“ยินดีด้วยนะคะ คุณขวัญเมษาตั้งท้องได้ประมาณสามสัปดาห์แล้วค่ะ”
คำพูดของคุณหมอแผนกสูตินรีเวชยังคงก้องอยู่ในโสตประสาทของขวัญเมษา นี่เธอท้องอย่างนั้นเหรอ...ท้องกับอาจารย์หมอเมธากร ผู้ไม่ได้เป็นแค่หมอแต่เป็นถึงผู้บริหารโรงพยาบาลดังที่มีสาขาอยู่ทั่วประเทศไทย นี่มันยิ่งกว่าหนูตกถังข้าวสารอีก!
ตัวเธอไม่ได้ติดใจอะไร ด้วยเป็นคนที่มีแต่ตัวและความรู้อันน้อยนิดหากเทียบกับเขา แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่เคยมีสักครั้งที่ขวัญเมษาจะทำตัวไม่เอาไหน หรือเกาะผู้ชายกิน เวลาไปไหนมาไหนด้วยกันเธอก็มักจะขอชายหนุ่มจ่ายค่าอาหารคืนบ้างแม้เขาจะไม่เคยยอมก็เถอะ ส่วนคอนโดราคาแพงที่เขาซื้อให้ เขาเองก็มาอยู่ด้วยทุกคืน!
ทั้งหมดทั้งมวลเธอแค่อยากให้เมธากรรับรู้ว่าเธอไม่ได้อยากทำตัวเป็นเด็กมีเสี่ยเลี้ยง แต่เธอรักเขาจากใจจริง
ทว่า...ความสัมพันธ์ของเธอกับเขามันเพิ่งเริ่มต้น จริงอยู่ว่าเรื่องนี้รู้กันไปทั่วในโรงพยาบาล และทุกคนต่างแสดงความยินดีต่อความสัมพันธ์ครั้งนี้ของเธอกับหมอหนุ่มใหญ่ แต่ใดๆ คือ คนสำคัญอย่างคนในครอบครัวอีกฝ่ายจะว่าอย่างไร หากลูกชายคนโตดีกรีทายาทอันดับหนึ่งอย่างเขา จะมาลงเอยกับเด็กที่ยังไม่ประสีประสาอย่างเธอ
เธอไม่ได้คิดมาก แต่เรียกว่าอยู่ในโลกของความเป็นจริงต่างหาก
“เป็นอะไรไปหรือเปล่า ดูหน้าซีดจัง หรือว่าเวียนหัว” ตั้งแต่รู้ว่าเธอท้อง ชายหนุ่มก็ดูแลประคบประหงมเธออย่างดี เช่น วันนี้เขาก็ขอลางานทั้งที่ปกติชายหนุ่มเป็นคนบ้างานเสียยิ่งกว่าอะไร ส่วนเธอน่ะเหรอ...โดนสั่งให้พักงานชั่วคราวซึ่งเป็นคำสั่งตรงจากอาจารย์หมอเมธากร มีหรือที่ใครจะกล้าขัดคำสั่ง
“นิดนึงค่ะ เมษ์รู้สึกหิวแต่ว่าไม่อยากกินกับข้าวพวกนี้เลย” หญิงสาวเอ่ยไปตามตรง แม้ว่าอาหารตรงหน้าจะถูกคัดสรรมาอย่างดีสมกับที่คนรักของเธอเป็นคนหามาก็ตาม
“อืม...ถ้าอย่างนั้นก็กินสลัด ผลไม้อะไรพวกนี้หน่อยดีไหม ถ้าไม่กินจะแย่เอานะ” เมธากรเอ่ยด้วยความเป็นห่วง ความเป็นจริงต่อให้เขาจะเป็นหมอที่เก่งแค่ไหน แต่เขาไม่เคยเป็นพ่อคนและแทบจะอ่อนหัดภาคปฏิบัติจนบางทีก็อดคิดไม่ได้ว่าทำไมโลกนี้คนที่ตั้งท้องจะต้องเป็นผู้หญิงด้วยนะ
ขวัญเมษาตัวเล็กนิดเดียว...ปกติก็กินไม่เยอะอยู่แล้ว พอท้องกลับกินอะไรไม่ค่อยลงแถมพอใกล้คลอดเธอก็จะท้องใหญ่มากๆ จนเขาอดเป็นห่วงไม่ได้
อยากท้องแทนเมียเหลือเกิน!
