเหรอ?

จะแพ้ใน 10 นาทีหน่ะสิ... แต่นั่นมันเป็นแค่ตอนเริ่มสู้เท่านั้น

พอรู้ความสามารถของไอ้ทศกัณฑ์มากขึ้นเรื่อยๆ เวลาที่แพ้ก็ดันน้อยลงน้อยลงทุกที

แล้วครั้งนี้ที่เช็คตอนที่มันใช้สกิลแรงโน้มถ่วง(ชื่อชั่วคราว)นี่... เวลาที่พวกเราจะแพ้กลับกลายเป็น 5 นาทีไปแล้ว...

ที่เขาว่ากันว่า ยอดฝีมือจะประดาบกันในเสี้ยววินี่ท่าจะจริงแฮะ ไม่ค่อยน่าดีใจเลย...

บอกตรงๆ... สถานการณ์สิ้นหวังสุดๆเลย

〖เจ้าหนุ่ม รู้รึเปล่า... การศึกที่มีศัตรูจำนวนน้อยแบบนี้ควรเริ่มที่จะกำจัดใครก่อน?  〗

〝หา!!!〞

          ยังไม่ทันที่กรจะได้ตกใจเสร็จดี มือขวาทั้งสิบของทศกัณฑ์ก็เปลี่ยนมาถือคันธนูเหมือนกับครั้งที่แล้วอีกครั้ง  แต่ในมือซ้ายของทศกัณฑ์เพียงมือเดียว กลับมีศรอยู่เพียงดอกเดียว แต่ลักษณะของมันดูแตกต่างจากศรเงินในครั้งแรกเป็นอย่างมาก ศรในครั้งนี้มีสีทองอร่าม ประดับด้วยลวดลายเหมือนกับประตูวัด และมีเพชรนิลจินดาประดับอยู่มากมาย หัวลูกศรเป็นสีดำสนิทสะท้อนแสงเป็นสีแดง แถมโดยรวมแล้วศรในครั้งนี้ยังมีขนาดใหญ่กว่าศรสีเงินในครั้งก่อนเกือบสองเท่าตัวได้

〖มันสมองของข้าศึกยังไงหล่ะ! 〗

          ทศกัณฑ์สัยบลูกศรไว้ข้างคันธนู แล้วดังสายธนูจนตึงอีกครั้ง ในจังหวะที่มันเล็งมาทางกร กรจึงวิ่งบินหลบไปทางซ้ายไกลจากจุดเดิมพอสมควร เพื่อป้องกันในกรณีที่ศรดอกนี้เป็นการโจมตีระยะกว้าง มีอาและเมอร์ลินจะได้ไม่โดนดาเมจไปด้วย

〖หึ... ซะเมื่อไหร่! 〗

〝!〞

          พอกรบินออกไปไกลจากจุดนั้นแล้ว ทศกัณฑ์ที่เล็งศรมายังตัวกรตลอด ก็กลับเปลี่ยนเป้าหมายอย่างกระทันหัน มันย้ายจุดเล็งไปยังบริเวณที่กรเคยอยู่เมื่อกี้อย่างรวดเร็ว ราวกับว่าต้องการล่อกรไปยังจุดอื่นยังไงอย่างงั้น แล้วเป้าหมายใหม่ที่มันเล็งไปโดยหวังจะปลิดชีพก็คือ...

〝เมอร์ลิน!!!!〞

ทำไม ทำไมถึงเป็นเธอ!? ไอ้หมอนี่มันหลอกเรางั้นเหรอ บ้าชิบ!

ทำไมเราถึงไม่มองในฐานะของมันบ้างว่ะ!

ก็จริงที่มันสมองของทีมคือเรา  แต่ไอ้ยักษ์นั่นมันรู้ซะที่ไหนเล่า!

แถมเรายังไปถามวิธีการจัดการมันจากเมอร์ลินอีก!

