Share

บทที่ 10 แผนทรมานกาย

Author: Luffy.g
last update Huling Na-update: 2024-11-23 17:12:04

หลังจากผ่านไปอยู่หลายวัน ฮวาอิงหลงก็ไม่มีข่าวคราวเกี่ยวกับฟางซินเย่เพิ่มขึ้นสักนิด หนำซ้ำเขายังอันตรธานหายไปราวกับไม่เคยมีเรื่องราวค่ำคืนนั้นเกิดขึ้น

ฮวาอิงหลงเอาแต่กระสับกระส่ายด้วยความร้อนรน นางรู้สึกคับแค้นใจอย่างหนัก ตั้งแต่เกิดมาฮวาอิงหลงไม่เคยคิดจะยอมแพ้ และไม่ยอมให้ใครมาเอาเปรียบนางง่ายๆ เช่นนี้เป็นแน่

ฮวาอิงหลงยืนอยู่หน้าเรือนโกโรโกโส พร้อมทอดสายตามองไปเบื้องบน ฟ้าส่งข้ามาเช่นนี้ก็ควรให้โชคกับข้าเสียบ้างสิ เหตุใดจึงต้องกลั่นแกล้งข้าขนาดนี้ด้วยเล่า ฮวาอิงหลงนึกโกรธเคืองฟ้าดินที่นำพาโชคชะตาอันเลวร้ายนี้มาให้กับนาง

“คุณหนู เข้าไปภายในบ้านก่อนเถิดเจ้าค่ะ ท่านเพิ่งหายไข้ได้ไม่นาน ระวังจะล้มป่วยขึ้นมาอีกหน” เสี่ยวม่านร้องท้วงออกมาด้วยความเป็นห่วงเป็นใย ร่างกายของนายหญิงยังไม่แข็งแรงมากนัก นางเพิ่งจะหายป่วยหนัก ซ้ำยังต้องไปปรนนิบัติท่านแม่ทัพอีก เสี่ยวม่านจึงเกรงว่าร่างกายของฮวาอิงหลงจะรับไม่ไหวเอา

ฮวาอิงหลงได้ยินเช่นนั้นก็เบิกตากว้างด้วยความดีใจ นางนึกแผนการดีๆ ขึ้นมาในหัวอย่างรวดเร็ว ต้องขอบคุณเสี่ยวม่านจริงๆ ที่กระตุ้นให้นางได้ฉุกคิดขึ้นมา แผนทรมานกายมีอยู่ในบทละครทั้งหลายที่นางเล่น ขอเพียงแค่ล้มป่วยและทำตัวให้น่าสงสารสักหน่อย ขี้คร้านฟางซินเย่จะต้องยอมใจอ่อนให้นางเป็นแน่ ฮวาอิงหลงคิดอย่างมีกำลังใจเพิ่มขึ้น นางยกยิ้มขึ้นมาอย่างเจ้าเล่ห์ พร้อมบทละครในหัวที่แล่นเข้ามาเป็นฉากๆ

“เสี่ยวม่าน เจ้าช่างฉลาดยิ่งนัก ขอบใจเจ้ามาก” ฮวาอิงหลงร้องดีใจ พร้อมโผกอดเสี่ยวม่านไว้แน่น

เสี่ยวม่านถึงกับงงงวยกับท่าทีของนายหญิงที่มี นางได้แต่มองตาปริบๆ อย่างไม่เข้าใจ แต่เสี่ยวม่านก็อดที่จะยิ้มตามนายหญิงของตนอย่างเสียมิได้

ฮวาอิงหลงไม่รอช้า นางรีบเดินตรงไปหยิบที่ถังน้ำ ก่อนจะหยิบถังน้ำเย็นจัดขึ้นมาก่อนจะเทราดรดบนตัวนางตั้งแต่หัวจรดเท้า

“คุณหนู...ทำท่านสิ่งใดกัน” เสี่ยวม่านร้องออกมาอย่างตกใจ ก่อนจะรีบดึงถังไม้ออกจากมือของฮวาอิงหลง แล้วรีบพยุงนางกลับเข้าไปในเรือนเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าเสียใหม่

