Beranda / ระบบ / ซูเมี่ยวจิน / น้องสาวว่าที่สามีน่ารัก

Share

น้องสาวว่าที่สามีน่ารัก

Penulis: 橙花
last update Terakhir Diperbarui: 2025-10-07 08:08:40

เช้าวันรุ่งขึ้น ซูเมี่ยวจินตื่นขึ้นมาพร้อมกับร่างกายที่ดีขึ้นมาก เธอลุกจากที่นอนหลังจากเมื่อคืนนี้ฉางเล่ยออกไปนอนด้านนอก เพื่อไม่ให้เธอเสียชื่อเสียง ซูเมี่ยวจินสำรวจดูรอบห้องอันว่างเปล่าก็ได้แต่ทอดถอนหายใจอีกครั้ง เธอต้องรีบหาวิธีทำให้ฉางเล่ยขอแต่งงานให้ได้โดยเร็ว ไม่อย่างนั้นครอบครัวนี้จะต้องลำบากไปอีกนานเป็นแน่

ท้องฟ้ายังไม่สว่าง ครอบครัวฉางทั้งสี่ต่างตื่นมาช่วยกันเตรียมอาหารกันแล้ว ฉางเซียงจูยังต้องรีบเดินทางเข้าอำเภอเพื่อไปเรียนให้ทันเวลาเหมือนกับทุกวัน เสียงพูดคุยเบา ๆ ของคนทั้งสี่ดังเข้าไปในหูของซูเมี่ยวจิน เธอรีบออกจากห้องไปทักทายทุกคนพร้อมรอยยิ้มบาง

“เมี่ยวจินไปนั่งรอที่โต๊ะเถอะ อีกไม่นานอาหารก็เสร็จแล้ว” หลิวเอ้อหลิงหันไปบอกซูเมี่ยวจินที่ยืนอยู่หน้าประตูครัวเล็กของบ้าน ตอนนี้ในครัวมีคนทั้งบ้านอยู่จนทำให้พื้นที่คับแคบและเดินเหินลำบาก

“ไม่เป็นไรค่ะ หนูอาการดีขึ้นมากแล้วคุณป้า ให้หนูช่วยยกอาหารไปตั้งโต๊ะให้ดีกว่านะคะ ช่วยกันหลายคนจะได้กินข้าวพร้อมกัน” ซูเมี่ยวจินส่ายหน้า

“พี่สาวสวยจัง แม่คะ ให้พี่สาวช่วยเถอะค่ะ หนูจะช่วยพี่สาวยกกับข้าวไปเอง” เสียงใสของฉางเซียงจูดังขึ้นพร้อมรอยยิ้มกว้าง

“ตกลง ๆ ถ้าอย่างนั้นก็ยกอาหารพวกนี้ไปก่อน” หลิวเอ้อหลิงยกจานผัดผักและถ้วยแกงไก่ให้สองสาวต่างวัย

ฉางเซียงจูและซูเมี่ยวจินช่วยกันยกอาหารสองอย่างไปวางบนโต๊ะ ก่อนที่ซูเมี่ยวจินจะหันหลังเดินกลับไปยกอาหารอีก ฉางเซียงจูกลับจับมือเธอให้นั่งลงบนเก้าอี้เสียก่อน

“พี่สาวไม่ต้องไปแล้ว อาหารในครัวเหลืออีกไม่กี่อย่างค่ะ มานั่งคุยกับหนูรอกันเถอะ เมื่อคืนไม่ได้ทักทายพี่สาว เช้านี้หนูต้องรีบไปโรงเรียนอีก” ฉางเซียงจูเอ่ยพร้อมรอยยิ้มกว้าง

ซูเมี่ยวจินเห็นลักยิ้มสองข้างของสาวน้อยเข้าก็ตกหลุมในความน่ารักและพูดเก่งของฉางเซียงจูอย่างจังจนเธออดยิ้มตามไม่ได้

“น้องสาวเรียนชั้นไหนแล้ว” ถึงจะรู้อยู่แล้ว แต่ซูเมี่ยวจินก็ยังคงถามตามมารยาท

“หนูอยู่ ม.6 แล้วค่ะ กำลังจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยปีหน้า”

“อืม… ตั้งใจเรียนนะ ได้ยินพี่ชายเธอบอกว่าเธอเรียนเก่งนี่” ซูเมี่ยวจินพูดถึงเรื่องที่ฉางเล่ยเคยเล่าให้เธอฟังก่อนหน้านี้