“แล้วเมื่อคืนนอนหลับสบายไหม หืม”
“ก็ดีนะคะ แต่ก็ปวดเมื่อยนิดหน่อย” เธอไม่ได้สำออยแต่มันเป็นแบบนั้นจริงๆ ฮอร์โมนตกยิ่งกว่าอาการตอนประจำเดือนมาสามเท่าได้ ไหนจะไอ้ความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจนั่นอีกเล่า หากเป็นปกติขวัญเมษารู้ตัวว่าเธอไม่ใช่คนคิดมากอะไร แต่ด้วยฮอร์โมนในตอนนี้มันทำให้เธอกังวลเรื่องระหว่างตัวเองกับเมธากรอยู่ตลอดเวลา
รู้ว่าเป็นเพราะอารมณ์สวิงแต่มันห้ามไม่ได้นี่นา
“งั้นเดี๋ยวพี่นวดให้เอาไหม” เขาเอาใจเธอทุกอย่าง เพื่อไม่ให้คนตัวเล็กต้องมีเรื่องให้เหนื่อยใจ ทว่าทำเท่าไหร่เจ้าของหน้าหวานๆ ก็ยังคงนั่งหน้าบูดอยู่อย่างนั้น
“เมษ์...เราสองคนข้ามขั้นของการเป็นแฟนกันมาแล้วนะ และตอนนี้เราก็กำลังจะมีลูกด้วยกัน เราจะเป็นพ่อแม่คนแล้ว เมษ์ไม่สบายใจอะไรเล่าให้พี่ฟังด้วยได้ไหม” คราวนี้เขาเอ่ยถามเธอออกไปตามตรง
“เมษ์ขอโทษนะคะถ้าเมษ์ทำให้พี่เมธต้องเครียด...”
“พี่ไม่ได้เครียดครับ พี่เป็นห่วงเมษ์”
“เมษ์แค่ไม่สบายใจเรื่องลูกของเรา” ขวัญเมษานิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจบอกชายหนุ่มออกไปตรงๆ
“ทำไมเหรอ เมษ์ไม่อยากมีลูกกับพี่เหรอ” หัวใจเมธากรรู้สึกหวิวไหวอย่างบอกไม่ถูก เพราะหากเป็นเช่นนั้นจริงถ้าจะบอกว่าเขาไม่เสียใจก็คงไม่ใช่ สำหรับเขาวินาทีที่หมอสูติบอกว่าขวัญเมษากำลังตั้งท้องลูกของเราได้สองสัปดาห์ มันเป็นความรู้สึกฟูฟ่องในใจด้วยไม่คิดว่าชาตินี้เขาจะได้มีโอกาสเป็นพ่อคนขึ้นมาจริงๆ
“เปล่าค่ะ เมษ์ไม่ได้คิดแบบนั้น แต่ว่า...พี่เมธไม่คิดว่าเรื่องของเรามันเร็วไปเหรอคะ”
“สำหรับเมษ์อาจใช่เพราะเมษ์ยังเด็ก แต่สำหรับพี่มันไม่เร็วไปหรอกเพราะพี่อายุปูนนี้แล้ว พี่อยากมีเมียมีลูกจะแย่ ถ้าจะผิดมันก็คงผิดที่พี่ไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจตัวเองแล้วทำอะไรให้มันถูกต้องต่างหาก” ใช่...และตอนนี้ก็ถึงเวลาแล้วที่เขาควรจะทำให้เรื่องระหว่างเธอกับเขาถูกต้องเสียที
“พี่เมธหมายความว่าไงคะ” เธอสบตาเขาอย่างไม่เข้าใจ
“เมษ์อยากไปเจอครอบครัวพี่ไหมครับ”
คำถามของแฟนหนุ่มทำเอาขวัญเมษาตอบไม่ถูก ถามว่าอยากเจอพวกท่านไหมแน่นอนว่าเธออยาก
แต่อีกใจนึงก็กลัว...กลัวว่าครอบครัวเขาจะไม่ชอบเธอ
“พ่อแม่พี่จะชอบเมษ์ไหมคะ”
“เมษ์ของพี่น่ารักขนาดนี้ แต่ถ้าอยากรู้เมษ์ก็ต้องไปเจอท่านกับพี่นะ....”
