แชร์

ท่านตาผู้ร่ำรวย 1/2

ผู้เขียน: ซินเสวี่ย
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-04-28 11:05:12

กลับมาที่ปัจจุบันหลังจากที่ผู้เป็นใหญ่ของจวนทั้งสองเห็นว่าหลานสาวของตนนั้นเงียบลงไปจึงได้เอ่ยถามด้วยความห่วงใยเพราะถึงอย่างไรหญิงสาวก็ยังคงเป็นเพียงสตรีที่เพิ่งจะพ้นวัยปักปิ่นมาได้ไม่นาน

แต่กับต้องมาเจอเรื่องราวมากมายถึงเพียงนี้ภายในใจก็คงจะรู้สึกเคว้งคว้างอยู่มาก เพียงแค่อีกฝ่ายนั้นเป็นคนที่เก็บซ่อนสีหน้าเก่งจนหน้าตกใจ

“หลันเอ๋อร์…เจ้าเป็นอะไรหรือไม่?”

น้ำเสียงอันอบอุ่นและอ่อนโยนจากผู้เป็นยายสามารถเรียกสติที่หลุดลอยไปของหญิงสาวได้ในทันทีก่อนที่หญิงสาวจะเอ่ยตอบด้วยรอยยิ้มบางเบา

“หลานไม่เป็นอะไรเจ้าคะท่านยาย ท่านยายอย่าได้เป็นกังวลเลย สำหรับเรื่องราวทุกอย่างที่หลานพบเจอมานั้นหลานไม่ได้สนใจนำมาทำให้ตนเองต้องทุกข์ใจหรอกเจ้าค่ะ”

“ชีวิตคนเรามีแต่เวลาที่เดินหน้าเท่านั้น เราไม่มีทางย้อนเวลากลับไปได้ดั่งใจปรารถนาหรอกเจ้าค่ะ ดังนั้นเราควรจะสนใจในปัจจุบันมากกว่าจมอยู่กับอดีตที่ผ่านมาแล้ว ท่านยายเห็นด้วยกับหลานหรือไม่เจ้าคะ?”

อวี้หลันเพียงมองดูสีหน้าเป็นกังวลของผู้เฒ่าทั้งสองก็รู้ถึงความกังวลในใจของพวกท่านจึงได้เอ่ยบอกถึงความคิดที่ตนเองคิดอยู่ในตอนนี้เพื่อให้ท่านทั้งสองรับรู้ว่านางนั้นไม่เป็นอะไรกับเรื่องราวที่ผ่านมาจริง ๆ

“ยายเห็นด้วยกับหลันเอ๋อร์จ๊ะ หลานยายช่างเป็นหญิงสาวที่มีมุมมองกว้างขวางยิ่งนัก เพียงเท่านี้ยายก็หายห่วงแล้ว”

ซ่งฮูหยินที่รับรู้ได้ว่าสิ่งที่หลานสาวพูดมานั้นคือความจริงที่หญิงสาวตรงหน้าคิดคิดก็ยิ้มอ่อนโยนส่งกลับไปให้พร้อมเอ่ยตอบอย่างนุ่มนวล

“ฮ่า ฮ่า หลานสาวของซ่งเฉิงป๋อจะธรรมดาได้อย่างไรกัน”

ชายชราเอ่ยขึ้นด้วยความภูมิใจในความเข้มแข็งของหญิงสาวตรงหน้าไม่เสียแรงที่มีเลือดของตระกูลซ่งไหลเวียนอยู่

“แน่นอนเจ้าค่ะ แล้วอีกเรื่องที่หลานจะขอท่านตาก็คือในช่วงที่จวนของหลานกำลังสร้างอยู่นั้นหลานอยากจะไปเรียนการต่อสู้กับท่านลุงที่กองทัพได้หรือไม่เจ้าคะ?”

“!!!”

หลังจากจบคำพูดของหญิงสาวก็เกิดความเงียบขึ้นทั่วทั้งห้องพร้อมกับสีหน้าตื่นตกใจจากผู้สูงวัยทั้งสอง

“นะ...นั้นมันจะเป็นไปได้อย่างไรกันหลันเอ๋อร์!”