ทว่าฮวาอิงหลงกลับเบี่ยงตัวหนี นางกอดอกไว้แน่นด้วยความหนาวสั่น “เสี่ยวม่านเจ้าไม่ต้องสนใจ ข้ามีสติดี” ฮวาอิงหลงพูดไปพร้อมริมฝีปากที่สั่นเทา ความหนาวเกาะกุมเข้ามาภายในเรือนร่างของตนแทบทุกอณูขุมขน ขนของนางลุกชันขึ้นอย่างอัตโนมัติ พร้อมร่างบางที่สั่นไหวจากความเย็นจัดที่ได้รับ

“คุณหนู ท่านจะป่วยเอาได้นะเจ้าคะ” เสี่ยวม่านยังคงดื้อดึงเมื่อเห็นฮวาอิงหลงยังคงยืนอยู่เช่นนั้น หิมะที่ตกลงมาโปรยปรายยิ่งทำให้อากาศรอบข้างหนาวเหน็บไปถึงขั้วหัวใจ

“เจ้าอย่าได้พูดมากไป ฟังข้าให้ดี หากข้าล้มป่วยลง เจ้าต้องรีบหาทางไปรายงานท่านแม่ทัพให้ได้ แล้วก็เจ้าก็พูดให้มากความเสียหน่อย ข้าเชื่อว่าท่านแม่ทัพต้องมาหาข้าเป็นแน่” ฮวาอิงหลงกำชับด้วยน้ำเสียงสั่น ฟันบนล่างกระทบกันเสียงดังกึกๆ หากแต่นางยังคงอดทนยืนอยู่ตรงหน้าเช่นเดิม ลมหนาวที่พัดผ่านร่างกายบางทำเอาฮวาอิงหลงถึงกับสั่นสะท้าน

“คุณหนู เหตุใดท่านต้องทำร้ายตัวเองเช่นนี้ พวกเราหาวิธีอื่นกันเถิดเจ้าค่ะ” เสี่ยวม่านยังคงไม่ยอมแพ้ นางเป็นห่วงร่างบางตรงหน้ายิ่งนัก เหตุการณ์คราวก่อนเกือบคร่าเอาชีวิตนายหญิงของตนไป เสี่ยวม่านจึงไม่ต้องการให้ฮวาอิงหลงเสี่ยงด้วยชีวิตเช่นนั้นอีก

“เจ้าหยุดพูดได้แล้ว หากเจ้าต้องการช่วยเหลือข้า เจ้าก็รีบหาวิธีเข้าไปรายงานกับท่านแม่ทัพหลังจากนี้เสียจะดีกว่า” ฮวาอิงหลงเอ่ยออกมาอย่างหงุดหงิด ตอนนี้นางหนาวสั่นจนไม่อาจจะพูดสิ่งใดออกมาได้อีก

เสี่ยวม่านมองดูฮวาอิงหลงด้วยสีหน้าเศร้าหมอง น้ำตาเอ่อคลอด้วยความสงสารจับใจ “เจ้าค่ะ เช่นนั้นข้าจะไปเตรียมสมุนไพรป้องกันไว้ก่อนนะเจ้าคะ” นางรับคำอย่างว่าง่ายเมื่อเห็นว่าฮวาอิงหลงไม่มีทางเชื่อคำพูดนางเป็นแน่

เสี่ยวม่านรีบวิ่งออกไปเพื่อตระเตรียมสมุนไพรเอาไว้ในยามฉุกเฉิน ฮวาอิงหลงมองตามเสี่ยวม่านไปพร้อมยิ้มกว้างขึ้นมาอย่างอุ่นใจ นางช่างโชคดีเสียจริงที่มีเสี่ยวม่านคอยอยู่เคียงข้างนางเสมอ

ผ่านไปเพียงวันครึ่ง ฮวาอิงหลงก็จับไข้ขึ้นมาอีกครั้ง ร่างบางสั่นเทาด้วยพิษไข้ที่สะสม ประกอบกับร่างกายยังอ่อนแอจากช่วงที่ผ่านมาก

“ข้าคิดถึงบ้าน...” ฮวาอิงหลงเพ้อออกมาจากจิตใต้สำนึกที่มี นางคิดถึงชีวิตในชาติภพเดิมของนาง ชีวิตที่พรั่งพร้อมไปด้วยทุกสิ่ง ทั้งเงินทอง ทั้งชื่อเสียง ทั้งความสะดวกสบายอย่างที่ไม่อาจเทียบได้กับปัจจุบัน

