LOGINแสงแดดยามเช้าสาดส่องผ่านม่านผืนบางกระทบเข้ากับร่างบางที่กำลังนอนหลับใหลฝันหวานจนน้ำลายไหลยืด ดวงตาคู่สวยกระพริบขึ้นลงช้าๆ เมื่อรู้สึกแสบตาจากแสงที่ส่องเข้ามา มือเรียวดึงผ้าห่มขึ้นมาปกปิดใบหน้าหลีกเลี่ยงจากการรบกวนเพื่อนอนต่อ แต่แล้วเสียงสวรรค์หนึ่งก็ดังขึ้นจากด้านล่าง
“ไอ้จันทร์โว๊ยยยย!”
พรึ่บ
คนตัวเล็กสลัดผ้าห่มลุกออกเตียงด้วยความเร่งรีบ เธอหยิบนาฬิกาที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาดู ถึงได้เห็นว่าตอนนี้เป็นเวลาเจ็ดโมงเข้าไปแล้ว
“ฉิบหาย เปิดเทอมวันแรกก็สายเลยกู” จันทร์กูลีกูจรอาบน้ำแต่งตัวให้ได้ไวที่สุด เสร็จแล้วก็รีบลงมาด้านล่างเพื่อกินอาหารเช้าด้วยความเร็วแสง
“เหอะ รีบขนาดนี้จะติดคอตายก่อนเรียนจบ”
แค่กๆ
“พ่อออ” เธอหันไปหน้าง้อใส่คนเป็นพ่อ ที่พูดเหมือนแช่งกัน
“หึ แล้วนี่จะไปอยู่หอเมื่อไหร่”
“ก็วันหยุดนี้แหละ หนูไม่อยากนั่งรถไปมาเหนื่อย” ตอบพ่อพร้อมกับตักข้าวเข้าปากไปด้วย
“ตั้งใจเรียนล่ะ อย่าเอาเวลาไปตามจีบผู้ชาย”
“พ่อไม่ต้องเป็นห่วงหนูหรอก ยังไงหนูก็ไม่มีทางท้องก่อนเรียนจบ”
“ใครบอกพ่อห่วงเอง ข้าห่วงผู้ชายโน้น ใครได้แกไปลำบากแย่”
“อ้าวทำไม พ่อพูดงี้อ่ะ” เธอสวยใครเห็นก็ต้องชอบไหม ขนาดหมาหน้าปากซอยมันยังยิ้มให้เธอเลย
“ก็ม้า ดีดกะโหลกขนาดนี้ ใครได้ไปโชคร้ายสุดๆ” คนเป็นพ่อว่าพร้อมกับยิ้มขบขันที่ได้เห็นหน้าลูกสาวบึงตึง
“เหอะ โชคดีสิไม่ว่า”
@มหาลัย
เสียงนักศึกษาเจื้อยแจ้วพูดคุยกันอย่างสนุกสนานในวันเปิดภาคเรียนแรกของการศึกษา แถมยังเป็นการศึกษาใหม่สำหรับปีหนึ่ง ที่เปลี่ยนจากเด็กวัยมัธยมมาเข้าสู่นักศึกษาสาวและชายเต็มตัว
“ “มึงโทรตามมันยังว่าอยู่ไหนแล้ว” ตะวันหันไปถามกับเพื่อนอย่างไต้ฝุ่น เมื่อเห็นว่าคนที่โทรมาบอกพวกเธอว่าใกล้ถึงแล้วตอนนี้ยังไม่เห็นแม้แต่เงา
“กูโทรตามแล้ว มันบอกอยู่หน้าคณะแล้ว นั่นไง ไอ้จันทร์!” ไต้ฝุ่นพูดยังไม่ทันจบประโยค ก็เห็นคนที่กำลังพูดถึงเดินอยู่ไกลๆ
เสียงเรียกที่ดังมาแต่ไกลพร้อมกับการโบกไม้โบกมือของคนเป็นเพื่อน ทำให้จันทร์ที่กำลังหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเตรียมจะโทรหาเป็นอันต้องเก็บมันไว้ที่เดิม ก่อนจะยกมือโบกตอบกลับไปพร้อมกับรอยยิ้ม