เมื่อได้สติซ่งฮูหยินก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ดังจนหญิงสาวถึงกับสะดุ้งด้วยความตกใจ

“ท่านยาย...” ริมฝีปากบางเอ่ยเรียกอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบาเมื่อคิดว่าตนเองพูดสิ่งใดผิดไป

“น้องหญิง เจ้าก็ใจเย็นลงก่อนเถิดรอฟังเหตุผลของหลานก่อนดีหรือไม่?”

เมื่อซ่งเฉิงป๋อเห็นว่าหลานสาวมีสีหน้าสลดลงจนน่าสงสารจึงได้เอ่ยบอกฮูหยินของตนที่ลืมตัวเอ่ยเสียงดังจนหลานสาวนั้นตกใจ

“อะ…อื้มเจ้าค่ะท่านพี่เป็นน้องที่ตกใจมากจนลืมตัวไป”

ซ่งฮูหยินเองเมื่อรู้สึกตัวว่าเผลอตวาดหลานสาวออกไปก็มีสีหน้าตกใจเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยรับคำผู้เป็นสามี

“เช่นนั้นหลันเอ๋อร์ไหนลองบอกเหตุผลให้ตากับยายฟังหน่อยว่าทำไมหลานถึงอยากจะเรียนวิชาต่อสู้อย่างนั้นรึ”

ชายชราเมื่อเห็นว่าฮูหยินของตนใจเย็นลงแล้วจึงได้หันหน้าไปเอ่ยถามกับหลานสาวของตนเองทันที

“เอ่อ…คือว่าหลานคิดว่าการที่หลานอ่อนแอนั้นจะทำให้หลานไม่สามารถปกป้องคนสำคัญในชีวิตของหลานได้หรือแม้แต่ชีวิตของตนเองหลานก็คงไม่อาจจะรักษาเอาไว้ได้เช่นกันเจ้าค่ะ”

“ถึงแม้ว่าท่านตาจะส่งองครักษ์มาคอยดูแลหลานแล้ว แต่เมื่อถึงคราวคับขันจริง ๆ อย่างน้อยหลานก็ยังสามารถเอาตัวรอดไปได้ถ้าหลานแข็งแกร่งกว่านี้เจ้าค่ะ”

“อีกอย่างหลานคิดว่าคนอย่างเป่าลี่อินนั่นไม่มีทางที่จะปล่อยให้หลานได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขแน่นอนเจ้าค่ะ ดังนั้นหลานจึงอยากเรียนรู้วิชาป้องกันตัวเองเอาไว้”

อวี้หลันเอ่ยบอกถึงเหตุผลกับผู้อาวุโสทั้งสองเพียงครึ่งหนึ่งส่วนเหตุผลอีกครึ่งนั้นก็คือนางอยากจะรู้ว่าในโลกแห่งนี้นั้นมีวิชาการต่อสู้แบบใดบ้างนั่นเอง

“ความจริงสิ่งที่เจ้าเอ่ยมาก็มีเหตุผลอยู่เพียงแต่ภายในกองทัพนั้นเป็นเขตหวงห้ามสำหรับสตรีดังนั้นเจ้าคงไม่สามารถเข้าไปได้ถ้าไม่ได้รับอนุญาตจากแม่ทัพใหญ่”

ซ่งเฉิงป๋อเองก็พอจะเข้าใจในสิ่งที่หลานสาวคิดคิดเพียงแต่ว่าการจะเข้าไปในกองทัพได้นั้นจะต้องได้รับอนุญาตจากท่านแม่ทัพใหญ่ผู้เป็นใหญ่ที่สุดในกองทัพเสียก่อน

“แล้วท่านลุงไม่ใช่แม่ทัพใหญ่ที่สุดหรือเจ้าคะ?”

อวี้หลันเอ่ยถามด้วยความสงสัยเกี่ยวกับตำแหน่งของผู้เป็นลุงของตนเอง

“ไม่ใช่หรอก ท่านแม่ทัพใหญ่ของแคว้นเราก็คือ ชินอ๋องจวินซีฮัน พระอนุชาเพียงคนเดียวของฮ่องเต้ ส่วนท่านลุงของเจ้าเป็นแม่ทัพพิทักษ์เมืองหลวงแห่งนี้เท่านั้น”

“เช่นนั้นหลานเพียงเข้าไปเยี่ยมท่านลุงได้หรือไม่เจ้าคะ?”