เสี่ยวม่านน้ำตาซึม นางรีบป้อนยาให้ฮวาอิงหลงอย่างช้าๆ จนเสร็จเรียบร้อย จากนั้นนางก็รีบออกจากเรือนไปหาเฉินเม่าในทันที

เฉินเม่าที่พอจะรู้เรื่องอยู่ก่อนแล้ว นางรีบพาเสี่ยวม่านลัดเลาะไปตามทางก่อนจะหยุดอยู่ด้านหน้าจวนอย่างใจจดใจจ่อ

เสี่ยวม่านรอคอยฟางซินเย่อยู่พักใหญ่ ก่อนจะเห็นเขาปรากฏตัวขึ้น ฟางซินเย่เพิ่งกลับมาจากด้านนอก พร้อมองครักษ์ติดตามอยู่อีกจำนวนหนึ่ง

เสี่ยวม่านไม่รอช้า นางรีบถลาเข้าไปตรงหน้าฟางซินเย่ พร้อมคุกเข่าและโขกศีรษะลงกับพื้นอย่างแรง “ท่านแม่ทัพ ได้โปรดช่วยคุณหนูด้วยเถิดเจ้าค่ะ” น้ำเสียงสะอึกสะอื้นของเสี่ยวม่าน ทำให้ฟางซินเย่ถึงกับเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย

“เจ้าคือ...” ฟางซินเย่เอ่ยถามออกมาอย่างไม่แน่ใจ

“นางคือเสี่ยวม่าน สาวใช้ที่ติดตามฮวาอิงหลงขอรับ” พ่อบ้านรีบรายงานทันที

“เกิดอะไรขึ้น คุณหนูฮวาเป็นอะไร” ฟางซินเย่ถึงกับใจหายวูบเมื่อได้ยินคำตอบ เขารีบถามถึงฮวาอิงหลงในทันทีด้วยความลืมตัว

“คุณหนูป่วยหนักเจ้าค่ะ ตอนนี้ไข้ขึ้นสูงจนไม่ได้สติ บ่าวเกรงว่า...เกรงว่าคุณหนู...” เสี่ยวม่านไม่พูดอะไรออกมาอีก นางเอาแต่ร้องไห้สะอึกสะอื้นจวนเจียนจะขาดใจตาย

ฟางซินเย่มีสีหน้าเข้มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด “พ่อบ้านตามหมอด่วน” เขารีบหันไปสั่งพ่อบ้าน ก่อนจะสาวเท้าเดินไปยังเรือนของฮวาอิงหลงอย่างเร่งรีบ

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • ดาราสาวเช่นข้ากลายมาเป็นสาวใช้อุ่นเตียง   บทที่ 72 เริ่มต้นวันใหม่

    บทที่ 72 เริ่มต้นวันใหม่ค่ำคืนอันเงียบสงบ แสงจันทร์ส่องผ่านหน้าต่างที่เปิดออกเล็กน้อย ลมพัดเบาๆ พาเอากลิ่นหอมของดอกเหมยที่บานสะพรั่งอยู่รอบจวนลอยมาแตะจมูก ภายในห้องนอนใหญ่ท่ามกลางแสงสลัวนั้น ฟางซินเย่นอนมองหน้าฮวาอิงหลงนอนคุดคู้อยู่บนเตียง นางดูน่าหลงใหลยิ่งขึ้นเมื่อแสงจันทร์ตกกระทบบนใบหน้าที่ผุดผาดฮวาอิงหลงยิ้มยั่วยวนเมื่อเห็นสายตาของฟางซินเย่ที่มองมาด้วยความปรารถนาอันเร่าร้อนที่ไม่อาจซ่อนเร้น“อิงเอ๋อร์...” ฟางซินเย่ยื่นมือขึ้นลูบไล้ไปตามลำแขนขาวก่อนจะไล่ลงมาตามลำตัวจนกระทั่งถึงหน้าท้องที่เริ่มนูนขึ้นมา “พ่อเจ้าต้องการแม่เจ้าเหลือเกิน เจ้าอนุญาตหรือไม่” ฟางซินเย่เพ้อออกมาด้วยเสียงกระเส่า เขาพูดไปพลางปรายตามองฮวาอิงหลงด้วยสายตากรุ้มกริ่มฮวาอิงหลงยิ้มเขินออกมาอย่างรู้ทัน นางโน้มตัวขึ้นเกยบนร่างหนาของฟางซินเย่ในทันที สองมือของฟางซินเย่ช้อนร่างบางขึ้นคร่อมตัวเขาอย่างระมัดระวังด้วยเกรงจะกระทบถึงบุตรในท้องฟางซินเย่หยัดกายขึ้นเล็กน้อยพร้อมสองมือที่ยังคงลูบไล้ไปตามหน้าอกอิ่มนูนของฮวาอิงหลงอย่างหลงใหล ลมหายใจเริ่มติดขัดขึ้นมาพร้อมกับปากที่เป่าลมร้อนออกอย่างต้องการสะกดกลั้นอารมณ์เอาไว้ฮว

