LOGINจันทร์!” เสียงเรียกของคนที่กำลังวิ่งหน้าตาตื่นมาด้วยเป็นห่วงทำให้คนทั้งคู่ผละร่างออกจากกัน คนตัวสูงก็เดินออกไปทันที จันทร์ที่เห็นว่าเป็นเพื่อนตัวเองมาก็ทำหน้ามุ่ยด้วยความเสียดายที่ไม่ได้ใกล้ชิดมากกว่านี้
“ไอ้จันทร์ มึงเป็นไงบ้าง ไหนกูดูสิ”
“นั่นดิ กูเห็นตอนที่รถขับเข้ามา คิดว่ามึงจะเป็นอะไร แล้วไอ้เจ้าของรถคันนั้นก็เหมือนกันขับแม่งไม่เห็นหรือไงว่ามีคนเดินอยู่”
ไต้ฝุ่นกับตะวันรั่วคำถามพลางจับคนตัวเล็กหมุนไปหมุนมาอย่างเป็นห่วง แต่เหมือนเพื่อนของเธอจะไม่ได้สนใจพวกเธอเท่าไหร่ เพราะเอาแต่ทำหน้าเหมือนเหม็นเบื่ออะไรแบบนั้น
“ทำหน้าอะไรของมึงพวกกูเป็นห่วงแทบตาย ทำเหมือนพวกกูมาขัดจังหวะอะไร”
ก็เออน่ะ สิ อยากจะพูดใส่หน้ามันเหมือนกันแต่ทำได้แค่เก็บไว้ในใจ “เปล่าๆ กูแค่ยังช็อกอยู่ไง” แถไปก่อนอย่าให้พิรุธ
“แน่ใจนะ”
“เออ มึงมาจับผิดอะไรเนี่ย” เธอรีบโวยวายกลบเกลื่อนไม่อยากให้ ไต้ฝุ่น มันซักไซ้มากกว่านี้ ถ้าถามว่าบอกได้ไหม ก็ได้แหละ แต่ขอเก็บเป็นความลับก่อน
“แล้วเมื่อกี้กูเห็นว่ามึงยืนอยู่กับใคร ผู้ชายตัวสูงเป็นใคร”
รอดจากไต้ฝุ่นมาเจอตะวันอีก โอ๊ยจะบ้าตาย ทำไมเพื่อนเธอมันถึงช่างสังเกต ช่างสงสัยนัก
“อ่อ เขามาถามทางน่ะ”
“เหรอ แต่กูเห็นเขาใส่เสื้อช้อปเหมือนเรียนคณะเดียวกับเราเลยนะ”
เออว่ะ ฉิบหายแล้วไง จะแถก็ลืมมองอีก โธ่ไอ้จันทร์หนอไอ้จันทร์ ชื่อก็ยังไม่ถาม แถมยังมาโดนเพื่อนสอบสวนอีก ตายอย่างเดียววันนี้
“ยังไง เล่ามา!”
“เอ่อ คือ.....” จันทร์ถึงกับอึกอักพูดไม่ออกเมื่อโดนสายตาอาฆาตจากสายตาสองคู่ที่จ้องมาราวกับเธอเป็นนักโทษ แต่เอาว่ะไหนๆ ก็ไหนๆแล้ว มันไม่มีอะไรเสียหายสักหน่อย “คือเรื่องมันเป็น..........”
