แชร์

นางมณี

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-01 21:51:05

ทางด้านมณีก็ยังเฝ้าเพียรคิดถึงอินทรีย์ทุกวี่วันดั่งเช่นวันนี้ นางมณีใช้ให้บ่าวที่บ้านทำปิ่นโตสำหรับเอามาส่งให้กับพ่อคุ้มอินทรีย์ที่ลานฝึกอาวุธ

โดยมีบ่าวอย่างอีจวงที่โดนพ่อคุ้มไล่ตะเพิดออกจากเรือนไป จึงได้ระเห็จระเหินร่อนเร่ไปขอพึ่งใบบุญนางมณี นางมณีที่เห็นว่าอีจวงเคยเป็นข้าเก่าของเรือนพ่อคุ้มอินทรีย์จึงจะใช้อีจวงสอบถามความชื่นชอบต่างๆของอินทรีย์เพื่อมัดใจเขา

"อีจวงมึงแน่ใจกะนั้นรึ ว่าพ่อคุ้มอินทรีย์ชอบกินอาหารเช่นนี้"อีจวงที่จำได้แค่งู งู ปลา ปลา ก็บอกกับนางมณีแบบผิดๆ ถูกๆตลอดมา

"แน่ใจสิเจ้าคะ บ่าวอยู่เรือนของพ่อคุ้มมาเป็นปีๆ จำได้หมดทุกกระเบียดนิ้วเลยเจ้าค่ะ"อีจวงที่พูดโกหกไปเรื่อยเพื่อจะได้ใช้ใบบุญที่เหลือเป็นใบเบิกทางให้มีที่คุ้มกะลาหัว

"เออดี กูจะได้เอาไปให้พ่อคุ้มกิน มึงเร่งฝีเท้าเข้าเถิดเดี๋ยวพ่อคุ้มกูก็จะหิวข้าวกลางวันพอดี"นางมณีที่เร่งออกจากเรือนไปที่ลานฝึกเพื่อไปหาอินทรีย์

ทางด้านอินทรีย์ที่กำลังฝึกเชิงมวยอยู่กับไอ้กล้าและไอ้สนรวมถึงลูกสมุนอื่นๆก็พากันลับมีดรับกระบองตรวจเช็คคลังสินค้าดั่งเช่นทุกวัน

"พวกมึงตั้งใจฝึกกันหน่อยสิวะ ไม่มีสมาธิเช่นนี้หากไปเจอไอ้พวกโจรปล้นควายดั่งเช
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • ดวงใจอินทรีย์   งอน

    เวลายามบ่ายใกล้โพล้เพล้ ตะวันตกดิน อินทรีย์วันนี้ไม่อนุญาตให้อัญชันทำอาหารเย็น ใช้เป็นยายปริกกับชมพู่และบ่าวในเรือนอีกสองสามคนให้ช่วยเตรียมอาหารแขกอย่างเศรษฐีอ๋องที่จะมาปรึกษาหารือเรื่องการทำถนน เศรษฐีอ๋องจะเกณฑ์คนงานในโรงเหล้าและให้ทุนทรัพย์มาช่วยเหลือ ทำให้อินทรีย์รู้สึกเคารพและนับถือในความใจดีมีเมตตาของเศรษฐีอ๋องเสมอมา ช่างผิดแผกกับลูกทั้งสองเหลือเกิน "พ่อคุ้มอินทรีย์ทำไมถึงไม่ให้อัญชันช่วยยายปริกกับชมพู่ล่ะจ๊ะ" อัญชันที่อาบน้ำผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยก็มานั่งรับลมเย็นอยู่กลางเรือนกับอินทรีย์ "ข้าไม่อยากให้ผู้ใดชิมกับข้าวฝีมือเอ็งนอกจากข้า แต่เพียงผู้เดียว" อินทรีย์ที่นั่งอ่านตำราใบข่อยก็อ่านไปด้วยพูดไปด้วย ไม่เงยหน้าขึ้นมามองอัญชันเลยแม้แต่น้อย "ฝีมือของอัญชันไม่อร่อยหรือจ๊ะ" อัญชันแกล้งทำเป็นพูดถามทั้งที่รู้ว่าอินทรีย์นั้นหวงตนมากแค่ไหน "ใช่ ฝีมือเอ็งมันยังไม่ได้เรื่อง ข้ากลัวว่าเศรษฐีอ๋องกินเข้าไปจะท้องเสีย" อินทรีย์พูดประชดประชันอัญชันด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์ "ดีจ๊ะ งั้นต่อไปอัญชันจะ

