Share

ดรุณีบ้านป่า
ดรุณีบ้านป่า
ผู้แต่ง: มันฝรั่ง

บทที่ 1

หมู่บ้านต้าถาวในช่วงรุ่งสางเงียบสงัดไร้สิ่งใดเปรียบ เมื่อแสงแรกส่องทะลุม่านหมอกอันเบาบาง หมู่บ้านต้าถาวก็ต้อนรับรุ่งอรุณอันอบอุ่นหอมหวน ทุกสิ่งในหมู่บ้านต้าถาวถูกปกคลุมด้วยแสงอันอบอุ่นในยามเช้า

“แย่แล้ว มีใครอยู่ไหม... สะใภ้ตระกูลโจวกระโดดน้ำฆ่าตัวตายแล้ว...”

แต่ทว่า เสียงกรีดร้องที่ดังขึ้นอย่างกะทันหันทำลายความเงียบสงัดของหมู่บ้านเล็ก ๆ ผู้คนที่เดิมทีรับประทานอาหารเช้ากันอยู่ในบ้านกำลังจะออกไปทำงาน เมื่อได้ยินเสียงร้องต่างก็พากันวิ่งไปยังจุดกำเนิดเสียงกันอย่างรวดเร็ว

“เกิดเรื่องอะไรกันขึ้น?” ในตอนนี้เอง สตรีที่ม้วนผมดำขลับทั้งหมดไว้ในผ้าผืนสีเขียวน้ำทะเลผู้หนึ่งได้วิ่งปรี่เข้ามา บนใบหน้าของนางมีความตกตะลึงปนประหลาดใจ

“อาสะใภ้โจว เจ้ามาแล้วหรือ เสี่ยวชุ่ยลูกสะใภ้บ้านเจ้ากระโดดน้ำฆ่าตัวตายแล้ว...”

“สมควรถูกมีดแทงสักพันแผล นี่ข้าเพิ่งจะจ่ายเงินซื้อมาเองนะ ห้าตำลึงเงินของข้า~ ” อาสะใภ้โจวมองดูลำธารที่ไหลเชี่ยวกรากที่อยู่ตรงหน้า ในใจก็ก่นด่าจี้เสี่ยวชุ่ยไม่ต่ำกว่าแปดร้อยรอบ คราแรกที่นางหญิงชั่วคนนี้แต่งเข้ามา นางมองอย่างไรก็ขัดหูขัดตา แต่ด้วยความที่ตระกูลของพวกนางอับจน ไร้ซึ่งหนทาง จึงทำได้เพียงแต่ยอมรับเอาไว้

แต่ใครเล่าจะคิดว่า เด็กสาวที่เพิ่งจะซื้อกลับมาได้สองวันจะก่อเรื่องจนถึงขั้นนี้แล้ว และก็ไม่รู้ว่าตระกูลโจวของพวกนางจะโชคร้ายไปแปดชาติเลยหรืออย่างไร เหตุใดจึงได้พบเจอคนประเภทนี้อีก?

“อาสะใภ้โจว หรือไม่ใช่ว่าเมื่อคืนพี่เฉิงจวินจะรุนแรงเกินไป สะใภ้นางนี้เลยรับไม่ไหว?” อันธพาลในหมู่บ้านเดียวกันคนหนึ่งกล่าววาจาหยาบคายออกมา

“มิใช่หรือ? พี่เฉิงจวินผู้นั้นอายุน่าจะยี่สิบสองปีแล้วใช่ไหมเล่า มีภรรยาครั้งแรกก็อดจัดหนักไม่ได้เลยน่ะสิ!”

“ฮ่า ๆ ”

“พวกเด็กเปรตอย่างเจ้าวอนนักใช่หรือไม่ เดี๋ยวเฉิงจวินมาแล้ว ข้าจะให้เขาจัดการปากเน่า ๆ ของพวกเจ้าให้หมด...”

เมื่อเห็นพวกเขาพูดจาเลื่อนเปื้อน อาสะใภ้โจวก็ยิ่งมีน้ำโห แต่นางก็ยังยื่นคอไปดูที่ลำธาร คนคนนี้จะตายไม่ได้นะ! ไม่อย่างนั้นห้าตำลึงเงินนั่นก็ไม่นับว่าละลายลงแม่น้ำไปเลยหรือ?