“ฮัลโหล!ๆ น้องๆ ที่อยู่ตามสถานที่ต่างๆ เรียนเชิญมารวมตัวกันตรงลานเกียร์ด้วยครับ ใครยังไม่ถึงภายในห้าทีเตรียมตัววิ่งรอบลานเกียร์ได้เลยครับ”
เสียงที่ประกาศดังผ่านโทรโข่งของรุ่นพี่ เรียกความฮือฮาจากรุ่นน้องปีหนึ่งที่กำลังนั่งจับกลุ่มบ้างก็กำลังรับประทานอาหาร รีบวิ่งกรูกันเข้าไปลานเกียร์ด้วยความรวดเร็ว ไม่เว้นแม้แต่สามสาวที่กำลังเล่นเกมตอบคำถามกันอยู่ เป็นอันต้องหยุดชะงักลง
“รุ่นพี่เรียกรวมอะไรตอนนี้วะ” ไต้ฝุ่นสบถออกมาด้วยหัวเสีย
“กูว่าไปก่อนเถอะไม่งั้นโดนทำโทษแน่” ตะวันว่าพร้อมกับทำท่าขนลุก แค่คิดถึงลานเกียร์ก็แขยงขนแล้ว
“เออไปกัน”
จันทร์ที่เสียงของรุ่นพี่ช่วยชีวิตจากการสอบสวนครั้งนี้ได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เพราะเธอยังไม่อยากเล่าตอนนี้ อยากรู้จักเขาคนนั้นก่อน
“เหี้ย ปีนี้รุ่นน้องแต่ละคนมีแต่นางเด็ดๆ”
“นั่นดิ แต่ละนางกูคิดว่านางฟ้านางสวรรค์มาโปรด มึงว่าไหมไอ้เข็ม”
นิรันดร์ หรือ เข็มทิศ ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งเจ้าของเส้นผมสีเทาเข้ม ที่พึ่งเดินมาถึงยังกลุ่มเพื่อนที่ตัวเองนั่งอยู่ ก็หันไปมองตามสิ่งที่เพื่อนพูดแต่ก็ไม่ได้ให้ความสนใจอะไร เขาทำเพียงแค่มองผ่านๆ พลางเดินไปนั่งข้างกับอีกคนและหยิบมือถือขึ้นมากดเข้าเกมเพื่อรอเวลา
“เห้ย มึงไม่สนใจเหรอวะ มีแต่คนสวยๆ ทั้งนั้น” สมุทรยกแขนขึ้นไปพาดบนไหล่ของคนที่พึ่งมานั่งลงข้างเขาพลันเอ่ยเย้าแหย่มันเล่นๆ
“จริง โดยเฉพาะน้องผมสีชมพูนั่น โคตรโดนใจตัวเล็กๆ แบบนี้ยกสบาย” คำพูดของอาทิตย์ทำให้คนที่ตอนแรกเหมือนจะไม่สนใจอะไรรีบเงยหน้าขึ้นจากมือถือทันทีก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ
“ไม่เห็นจะสวยตรงไหน เตี้ยเหมือนหมากระเป๋า”
“อ้าวทำไมมึงไปว่าน้องเขาแบบนั้นอ่ะ น้องเขาออกจะน่ารัก”
“จริง”
“ตัวเล็กๆ แบบนี้นะกูยกได้ทั้งคืนบอกเลย”
“ไร้สาระ! เลิกเอาเวลาสนใจรุ่นน้องไปช่วยเพื่อนทำอย่างอื่นเถอะ” น้ำเสียงหงุดหงิดเอ่ยต่อว่าเพื่อนที่พูดจาไม่รู้เรื่อง ก่อนจะหยัดกายลุกขึ้นแล้วเดินออกไปจากตรงนี้ทันที
“มันเป็นอะไรของมันวะ กูพูดอะไรผิด” อาทิตย์ยกมือขึ้นมาเกาหัวแกรกๆ อย่างไม่เข้าใจว่าเขาทำอะไรผิด ถึงทำให้พ่อหนุ่มหัวเทาหงุดหงิดแล้วเดินออกไปแบบนั้น
“สงสัยมันหัวเสีย ให้เกมมั้ง”
“แล้วมาลงที่กู” โธ่ไอ้เพื่อนเวร ไอ้คนนิสัยเสีย เล่นเกมแพ้แล้วพาลคนอื่นไปทั่ว
