/ รักโบราณ / ดอกไม้ในเปลวเพลิง / บทที่ 6 ฉีกหน้ากากคนดี (2)

공유

บทที่ 6 ฉีกหน้ากากคนดี (2)

last update 최신 업데이트: 2025-02-03 12:57:24

ในเวลาต่อมา ร่างสูงใบหน้าละมุนก็มาเยือนที่คุมขัง เขาแจ้งแก่ผู้คุมว่าต้องการมาสอบปากคำเพิ่มเติม ผู้คุมเห็นว่าเมิ่งหยางเป็นผู้จับกุมเถ้าแก่ถางในครั้งแรก จึงให้เข้าไปพบนักโทษแต่โดยดี  

“เถ้าแก่ ท่านยังจ่ายค่าเรือนไม่ครบ”

เถ้าแก่ถางมองเมินเมิ่งหยางอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

“ข้าถูกคุมขังโทษทัณฑ์ร้ายแรงขนาดนี้ ท่านยังกล้ามาถามเรื่องเงินหรือ”

“ตอนแรก ข้าก็ช่วยให้จำนวนเกลือมีเพียงเล็กน้อยแล้ว เป็นท่านเองที่ไม่รอบคอบ ไม่แบ่งของไว้หลาย ๆ ที่”

“ก็ท่านเองมิใช่หรือ แนะนำให้เก็บไว้ที่จีฮวงลู่”

เมิ่งหยางโบกมืออย่างรำคาญ ดวงตาแข็งกร้าว “ข้าไม่เถียงกับท่านแล้ว บอกมาท่านเก็บทรัพย์สินไว้ที่ไหน จะเอามาจ่ายค่าเรือนให้ครบ”

เถ้าแก่ถางยืนกรานไม่บอกที่เก็บทรัพย์สิน เมิ่งหยางแสยะยิ้ม กล่าวเบา ๆ ว่า “พรุ่งนี้ รอฟังข่าว”

มือปราบหนุ่มจากไปแล้ว เถ้าแก่ถางระล่ำระลักบอกผู้คุมว่า “ข้าขอพบฉินอ๋อง ข้ามีเรื่องจะสารภาพเพิ่มเติม”

คืนนั้น ยามจื่อ ชายฉกรรจ์ในชุดดำนับสิบคนถีบประตูเรือนเถ้าแก่ถางจนสลักหลุด เมื่อเข้าไปในเรือนได้แล้วก็แยกย้ายกันไปค้นตามห้องต่าง ๆ เมิ่งหยางยืนสั่งการอย่างอหังการ

“ฆ่าให้หมด ให้มันรู้ว่าการปฏิเสธอำนาจข้าจะต้องพบกับอะไร”

เสียงคมดาบกระทบกันดังลั่นออกมาจากห้องต่าง ๆ โลหิตสีแดงฉานสาดกระเซ็น แต่ไม่มีเสียงกรีดร้องของสตรีและเด็กอย่างที่คิดว่าจะมี ชายฉกรรจ์ชุดดำถูกรุกไล่จากกลุ่มมือปราบตงฉานที่ซุ่มรออยู่แล้วในเรือนของเถ้าแก่ถาง มือปราบแห่งวังหลวงหน้าเผือดสี รู้ตัวว่าตกหลุมพรางแล้ว 

เขาหันกลับพุ่งตัวไปทางประตูเรือน แต่ยังไม่พ้นประตูก็พบว่ามือปราบตงฉานจำนวนมากรอล้อมจับอยู่แล้ว เกิดการปะทะกันอย่างรุนแรง ด้วยฝีมือของเมิ่งหยาง ในที่สุดเขาก็หลุดพ้นจากวงล้อมแล้วพุ่งทะยานหายไปในความมืด

เหตุการณ์ที่น้องชายของเมิ่งกุ้ยเฟยทำการอุกอาจเช่นนี้ ย่อมถูกกราบทูลเข้าสู่พระกรรณของฮ่องเต้ นอกจากถูกปลดจากตำแหน่งมือปราบแห่งวังหลวงแล้ว ยังมีหมายจับติดประกาศไปทั่วอีกด้วย

