Share

ตอนที่ 7 ความหวั่นเกรง

เมื่อประตูห้องพักถูกปิดลงและเงาของนายอำเภอหวังหายลับไป ความเข้มแข็งที่จื่อเหยาแสดงออกมาเมื่อครู่ก็ดูเหมือนจะจางหายไปเล็กน้อย นางทรุดตัวลงนั่งบนแคร่ไม้ สูดลมหายใจเข้าลึกเพื่อระงับอาการสั่นเทาของร่างกายที่ยังคงอ่อนแอ

            เสี่ยวชุนรีบถลาเข้ามาคุกเข่าลงเคียงข้าง น้ำตาไหลพรากด้วยความกลัวและความอัดอั้นตันใจ

            "คุณหนู! ทำอย่างไรดีเจ้าคะ! ปิ่นนั่น...ปิ่นนั่นเป็นของคุณหนูจริง ๆ ตอนนี้พวกเขาปรักปรำเราซึ่งหน้าแล้ว เราจะทำอย่างไรดี!"

            จื่อเหยามองสาวใช้ที่กำลังตื่นตระหนกด้วยแววตาที่สงบนิ่งแต่แฝงไว้ด้วยประกายบางอย่าง นางยื่นมือที่เย็นเฉียบของตนเองออกไปจับมือของเสี่ยวชุนเอาไว้เบา ๆ ซึ่งสัมผัสนั้นทำให้บ่าวตัวน้อยชะงักและเงยหน้าขึ้นมอง

            "เสี่ยวชุน" นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำแฝงความหนักแน่น "มองข้า...แล้วฟังให้ดี"

            "ยิ่งเราตื่นตระหนก เรายิ่งเข้าทางศัตรู ยิ่งเราแสดงความอ่อนแอ พวกเขาก็ยิ่งได้ใจ" จื่อเหยากล่าว "พ่อบ้านสวี เสี่ยวชิวและนายอำเภอหวัง...พวกเขาล้วนเป็นคนของเหมยลี่ฮูหยิน พวกเขาวางกับดักนี้ขึ้นมาก็เพื่อรอให้เราตื่นกลัวจนทำอะไรผิดพลาด...ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาหวาดกลัวแต่เป็นเวลาที่ต้องสู้ และข้าต้องการความช่วยเหลือจากเจ้า เสี่ยวชุนตอนนี้เจ้าคือตา คือหู คือมือ  และเท้าของข้า...ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเจ้าแล้ว เจ้าทำได้หรือไม่?"

            แววตาที่แน่วแน่และน้ำเสียงที่เปี่ยมด้วยความเชื่อมั่นของคุณหนู ส่งผลราวกับน้ำเย็นที่สาดซัดเข้ามาในใจที่ร้อนรุ่มของเสี่ยวชุน ความกลัวของนางค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นความมุ่งมั่น เจ้าตัวรีบพยักหน้ารับอย่างหนักแน่น "บ่าว...บ่าวทำได้เจ้าค่ะ! ขอเพียงคุณหนูสั่งมา!"

            "ดีมาก" จื่อเหยาคลี่ยิ้มบาง "ถ้าเช่นนั้นจงฟังแผนของข้า...ข้าต้องการให้เจ้าไปทำสามอย่าง"

            นางเริ่มอธิบายแผนการสืบสวนขั้นแรก "หนึ่ง...ศพของนางจางตอนนี้คงถูกนำไปเก็บไว้ที่ห้องเก็บของท้ายเรือนเพื่อรอการฝัง ให้เจ้าแอบไปหาบ่าวชายชื่ออาหมิงที่ช่วยนำศพขึ้นมาจากบ่อ แสร้งทำเป็นอยากรู้อยากเห็นแล้วชวนคุย ถามเขาว่าตอนที่สัมผัสร่างของป้าจาง เขาสังเกตเห็นอะไรผิดปกติหรือไม่...อย่างรอยช้ำ รอยขีดข่วนหรือเสื้อผ้าที่ฉีกขาด...ทุกรายละเอียดล้วนสำคัญ" เมื่อนางเห็นว่าบ่าวตัวน้อยตั้งใจฟังจึงได้พูดต่อ

