“หมดฤทธิ์แล้วเหรอ ถ้าหมดฤทธิ์แล้ว ฉันจะได้ทำต่อ”
“กรุณาเถอะนะคะ จันทร์ไม่ต้องการแบบนี้”
“แล้วต้องการแบบไหน หรือว่าชอบแบบซาดิสม์ ฉันก็จัดให้ได้นะ อ้อ...บางทีเด็กจิตๆ อย่างเธออาจจะชอบแบบที่ว่าก็ได้ ทำไมฉันถึงโง่นักนะ”
รังสิมันต์หัวเราะเสียงหื่นในลำคอ ก่อนจะละมือข้างหนึ่งมาคลายเนกไทน์ของตัวเองออก จากนั้นก็กระชากมันมา แล้วรวบแขนทั้งสองข้างของจันทริกามามัดข้อมือด้วยเนกไทน์เส้นนั้น หญิงสาวได้แต่เบิกตากว้างไม่คิดว่ารังสิมันต์จะทำอะไรรุนแรงอย่างที่เขาว่าจริงๆ
“คุณตะวันคะได้โปรด...” เธอขอร้องเขาเสียงสั่น
“ได้สิ แบบนี้ฉันก็สุดโปรดเหมือนกัน”
เรียวปากหยักคลี่ยิ้มเจ้าเล่ห์ ตาสาดประกายบางอย่างที่ทำเอาร่างบางสะท้าน และหลังจากนั้นจันทริกาก็ถูกผลักให้นอนหงายหลังลงไปบนโซฟา ก่อนที่รังสิมันต์จะจับสองมือที่ถูกมัดด้วยเนกไทน์ขึ้นวางไว้เหนือศีรษะของเธอ
ร่างบางนอนตัวเกร็งขณะที่เขาเริ่มลงมือถลกชายเสื้อของเธอขึ้นไปกองไว้เหนือเนินอก ตามด้วยเสื้อชั้นในลูกไม้สีหวาน เปิดเปลือยส่วนสำคัญช่วงบนให้เป็นอิสระ ก่อนที่ปากและมือของเขาจะทำตามใจตัวเอง จันทริกาเกร็งร่างกายรอรับความเจ็บปวดจากการกระทำแบบซาดิสม์อย่างที่รังสิมันต์บอกไว้ ทว่าเพียงครู่เดียวร่างของเธอก็เปลี่ยนเป็นอ่อนระทวย เพราะความซาดิสม์ของเขามันช่างเร่าร้อนเหลือคณา
เรี่ยวแรงเหมือนจะหายไปหมดสิ้น แขนขาเหมือนจะอ่อนเปลี้ย หากแต่บางส่วนกลับเกร็งชูชันสั่นระริกและเบ่งบานขึ้นรับสัมผัสจากปากและลิ้นร้อนๆ ของเขา ไม่ต่างอะไรกับดอกไม้ที่ถูกหยาดฝนหลั่งชโลมใส่ไม่ขาดสาย
รังสิมันต์เชยชมความกลมกลึงอวบอิ่มอย่างตะกละตะกลาม ทว่าเร่าร้อนสุดๆ ก่อนที่ใบหน้าของเขาจะเคลื่อนต่ำลงไปเรื่อยๆ และหลังจากนั้นไม่นานความเย็นวาบก็มาเยือนร่างกายส่วนล่างของจันทริกา เมื่ออาภรณ์ทั้งสองชิ้นถูกปลดเปลื้องออกไป
“คุณตะวัน...อื้อ...”
ชื่อนั้นถูกเรียกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ใบหน้าสวยหวานสะบัดไปมา เมื่อเรียวขาทั้งสองข้างถูกผลักให้แยกห่างจากกัน ก่อนที่ปากและลิ้นจะแตะต้องลงบนความสาวสด แล้วสูดซดเอาความหอมหวานตามชอบใจ
ปากอิ่มได้แต่หวีดร้องครั้งแล้วครั้งเล่า มือทั้งสองที่ถูกมัดเอาไว้อยากจะตวัดกอดเขาตามความเคยชิน หากแต่จันทริกากลับทำไม่ได้ มันเป็นความทรมานที่ปะปนมากับความซ่านสยิวอย่างรุนแรง จากนั้นความรู้สึกทั้งหมดก็ทะยานโลดขึ้นอีกหลายเท่าตัว เมื่อบางสิ่งบางอย่างโจนจ้วงเข้ามาเติมเต็มในกายเธอ
โซฟาตัวยาวนั้นสั่นไหวตามแรงโยกขยับของร่างกายแข็งแรงที่เต็มไปด้วยพละกำลัง เขาถาโถมใส่เธอครั้งแล้วครั้งเล่า เรียกเสียงหวีดครางให้ดังระงมไปทั่วห้องนั่งเล่นต่อเนื่องอยู่หลายนาที กว่าที่รังสิมันต์จะยอมปลดปล่อยตัวเองสู่ความอุ่นนุ่มจนหมดสิ้น...