เมื่อรับรู้ข้อมูลหญิงสาวเองก็พอจะเข้าใจถึงลำดับขั้นของแต่ละขั้นจึงไม่ได้ดึงดันเพียงแค่ได้เห็นการฝึกซ้อมของกองทัพบ้างก็ยังดี

“อืม...ถ้าเจ้าอยากไปเดี๋ยวตาจะพาเจ้าเข้าไปเองเพียงแต่ต้องรออีกสองสามวันก่อน”

นายท่านซ่งเอ่ยบอกกับหลานสาวเพื่อให้อีกฝ่ายตัดสินใจและดูว่าหญิงสาวนั้นจะเป็นคนที่อดทนรอได้มากน้อยเพียงใด

“ได้เจ้าค่ะท่านตา หลานรอได้แล้วแต่ท่านตาสะดวกเจ้าค่ะ”

อวี้หลันเองก็เป็นคนมีเหตุผลและสามารถอดทนรอได้จึงไม่ได้มีปัญหา จึงเป็นที่ถูกใจของชายชราเป็นอย่างมากที่หลานสาวของตนนั้นมีความเป็นผู้ใหญ่ถึงเพียงนี้

“งั้นก็เอาตามนี้ แล้วเจ้าต้องการเงินไปสร้างจวนกับเปิดกิจการเท่าไหร่กันเล่า?”

เมื่อตกลงกันเสร็จเรียบร้อยชายชราจึงได้เอ่ยถามถึงจำนวนเงินที่หลานสาวต้องการ

“ข้าเองก็ไม่รู้เรื่องนี้มากนักเจ้าค่ะ เพียงจากการคาดเดาของหลานแล้วน่าจะอยู่ที่ราว ๆ ห้าร้อยตำลึงทองเจ้าค่ะท่านตา”

หญิงสาวเองเพิ่งจะมาที่โลกนี้ได้ไม่นานจึงยังไม่รู้ว่าการสร้างจวนกับเปิดกิจการต้องใช้เงินมากน้อยเพียงใดเอ่ยบอกอย่างคาดเดาไป

“เช่นนั้นรึ พ่อบ้านหวังเจ้าช่วยไปนำเงินหนึ่งหมื่นตำลึงทองมาให้กับคุณหนูอวี้หลันที”

หลังจากฟังจำนวนเงินที่ท่านตาจะมอบให้กับตนเองจบหญิงสาวก็ถึงกับตื่นตะลึงกับจำนวนเงิน

‘ไม่ใช่ว่านางขอเพียงห้าร้อยตำลึงทองหรอกรึ แล้วทำไมมันกลายเป็นหนึ่งหมื่นตำลึงทองกันได้เล่า’

“ทะ...ท่านตาเจ้าคะ! มันมากเกินไปหรือไม่?”

อวี้หลันร้องถามด้วยความตกใจกับจำนวนเงินที่ได้ยินเมื่อสักครู่นี้

“เงินเพียงแค่หนึ่งหมื่นตำลึงทองตาไม่คิดว่ามากไปหรอก หลันเอ๋อร์ ตระกูลเรามีเงินมากมายจนแทบจะเอาไปปาเล่นได้เลยละ อีกอย่างท่านลุงรองของเจ้ายังเป็นถึงคหบดีที่ร่ำรวยอันดับต้น ๆ ของแคว้นเงินเพียงเท่านี้ไม่ทำให้ตาคิดมากหรอกนะ”

ซ่งฉิงป๋อเอ่ยบอกหลานสาวด้วยสีหน้าเรียบนิ่งอย่างไม่ได้คิดมากอะไร ต่างจากหญิงสาวที่ตอนนี้ภายในใจนางนั้นได้ร้องตะโกนด้วยความนับถือชายชราว่า

‘ท่านตาข้าช่างร่ำรวยยิ่งนัก’

=================================================================

ง่อววววพบท่านตาสายเปย์หนึ่งอัตราจ้า ตอนหน้ามาลุ้นกันว่ายัยน้องจะพบเจอกับตัวละครหลักคนไหนกันนะคะ

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ซ่งอวี้หลันนางร้ายเปลี่ยนบท   ความจริงของเรื่องราวเลวร้าย

