Share

บทที่ 9 เหตุใดกัน

Author: Luffy.g
last update Huling Na-update: 2024-11-23 17:11:44

เช้าวันต่อมา ฮวาอิงหลงลืมตาตื่นขึ้นด้วยความอ่อนเพลีย ร่างกายปวดร้าวไปแทบทุกส่วน นางเหลียวซ้ายแลขวามองไปรอบๆ ห้องก็ไม่พบฟางซินเย่ ฮวาอิงหลงรีบลุกขึ้น พร้อมใช้ความคิดอย่างหนัก

ฟางซินเย่ไม่พอใจอะไรในตัวนางกันแน่ หากเป็นคนปกติทั่วไปเจอมารยาที่นางงัดมาใช้แทบทุกเม็ด อย่างน้อยก็ย่อมต้องเอ็นดูนางบ้างเป็นแน่ ผิดกับท่าทีของฟางซินเย่ที่มีต่อนาง เขาสุขสมกับสิ่งที่นางปรนเปรอให้อย่างไม่อาจปฏิเสธ แต่ภายหลังกลับทำท่าทีบึ้งตึงราวกับคนที่มีความเคียดแค้นกันมายาวนานอย่างไรอย่างนั้นเชียว

ยังไม่ทันที่ฮวาอิงหลงจะได้คิดหาคำตอบ เจ้าหมัวมัวก็เดินเข้ามาพร้อมถาดอาหาร “ท่านแม่ทัพให้เจ้าทานข้าวให้เรียบร้อย แล้วรีบกลับเรือนพักของเจ้าเสีย” น้ำเสียงที่ดูไม่เป็นมิตรมากนัก ทำเอาฮวาอิงหลงถึงกับขมวดคิ้วแน่น

เจ้าหมัวมัวรู้สึกหงุดหงิดใจยิ่งนัก นางนึกว่าเช้านี้นายท่านจะเรียกให้ไปรับรางวัลใหญ่ แต่เรื่องราวกลับกลายเป็นนายท่านกลับมีท่าทางเย็นชา พร้อมสั่งให้นางพาฮวาอิงหลงกลับเรือนพักเสียนี่ นี่ไม่เท่ากับท่านแม่ทัพไม่โปรดปรานฮวาอิงหลงหรอกหรือ เสียแรงที่นางทุ่มเทไปไม่น้อย นึกว่าจะได้ประจบเอาใจนายท่านเสียหน่อย

ฮวาอิงหลงเม้มปากแน่น ก่อนจะค่อยๆ เดินเข้ามาประคองร่างเจ้าหมัวมัวอย่างเอาใจ “ท่านหมัวมัวเจ้าขา ท่านแม่ทัพไม่พอใจสิ่งใดข้าหรือเจ้าคะ” นางพยายามเลียบๆ เคียงๆ ถามอย่างต้องการรู้สาเหตุ

“เหอะ...เจ้าปรนนิบัตินายท่านทั้งคืน พอใจหรือไม่พอใจเหตุใดต้องมาถามข้ากันเล่า รีบกินแล้วก็รีบกลับเรือนเจ้าได้แล้ว ไม่มีคำสั่งนายท่านก็ไม่ต้องเสนอหน้ามาอีกเล่า” เจ้าหมัวมัวสะบัดเสียงใส่อย่างดูถูก ก่อนจะกระแทกถาดอาหารลงบนโต๊ะแล้วเดินออกไปอย่างไม่ใส่ใจ

ฮวาอิงหลงมองตาค้าง นางข่มใจเอาไว้อย่างหนักที่จะไม่กรี๊ดออกมา ฟางซินเย่นะฟางซินเย่ ดาราตัวแม่อย่างเนตรดาวลงแรงแสดงถึงขนาดนี้ เจ้ายังกล้าบอกว่าไม่พอใจอีกหรือ เจ้าช่างดูถูกข้ามากเกินไปแล้วจริงๆ

ฮวาอิงหลงสะบัดตัวนั่งลง อาหารตรงหน้าถูกจัดเตรียมมาอย่างดี ทำเอาท้องนางร้องประท้วงขึ้นมาด้วยความหิว ฮวาอิงหลงไม่คิดอะไรอีกแล้ว นางรีบกินอาหารตรงหน้าราวกับจะเป็นอาหารมื้อสุดท้ายของนางทีเดียว