ร่างสูงลุกจากเก้าอี้ประจำตำแหน่งหลังจากเคลียร์เอกสารบนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว ลำขาแข็งแรงก้าวออกจากห้องทำงาน และเดินสำรวจดูบรรยากาศของห้างสรรพสินค้าอย่างที่เคยทำเป็นประจำ เขาเดินปะปนกับลูกค้าและหมั่นสังเกตสิ่งเล็กๆ น้อยๆ เพื่อนำมาปรับปรุงงานให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งน้อยคนนักจะรู้ว่าเขาคือผู้บริหารสูงสุดของห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ ส่วนใหญ่คนที่รู้จะเป็นพวกเจ้าของร้านซึ่งมาใช้บริการเช่าพื้นที่เสียมากกว่า
รังสิมันต์พาตัวเองเดินไปถึงบริเวณหน้าห้องน้ำชั้นสี่ ก็เห็นว่าผู้จัดการห้างกำลังยืนคุยอยู่กับหัวหน้าแม่บ้านด้วยสีหน้ายุ่งยากใจ รังสิมันต์จึงเดินตรงเข้าไปถามทันที
“มีปัญหาอะไรกันหรือเปล่า”
“เอ่อ...คือเราโดนลูกค้าคอมเพลนเรื่องความสะอาดของห้องน้ำน่ะครับคุณตะวัน” ผู้จัดการห้างเป็นคนตอบคำถาม สีหน้าเจื่อนไปเล็กน้อย เพราะกลัวว่ารังสิมันต์จะดุเอา
“ทำไมล่ะ คนทำความสะอาดไปไหนเสียหมด”
“แม่บ้านลางานพร้อมกันสองคนครับ คนหนึ่งลาล่วงหน้าไปงานศพญาติที่ต่างจังหวัดสามวัน อีกคนเพิ่งจะลาฉุกเฉินเพราะปวดท้องไส้ติ่งครับ หมอต้องผ่าตัดด่วน ส่วนคนที่เหลือก็วิ่งขึ้นวิ่งลงทำความสะอาดทีละชั้นแต่ไม่ทันครับคุณตะวัน”
“ไม่เป็นไร ผมมีคนว่างอยู่เดี๋ยวจะเรียกมาช่วย”
บอกเสร็จรังสิมันต์ก็หยิบเอาโทรศัพท์มือถือของตัวเอง กดหาเบอร์ของจันทริกาแล้วจัดการโทร.ออกทันที
“จันทริกามาหาฉันที่ห้าง” เขาออกคำสั่งทันทีเมื่อจันทริกากดรับสาย
“มีเรื่องอะไรเหรอคะ จันทร์ยังทำงานบ้านไม่เสร็จ” เสียงหวานถามกลับมาอย่างงงๆ
“เธอมีหน้าที่ทำตามคำสั่ง ไม่ได้มีหน้าที่ถาม เดี๋ยวฉันจะให้อุ้ยคำมาส่ง เสร็จธุระทางนี้แล้ว เธอค่อยกลับไปทำงานบ้านต่อ”
“ค่ะ”
จันทริกาได้แต่รับคำ จากนั้นก็ปิดเตารีด และเก็บผ้าที่รีดเสร็จบางส่วนขึ้นไปไว้ที่ห้องนอนของรังสิมันต์ พอกลับลงมาก็เห็นว่าอุ้ยคำมารออยู่แล้ว
อุ้ยคำขับรถมาส่งจันทริกาที่ห้างสรรพสินค้า แล้วพาเธอขึ้นไปหารังสิมันต์ที่ห้องทำงานตามที่เขาบอกไว้ ร่างสูงลุกจากเก้าอี้ บอกสั้นๆ ว่าให้จันทริกาเดินตามเขาไป และหญิงสาวก็เดินตามไปเงียบๆ โดยไม่กล้าเอ่ยปากถามใดๆ