    “ท่าน...พี่...”เสียงเอ่ยเรียกของภรรยารองนั้นยิ่งทำให้โทสะของไป๋ฮุ่ยหมิงปะทุขึ้นจนเอ่ยตะคอกอีกฝ่ายด้วยความเกรี้ยวกราด“หุบปากเน่า ๆ ของเจ้าเสีย! เสียแรงที่ข้านั้นรักและเอ็นดูเจ้ามาตลออด แต่เจ้ากลับกล้าหักหลังข้าทำเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร”“ไม่เพียงแค่หลอกลวงข้าเรื่องหลินเอ๋อร์ แต่เจ้ายังวางยาฮูหยินเอกจนนางต้องตายจากไป เจ้าทำเรื่องเลวร้ายถึงเพียงนี้ได้อย่างไรกันหา!”คำถามมากมายที่หลุดออกจากปากผู้เป็นสามีนั้นช่างบาดลึกลงไปในจิตใจของเป่าลี่อินเป็นอย่างมาก จริงอยู่ที่ในตอนแรกนางนั้นเข้าหาเขาเพียงเพราะต้องทำตามแผนของบุรุษชั่วช้าผู้นั้น แต่เมื่อได้ใกล้ชิดและได้รับความรัก เอาใจใส่ดูแลจากอีกฝ่ายอย่างที่ไม่เคยมีใครทำให้กับนางจึงทำให้นางเริ่มที่จะหึงหวงและอยากครอบครองไม่อยากให้เขาไปมอบความรักให้กับสตรีอื่น นางจึงได้วางแผนการทุกอย่างเพื่อที่จะใส่ร้ายฮูหยินเอกสตรีอีกหนึ่งคนที่เขารัก ด้วยการใส่ความต่าง ๆ จนในที่สุดนางก็สามารถทำสำเร็จและในขณะที่สตรีผู้นั้นตรอมใจนางจึงใช้โอกาสนี้ให้คนวางยาจนในที่สุดสตรีนางนั้นก็

  • ซ่งอวี้หลันนางร้ายเปลี่ยนบท   ชำระหนี้แค้นแทนมารดา

    “ท่านอ๋องเพคะ”อวี้หลันเอ่ยเรียกชายหนุ่มด้วยคำเรียกที่จริงจังจนทำให้ใบหน้าของชายหนุ่มต้องหันกลับมามองยังหญิงสาวที่ในตอนนี้กำลังยืนจ้องมองมาที่ตนเอง“พี่บอกแล้วใช่หรือไม่ว่าให้เรียกพี่ว่าอย่างไร”ชายหนุ่มเอ่ยบอกพร้อมกับวงแขนแกร่งเองก็คว้าเอาเอวบางเข้ามานั่งลงบนตักของตัวเองอย่างต้องการทำโทษ“พี่ชายท่านหลอกกินเต้าหู้ข้าอีกแล้วนะเจ้าคะ”อวี้หลันเอ็ดชายหนุ่มตรงหน้าด้วยท่าทีไม่จริงจังนักคล้ายว่านางเองก็เริ่มที่จะชินกับนิสัยมือไวของอีกฝ่ายเสียแล้ว“ก็ใครกันเล่าที่ทำให้พี่ต้องเป็นแบบนี้”ร่างสูงเอ่ยถามพร้อมกับยื่นใบหน้าหล่อเหลาของตนเองที่ตั้งแต่วันงานเลี้ยงจบลงนางก็ไม่เห็นว่าเขาจะยอมสวมใส่หน้ากากเช่นที่ข่าวลือบอกแม้แต่น้อยเข้ามาใกล้ใบหน้าของหญิงสาวอย่างต้องการหยอกล้ออีกฝ่ายให้เขินอาย“เป็นพี่ชายเองมากกว่าที่คิดมากไปเองเจ้าคะ แต่ก็ช่างเรื่องนั้นก่อนเถิดข้าในตอนนี้ต้องการคำอธิบายเกี่ยวกับเรื่องสมรสพระราชทานที่ฝ่าบาททรงมอบให้เมื่อเช้านี้มากกว่า”หญิงสาวเองก็ไม่ได้คิดที่จะผ

  • ซ่งอวี้หลันนางร้ายเปลี่ยนบท   งานมงคล (จบ)