จวนเสนาบดีกรมคลังคึกคักไปด้วยผู้คน วันนี้เป็นวันเกิดของฮูหยินเสนาบดีกรมคลัง ซึ่งเป็นพี่สาวของเมิ่งกุ้ยเฟย ใคร ๆ ก็รู้ว่าฮ่องเต้รักใคร่เมิ่งกุ้ยเฟยยิ่งนัก ดังนั้น ผู้ที่มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่ทั้งหลายจึงมารวมตัวกันที่นี่แทบจะหมดเมืองหลวงแล้ว ฮูหยินในเครื่องแต่งกายหรูหราให้การต้อนรับแขกด้วยอารมณ์แจ่มใส ข้างกายเป็นหญิงสาวหน้าตาสวยงามแต่งกายหรูหรายิ่งกว่าเจ้าของงานเสียอีก แต่ก็มิได้ขัดตาของฮูหยินแต่อย่างใด เพราะนางคือ จงเฝิ่นลู่ บุตรีของฮูหยินนั่นเอง หญิงสาวชะเง้อมองหน้าจวนบ่อยครั้ง เมื่อยังไม่เห็นบุรุษที่ตนเองพึงใจก็รอด้วยความกระวนกระวาย เทียบเชิญก็ส่งไปแล้ว

แม้ว่าปกติฉินอ๋องไม่ไปจวนผู้ใด แต่จงเฝิ่นลู่ก็แอบหวังว่าเขาจะให้เกียรติบิดาซึ่งบารมีกำลังเบ่งบานอยู่ในขณะนี้ ก็ใช่ว่าฉินอ๋องจะมิเคยเสด็จไปจวนผู้ใด อย่างน้อยจวนแม่ทัพใหญ่ก็อยู่ในข้อยกเว้น อาจจะเพราะสุ่ยฝานหรง คุณชายใหญ่ของท่านแม่ทัพใหญ่เป็นสหายที่สนิทที่สุดของท่านอ๋องนั่นเอง เสนาบดีกรมคลังและจงเฝิ่นลู่ก็อยากจะอยู่ในข้อยกเว้นเช่นนั้นด้วย

หน้าประตูจวน สองพี่น้องสุ่ยฝานหรงและสุ่ยเฉินเฟิงมาถึงแล้ว สุ่ยฝานหรง รองผู้บัญชาการทหารม้าอยู่ในชุดสีฟ้าเข้มมองดูสะอาดตาและสง่างามจับตาจับใจ สาวน้อยสาวใหญ่ล้วนส่งสายตาให้มิขาดสาย ในขณะที่สุ่ยเฉินเฟิงแต่งกายด้วยชุดสีครีมปักลวดลายสวยงาม

จงเฝิ่นลู่เขม้นมอง แม้ว่าฉินอ๋องจะไปจวนแม่ทัพใหญ่เพราะเป็นสหายสนิทกับสุ่ยฝานหรง แต่เมื่อไปที่จวน ก็ต้องพบเจอกับสุ่ยเฉินเฟิงมิใช่หรือ บัดนี้ สุ่ยเฉินเฟิงก็มิมีพันธะหมั้นหมายกับผู้ใดแล้ว ใจจริงไม่อยากให้ท่านพ่อเชิญมาเลย แต่เสนาบดีกรมคลังก็ส่งเทียบเชิญแม่ทัพใหญ่ วันนี้แม่ทัพใหญ่มอบหมายให้บุตรและบุตรีเป็นตัวแทนมาร่วมงาน ทางฝ่ายสุ่ยเฉินเฟิงก็ตีสีหน้ายิ้มแย้ม เมื่อต้องอยู่ในสังคมต่อไป ก็ต้องเข้มแข็งวางอดีตลงให้ได้ หลังเกิดเรื่องอื้อฉาวที่อดีตคู่หมายก่อขึ้น งานนี้เป็นงานแรกที่นางมาร่วมงาน

สุ่ยเฉินเฟิงเดินไปยังพื้นที่ซึ่งจัดไว้สำหรับแขกฝ่ายหญิง เหมยกุ้ยเพื่อนสนิทรออยู่ที่นั่น ก็ไม่ได้คุยอะไรกันมากนัก เพราะสุ่ยเฉินเฟิงได้แต่ตอบคำถามหญิงสาวมากหน้าหลายตาเกี่ยวกับความชอบพี่ชาย นางก็ได้แต่แอบสงสารหญิงสาวเหล่านั้น เพราะพี่ชายของนางสนใจการฝึกซ้อมอาวุธมากกว่าสตรี บางคำถามเหมยกุ้ยก็ช่วยตอบด้วย นางรู้ดีว่าพี่ชายของเพื่อนชอบสิ่งใดหรือไม่ชอบสิ่งใด

วันนี้เหมยกุ้ยอยู่ในชุดสีเหลืองสดใส ชายกระโปรงปักดอกไม้สีขาวเล็ก ๆ สุ่ยเฉินเฟิงกวาดตามองไปยังพื้นที่สำหรับแขกฝ่ายชาย อดนึกถึงเมิ่งหยางไม่ได้ ฮูหยินเสนาบดีกรมคลังเป็นพี่สาวของเมิ่งกุ้ยเฟยและเมิ่งหยาง สำหรับเมิ่งหยางนั้นเป็นน้องชายคนเล็กสุด อายุห่างจากพี่สาวทั้งสองมาก เมิ่งหยางจึงมีศักดิ์เป็นน้าชายของจงเฝิ่นลู่ แต่มีอายุมากกว่าหลานสาวเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หลังจากเกิดเหตุที่เรือนเถ้าแก่ถางพ่อค้าเกลือเถื่อนแล้วก็ไม่มีใครได้พบเห็นเมิ่งหยางอีกเลย

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 114 ใต้หล้าล้วนสงบสุข

    สิบปีผ่านไป ณ ตำหนักคุนหนิง ฮองเฮาสุ่ยเฉินเฟิง นั่งดื่มชาในสวนดอกไม้ อากาศอบอุ่น มีลมพัดผ่านเบา ๆ นึกถึงชะตาชีวิตที่แปลกประหลาด ตั้งแต่เล็กจนเติบใหญ่มีชีวิตสงบสุขเหมือนคุณหนูสูงศักดิ์ทั่วไป แต่เมื่อถึงวัยมีคู่ครองก็มีเรื่องเดือดร้อนไม่จบไม่สิ้น ชีวิตเหมือนอยู่ท่ามกลางเปลวเพลิง กว่าจะฝ่าฟันมาถึงวันนี้ก็ได้รับประคับประคองจากพระสวามีผู้สง่างามและครอบครัวเดิม สุ่ยเฉินเฟิงสัญญากับตนเองว่าจะทะนุถนอมความรักของพวกเขาไว้อย่างดีฮ่องเต้เทียนคงอิงฉง เทียนตี้หย่ง และฮองเฮาสุ่ยเฉินเฟิง มีพระราชโอรสและพระราชธิดารวมห้าองค์ องค์ชายหย่งเฉิงคล้ายเสด็จพ่อมากที่สุดทั้งรูปร่างหน้าตา อุปนิสัย และความรู้ความสามารถ องค์ชายหย่งเฉิงชื่นชอบการฝึกซ้อมอาวุธทุกประเภท อีกทั้งยังชำนาญหมากล้อมและการฝึกเชาว์ปัญญาต่าง ๆ เรียกว่าเก่งทั้งบู๊และบุ๋นองค์หญิงเฟิงซินหน้าตาคล้ายเสด็จย่าไทเฮากู้ชุนฉือ ทำให้นางเป็นที่โปรดปรานของเสด็จย่าไทเฮากู้ชุนฉือยิ่งนัก บางครั้งฮ่องเต้ยังจำใจต้องอนุญาตให้องค์หญิงเฟิงซินไปพักค้างที่ตำหนักนอกวังบ้างเพราะทนการรบเร้าของผู้เป็นมารดาไม่ไหว แรก ๆ ก็ไปพักค้างครั้งละหนึ่งคืน พอนานเข้าเสด็จย่าไทเฮา