            "สอง...ตอนนี้ทุกคนคงจะกลัวจนไม่มีใครกล้าเข้าใกล้บ่อน้ำนั่นอีกแล้วและนั่นคือโอกาสของเจ้า...เจ้าจงกลับไปที่นั่นอีกครั้ง คราวนี้ไม่ต้องรีบร้อน ค่อย ๆ มองให้ละเอียด...หาทุกสิ่งที่ไม่ควรจะอยู่ที่นั่น ไม่ว่าจะเป็นเศษผ้าเครื่องประดับหรืออะไรก็ตามที่ดูผิดที่ผิดทาง"

            "และสาม...เริ่มสืบเรื่องส่วนตัวของนางจางให้เงียบอย่างที่สุด" จื่อเหยาเน้นเสียง "ยกตัวอย่างว่านางทะเลาะกับใครบ้าง ขูดรีดใครบ้าง มีความลับอะไรที่คนอื่นไม่รู้...และที่สำคัญ...จงคอยสังเกตท่าทีของเสี่ยวชิวกับคนที่นางสนิทสนมด้วยเป็นพิเศษ"

            หลังนางกล่าวจบก็ได้สังเกตุท่าทางของเสี่ยวชุนไปด้วยและดูเหมือนเด็กหญิงคนนี้จะฉลาดไม่น้อยทีเดียว

            "บ่าวเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ" หลังเจ้าตัวรับคำสั่งจากผู้เป็นนายเรีบบร้อยทั้งหมดแล้ว นางก็รีบออกไปปฏิบัติการทันที

            คล้อยหลังบ่าวตัวน้อยเดินจากไป ภายในห้อง...จื่อเหยาก็กลับเข้าสู่โหมดสมาธิของตนเพื่อทำจิตใจให้สงบ

            ในยามนี้บรรยากาศในเรือนเมฆาคล้อยได้เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ความโกลาหลในตอนเช้าถูกแทนที่ด้วยความเงียบอันน่าขนลุก บ่าวไพร่ต่างทำงานของตนไปอย่างซังกะตาย แต่สายตากลับคอยชำเลืองมองกันและกันด้วยความหวาดระแวง

            ทุกคนต่างกระซิบกระซาบกันถึงเรื่องคุณหนูใหญ่ที่อาจจะเป็นคนฆ่านางจาง และหวาดกลัวว่าเคราะห์ร้ายครั้งต่อไปจะตกมาถึงตัว...ความหวั่นเกรงในอันตรายที่มองไม่เห็นได้คืบคลานเข้าปกคลุมทั่วทุกพื้นที่

            เสี่ยวชุนเริ่มภารกิจแรกด้วยการเข้าไปตีสนิทกับบ่าวชายอาหมิง เขายังคงมีสีหน้าตื่นกลัวไม่หาย แต่เมื่อเสี่ยวชุนทำทีเป็นหวาดกลัวเช่นกันและชวนคุยถึงเรื่องที่เกิดขึ้น เด็กหนุ่มก็ยอมเล่าให้ฟังแต่โดยดี

            "สภาพน่ากลัวมากเลยเสี่ยวชุน...ข้าสังเกตเห็นว่าที่ข้อมือของป้าจางมีรอยช้ำ เหมือนถูกใครจับไว้แน่นเลยนะ แล้วที่คอก็มีรอยข่วนเป็นทางยาวด้วย...อ้อ! ตอนที่ข้าจับมือแกขึ้นมานะ เหมือนจะเห็นว่าใต้เล็บแกมีเศษด้ายสีน้ำเงินเข้ม ๆ ติดอยู่ด้วยละ แต่ข้ากลัวเลยไม่ได้บอกใคร"

            เสี่ยวชุนจดจำข้อมูลนั้นไว้ในใจอย่างเงียบงัน ก่อนจะปลีกตัวไปยังบ่อน้ำร้างตามลำพัง ที่นั่นตอนนี้ช่างดูวังเวงน่ากลัวกว่าเดิมหลายเท่าตัว

            เด็กสาวตัวน้อยจึงพยายามรวบรวมความกล้าพร้อมกับคิดว่าไม่มีอะไรหรอกไม่ต้องกลัว เมื่อจิตใจของนางเริ่มมั่นคงดี นางจึงได้ก้าวเท้าเข้าไปสำรวจรอบ ๆ บ่ออย่างละเอียดตามที่คุณหนูสั่ง สายตาของเด็กหญิงกวาดไปตามพื้นดินชื้นแฉะ...

