บทที่ 1-3
วื้อ วื้อ วื้อ
เบอาปั่นจักรยานออกจากบ้านมาได้สักพักแล้วตั้งแต่เช้ามืด ตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่อำเภอห่างไกลนี้ ทุกคนที่บ้านตื่นเช้าด้วยกิจวัตรประจำวันการทำงานเปลี่ยนไป
พ่อต้องออกไปแต่เช้าเพื่อดูคนงานกรีดยาง แม่และพี่พรเข้าเมือง ส่วนเบอาถ้าวันปกติจันทร์ถึงศุกร์ไปโรงเรียน ส่วนวันนี้เป็นวันเสาร์ซึ่งเธอเป็นอิสระจะทำอะไรก็ได้
แคร่ก แคร่ก พลั่ก พลั่ก
เสียงจักรยานที่ไม่ค่อยได้หยอดน้ำมันโซ่ดังเกือบตลอดเวลา ยิ่งปั่นไปในทางขรุขระของสวนยางกระเด็นกระดอนไปตลอดทาง รถจักรยานยิ่งดังและบางคราวราวกับว่าจะแยกชิ้นส่วนแยกร่างออกมาอย่างไรอย่างนั้น
เธอมองท้องฟ้าลอดผ่านแมกไม้สูงใหญ่ของต้นยาง เบอายังไม่ชินกับภูมิอากาศของภาคใต้ที่บางวันร้อนบางวันฝนตก เหงื่อผุดตามไรผมและแผ่นหลังจนเปียกชื้นแม้ว่าลมจะพัดมาตามร่างบอบบาง
แม้ว่าเช้าขนาดนี้สำหรับเบอา แต่สายสำหรับคนงานที่ออกกรีดยางแต่เช้าตรู่ พวกเขานำน้ำยางที่กรีดได้ไปยังสหกรณ์เพื่อขาย ทำให้ภายในสวนเงียบสงัดมีเพียงเสียงนกเสียงสรรพสัตว์ตัวน้อย
ขณะถีบจักรยานเธอเองก็คิดตัดสินใจไปด้วยว่าปีหน้าเธอคงขอพ่อกับแม่ไปเรียนต่อที่กรุงเทพ แต่จะเรียนสาขาอะไรนั้นเธอยังตัดสินใจไม่ได้ เนื่องจากพี่สาวของเธอจบคหกรรม อาจทำให้เธอตัดสินใจเลือกเรียนเกษตรเพื่อจะได้กลับมาช่วยงานของพ่อได้บ้าง
ด้วยการขี่จักรยานไปพรางคิดเรื่องเรียนไปพรางทำให้เบอาขี่ออกมานอกสวนยางของพ่อโดยไม่รู้ตัว กระทั่งมองเห็นรั้วง่าย ๆ ที่ทำด้วยไม้ตีเปิดปิดกั้นระหว่างสองสวนยางจึงรับรู้ว่าเธอได้ล่วงล้ำที่ของสวนผาสุก สวนยางข้างเคียงกัน
แต่ในขณะที่เธอกำลังออกแรงถีบกลับหัวรถจักรยานพลันฝนลงเม็ดลงมาเม็ดใหญ่ เบอาจำต้องรีบปั่นเร็วขึ้นทันทีพรางมองซ้ายขวาเพื่อหาที่หลบฝน หน้าหวานคมดวงตากลมโตนิ่วหน้าไม่ชอบใจ
ซ่า...