    ในที่สุดก็มาถึงสมรสพระราชทานระหว่างชินอ๋องกับคุณหนูซ่งอวี้หลัน งานแต่งงานในครั้งนี้ถึงแม้ว่าจะมีกำหนดการที่กระชั้นชิดไปหน่อยแต่ว่างานทุกอย่างนั้นก็ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่และสมเกียรติของว่าที่พระชายาของชินอ๋อง โดยงานในครั้งนี้ถูกจัดขึ้นที่ตำหนักส่วนตัวของชินอ๋องที่ผู้คนรู้จัก เพียงแต่นั้นเป็นแค่ฉากบังหน้าเพราะอวี้หลันได้พูดคุยตกลงกับชายหนุ่มเอาไว้แล้วว่าหลังจากแต่งงานเสร็จตนเองจะไปอยู่ที่จวนข้าง ๆ จวนของนาง ซึ่งชายหนุ่มเองก็ไม่คิดที่จะคัดค้าน เพราะเขานั้นตามใจหญิงสาวอยู่แล้ว ขอเพียงนางอยู่แล้วมีความสุขไม่ว่าจะเป็นที่ไหนก็ล้วนแต่ยินดีทั้งสิ้นวันนี้ในเมืองหลวงต่างก็เต็มไปด้วยขบวนเจ้าบ่าวที่ในตอนนี้ร่างสูงสง่างามสวมชุดสีแดงสดนั่งสง่าอยู่บนหลังอาชาสีขาวตัวโปรดกำลังมุ่งหน้าไปยังจวนของว่าที่พระชายาที่เพียงแค่ขบวนสินสอดก็ยาวไปจนแทบจะสุดประตูเมือง ด้วยเกวียนขนหีบกว่าสามร้อยหีบไหนจะมีสิ้นเดิมของเจ้าสาวที่เหล่าท่านตาท่านลุงของนางนั้นมอบให้อีกกว่าสองร้อยกว่าหีบอีกเล่า เรียกได้ว่าการแต่งงานในครั้งนี้ของทั้งสองคนนั้นสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับเหล่าชาวบ้านและเหล่าคุณหนูต่าง

  • ซ่งอวี้หลันนางร้ายเปลี่ยนบท   จุดจบตระกูลเผิง

    ในที่สุดก็มาถึงวันนัดส่งมอบสินค้าของชาวหัวแดงกับกลุ่มของผู้ช่วยเผิงเจียง โดยพวกมันนั้นได้นัดพบกันที่แนวชายป่าใกล้ ๆ กับเมืองท่าที่พวกมันมักจะใช้เป็นจุดนัดพบส่งของกันอยู่บ่อยครั้งนั่นเองซึ่งข่าวเรื่องสถานที่ในการนัดพบของพวกมันนั้นเป็นชินอ๋องที่ส่งหน่วยองครักษ์ลับไปสืบข่าวมาจนได้รู้สถานที่ชัดเจนในครั้งนี้ ดังนั้นในวันนี้กลุ่มของนายท่านซ่งกับบุตรชายจึงได้เดินทางมายังสถานที่นัดพบกันในครั้งนี้กลุ่มของซ่งเฉิงป๋อนั้นทราบถึงกำหนดการจัดส่งสินค้าของพวกมันนั้นคือเวลายามซื่อของวันนี้และในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าก็จะถึงกำหนดเวลานัดของพวกมันแล้วเมื่อกลุ่มของซ่งเฉิงป๋อเห็นว่าใกล้จะถึงเวลาแล้วทั้งสามคนพ่อลูกรวมทั้งเหล่าองครักษ์อีกกว่ายี่สิบนายต่างก็ซุ่มอยู่ในที่กำบังอย่างเงียบเชียบไม่นานหลังจากนั้นทั้งสองกลุ่มก็ได้ยินเสียงของรถม้าหลายคันกำลังวิ่งตรงมายังทิศทางที่พวกเขารออยู่เมื่อรถม้าทั้งสามคันจอสนิทลงที่จุดนัดพบก็เป็นเวลาเดียวกันกับเกวียนวัวของพวกกลุ่มพ่อค้าชาวหัวแดงเองก็มาถึงยังสถานที่นัดหมายเช่นเดียวกันหลังจากที่รถม้าจอดสนิทดีแล้วนั้นไม่นานก็มีบ