“คนที่ผมบอกว่าจะช่วยล้างห้องน้ำอยู่นี่แล้ว พาตัวไปได้เลย อ้อ...อย่าลืมไปหาชุดแม่บ้านให้ใส่ด้วยล่ะ ส่วนวิธีทำความสะอาดไม่ต้องสอน เพราะเด็กคนนี้ถนัดอยู่แล้ว” รังสิมันต์บอกกับสินชัยผู้จัดการห้าง และจันทริกาก็เพิ่งรู้ตอนนั้นเองว่ารังสิมันต์เรียกเธอมาที่นี่เพราะอะไร
“ตามผมมา”
บทที่ 41รถที่สมรรถสูงสมราคาแล่นฉิวเข้ามาในที่จอดประจำโดยใช้เวลาไม่นานนัก รังสิมันต์ก้าวลงจากรถแล้วสั่งให้จันทริกาเดินไปหาหัวหน้าแม่บ้านที่ห้องล็อกเกอร์ ส่วนตัวเองตรงขึ้นไปยังห้องทำงานเพราะเมื่อวานนี้ทราบแล้วว่าห้องล็อกเกอร์อยู่ตรงไหน จันทริกาจึงไปหาหัวหน้าแม่บ้านที่นั่นโดยไม่ต้องมีใครพาไป หลังจากเปลี่ยนชุดเสร็จเธอได้รับมอบหมายให้ทำความสะอาดห้องน้ำที่ชั้นสามและชั้นสี่เช่นเดิม หญิงสาวพยายามมองหาคนในบ้านที่รังสิมันต์ให้มาทำงานที่นี่ ทว่าก็ไม่ได้พบใคร เพราะทุกคนอยู่ในแผนกอาหารสดกันหมด เธอจึงได้แต่ทำหน้าที่ของตัวเองโดยไม่มีโอกาสได้พูดคุยทักทายกับใครเลย ร่างเล็กบางที่กำลังหิ้วถังน้ำและไม้ถูพื้นเข้าไปห้องน้ำ ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าตัวเองตกเป็นเป้าสายตาของรังสิมันต์อยู่แทบจะทุกย่างก้าว เพียงแต่วันนี้เขายืนมองอยู่ไกลๆ ไม่ได้เข้ามาคุมแจอยู่ข้างในเหมือนเมื่อวาน หลังจากที่เข้าไปทำความสะอาดห้องน้ำชั้นสามเสร็จ จันทริกาถืออุปกรณ์ทั้งหมดออกมาด้านนอก เตรียมจะไปทำความสะอาดที่ห้องน้ำชั้นสี่ต่อ แต่เธอต้องหันหลังกลับไปมอง เมื่อมีใครบางคนเรียกชื่อเธออย่างคุ้นเคย
บทที่ 40เวลาเกือบสี่ทุ่ม กว่าที่รังสิมันต์กับปรัชญ์จะแยกย้ายกันกลับบ้าน แม้ปากบอกว่าจะไปดื่มเหล้าด้วยกัน แต่ต่างคนต่างก็ไม่ได้ดื่มหนักอะไร ส่วนใหญ่จะเป็นคุยกันสัพเพเหระซะมากกว่า หรือถ้าให้พูดตรงๆ เรื่องดื่มเหล้ามันก็เป็นแค่ข้ออ้างสำหรับการออกไปเที่ยวเตร่ตามประสาผู้ชายโสดเท่านั้นออดี้สีเหลืองแล่นมาจอดที่หน้าบ้านอย่างคล่องตัว คนขับจัดการดับเครื่องดึงกุญแจออกแล้วเดินตรงเข้าไปในบ้านเลย โดยไม่ได้สนใจจะขับรถราคาแรงนั้นไปจอดในโรงรถแต่อย่างใด ด้านนอกไฟยังคงสว่างไสว ทว่าภายในบ้านไฟกลับถูกปิดเกือบทุกดวง ยกเว้นตรงบริเวณทางขึ้นบันไดชั้นสองเท่านั้นที่เปิดอยู่ร่างสูงก้าวขาไปยังบันไดเพื่อขึ้นห้อง ทว่าอยู่ๆ ก็เปลี่ยนใจกะทันหัน หันหลังกลับแล้วเดินตรงไปยังห้องนอนชั้นล่างแทนเขาหยิบกุญแจสำรองที่แอบเก็บไว้ติดตัวตลอดเวลาออกมา กำลังจะไขเข้าไปอย่างถือวิสาสะ แต่ก็ชะงักมือเอาไว้เมื่อได้ยินเสียงหวานแว่วดังออกมานอกห้องเบาๆ“นอนลงๆ เป็นเด็กว่าง่าย นอนได้แล้วเมสซี่ วันนี้จันทร์ง่วงมาก แล้วก็ไม่มีอะไรจะคุยให้เมสซี่ฟังด้วย ฝันดีนะ”แม้เสียงนั้นจะเล็ดลอดออกนอกห้องมาแค่แผ่วเบา แต่ด้วยบรรยากาศที่เงียบเชียบของบ้าน ร