ใบหน้าหล่อเหล่าเงยขึ้นพ่นควันสีเทาที่สูดเข้าออกให้ลอยฟุ้งไปในอากาศ แผ่นหลังกว้างแนบไปกับผนังอันเย็นเหยียบ ดวงตาคมเข้มหลับเพื่ออัดสารนิโคตินเข้าสู่ร่างกายดับอารมณ์คุกรุ่นในใจที่มี เขาไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรแต่พอได้ยินเพื่อนพูดแบบนั้นแล้วมันรู้สึกหัวเสียยังไงไม่รู้
สงสัยจะนอนน้อยเกินไป
“โอ๊ยย ปวดฉี่ฉิบหายกว่าจะขอออกมาได้” จันทร์บ่นกระปอดกระเปียให้รุ่นพี่ ที่กว่าจะยอมให้ออกมาเข้าห้องน้ำ เล่นเอาท่อประปาแทบแตก “แล้วห้องน้ำนี่ก็ขยันเต็มเหลือเกิน นี่ถ้าเดินไปไกลกว่านี้คงทะลุมิติแล้วมั้ง”
“ทะลุไปเลยดิ”
“อุ้ย! เหี้ย”
“คนไม่ใช่เหี้ย” หล่อขนาดนี้มองยังไงเขาเป็นสัตว์เลื่อนคลานอะไรพันธุ์นั้น ยัยเตี้ยนี่เป็นคนยังไง
“แล้วนายมาทำอะไรตรงนี้”
“นั่นตาคน หรือตาตุ่ม มองไม่ออกจริงดิ” คาบอยู่ที่ปากขนาดนี้ กินกระดูกอยู่มั้ง
“หืม ต้องตาคนสิ แต่เป็นตารักตุ้มหลก ตกหลุมรัก”
“ปัญญาอ่อน!” เขาส่ายหัวให้กับมุกที่ดูเหมือนเด็กไม่รู้จักโตของเธอ พลางทิ้งบุหรี่ลงพื้นและใช้เท้าขยี้มันเพื่อให้ดับ ก่อนจะเตรียมตัวเดินออกไปแต่ถูกคนตัวเล็กมายืนขว้างหน้าไว้ เขาสอดมือเขาไปในกระเป๋าพลันพ่นลมหายใจเล็กน้อยที่ถูกขว้างทาง
“หลบ”
“เดี๋ยวก่อนสิ”
“มีอะไร รีบพูดฉันไม่มีเวลาว่างมาเล่นกับเด็กแบบเธอหรอกนะ”
“รู้ได้ไงว่าเด็ก”
“ก่อนถามนี่กรองหรือยัง ไม่เห็นชุดที่ฉันใส่กับป้ายคล้องคอตัวเองจริงดิ”
จันทร์ที่พึ่งนึกได้ว่าเธอกับเขาใส่ชุดต่างกัน เพราะเด็กปีหนึ่งตอนนี้จะใส่เป็นชุดนักศึกษาส่วนรุ่นพี่จะใส่เป็นเสื้อช้อปสีแดงเลือดหมู
“กรองแล้ว แต่ถามเพื่อความแน่ใจ”
“แล้วยังไง มาดักแบบนี้ต้องการอะไร ไม่เข้าไปเข้าห้องน้ำแล้วหรือไง”
เกือบลืมไปเลยว่ามาเข้าห้องน้ำแต่ช่างมันก่อนขอทำความรู้จักเขาก่อน เดี๋ยวจะเดินหนีหายไปอีก
“นาย เอ้ย พี่ชื่ออะไร”
“จะรู้ไปทำไม”
“ทำความรู้จักไง”
“ไม่เห็นจำเป็น”
“เดี๋ยวสิ” รั้งเขาที่เอาแต่จะเดินหนีเธออย่างเดียว ทำอย่างกับคนไม่เคยเดินอย่างไรอย่างนั้น
“อะไรอีก!” น้ำเสียงที่เข้มขึ้นบ่งบอกถึงอารมณ์ฉุนเฉียวจนจันทร์เจ้าเองก็รู้สึกประหม่า แต่ในเมื่อมาถึงขนาดนี้แล้วจะถอยแล้วกลับไปมือเปล่าไม่ได้
“ชื่ออะไรบอกมาก่อนแล้วจะไม่กวนอีก” เธอเอ่ยออกไปพร้อมกับเม้มริมฝีปากแน่นกลัวเขาจะไม่ตอบ
“เข็ม”
“
ฮะ”
“เข็ม! ชัดพอไหม” พูดกระแทกหน้าขนาดนี้ ชัดแบบ full hd 4k บวกๆ เลย
“เข็มใหญ่ไหม”
“หึ ใหญ่จนปากของเธออมไม่มิดเลยแหละ”