            และแล้วตอนนี้ดูเหมือนว่านางจะเจอเข้ากับอะไรบางอย่างข้างพุ่มไม้เตี้ย ๆ ที่อยู่ห่างจากขอบบ่อไปเล็กน้อย ตรงนั้นมีวัตถุชิ้นเล็กชิ้นหนึ่งตกอยู่...มันคือกระดุมไม้ที่ถูกขัดจนขึ้นเงา ซึ่งนางคิดว่ามันช่างไม่น่ามาอยู่ตรงนี้

            ทั้งนี้เป็นเพราะมันไม่ใช่กระดุมหยาบ ๆ ที่ใช้กับเสื้อผ้าของบ่าวไพร่ทั่วไปนั่นเอง "สิ่งนี้ผิดที่ผิดทางตามที่คุณหนูพูด" นางพึมพำ ก่อนจะรีบห่อกระดุมเม็ดนั้นด้วยผ้าเช็ดหน้าแล้วเก็บไว้ในอกเสื้อเป็นอย่างดี

            หลังจากนางได้ตรวจสอบดูอีกรอบและไม่พบสิ่งใดเพิ่มเติม เสี่ยวชุนจึงได้ตัดสินใจว่าจะไปทำภารกิจสุดท้ายที่ค่อนข้างอันตรายไม่น้อย นั่นก็คือการสังเกตการณ์เสี่ยวชิว

            วิธีการของเด็กหญิงก็คือ นางแสร้งทำเป็นทำงานอยู่ใกล้กับโรงครัว และก็เป็นดังคาด...นางเห็นเสี่ยวชิวมีท่าทีร้อนรนผิดปกติ เด็กสาวมักทำงานผิด ๆ ถูก ๆ และคอยมองไปรอบตัวคล้ายหวาดระแวงอยู่ตลอดเวลา และที่สำคัญที่สุด...เสี่ยวชุนเห็นเสี่ยวชิวกำลังมีปากเสียงอย่างลับ ๆ ล่อ ๆ กับบ่าวชายคนหนึ่งที่ชื่ออาเฉียงอยู่ที่หลังเรือนฟืน

            คนทั้งสองมีสีหน้าเคร่งเครียดและหวาดกลัว เมื่ออาเฉียงเห็นว่าเสี่ยวชุนกำลังเดินผ่านมา ชายหนุ่มก็รีบหันหลังเดินหนีไปทันที ทิ้งให้เสี่ยวชิวยืนหน้าซีดอยู่ตามลำพัง

            เย็นวันนั้นเสี่ยวชุนรีบกลับมารายงานทุกสิ่งที่ตนได้พบเห็นและได้ยินมาให้จื่อเหยาฟังอย่างละเอียด พร้อมทั้งยื่นกระดุมไม้ชิ้นสำคัญที่พบออกมาด้วย

            จื่อเหยารับกระดุมไม้นั้นมาพิจารณาในมืออย่างใจเย็น ขณะที่ในสมองกำลังประมวลผลข้อมูลทั้งหมดด้วยความเร็วสูง

            (รอยช้ำที่ข้อมือ รอยขีดข่วนที่คอ...ยืนยันว่าเป็นการต่อสู้ ไม่ใช่อุบัติเหตุ...เศษด้ายสีน้ำเงินเข้มและกระดุมของผู้ชาย...แสดงว่าคนร้ายเป็นบุรุษที่สวมเสื้อผ้าดีกว่าบ่าวทั่วไป...เสี่ยวชิวมีท่าทีร้อนตัวและมีความสัมพันธ์ลับกับอาเฉียง...ป้าจางอาจจะล่วงรู้ความลับของพวกเขาสองคนเข้า จึงถูกฆ่าปิดปาก!) นางลองคิดในสิ่งที่น่าจะพอเป็นไปได้

            {ระบบ...ช่วยวิเคราะห์วัตถุนี้ให้ที} นางสั่งในใจ

          [ติ๊ง! กำลังสแกนวัตถุ...วิเคราะห์เสร็จสิ้น] [วัตถุ: กระดุมไม้เนื้อแข็งขัดเงา...มาจากเสื้อผ้าบุรุษคุณภาพปานกลาง ไม่ใช่ของบ่าวรับใช้ทั่วไป แต่เป็นระดับหัวหน้าคนงานหรือองครักษ์ส่วนตัว]

            ในตอนนี้ในหัวของจื่อเหยาก็ได้มีภาพทั้งหมดทักถออยู่ด้วยกันแล้วอย่างสมบูรณ์ ก่อนนางจะเงยหน้าขึ้นสบตากับเสี่ยวชุนที่รอคอยอย่างมีความหวัง

            "ข้าได้ตัวผู้ต้องสงสัยที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดแล้ว...เสี่ยวชุน"

            "จริงหรือเจ้าคะคุณหนู! ใคร...ใครคือผู้ต้องสงสัยเจ้าคะ?"