  • ดวงใจอินทรีย์   อัญชันขี้อ้อน

    ไอ้กล้าไม่มาที่ร้านฝึกซ้อมอาวุธ 2-3 วัน ทำให้อินทรีย์ อัญชัน และไอ้สนเกิดความเป็นห่วง เพราะได้ข่าวว่ามารดาของไอ้กล้าล้มป่วย จึงพากันไปเยี่ยมไอ้กล้าที่เรือน และได้เห็นว่าไอ้กล้ากำลังเฝ้ามารดาที่ป่วยด้วยโรคคนแก่ "ไอ้กล้า มึงเป็นอะไร ทำไมไม่ไปที่ลานฝึก?" ไอ้สน เพื่อนรักของไอ้กล้า รีบเดินตะโกนถามเพื่อให้รู้ว่ามีคนมาเยี่ยม ไอ้กล้าได้ยินเสียงเพื่อนรักอย่างไอ้สน ก็วางมือจากการเช็ดตัวให้มารดา แล้วรีบออกมาต้อนรับ จึงเห็นว่าอินทรีย์และอัญชันก็มาด้วย "พ่อคุ้มอินทรีย์ ข้าขอโทษนะจ๊ะพี่ ที่ข้าไม่ได้ไปฝึกซ้อมที่ลานอาวุธเลย พอดีแม่ของข้าป่วย" ไอ้กล้าพยายามอธิบายให้อินทรีย์เข้าใจ "ก็เพราะมึงไม่ไปนี่แหละ กูถึงต้องมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น เหตุใดมึงจึงหายหน้าไปเช่นนั้น" "แม่ป่วยเป็นโรคคนแก่ชราตามประสานั่นแหละจ้ะพี่ แต่ช่วงนี้อากาศเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวฝน แกคงปรับตัวไม่ทัน ก็เลยได้ไข้มา 3-4 วันแล้วจ้ะ" ไอ้กล้าพูดพลางเกาหัวเพราะรู้สึกเคอะเขินที่อินทรีย์มาเยี่ยมถึงเรือน "แล้วนี่หยุกยาหาหมอมึงพาแม่ไปหาหรือยัง?" อินทรีย์ถามด้วยความเป็นห่วง "ยังเลยจ้ะพี่ อัดของข้าไม่พอ แต่ก็พอให้ซื้อข้าวมาพอประทังกรอกหม้อให้แม่ได้