หลังจากจัดการตัวเองเป็นที่เรียบร้อย ฮวาอิงหลงก็ไม่ลืมห่ออาหารบางส่วนเก็บกลับมาให้เสี่ยวม่านและเฉินเม่า ตั้งแต่พวกนางมาอยู่ที่จวนแห่งนี้ อาหารดีสุดที่ได้กินคงเป็นโจ๊กสีใสจนแทบมองเห็นก้นชามกระมัง

ฮวาอิงหลงรีบเร่งไปหาเสี่ยวม่านในทันที ขณะนั้นเสี่ยวม่านและเฉินเม่ากำลังนั่งรอฮวาอิงหลงอย่างใจจดใจจ่อ พอเสี่ยวม่านได้เห็นฮวาอิงหลง นางก็รีบวิ่งมาประคองฮวาอิงหลงด้วยความรู้สึกดีใจ

“คุณหนู ท่านเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ ท่านแม่ทัพเอ่อ...ทำให้ท่านลำบากหรือไม่” เสี่ยวม่านถามด้วยความเป็นห่วง

“เจ้าไม่ต้องกังวลไป ข้าไม่เป็นอะไรหรอก มานี่สิข้านำอาหารกลับมาบางส่วน พวกเจ้ารีบกินเสียเถอะ” ฮวาอิงหลงพูดพร้อมยื่นกล่องอาหารให้เสี่ยวม่าน เฉินเม่ามองอย่างตาโตที่ได้เห็นอาหารดีๆ มากมายตรงหน้า

“อิงหลง เจ้ามีวาสนาแล้ว ต่อไปพวกเราไม่ต้องทนกินโจ๊กจืดชืดอีกแล้วใช่หรือไม่” เฉินเม่าหยิบอาหารเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย พร้อมเอ่ยถามอย่างมีความหวัง

“ข้าก็ยังไม่รู้เช่นกัน พวกเรารออีกหน่อยเถอะ” ฮวาอิงหลงตอบอย่างไม่เต็มเสียง นางจะพูดออกไปได้อย่างไรว่าพอเช้ามาฟางซินเย่ก็ทิ้งนางไปอย่างไม่ไยดี

เสี่ยวม่านสังเกตสีหน้าไม่ค่อยสู้ดีนักของนายหญิง นางมองหน้าฮวาอิงหลงอย่างมีคำถามมากมาย

“เสี่ยวม่าน เจ้าพอจะรู้หรือไม่ ว่าเมื่อก่อนข้ากับแม่ทัพใหญ่เคยพบปะกันมาก่อนหรือไม่” ฮวาอิงหลงถามคำถามที่ยังค้างคาอยู่ในใจออกมา 

เสี่ยวม่านพยายามนึกอยู่นาน ก่อนจะส่ายหน้าออกมา “เท่าที่ข้าจำได้ คุณหนูไม่น่าจะเคยพบท่านแม่ทัพนะเจ้าคะ”

ฮวาอิงหลงมองหน้าเสี่ยวม่านอีกครั้ง ในเมื่อเสี่ยวม่านพูดเช่นนี้ ทั้งนางเองก็จำไม่ได้เช่นกันว่าเคยเจอฟางซินเย่ในตอนไหน แล้วท่าทีขุ่นเคืองของเขาเกิดจากอะไรกันแน่

“เฉินเม่า ท่านแม่ทัพเคยมีคนรักหรือเพื่อนสนิทอะไรทำนองนี้หรือไม่” ฮวาอิงหลงหันไปถามเฉินเม่าที่เอาแต่เคี้ยวอาหารจนแก้มป่อง

“เท่าที่ข้ารู้เรื่องคนรัก ท่านแม่ทัพไม่น่าจะมี ส่วนเพื่อนสนิทอันนี้ข้าก็ไม่แน่ใจเช่นกัน” เฉินเม่าตอบออกมาตามที่นางรู้เพียงเท่านั้น

ฮวาอิงหลงถึงกับถอนหายใจหนัก ข้อมูลของเสี่ยวม่านและเฉินเม่าไม่ได้ช่วยให้นางคิดหาวิธีจัดการปัญหาได้สักนิด