“อาสะใภ้โจวอย่าเร่งร้อน ก่อนหน้านี้ตอนที่ข้าเห็นลูกสะใภ้ของบ้านเจ้ากระโดดลงน้ำไป เฉิงจวินก็กระโดดตามลงไปด้วย...” เฉิงจวินว่ายน้ำเก่งขนาดนั้น จะต้องช่วยชีวิตภรรยาของเขาได้แน่ นี่คือคำพูดที่เดิมทีอาสะใภ้จางอยากจะพูด เพียงแต่พออาสะใภ้โจวได้ฟังประโยคนั้นแล้วนางก็โกรธขึ้นมาเสียก่อน

“เจ้าว่าอย่างไรนะ? เฉิงจวินก็กระโดดลงไปด้วย? โอ้ไม่นะ... ลูกชายข้า เหตุใดเจ้าจึงโง่เขลาถึงเพียงนั้น น้ำเชี่ยวถึงเพียงนี้ เจ้ากระโดดลงไปช่วยนางหญิงชั่วคนนั้นได้อย่างไร... เวรกรรมเสียจริง...”

อาสะใภ้โจวร้องไห้น้ำมูกน้ำตาไหล

ในขณะที่ทุกคนพูดคุยกันเสียงดังเซ็งแซ่นั่นเอง ที่จุดหนึ่งของผิวน้ำก็เกิดแรงกระเพื่อมขึ้น ผู้ที่สายตาดีมองไปก็เห็นเป็นโจวเฉิงจวิน

“รีบมาดูเร็วเข้า เป็นเฉิงจวินและภรรยาของเขา...”

“เป็นพวกเขาจริง ๆ ด้วย...”

“เฉิงจวินนี่ว่ายน้ำเก่งจริง ๆ !”

ในตอนที่ทุกคนมัวแต่ตะลึงกันนั้น โจวเฉิงจวินก็ได้ลากจี้เสี่ยวชุ่ยมาใกล้จะถึงฝั่งแล้ว ทุกคนรีบเข้าไปดึงตัวจี้เสี่ยวชุ่ยขึ้นฝั่งกันคนละไม้คนละมือ ส่วนโจวเฉิงจวินที่อยู่ข้าง ๆ ก็เหนื่อยจนสุดทน

“เร็วเข้า เฉิงจวิน เจ้าไปกดช่วงท้องของนางเอาไว้ ให้นางพ่นน้ำที่อยู่ในท้องออกมา...” หมอเฒ่าคนหนึ่งในหมู่บ้านรีบแนะนำโจวเฉิงจวิน

เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ คนในหมู่บ้านส่วนใหญ่ก็ล้วนแต่มากันทั้งนั้น ไม่ใช่เพื่อผู้อื่น แต่เพื่อที่จะมามุงดูเหตุการณ์ก็เท่านั้นเอง

“เฉิงจวิน เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง? เหตุใดเจ้าจึงโง่เขลาถึงเพียงนี้ นางอยากตายก็ให้นางตายไป...”

อาสะใภ้โจวยังคงพูดฉอด ๆ อยู่ข้าง ๆ ส่วนโจวเฉิงจวินก็ได้ทำตามคำแนะนำที่หมอเฒ่าคนนั้นบอก เขากดที่ช่วงท้องของจี้เสี่ยวชุ่ยอย่างต่อเนื่อง และยังได้ใช้วิธีช่วยชีวิตอื่น ๆ อีก

ซุนเสี่ยวหย่าวิงเวียนศีรษะ เธอรู้สึกว่าร่างกายราวกับถูกใครเหยียบเอาไว้จนสุดแรง ถึงแม้ว่าเปลือกตาจะหนักอึ้ง แต่เธอก็ไม่อาจไม่ออกแรงพยายามลืมตาขึ้นมาได้

“ฟื้นแล้ว ฟื้นแล้ว...”

ซุนเสี่ยวหย่ารู้สึกร่างกายเบาหวิว รู้สึกเบาสบายขึ้นมากในทันที จนตอนที่เธอลืมตาขึ้นมาถึงได้มองเห็นคนกลุ่มใหญ่ที่มุงดูเธออยู่ได้อย่างชัดเจน

คนกลุ่มใหญ่กลุ่มนี้ล้วนแต่สวมเครื่องแต่งกายแบบโบราณ แม้แต่บนศีรษะก็ยังมัดเป็นมวยผมแบบโบราณ

“สะใภ้เฉิงจวิน? เจ้าดีขึ้นหรือยัง?”

“ก็ยังไม่ตายนี่ไง? จะต้องมีชีวิตอยู่ดี ๆ อยู่แล้วล่ะ!” อาสะใภ้โจวเรียกได้ว่าขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน นางเด็กคนนี้จงใจทำให้ตระกูลโจวของพวกนางเสียหน้ามากมายถึงเพียงนี้!