รวดเร็วทันใจสุดๆ หลังจากที่ตกลงกันว่าเธอจะไปเจอครอบครัวของเมธากร ชายหนุ่มก็จัดการนัดหมายทางบ้านในวันรุ่งขึ้นเลย เช้านี้ขวัญเมษาเลยมาอยู่ที่บ้านหลังใหญ่โตโออ่าของครอบครัวเขมาภิวัฒน์ และที่นั่งอยู่ตรงหน้าเธอก็คือ ศาสตราจารย์นายแพทย์พิพัฒน์ และคุณดาริกา พ่อกับแม่ของเมธากรนั่นเอง
ขวัญเมษารู้แล้วว่าเมธากรได้ความหล่อนิ่งสุขุมมาจากใคร เขาดูเหมือนหมอพิพัฒน์ผู้เป็นพ่อไม่มีผิด แต่ขณะเดียวกันผิวพรรณของเขาก็ขาวสะอาดเช่นเดียวกับคุณดาริกา ยิ่งรอยยิ้มหวานพิมพ์ใจนั้นถอดแบบแม่ของเขามาชัดๆ เลย
“พ่อครับแม่ครับ นี่เมษ์แฟนของผมเอง”
รอยสักแบบนี้เธอจำได้ดี มันไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน และเธอก็ชอบมันมาก ลวดลายมันยังคงติดตาเธอมาถึงตอนนี้“เอ่อ รอยสักของพี่ลายนี้ สวยจังเลยนะคะ” หญิงสาวเริ่มตะกุกตะกักเมื่อพบว่าเธอเคยเห็นรอยสักลวดลายแบบนี้มาก่อน“อืม พี่ออกแบบคิดค้นขึ้นมาเอง มีที่เดียวในโลก หนูไม่มีทางไปเจอมันบนตัวของผู้ชายคนไหนอีกอย่างแน่นอน” ภาคย์อมยิ้ม เขาอ่านประกายสายตาของเธอออก ต้องมนตร์ดูตกใจ เหมือนกำลังนึกบางอย่างขึ้นมาได้“ใช่…ใช่คนเดียวกันแน่ๆ” ทั้งดวงตาและใบหน้าที่เธอเคยประทับใจ ทั้งน้ำเสียงนุ่มๆ ทั้งความรู้สึกคุ้นเคยตอนเจอกันต้องมนตร์อยากจะเขกหัวตัวเองหนัก ๆ อีกรอบก็แล้วใครมันจะไปคาดคิดกันละว่าจะเป็นเขาคนนั้น ตอนที่เจอกันครั้งแรกเขาเป็นพระ ส่วนครั้งต่อมาเขาดันไปปรากฏตัวบนเวทีในบาร์โฮส“หลวงพี่ แล้วทำไมหลวงพี่ถึง…”“พี่ไม่ได้เป็นพระแล้ว เรียกพี่ภาคย์ก็พอ”เธอจ้องหน้าเขาแล้วยิ้มกว้าง รู้สึกดีใจเหลือเกินที่ตอนนี้เขาไม่ได้เป็นพระเหมือนกับตอนนั้น ความอบอุ่นวาบหวามแผ่ซ่านขึ้นมาอย่างประหลาด“หลวงพี่เคยบอกหนูว่า…คนเราพอมีรักก็ย่อมมีทุกข์ แต่ว่าตอนนี้หนูมีความรักอีกแล้ว…. หนูควรจะทำตามหัวใจของตัวเองใช่ไหมคะ หลว
