“น้องรองเจ้าพูดเกินไปแล้ว ที่เหว่ยเอ๋อร์บาดเจ็บเช่นนี้ก็เพราะทำตามคำสั่งของท่านพ่อ เจ้าไม่รู้จริงๆ หรือจงใจคิดบิดเบือนเรื่ิงราวกัน”“นี่… นี่” สวีหย่วนพูดไม่ออก เขาย่อมรู้อยู่แล้วว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพราะคำสั่งของบิดา แต่จะให้เขากล่าวโทษท่านพ่อมันมันก็ไม่ได้ใช่ไหมเล่า อีกทั้งนี่ยังเป็นครั้งแรกที
“ฉงเอ๋อร์มาแล้วหรือ มานั่งก่อนสิ” ถึงจะโตมาเป็นบุรุษหน้าเหม็นเหมือนบิดา แต่อย่างไรก็เป็นบุตรชายตน มู่หรงเซียนย่อมไม่ละเลยเซี่ยฉงอวิ๋น รอจนอีกฝ่ายมานั่งข้างเยว่อวิ๋น ฉิงฮวนที่รู้ใจผู้เป็นนายก็ยกน้ำและของว่างที่เตรียมไว้ออกมามู่หรงเซียนชักชวนให้บุตรชายรับของว่างรองท้อง ก่อนจะหันไปชวนสะใภ้ของตนสนทนาต่
การเริ่มต้นทักทาย…ทักทายผู้ใดกันเล่า!หลีจวินขบคิดอยู่นาน หลังจากพบว่าตนเองไม่สามารถเข้าใจคำพูดที่เซี่ยฉงอวิ๋นเอ่ยออกมาเลย เด็กหนุ่มก็ปล่อยวางพลางกล่าวน้ำเสียงอ่อนลง“ช่างเถอะ แค่ท่านไม่เสียเปรียบก็พอแล้ว”ฟังมาถึงตอนนี้มุมของสือจิ่วที่ฟังอยู่เงียบๆ พลันกระตุกถี่รัวอย่างควบคุมไม่อยู่ องครักษ์มองหน้
เพียงแต่… สวีจ้าวเหว่ยนั้นไม่รู้เลยว่าต่อให้เป็นตัวเขาไปเอง ก็ยังไม่อาจปกปิดความต้องการของตัวเองต่อหน้าเซี่ยฉงอวิ๋นได้เลย“ข้าบอกแล้วนี่ สองแสนตำลึงถ้วน ขาดแม้แต่อีแปะเดียวก็เลิกพูดกันไปได้เลย” เซี่ยฉงอวิ๋นที่รอคอยตอบกลับด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ ในกระแสเสียงเจือแววบังคับเผด็จการอย่างผู้เหนือกว่าอยู่ในที
“ท่านคือเถ้าแก่ร้านซินเยว่ เจ้านายของเซี่ยเฉิงจริงหรือ” บุรุษวัยกลางคนถาม ใบหน้าปกปิดไม่มิดถึงความแปลกใจ ไม่คิดว่าเจ้านายกับลูกน้องคู่นี้จะอายุน้อยเพียงนี้ ทำเอาคนคาดไม่ถึงจริงๆ“ข้าคือเซี่ยฉงอวิ๋น ทำไมพวกเจ้าถึงผิดนัดหมายเมื่อวาน ควรให้คำอธิบายเรื่องนี้แก่ข้ามากกว่าหรือไม่” เซี่ยฉงอวิ๋นตอบคำถาม ก่อ
แน่นอนว่าความคิดนี้ของเซี่ยฉงอวิ๋น ผู้เป็นภรรยาของเขานั้นไม่ได้รับรู้ด้วยเลยแม้แต่น้อย กว่าที่เยว่อวิ๋นจะลืมตาตื่นจากความอ่อนเพลียและฤทธิ์ยา ก็พบว่าในบ้านว่างเปล่าเหลือเพียงแค่ตนเองกับแม่สามีสองคนเสียแล้ว“หลีจวินไม่ได้ไปสำนักศึกษากับพวกต้าเป่า แต่ถูกคุณชายใหญ่พาออกไปอย่างนั้นหรือ” เยว่อวิ๋นทวนคำของ