เธอหันมองซ้ายมองขวาเตรียมจะเดินก้าวข้ามถนนไปอีกฝั่งที่เพื่อนอยู่ สองขาย่างไปด้านหน้าเตรียมจะข้ามไป แต่ยังไม่ทันได้ขยับไปไหนก็มีรถคันหนึ่งที่วิ่งสวนเข้ามารวดเร็ว
ปริ๊ดดดดดดด
“ว๊ายยยย”
หมับ
ร่างบางหมุนละลิ่วไปตามแรงเหวี่ยงจากวงแขนแกร่งที่มาโอบรอบเอวไว้เพื่อดึงให้เธอพ้นจากรัศมีรถคันนั้นที่มาด้วยความรวดเร็ว แบบเส้นยาแดงผ่าแปด
ใบหน้าเรียวสวยแนบชิดไปที่อกแกร่งจนได้กลิ่นหอมอ่อนๆ จากตัวเขา เธอเผลอสูดดมมันเข้าไปอย่างถือวิสาสะ ไม่คิดว่าเจ้าของอ้อมกอดนี้จะมีกลิ่นกายที่หอมขนาดนี้ หอมชนิดที่ว่าไม่อยากผละออกจากมันด้วยซ้ำ
งื้อ คนอะไรตัวหอมได้ขนาดนี้
“ขับรถรีบไปหาพ่องมึงในนรกหรือไง” ถอยคำหยาบคายถูกพ้นออกมาในอารมณ์หงุดหงิดจนคนที่กำลังแอบสูดดมกลิ่นกายนั้นตื่นจากภวังค์
“ส่วนเธอเมื่อไหร่ จะเลิกแอบดมเสื้อฉันสักที”
“เออ คือ...” เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงละล่ำละลักเมื่อถูกจับได้
“แล้วกรุณาปล่อยแขนออกจากเอวฉันด้วย จะกอดให้ถึงชาติหน้าเลยไหม”
“ได้เหรอค่ะ” สวนกลับแบบตาใสๆ ถ้าเขาตอบว่าได้เธอจะหิ้วกลับบ้านเดี๋ยวนี้ เอาไปนอนกอด นอนหอมให้ชื่นใจ
“ฉันประชด!” ชายหนุ่มว่าพลางจับแขนที่ยังโอบเอวอยู่ออก ก่อนจะถอยออกห่างจากหญิงสาวเล็กน้อย จันทร์ที่เห็นว่าเขาทำท่าเหมือนรังเกียจกันก็เบ้ปากเล็กน้อย เอ๊ะ แต่ว่าทำไมเขาหน้าคุ้นๆ เหมือนเคยเจอที่ไหน
“นายดูหน้าคุ้นๆ นะ เหมือนเคยเจอที่ไหน”
“หน้าฉันไปซ้ำกับญาติเธอหรือไง”
“เปล่าแต่เหมือนสามีในอนาคตมากกว่า” ยักคิ้วส่งไปให้เขาหนึ่งที คนอะไรปากดีๆ จริง แม่อยากจับจูบปากสักทีให้เข็ด
“อนาคตหน้าอ่าสิ”
“อนาคตนี้แหละค่ะ” หล่อพูดได้คำเดียวว่าหล่อ เ
“เลิกมองฉันด้วยแววตาแบบนั้นสักที เห็นแล้วขนลุก”
“แห๋มมม ถ้าเป็นคนอื่นคงอย่างอื่นลุกไปแล้ว” เธอสวยสะเด็ด น่ารัก แถมสีผมยังโดดเด่นขนาดนี้ไม่เข้าตาเขาบ้างหรือไง
“เหอะ คนอื่นอ่าสิไม่ใช่ฉัน” เขาว่าพร้อมกับทำท่าเหมือนจะเดินออกไปแต่เธอก็เดินเข้าไปดักหน้าเขาเอาไว้ก่อนเมื่อนึกอะไรออก
“มาขว้างทำไม”
“ฉันนึกออกแล้วว่าเคยเจอนายที่ไหน”
“ที่ไหน”
“ที่หน้าห้างเมื่ออาทิตย์ก่อน ที่นายเอารองเท้าขว้างโดนหัวฉันไง”