  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 113 ราษฎรกินอิ่มนอนอุ่น

    ราษฎรต้อนรับการประสูติขององค์ชายน้อยหย่งเฉิงอย่างเอิกเกริก ร้านค้าในตลาดและบ้านเรือนราษฎรปักธงถวายพระพร เหลาเฉียนจัดทำอาหารพิเศษแจกจ่ายให้ลูกค้าโดยไม่คิดเงิน ร้านขายผลไม้ก็นำส้มมงคลมาแจกจ่ายให้ผู้คนที่สัญจรไปมาเมื่อครั้งเทียนตี้หย่งยังดำรงตำแหน่งฉินอ๋อง ราษฎรก็รักใคร่ชื่นชม แม้ในจวนอ๋องจะไม่มีพระชายา พระชายารอง หรืออนุ ก็ไม่มีผู้ใดใส่ใจ ต่อมาขึ้นครองราชย์ ราษฎรก็ปลื้มปิติ แต่ก็กังวลเพราะฮ่องเต้เทียนคงอิงฉง เทียนตี้หย่ง ลั่นวาจาไว้ว่าจะมีฮองเฮาสุ่ยเฉินเฟิงเพียงพระองค์เดียวแม้ในขณะที่แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งฮองเฮา พระนางจะตั้งครรภ์แล้วก็ตาม หากเป็นพระราชธิดาพวกเขาก็ยังไม่วางใจ ดังนั้นเมื่อองค์ชายน้อยหย่งเฉิงประสูติ จึงเป็นทั้งความยินดีและความโล่งใจของราษฎรทั้งหลาย อย่างน้อยก็สบายใจได้ว่า แคว้นต้าเจียมีผู้สืบทอดบัลลังก์มังกรแล้วในแต่ละวันขององค์ชายน้อยหย่งเฉิงมีเสด็จย่าทั้งสองและท่านยายผลัดกันมาดูแล คือเสด็จย่าไทเฮาสือจินอวี้ เสด็จย่าไทเฮากู้ชุนฉือ และท่านยายเจียงจือไฉ แต่เสด็จย่าไทเฮาสือจินอวี้จะได้เปรียบมากกว่าเพราะประทับในวังเช่นเดียวกัน จึงมาดูแลเกือบทุกวัน เว้นแต่วันที่เสด็จย่าไทเฮ

  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 112 เจ้าก้อนแป้งตัวน้อยน่ารัก

    พระราชพิธีแต่งตั้งฮองเฮาเป็นไปอย่างเรียบง่ายตามความประสงค์ของสุ่ยเฉินเฟิง ตำหนักคุนหนิงของฮองเฮาได้รับการปรับปรุงใหม่ มีห้องสำหรับทารกติดกับห้องบรรทมของฮองเฮา สำหรับฮ่องเต้เทียนคงอิงฉงนั้นแม้จะมีตำหนักเฉียนชิง แต่พระองค์ก็จะมาบรรทมที่ตำหนักคุนหนิงเป็นประจำ เว้นแต่ช่วงที่ทรงงานดึกจึงจะพักผ่อนที่ตำหนักเฉียนชิงเพื่อให้ฮองเฮาพักผ่อนเต็มที่ ไม่ต้องตื่นกลางดึกสุ่ยฝานหรงซึ่งบัดนี้ได้รับการแต่งตั้งดำรงตำแหน่งอัครมหาเสนาบดีนั้น บางวันจะพาเหมยกุ้ยเข้าวังมาส่งที่ตำหนักคุนหนิงในช่วงเช้า และมารับกลับหลังจากประชุมขุนนางเสร็จ ชีวิตของสุ่ยเฉินเฟิงจึงไม่เงียบเหงาเกินไป ส่วนถิงถิงซึ่งบัดนี้เป็นนางกำนัลคนสนิทของฮองเฮาก็ช่างมีเรื่องซุบซิบมาเล่าให้ฟัง แม้กระทั่งองค์หญิงนาราที่เสวยผลไป่เซียงกั่วเพื่อให้เกิดผื่นจะได้ยืดเวลาการอยู่ในวังหลวงเพื่อมีเวลาขอถวายตัวเป็นสนมก็มาเล่าให้ฟัง เรียกได้ว่าทั้งเรื่องเก่าเรื่องใหม่ถิงถิงไม่ค่อยจะพลาดข่าว ถิงถิงมีความเห็นว่ารู้มากหน่อยดีกว่ารู้น้อยไปเมื่อสุ่ยฝานหรงเข้ารับตำแหน่งอัครมหาเสนาบดีแล้ว ฮ่องเต้เทียนคงอิงฉง เทียนตี้หย่ง ก็ต้องวางกำลังคนที่ไว้ใจให้ควบคุมหน่วยกำลัง