สเตตัสพละกำลังของเมอร์ลินมีอยู่แค่ 10 ล้าน ต่างกับไอ้ทศกัณฑ์ตั้ง 100 เท่า แถมยังโดนเวทย์แรงโน้มถ่วงอีก

มีอาที่อยู่ใกล้ๆเองก็คงโดนดาเมจไปด้วยแน่ๆ!

〝โถ่ว้อย!!!!〞

          กรรีบกระพือปีกไปขวางหน้าเมอร์ลินในทันที ที่ทศกัณฑ์เปลี่ยนเป้าหมาย

〝กะ กร หนีไป!〞

〝นี่นาย!〞

〝เงียบซะ! ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น!!!〞

          ยักษ์สูง 150 เมตรตัวนี้ ฉีกยิ้มออกมาออกมาอีกครั้งด้วยความพึงพอใจอย่างน่าเกลียด ในตอนที่กรลอยคว้างอยู่ข้างหน้าของเมอร์ลินเพื่อรับดาเมจแทนเธอ ราวกับคาดการณ์เอาไว้แล้ว มีอาที่อยู่ห่างออกไปเล็กน้อยกับเมอร์ลินที่เป็นเป้าต่างก็ตะโกนให้กรหยุดพร้อมๆกับพยายามฝืนลุกขึ้นยืน แต่ก็กลับไปล้มลงคุกเข่าอยู่เหมือนเดิม แต่ว่า...

〝ไม่เข้าใจรึไง! นี่มันกับดักไว้ล่อนายมารับดาเมจต่างหากเล่า!〞

〝แล้วยังไง〞

          น้ำเสียงของกรปลี่ยนไปเป็นเยือกเย็นอย่างกะทันหัน ทั้งยังพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ราวกับจะไม่ฟังคำทัดทานจากใครนั่น ทำให้เมอร์ลินตกตะลึงในหลายๆความหมายอีกครั้ง

〖ข้าไม่ใจดีปล่อยให้สั่งเสียหรอกนะ! 〗

ฟิ้ว!!!

          ศรถูกปล่อยในทันทีที่กรลอยอยู่ข้างหน้าเมอร์ลิน แต่แน่นอนว่ากรไม่ได้จะรับดาเมจแทนตรงๆเสียทีเดียว

วูม!!!!!

          ก่อนจังหวะที่ทศกัณฑ์จะปล่อยศรออกมา อัญมณีสีเขียวที่อยู่บนหลังมือซ้ายของกรก็เปล่งแสงขึ้นมา อันเป็นเครื่องหมายว่าสกิล『ดูดซับทุกสิ่ง』ได้ทำงานแล้ว ก็ก็ยื่นมือซ้ายนั่นไปข้างหน้าราวกับจะคว้าลูกธนูไว้เพื่อรับการโจมตี และใช้มือขวาที่เหลือจับต้นแขนซ้ายในแนวขนานไว้อีกทางเพื่อรับแรงกระแทก

〝อึ๊ก!!!〞

〝กร!!!〞

          ด้วยแรงกระแทกมหาศาลยิ่งกว่าถูกรถสิบล้อร้อยคันกระแทกเข้ามาทีเดียว กรร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดออกมาทั้งอย่างงั้น นัน่เลยทำให้มีอาที่นั่งคุกเข่าอยู่ข้างหลังถึงกับหลั่งน้ำตาที่ทำได้แค่มองคนที่เธอรักเจ็บปวดแบบนั้น

〝บ้าเอ้ย! ก็บอกให้หนีไปไงเล่า... นายต้องเก็บพลังไว้ทำดาเมจซิ!〞

〝หนวกหู!〞

〝ฉันไม่ตายด้วยของแบบนั้นหรอก แค่นี้ก็ไม่เข้าใจรึไง!〞

〝เรื่องนั้นหน่ะ——— อึก!〞

〝กร! หนอย บ้าจริง!!!〞

         

