Share

ตอนที่ 6 แก้ต่างให้ตัวเอง

จื่อเหยาลุกพรวดขึ้นนั่ง หัวใจเต้นถี่ระรัวราวกับจะทะลุออกมานอกอก ความหวาดกลัวเข้าจับขั้วหัวใจอย่างที่นางไม่เคยรู้สึกมาก่อน

            แต่ก็เพียงชั่วครู่เดียว ก่อนที่สติของแพทย์นิติเวชจะเข้าควบคุมทุกความคิด นางหลับตาลง สูดลมหายใจลึก แล้วเร่งประมวลภาพในหัวอย่างรวดเร็ว

            (ศพจมน้ำ...เสียชีวิตได้ไม่นาน...ร่องรอยบางอย่างที่ลำคอบ่งชี้ถึงการต่อสู้ และอาจเป็นสาเหตุของการขาดอากาศหายใจ...จุดเกิดเหตุอยู่ที่บ่อน้ำท้ายเรือน...)

            ความคิดจากร่างเดิมกับความรู้สึกในฐานะจื่อเหยาในยามนี้กำลังปะทะกันวุ่นวายยุ่งเหยิงในอก นางรู้ดีว่าความเกลียดชังที่มีต่อป้าจางผู้หญิงใจร้ายที่คอยรังแกและเบียดเบียนผู้อื่นกำลังแผดเผาอยู่ในใจ ทว่าฐานะของนางในตอนนี้ไม่ใช่เพียงเด็กหญิงธรรมดา แต่คือแพทย์...และนักสืบ

            ความตายทุกกรณี...ต้องมีคำตอบ ไม่ว่าผู้ตายจะเป็นคนดีหรือคนชั่ว นางไม่มีวันยอมให้ฆาตกรลอยนวลไปได้

            นี่ไม่ใช่การช่วยวิญญาณของป้าจาง...หากแต่คือการยืนหยัดเพื่อหลักการและความยุติธรรมที่นางยึดถือมาตลอดชีวิตและที่สำคัญที่สุดนี่คือโอกาส

            โอกาสที่จะพิสูจน์ให้ทุกคนในเรือนแห่งนี้ได้เห็น...ว่าคุณหนูหรงจื่อเหยาคนนี้มิใช่เด็กสาวโง่เง่าที่ปล่อยให้อารมณ์ครอบงำอีกต่อไป

            นางนั่งนิ่งในความมืด ความง่วงงุนเลือนหายจนหมดสิ้น เหลือเพียงความเยือกเย็นและสมาธิที่แน่วแน่...รอคอยเสียงกรีดร้องที่จะดังขึ้นในยามรุ่งอรุณ

            และแล้วสิ่งที่นางรอคอยก็มาถึง...เสียงกรีดร้องอันแหลมสูงของบ่าวรับใช้ผู้หนึ่งดังขึ้นในยามเช้าตรู่...ได้ทำลายความเงียบสงบของเรือนเมฆาคล้อยจนหมดสิ้น

            บรรยากาศที่เคยเฉื่อยชาเนิบนาบพลันแปรเปลี่ยนเป็นความโกลาหลวุ่นวายในทันที เสียงฝีเท้าจำนวนมากวิ่งสับสนอลหม่านและเสียงร้องเอะอะโวยวายดังขึ้นจากทุกทิศทาง

            เสี่ยวชุนที่เพิ่งจะเดินออกไปด้านนอกได้ไม่นานนัก นางก็ได้รีบวิ่งกลับเข้ามาในห้องพักด้วยอาการตื่นตระหนก ใบหน้าของเด็กหญิงซีดเผือด ตัวสั่นงันงก

            "คุณหนู! แย่แล้วเจ้าค่ะ! แย่แล้ว! ป้าจาง...ป้าจางนาง..." เด็กสาวตัวน้อยรีบวิ่งเข้ามาในห้องอย่างลนลาน เสียงหอบแฮก ๆ และถ้อยคำตะกุกตะกักบ่งบอกถึงความตื่นตระหนกอย่างถึงที่สุด