  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 111 เข้าวัง

    ไทเฮาสือจินอวี้ลุกขึ้นจากที่ประทับ ตรงไปยังองค์หญิงนาราที่นั่งคุกเข่า ใช้สองพระหัตถ์แตะไหล่ประคองให้องค์หญิงน้อยลุกขึ้นยืน แล้วตรัสว่า “องค์หญิงนารามีหน้าตาสวยงามและเพียบพร้อมด้วยความรู้ ไม่ควรจะมาเป็นสนม ความหวังดีนี้ไม่อาจรับไว้ได้ ขอให้แคว้นต้าเจียและเผ่าตู้ผูกพันเป็นมิตรที่ดีต่อกันเถิด”ภายนอกมีเสียงดังขึ้นว่า “ฮ่องเต้เสด็จ”เมื่อร่างสูงสง่าของฮ่องเต้ก้าวเข้ามาในโถงกลางของวังหลัง พระองค์ทำความเคารพไทเฮาก่อน แล้วจึงหันไปตรัสแก่ผู้อื่นที่ทำความเคารพว่า “ไม่ต้องมากพิธี” องค์หญิงน้อยมองด้วยสายตาหลงใหลเทียนตี้หย่งแย้มพระโอษฐ์เล็กน้อยแล้วตรัสด้วยสุรเสียงจริงจังว่า “เจิ้นขอบใจในน้ำใจของถู่ซือและองค์หญิง แต่ไม่อาจรับไว้ได้ ต้าเจียและเผ่าตู้ไม่จำเป็นต้องผูกพันกันด้วยการอภิเษกหรือการเป็นสนม แต่ยังเป็นพันธมิตรกันต่อไปได้”องค์หญิงน้อยทำได้เพียงกล่าวเสียงเบาว่า “เพคะ” รู้สึกอับอายแทบแทรกแผ่นดิน ไม่คิดมาก่อนว่าจะถูกปฏิเสธแม้แต่การเป็นสนม เทียนตี้หย่งหันไปทางทูตเผ่าตู้แล้วตรัสว่า “เผ่าตู้มีสินค้าหายากหลายอย่างที่ต้าเจียไม่มี เจิ้นจะให้ทูตการค้าต้าเจียหารือเรื่องการพัฒนาการค้าขายระหว่างกันดีห

  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 110 ใคร ๆ ก็หลงรักฮ่องเต้ผู้สง่างาม