“ไม่เก่งมากหรอกค่ะพี่สาว แต่หนูคิดว่าการสอบเข้ามหาวิทยาลัยปีหน้าจะต้องสอบผ่านได้แน่ค่ะ แค่ตั้งใจอ่านหนังสือเพิ่มให้มากหน่อย”

“ดีแล้ว พี่สาวจะคอยเป็นกำลังใจให้นะจ๊ะ”

“พี่สาว… พี่สาวมีแฟนหรือยังคะ” ฉางเซียงจูกระซิบถามเพราะกลัวว่าแม่เธอจะได้ยิน

“หืม? ทำไมถามเรื่องนี้ล่ะ” ซูเมี่ยวจินเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง เธอคิดในใจว่าเด็กคนนี้ช่างอยากรู้อยากเห็นเสียจริง ใช่ว่าเธอไม่รู้ว่าเด็กตรงหน้าอยากเป็นแม่สื่อให้พี่ชายมากแค่ไหน เพียงแต่ซูเมี่ยวจินอยากกลั่นแกล้งเด็กน่ารักคนนี้เสียหน่อยเท่านั้นจึงยังไม่ตอบ

“เอ่อ… พี่สาวคิดว่าพี่ชายหนูเป็นยังไงบ้างคะ” ฉางเซียงจูตามความคิดของซูเมี่ยวจินไม่ทัน เธอจึงได้แต่ถามคำถามอ้อม ๆ แทน

“เขาใจดีกับพี่มาก และยังรักเธอมากด้วยนะน้องสาว” ซูเมี่ยวจินอดลูบหัวทุยของเด็กน่ารักตรงหน้าไม่ได้

“ถ้าอย่างนั้นพี่สาวชอบพี่ชายหนูหรือเปล่าคะ” ฉางเซียงจูถามพร้อมสายตาวิบวับอย่างลุ้น ๆ เหมือนเด็ก ทำเอาซูเมี่ยวจินเกือบจะหลุดขำ

“อืม… ถ้าเขาไม่รังเกียจที่พี่เป็นเด็กกำพร้านะ เขาช่วยชีวิตพี่เอาไว้ ยังไงพี่ก็อยากตอบแทนเขาแล้วก็ครอบครัวของน้องสาว” ซูเมี่ยวจินไม่อยากอ้อมค้อมอีก เธอจึงพูดตามที่คิดทันที อย่างน้อยถ้ามีน้องสาวของฉางเล่ยคอยช่วย เธอคิดว่าไม่นาน ฉางเล่ยจะต้องยอมขอเธอแต่งงานแน่

“คุยอะไรกันอยู่น่ะ กินข้าวได้แล้ว” เสียงหลิวเอ้อหลิงดังมาก่อนตัว ทำให้ทั้งสองที่กำลังกระซิบกระซาบกันอยู่รีบผละออกจากกัน

“ไม่มีอะไรค่ะแม่ หนูแค่ถามพี่สาวนิดหน่อยเอง” ฉางเซียงจูพอรู้ว่าพี่ชายเธอน่าจะมีความหวังก็อารมณ์ดีขึ้นเป็นกอง เธอต้องทำให้พี่ชายกับพี่สาวรักกันให้ได้ พ่อกับแม่ของเธอจะได้วางใจเสียที

“ใช่ค่ะคุณป้า หนูถามน้องสาวเรื่องทั่วไปเท่านั้นค่ะ” ซูเมี่ยวจินยิ้มบางตอบ เธอมองสามพ่อแม่ลูกที่กำลังยกอาหารมาวางบนโต๊ะด้วยตาเป็นประกาย

ฉางเล่ยมองดูสายตาของสาวสวยอย่างซูเมี่ยวจินเข้าก็เกิดเขินอายขึ้นมาเสียอย่างนั้น เขานึกถึงเมื่อวานที่แบกเธอลงจากภูเขา หน้าอกใหญ่โตของเธอกระทบกับแผ่นหลังใหญ่ของเขาจนเขารู้สึกคันในหัวใจยากจะเกาจริง ๆ ยิ่งมองใบหน้าที่สะอาดสะอ้านและสวยดุของเธอตอนนี้ ทำให้ฉางเล่ยอดที่จะชมชอบเธอในใจไม่ได้