“บ้าจริง ทำไมต้องตกตอนนี้ด้วยนะ”
เสียงบ่นพึมพำออกมาจากปากอวบอิ่ม เธอหรี่ตาสู้ฝนมองทางทั้งซ้ายขวาและเมื่อเห็นกระท่อมลาง ๆ ด้านขวา หากแต่อยู่ในรั้วของสวนข้างเคียง จึงตัดสินใจเลี้ยวจักรยานไปยังที่นั่นก่อน แต่ด้วยทางไม่เอื้ออำนวย เบอาตัดสินใจพิงรถจักรยานที่โคนต้นยางต้นหนึ่งแล้ววิ่งตัดฝ่าสายฝนไป
อันที่จริงไม่ควรเรียกว่ากระท่อม เพราะการปลูกคล้ายเป็นบ้านหลังเล็กยกพื้นขึ้นบันไดราวสามขั้นและทำจากไม้ทั้งหลัง ดูคล้ายบ้านหลังน้อยกลางป่าใหญ่อย่างไรอย่างนั้น
ร่างของสาวน้อยวัยใสเปียกไปหมดทั้งตัว เสื้อยืดสีอ่อนที่สวมมาลู่แนบไปกับร่างของสาววัยแรกแย้ม บางจนเห็นเสื้อชั้นในสีครีมอ่อน กางเกงขาสั้นอวดเรียวขายาวน้ำหยดไหลเป็นทาง
เธอรีบเร่งก้าวขึ้นบันไดบ้านจนไม่สนใจรอยเท้าจากรองเท้าเตะหูคีบที่ชอบใส่
แหมะ แหมะ
เบอามองน้ำที่ไหลลงจากตัวเธอเปื้อนพื้นไม้ระเบียงหน้า ลมกรรโชกแรงจนกายเธอหนาวสะท้านต้องยกแขนขึ้นกอดอกตัวเองไว้แน่น ห่อไหล่เข้าหากันสกัดกลั้นความเหน็บหนาวจากน้ำฝนที่เย็นเยียบ
เบอาเอนกายแผ่นหลังบอบบางพิงผนังไม้จนชิดเพื่อหลีกหนีเม็ดฝนที่สาดเข้ามา
“อือ อือ นาวินทร์ อา”
เสียงพึมพำเบา ๆ ดังเล็ดลอดมาจากที่ใดสักแห่งแถวนี้ และยิ่งฟังก้องกังวาลแปลก ๆ ยามเสียงผ่านความชื้นในอากาศ
หรือจะมีผี?
บทที่ 12-1** nc จบบริบูรณ์สาวน้อยหน้าหวานลูกครึ่งโปรตุเกสนอนหลับสนิทคว่ำหน้าบนหมอนใบนุ่มจนไม่รู้เลยว่ายังมีชายหนุ่มอีกคนนอนกระสับกระส่ายอยู่ข้าง ๆนาวินทร์เพียรพยายามทั้งลูบตัว ทั้งกระซิบและพลิกร่าง แต่สาวสวยยังนอนพลิกร่างกลับไปคว่ำตามเดิม ลูบผ่านต้นแขนจนถึงข้อมือบางกระทั่งถึงแหวนหมั้นเพชรเม็ดเล็กพอเหมาะอย่างที่เธอชอบเขาหงายตัวลงใช้มือก่ายหน้าผากสะกดกลั้นความต้องการยามเช้าที่พุ่งทะยานแม้ว่ายามค่ำคืนจะสุขสมไปแล้วเปลือกตาของเบอายังหลับพริ้มไม่รับรู้สิ่งรอบข้างจากความเหนื่อยอ่อนจนเขาต้องลุกขึ้นจากเตียงหยิบบุหรี่ออกไปสูบมือควานหาไฟแช็กในลิ้นชักโต๊ะแต่ไม่เจอ พลันนึกขึ้นได้ว่าเมื่อคืนตอนพาเบอาไปทานข้าวเขาได้ฝากไว้ที่เธอ จึงเดินกลับไปยังหน้ากระจกหยิบกระเป๋าสะพายสีดำใบเดิมที่เธอชอบใช้ขึ้นมาเขาล้วงมือควานหาและพบว่ามันอยู่ที่ก้นกระเป๋าเพราะน้ำหนักของไฟแช็กแบบซิปโป ขณะที่กำลังหยิบพลันนิ้วไปโดนแผงยาบางอย่าง ด้วยความสงสัยจึงหยิบมันออกมานาวินทร์หรี่ดวงตาคมกริบลงเมื่อเห็นแผงยาชัด ๆ ท่ามกลางแสงยามเช้าที่เริ่มสาดเข้ามาในห้อง เม็ดสีชมพูสวยบนแผงมีลูกศรชี้ว่าควรเริ่มทานจากเม็ดไหนไปถึงเม็ดไหนยาคุม!