〖โห้! ยั้งศรของข้าได้ถึงเพียงนี้เชียวรึ? 〗

          ศรที่ถูกปล่อยออกมาถูกกรดันไว้ได้สนิท แต่แรงปะทะของมันกลับไม่ได้ลดลงไปเลยซักนิด ถึงแบบนั้นก็ยังทำให้ทศกัณฑ์ชมออกมาได้ แต่รอยยิ้มอย่างมีเลสนัยบนใบหน้าของเจ้ายักษ์ตนนี้กลับไม่ได้ลดลงเลย

〝ถะ ถึงจะไม่ตาย แต่ก็เจ็บไม่ใช่รึไง!?〞

〝วะ ว่าอะไรนะ———〞

〝อย่าพูดเหมือนกับว่าทนของแบบนั้นได้สิโว้ย!!!!〞

          กรยังคงรับแรงกระแทกจากศรที่ถูกยิงออกมา ในขณะที่ตอบเมอร์ลินด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวเหมือนกับฟิวส์ขาด ในขณะที่คิดถึงความเจ็บปวดที่ผ่านมาทั้ง 3 ครั้งในตอนก่อนที่จะจุติก่อนที่จะตะโกนบอกเมอร์ลินไปอีกครั้ง

〝ตายมาแล้วไม่ใช่รึไงพวกเราหน่ะ! ตอนนั้นมันเจ็บโคตรเลยไม่ใช่รึไง เลิกบ้าซะทียัยบ้า!!!〞

〝นะ นายนี่มัน——— เอ๋!!!?〞

          ในขณะที่เมอร์ลินกำลังหาคำพูดที่จะโต้กลับกรแต่ก็เถียงไม่ออกอยู่นั้น เธอก็สัมผัสได้ถึงแรงกระแทกจากลูกธนูที่ลดลง แม้จะเคยถูกสกิลดูดซับของกรเล่นงานมาแล้ว แต่เธอก็เชื่อว่าสกิลที่ใช้กับบอสไม่ได้ผลนี้คงไม่แม้แต่จะหยุดศรได้กลับลดแรงกระแทกลงได้ เลยทำให้เมอร์ลินตะลึงออกมาค่อนข้างมากทีเดียว

〝ใครมันจะไปทนของแบบนี้ได้กันฟ่ะ!!! ฉันแค่รับเฉยๆยังเจ็บขนาดนี้เลยนะเฟ้ย...〞

〝แล้วจะมารับแทนทำไมกันเล่า!〞

          ทั้งที่ยังรับการโจมตีอยู่แท้ๆ แต่สาวแว่นผู้อยู่ในห้วงแห่งความสับสนก็ไม่ได้เข้าใจกรเลยแม้แต่น้อย จนกลายเป็นกรที่เป็นฝ่ายรำคาญไปเสียแล้ว แต่กรก็ไม่อยากให้มันค้างคาใจทั้งสองฝ่าย จึงถอนหายใจครั้งนึงออกมาแรงๆ แล้วตะโกนกลับไปด้วยเสียงที่ดังลั่น

〝ฉันจะไม่พูดประโยคเชยๆ อย่าง เพราะเราเป็นเพื่อนกันหรอกนะเฟ้ย!!! ก็เธอหน่ะบอกแล้วไม่ใช่รึไงว่าให้ฉันเป็นหัวหน้าหน่ะ จะรับผิดชอบชีวิตของพวกพ้องอย่างเธอแล้วมันผิดตรงไหนกันหล่ะหา!!!!〞