“รีบนั่งลงเร็วเข้าฉางเล่ย มัวมองอะไรอยู่น่ะ” หลิวเอ้อหลิงเห็นสายตาลูกชายที่เอาแต่จ้องซูเมี่ยวจินก็อดไม่ได้ที่จะปรามเขาไม่ให้เสียมารยาท

“ครับแม่ ขอโทษนะครับคุณซู” ฉางเล่ยยกมือเกาหัวอย่างเก้กัง

“ไม่เป็นไรค่ะ คุณป้าอย่าดุเขาเลยนะคะ” ซูเมี่ยวจินช่วยพูดแทนชายร่างใหญ่ที่ดูซื่อบื้อตรงหน้าอย่างอดไม่ได้ เธอคิดว่าหน้าตาดีของเธอช่วยได้ไม่น้อย หากว่าเขาสนใจเธอขึ้นมาจริง ๆ แผนการขอแต่งงานก็จะยิ่งเป็นไปอย่างรวดเร็ว

หลิวเอ้อหลิงหันมองสามีอย่างไม่รู้จะพูดอย่างไร ฉางชิงหยูได้แต่พยักหน้าให้เธอไม่ต้องคิดมาก ในเมื่อซูเมี่ยวจินไม่รังเกียจที่ลูกชายพวกเขาเสียมารยาท พวกเขาที่เป็นผู้ใหญ่ก็ไม่จำเป็นต้องพูดต่ออีก

“กินข้าวกันเถอะ เซียงจูจะได้รีบไปโรงเรียน เรายังต้องออกไปทำงานกันอีก”

ทุกคนต่างพยักหน้ารับคำฉางชิงหยู ซูเมี่ยวจินไม่ได้กินข้าวเร็วอย่างเมื่อคืนอีกเพื่อรักษามารยาท อาหารเหล่านี้ถึงแม้จะไม่ได้เลิศหรู แต่บรรยากาศอบอุ่นของครอบครัวฉางที่คอยตักอาหารให้นั้น ทำให้ซูเมี่ยวจินอดที่จะดีใจไม่ได้

“ร่างกายของเมี่ยวจินยังไม่หายดี วันนี้ก็พักผ่อนอยู่ที่บ้านดี ๆ นะ” หลิวเอ้อหลิงบอกหลังจากช่วยกันเก็บล้างถ้วยชามก่อนออกจากบ้านไปทำงาน

“ขอบคุณค่ะคุณป้า หนูจะช่วยทำความสะอาดบ้านรอนะคะ ร่างกายหนูดีขึ้นมากแล้วล่ะค่ะ ทุกคนไม่ต้องกังวล” ซูเมี่ยวจินยิ้มตอบ

“แม่หนูไม่ต้องลำบากหรอก เรื่องพวกนี้ปล่อยให้ฉางเล่ยเป็นคนทำ หนูพักผ่อนให้ดีก็พอแล้วนะ” ฉางชิงหยูเอ่ยขึ้นอย่างเกรงใจคนป่วย

“ไม่ลำบากเลยค่ะคุณลุง เรื่องเล็กน้อยแค่นี้หนูทำได้ คุณลุงกับคุณป้าออกไปทำงานอย่างสบายใจเถอะนะคะ หนูอยากทำงานตอบแทนพวกคุณบ้าง”

“พ่อครับ ถ้าคุณซูบอกแบบนี้ก็ปล่อยให้เธอได้ทำอะไรบ้างก็ได้ ร่างกายของเธอจะได้ฟื้นตัวเร็วขึ้นด้วยนะครับ ดีกว่าเอาแต่นอนอยู่เฉย ๆ” ฉางเล่ยรีบช่วยพูดแทน

“เอาล่ะ ๆ ถ้าอย่างนั้นพ่อกับแม่ก็จะไม่ห้ามแล้ว แต่อย่าทำงานหนักนักล่ะ”

“ได้ค่ะคุณลุง พวกคุณรีบไปทำงานเถอะค่ะ”

ซูเมี่ยวจินยืนส่งคนอื่น ๆ ออกจากบ้าน ฉางเซียงจูที่กินข้าวเสร็จคนแรกรีบออกไปเรียนในอำเภอนานแล้ว ส่วนพวกเขาที่เหลือก็กินอาหารอย่างไม่รีบร้อนและเพิ่งช่วยกันทำความสะอาดถ้วยชามเสร็จจึงออกไปทำงาน