บทที่ 11-3เขาหันกลับไปมองเห็นสาวน้อยออกมายืนอยู่ด้านข้างตัวรถห่มด้วยผ้าห่มผืนใหญ่สีขาวเหมือนเดิม สีของผ้าห่มขาวโพลนตัดกับสีของผืนป่ายามโพล้เพล้นายหัวนาวินทร์ยังเดินขึ้นบันไดบ้านต่อจนถึงร่างของไอ้สิงห์ จากนั้นเดินเลยไปยังครัวที่ทำใหม่ปลดถังแก๊สออกมาลากจนถึงกลางบ้านเทน้ำมันเบนซินโดยรอบตัวและเทเป็นทางจนเกือบถึงประตูบ้านก็หมดเสียก่อน ยืนมองร่างที่เริ่มเย็นชืดของไอ้สารเลวอีกครั้ง“ไม่ต้องกังวลไอ้สิงห์ เดี๋ยวตัวมึงก็ร้อนแล้ว”เขาหยิบซิบโปออกมาจากกระเป๋ากางเกงจุดใส่เศษกระดาษนิตยสารที่หยิบมาจากในบ้านแล้ววางให้ตรงกับคราบน้ำมันเบนซินที่เริ่มระเหยจากนั้นจึงปิดประตูบ้านแล้วลงมาจากตัวบ้านให้เร็วที่สุดวิ่งกลับไปที่รถบรึ้ม!!นาวินทร์สะดุ้งเมื่อเสียงระเบิดจากถังแก๊สดังขึ้นพร้อมกับเสียงไม้บ้านแตกลั่นเขาหันไปมองบ้านหลังเล็กที่เขาสร้างขึ้นมาเพื่อไว้พักผ่อนกับสาวๆ แต่บ้านหลังนี้กลับกลายเป็นสถานที่ที่เกือบจะทำให้เขาเสียเบอาไป“พี่วินทร์”นาวินทร์เดินกลับมาที่รถสวมกอดเบอาไว้แน่น โน้มใบหน้าลงหอมศีรษะ“ขึ้นรถเถอะ พี่จะพาไปบ้านพี่”“แต่ว่า..”“อย่าเพิ่งดื้อนะคนดี ใจพี่จะไม่ไหวแล้ว”เบอาเงยหน้ามองชายร่าง
บทที่ 11-2เอี๊ยดดดด!!นาวินทร์หักหลบรถกระบะเก่าที่สวนกับเขากลางทางขณะที่กำลังออกจากถนนเข้าท้ายสวนเห็นลาง ๆ เป็นผู้ชายสองคนมีหญิงสาวอยู่ในอ้อมแขนของคนนั่งฝั่งข้างคนขับอีกหนึ่งคนเขาขับรถต่อไปอีกสักพักจึงนึกขึ้นได้ว่าถนนสายนี้เป็นทางส่วนบุคคลเข้าท้ายสวนของเขาโดยเฉพาะ และมีไม่กี่คนที่รู้ทางนี้เอี๊ยด!!นาวินทร์เหยียบเบรกกะทันหันเมื่อนึกถึงผู้หญิงที่ถูกขนาบข้าง หล่อนดูเหมือนจะนอนนิ่งไม่ไหวติง ผมสีน้ำตาลอ่อนพระเจ้า!! ระยำ ไอ้ห่าเอ้ย!!