“เสี่ยวม่าน เช่นนั้นเจ้าลองทบทวนสิว่าข้าเคยล่วงเกินผู้ใดบ้าง” ฮวาอิงหลงหันไปถามเสี่ยวม่านอีกครั้ง

“คุณหนู....เอ่อ...” เสี่ยวม่านก้มหน้านิ่ง ไม่กล้วพูดสิ่งใดออกมา

“เสี่ยวม่าน เจ้าพูดมาเถอะน่า ไม่เช่นนั้นข้าจะคิดหาวิธีจัดการเรื่องนี้ได้อย่างไรกัน” ฮวาอิงหลงรำคาญกับท่าทีอ้ำอึ้งของเสี่ยวม่านเต็มที

“คุณหนู หากจะพูดให้ถูก คงต้องบอกว่าให้ข้าตอบว่าท่านไม่เคยล่วงเกินใครบ้างยังจะดีกว่านะเจ้าคะ” เสี่ยวม่านพูดออกไป พร้อมเม้มปากแน่น

เฉินเม่าที่กำลังกินขนมอยู่ถึงกับพ่นอาหารออกไป พร้อมระเบิดหัวเราะเสียงดัง “อิงหลง เมื่อก่อนเจ้าคงเป็นหญิงที่ร้ายกาจมากทีเดียว”

ฮวาอิงหลงถึงกับทำสีหน้าไม่ถูก สตรีนางนี้แต่ก่อนนิสัยเป็นเช่นใดกัน ถึงได้สร้างศัตรูไปทั่วเช่นนี้ นางถอนหายใจออกมาอย่างหนักด้วยความจนใจ

เสี่ยวม่านหยิบอาหารเข้าปากพร้อมเคี้ยวอย่างระวัง นางมองดูสีหน้าของฮวาอิงหลงที่มีท่าทีกลัดกลุ้มใจก็ยิ่งทำให้นางพลอยไม่สบายใจไปด้วย

“พี่เฉินเม่า เจ้าช่วยข้าสืบที ข้ามีความรู้สึกว่าท่านแม่ทัพต้องมีเรื่องบางอย่างกับข้าเป็นแน่” ฮวาอิงหลงหันไปบอกเฉินเม่าอย่างไม่ตั้งความหวังอีก

“ได้ๆ ข้าจะลองเลียบๆ เคียงๆ ถามเจ้าหมัวมัวกับพ่อบ้านดู ยังไงพวกเราก็ลงเรือลำเดียวกันแล้วนี่นา” เฉินเม่าพยักหน้ารับด้วยท่าทางจริงจัง

ฮวาอิงหลงพยักหน้าพร้อมยิ้มให้กับเฉินเม่าอย่างรู้สึกขอบคุณ

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • ดาราสาวเช่นข้ากลายมาเป็นสาวใช้อุ่นเตียง   บทที่ 72 เริ่มต้นวันใหม่

    บทที่ 72 เริ่มต้นวันใหม่ค่ำคืนอันเงียบสงบ แสงจันทร์ส่องผ่านหน้าต่างที่เปิดออกเล็กน้อย ลมพัดเบาๆ พาเอากลิ่นหอมของดอกเหมยที่บานสะพรั่งอยู่รอบจวนลอยมาแตะจมูก ภายในห้องนอนใหญ่ท่ามกลางแสงสลัวนั้น ฟางซินเย่นอนมองหน้าฮวาอิงหลงนอนคุดคู้อยู่บนเตียง นางดูน่าหลงใหลยิ่งขึ้นเมื่อแสงจันทร์ตกกระทบบนใบหน้าที่ผุดผาดฮวาอิงหลงยิ้มยั่วยวนเมื่อเห็นสายตาของฟางซินเย่ที่มองมาด้วยความปรารถนาอันเร่าร้อนที่ไม่อาจซ่อนเร้น“อิงเอ๋อร์...” ฟางซินเย่ยื่นมือขึ้นลูบไล้ไปตามลำแขนขาวก่อนจะไล่ลงมาตามลำตัวจนกระทั่งถึงหน้าท้องที่เริ่มนูนขึ้นมา “พ่อเจ้าต้องการแม่เจ้าเหลือเกิน เจ้าอนุญาตหรือไม่” ฟางซินเย่เพ้อออกมาด้วยเสียงกระเส่า เขาพูดไปพลางปรายตามองฮวาอิงหลงด้วยสายตากรุ้มกริ่มฮวาอิงหลงยิ้มเขินออกมาอย่างรู้ทัน นางโน้มตัวขึ้นเกยบนร่างหนาของฟางซินเย่ในทันที สองมือของฟางซินเย่ช้อนร่างบางขึ้นคร่อมตัวเขาอย่างระมัดระวังด้วยเกรงจะกระทบถึงบุตรในท้องฟางซินเย่หยัดกายขึ้นเล็กน้อยพร้อมสองมือที่ยังคงลูบไล้ไปตามหน้าอกอิ่มนูนของฮวาอิงหลงอย่างหลงใหล ลมหายใจเริ่มติดขัดขึ้นมาพร้อมกับปากที่เป่าลมร้อนออกอย่างต้องการสะกดกลั้นอารมณ์เอาไว้ฮว