หัวคิ้วของชายหนุ่มขมวดมุ่นเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้รู้สึกอะไรเพราะเขาจำเธอได้ตั้งนานแล้ว จะจำไม่ได้ยังสีผมโดดเด่นขนาดนี้ต่อให้มองจากดาวอังคารก็เห็น
“จำได้ยัง” จันทร์เอ่ยด้วยสีหน้าตื่นเต้นพลางยื่นหน้าไปให้เข้าดูใกล้ๆ เผื่อจะได้นึกออกไวๆ
“เอาหน้าออกไป”
“เผื่อนายจะนึกได้ไง”
“บอกให้เอาออกไป”
“ทำไมเขินเหรอ โธ่แค่นี้ทำเป็นเขิน ทำอย่างกับ อ๊ะ”
หญิงสาวร้องออกมาด้วยความตกใจ เมื่อร่างของเธอเซถลาไปตามแรงดึงของอีกฝ่ายจนเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดเขา คนตัวเล็กถึงกับมีสีหน้าเหล่อหล่าเลยทีเดียวเพราะเธอเพียงแค่ต้องการแกล้งเขาไม่คิดว่าจะถูกอีกฝ่ายดึงเข้าไปแบบนี้
“เขินพอไหม”
“พะ พอ เอ้ย ไม่เห็นจะเขินเลย” เชิดหน้าขึ้นท้าทายอย่างต้องการเอาชนะทั้งๆ ที่ในใจตอนนี้เต้นแรงยิ่งกว่าจังหวะสามช่าแถมตอนนี้เขายังโน้มใบหน้าลงมาชิดกับลำคอเธออีก ตายแน่ ตายสถานเดียว
“หึ แล้วแบบนี้ล่ะ”
“..........” น้ำลายอึกใหญ่ถูกกลืนลงคอทันที กับเสียงทุ้มที่เอ่ยพร้อมกับลมหายใจที่ชิดลำคอ เล่นเอาเธอร่างกายแข็งทื่อไม่สามารถขยับเขยื้อนไปไหนได้มันเหมือนแรงดึงดูดอะไรสักอย่างที่ทำให้เธออยากใกล้ชิดกับเขามากกว่านี้
แต่แล้ว
“ไอ้จันทร์!”
จันทร์เดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มสดใสตั้งแต่มาถึงคนตัวเล็กวิ่งตามหาเขาจนทั่วมารู้จากรุ่นพี่อีกทีว่าเขามาแล้วแต่เดินไปข้างหลังตึกเธอถึงตามมา“หนูหาพี่ตั้งนานมาอยู่นี่เอง” เธอไม่รอช้ารีบเดินเข้าไปหาคนที่ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดเหมือนเครียดอะไรสักอย่าง แต่คงไม่ใช่เพราะเธอหรอก“หาฉันทำไม” คนตัวสูงรีบทิ้งม้วนบุหรี่เมื่อคนตัวเล็กเข้ามาใกล้ ไม่วายหันไปมองไอ้อาทิตย์ก่อนจะเอ่ยบอกให้มันออกไปก่อน “มึงไปก่อนเลยเดี๋ยวกูตามไป”อาทิตย์พยักหน้าพร้อมกับเดินออกไปด้วยรอยยิ้มมุมปากที่คนทั้งคู่ไม่ทันได้สังเกตเห็น เข็มทิศที่เห็นว่าเพื่อนเดินออกไปแล้วก็จับมืออีกคนให้ไปคุยกันที่อื่นเพราะตรงนี้มันเป็นมุมอับหากใครมาเห็นมันจะดูไม่ดี“อ๊ะ จะพาหนูไปไหน” จันทร์เอ่ยถามเมื่ออยู่ดีๆ ก็ถูกดึงให้เดินมายังหลังตึกคณะที่มีต้นไม้ใหญ่กับโต๊ะพร้อมกับเก้าอี้วางอยู่เพียงตัวเดียวเข็มทิศเหวี่ยงหญิงสาวที่ถูกลากให้มายืนด้านหน้า คนตัวสูงมีสีหน้ายุ่งเหยิงเล็กน้อย เพราะไม่ค่อยชอบที่ถูกอีกฝ่ายมาตามตื๊อแบบนี้หรือเมื่อวานเขาจะพูดไม่ชัดหรือไงเธอถึงได้ดึงดันมาแบบนี้“มีอะไร” ถามด้วยน้ำเสียงห้วนๆ“มีรักมาฝากค่ะ” เอ่ยด้วยรอยยิ้มสดใสชูถุงกระดาษที่บรรจุ
“ชอบฉันหรืออยากโดน เeด ให้พูดอีกที”“มะ หมายความว่าไงคะ”คงไม่ใช่แบบที่เธอคิดใช่ไหม อะไร เน็ดๆ นะ“ก็ผู้หญิงมากมายที่เข้ามาสภาพรักกับฉันส่วนมากก็หวังเรื่องแบบนี้ไม่ใช่หรือไง” ชายหนุ่มว่าด้วยท่าทีที่ไม่แยแส หลายๆ คนที่เคยมาสภาพรักกับเขาสุดท้ายก็แค่หวังจะได้หลับนอนกับเขาเพียงเท่านั้น และตัวเขาเองก็ให้มันเป็นแบบนี้เพราะไม่อยากผูกมัดกับใคร“นั้นมันคนอื่น แต่หนูชอบพี่หมายถึงอยากได้เป็นแฟน”“ฉันไม่ชอบเด็ก”“แต่หนูชอบคนแก่”“แก่บ้านเธอสิ”“ถ้าบ้านหนูมีคนแก่แบบนี้ คงดีแย่เลย คนอะไรหล่อมากๆ” ว่าจบขยิบตาส่งไปให้เขาหนึ่งที แต่คนตรงหน้ากลับถอนหายใจออกมาราวกับรำคาญกันอย่างไรอย่างนั้น“เหอะ ไม่มีใครเตือนเหรอว่าอย่าเล่นของสูง” น้ำเสียงเย้ยหยัน พลางเดินเข้าไปใกล้หญิงสาวอีกนิด จนเธอขยับถอยออกไปเล็กน้อย“สะ สูงแค่ไหนคะ ถ้าไม่เกินเอื้อมหนูไม่ท้อหรอกค่ะ”“หึ ฉันจะเตือนครั้งสุดท้าย คิดจะเล่นของสูงระวังจะตกมาตาย”“ถ้าไม่สูงกว่าเปรตไม่เห็นมีไรต้องกลัว”“หึ กลัวหน่อยก็ดี เพราะคนอย่างฉันไม่ทางชอบผู้หญิงอย่างเธอ”“แบบหนูแล้วมันทำไมคะ”“แรดไง!”@เวลาต่อคำพูดที่เขาพูดทิ้งท้ายเอาไว้ทำเธอเจ็บจี๊ดกันเลยทีเดียว ถึงจ
หลังจากที่ถูกเขาน็อกด้วยประโยคกำกวมจันทร์เจ้าก็เดินเข้าไปทำธุระส่วนตัวเสร็จแล้วก็มานั่งรวมกับเพื่อนเพื่อทำกิจกรรมที่รุ่นพี่เป็นคนสั่ง ซึ่งวันแรกยังไม่มีอะไรมากส่วนใหญ่จะร้องเต้นกับแนะนำตัวประมาณนั้น และข่าวที่พึ่งได้รู้มาหมาดๆ จนเธอดีใจแทบเนื้อเต้นนั่นก็คือ เขาคนนั้น หรือ พี่เข็มทิศ เป็นรุ่นพี่ปีสามของคณะและสาขาเดียวกับเธอ ซึ่งจากที่ฟังรุ่นพี่บอกมาว่าพรุ่งนี้จะมีจัดกิจกรรมจับพี่บัดดี้ที่เปลี่ยนจากระบบพี่ว้ากที่เหี้ยมโหดมาเป็นอ่อนโยนแทน นั่นก็เท่ากับว่ามีโอกาสที่เธอกับเขาจะได้ใกล้ชิดกันแค่คิดก็มีความสุขแล้ว“โอ๊ยยย