บทที่ 39สินชัยเดินนำไปทางห้องล็อกเกอร์ของแม่บ้าน บอกหัวหน้าแม่บ้านให้หาชุดให้จันทริกาเปลี่ยน จากนั้นหญิงสาวก็ถืออุปกรณ์ทำความสะอาดเดินตามหัวหน้าแม่บ้านไปยังห้องน้ำที่อยู่ชั้นสาม “เดี๋ยวทำที่นี่เสร็จ ขึ้นไปทำที่ชั้นสี่ต่อเลยนะ” หัวหน้าแม่บ้านออกคำสั่งกับจันทริกาอีกคน “ค่ะ” “งั้นก็ลงมือได้เลย เดี๋ยวป้าจะไปตรวจความเรียบร้อยที่ชั้นอื่นก่อน เสร็จแล้วจะขึ้นมาตรวจดูที่ชั้นสามอีกรอบ” หัวหน้าแม่บ้านบอกเสร็จก็ออกไปจากห้องน้ำชั้นนั้น เพื่อไปตรวจความเรียบร้อยของชั้นอื่นๆ ตามหน้าที่ตัวเอง ประตูห้องน้ำที่ถูกแขวนป้ายด้านนอกว่ากำลังทำควาสะอาดถูกผลักเข้ามาอีกรอบ ทำให้จันทริกาซึ่งกำลังตั้งหน้าตั้งตาขัดล้างทำความสะอาดห้องน้ำอยู่หันขวับไปมอง แล้วก็เห็นว่าคนที่เข้ามานั้นก็คือรังสิมันต์นั่นเอง “คุณตะวัน…” “ฉันแค่เข้ามาดูเธอว่าทำความสะอาดได้เรียบร้อยดีหรือเปล่า” ได้ยินคำตอบแบบนั้นจันทริกาก็หันไปตั้งหน้าตั้งตาทำความสะอาดต่อ โดยไม่ได้พูดจาใดๆ กับเขาอีก เสร็จจากห้องนั้นก็ต่อห้องนี้ จนกระทั่งครบทุกห้
บทที่ 38“หมดฤทธิ์แล้วเหรอ ถ้าหมดฤทธิ์แล้ว ฉันจะได้ทำต่อ” “กรุณาเถอะนะคะ จันทร์ไม่ต้องการแบบนี้” “แล้วต้องการแบบไหน หรือว่าชอบแบบซาดิสม์ ฉันก็จัดให้ได้นะ อ้อ...บางทีเด็กจิตๆ อย่างเธออาจจะชอบแบบที่ว่าก็ได้ ทำไมฉันถึงโง่นักนะ” รังสิมันต์หัวเราะเสียงหื่นในลำคอ ก่อนจะละมือข้างหนึ่งมาคลายเนกไทน์ของตัวเองออก จากนั้นก็กระชากมันมา แล้วรวบแขนทั้งสองข้างของจันทริกามามัดข้อมือด้วยเนกไทน์เส้นนั้น หญิงสาวได้แต่เบิกตากว้างไม่คิดว่ารังสิมันต์จะทำอะไรรุนแรงอย่างที่เขาว่าจริงๆ “คุณตะวันคะได้โปรด...” เธอขอร้องเขาเสียงสั่น “ได้สิ แบบนี้ฉันก็สุดโปรดเหมือนกัน” เรียวปากหยักคลี่ยิ้มเจ้าเล่ห์ ตาสาดประกายบางอย่างที่ทำเอาร่างบางสะท้าน และหลังจากนั้นจันทริกาก็ถูกผลักให้นอนหงายหลังลงไปบนโซฟา ก่อนที่รังสิมันต์จะจับสองมือที่ถูกมัดด้วยเนกไทน์ขึ้นวางไว้เหนือศีรษะของเธอ ร่างบางนอนตัวเกร็งขณะที่เขาเริ่มลงมือถลกชายเสื้อของเธอขึ้นไปกองไว้เหนือเนินอก ตามด้วยเสื้อชั้นในลูกไม้สีหวาน เปิดเปลือยส่วนสำคัญช่วงบนให้เป