  • ดาราสาวเช่นข้ากลายมาเป็นสาวใช้อุ่นเตียง   บทที่ 71 อำลาเมืองหลวง

    บทที่ 71 อำลาเมืองหลวงเสียงกลองและแตรสัญญาณดังกึกก้องไปทั่วบริเวณลานวังหลวง ขันทียกราชโองการขึ้นประกาศ “ฮ่องเต้มีราชโองการ ด้วยบุญบารมีของราชวงศ์โจวทำให้เชื้อพระวงศ์กลับคืนสู่ราชวงศ์ ข้าขอแต่งตั้งฟางซินเย่เป็นองค์ชายโจวซินเย่ แต่งตั้งฮวาอิงหลงเป็นพระชายาอ๋อง และแต่งตั้งเฉินเม่าเป็นองค์หญิงโจวเหยาหยาง จบราชโองการ” ฟางซินเย่โน้มรับราชโองการด้วยใบหน้าเรียบสงบ เผยให้เห็นความสง่าผ่าเผยอยู่ในที ในขณะที่ฮวาอิงหลงและเฉินเม่ากลับแสดงสีหน้ากึ่งยิ้มกึ่งเกร็งด้วยความตื่นเต้นกังวลกับการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันเช่นนี้ จากสาวใช้ในจวนแม่ทัพคนหนึ่งได้เป็นองค์หญิง ส่วนอีกคนได้เป็นพระชายาอ๋องช่างเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์ยิ่งนักหลังเสร็จสิ้นการประกาศแต่งตั้งเฉินเม่าก็ได้ย้ายไปอยู่ที่จวนโจวหนานเอ๋อร์ ผู้เป็นมารดาของนาง ทว่าสำหรับฟางซินเย่นั้นกลับเลือกที่จะขอพำนักที่จวนแม่ทัพตามเดิมโจวหนานเอ๋อร์แม้จะรู้สึกไม่ค่อยพอใจมากนัก แต่ก็ไม่ต้องการหักหาญน้ำใจของบุตรชาย นางจึงเพียงกำชับฮวาอิงหลงให้หมั่นไปเยี่ยมเยียนตนที่จวนให้บ่อยครั้งในช่วงบ่ายวันหนึ่ง ฟางซินเย่และฮวาอิงหลงเดินทางไปยังจวนฉางกงจู่ โจวหนานเอ๋อร์และเฉ