            "อาเฉียง...และเสี่ยวชิวคือผู้สมรู้ร่วมคิดที่เป็นไปได้มากที่สุด" จื่อเหยาตอบเสียงเรียบ "ตามความคิดของข้าคือนางจางอาจจะล่วงรู้ความลับเรื่องความสัมพันธ์ของพวกเขาสองคน และใช้มันเพื่อข่มขู่บางอย่าง จนนำไปสู่การเผชิญหน้ากันที่บ่อน้ำในคืนนั้น และจบลงด้วยการฆ่า"

            "ถ้าเช่นนั้น...พวกเขาก็คือคนร้ายจริง ๆ น่ะสิเจ้าคะ!" น้ำเสียงของเสี่ยวชุนเต็มไปด้วยความตื่นกลัวและตื่นเต้น

            "นั่นเป็นแค่การคาดเดา" จื่อเหยาพูดต่อ "เพราะพวกเรายังขาดหลักฐานชิ้นสุดท้ายที่จะมัดตัวพวกเขาโดยตรง...เรายังไม่รู้ว่าพวกเขาโต้เถียงกันเรื่องอะไร หรืออะไรคือฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้พวกเขาลงมือ...การจะทำให้นายอำเภอหวังยอมรับได้ เราต้องทำให้พวกเขาสารภาพออกมาเอง"

            นางมองออกไปนอกหน้าต่างที่บัดนี้มืดสนิทแล้ว...และคืนที่สองของเส้นตายสามวันกำลังจะเริ่มต้นขึ้น

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ช่วยด้วย! ข้าถูกตัวร้ายปักธงเข้าให้แล้ว   ตอนที่ 36 คืนกลับสู่จวนหรงโหว

    หลายเดือนผ่านไปนับตั้งแต่วิกฤตการณ์ที่เมืองเหยียนสุ่ย...ผ่านพ้น ในตอนนี้ฤดูร้อนที่ร้อนระอุได้ผ่านไปนานแล้วและถูกแทนที่ด้วยสายลมเย็นสบายแห่งต้นฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้รอบเรือนเมฆาคล้อยเริ่มเปลี่ยนจากสีเขียวชอุ่มเป็นสีเหลืองทองอร่าม บรรยากาศที่เคยเต็มไปด้วยความตึงเครียด บัดนี้กลับสงบสุขและเต็มไปด้วยชีวิตชีวา จื่อเหยาได้ใช้ช่วงเวลาหลายเดือนนี้ในการฟื้นฟูร่างกายและสร้างฐานอำนาจเล็ก ๆ ของนางขึ้นมาอย่างเงียบเชียบ โดยอาศัยชื่อเสียงของคุณชายหลี่เหยาที่ตอนนี้ได้กลายมาเป็นตำนานที่เล่าขานกันไปทั่วทั้งอำเภอ แต่กลับไม่มีผู้ใดล่วงรู้ตัวตนที่แท้จริงของเขาเลยแม้แต่คนเดียว บ่ายวันหนึ่ง ขณะที่จื่อเหยากำลังนั่งอ่านตำราแพทย์ที่พ่อบ้านสวีอุตส่าห์ไปหามาให้อย่างใจเย็น โดยมีเหลิ่งเยว่ยืนเฝ้าอารักขาอยู่ไม่ห่างนั้นเองที่ตัวตนของนางถูกจื่อเหยารู้แล้วจากอาการบาดเจ็บในครั้งก่อน...เสียงฝีเท้าที่รีบร้อนของพ่อบ้านสวีก็ดังขึ้นจากทางเดินหน้าห้องพัก&nb