“ใจเย็นก่อนหนู” ภาคย์เอ่ยพลางอมยิ้ม เมื่อคนตัวเล็กเข้ามานั่งข้าง ๆ ในรถแล้วสวมกอดเขาในทันที….ใครจะไปใจเย็นไหว คิดถึงจะแย่แล้วเนี่ย ต้องมนตร์เพียงแค่คิดแต่ไม่ได้พูด เธอยื่นสองมือไปโอบประคองสองข้างแก้มของเขาในท่วงท่ามันเขี้ยว ก่อนจะขยับใบหน้าเข้าไปใกล้ ๆ แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงออดอ้อนว่า “จูบหนูหน่อย จูบหนูหน่อยนะคะ…นะคะ”ต้องมนตร์นอนไม่หลับมาตั้งสามคืนเพราะเขา และเขาก็ต้องรับผิดชอบ“อื้อ” คนจูบเก่งรีบจัดให้โดยไม่อิดออด ทั้งขยับดูดเน้นย้ำ ๆ ทั้งสอดใส่ปลายลิ้นเข้าไปปั่นป่วนในโพรงปากเธออย่างซุกซน“หนูคิดถึงพี่มาก ๆ เลย” หญิงสาวรีบสารภาพ“แล้วพี่ล่ะ คิดถึงหนูบ้างไหมคะ” เมื่อเห็นอีกฝ่ายยังเงียบอยู่ต้องมนตร์ก็ยิงคำถามต่อไปใส่ทันที“คืนนี้ให้พี่ดูแลหนูอีกนะ” สำหรับต้องมนตร์แล้วทั้งน้ำเสียงออดอ้อนและสายตาที่ดูโหยหาเธอนั้นใช้แทนคำตอบได้เป็นอย่างดี “ไปบ้านพี่ไหม….”“ไปค่ะ…ถ้า….” แววตาของเธอมีความลังเลปะปนอยู่ในนั้น “ถ้าอะไร”“ถ้าพี่ยังโสด…”ภาคย์คลี่ยิ้มลุ่มลึกก่อนจะออกรถ ในขณะที่หญิงสาวก็คิดว่าความลึกลับที่ซุกซ่อนอยู่ในความเปิดเผยจริงใจของเขานี่แหละคือเสน่ห์เฉพาะตัวของชายหนุ่ม “หนูชอบพี่ สองสามวั
ตัดภาพไปที่ต้องมนตร์ เธอโมโหตัวเองจริงๆ เธอบอกหมายเลขห้องให้เขาไปอย่างละเอียด แต่ดันไม่ขอเบอร์ติดต่อของเขาหรือแลกไลน์กันเนี่ยนะ! จะบ้าตาย!เอาน่า…. ถึงยังไงก็ต้องทำใจ มันก็แค่การอ๊อฟหนุ่มโฮสมาเดทแค่ชั่วคราว ถึงแม้ว่าเขาจะไม่คิดค่าตัวแล้วก็ออกเงินเลี้ยงเธอทุกอย่างก็ตามเถอะ!พรุ่งนี้พอตื่นเช้ามาทุกอย่างก็กลับสู่โลกของความเป็นจริงแล้ว หากวันหลังเกิดเหงาขึ้นมาก็ค่อยไปเที่ยวที่บาร์โฮสแห่งนั้นอีกครั้งก็ได้คิดแล้วเธอก็อาบน้ำนอน กอดหมอนข้างฝันหวานถึงรสจูบอันหวานซึ้งของเขาอย่างพร่ำเพ้อ…งือ….