  • ดาราสาวเช่นข้ากลายมาเป็นสาวใช้อุ่นเตียง   บทที่ 71 อำลาเมืองหลวง

    บทที่ 71 อำลาเมืองหลวงเสียงกลองและแตรสัญญาณดังกึกก้องไปทั่วบริเวณลานวังหลวง ขันทียกราชโองการขึ้นประกาศ “ฮ่องเต้มีราชโองการ ด้วยบุญบารมีของราชวงศ์โจวทำให้เชื้อพระวงศ์กลับคืนสู่ราชวงศ์ ข้าขอแต่งตั้งฟางซินเย่เป็นองค์ชายโจวซินเย่ แต่งตั้งฮวาอิงหลงเป็นพระชายาอ๋อง และแต่งตั้งเฉินเม่าเป็นองค์หญิงโจวเหยาหยาง จบราชโองการ” ฟางซินเย่โน้มรับราชโองการด้วยใบหน้าเรียบสงบ เผยให้เห็นความสง่าผ่าเผยอยู่ในที ในขณะที่ฮวาอิงหลงและเฉินเม่ากลับแสดงสีหน้ากึ่งยิ้มกึ่งเกร็งด้วยความตื่นเต้นกังวลกับการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันเช่นนี้ จากสาวใช้ในจวนแม่ทัพคนหนึ่งได้เป็นองค์หญิง ส่วนอีกคนได้เป็นพระชายาอ๋องช่างเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์ยิ่งนักหลังเสร็จสิ้นการประกาศแต่งตั้งเฉินเม่าก็ได้ย้ายไปอยู่ที่จวนโจวหนานเอ๋อร์ ผู้เป็นมารดาของนาง ทว่าสำหรับฟางซินเย่นั้นกลับเลือกที่จะขอพำนักที่จวนแม่ทัพตามเดิมโจวหนานเอ๋อร์แม้จะรู้สึกไม่ค่อยพอใจมากนัก แต่ก็ไม่ต้องการหักหาญน้ำใจของบุตรชาย นางจึงเพียงกำชับฮวาอิงหลงให้หมั่นไปเยี่ยมเยียนตนที่จวนให้บ่อยครั้งในช่วงบ่ายวันหนึ่ง ฟางซินเย่และฮวาอิงหลงเดินทางไปยังจวนฉางกงจู่ โจวหนานเอ๋อร์และเฉ