  • ซ่งอวี้หลันนางร้ายเปลี่ยนบท   สมรสพระราชทาน

    “คุณหนูซ่งรับราชโองการ....เนื่องด้วยคุณหนูซ่งอวี้หลันนั้นเป็นสตรีที่มากความสามารถอีกทั้งยังเป็นสตรีที่เพียบพร้อมไปด้วยกิริยามารยาทอ่อนหวานเรียบร้อย จึงประทานสมรสพระราชทานให้แต่งเป็นพระชายาเอกในชินอ๋องจวินซีฮันในอีก 7 วันต่อจากนี้จบราชโองการ.....”จบราชโองการทั่วทั้งจวนต่างก็ตกอยู่ในความเงียบไม่เว้นแต่หญิงสาวเองที่ตั้งตัวไม่ทันว่าตนเองจะต้องแต่งงานให้กับชายหนุ่มในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี่เองในตอนนี้หญิงสาวจึงได้ยังคงก้มหน้าเงียบจนเสี่ยวอิงต้องสะกิดเพื่อให้คุณหนูของตนรีบตอบรับราชโองการโดยไว“หม่อมฉันขอบพระทัยฝ่าบาทขอฝ่าบาททรงพระเจริญหมื่นปี หมื่น ๆ ปี เพคะ”จบคำของหญิงสาวกงกงคนสนิทของฮ่องเต้ก็ยื่นราชโองการสีเหลืองทองมาตรงหน้าของหญิงสาวจากนั้นมือบางจึงได้ยื่นไปรับมาถือไว้พร้อมกับเอ่ยขอบใจกงกงชราตรงหน้า“ลำบากท่านหม่ากงกงแล้วเจ้าค่ะ เสี่ยวอิงเจ้าจงตามไปส่งท่านหม่ากงกงให้ข้าด้วยนะ”ประโยคแรกนั้นหญิงสาวเอ่ยกับกงกงชราตรงหน้าด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลก่อนที่หญิงสาวจะหันไปเอ่ยกำชับกับสาวใช้คนสนิทอีกทั้งยังกำชับให้อีกฝ่ายมอ

  • ซ่งอวี้หลันนางร้ายเปลี่ยนบท   นางร้ายสำแดงฤทธิ์

    ความเงียบยังคงปกคลุมไปทั่วชายป่าที่พวกเขายืนอยู่ หลังจากเอ่ยกับผู้เป็นตาเสร็จเรียบร้อยแล้วนั้นอวี้หลันจึงได้หันหน้าไปมองยังก็ผิงซานคุนก่อนที่ริมฝีปากบางของนางจะเริ่มเอ่ยวาจาออกมา“นายท่านเผิงกล่าวมาเมื่อครู่นี้ข้าเองก็เห็นด้วยกับพวกท่านนะเจ้าคะ คนทำผิดคิดชั่วย่อมสมควรได้รับโทษทัณฑ์อย่างสาสม แต่ที่ข้าไม่เห็นด้วยก็คงจะเป็นคนที่ต้องโทษคิดกบฏนั้นหาใช่ตระกูลซ่งของข้า แต่เป็นตระกูลเผิงของพวกท่านต่างหากเล่า”“ท่านอย่าได้คิดจะเอ่ยปากแก้ตัวเพราะข้ากับท่านอ๋องนั้นต่างก็เห็นเหตุการณ์ตั้งแต่ที่พวกท่านมาถึงจนพูดคุยตกลงเกี่ยวกับการค้าในครั้งนี้จนไปถึงการส่งมอบสิ่งของพร้อมกับเงินทองเพื่อแลกเปลี่ยนกันแล้วอย่างไรเล่า”“นี่คงจะเพียงพอที่จะเอาผิดพวกท่านได้แล้วกระมัง แล้วไหนจะยังมีหัวหน้านายกองที่รับสินบนทั้งยังทำงานให้กับท่านมิใช่ให้กับฝ่าบาทเพียงเท่านี้ข้าคิดว่าโทษของตระกูลท่านก็คงจะมีหัวไม่พอให้ประหารชดใช้ความผิดแล้วละ”คำพูดของหญิงสาวทุกคำที่เอ่ยออกมานั้นช่างราวกับคมมีดที่กรีดลึกลงไปสุดขั้วหัวใจของคนฟังยิ่งนัก ไหนจะยังสามารถแจกแจงความผ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status