            ทว่า...แทนที่นางจะได้เห็นภาพคุณหนูของตนตกใจจนหน้าซีดเซียวอย่างทุกครา จื่อเหยากลับนั่งนิ่งอยู่บนแคร่ไม้แววตาของนางเยือกเย็นและว่างเปล่าราวกับว่านางได้รับรู้เรื่องราวทั้งหมดนี้อยู่ก่อนแล้ว

            "นางตายแล้วใช่หรือไม่" จื่อเหยาถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

            เสี่ยวชุนเบิกตากว้าง อ้าปากค้างด้วยความตกใจ "คุณหนูทราบได้อย่างไรเจ้าคะ?"

            "ไม่ต้องถามมากความ...เจ้าพาข้าไปดูเหตุการณ์ห่าง ๆ หน่อย" จื่อเหยากล่าว ก่อนจะลุกขึ้นยืนด้วยท่าทางสงบที่ผิดวิสัยเดิมของตน ทำเอาเสี่ยวชุนรู้สึกขนลุกเลยทีเดียว แต่นางก็ยอมเดินนำทางไปแต่โดยดี

            ในตอนนี้ภาพที่ลานท้ายเรือนเต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวาย บ่าวรับใช้หลายสิบคนมุงดูอยู่ที่ขอบบ่อน้ำเก่าด้วยสีหน้าหวาดกลัวและอยากรู้อยากเห็น

            ร่างที่ไร้วิญญาณของนางจางถูกบ่าวชายร่างกำยำสองคนช่วยกันดึงขึ้นมาวางบนพื้นหญ้า สภาพศพนั้นช่างน่าอนาถยิ่งนัก ร่างกายอืดขึ้นเล็กน้อย ผิวซีดขาวราวกับกระดาษ ดวงตาทั้งสองข้างเบิกโพลงจ้องมองท้องฟ้าอย่างว่างเปล่า

            ไม่นานนักพ่อบ้านสวีผู้ดูแลเรือนพักแห่งนี้ ซึ่งเป็นคนสนิทของเหมยลี่ฮูหยินอีกคนก็รีบวิ่งกระหืดกระหอบมาถึงที่เกิดเหตุ ชายวัยกลางคนใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดจมูกด้วยสีหน้ารังเกียจ พลางมองสำรวจศพจากระยะไกล

            "เฮ้อ! ช่างเป็นเรื่องอัปมงคลเสียจริง!" เขาบ่นอุบ "เมื่อคืนคงจะเมามายแล้วซุ่มซ่ามเดินพลัดตกลงไปเองกระมัง! พวกเจ้ารีบเอาเสื่อมาห่อศพแล้วนำไปจัดการฝังเสียให้เรียบร้อย อย่าให้เรื่องนี้แพร่งพรายออกไปสร้างความเสื่อมเสีย เข้าใจไหม"

            แต่ยังไม่ทันที่ใครจะได้ขยับ ก็มีบ่าวรับใช้คนหนึ่งวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามารายงาน "เรียนพ่อบ้านสวี! เรื่องนี้ปิดไม่มิดแล้วขอรับ! มีชาวบ้านที่มาส่งผักตอนเช้าเห็นเหตุการณ์เข้าพอดี ตอนนี้เรื่องได้แพร่กระจายไปถึงในหมู่บ้านแล้วขอรับ!"