〝ขะ ของแบบนั้นก็แค่ลมปากน่าไอ้ทึ่มเอ๊ย!〞

〝ใครสนฟ่ะ! พูดออกมาแล้วก็ต้องรับผิดชอบคำพูดของตัวเองด้วยสิเฟ้ย!〞

〝คนอย่างนายนี่มัน!!!〞

          แก้มของเมอร์ลินถูกเปลี่ยนเป็นสีแดงอมชมพูโดยที่กรไม่ได้สังเกต ไม่แม้แต่เจ้าตัวจะรู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองกำลังทำหน้าแบบไหนอยู่ แต่เธอก็รู้ตัวเนืองๆอยู่แล้วว่าตัวเองค่อนข้างดีใจที่ได้ยินคำตอบแบบนั้นออกมาจากปากของกร ฝ่ายมีอาที่อยู่ข้างๆเมอร์ลินเองก็ทำสีหน้าภูมิใจออกนอกหน้าต่อคำพูดของกรเช่นเดียวกัน

          แต่บรรยากาศที่ว่าก็อยู่ได้เพียงชั่วครู่เมื่อทศกัณฑ์เปิดปากพูดอีกครั้ง

〖คุยกันจบแล้วรึ... มันจะข้ามหน้าข้ามตาไปหน่อยแล้วกระมั้ง? 〗

〝อึ๊ก! เพราะใกล้จะจบแล้วต่างหาก!〞

〖ใครจะจบกันแน่? 〗

〝งี้ก็สวยเซ่!!! ย้า!!!!〞

วูม!!!!!

          แสงสีเขียวที่มือซ้ายและแสงสีแดงที่แขนขวาของกรเปล่งแสงออกมาพร้อมๆกัน ด้วยเวลาเพียงเสี้ยววินาที ที่พลังของกรเพิ่มขึ้นอีกกว่าห้าพันล้านจุดจนเหนือกว่าทศกัณฑ์ได้ในที่สุด สกิล『ดูดซับทุกสิ่ง』 ก็ทำการดูดซับลูกธนูที่พุ่งมาจนหายไปสิ้น ไม่เหลือแม้แต่เศษฝุ่นซักเม็ด แรงกระแทกอันมหาศาลเมื่อครู่เองก็หายไปเช่นกัน จนกรถึงกับหมดแรงแล้วลงมายืนหอบบนพื้นเลยทีเดียว

〝กร! สะ สุดยอดไปเลย!〞

〝กะ โกหก ใช่ไหมเนี่ย?〞

〝แฮ่ก! แฮ่ก! ยะ อย่าคลายสถานะต่อสู้...〞

          ทั้งมีอาและเมอร์ลินต่างก็ทำสีหน้าโล่งอกออกมาอย่างชัดเจน ต่อหน้าสถานการณ์ที่คลี่คลายลงไปชั่วคราว แม้สาวๆทั้งสองจะยังไม่หลุดจากพันธนาการของแรงโน้มถ่วงมหาศาลก็ตามที

          แต่กรที่กำลังหายใจหอบอยู่ก็เน้นย้ำให้อย่าประมาท พวกเธอจึงตั้งสติใหม่ในทันทีทั้งที่ยังขยับตัวไม่ได้เหมือนเดิม

〖ท่าทางสบายๆอยู่นี่นาเจ้าหนุ่ม 〗

〝แฮ่ก! สบายบ้านแกสิ ระบมหมดแล้วเนี่ย! แต่ยังไงก็ต้องขอบคุณที่ไม่โจมตีในระหว่างนั้นหน่ะนะ〞

〖มันไม่จำเป็น... เพราะอีกเดี๋ยวเป้าหมายเช่นเจ้าเองก็จบสิ้นแล้ว 〗

〝จบเหรอ? หมายความว่ายังไง———〞

          แม้การโจมตีของทศกัณฑ์จะไร้ผลไป แต่รอยยิ้มเยาะเย้ยที่น่ารังเกียจบนใบหน้าของมันกลับฉีกกว้างออกมายิ่งกว่าเดิม นั่นจึงทำให้กรที่กำลังเหนื่อยเริ่มกลัวขึ้นมา กรจึงคิดที่จะถามออกไป แต่ว่า...