[เจ้านาย คุณยังไม่เร่งมือขอเขาแต่งงานอีกเหรอครับ]

[ฉันบอกแล้วว่าอย่าเพิ่งรีบร้อน นายจะเร่งอะไรนักหนาเล่า คนเพิ่งเจอกันแท้ ๆ]

[ครับ ๆ ถ้าอย่างนั้นผมไม่รบกวนเจ้านายแล้ว]

ซูเมี่ยวจินส่ายหน้าไปมากับระบบที่เอาแต่เร่งเธอเรื่องแต่งงาน เธอมองกลับเข้าไปในบ้านหลังเล็กที่ยังคงสะอาดสะอ้านอยู่ก็นึกได้ว่าจะต้องช่วยทำความสะอาดเพิ่มอีกสักหน่อย ไหนจะต้องนำที่นอนไปตากแดดให้พวกเขาระหว่างวันด้วย เธอรู้สึกว่าที่นอนเริ่มอับชื้นหลังจากไม่ได้ตากแดดมานาน คงเพราะครอบครัวฉางต้องออกไปทำงานทุกวัน พวกเขาจึงไม่มีเวลาดูแลเรื่องพวกนี้

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ซูเมี่ยวจิน   เจ้าสาวสวยมาก

    “โอ้! เจ้าสาวของฉางเล่ยสวยมากจริง ๆ” เสียงลุงใหญ่บ้านฉางที่ตั้งสติได้เป็นคนแรกอดจะชมเสียงดังไม่ได้“ใช่ ๆ เจ้าสามได้ลูกสะใภ้สวยจริง ๆ” พี่ชายหลิวเอ้อหลิงที่เห็นหลานสะใภ้เอ่ยเสริมขึ้นมาเสียงดังเช่นเดียวกัน“พวกลุงอย่าแกล้งภรรยาผมสิครับ ดูสิ เธอทำตัวไม่ถูกแล้ว” ฉางเล่ยยืดอกขึ้นอย่างภูมิใจที่ตัวเองกำลังจะแต่งงานกับคนสวยตรงหน้า เขารู้ดีว่าสีหน้าของซูเมี่ยวจินตอนนี้คงกำลังเขินอายอยู่ ไม่อย่างนั้นแก้มของเธอคงไม่แดงก่ำขึ้นมาจนลามไปถึงคออย่างที่เขากำลังเห็นเป็นแน่“ขอบคุณสำหรับคำชมนะคะคุณลุง” ซูเมี่ยวจินได้ยินฉางเล่ยพูดขึ้น เธอจึงสงบจิตใจตอบกลับผู้อาวุโสอย่างนอบน้อม สายตาคมดุของเธอมองเจ้าบ่าวที่วันนี้หล่อมากในสายตาเธอก็อดที่จะมองเขาสักหลายทีไม่ได้เช่นกันเหล่าผู้อาวุโสเห็นเจ้าบ่าวเจ้าสาวแอบมองกันไปมาก็รีบผลักพวกเขาให้ไปรอต้อนรับแขกที่ลานหน้าบ้าน ฉางเล่ยที่ตั้งตัวได้ก่อนจึงจับมือซูเมี่ยวจินเดินออกไปตามคำสั่งของผู้ใ

  • ซูเมี่ยวจิน   วันแต่งงาน

    หลังกินข้าวเสร็จ ฉางชิงหยูอาสาไปเชิญเพื่อนบ้านที่สนิทกันและยืมโต๊ะเก้าอี้มาไว้ใช้ในงานแต่งงานวันพรุ่งนี้ หลิวเอ้อหลิงบอกให้ฉางเล่ยไปขอซื้อไก่จากเพื่อนบ้านพวกนั้นมาสักหลายตัวเพื่อทำอาหารขึ้นโต๊ะในงานแต่งงาน หลังจากดูแล้วว่ายังขาดเมนูไก่ไปหนึ่งอย่าง สองพ่อลูกจึงออกจากบ้านไปด้วยกันหลิวเอ้อหลิงกับซูเมี่ยวจินจึงช่วยกันตกแต่งบ้านต่อ เหลืออีกเพียงนิดหน่อยก็ตกแต่งเสร็จหมดแล้ว ตอนนี้บ้านฉางเต็มไปด้วยกระดาษและผ้าสีแดงเต็มไปหมด ในห้องนอนของฉางเล่ยเองก็ถูกติดกระดาษเอาไว้เช่นกัน แต่ยังไม่ได้เปลี่ยนผ้าปูเป็นสีแดงมงคล หลิวเอ้อหลิงรอให้ถึงพรุ่งนี้เช้าจึงจะเข้าไปเปลี่ยนให้ลูก ๆ“แม่คะ ฉันติดเสร็จหมดแล้วค่ะ จะให้ทำอะไรต่อคะ” ซูเมี่ยวจินถามขึ้น“ไม่มีอะไรแล้วจ๊ะ เราไปปั้นแป้งเตรียมทำบัวลอยวันพรุ่งนี้กันดีไหม” หลิวเอ้อหลิงนึกถึงขนมบัวลอยที่บ่าวสาวต้องกินในวันแต่งงานขึ้นมาได้ เธอไม่อยากเสียเวลาเตรียมของพรุ่งนี้จึงคิดจะทำเอาไว้ก่อน“ได้ค่ะแม่&r