            หลังพ่อบ้านสวีได้ยินเช่นนี้ ใบหน้าของเจ้าตัวก็ถอดสีในทันที "ว่ากระไรนะ!" เขารู้ดีว่าหากทางการรู้ว่ามีคนตายผิดแปลกเช่นนี้ในความดูแลของตนเอง จะต้องเกิดเรื่องยุ่งยากตามมาอย่างแน่นอน

            เขาจึงรีบเปลี่ยนท่าทีอย่างเร่งด่วน "ในเมื่อเป็นเช่นนี้...ข้าจะให้คนไปแจ้งทางการที่ว่าการอำเภอเอง! นี่เป็นการตายไม่ธรรมดา เราต้องสืบหาความจริง!" เขาประกาศเสียงดังเพื่อให้ตนเองดูเป็นคนมีความรับผิดชอบ

            ขณะที่รอทางการมาถึง พ่อบ้านสวีก็แสร้งทำเป็นสืบสวนหาข่าว เขาปรายตามองไปรอบด้านแล้วถามเสียงดังว่า

            "พวกเจ้ารู้หรือไม่ ว่าช่วงนี้นางจางมีเรื่องระหองระแหงกับผู้ใดบ้างเป็นพิเศษ?"

            บ่าวไพร่ต่างมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ไม่มีใครกล้าพูดอะไร แต่แล้วเสี่ยวชิวบ่าวคนหนึ่ง ก็รีบฉวยโอกาสนี้สร้างความดีความชอบ นางก้าวออกมาแล้วกล่าวว่า

            "เรียนพ่อบ้านสวี...ก็มีแต่คุณหนูใหญ่เท่านั้นแหละเจ้าค่ะที่ดูจะไม่พอใจป้าจางเรื่องอาหารการกินอยู่บ่อยครั้ง"

            คำพูดนั้นทำให้ทุกคนหันไปมองทางห้องพักของจื่อเหยาเป็นทางเดียว พ่อบ้านสวีพยักหน้ารับอย่างช้า ๆ ราวกับว่านี่คือคำตอบที่เขาคาดหวังไว้อยู่แล้ว โดยที่ไม่มีใครรู้ว่าจื่อเหยากับบ่าวของนางก็ได้ยินคำพูดนี้เช่นกัน

            เสี่ยวชุนทำท่าจะพุ่งตัวออกไป แต่ว่ามือของจื่อเหยาได้จับต้นแขนของนางเอาไว้เสียก่อน "พวกเรากลับกันเถอะ"

            "แต่ว่า" บ่าวตัวน้อยกำลังจะแย้ง "เชื่อข้า" น้ำเสียงราบเรียบกับสีหน้าที่นิ่งสงบของคุณหนูของตน ทำให้บ่าวตัวน้อยกลืนคำโต้แย้งกลับลงคอโดยไม่รู้ตัว

            เวลาผ่านไปไม่นาน นายอำเภอหวังพร้อมด้วยมือปราบสองนายก็เดินทางมาถึงเรือนเมฆาคล้อย พ่อบ้านสวีรีบเข้าไปรายงานสถานการณ์ทันที และไม่ลืมที่จะยื่นห่อผ้าเล็ก ๆ ส่งให้เขาอย่างลับ ๆ

            "เรียนนายอำเภอหวัง" พ่อบ้านสวีกระซิบ "นอกจากเรื่องที่นางจางเคยมีปากเสียงกับคุณหนูใหญ่แล้ว บ่าวรับใช้ยังไปพบปิ่นปักผมของคุณหนูใหญ่ตกอยู่ในพงหญ้าข้างบ่อน้ำอีกด้วยขอรับ..."

            นายอำเภอหวังรับห่อผ้ามาคลี่ดู เห็นเป็นปิ่นไม้ธรรมดาอันหนึ่ง เขากำมันไว้ในมือก่อนจะพยักหน้าช้า ๆ แววตาฉายความหมายที่พ่อบ้านสวีเข้าใจดี

            ก่อนที่เขาจะทำการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุอย่างผิวเผินตามธรรมเนียม และเดินตรงมายังห้องพักของจื่อเหยา

            "คารวะคุณหนูใหญ่" เขากล่าวโดยปราศจากความเคารพ "ข้าคือนายอำเภอหวัง มาเพื่อสืบคดีการตายของนางจาง...มีคนให้การว่าคุณหนูมีความขุ่นเคืองกับผู้ตาย ไม่ทราบว่าเป็นความจริงหรือไม่?"