จันทร์เดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มสดใสตั้งแต่มาถึงคนตัวเล็กวิ่งตามหาเขาจนทั่วมารู้จากรุ่นพี่อีกทีว่าเขามาแล้วแต่เดินไปข้างหลังตึกเธอถึงตามมา“หนูหาพี่ตั้งนานมาอยู่นี่เอง” เธอไม่รอช้ารีบเดินเข้าไปหาคนที่ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดเหมือนเครียดอะไรสักอย่าง แต่คงไม่ใช่เพราะเธอหรอก“หาฉันทำไม” คนตัวสูงรีบทิ้งม้วนบุหรี่เมื่อคนตัวเล็กเข้ามาใกล้ ไม่วายหันไปมองไอ้อาทิตย์ก่อนจะเอ่ยบอกให้มันออกไปก่อน “มึงไปก่อนเลยเดี๋ยวกูตามไป”อาทิตย์พยักหน้าพร้อมกับเดินออกไปด้วยรอยยิ้มมุมปากที่คนทั้งคู่ไม่ทันได้สังเกตเห็น เข็มทิศที่เห็นว่าเพื่อนเดินออกไปแล้วก็จับมืออีกคนให้ไปคุยกันที่อื่นเพราะตรงนี้มันเป็นมุมอับหากใครมาเห็นมันจะดูไม่ดี“อ๊ะ จะพาหนูไปไหน” จันทร์เอ่ยถามเมื่ออยู่ดีๆ ก็ถูกดึงให้เดินมายังหลังตึกคณะที่มีต้นไม้ใหญ่กับโต๊ะพร้อมกับเก้าอี้วางอยู่เพียงตัวเดียวเข็มทิศเหวี่ยงหญิงสาวที่ถูกลากให้มายืนด้านหน้า คนตัวสูงมีสีหน้ายุ่งเหยิงเล็กน้อย เพราะไม่ค่อยชอบที่ถูกอีกฝ่ายมาตามตื๊อแบบนี้หรือเมื่อวานเขาจะพูดไม่ชัดหรือไงเธอถึงได้ดึงดันมาแบบนี้“มีอะไร” ถามด้วยน้ำเสียงห้วนๆ“มีรักมาฝากค่ะ” เอ่ยด้วยรอยยิ้มสดใสชูถุงกระดาษที่บรรจุ
“ชอบฉันหรืออยากโดน เeด ให้พูดอีกที”“มะ หมายความว่าไงคะ”คงไม่ใช่แบบที่เธอคิดใช่ไหม อะไร เน็ดๆ นะ“ก็ผู้หญิงมากมายที่เข้ามาสภาพรักกับฉันส่วนมากก็หวังเรื่องแบบนี้ไม่ใช่หรือไง” ชายหนุ่มว่าด้วยท่าทีที่ไม่แยแส หลายๆ คนที่เคยมาสภาพรักกับเขาสุดท้ายก็แค่หวังจะได้หลับนอนกับเขาเพียงเท่านั้น และตัวเขาเองก็ให้มันเป็นแบบนี้เพราะไม่อยากผูกมัดกับใคร“นั้นมันคนอื่น แต่หนูชอบพี่หมายถึงอยากได้เป็นแฟน”“ฉันไม่ชอบเด็ก”“แต่หนูชอบคนแก่”“แก่บ้านเธอสิ”“ถ้าบ้านหนูมีคนแก่แบบนี้ คงดีแย่เลย คนอะไรหล่อมากๆ” ว่าจบขยิบตาส่งไปให้เขาหนึ่งที แต่คนตรงหน้ากลับถอนหายใจออกมาราวกับรำคาญกันอย่างไรอย่างนั้น“เหอะ ไม่มีใครเตือนเหรอว่าอย่าเล่นของสูง” น้ำเสียงเย้ยหยัน พลางเดินเข้าไปใกล้หญิงสาวอีกนิด จนเธอขยับถอยออกไปเล็กน้อย“สะ สูงแค่ไหนคะ ถ้าไม่เกินเอื้อมหนูไม่ท้อหรอกค่ะ”“หึ ฉันจะเตือนครั้งสุดท้าย คิดจะเล่นของสูงระวังจะตกมาตาย”“ถ้าไม่สูงกว่าเปรตไม่เห็นมีไรต้องกลัว”“หึ กลัวหน่อยก็ดี เพราะคนอย่างฉันไม่ทางชอบผู้หญิงอย่างเธอ”“แบบหนูแล้วมันทำไมคะ”“แรดไง!”@เวลาต่อคำพูดที่เขาพูดทิ้งท้ายเอาไว้ทำเธอเจ็บจี๊ดกันเลยทีเดียว ถึงจ