  • ดวงใจอินทรีย์   อารมณ์แปรปรวน

    มื้อเย็นผ่านไปอย่างทุลักทุเล เศรษฐีอ๋องรู้สึกเหมือนมีรังสีอำมหิตแผ่ซ่านออกมาจากตัวของอินทรีย์อยู่ตลอดเวลา เพราะทุกครั้งที่ไอ้พันตักกับข้าวหรือของต่าง ๆ ให้กับอัญชัน เขามักจะเห็นแววตาพิฆาตที่พร้อมจะเชือดลูกชายของตนตลอดเวลาอัญชันนั่งอยู่ข้าง ๆ อินทรีย์อย่างสงบเรียบร้อย เพื่อฟังการทำงานที่กำลังจะเริ่มขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ในการช่วยกันตัดต้นไม้และทำทางถนนเกวียนให้ดีขึ้น เศรษฐีอ๋องและอินทรีย์นั่งปรึกษาหารือกันอยู่เกือบครึ่งชั่วยาม ลูกชายอย่างไอ้พันไม่ได้ตั้งใจฟังอะไรเลย นอกจากนั่งจ้องหน้าอัญชันตาเป็นมันส่วนนางมณีก็ขอตัวเดินไปเดินมาอยู่รอบเรือน เพื่อชมบรรยากาศที่สวยงามบนเรือนของอินทรีย์"อีจวง มึงดูสิ อีกไม่นานหรอก กูจะต้องเป็นเจ้าของครองเรือนนี้ และกูจะไล่อีนางเด็กอัญชันนั่นออกจากเรือนไปเสีย อีเด็กกาฝาก" นางมณีที่พูดกับอีจวงโดยไม่สนว่าจะมีใครมาได้ยิน"ข้าว่า ก่อนที่คุณหนูมณีจะฝันว่ามาเป็นคุณผู้หญิงเรือนนี้ ทำอย่างไรดีเล่า ในเมื่อพ่อคุ้มอินทรีย์ยังไม่แม้แต่จะชายตาแลทแม่มณีเลยสักนิด" นางชมพู่หันไปตอกกลับนางมณีด้วยความไม่ยำเกรง เพราะมาริอาจคิดจะเฉดหัวผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตมันตอนที่

  • ดวงใจอินทรีย์   ข้าวกลางวัน

    หลังจากเกิดเหตุการณ์วุ่นวายเมื่อคืนที่ผ่านมาเรื่องที่อีจวงทำเอาไว้ เหตุการณ์นี้ทำให้คนในเรือนบ่าวไพร่ต่างพากันพูดถึงติชินนินทาอีจวงอย่างไม่ขาดปาก อย่างเช่นอีแดงถึงแม้จะเป็นศัตรูคู่อาฆาตของอีจวงมาแต่ไหนแต่ไร แต่ก็ไม่เคยคิดว่าอีจวงจะเป็นบ้าเสียสติถึงขนาดแก้ผ้าต่อหน้าพ่อคุ้มอินทรีย์ ท่านกลับไม่หวั่นไหวเลยแม้แต่นิด"ยายปริกดูสิอีจวง มันเสียสติไปเช่นนั้นเลยหรือถึงขนาดไปแก้ผ้าให้ท่านถึงบนเรือน พ่อคุ้มท่านกลับไม่ชายตาแลแม้จะหางตา หากข้าเป็นอีจวงไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ใดแล้ว"อีแดงที่หันมาพูดกับยายปริกขณะที่กำลังนั่งทำกับข้าวอยู่"เวรใครกรรมมัน ทุกอย่างคือผลของการกระทำทั้งนั้นอีแดง"ยายปริกถึงกับส่ายหน้าอย่างเอือมระอาพยายามห้ามและเตือนสติอีจงเสมอ"ก็อีจวงมันใฝ่สูง อยากเป็นเมียพ่อคุ้มอินทรีย์จนตัวสั่น แต่ข้าก็ไม่คิดว่ามันจะใช้วิธีสกปรกขนาดนี้"บ่าวอีกคนที่กำลังเด็ดผักก็ทำตัวปากยื่นปากยาวมาเสริมทัพ"ทุกอย่างมันอยู่ที่การกระทำ พวกเอ็งจำไว้แข่งบุญแข่งวาสนามันแข่งกันไม่ได้ คนบางคนไม่ต้องดิ้นรนไม่ต้องไขว่คว้า ของทุกอย่างก็มากองอยู่ตรงหน้าดั่งเช่นคุณหนูอั