            จื่อเหยานั่งนิ่งอยู่บนแคร่ไม้ นางมองนายอำเภอหวังด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก "ไม่ทราบว่าเรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกับการตายของนางหรือเจ้าคะ?"

            "เกี่ยวสิ!" นายอำเภอหวังกล่าวเสียงเข้มขึ้น "เพราะมันคือแรงจูงใจ! และที่สำคัญมากกว่านั้น..." เขาคลี่มือออกเผยให้เห็นปิ่นไม้อันเก่าที่วางอยู่บนฝ่ามือ

            "เราพบปิ่นปักผมอันนี้ของเจ้า ตกอยู่ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุ! ตอนนี้ทั้งพยานและหลักฐานต่างก็บ่งชี้มาที่ตัวเจ้า เจ้าจะว่าอย่างไรอีก!"

            เสี่ยวชุนหน้าซีดเผือดทันทีที่เห็นปิ่นอันนั้น เพราะมันเป็นปิ่นที่คุณหนูของนางทำหายไปเมื่อหลายวันก่อน!

            บรรยากาศในห้องพลันกดดันขึ้นมา แต่ทว่าจื่อเหยาทำเพียงแค่คลี่ยิ้มออกมา...และมันเป็นรอยยิ้มที่เย็นเยียบจนน่า       ขนลุก

            "ท่านนายอำเภอ" จื่อเหยาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ชัดเจนและมั่นคงอย่างน่าประหลาด "ปิ่นอันนี้เป็นของข้าจริง แต่มันหายไปตั้งแต่อาทิตย์ก่อนแล้ว การที่มันไปตกอยู่ข้างบ่อน้ำในคืนเกิดเหตุพอดี...ท่านไม่คิดว่ามันบังเอิญ เกินไปหน่อยหรือเจ้าคะ?"

            นางจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของเจ้าหน้าที่วัยกลางคนตรงหน้า "ก่อนที่ท่านจะใช้ปิ่นอันเดียวมาตัดสินความผิดข้า...ท่านได้ชันสูตรศพเพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริงแล้วหรือยัง"

            นายอำเภอหวังขมวดคิ้ว ก่อนที่คำถามของจื่อเหยาจะตามมาอีกเป็นชุด "ท่านได้ตรวจดูร่องรอยบนร่างกายของนางอย่างละเอียดแล้วหรือไม่? ท่านได้ตรวจสอบบริเวณรอบบ่อน้ำเพื่อหาหลักฐานอื่นแล้วหรือยัง? การสืบคดีเริ่มต้นจากศพและหลักฐาน ไม่ใช่คำซุบซิบนินทา หรือสิ่งของเพียงผิวเผินที่ใครก็ไม่รู้อาจนำมาวางไว้...มิใช่หรือเจ้าคะ?"

            ซึ่งคำถามของนางราวกับลูกธนูที่ยิงเข้าใส่หน้านายอำเภอหวังเข้าอย่างจัง เขาอ้าปากค้าง พูดไม่ออกไปชั่วขณะ...เนื่องจากเจ้าตัวไม่เคยคาดคิดว่าจะถูกเด็กหญิงอายุเพียงสิบสามปีสั่งสอนเรื่องการสืบคดี!

            หลังจากตั้งสติได้ เขาก็รู้สึกเสียหน้าอย่างรุนแรง "นี่เจ้ากำลังจะบอกว่าข้าทำงานไม่เป็นเช่นนั้นหรือ!" เขาตวาดกลบเกลื่อน "ดี! ในเมื่อเจ้าอวดดีนัก ข้าจะให้เวลาเจ้าสามวัน! หากภายในสามวันเจ้าไม่สามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเองได้ ข้าจะจับกุมเจ้าในฐานะผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่งทันที!"