หลังจากที่ถูกเขาน็อกด้วยประโยคกำกวมจันทร์เจ้าก็เดินเข้าไปทำธุระส่วนตัวเสร็จแล้วก็มานั่งรวมกับเพื่อนเพื่อทำกิจกรรมที่รุ่นพี่เป็นคนสั่ง ซึ่งวันแรกยังไม่มีอะไรมากส่วนใหญ่จะร้องเต้นกับแนะนำตัวประมาณนั้น และข่าวที่พึ่งได้รู้มาหมาดๆ จนเธอดีใจแทบเนื้อเต้นนั่นก็คือ เขาคนนั้น หรือ พี่เข็มทิศ เป็นรุ่นพี่ปีสามของคณะและสาขาเดียวกับเธอ ซึ่งจากที่ฟังรุ่นพี่บอกมาว่าพรุ่งนี้จะมีจัดกิจกรรมจับพี่บัดดี้ที่เปลี่ยนจากระบบพี่ว้ากที่เหี้ยมโหดมาเป็นอ่อนโยนแทน นั่นก็เท่ากับว่ามีโอกาสที่เธอกับเขาจะได้ใกล้ชิดกันแค่คิดก็มีความสุขแล้ว“โอ๊ยยย ปวดขาฉิบเป๋ง รุ่นพี่เขาคิดว่ากูเป็นแดนซ์เซอร์หรือไง ถึงได้เรียกไปเต้นอยู่นั่นแหละ”“เฮ้อ เอาน่ะรับน้องแค่ไม่กี่วันเอง” ตะวันเอ่ยปลอบไต้ฝุ่นที่งอแงไม่หยุดแล้วหันไปมองอีกคนที่เอาแต่นั่งยิ้มหน้าเบิกบาน ในขณะที่เพื่อนๆ เหนื่อยแทบตาย “แล้วนั่นมึงยิ้มอะไรไอ้จันทร์”“ฮะ กูเหรอ เปล่าๆ แค่คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย” จันทร์ที่พึ่งรู้ว่ามัวแต่เผลอคิดถึงเขาจนเพื่อนจับได้รีบปฏิเสธทันควัน“หิววะ ไปหาอะไรกินกันที่หน้า มอ ไหม ไหนๆ พี่เขาก็ปล่อยแล้ว” ไต้ฝุ่นเปรยขึ้นเพราะตอนนี้ท้องเธอร้องจ๊อกๆ แล
จันทร์!” เสียงเรียกของคนที่กำลังวิ่งหน้าตาตื่นมาด้วยเป็นห่วงทำให้คนทั้งคู่ผละร่างออกจากกัน คนตัวสูงก็เดินออกไปทันที จันทร์ที่เห็นว่าเป็นเพื่อนตัวเองมาก็ทำหน้ามุ่ยด้วยความเสียดายที่ไม่ได้ใกล้ชิดมากกว่านี้“ไอ้จันทร์ มึงเป็นไงบ้าง ไหนกูดูสิ”“นั่นดิ กูเห็นตอนที่รถขับเข้ามา คิดว่ามึงจะเป็นอะไร แล้วไอ้เจ้าของรถคันนั้นก็เหมือนกันขับแม่งไม่เห็นหรือไงว่ามีคนเดินอยู่”ไต้ฝุ่นกับตะวันรั่วคำถามพลางจับคนตัวเล็กหมุนไปหมุนมาอย่างเป็นห่วง แต่เหมือนเพื่อนของเธอจะไม่ได้สนใจพวกเธอเท่าไหร่ เพราะเอาแต่ทำหน้าเหมือนเหม็นเบื่ออะไรแบบนั้น“ทำหน้าอะไรของมึงพวกกูเป็นห่วงแทบตาย ทำเหมือนพวกกูมาขัดจังหวะอะไร”ก็เออน่ะ สิ อยากจะพูดใส่หน้ามันเหมือนกันแต่ทำได้แค่เก็บไว้ในใจ “เปล่าๆ กูแค่ยังช็อกอยู่ไง” แถไปก่อนอย่าให้พิรุธ“แน่ใจนะ”“เออ มึงมาจับผิดอะไรเนี่ย” เธอรีบโวยวายกลบเกลื่อนไม่อยากให้ ไต้ฝุ่น มันซักไซ้มากกว่านี้ ถ้าถามว่าบอกได้ไหม ก็ได้แหละ แต่ขอเก็บเป็นความลับก่อน“แล้วเมื่อกี้กูเห็นว่ามึงยืนอยู่กับใคร ผู้ชายตัวสูงเป็นใคร”รอดจากไต้ฝุ่นมาเจอตะวันอีก โอ๊ยจะบ้าตาย ทำไมเพื่อนเธอมันถึงช่างสังเกต ช่างสงสัยนัก“อ่