ปวดขาฉิบเป๋ง รุ่นพี่เขาคิดว่ากูเป็นแดนซ์เซอร์หรือไง ถึงได้เรียกไปเต้นอยู่นั่นแหละ”“เฮ้อ เอาน่ะรับน้องแค่ไม่กี่วันเอง” ตะวันเอ่ยปลอบไต้ฝุ่นที่งอแงไม่หยุดแล้วหันไปมองอีกคนที่เอาแต่นั่งยิ้มหน้าเบิกบาน ในขณะที่เพื่อนๆ เหนื่อยแทบตาย “แล้วนั่นมึงยิ้มอะไรไอ้จันทร์”“ฮะ กูเหรอ เปล่าๆ แค่คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย” จันทร์ที่พึ่งรู้ว่ามัวแต่เผลอคิดถึงเขาจนเพื่อนจับได้รีบปฏิเสธทันควัน“หิววะ ไปหาอะไรกินกันที่หน้า มอ ไหม ไหนๆ พี่เขาก็ปล่อยแล้ว” ไต้ฝุ่นเปรยขึ้นเพราะตอนนี้ท้องเธอร้องจ๊อกๆ แล
จันทร์!” เสียงเรียกของคนที่กำลังวิ่งหน้าตาตื่นมาด้วยเป็นห่วงทำให้คนทั้งคู่ผละร่างออกจากกัน คนตัวสูงก็เดินออกไปทันที จันทร์ที่เห็นว่าเป็นเพื่อนตัวเองมาก็ทำหน้ามุ่ยด้วยความเสียดายที่ไม่ได้ใกล้ชิดมากกว่านี้“ไอ้จันทร์ มึงเป็นไงบ้าง ไหนกูดูสิ”“นั่นดิ กูเห็นตอนที่รถขับเข้ามา คิดว่ามึงจะเป็นอะไร แล้วไอ้เจ้าของรถคันนั้นก็เหมือนกันขับแม่งไม่เห็นหรือไงว่ามีคนเดินอยู่”ไต้ฝุ่นกับตะวันรั่วคำถามพลางจับคนตัวเล็กหมุนไปหมุนมาอย่างเป็นห่วง แต่เหมือนเพื่อนของเธอจะไม่ได้สนใจพวกเธอเท่าไหร่ เพราะเอาแต่ทำหน้าเหมือนเหม็นเบื่ออะไรแบบนั้น“ทำหน้าอะไรของมึงพวกกูเป็นห่วงแทบตาย ทำเหมือนพวกกูมาขัดจังหวะอะไร”ก็เออน่ะ สิ อยากจะพูดใส่หน้ามันเหมือนกันแต่ทำได้แค่เก็บไว้ในใจ “เปล่าๆ กูแค่ยังช็อกอยู่ไง” แถไปก่อนอย่าให้พิรุธ“แน่ใจนะ”“เออ มึงมาจับผิดอะไรเนี่ย” เธอรีบโวยวายกลบเกลื่อนไม่อยากให้ ไต้ฝุ่น มันซักไซ้มากกว่านี้ ถ้าถามว่าบอกได้ไหม ก็ได้แหละ แต่ขอเก็บเป็นความลับก่อน“แล้วเมื่อกี้กูเห็นว่ามึงยืนอยู่กับใคร ผู้ชายตัวสูงเป็นใคร”รอดจากไต้ฝุ่นมาเจอตะวันอีก โอ๊ยจะบ้าตาย ทำไมเพื่อนเธอมันถึงช่างสังเกต ช่างสงสัยนัก“อ่
แสงแดดยามเช้าสาดส่องผ่านม่านผืนบางกระทบเข้ากับร่างบางที่กำลังนอนหลับใหลฝันหวานจนน้ำลายไหลยืด ดวงตาคู่สวยกระพริบขึ้นลงช้าๆ เมื่อรู้สึกแสบตาจากแสงที่ส่องเข้ามา มือเรียวดึงผ้าห่มขึ้นมาปกปิดใบหน้าหลีกเลี่ยงจากการรบกวนเพื่อนอนต่อ แต่แล้วเสียงสวรรค์หนึ่งก็ดังขึ้นจากด้านล่าง“ไอ้จันทร์โว๊ยยยย!”