            เมื่อนายอำเภอหวังและคนอื่น ๆ จากไปแล้ว ความเงียบอันน่าอึดอัดก็เข้ามาแทนที่

          [ติ๊ง!]

          [คำเตือน! โฮสต์ตกเป็นผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่งในคดีฆาตกรรม! หากไม่สามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ได้ภายใน 3 วัน จะถูกทางการควบคุมตัว!] [ภารกิจย่อยใหม่: ความจริงก้นบ่อ] [เป้าหมาย: พิสูจน์ความบริสุทธิ์และค้นหาฆาตกรตัวจริง] [รางวัล: 50 แต้มไขความจริง ชื่อเสียง +20 ค่าความยำเกรงในเรือนเมฆาคล้อย +30]

            จื่อเหยามองหน้าต่างระบบที่ปรากฏขึ้นตรงหน้าด้วยแววตาแน่วแน่...การหาความจริงแข่งกับเวลาได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ช่วยด้วย! ข้าถูกตัวร้ายปักธงเข้าให้แล้ว   ตอนที่ 36 คืนกลับสู่จวนหรงโหว

    หลายเดือนผ่านไปนับตั้งแต่วิกฤตการณ์ที่เมืองเหยียนสุ่ย...ผ่านพ้น ในตอนนี้ฤดูร้อนที่ร้อนระอุได้ผ่านไปนานแล้วและถูกแทนที่ด้วยสายลมเย็นสบายแห่งต้นฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้รอบเรือนเมฆาคล้อยเริ่มเปลี่ยนจากสีเขียวชอุ่มเป็นสีเหลืองทองอร่าม บรรยากาศที่เคยเต็มไปด้วยความตึงเครียด บัดนี้กลับสงบสุขและเต็มไปด้วยชีวิตชีวา จื่อเหยาได้ใช้ช่วงเวลาหลายเดือนนี้ในการฟื้นฟูร่างกายและสร้างฐานอำนาจเล็ก ๆ ของนางขึ้นมาอย่างเงียบเชียบ โดยอาศัยชื่อเสียงของคุณชายหลี่เหยาที่ตอนนี้ได้กลายมาเป็นตำนานที่เล่าขานกันไปทั่วทั้งอำเภอ แต่กลับไม่มีผู้ใดล่วงรู้ตัวตนที่แท้จริงของเขาเลยแม้แต่คนเดียว บ่ายวันหนึ่ง ขณะที่จื่อเหยากำลังนั่งอ่านตำราแพทย์ที่พ่อบ้านสวีอุตส่าห์ไปหามาให้อย่างใจเย็น โดยมีเหลิ่งเยว่ยืนเฝ้าอารักขาอยู่ไม่ห่างนั้นเองที่ตัวตนของนางถูกจื่อเหยารู้แล้วจากอาการบาดเจ็บในครั้งก่อน...เสียงฝีเท้าที่รีบร้อนของพ่อบ้านสวีก็ดังขึ้นจากทางเดินหน้าห้องพัก&nb