“ท่านแม่...” โจวเฉิงจวินขมวดคิ้วเล็กน้อย แม้ว่าเขาจะไม่ชอบที่นางกระโดดน้ำ แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ตอนนี้นางก็เป็นภรรยาของเขาแล้ว

“ทำไมหรือ ข้าว่าไม่ได้เลยหรืออย่างไร!” เสียงที่ดังของอาสะใภ้โจวทำให้ผู้คนอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว

นะ... นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย! ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอยู่ในน้ำนานเกินไปหรือเปล่า แม้แต่สมองก็ยังมึนงงอยู่บ้าง เธอมองดูทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้า ซุนเสี่ยวหย่าไร้ปฏิกิริยาตอบสนอง

“เฉิงจวิน เจ้าพาภรรยาของเจ้ากลับไปก่อนเถอะ อยู่ในน้ำนานถึงเพียงนั้น ระวังอย่าให้หนาวจนป่วยขึ้นมาล่ะ” หมอเฒ่าเห็นสีหน้ามึนงงเลอะเลือนของนางแล้วก็อดไม่ได้ที่จะส่ายศีรษะ รู้สึกเสียดายคนดีมีความสามารถอย่างเฉิงจวิน

โจวเฉิงจวินพยักหน้า เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงโน้มตัวลงอุ้มซุนเสี่ยวหย่าขึ้นมา แล้วเดินตรงกลับไปที่บ้าน

อาสะใภ้โจวกัดฟันกรอด นางเองก็จนปัญญาจึงได้แต่ตามกลับไป

ส่วนบรรดาฝูงชนเมื่อเห็นว่าคนในเหตุการณ์จากไปกันหมดแล้ว ต่างก็พากันแยกย้ายกระจายตัวกันไป เพียงแต่เรื่องราวเหล่านี้ก็ได้กลายเป็นหัวข้อสนทนาหลังมื้ออาหารของพวกเขาไปเสียแล้ว

โจวเฉิงจวินไม่สบายใจเป็นอย่างมาก ไม่ใช่เพราะมีความรักอะไรกับภรรยาผู้นี้หรอก เพียงแต่เขาคิดว่านางแต่งเข้ามา พวกเขาเองก็ปฏิบัติต่อนางอย่างดี อีกทั้งเมื่อคืนเขาก็ไม่ได้แตะต้องนางตามคำขอของนาง แต่เช้าวันนี้นางกลับยังไปกระโดดน้ำอีก

หากไม่ใช่เพราะตอนนั้นเขารู้สึกแปลก ๆ จึงตามนางไป ไม่อย่างนั้นผลลัพธ์ก็อาจจะเป็นนางที่จมน้ำตายอยู่ในแม่น้ำนั้นตั้งแต่แรก!

เมื่อมาถึงด้านในลานกว้างหนึ่งของหมู่บ้านชนบท โจวเฉิงจวินก็เดินตรงไปยัง ‘เรือนหอ’ ของพวกเขา แม้จะบอกว่าเป็นเรือนหอ แต่ภายในก็มีแค่กระดาษที่เขียนอักษรมงคลแผ่นหนึ่งแปะเอาไว้ พวกเครื่องนอนก็ยังเป็นเพียงของเก่าๆ เท่านั้น

เขาวางซุนเสี่ยวหย่าไว้บนเตียง ซุนเสี่ยวหย่าตื่นตระหนกในทันที โจวเฉิงจวินกลับถอยออกไป

“เจ้าเปลี่ยนเสื้อผ้าเปียกเสียก่อน มีเรื่องอันใดอีกเดี๋ยวพวกเราค่อยคุยกัน” สิ้นเสียง ประตูก็ปิดลง

ตอนนี้ซุนเสี่ยวหย่าจึงได้ฟื้นสติขึ้นมาจากสภาพมึนงง จากนั้นความทรงจำในสมองของเธอก็เริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ เธอเข้าใจแล้วว่าทำไมเธอถึงมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ได้

จี้เสี่ยวชุ่ย อายุสิบห้าปี พ่อแม่เสียชีวิตไปนานแล้ว มีพี่ชายหนึ่งคนและพี่สะใภ้หนึ่งคน พี่ชายขี้ขลาด พี่สะใภ้เผด็จการ ตอนที่จี้เสี่ยวชุ่ยเพิ่งจะอายุครบสิบห้าปีได้ไม่นานก็ถูกพี่สะใภ้ขายให้เป็นภรรยาของโจวเฉิงจวินพี่ใหญ่อายุยี่สิบสองปีของตระกูลโจวด้วยมูลค่าห้าตำลึงเงิน