บทที่ 37“หยุดก่อน”คำสั่งนั้นทำให้มือเล็กๆ ชะงัก และยืนตัวเกร็งรอการตำหนิหรือลงโทษจากเขา เพราะคิดว่ารังสิมันต์คงไม่พอใจกับการนวดของเธอ“มานั่งนี่”เขาออกคำสั่งพลางตบมือลงบนที่ว่างข้างตัว จันทริกาเดินไปนั่งตัวลีบลงบนโซฟาข้างๆ เขา แล้วหันไปมองเพื่อรอว่าเขาจะลงโทษยังไง ทว่ารังสิมันต์กลับทำในสิ่งที่เธอคาดไม่ถึง นั่นคือการโน้มตัวไปวางแก้ววิสกี้ที่โต๊ะหน้าโซฟา แล้วเอนตัวนอนหนุนตักเธออย่างรวดเร็ว “คุณตะวัน!” จันทริกาอุทานออกมา แก้มนวลมีจุดสีแดงซ่านแต่งแต้มทันทีกับสิ่งที่เธอไม่คิดว่ารังสิมันต์จะทำ ก็เมื่อคืนเขาเพิ่งจะมีอะไรกับผู้หญิงอีกคน พอมาวันนี้กลับมาทำกิริยาคล้ายสนิทชิดเชื้อกับเธอแบบชู้สาว ทั้งๆ ที่เขาไม่ได้รู้สึกอะไรด้วย “เสียงดังทำไม หนวกหู ฉันก็แค่อยากนอนให้เธอนวดสบายๆ” “แต่แบบนี้จันทร์นวดไหล่ให้คุณไม่ได้นะคะ” “นวดไหล่ไม่ได้ ก็นวดแขนนวดมือไปสิ ตอนนี้ฉันเมื่อยไปทั้งตัวแล้ว” จันทริกาหน้าแดงก่ำกว่าเดิม ขณะก้มลงมองเขาพร้อมกับใช้มือเล็กๆ บีบนวดลงไปตามต้นแขน และสลับมานวดอีกข้างโดยไม่ยอมขยับลงไปนวดมือให้ตามที่คน
บทที่ 36ร่างสูงก้าวลงจากรถ เดินเข้าบ้านแล้วกวาดสายตามองหาร่างบางที่ปกติเวลานี้จะอยู่ในห้องครัว หรือไม่ก็กำลังตั้งโต๊ะอาหารรอเขาอยู่เมื่อไม่เห็นคนที่ตัวเองมองหา รังสิมันต์ก็ตรงไปยังห้องนอนของเธอ เพราะคิดว่าจันทริกาอาจจะอยู่ที่นั่นกับเมสซี่ แต่เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็ไม่พบทั้งคนทั้งแมวตัวโปรดของเขา ชายหนุ่มจึงบ่นพึมพำออกมาอย่างออกจะหงุดหงิด พร้อมกับที่หัวใจเริ่มร้อนรนขึ้น“ไปไหนของเขานะ...”เมื่อหาในบ้านไม่เจอ ลำขาแข็งแรงก็ก้าวยาวๆ ออกไปหารอบๆ บ้าน ก่อนจะระบายลมหายใจออกมาแรงๆ อย่างโล่งอกทันทีที่เห็นว่าคนที่ตัวเองตามหากำลังก้มขัดพื้นอย่างขะมักเขม้นอยู่ที่ศาลาสระบัว โดยมีเมสซี่นั่งเป็นกำลังใจอยู่บนม้าหินอ่อนด้านบน“ค่ำมืดป่านนี้แล้วทำไมยังไม่เข้าบ้าน”เสียงดุๆ ที่ดังขึ้นทำให้จันทริกาสะดุ้งเล็กน้อย เธอหยุดชะงักมือที่กำลังจับแปรงขัดพื้น แล้วเงยหน้าขึ้นก่อนจะตอบคำถามของเขา“จันทร์ขัดพื้นศาลายังไม่เสร็จน่ะค่ะ”“แล้วไม่เห็นหรือไงว่าฉันกลับมาแล้ว ทำไมไม่ไปตั้งโต๊ะอาหารรอ”“ขอโทษค่ะ จันทร์จะไปเดี๋ยวนี้”“ที่มาขัดเอาค่ำๆ มืดๆ แบบนี้เพราะตอนกลางวันมัวแต่อู้งานล่ะสิ ถึงได้ทำไม่เสร็จ”“เปล่านะคะ” จั