  • ดาราสาวเช่นข้ากลายมาเป็นสาวใช้อุ่นเตียง   บทที่ 70 ลูกของข้า

    บทที่ 70 ลูกของข้าราชโองการถูกประกาศปล่อยตัวฟางซินเย่ในวันต่อมาโดยทันที ในที่สุดฟางซินเย่ก็ถูกปล่อยตัวหลังจากถูกคุมขังมาเป็นเวลาหลายวันเมื่อฟางซินเย่ได้รับอิสรภาพ เขาก้าวออกจากคุกด้วยความมุ่งมั่นและดวงตาที่เต็มไปด้วยความคิดถึงฮวาอิงหลง หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความถวิลหานาง ดั่งว่านี่คือการเดินทางที่ยาวนานที่สุดของชีวิตเขา“อิงเอ๋อร์...ข้าไม่ยอมสูญเสียเจ้าไปเป็นอันขาด” ฟางซินเย่กล่าวกับตนเองขณะที่ก้าวขึ้นม้าด้วยความกระตือรือร้น ก่อนจะพุ่งตรงไปยังจวนอ๋องเมื่อฟางซินเย่ถึงจวนอ๋อง เขาปรี่ตรงเข้าไปหาโจวอี้เสวียนในทันที สองมือกุมคอเสื้อของโจวอี้เสวียนอย่างไม่นึกหวั่นเกรงสิ่งใดอีกต่อไป ดวงตาแดงก่ำด้วยโทสะที่มี พร้อมกล่าวออกไปด้วยน้ำเสียงกัดฟันกรอด “อิงเอ๋อร์...อยู่ที่ใด”โจวอี้เสวียนหันมามองเขาด้วยดวงตาเย็นชา ใบหน้าของชายหนุ่มที่พรากหัวใจของหญิงสาวคนรักของตนไปทำให้เขานึกครึ้มอย่างจะกลั่นแกล้งฟางซินเย่อีกสักหน่อย โจวอี้เสวียนยิ้มเยาะขึ้นมา “ท่านแม่ทัพ...เหตุใดข้าต้องตอบคำถามเจ้าด้วยเล่า”คำพูดยียวนทำเอาฟางซินเย่ถึงกับบันดาลโทสะ เขาง้างมือขึ้นเตรียมจะชกหน้าโจวอี้เสวียน แต่องครักษ์ข้างกายของโจวอ

  • ดาราสาวเช่นข้ากลายมาเป็นสาวใช้อุ่นเตียง   บทที่ 69 ฝืนยอมรับ

    บทที่ 69 ฝืนยอมรับในท้องพระโรงที่โอ่โถง บรรยากาศยังคงเต็มไปด้วยความตึงเครียดและกดดัน โจวจางเย่วประทับอยู่บนบัลลังก์ด้วยสีหน้าเข้มขรึมและดวงตาที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว โจวอี้เสวียนที่ยืนหน้าเครียดอยู่ด้านข้าง ทั้งสองกำลังถกเถียงกันอย่างดุดัน“อี้เสวียน...เจ้าช่างบังอาจนัก เจ้ากล้าทำเรื่องเช่นนี้เพียงเพื่อสตรีนางเดียวอย่างนั้นหรือ” โจวจางเย่วชี้นิ้วไปยังโจวอี้เสวียนด้วยความเกรี้ยวกราดโจวอี้เสวียนยืนนิ่งเงียบแต่ดวงตาเต็มไปด้วยความดื้อรั้น “ข้าไม่มีทางเลือก ในเมื่อเสด็จพ่อมิทรงทำสิ่งใด เช่นนั้นข้าก็จำเป็นต้องหาทางของข้าเอง”“เจ้านี่ช่างโง่เขลายิ่งนัก” โจวจางเย่วแค่นเสียงออกมาด้วยความขัดเคืองใจ “ความรักของเจ้าทำให้เจ้าลืมเลือนความเป็นบุตรหลานแห่งราชวงศ์แล้วหรือ เจ้าลืมแล้วหรือว่าเจ้ามีสถานะเช่นใด เจ้าลืมแล้วหรือว่าบัลลังก์แห่งนี้วันหน้าต้องเป็นของเจ้า เจ้ากลับผิดแผนชั่วเพื่อแย่งชิงภรรยาผู้อื่น เช่นนั้นต่อไปจะมีผู้ใดในแคว้นเคารพและนับถือเจ้า จะมีผู้ใดยอมรับใช้ถวายหัวให้กับเจ้า แม่ทัพฟางเป็นเสาหลักของแคว้น หากเจ้ากำจัดเขาทิ้ง เจ้าคิดหรือว่าบัลลังก์แห่งนี้จะมั่นคงอยู่ได้”โจวอี้เสวียนกัด