  • ดาราสาวเช่นข้ากลายมาเป็นสาวใช้อุ่นเตียง   บทที่ 70 ลูกของข้า

    บทที่ 70 ลูกของข้าราชโองการถูกประกาศปล่อยตัวฟางซินเย่ในวันต่อมาโดยทันที ในที่สุดฟางซินเย่ก็ถูกปล่อยตัวหลังจากถูกคุมขังมาเป็นเวลาหลายวันเมื่อฟางซินเย่ได้รับอิสรภาพ เขาก้าวออกจากคุกด้วยความมุ่งมั่นและดวงตาที่เต็มไปด้วยความคิดถึงฮวาอิงหลง หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความถวิลหานาง ดั่งว่านี่คือการเดินทางที่ยาวนานที่สุดของชีวิตเขา“อิงเอ๋อร์...ข้าไม่ยอมสูญเสียเจ้าไปเป็นอันขาด” ฟางซินเย่กล่าวกับตนเองขณะที่ก้าวขึ้นม้าด้วยความกระตือรือร้น ก่อนจะพุ่งตรงไปยังจวนอ๋องเมื่อฟางซินเย่ถึงจวนอ๋อง เขาปรี่ตรงเข้าไปหาโจวอี้เสวียนในทันที สองมือกุมคอเสื้อของโจวอี้เสวียนอย่างไม่นึกหวั่นเกรงสิ่งใดอีกต่อไป ดวงตาแดงก่ำด้วยโทสะที่มี พร้อมกล่าวออกไปด้วยน้ำเสียงกัดฟันกรอด “อิงเอ๋อร์...อยู่ที่ใด”โจวอี้เสวียนหันมามองเขาด้วยดวงตาเย็นชา ใบหน้าของชายหนุ่มที่พรากหัวใจของหญิงสาวคนรักของตนไปทำให้เขานึกครึ้มอย่างจะกลั่นแกล้งฟางซินเย่อีกสักหน่อย โจวอี้เสวียนยิ้มเยาะขึ้นมา “ท่านแม่ทัพ...เหตุใดข้าต้องตอบคำถามเจ้าด้วยเล่า”คำพูดยียวนทำเอาฟางซินเย่ถึงกับบันดาลโทสะ เขาง้างมือขึ้นเตรียมจะชกหน้าโจวอี้เสวียน แต่องครักษ์ข้างกายของโจวอ

  • ดาราสาวเช่นข้ากลายมาเป็นสาวใช้อุ่นเตียง   บทที่ 69 ฝืนยอมรับ

    บทที่ 69 ฝืนยอมรับในท้องพระโรงที่โอ่โถง บรรยากาศยังคงเต็มไปด้วยความตึงเครียดและกดดัน โจวจางเย่วประทับอยู่บนบัลลังก์ด้วยสีหน้าเข้มขรึมและดวงตาที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว โจวอี้เสวียนที่ยืนหน้าเครียดอยู่ด้านข้าง ทั้งสองกำลังถกเถียงกันอย่างดุดัน“อี้เสวียน...เจ้าช่างบังอาจนัก เจ้ากล้าทำเรื่องเช่นนี้เพียงเพื่อสตรีนางเดียวอย่างนั้นหรือ” โจวจางเย่วชี้นิ้วไปยังโจวอี้เสวียนด้วยความเกรี้ยวกราดโจวอี้เสวียนยืนนิ่งเงียบแต่ดวงตาเต็มไปด้วยความดื้อรั้น “ข้าไม่มีทางเลือก ในเมื่อเสด็จพ่อมิทรงทำสิ่งใด เช่นนั้นข้าก็จำเป็นต้องหาทางของข้าเอง”“เจ้านี่ช่างโง่เขลายิ่งนัก” โจวจางเย่วแค่นเสียงออกมาด้วยความขัดเคืองใจ “ความรักของเจ้าทำให้เจ้าลืมเลือนความเป็นบุตรหลานแห่งราชวงศ์แล้วหรือ เจ้าลืมแล้วหรือว่าเจ้ามีสถานะเช่นใด เจ้าลืมแล้วหรือว่าบัลลังก์แห่งนี้วันหน้าต้องเป็นของเจ้า เจ้ากลับผิดแผนชั่วเพื่อแย่งชิงภรรยาผู้อื่น เช่นนั้นต่อไปจะมีผู้ใดในแคว้นเคารพและนับถือเจ้า จะมีผู้ใดยอมรับใช้ถวายหัวให้กับเจ้า แม่ทัพฟางเป็นเสาหลักของแคว้น หากเจ้ากำจัดเขาทิ้ง เจ้าคิดหรือว่าบัลลังก์แห่งนี้จะมั่นคงอยู่ได้”โจวอี้เสวียนกัด