  • ซูเมี่ยวจิน   ขายเขากวาง

    “เชิญคุณผู้หญิงกับคุณผู้ชายด้านในเลยครับ” เจ้าของร้านผายมือเชิญอย่างนอบน้อม ต่างจากครั้งก่อนที่พวกเขามาขายโสมราวกับหน้ามือเป็นหลังมือ“ขอบคุณครับ/ค่ะ” ฉางเล่ยกับซูเมี่ยวจินเห็นเถ้าแก่ทำแบบนี้เลยไม่อยากเสียมารยาท“พวกคุณนั่งก่อนครับ วันนี้จะมาขายเขากวางในมือนั่นหรือเปล่าครับ” เถ้าแก่ถามด้วยแววตาเป็นประกายระยิบระยับ เพราะเขากำลังจะได้ของดีมาขายอีกแล้ว“ใช่ค่ะ ไม่ทราบว่าคุณรับซื้อยังไงคะเถ้าแก่” ซูเมี่ยวจินถามตรง ๆ เธอไม่เคยขายเขากวางมาก่อนจึงไม่รู้ว่าราคาตลาดเป็นอย่างไร“เขากวางสดขายราคาเป็นขีดครับคุณผู้หญิง เขากวางของคุณใหญ่ขนาดนี้น่าจะได้ราคาสูงมากทีเดียว หลายปีแล้วที่ร้านขายยาไม่มีเขากวางขายครับ” เถ้าแก่บอกตรง ๆ เพื่อที่เขาจะได้รับซื้อเขากวางและนำไปขายทำกำไรต่อเหมือนเคย“ขีดละเท่าไหร่หรือคะเถ้าแก่ ถ้าราคาต่ำไป ฉันจะได้เก็บเอาไว้ก่อน” ซูเมี่ยวจินไม่คิดว่า

  • ซูเมี่ยวจิน   ขายกวาง

    ฉางเล่ยถึงกับทึ่งในฝีมือการใช้หน้าไม้ของซูเมี่ยวจิน แต่เขาไม่มีเวลาสงสัยมากนักเมื่อเธอบอกให้เขารีบเข้าไปกลบเลือดกวางที่ตาย เพื่อป้องกันไม่ให้หมาป่าหรือสัตว์ดุร้ายตัวอื่นตามกลิ่นเลือดมาซูเมี่ยวจินมองหาไม้ใหญ่และเถาวัลย์เพื่อใช้มัดกวาง ดีที่ป่าตรงนี้มีทุกอย่างที่เธอต้องการ ซูเมี่ยวจินใช้เวลาไม่นานก็นำของทั้งหมดไปจัดการมัดกวางเอาไว้“ช่วยฉันแบกมันลงจากเขากันเถอะค่ะ ตอนนี้กี่โมงแล้วคะ” ซูเมี่ยวจินยังคงกลัวว่าจะกลับบ้านค่ำมืดเกินไป“สี่โมงเย็นพอดีครับ” ฉางเล่ยยกไม้ที่มีกวางถูกมัดอยู่ขึ้นพาดไหล่อย่างไม่หนักแรง“เรารีบกลับบ้านกันเถอะ พรุ่งนี้ค่อยเอามันไปขายในอำเภอนะคะ”“ตกลงครับ ว่าแต่พรุ่งนี้เราจะใช้จักรยานหรือรถยนต์ไปในอำเภอดีครับ”“ฉันว่าเอาสามล้อของพ่อไปดีกว่าค่ะ ฉันไม่อยากให้ชาวบ้านเห็นรถยนต์เราเร็วนัก ยังไงวันแต่งงานก็ต้องเอารถออกไปจอดหน้าบ้านอย