  • ช่วยด้วย! ข้าถูกตัวร้ายปักธงเข้าให้แล้ว   ตอนที่ 40 เบี้ยที่ถูกกลืน

    เหลิ่งเยว่เตรียมจะรับคำ ทว่าได้มีเสียงของเสี่ยวชุนดังแทรกขึ้นมาอย่างสั่นกลัว "คะ...คุณหนูเราต้องฆ่าพวกเขาเลยหรือเจ้าคะ" คำถามที่เต็มไปด้วยความไร้เดียงสาและหวาดกลัวของเสี่ยวชุน ทำให้หรงจื่อเหยาที่กำลังจะออกคำสั่งต่อไปถึงกับชะงักงันพร้อมกับคิดว่าโชคดีที่นางได้ให้นางจางกับอาเฉียงหลอกล่อเสี่ยวเฉินออกไป ก่อนที่นางจะหันไปมองบ่าวรับใช้คนสนิทที่อยู่กับนางมาตั้งแต่ต้น...ใบหน้าของเสี่ยวชุนซีดเผือด ดวงตาเต็มไปด้วยหยาดน้ำใส ร่างกายของนางสั่นเทาอย่างไม่อาจควบคุม...ที่ไม่ใช่เกิดจากการแสดงอีกต่อไปแล้ว จื่อเหยารู้สึกราวกับมีมือที่มองไม่เห็นมาบีบหัวใจของตน...นางเกือบลืมไปแล้ว...ว่าเด็กสาวตรงหน้า...ก็เป็นเพียงเด็กสาวธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น นางเดินเข้าไปหาเสี่ยวชุนช้า ๆ แววตาที่เคยเย็นเยียบพลันอ่อนแสงลงเล็กน้อย "

  • ช่วยด้วย! ข้าถูกตัวร้ายปักธงเข้าให้แล้ว   ตอนที่ 39 แผนตลบหลัง

    ช่วงเย็นจนถึงช่วงหัวค่ำภายในโรงเตี๊ยมจิ่นซิ่วของเมืองอันคังผ่านไปอย่างเงียบสงัด...แต่สำหรับหรงจื่อเหยาแล้ว นางรู้ดีว่านี่เป็นเพียงความเงียบที่ซ่อนเร้นไว้ซึ่งกระแสคลื่นใต้น้ำอันรุนแรง ทั้งนี้เป็นเพราะนางรู้เรื่องแผนการบางอย่างมาจากสายลับพิเศษนั่นเอง หากจะเป็นเรื่องอันใดนั้น คงต้องย้อนกลับไปก่อนหน้าในตอนที่นางสั่งให้วิญญาณของนางจางไปตามติดอยู่กับจ้าวมามา 'นายหญิงเจ้าคะ...' เสียงกระซิบที่เย็นเยียบของวิญญาณป้าจางดังขึ้นในหัวของนางตั้งแต่ตอนที่ขบวนรถม้าเพิ่งผ่านเข้าประตูเมืองอันคังมาได้ไม่นานนัก 'เมื่อครู่...ข้าน้อยได้ยินนางพูดคุยกับบ่าวรับใช้ที่ชื่อเสี่ยวถัง...นางกำชับนังเด็กนั่นว่าเมื่อไปถึงเมืองอันคัง ให้รีบไปติดต่อญาติห่าง ๆ ของนางที่ชื่อจิ่วกุ่ยหวัง ฉายาหวังขี้เมา...ดูเหมือนว่าพวกมันจะวางแผนใช้ชายผู้นี้ให้มาสร้างเรื่องอื้อฉาวเพื่อทำลายชื่อเสียงของนายหญิงในคืนนี้เจ้าค่ะ!'