  • ดวงใจอินทรีย์   นางมณี

    ทางด้านมณีก็ยังเฝ้าเพียรคิดถึงอินทรีย์ทุกวี่วันดั่งเช่นวันนี้ นางมณีใช้ให้บ่าวที่บ้านทำปิ่นโตสำหรับเอามาส่งให้กับพ่อคุ้มอินทรีย์ที่ลานฝึกอาวุธ โดยมีบ่าวอย่างอีจวงที่โดนพ่อคุ้มไล่ตะเพิดออกจากเรือนไป จึงได้ระเห็จระเหินร่อนเร่ไปขอพึ่งใบบุญนางมณี นางมณีที่เห็นว่าอีจวงเคยเป็นข้าเก่าของเรือนพ่อคุ้มอินทรีย์จึงจะใช้อีจวงสอบถามความชื่นชอบต่างๆของอินทรีย์เพื่อมัดใจเขา"อีจวงมึงแน่ใจกะนั้นรึ ว่าพ่อคุ้มอินทรีย์ชอบกินอาหารเช่นนี้"อีจวงที่จำได้แค่งู งู ปลา ปลา ก็บอกกับนางมณีแบบผิดๆ ถูกๆตลอดมา"แน่ใจสิเจ้าคะ บ่าวอยู่เรือนของพ่อคุ้มมาเป็นปีๆ จำได้หมดทุกกระเบียดนิ้วเลยเจ้าค่ะ"อีจวงที่พูดโกหกไปเรื่อยเพื่อจะได้ใช้ใบบุญที่เหลือเป็นใบเบิกทางให้มีที่คุ้มกะลาหัว"เออดี กูจะได้เอาไปให้พ่อคุ้มกิน มึงเร่งฝีเท้าเข้าเถิดเดี๋ยวพ่อคุ้มกูก็จะหิวข้าวกลางวันพอดี"นางมณีที่เร่งออกจากเรือนไปที่ลานฝึกเพื่อไปหาอินทรีย์ทางด้านอินทรีย์ที่กำลังฝึกเชิงมวยอยู่กับไอ้กล้าและไอ้สนรวมถึงลูกสมุนอื่นๆก็พากันลับมีดรับกระบองตรวจเช็คคลังสินค้าดั่งเช่นทุกวัน"พวกมึงตั้งใจฝึกกันหน่อยสิวะ ไม่มีสมาธิเช่นนี้หากไปเจอไอ้พวกโจรปล้นควายดั่งเช

  • ดวงใจอินทรีย์   ไล่อีจวง

    ค่ำคืนที่มืดมิด อินทรีย์ที่กลับจากการเดินตระเวนตรวจตารอบหมู่บ้านด้วยความเหนื่อยล้า อินทรีย์อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วเดินตรงเข้าไปในห้องนอน วันนี้เขาไม่อยากจะรบกวนอัญชัน เพราะอัญชันมีวันแดงเดือดแบบผู้หญิงที่โตเป็นสาว ทำให้อินทรีย์ต้องนอนแยกมาที่ห้องของตนเอง ขณะก่อนที่จะเดินเข้าห้องนอน อินทรีย์ที่นั่งรับลมสูดอากาศอยู่หน้าชานเรือนบ้าน อินทรีย์ก็ล้างหน้าล้างตามือเท้า แล้วเดินกลับเข้าไปในห้องนอน โดยไม่ทันสังเกตว่า ในห้องของเขานั้น ไม่ได้มีเพียงแค่เขา อินทรีย์ได้กลิ่นกำยานแปลก ๆ ภายในห้อง แต่ก็ยังไม่ทันได้สังเกตว่ามีบุคคลที่สองแอบอยู่ข้างเตียงตนเอง "เอ๊ะ..! เสียงเอ๊ะเบาๆ อินทรีเอะใจจึงได้รีบกระโดดคว้าปืนที่อยู่ข้างหัวเตียงแล้วตวาดลั่น "มึงเป็นใคร ...! ออกมาเดี๋ยวนี้ ถ้าไม่ออกกูจะยิงให้ไส้แตกเลย ออกมา..!" เสียงตวาดดังกึกก้องไปทั่วทั้งเรือน "ออก แล้ว ออก แล้วจ้ะ" เสียงติดขัดเงาตะคุ่มตะคุ่ม ภายใต้แสงตะเกียงเจ้าพายุค่อยๆ เผยให้เห็นผู้ที่แอบอยู่ข้างเตียงลอยชัดเจนขึ้นมา "อีจวง..! มึงทำบ้าอะไรของมึง มึงเข้ามาทำอะไรในห้องของกู"อินทรีย์ลดปืนลงแล้วก็หันไปถามอีจวงด้วยความหงุดหงิดใจ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status