  • ช่วยด้วย! ข้าถูกตัวร้ายปักธงเข้าให้แล้ว   ตอนที่ 40 เบี้ยที่ถูกกลืน

    เหลิ่งเยว่เตรียมจะรับคำ ทว่าได้มีเสียงของเสี่ยวชุนดังแทรกขึ้นมาอย่างสั่นกลัว "คะ...คุณหนูเราต้องฆ่าพวกเขาเลยหรือเจ้าคะ" คำถามที่เต็มไปด้วยความไร้เดียงสาและหวาดกลัวของเสี่ยวชุน ทำให้หรงจื่อเหยาที่กำลังจะออกคำสั่งต่อไปถึงกับชะงักงันพร้อมกับคิดว่าโชคดีที่นางได้ให้นางจางกับอาเฉียงหลอกล่อเสี่ยวเฉินออกไป ก่อนที่นางจะหันไปมองบ่าวรับใช้คนสนิทที่อยู่กับนางมาตั้งแต่ต้น...ใบหน้าของเสี่ยวชุนซีดเผือด ดวงตาเต็มไปด้วยหยาดน้ำใส ร่างกายของนางสั่นเทาอย่างไม่อาจควบคุม...ที่ไม่ใช่เกิดจากการแสดงอีกต่อไปแล้ว จื่อเหยารู้สึกราวกับมีมือที่มองไม่เห็นมาบีบหัวใจของตน...นางเกือบลืมไปแล้ว...ว่าเด็กสาวตรงหน้า...ก็เป็นเพียงเด็กสาวธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น นางเดินเข้าไปหาเสี่ยวชุนช้า ๆ แววตาที่เคยเย็นเยียบพลันอ่อนแสงลงเล็กน้อย "

  • ช่วยด้วย! ข้าถูกตัวร้ายปักธงเข้าให้แล้ว   ตอนที่ 39 แผนตลบหลัง

    ช่วงเย็นจนถึงช่วงหัวค่ำภายในโรงเตี๊ยมจิ่นซิ่วของเมืองอันคังผ่านไปอย่างเงียบสงัด...แต่สำหรับหรงจื่อเหยาแล้ว นางรู้ดีว่านี่เป็นเพียงความเงียบที่ซ่อนเร้นไว้ซึ่งกระแสคลื่นใต้น้ำอันรุนแรง ทั้งนี้เป็นเพราะนางรู้เรื่องแผนการบางอย่างมาจากสายลับพิเศษนั่นเอง หากจะเป็นเรื่องอันใดนั้น คงต้องย้อนกลับไปก่อนหน้าในตอนที่นางสั่งให้วิญญาณของนางจางไปตามติดอยู่กับจ้าวมามา 'นายหญิงเจ้าคะ...' เสียงกระซิบที่เย็นเยียบของวิญญาณป้าจางดังขึ้นในหัวของนางตั้งแต่ตอนที่ขบวนรถม้าเพิ่งผ่านเข้าประตูเมืองอันคังมาได้ไม่นานนัก 'เมื่อครู่...ข้าน้อยได้ยินนางพูดคุยกับบ่าวรับใช้ที่ชื่อเสี่ยวถัง...นางกำชับนังเด็กนั่นว่าเมื่อไปถึงเมืองอันคัง ให้รีบไปติดต่อญาติห่าง ๆ ของนางที่ชื่อจิ่วกุ่ยหวัง ฉายาหวังขี้เมา...ดูเหมือนว่าพวกมันจะวางแผนใช้ชายผู้นี้ให้มาสร้างเรื่องอื้อฉาวเพื่อทำลายชื่อเสียงของนายหญิงในคืนนี้เจ้าค่ะ!'

  • ช่วยด้วย! ข้าถูกตัวร้ายปักธงเข้าให้แล้ว   ตอนที่ 38 สัญญาณอันตรายบนเส้นทาง

    เมื่อขึ้นมานั่งภายในรถม้า...จื่อเหยาก็รู้สึกว่าความเป็นส่วนตัวของนางได้กลับคืนมาอีกครั้ง นางจึงเอนกายพิงผนังรถม้าอย่างสบายใจ...ส่วนแววตาที่แสร้งทำเป็นเลื่อนลอยนั้นมาบัดนี้กลับทอประกายแห่งความเย็นชาและมุ่งมั่นมากขึ้นกว่าเดิม (ได้เวลาทวงคืนทุกสิ่งที่เป็นของเจ้าของร่างนี้...พร้อมกับดอกเบี้ยแล้ว...เหมยลี่) ทันใดนั้นเอง...นางก็สัมผัสได้ถึงไอเย็นที่คุ้นเคยปรากฏขึ้นในรถม้า...ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นวิญญาณของนางจาง อาเฉียง และเสี่ยวเฉิน ที่ลอยเข้ามานั่งอย่างเบียดเสียดอยู่ตรงข้ามกับนางด้วยท่าทีตื่นเต้น 'นายหญิง/พี่สาว...ท่านจะให้พวกเราติดตามกลับไปเมืองหลวงด้วยจริง ๆ หรือขอรับ/เจ้าคะ?' เสียงของทั้งสามดังขึ้นพร้อมกันในหัวของจื่อเหยา แววตาโปร่งแสงของพวกเขาเต็มไปด้วยความคาดหวังอย่างปิดไม่มิด จื่อเ