เขาหักรถเลี้ยวกลับทันที ระยะทางที่เขาขับสวนกับรถคันนั้นเพิ่งผ่านไปไม่นานแต่ใจเขากลัวเหลือเกินว่าจะไปไม่ทันนาวินทร์เหลือบตามองผู้ชายร่างสูงผอมเกร็งผิวคล้ำที่เดินสวนออกมาบนไหล่ทางเล็ก มันเดินออกมาจากบ้านท้ายสวน สบตาตื่นตระหนกของไอ้หมอนั่นด้วยตาแข็งกร้าว แต่เขาไม่หยุดรถเวลามันกระชั้นชิดเกินไป ถ้าเขาหยุดรถถามมันตอนนี้ เบอาอาจถูกทำร้ายถึงขั้นเสียชีวิตเขาจอดรถดับเครื่องก่อนที่จะถึงทางเข้าบ้าน ตั้งใจไม่ให้คนร้ายอีกคนรู้ตัว เปิดลิ้นชักรถแล้วหยิบปืนสั้นออกมา เปิดดูกระสุนในรังปืนแล้วหมุนปิดขึ้นไกนกค้างไว้นาวินทร์ลงจากรถกระบะคันเก่าสีดำ เดินอาดไม่กลัวเกรงสิ่งใดตัด
บทที่ 11-1บ้านหลังเล็กหรือกระท่อมที่นาวินทร์มักเรียกดูเรียบร้อยดี กลิ่นสีทาไม้เปลี่ยนจากสีไม้แดงเป็นสีไม้โอ๊ก เตียงใหญ่เขาสั่งให้เปลี่ยนใหม่เช่นกันพร้อมกับฟูกที่นอนเขาเดินออกไปดูในห้องน้ำ ช่างขาประจำทำงานดีเหมือนเคย อ่างอาบน้ำสุดหรูติดตั้งถูกต้องและงานเนี้ยบจากนั้นจึงเดินออกมาทางห้องครัวที่ทำเพิ่ม ใจคิดไปว่าบางวันอาจชวนสาวน้อยทำบาร์บีคิวนั่งเล่นนอกบ้านบ้างรอยยิ้มมุมปากผุดขึ้นบนใบหน้าคมเข้มยามนึกไปถึงดวงหน้างามของเบอา เธอคงบ่นบ้างเวลาให้ทำกับข้าวเพราะเป็นงานที่เธอไม่ถนัด แต่เขาจะคอยช่วยเป็นลูกมืออยู่ไม่ห่าง ยิ่งถ้าให้สาวน้อยลองนั่งบนเคาน์เตอร์ครัวหลังใหม่ขนาดความสูงกำลังพอดีแล้วมีเขาที่อยู่ตรงกลางมั่นโยกคลึงบ่อย ๆ เบอาคงจะชอบงานครัวมากขึ้นนาวินทร์ปิดประตูบ้านใส่กุญแจแล้วเดินลงบันได เวลาเย็นของป่าสวนยางมืดเร็วขนาดยังไม่ทันห้าโมงครึ่งก็เกิดเงาแสงสีอ่อนทอดยาวผ่านใบไม้ของต้นยางมายังลานจอดรถบรื้น!ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ขับรถออกจากลานจอดของบ้านหลังเล็กกลางป่าท้ายสวน กลับรถวนจนล้อสะบัดเข้าสู่เลนถนนลูกรังสีแดงฝ่าสวนยางออกไปยังถนนใหญ่เพื่อไปยังสวนข้างเคียง ไปหาสาวน้อยของเขา“ไอ้ห่า ไหนว่ะ”“อ
บทที่ 10-4ยามเย็นของอำเภอเล็ก ๆ ขอบชายแดนสุดของภาคใต้ เบอาขับรถกลับจากอำเภอไปยังทางที่คุ้นเคยโดยไม่คิดเอะใจอารมณ์ยังขุ่นมัวจากเรื่องเมื่อบ่ายจนไม่ต้องการเห็นหน้านายหัวตัวต้นเรื่อง เสียงเอะอะโวยวายเมื่อเธอโทรศัพท์ไปบอก นึกภาพใบหน้าคมเข้มของนายหัวอารมณ์ฉุนเฉียวให้ยิ้มกริ่มในหน้าอารมณ์ดีขึ้นมาหน่อย มองไปยังเบาะด้านข้าง