แสงแดดยามเช้าสาดส่องผ่านม่านผืนบางกระทบเข้ากับร่างบางที่กำลังนอนหลับใหลฝันหวานจนน้ำลายไหลยืด ดวงตาคู่สวยกระพริบขึ้นลงช้าๆ เมื่อรู้สึกแสบตาจากแสงที่ส่องเข้ามา มือเรียวดึงผ้าห่มขึ้นมาปกปิดใบหน้าหลีกเลี่ยงจากการรบกวนเพื่อนอนต่อ แต่แล้วเสียงสวรรค์หนึ่งก็ดังขึ้นจากด้านล่าง“ไอ้จันทร์โว๊ยยยย!”พรึ่บคนตัวเล็กสลัดผ้าห่มลุกออกเตียงด้วยความเร่งรีบ เธอหยิบนาฬิกาที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาดู ถึงได้เห็นว่าตอนนี้เป็นเวลาเจ็ดโมงเข้าไปแล้ว“ฉิบหาย เปิดเทอมวันแรกก็สายเลยกู” จันทร์กูลีกูจรอาบน้ำแต่งตัวให้ได้ไวที่สุด เสร็จแล้วก็รีบลงมาด้านล่างเพื่อกินอาหารเช้าด้วยความเร็วแสง“เหอะ รีบขนาดนี้จะติดคอตายก่อนเรียนจบ”แค่กๆ“พ่อออ” เธอหันไปหน้าง้อใส่คนเป็นพ่อ ที่พูดเหมือนแช่งกัน“หึ แล้วนี่จะไปอยู่หอเมื่อไหร่”“ก็วันหยุดนี้แหละ หนูไม่อยากนั่งรถไปมาเหนื่อย” ตอบพ่อพร้อมกับตักข้าวเข้าปากไปด้วย“ตั้งใจเรียนล่ะ อย่าเอาเวลาไปตามจีบผู้ชาย”“พ่อไม่ต้องเป็นห่วงหนูหรอก ยังไงหนูก็ไม่มีทางท้องก่อนเรียนจบ”“ใครบอกพ่อห่วงเอง ข้าห่วงผู้ชายโน้น ใครได้แกไปลำบากแย่”“อ้าวทำไม พ่อพูดงี้อ่ะ” เธอสวยใครเห็นก็ต้องชอบไหม ขนาดหมาหน้าปาก
“มึงที่นี่ดีมาก กูบอกเลยขออะไรก็ได้หมด”“ใช่ๆ คนแถวบ้านฉันมาขอเนื้อคู่ที่นี่ พอกลับไปไม่นานได้แต่งงานแล้ว”“อุ้ย พูดแล้วคนขนลุก เราไปขอกันบ้างเถอะ”เสียงเจื้อยแจ้วของผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมา ต่างเล่าลือกันไปทั่วถึงความศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าแม่ที่อยู่หน้าห้างแห่งหนึ่งกำลังเป็นที่โด่งดังมากมายในโลกโซเชียลไม่ว่าใครก็ต่างอยากมากราบไหว้ท่านทั้งนั้นกัษษากร หรือ จันทร์เจ้า หญิงสาวร่างเล็กที่กำลังยืนรอรถเมล์กลับบ้าน เกิดได้ยินบทสนทนานี้เข้า ทำให้เธอรู้สึกสนใจขึ้นมาทันที สองขาเรียวไม่รอช้าที่จะไปขอพรดูกับเขาสักครั้งเผื่อรอบนี้เธอจะได้มีแฟนกลับเขาเสียที“ดอกไม้ขอพรไหมหนู กำละห้าสิบบาท” แม่ค้าที่ทำหน้าที่ขายของบูชาเอ่ยถามเด็กสาวที่เดินมาทางนี้“กำเท่าไหร่นะคะ”“ห้าสิบบาทจ้ะ”“เอาหนึ่งกำค่ะ” เธอบอกกับแม่ค้าพลางล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าหยิบเอาแบงก์สีฟ้าขึ้นมายืนไปให้แม่ค้า“ขอบคุณนะแม่หนู”จันทร์พยักยิ้มก่อนจะเดินออกไปพร้อมกับดอกไม้หนึ่งกำที่แม่ค้าเป็นคนจัดเตรียม เธอมองดูคนมากมายที่ตอนนี้กำลังยืนขยับปากสวดคาถาที่มีโชว์อยู่หน้าแท่น ก่อนจะตรงไปหยิบธูปที่วางเตรียมไว้ขึ้นมาจุด มือเรียวสะบัดไล่ควันไปมาก่อนจ