ถ้ามีเขาคอยนอนกอดทั้งคืนก็คงจะดีหลังจากสองคืนที่เธอคิดถึงเขาแทบบ้าผ่านพ้นไป ต้องมนตร์ก็พบว่าตัวเองมายืนอยู่ตรงหน้าบาร์โฮสแห่งนี้อีกครั้ง และครั้งนี้เธอก็มาคนเดียวหัวใจดวงน้อยเรียกร้องให้หญิงสาวก้าวเท้าเข้าไปข้างใน และถึงแม้ว่าจะมีหนุ่มหล่อเดินผ่านตาไปมา ทว่าหญิงสาวก็ไม่ว่อกแว่ก เพราะคนที่เธอต้องการมาพบในคืนนี้นั้นคือเขาแค่คนเดียว“วันนี้จะรับกี่ดื่มดีครับ” เสียงทุ้มนุ่มของพีอาร์หนุ่มลอยมาเข้าหูหญิงสาวทันทีที่เธอหย่อนตัวลงนั่งบนโซฟา ทว่าแววตาของเธอกลับล่องลอยเหม่อมองไปบนเวทีพี่เขาไม่อยู่ที่นั่น ไม่มีแม้แ
บนที่นั่งที่ดีที่สุดในโรงภาพยนตร์วีไอพี หนังรอบดึกเริ่มฉาย และหลายคู่รักก็เริ่มพลอดรักกันอย่างสวีทหวานชื่น บางคู่ก็เริ่มลูบหัวกันอย่างรักใคร่เอ็นดู บางคู่ก็เริ่มล้วงควักกอดจูบกันนัวเนียต้องมนตร์เองก็เริ่มเอนกายซบหนุ่มโฮสต์รุ่นใหญ่ที่ตัวเองอ๊อฟมา หญิงสาวเลือกดูหนังรักโรแมนติกที่มีฉากเลิฟซีนค่อนข้างเยอะ และวินาทีนี้….สำหรับต้องมนตร์แล้ว พระเอกฮอลลีวูดรุ่นใหญ่ขวัญใจสาว ๆ ทั่วโลกที่กำลังยิ้มกว้างอยู่บนจอก็ไม่น่าดึงดูดใจเท่ากับเจ้าของบ่าอุ่นที่นั่งอยู่ข้าง ๆ“ชอบรุ่นใหญ่เหรอเราน่ะ” ภาคย์เหลือบมองคนตัวเล็กที่ยิ้มพริ้มซบบ่าเขาอยู่ เธอดื่มไวน์จนพวงแก้มกลายเป็นสีชมพูระเรื่อ แถมยังหาวยาว ๆ เพราะง่วงนอน พอมองไปมองมาภาพที่เธอเคยนอนหมดเรี่ยวหมดแรงอยู่ในศาลาวัดก็ย้อนกลับเข้ามาในหัวจนเขาต้องกลั้นขำ“จะรุ่นเล็กหรือรุ่นใหญ่ อายุก็เป็นเพียงตัวเลขทั้งนั้นแหละค่ะ” ต้องมนตร์เอ่ยพร้อมกับช้อนสายตาหวานเยิ้มขึ้นมองเขา“ไหนบอกจะดูหนัง แล้วทำไมถึงเอาแต่จ้องหน้าพี่” ภาคย์ดูหนังไม่รู้เรื่อง เพราะหน้าหล่อ ๆ โดนสาวสวยที่ควงมาจ้องเอา ๆ“เอ่อ….” ต้องมนตร์ที่รู้สึกว่าตัวเองกำลังตกหลุมรัก พยายามดึงตัวเองให้หลุดออกมาจา
“พอ ๆ พอได้แล้ว รีบไปกันเถอะ” ภาคย์ตัดสินใจดับบุหรี่ ส่วนต้องมนตร์ก็ควงแขนเขาเดินไปยังรถยนต์คันเล็กๆ ของเธอ และพอไปถึงภาคย์ก็ดึงกุญแจรถจากมือเธอมาไว้ในมือตัวเองทันที“เดี๋ยวพี่ขับให้เอง หนูกินเหล้าไปตั้งขนาดนั้น นั่งฟังเพลงในรถเฉย ๆ ก็พอ จะเริ่มจากชอปปิง กินข้าวแล้วก็ดูหนังรอบดึกใช่ไหม”“ค่ะ” ต้องมนตร์อมยิ้มพร้อมพยักหน้าหงึกหงัก