  • ดาราสาวเช่นข้ากลายมาเป็นสาวใช้อุ่นเตียง   บทที่ 68 พบพาน

    บทที่ 68 พบพานภายในห้องขังที่แสนอับชื้นและเหน็บหนาว เสียงกุญแจที่บานประตูคุกหลวงสะท้อนเสียงดังไปทั่ว ฟางซินเย่ที่นั่งพิงผนังหินเย็นเฉียบตาแดงก่ำมองดูหนังสือหย่าที่เพิ่งได้รับ มือของเขาสั่นเทาอย่างไม่อาจควบคุมได้ ริมฝีปากแห้งผากเผยอเบาๆ ออกมาราวกับจะกล่าวคำใด แต่ทุกคำกลายเป็นเพียงเสียงหายใจที่ตัดรอน “อิงเอ๋อร์...” ฟางซินเย่พร่ำเอ่ยชื่อของฮวาอิงหลงออกมาด้วยดวงตาสั่นไหวที่คงความขมขื่นไว้ในห้วงแห่งความโศกเศร้า“อิงเอ๋อร์...เหตุใดต้องทำเช่นนี้เพื่อข้า” ฟางซินเย่คร่ำครวญออกมา ใบหน้าเปลี่ยนสีแดงก่ำราวกับเปลวเพลิงร้อนรุ่ม “เจ้ายอมแต่งงานกับโจวอี้เสวียนเพียงเพื่อรักษาชีวิตข้า...ข้าคือผู้ชายที่ไร้ค่าเพียงนี้เชียวหรือ...” เขาหัวเราะออกมาด้วยเสียงที่ขาดหายราวกับจะกลั้นไม่ให้เสียงสะอื้นเล็ดลอดออกมา ความรันทดอดสูใจทำให้เขาถึงกับกุมหมัดขึ้นทุบผนังหิน เลือดไหลซึมออกมาหยดลงเป็นทางยาว ความเจ็บปวดของร่างกายกลับไม่อาจเทียบความเจ็บปวดภายในใจที่มีได้ในขณะที่บรรยากาศคุกขังอัดแน่นไปด้วยความเจ็บปวดและสิ้นหวัง ภายในเฉินเม่าและเสี่ยวม่านกลับไม่อาจทนอยู่เฉยได้อีกต่อไป ความทุกข์ร้อนของพี่น้องร่วมสาบานเช่นฮวาอิง

  • ดาราสาวเช่นข้ากลายมาเป็นสาวใช้อุ่นเตียง   บทที่ 67 แผนร้าย

    บทที่ 67 แผนร้ายภายในโถงใหญ่ในจวนอ๋อง โจวอี้เสวียนที่หน้าตาเคร่งเครียดยืนอยู่อย่างหัวเสีย ความหงุดหงิดก่อตัวภายในใจที่นึกไว้ใจคนที่ไม่ได้เรื่องเช่นเฉินเฉียวเหยา หากนางไม่ไร้ความสามารถเช่นนี้โอกาสที่เขาจะกำจัดเสี้ยนหนามหัวใจอย่างฟางซินเย่ย่อมเห็นเป็นรูปร่างมากขึ้น ข้าวของถูกปาแตกกระจายด้วยโทสะที่คุกรุ่นอยู่ภายใน เขาก้าวเดินวนไปมาอย่างต้องการใช้ความคิดสักครู่หนึ่งโจวอี้เสวียนตะโกนเรียกองครักษ์คนสนิทเข้ามา “พวกเจ้าจงไปทำตามที่ข้าสั่งให้เรียบร้อยเดี๋ยวนี้” โจวอี้เสวียนออกคำสั่งด้วยเสียงเข้มขรึม ดวงตาคมเข้มเปี่ยมด้วยความมุ่งมั่นที่ไม่รู้จักพ่ายแพ้องครักษ์ค้อมศีรษะรับคำสั่งทันที “ขอรับท่านอ๋อง”โจวอี้เสวียนเหม่อมองออกไปภายนอกห้องด้วยความคิดอันแยบยล หากแผนการแรกผิดพลาด เขาย่อมต้องมีแผนที่สองเตรียมรับมือไว้เป็นแน่ผ่านไปเพียงไม่ถึงเดือน กองกำลังทหารของโจวอี้เสวียนก็เข้าปิดล้อมจวนแม่ทัพอย่างรวดเร็ว ฟางซินเย่เดินอย่างอาจหาญออกมาเผชิญหน้าเหล่าทหารของโจวอี้เสวียน โดยมีเหล่าทหารกองทัพของฟางซินเย่ยืนประจัญบานเตรียมพร้อมสำหรับการโจมตี“แม่ทัพฟางซินเย่ ข้าน้อยได้รับคำสั่งให้ตรวจค้นจวนของท่าน โปรดใ

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status