ตึก ตึก!!!!!———

〝!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!〞

          เสียงเต้นของชีพจรดังขึ้นในสติของกรแทบจะทันทีที่จบประโยค ต่อจากนั้นสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดก็เกิดขึ้นอีกครั้ง โดยไม่ให้พวกกรพักผ่อนเลยซักนิด...

.

.

.

.

.

〝อ้ากกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!〞

          กรล้มลงคุกเข่าลงกับพื้น เอามือที่ยังส่องแสงสว่างทั้งสองข้างกุมศีรษะแล้วบีบขมับของตัวเองแน่นเพื่อหวังที่ขจัดความปวดให้หายไป

          อีกเสี้ยววินาทีถัดมา กรได้เบิกตาโพลงราวกับปรากฏภาพนิมิตอยู่ในหัวนับล้านล้านภาพ ในคราเดียวจนครองสติไว้ไม่อยู่

          อีกเสี้ยววินาทีถัดมา กรได้เหลือกตาจนเหลือแต่ตาขาวเพราะอาการช็อคราวกับถูกตู้คอนเทรนเนอร์ยัดเข้าไปในสมองโดยตรง จนสมองแทบจะระเบิดออกมา

          มีอาและเมอร์ลินที่กำลังทำสีหน้าโล่งอกเมื่อครู่ ถูกเปลี่ยนให้เป็นใบหน้าสิ้นหวังในชั่วพริบตาที่กรร้องโหยหวนออกมาลั่นห้องบอสด้วยความเจ็บปวดทางจิตใจที่คาดว่าจะมากที่สุดในชีวิตที่เคยเจอ โดยหารู้ไม่ว่า『ความสิ้นหวัง』ที่กรกำลังจะเผชิญนั้น มันเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้นเอง...

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 225 : ความสำเร็จเกิดจากการยอมรับความผิดพลาดของตัวเอง (จบบทที่ 4)

    ช่วงหลังมานี้... หลังจากที่เหล่าภรรยาของฉันได้รู้ทุกอย่างและยอมรับสิ่งที่ฉันเป็นหรือเจอมา จำนวนครั้งที่ฝันร้ายก็ลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัดใช่ มันไม่ได้หายไปหรอก... ฉันรู้ตัวดี และสัมผัสได้ก็เพราะความกังวลยังมีอยู่นั่นแหละนะแต่ก็ต้องขอบคุณความอ่อนโยนของทุกคน มันถึงไม่ได้เลวร้ายเหมือนเมื่อก่อนเพราะมีพวกเธออยู่เคียงข้าง ฉันเลยไม่ได้กลัวจนสติแตกเหมือนเมื่อก่อนแล้วใช่... ต่อให้ฝันร้ายถึง ‘เรื่องในอดีต’ ฉันก็ไม่ได้กลัวหรือว่าเศร้าอีกแล้วเพราะงั้น... ความรู้สึกปั่นป่วนในอกนี่ จึงใกล้เคียงกับความกังวลมากกว่า กรรู้สึกชื่นชมความใจเย็นของตัวเอง มั่นใจว่าอย่างน้อยมันก็ดีขึ้นกว่าก่อนแน่ ไม่อย่างนั้น... ภาพของชายหาดที่เต็มไปด้วยซากศพรอบกายของเขา คงทำเอารู้สึกผิดจนทรมานตัวสั่นไปแล้วเป็นฝันร้ายที่ไร้รสนิยมซะจริง กรรู้สึกขนลุกจนหน้าเหยเกแม้จะรู้ว่าทั้งหมดเป็นแค่ความคิด ด้วย ‘สุดยอดการประมวลผล’ มันไม่ยากอยู่แล้วที่จะรู้ตัวขณะหลับ ...มันสุดยอดจนถึงกับรู้ด้วยซ้ำว่าอะไรเป็นสาเหตุของการฝัน ชายหาดนี้ไม่ใช่ที่ที่กรรู้จัก แต่จำนวนศพที่มากขนาดนี้ เดาได้เลยว