พอภาคย์เปิดประตูรถให้เธอก็รีบเข้าไปนั่งพร้อมรัดเข็มขัดนิรภัยอย่างรวดเร็ว หลังจากขยับเลื่อนเบาะตรงที่นั่งคนขับให้พอดีตัวแล้ว ภาคย์ก็ออกรถอย่างช้าๆ ไม่ลืมดึงมือเธอมากุมไว้ในแบบที่หนุ่มโฮสเขาชอบทำกันต้องมนตร์รู้สึกอบอุ่นหัวใจจนหน้าแดง พอนึกแล้วก็อยากจะรวยมากๆ เพราะหากซื้อตัวเขามาเป็นเพื่อนเที่ยวได้ทุกคืนแบบนี้ก็คงจะดภาคย์ขับรถไปยังห้างหรูที่มีทำเลตั้งอยู่ใกล้บาร์โฮสของเขามากที่สุด เพราะจะได้ชอปปิง กินข้าวและดูหนังเสร็จสรรพจบครบในที่เดียวต้องมนตร์ควงแขนภาคย์เดินเล่นในห้าง และอาการเมาไม่สร่างก็ทำให้หญิงสาวอารมณ์ดีและกล้าหาญชาญชัยในการเต๊าะผู้ชาย พอเห็นเงาสะท้อนจากบานกระจกหญิงสาวก็นึกขำ ผู้ชายที่เธอออฟมาดูไม่เหมือนหนุ่มโฮสเลยสักนิด เขาดูรวย ดูเหมือนกับป๋า ที่ควงเ
“เอา!!! คืนนี้ฉันจะออฟด้วย แกก็ไปหาผู้ชายของแก ส่วนฉันก็ไปหาผู้ชายของฉัน พอได้ผู้ชายแล้วก็แยกย้ายเลยละกัน” ต้องมนตร์หันไปกระซิบเพื่อน ในขณะที่สายตายังคงวนเวียนอยู่ที่หนุ่มใหญ่บนเวทีนี่เธอก็เข้าใจผิดมาตลอดว่างานนี้เขาจำกัดอายุ ไม่นึกเลยว่าเขาจะรับทุกรุ่น แล้วเธอก็ดันชอบรุ่นใหญ่เนี่ยนะ…“ถูกใจคนไหนก็รีบเลยนะแก ก่อนที่จะโดนแย่ง” เพื่อนรีบเอียงคอมากระซิบบอก“เอา…เอาคนนี้แหละ” ต้องมนตร์ยิ้มเขิน ชูมือขึ้นทำเป็นปืนแล้วเล็งไปทางเขา จากนั้นก็ยกแก้วเหล้าขึ้นซดอย่างครึกครื้น“ไหน…ไหนแกเล็งคนไหนเอาไว้”“ก็คนนั้นไง คนแก่ ๆ นั่นน่ะ” ดูเหมือนว่าคนที่อยู่บนเวทีนั้นจะยังไม่รู้ตัว ว่ามีสาวน้อยน่ารักหมายตาอยากได้เขามาเอาอกเอาใจตัวเองในคืนนี้ภาคย์ที่ตอนแรกกะจะมาตรวจงาน ตอนนี้กลับแฝงตัวเป็นหนุ่มโฮสรุ่นใหญ่ที่เต้นอย่างสนุกสนานอยู่บนเวที พอมาเห็นบรรยากาศแล้วก็พอใจ เดี๋ยวพอลงจากเวทีแล้วกะว่าจะไปนั่งจิบไวน์ชิลล์ ๆ ที่ผับอีกแห่งต่อ….แต่ทว่า พอลงจากเวทีก็มีสาวตัวเล็ก ๆ หน้าตาน่ารักมายืนดักทางเอาไว้ในทันที“คืนนี้หนูออฟพี่นะคะ”ภาคย์ตกใจ ใบหน้าคมคายชะงักงันไปชั่วครู่ วินาทีแรกก็ตกใจด้วยไม่นึกว่าจะมีสาวน้อยมาสน