    พระราชพิธีบรมราชาภิเษกเป็นไปอย่างยิ่งใหญ่อลังการ เทียนตี้หย่ง ขึ้นครองราชย์สถาปนาเป็นฮ่องเต้เทียนคงอิงฉง ราษฎรทั่วแคว้นต้าเจียเฉลิมฉลองเจ็ดวันเจ็ดคืน พวกเขาล้วนมีความหวังที่ยิ่งใหญ่กว่าครั้งใดที่เคยหวัง ต่างแคว้นล้วนส่งทูตมาแสดงความยินดี ไม่มีแคว้นใดหาญกล้าทดสอบความแข็งแกร่งของฮ่องเต้พระองค์ใหม่เผ่าตู้เป็นชนเผ่าที่เคยถูกแคว้นต้าเลี่ยงรุกรานและสร้างความอัปยศให้แก่องค์หญิงหลายองค์จนปลิดชีพตนเอง เมื่อแคว้นต้าเจียปราบปรามแคว้นต้าเลี่ยงทำให้เผ่าตู้ได้รับอิสระอีกครั้ง เมื่อมาแสดงความยินดีในครั้งนี้ มีองค์หญิงน้อยเผ่าตู้ร่วมเดินทางมาด้วย องค์หญิงนาราเป็นองค์หญิงองค์เดียวที่ปลอดภัยจากการรุกราน เนื่องจากช่วงเวลานั้นไม่ได้อยู่ในดินแดนเผ่าตู้ ในท้องพระโรง พระเจ้าเทียนคงอิงฉง เทียนตี้หย่ง ประทับอยู่บนบัลลังก์มังกร พระพักตร์ขาวใส ดวงตาดำขลับยาวรีปลายชี้ฟ้า จมูกโด่งเป็นสัน ช่างสง่างามเหลือเกิน องค์หญิงน้อยมองดูด้วยความตะลึง หลงรักบุรุษผู้สง่างามนี้ทันทีเทียนตี้หย่งแย้มพระโอษฐ์ขอบคุณแคว้นต่าง ๆ ที่มาร่วมแสดงความยินดี และเชิญทูตทุกแคว้นทุกชนเผ่าเข้าร่วมงานเลี้ยงในตอนเย็น เนื่องจากยังไม่มีการแต่งตั

  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 109 เทพสงครามครองบัลลังก์มังกร

    หลังจากพระเจ้าเต๋อหมิงได้รับบาดเจ็บ คณะหมอหลวงก็พยายามทุกวิธีในการรักษา เพราะฤทธิ์ยาระงับความเจ็บปวดที่หมอหลวงปรุงขึ้น แม้พระพักตร์จะขาวซีดแต่ก็ไม่แสดงถึงความเจ็บปวด เวลาผ่านไปสิบกว่าวัน ลมหายใจที่แผ่วเบานั้นก็หยุดนิ่ง หัวหน้าหมอหลวงตรวจชีพจรอีกครั้งก่อนจะหันมาทูลต่อไทเฮาสือจินอวี้ว่า“พระองค์กลับคืนสู่สวรรค์แล้วพ่ะย่ะค่ะ”ไทเฮาสือจินอวี้ตัวอ่อน เป็นลมล้มพับ ฉินอ๋อง เทียนตี้หย่ง ที่ยืนอยู่ใกล้กันรับตัวเสด็จป้าสะใภ้ไว้ทันก่อนพระวรกายกระทบพื้น หมอหลวงแบ่งคนมาปฐมพยาบาลไทเฮา ความเศร้าโศกเสียใจล้นห้องบรรทมออกไปครอบคลุมวังหลวงและกระจายออกไปทั่วแคว้น พระเจ้าเต๋อหมิงเป็นผู้ปกครองใต้หล้าด้วยความเมตตา จึงเป็นที่รักใคร่ของราษฎร ในช่วงเวลาอันเศร้าหมอง ฉินอ๋องเป็นกำลังหลักในการสั่งการเรื่องต่าง ๆ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยหลังจากพิธีการต่าง ๆ ผ่านพ้นไป ไทเฮาสือจินอวี้ก็เรียกฉินอ๋องเข้าเฝ้า สุ่ยเฉินเฟิงดูแลเครื่องแต่งกายให้พระสวามี ฉินอ๋องใช้นิ้วดันคางของนางให้เงยหน้าขึ้น“เฟิงเอ๋อร์ เจ้ากังวลอะไรหรือ”สุ่ยเฉินเฟิงถอนหายใจ “ไม่แน่ว่าการเรียกตัวเข้าเฝ้าในครั้งนี้จะเกี่ยวข้องกับบัลลังก์ที่ว่างอยู่เพ

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status