  • ซูเมี่ยวจิน   อยากขึ้นเขา

    ทั้งสองกลับมาถึงบ้านก่อนเที่ยงนิดหน่อย หลังจากเก็บเนื้อและผักแช่ไว้ในบ่อน้ำหลังบ้านแล้ว ซูเมี่ยวจินก็ไปอุ่นอาหารรอฉางเล่ยที่กำลังเอาสามล้อไปคืนพ่อที่ไร่ เธอคิดว่าช่วงบ่ายไม่มีอะไรทำ จึงอยากชวนฉางเล่ยขึ้นเขาไปล่าสัตว์ หาสมุนไพรดูสักหน่อย เผื่อว่าจะโชคดีได้เงินอีกสักก้อนฉางเล่ยกลับมากินข้าวพร้อมซูเมี่ยวจินในเวลาไม่นานนัก ระหว่างที่กำลังกินมื้อเที่ยงกันอยู่ ซูเมี่ยวจินก็ชวนฉางเล่ยขึ้นเขา“คุณแน่ใจเหรอว่าจะขึ้นเขาบ่ายนี้” ฉางเล่ยเลิกคิ้วขึ้นอย่างงุนงง“ใช่ค่ะ ยังไงบ่ายนี้พวกเราก็ไม่มีอะไรทำ คุณไม่ได้ไปดูกับดักสัตว์หลายวันแล้ว เผื่อว่าจะได้สัตว์ไปขายในอำเภอพรุ่งนี้สักตัวสองตัวก็ยังดีนะคะ” ซูเมี่ยวจินบอก“ก็ได้ครับ ถ้าอย่างนั้นกินข้าวเสร็จ ผมจะเอากุญแจบ้านไปให้พ่อก่อน คุณรอผมที่บ้านนะครับ ผมไปไม่นาน” ฉางเล่ยพยักหน้าตอบรับ เขาลืมไปเลยว่าวางกับดักสัตว์เอาไว้หลายวันแล้ว เพราะมัวแต่ยุ่งเรื่องงานแต่งงานจึงไม่ได้ขึ้นไปดู

  • ซูเมี่ยวจิน   เตรียมงาน

    ฉางชิงหยูกับหลิวเอ้อหลิงไปถึงบ้านหลิวในเวลาไม่นาน สองเฒ่าชราที่อายุน้อยกว่าพ่อเฒ่าฉางหลายปีออกมาต้อนรับลูกเขยกับลูกสาวด้วยความดีใจ พอรู้ว่าหลานชายกำลังจะแต่งงาน ทั้งสองก็ดีใจมาก“พวกเราจะไปแน่นอนเอ้อหลิง พ่อกับแม่จะให้พี่ใหญ่เธอพาไปเอง ตั้งแต่หลาน ๆ ไปทำงานในอำเภอ พวกเราก็สบายขึ้นมาก จักรยานที่บ้านก็มีถึงสองคัน ไม่ต้องเป็นห่วงนะ พวกเราจะไปกันตั้งแต่เช้ามืดเลย” แม่หลิวรีบบอกพร้อมรอยยิ้มชรา“ใช่ ๆ นานแล้วที่บ้านเราไม่มีงานมงคล” พ่อหลิวเองก็ดีใจไม่น้อยที่หลานชายกำลังจะเป็นฝั่งเป็นฝาเสียที ทั้งที่อายุก็ไม่น้อยแล้ว“ถ้าพ่อแม่ไม่อยากตื่นเช้านัก พวกเราปั่นจักรยานมารับพวกคุณได้นะคะ” หลิวเอ้อหลิงไม่อยากทำให้พ่อแม่ลำบาก เธอจึงหันไปมองสามี“ใช่ครับ ผมปั่นสามล้อมารับดีไหมครับ พ่อกับแม่จะได้นั่งกันสบายหน่อย”“ไฮ้! ไม่เป็นไร ๆ พวกเราชอบนั่งพ่วงหลังจักรยานของเสี่ยวเค่อมากกว่า” พ่อเ

Bab Lainnya

Anda juga akan menyukai

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status