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 224 : ผีเสื้อกระพือปีก สะเทือนถึงผืนฟ้าแลสะท้านถึงอเวจี

    ————สามวันต่อมา, ทวีปอีเดน - ใจกลางเมืองหลวงแอสการ์ด ใจกลางทวีปอีเดนนั้น ปกติแล้วคือสวนอันศักดิ์สิทธิ์สำหรับเหล่าเทพผู้ปกครอง ซึ่งมีไว้ใช้เพื่อกำหนดทิศทางของสรวงสวรรค์หรือหมายรวมถึงโลกมนุษย์เบื้องล่าง ถนนสายหลักของตระกูลทั้งเจ็ดล้วนแล้วแต่เข้ามาบรรจบ ณ ที่สวนพฤกษานี้ เมื่อไรก็ตามที่มีหัวหน้าตระกูลมาเยือน ทางเข้าของสวนจากถนนเส้นนั้นจะมีมือขวาข้ารับใช้เฝ้าถนนเส้นนั้นไว้เป็นปกติ ...ทว่าในวันนี้กลับแตกต่างเป็นพิเศษ เพราะจำนวนข้ารับใช้ของทั้งหกตระกูลที่มานั้นมีจำนวนกว่าร้อยคน แถมทางเข้าสวนจากถนนแต่ละเส้นยังติดธงประดับตราประจำตระกูลอีก ซ้ำร้าย... ธงที่ว่ายังเป็นลักษณะเดียวกับที่ใช้ในสงคราม มันเคยถูกใช้ทั้งกับจอมมารในอดีตกาลหรือกับราชาปีศาจในปัจจุบัน นั่นแลคือสัญญาณบ่งบอกความรุนแรงของสถานการณ์ในตอนนี้ โดยเฉพาะใจกลางสวนพฤกษา ที่ตั้งของโต๊ะกลมทำจากหินอ่อนซึ่งเป็นสถานที่ประชุมของเหล่าหัวหน้าตระกูลยกเว้นกาบริเอล สีหน้าทุกคนนั้นอยู่ไม่สุข ทั้งกังวลและโกรธเกรี้ยวบ้าง สับสนบ้าง ...และสาเหตุของเรื่องนั้น ก็คือกระดาษแผ่นน

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 223 : ความหวังและสิ้นหวัง คือสองด้านของเหรียญที่ชื่อศรัทธา

    หลังจากที่อัพเดทข้อมูลกับเหล่าสหายภาคีโต๊ะจัตุรัส กรก็ต้องกลับไปแต่งชุดเพื่อเข้าพิธีรับมอบรางวัลต่อ เพราะตัวเอกของงานคือพวกกรทั้ง 4 ฝ่าย และมีเหล่าราชาจากอาณาจักรในสังกัดสภาโลกเป็นผู้มอบรางวัล นั่นหมายความว่าเหล่าภรรยาของกรที่เป็นกำลังหลักในการปราบอาร์เคมีดีสก็ต้องร่วมงานรับรางวัลด้วย ไม่สิ... ‘ดาร์คไนท์ซิริอุส’ ที่เป็นกำลังหลักนี่แหละคือตัวเอกหลักของงาน ไม่ร่วมเห็นทีคงจะไม่ได้เพราะงั้นพวกเราก็เลยได้ห้อง VIP ไว้แต่งตัว ต้องขอบคุณแอนดรูว์เลยแหละแล้วระหว่างที่รอสาว ๆ เขาแต่งองค์ทรงเครื่องกัน ฉันก็ไปอัพเดทข้อมูลรอถึงจริง ๆ จะอยู่ในห้องตอนสาว ๆ แต่งตัวได้แบบไม่เป็นไรก็เถอะ (ก็เห็นกันทุกซอกทุกมุมแล้วนี่นา)แต่ในแง่ของความรู้สึก... ขืนจ้องของสวย ๆ งาม ๆ ขนาดนั้นนานเข้า พูดตามตรงว่ามันจะของขึ้นจนไม่เป็นอันทำงานเอาน่ะสิฉันก็รู้นิสัยตัวเองดีอ่ะนะ เลยขอป้องกันไว้ก่อนดีกว่า กรอมยิ้มแห้งกับขีดจำกัดของตัวเองเหมือนทำใจ ก่อนเปิดประตูเข้าไปในห้องที่เขากับสาว ๆ เช่าพัก“อ๊ะ! กรกลับมาแล้ว!”“เป็นไงบ้าง เหนื่อยไหมกร?” มีอากับรินเดินเข้ามารับกรก่อนใคร