  • ช่วยด้วย! ข้าถูกตัวร้ายปักธงเข้าให้แล้ว   ตอนที่ 37 เดินทาง

    "พวกเจ้ารีบไป!" จ้าวมามาหันไปสั่งบ่าวรับใช้หญิงสองคนที่ติดตามมาด้วย "ช่วยกันจับตัวคุณหนูใหญ่ไปอาบน้ำชำระล้างร่างกาย! เปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ที่ข้าเตรียมมาให้เรียบร้อย! เราจะให้ท่านเจ้ากรมหลี่เห็นหลานสาวสุดที่รักในสภาพเช่นนี้ไม่ได้เป็นอันขาด!" บ่าวรับใช้หญิงร่างกำยำสองคนรับคำแล้วเดินตรงเข้ามาหาจื่อเหยาทันที แต่ยังไม่ทันที่มือหยาบกร้านของพวกนางจะได้แตะต้องตัวของจื่อเหยา! เสียงกรีดร้องอย่างแหลมหูของเด็กสาวที่นั่งขดอยู่เป็นก้อนกลมพลันส่งเสียงออกมา...พร้อมกันนั้นนางก็ได้ดีดตัวลุกขึ้นราวกับกระต่ายตื่นตูม! นางถอยกรูดไปจนชิดมุมห้อง แววตาเบิกกว้างเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและบ้าคลั่งอย่างสมจริง! ไม่เพียงแค่นั้น นางยังคว้าแจกันดินเผาที่ร้าวบิ่นใบหนึ่งขึ้นมาถือไว้ในมือเพื่อเป็นอาวุธอีกด้วย ซึ่งท่าทางของนางในยามนี้ทำให้จ้าวมามาถึงตกตะลึง&

  • ช่วยด้วย! ข้าถูกตัวร้ายปักธงเข้าให้แล้ว   ตอนที่ 35 รุ่งอรุณแห่งการเปิดโปง (6)

    เมื่อนางกลับมานั่งลงที่มุมเดิม เจ้าตัวก็รีบหักขนมเปี๊ยะชิ้นโตส่งให้วิญญาณของเสี่ยวเฉินที่กำลังลอยอยู่ไม่ห่างด้วยแววตาที่รอคอยอย่างใจจดใจจ่อ 'เอาไปสิ' 'ขอบพระคุณพี่สาว!' เสี่ยวเฉินรับของเซ่นไหว้นั้นมาด้วยความดีใจเช่นเดิม จากนั้นเขาก็รีบกินมันเข้าไปด้วยความเอร็ดอร่อยทันที เมื่อเห็นท่าทางของเด็กชายเช่นนี้จื่อเหยาก็อดที่จะยิ้มออกมาอย่างรู้สึกเอ็นดูไม่ได้ แล้วในระหว่างนี้นางก็ได้อาศัยการตรวจสอบเรื่องกับดักซ้ำกับระบบอีกครั้งแม้ว่านางจะไว้ใจต่อคำรายงานของเสี่ยวเฉินก็ตาม...ถึงกระนั้นนางคิดว่าอย่างไรเสียก็ไม่ควรจะประมาท [ระบบ ช่วยตรวจสอบเส้นทางในอุโมงค์ให้ที ว่าปลอดภัยตามคำรายงานของเสี่ยวเฉินหรือไม่] ติ๊ง!&n

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status