  • ช่วยด้วย! ข้าถูกตัวร้ายปักธงเข้าให้แล้ว   ตอนที่ 38 สัญญาณอันตรายบนเส้นทาง

    เมื่อขึ้นมานั่งภายในรถม้า...จื่อเหยาก็รู้สึกว่าความเป็นส่วนตัวของนางได้กลับคืนมาอีกครั้ง นางจึงเอนกายพิงผนังรถม้าอย่างสบายใจ...ส่วนแววตาที่แสร้งทำเป็นเลื่อนลอยนั้นมาบัดนี้กลับทอประกายแห่งความเย็นชาและมุ่งมั่นมากขึ้นกว่าเดิม (ได้เวลาทวงคืนทุกสิ่งที่เป็นของเจ้าของร่างนี้...พร้อมกับดอกเบี้ยแล้ว...เหมยลี่) ทันใดนั้นเอง...นางก็สัมผัสได้ถึงไอเย็นที่คุ้นเคยปรากฏขึ้นในรถม้า...ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นวิญญาณของนางจาง อาเฉียง และเสี่ยวเฉิน ที่ลอยเข้ามานั่งอย่างเบียดเสียดอยู่ตรงข้ามกับนางด้วยท่าทีตื่นเต้น 'นายหญิง/พี่สาว...ท่านจะให้พวกเราติดตามกลับไปเมืองหลวงด้วยจริง ๆ หรือขอรับ/เจ้าคะ?' เสียงของทั้งสามดังขึ้นพร้อมกันในหัวของจื่อเหยา แววตาโปร่งแสงของพวกเขาเต็มไปด้วยความคาดหวังอย่างปิดไม่มิด จื่อเ

  • ช่วยด้วย! ข้าถูกตัวร้ายปักธงเข้าให้แล้ว   ตอนที่ 37 เดินทาง

    "พวกเจ้ารีบไป!" จ้าวมามาหันไปสั่งบ่าวรับใช้หญิงสองคนที่ติดตามมาด้วย "ช่วยกันจับตัวคุณหนูใหญ่ไปอาบน้ำชำระล้างร่างกาย! เปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ที่ข้าเตรียมมาให้เรียบร้อย! เราจะให้ท่านเจ้ากรมหลี่เห็นหลานสาวสุดที่รักในสภาพเช่นนี้ไม่ได้เป็นอันขาด!" บ่าวรับใช้หญิงร่างกำยำสองคนรับคำแล้วเดินตรงเข้ามาหาจื่อเหยาทันที แต่ยังไม่ทันที่มือหยาบกร้านของพวกนางจะได้แตะต้องตัวของจื่อเหยา! เสียงกรีดร้องอย่างแหลมหูของเด็กสาวที่นั่งขดอยู่เป็นก้อนกลมพลันส่งเสียงออกมา...พร้อมกันนั้นนางก็ได้ดีดตัวลุกขึ้นราวกับกระต่ายตื่นตูม! นางถอยกรูดไปจนชิดมุมห้อง แววตาเบิกกว้างเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและบ้าคลั่งอย่างสมจริง! ไม่เพียงแค่นั้น นางยังคว้าแจกันดินเผาที่ร้าวบิ่นใบหนึ่งขึ้นมาถือไว้ในมือเพื่อเป็นอาวุธอีกด้วย ซึ่งท่าทางของนางในยามนี้ทำให้จ้าวมามาถึงตกตะลึง&

  • ช่วยด้วย! ข้าถูกตัวร้ายปักธงเข้าให้แล้ว   ตอนที่ 35 รุ่งอรุณแห่งการเปิดโปง (6)

    เมื่อนางกลับมานั่งลงที่มุมเดิม เจ้าตัวก็รีบหักขนมเปี๊ยะชิ้นโตส่งให้วิญญาณของเสี่ยวเฉินที่กำลังลอยอยู่ไม่ห่างด้วยแววตาที่รอคอยอย่างใจจดใจจ่อ 'เอาไปสิ' 'ขอบพระคุณพี่สาว!' เสี่ยวเฉินรับของเซ่นไหว้นั้นมาด้วยความดีใจเช่นเดิม จากนั้นเขาก็รีบกินมันเข้าไปด้วยความเอร็ดอร่อยทันที เมื่อเห็นท่าทางของเด็กชายเช่นนี้จื่อเหยาก็อดที่จะยิ้มออกมาอย่างรู้สึกเอ็นดูไม่ได้ แล้วในระหว่างนี้นางก็ได้อาศัยการตรวจสอบเรื่องกับดักซ้ำกับระบบอีกครั้งแม้ว่านางจะไว้ใจต่อคำรายงานของเสี่ยวเฉินก็ตาม...ถึงกระนั้นนางคิดว่าอย่างไรเสียก็ไม่ควรจะประมาท [ระบบ ช่วยตรวจสอบเส้นทางในอุโมงค์ให้ที ว่าปลอดภัยตามคำรายงานของเสี่ยวเฉินหรือไม่] ติ๊ง!&n

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status