ตระกูลโจวเป็นครอบครัวยากจนที่มีชื่อเสียงของหมู่บ้านต้าถาว ครอบครัวมีกันอยู่หกคน มีอาสะใภ้โจวรวมถึงอาโจวโจวไฉ และยังมีน้องชายสองคน น้องสาวอีกหนึ่งคน เนื่องจากเป็นตระกูลที่มาจากภายนอกหมู่บ้าน ดังนั้นจึงไม่มีที่นา เดิมทีก็อาศัยหากินบนภูเขา อาศัยฝีมือล่าสัตว์บนภูเขาของอาโจวและโจวเฉิงจวินก็สามารถแลกเงินมาได้ไม่น้อย

แต่ว่าสถานการณ์ที่ดีนั้นแสนสั้น อาโจวได้ค้นพบโสมที่มีมูลค่ามากอยู่ต้นหนึ่งในครั้งหนึ่งที่เขาขึ้นเขาไปล่าสัตว์ แต่ในตอนที่เขากำลังเก็บโสมอยู่นั้น ไม่ทันระวังเหยียบเข้ากับความว่างเปล่าแล้วได้ตกลงไปยังตีนเขา รอจนถึงตอนที่ถูกช่วยขึ้นมาได้ เขาก็ได้กลายเป็นคนพิการขาเป๋อยู่ที่บ้าน ส่วนน้องชายคนรองโจวเฉิงเหริน จู่ ๆ ก็ดันเป็นโรคอ่อนแอไร้กำลัง นับตั้งแต่นั้นเขาก็ต้องรับยาอยู่ไม่ขาด

ส่วนน้องชายคนที่สามและน้องสาวคนที่สี่ล้วนแต่ยังเด็กนัก ภาระหนักทั้งของคนชราและเด็กทั้งบ้านล้วนแต่กดอยู่บนบ่าของโจวเฉิงจวิน อาสะใภ้โจวเพียงแค่รับงานเย็บปักถักร้อยเล็ก ๆ น้อย ๆ มาช่วยจุนเจือค่าใช้จ่ายภายในบ้าน

นี่เป็นเหตุผลว่าเพราะอะไรโจวเฉิงจวิน ชายหนุ่มที่ดีเลิศเช่นนี้ถึงหาภรรยาไม่ได้

สำหรับตระกูลโจวแล้ว ห้าตำลึงเงินนี้เรียกได้ว่าไม่ธรรมดา แต่เพื่อโจวเฉิงจวินแล้ว อาสะใภ้โจวจึงกระเบียดกระเสียรเอามันออกมาใช้ แต่ตอนนี้พอได้เห็นเจ้าของร่างเดิมก่อเรื่องฆ่าตัวตาย นางจะไม่โกรธจนเต็มกลืนได้หรือ?

เจ้าของร่างเดิมนี่ก็เหมือนกัน ตอนอยู่ที่บ้าน แม้ว่าพี่สะใภ้จะไม่ดีต่อนาง แต่นางก็ยังเพ้อฝันมาตลอดว่าตนเองจะหลุดพ้นจากพวกเขา จะได้แต่งเข้าตระกูลที่ร่ำรวย เพียงแต่นางก็เป็นแค่เด็กผู้หญิงคนหนึ่งในหมู่บ้านชนบท คนอื่นจะไปถูกใจนางได้อย่างไรกันล่ะ! นางก็รอแล้วรอเล่า ยังไม่ทันได้แต่งเข้าตระกูลร่ำรวยก็ถูกพี่สะใภ้ขายมาที่ตระกูลโจวเสียแล้ว เจ้าของร่างเดิมคิดมาทั้งคืนก็ยังคิดไม่ตก จากนั้นก็กระโดดน้ำฆ่าตัวตายไปเสียเลย

ซุนเสี่ยวหย่าคลึงศีรษะ นี่มันน่าปวดหัวจริง ๆ !

เธอก็ว่าเธออยู่ในบ้านของเธอดี ๆ ตอนที่เธอเพิ่งกลับมาจากทำงานเธอก็ได้ไปแช่น้ำ ด้วยความที่เหนื่อยล้าก็เลยเผลอหลับไป ใครจะไปคิดว่าจะทำให้เธอข้ามภพมาได้

นี่มัน... โคตรซวยเลยจริง ๆ

แต่ว่าไหน ๆ ก็มาแล้ว อยากจะกลับไปก็น่าจะไม่ง่ายขนาดนั้น ช่วยไม่ได้ ต้องผ่านด่านตรงหน้าไปให้ได้เสียก่อน แล้วค่อยดูว่ามีวิธีอื่นให้กลับไปไหม เธอไม่อยากอยู่ในที่ที่อัตคัดแบบนี้ไปทั้งชาติหรอกนะ

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status