พรึ่บคนตัวเล็กสลัดผ้าห่มลุกออกเตียงด้วยความเร่งรีบ เธอหยิบนาฬิกาที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาดู ถึงได้เห็นว่าตอนนี้เป็นเวลาเจ็ดโมงเข้าไปแล้ว“ฉิบหาย เปิดเทอมวันแรกก็สายเลยกู” จันทร์กูลีกูจรอาบน้ำแต่งตัวให้ได้ไวที่สุด เสร็จแล้วก็รีบลงมาด้านล่างเพื่อกินอาหารเช้าด้วยความเร็วแสง“เหอะ รีบขนาดนี้จะติดคอตายก่อนเรียนจบ”แค่กๆ“พ่อออ” เธอหันไปหน้าง้อใส่คนเป็นพ่อ ที่พูดเหมือนแช่งกัน“หึ แล้วนี่จะไปอยู่หอเมื่อไหร่”“ก็วันหยุดนี้แหละ หนูไม่อยากนั่งรถไปมาเหนื่อย” ตอบพ่อพร้อมกับตักข้าวเข้าปากไปด้วย“ตั้งใจเรียนล่ะ อย่าเอาเวลาไปตามจีบผู้ชาย”“พ่อไม่ต้องเป็นห่วงหนูหรอก ยังไงหนูก็ไม่มีทางท้องก่อนเรียนจบ”“ใครบอกพ่อห่วงเอง ข้าห่วงผู้ชายโน้น ใครได้แกไปลำบากแย่”“อ้าวทำไม พ่อพูดงี้อ่ะ” เธอสวยใครเห็นก็ต้องชอบไหม ขนาดหมาหน้าปาก
“มึงที่นี่ดีมาก กูบอกเลยขออะไรก็ได้หมด”“ใช่ๆ คนแถวบ้านฉันมาขอเนื้อคู่ที่นี่ พอกลับไปไม่นานได้แต่งงานแล้ว”“อุ้ย พูดแล้วคนขนลุก เราไปขอกันบ้างเถอะ”เสียงเจื้อยแจ้วของผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมา ต่างเล่าลือกันไปทั่วถึงความศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าแม่ที่อยู่หน้าห้างแห่งหนึ่งกำลังเป็นที่โด่งดังมากมายในโลกโซเชียลไม่ว่าใครก็ต่างอยากมากราบไหว้ท่านทั้งนั้นกัษษากร หรือ จันทร์เจ้า หญิงสาวร่างเล็กที่กำลังยืนรอรถเมล์กลับบ้าน เกิดได้ยินบทสนทนานี้เข้า ทำให้เธอรู้สึกสนใจขึ้นมาทันที สองขาเรียวไม่รอช้าที่จะไปขอพรดูกับเขาสักครั้งเผื่อรอบนี้เธอจะได้มีแฟนกลับเขาเสียที“ดอกไม้ขอพรไหมหนู กำละห้าสิบบาท” แม่ค้าที่ทำหน้าที่ขายของบูชาเอ่ยถามเด็กสาวที่เดินมาทางนี้“กำเท่าไหร่นะคะ”“ห้าสิบบาทจ้ะ”“เอาหนึ่งกำค่ะ” เธอบอกกับแม่ค้าพลางล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าหยิบเอาแบงก์สีฟ้าขึ้นมายืนไปให้แม่ค้า“ขอบคุณนะแม่หนู”จันทร์พยักยิ้มก่อนจะเดินออกไปพร้อมกับดอกไม้หนึ่งกำที่แม่ค้าเป็นคนจัดเตรียม เธอมองดูคนมากมายที่ตอนนี้กำลังยืนขยับปากสวดคาถาที่มีโชว์อยู่หน้าแท่น ก่อนจะตรงไปหยิบธูปที่วางเตรียมไว้ขึ้นมาจุด มือเรียวสะบัดไล่ควันไปมาก่อนจ