นอกจากเสียตัวเป็นดอกเบี้ย เธอยังต้องเอาใจซื้อของขวัญวันเกิดให้เขาอีกยายเบย์ เธอนี่มันใจง่ายจริง ๆจากวันนั้นในบ้านริมทะเลเธอเริ่มรู้สึกแล้วว่านายหัวนาวินทร์มีใจให้เธอ เขาให้คำมั่นว่าจะไม่มีใครอีกตลอดระยะสัญญาสัญญาที่ทำกันไว้หนึ่งปีแม้ดูเหมือนว่าจะนานเกินพอแต่เบอากลับไม่คิดเช่นนั้น หนึ่งปีมันช่างสั้นเหลือเกินและเธอเก็บเกี่ยวช่วงเวลานี้ให้ดีที่สุดเป็นความทรงจำไว้ในยามที่ต้องจากกันหน้าหวานคมลูกครึ่งอมยิ้ม เมื่อวันก่อนพาเธอไปทานข้าวร้านเดิมมาอีกครั้งทั้ง ๆ ที่ก็รู้ว่าเจ๊ศศิคงจะเที่ยวเอาไปเป่าประกาศ และในที่สุดเธอก็ได้ทานอาหารรสจืดสมใจแต่นายหัวกลับทำหน้าปุเลี่ยนเพราะรสชาติชืดเกินไปเธอมองไปยังข้างทางที่มีแต่ป่าสวนยางสุดลูกหูลูกตาในแถบนี้ล้วนส่วนใหญ่เป็นของนายหัวที่แบ่งให้คน
บทที่ 10-3แพรวนภากำเช็คในมือแน่น จำนวนเงินสองล้านมากโขสำหรับการตั้งต้นชีวิตใหม่ เธอลงทุนกับนายหัวไว้มากเกินกว่าจำนวนที่นายหัวเซ็นเช็คมาให้ ทั้งแรงกายแรงใจ ร่างกายของเธอพร้อมสำหรับนายหัวคนเดียวสาวร่างอวบหยิบเช็คใส่กระเป๋าสะพาย หลังจากลุกขึ้นจากโต๊ะแผนกบัญชีของโรงแรมชื่อดัง แพรวนภาไม่แน่ใจว่าคนในแผนกนี้จะสงสัยที่มาของเช็คใบนี้หรือไม่ว่าเพราะเหตุใดนายหัวถึงสั่งจ่ายเงินเป็นจำนวนมากผ่านมาแล้วเกือบอาทิตย์ที่เธอไม่พบกับนายหัวอีกเลย เขาเหมือนหายไปจากตัวเมืองหาดใหญ่จนน่าแปลกใจ เธอพาร่างเดินผ่านโถงทางเข้ากระทั่งพบกับคนรู้จักคุ้นเคย“อ้าว แพรว ไม่เจอกันนาน”ใบหน้าอย่างคนใต้ของแพรวนภาค่อนข้างตกใจเมื่อเจอกับแฟนเก่าสมัยช่วงที่เธอเลิกลากับนายหัว ผู้ชายเลวที่ตบตีเธอสารพัดและยังปอกลอกเงินที่นายหัวให้มาจนเกลี้ยงเธอจึงพยายามเดินเลี่ยงแต่มือแข็งสีเข้มดึงไว้ ใบหน้าหล่อแต่เหี้ยมโหดยิ้มกริ่ม“จะรีบไปไหน ทำเป็นคนไม่รู้จักกันไปได้”แพรวนภารู้สึกขยะแขยงเต็มทน เธอสลัดแขนจนหลุดจากการเกาะกุม มองหน้าเหี้ยมที่แฝงความหื่นกาม“ต้องการอะไร!”“ไม่เห็นยาก ดูก็รู้ว่าต้องการอะไร”“ฉันไม่มีเงินให้แกหรอกไอ้สิงห์”“โอ๊ะโอ