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 222 : แก้โจทย์ได้เมื่อใด ปัญหาใหม่ย่อมตามมาเสมอ

    หลังจากที่เมอร์ลินบอกว่าเครื่องเคลื่อนย้ายออกแบบเสร็จแล้ว พวกเราก็ทำตัวเอื่อยเฉื่อยกันอีกแปปนึงก่อนจะกลับบ้านพวกเราแจ้งข่าวเรื่องนี้กับทุกคน โดยเฉพาะรินกับอลิซพวกเธอดีใจเข้ามากอดแล้วก็ร้องไห้โฮใหญ่เลยแต่ก็ช่วยไม่ได้หรอก ก็จากบ้านมากตั้ง 5 เดือนแล้วนี่นาไหนจะทั้งคุณลุง คุณน้าที่รออยู่ที่บ้าน... ชีวิตประจำวันที่ผ่านมาตลอด 17 ปีมันทดแทน 5 เดือนไม่ได้หรอก (ถ้าไม่นับเรื่องที่ได้คบกันล่ะนะ)เพราะงั้นจะอยากกลับไปก็คงไม่แปลกเราเองก็เถอะ... ถึงกลับบ้านไปจะไม่มีใครอยู่แล้ว แต่มันก็ยังเต็มไปด้วยความทรงจำที่ทำให้เราเป็นอย่างทุกวันนี้เป็นสถานที่ให้กำเนิดความฝันของเรา ...และเราก็ไม่ได้รังเกียจมันอีกแล้วด้วยเพราะงั้นเราจะกลับไปให้ได้! เครื่องมือมีพร้อมหมดแล้วที่เหลือก็มีแต่การจัดแจงสถานการณ์ ให้กลับไปได้โดยที่โลกเดิมไม่มีปัญหา...แต่เรื่องนั้นแหละที่ยากที่สุด❖❖❖❖❖————สองวันต่อมา, โรงแรมเดอะกลอรี่ ณ สหพันธ์แห่งความรุ่งโรจน์ หลังจากวันหยุดของกรและครอบครัวสิ้นสุด แผนการขั้นถัดไปของภาคีโต๊ะจัตุรัสก็เสร็จสมบูรณ์ด้วย ...และก็เป็นการเริ่มแผนด้วยเช่นกัน ด้วยเหตุนั้น ก

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 221 : สาวน้อยธรรมดา?แค่อยากใช้เวลาด้วยกัน ตอนจบ (Mia and Merlin have a Date)