  • ดาราสาวเช่นข้ากลายมาเป็นสาวใช้อุ่นเตียง   บทที่ 68 พบพาน

    บทที่ 68 พบพานภายในห้องขังที่แสนอับชื้นและเหน็บหนาว เสียงกุญแจที่บานประตูคุกหลวงสะท้อนเสียงดังไปทั่ว ฟางซินเย่ที่นั่งพิงผนังหินเย็นเฉียบตาแดงก่ำมองดูหนังสือหย่าที่เพิ่งได้รับ มือของเขาสั่นเทาอย่างไม่อาจควบคุมได้ ริมฝีปากแห้งผากเผยอเบาๆ ออกมาราวกับจะกล่าวคำใด แต่ทุกคำกลายเป็นเพียงเสียงหายใจที่ตัดรอน “อิงเอ๋อร์...” ฟางซินเย่พร่ำเอ่ยชื่อของฮวาอิงหลงออกมาด้วยดวงตาสั่นไหวที่คงความขมขื่นไว้ในห้วงแห่งความโศกเศร้า“อิงเอ๋อร์...เหตุใดต้องทำเช่นนี้เพื่อข้า” ฟางซินเย่คร่ำครวญออกมา ใบหน้าเปลี่ยนสีแดงก่ำราวกับเปลวเพลิงร้อนรุ่ม “เจ้ายอมแต่งงานกับโจวอี้เสวียนเพียงเพื่อรักษาชีวิตข้า...ข้าคือผู้ชายที่ไร้ค่าเพียงนี้เชียวหรือ...” เขาหัวเราะออกมาด้วยเสียงที่ขาดหายราวกับจะกลั้นไม่ให้เสียงสะอื้นเล็ดลอดออกมา ความรันทดอดสูใจทำให้เขาถึงกับกุมหมัดขึ้นทุบผนังหิน เลือดไหลซึมออกมาหยดลงเป็นทางยาว ความเจ็บปวดของร่างกายกลับไม่อาจเทียบความเจ็บปวดภายในใจที่มีได้ในขณะที่บรรยากาศคุกขังอัดแน่นไปด้วยความเจ็บปวดและสิ้นหวัง ภายในเฉินเม่าและเสี่ยวม่านกลับไม่อาจทนอยู่เฉยได้อีกต่อไป ความทุกข์ร้อนของพี่น้องร่วมสาบานเช่นฮวาอิง

  • ดาราสาวเช่นข้ากลายมาเป็นสาวใช้อุ่นเตียง   บทที่ 67 แผนร้าย

    บทที่ 67 แผนร้ายภายในโถงใหญ่ในจวนอ๋อง โจวอี้เสวียนที่หน้าตาเคร่งเครียดยืนอยู่อย่างหัวเสีย ความหงุดหงิดก่อตัวภายในใจที่นึกไว้ใจคนที่ไม่ได้เรื่องเช่นเฉินเฉียวเหยา หากนางไม่ไร้ความสามารถเช่นนี้โอกาสที่เขาจะกำจัดเสี้ยนหนามหัวใจอย่างฟางซินเย่ย่อมเห็นเป็นรูปร่างมากขึ้น ข้าวของถูกปาแตกกระจายด้วยโทสะที่คุกรุ่นอยู่ภายใน เขาก้าวเดินวนไปมาอย่างต้องการใช้ความคิดสักครู่หนึ่งโจวอี้เสวียนตะโกนเรียกองครักษ์คนสนิทเข้ามา “พวกเจ้าจงไปทำตามที่ข้าสั่งให้เรียบร้อยเดี๋ยวนี้” โจวอี้เสวียนออกคำสั่งด้วยเสียงเข้มขรึม ดวงตาคมเข้มเปี่ยมด้วยความมุ่งมั่นที่ไม่รู้จักพ่ายแพ้องครักษ์ค้อมศีรษะรับคำสั่งทันที “ขอรับท่านอ๋อง”โจวอี้เสวียนเหม่อมองออกไปภายนอกห้องด้วยความคิดอันแยบยล หากแผนการแรกผิดพลาด เขาย่อมต้องมีแผนที่สองเตรียมรับมือไว้เป็นแน่ผ่านไปเพียงไม่ถึงเดือน กองกำลังทหารของโจวอี้เสวียนก็เข้าปิดล้อมจวนแม่ทัพอย่างรวดเร็ว ฟางซินเย่เดินอย่างอาจหาญออกมาเผชิญหน้าเหล่าทหารของโจวอี้เสวียน โดยมีเหล่าทหารกองทัพของฟางซินเย่ยืนประจัญบานเตรียมพร้อมสำหรับการโจมตี“แม่ทัพฟางซินเย่ ข้าน้อยได้รับคำสั่งให้ตรวจค้นจวนของท่าน โปรดใ

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status