    “โดนแกล้งอีกแล้วอ่า!”“น่า ๆ ไม่เป็นไรนะกร”“แล้วจะโทษใครได้ล่ะหืม?” ได้ยินแฟนหนุ่มเดินบ่นกลางป่า มีอากับเมอร์ลินจึงได้ลูบหัวปลอบใจไปคนละกรุบ ...ถึงต้นเหตุจะเป็นเพราะพวกเธออยู่แล้วก็เถอะว่าแต่ นี่เดจาวูป่ะเนี่ย?ไหงรู้สึกเหมือนเรื่องคล้าย ๆ กันเพิ่งเกิดขึ้นเลย“!!!?” ระหว่างที่คิดอะไรไร้สาระอยู่ มีอากับเมอร์ลินก็เข้ามาควงแขนกรเหมือนกับตอนที่มาถึง กรเลยคิดว่า ‘โอเค ช่างมันละกัน’ แล้วหันไปสนใจกับการเที่ยวลมชมวิวกับภรรยาทั้งสองดีกว่า จากก่อนหน้านี้... หลังจากพักผ่อนในตึกกลางสำหรับติดต่อ พวกกรก็ออกเดินเท้าไปตามทางที่ทำไว้ เห็นว่าหากเดินตามทางนี้จะสามารถชมวิวได้ครบทุกแห่งและวนไปยังกระท่อมที่จองไว้ได้พอดี“กรดูสิ! มีแม่น้ำด้วย!”“ตื้นพอให้ลงไปเล่นได้ด้วยแฮะ” มีอากับเมอร์ลินดูจะสนใจแม่น้ำทางขวาที่ทั้งสามกำลังเดินเลียบผ่าน ความใสของมันทำให้เห็นดินและกรวดก้นแม่น้ำได้ แถมความสูงของมันยังแค่ครึ่งแข้งเอง เรียกว่าเหมาะกับการเล่นสุด ๆ มีอากับเมอร์ลินจึงไม่รอช้า พวกเธอถอดรองเท้าแล้วจูงมือกรลงไปในแม่น้ำ“ไปกันเถอะกร! น่า

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 220 : สาวน้อยธรรมดา?แค่อยากใช้เวลาด้วยกัน ตอนต้น (Mia and Merlin have a Date)

    หลังจากถ่ายรูปกันอย่างหวานแหวว เวลาก็ยังเหลืออีกนิดหน่อย พวกเราเลยจะไปเดินเล่นกันต่อ...และแน่นอน คุณรินกับอลิซก็ยังคงตามแกล้งฉันเหมือนเดิมช่างใจร้ายเหลือร้าย ตั้งแต่ในโรงหนังแล้วนะ!มาปลุกเร้ากันขนาดนี้ในสถานการณ์ที่ทำได้แค่อดทน นี่มันการทรมานประเภทไหนกันเนี่ย!?เหมือนเอาเนื้อสเต็ก A5 มาจ่อลิ้นแต่ไม่ยอมให้กินเลยนะเฮ้ย!จะทั้งชาลอตกับซาช่าที่ขยันเซอร์วิสให้ตอนช่วงเช้า หรือรินกับอลิซที่มาแกล้งกันทั้งช่วงบ่ายฉันเลยต้องกัดฟันทนน้ำตาไหลเป็นโลหิตไปจนถึงตอนกลางคืนโน่นเลย!พอถึงเวลาหม่ำ ๆ ฉันก็เลยล้างแค้นด้วยการกินพวกเธอเกือบทั้งคืนจนแทบไม่ได้หลับได้นอนทำกันยังกับเป็นกระต่ายเลยเชียวล่ะ!...ก็ พอมานึกดู ฉันอาจจะหนักมือไปหน่อยแต่พวกเธอมาแกล้งฉันก่อนนี่หว่า! จะโดนเอาคืนมันก็ไม่แปลกนี่นา!!!เหมือนที่เคยมีใครบางคนพูดไว้นั่นแหละ‘ผู้ที่จะเขมือบได้ก็มีแต่คนที่เตรียมใจจะโดนเขมือบเท่านั้น’ อื้ม ๆ! กรตื่นเช้ามาก็พยายามหาข้อแก้ตัวให้ตัวเองใหญ่ทั้งที่ไม่จำเป็น แต่ก็ต้องขอบคุณศึกอันหนักหน่วงเมื่อวานด้วย ความงุ่นง่านในตัวกรเลยลดลงไปมากจนระบบความคิดปกติเริ่มกลับมาทำงาน เขา

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status