เข้าสู่ระบบ“ชอบฉันหรืออยากโดน เeด ให้พูดอีกที”
“มะ หมายความว่าไงคะ”คงไม่ใช่แบบที่เธอคิดใช่ไหม อะไร เน็ดๆ นะ
“ก็ผู้หญิงมากมายที่เข้ามาสภาพรักกับฉันส่วนมากก็หวังเรื่องแบบนี้ไม่ใช่หรือไง” ชายหนุ่มว่าด้วยท่าทีที่ไม่แยแส หลายๆ คนที่เคยมาสภาพรักกับเขาสุดท้ายก็แค่หวังจะได้หลับนอนกับเขาเพียงเท่านั้น และตัวเขาเองก็ให้มันเป็นแบบนี้เพราะไม่อยากผูกมัดกับใคร
“นั้นมันคนอื่น แต่หนูชอบพี่หมายถึงอยากได้เป็นแฟน”
“ฉันไม่ชอบเด็ก”
“แต่หนูชอบคนแก่”
“แก่บ้านเธอสิ”
“ถ้าบ้านหนูมีคนแก่แบบนี้ คงดีแย่เลย คนอะไรหล่อมากๆ” ว่าจบขยิบตาส่งไปให้เขาหนึ่งที แต่คนตรงหน้ากลับถอนหายใจออกมาราวกับรำคาญกันอย่างไรอย่างนั้น
“เหอะ ไม่มีใครเตือนเหรอว่าอย่าเล่นของสูง” น้ำเสียงเย้ยหยัน พลางเดินเข้าไปใกล้หญิงสาวอีกนิด จนเธอขยับถอยออกไปเล็กน้อย
“สะ สูงแค่ไหนคะ ถ้าไม่เกินเอื้อมหนูไม่ท้อหรอกค่ะ”
“หึ ฉันจะเตือนครั้งสุดท้าย คิดจะเล่นของสูงระวังจะตกมาตาย”
“ถ้าไม่สูงกว่าเปรตไม่เห็นมีไรต้องกลัว”
“หึ กลัวหน่อยก็ดี เพราะคนอย่างฉันไม่ทางชอบผู้หญิงอย่างเธอ”
“แบบหนูแล้วมันทำไมคะ”
“แรดไง!”
@เวลาต่อ
คำพูดที่เขาพูดทิ้งท้ายเอาไว้ทำเธอเจ็บจี๊ดกันเลยทีเดียว ถึงจะรู้มาบ้างจากที่เจอกันไม่กี่ครั้งว่าเขาเป็นคนปากไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่ แต่ไอ้ที่เคืองเนี่ยเขามาว่าเธอแรดได้ยังไง ทั้งๆที่ปกติแล้วเธอไม่เคยที่จะเข้าหาใครก่อนเลยสักครั้ง แต่กลับเขาไม่รู้ทำไม มันถึงอยากรู้จักอยากเอาชนะให้ได้
“เฮ้อออออออออออ”
“ลมหายใจหมดปอดแล้วมั้งถอนขนาดนี้”
“นั่นสิ เป็นอะไรเอาแต่นั่งถอนหายใจทำหน้าเหมือนแบกโลกทั้งใบไว้แบบนี้”
จันทร์ฟุบหน้าลงกับโต๊ะอย่างหมดอาลัยตายอยาก หัวสมองก็เอาแต่คิดว่าจะทำยังไงให้เขาสนใจ ทำยังไงถึงจะได้รู้จักกันมากกว่านี้ ไม่ใช่รู้แค่ชื่อ หรือจะไปบนกับเจ้าแม่ดีให้เราได้พี่บัดดี้เป็นเขา
“มีอะไร เล่าให้พวกกูฟังสิ” ตะวันลูบหลังทำราวกับปลอบคนอ่อนแอที่ไม่รู้ว่ามีปัญหาเรื่องอะไร แต่เธอแค่อยากให้เพื่อนสบายใจเท่านั้น จันทร์เงยหน้าเอียงมองก่อนจะถอนหายใจอีกครั้งและหยัดตัวขึ้นพร้อมกับเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เพื่อนฟัง
“คือเรื่องมันเป็นแบบนี้” เธอเริ่มเล่าตั้งแต่เริ่มแรกที่เจอแล้วก็เล่าวันนี้ที่ได้พบเขาอีกครั้ง รวมถึงเรื่องทั้งหมดแบบไม่มีกัก ซึ่งไต้ฝุ่นกับตะวันก็เป็นผู้ฟังที่ดี จนกระทั่งเธอเล่าจบเท่านั้นแหละ
“โห่ นี่มันมนต์รักรองเท้าลอยชัดๆ”
“สุดยอดมากเหลือเชื่อเจ้าแม่ชั่งประทานให้มึงจริงๆ กูตบมือให้เลย แป๊ะๆ” ตะวันว่าพร้อมกับตบมืออย่างชอบใจ
“เหอะ ไม่ต้องมาแซวเลย” คนอุตส่าห์เล่าให้ฟังยังจะมาแกล้งกันอีก รู้งี้ไม่เล่าให้ฟังก็ดีแล้ว
“โธ่ อย่างอนเลยนะ แม่จันทร์เอ๋ยจันทร์เจ้า” ไต้ฝุ่นยืนมือเข้าไปหยิกแก้มคนที่ทำหน้างอนเป็นปลาปักเป้าจนใบหน้าคนตัวเล็กยืดยาวเป็นหมากฝรั่ง
“อื้อ เจ็บนะเอามือออกไปเลย” ว่าพลางจับมือมันออก ไอ้บ้านิจับมาได้เจ็บนะ
“แล้วยังไง คิดดีแล้วเหรอจะจีบพี่เขา กูได้ข่าวว่าเขาเจ้าชู้เอาเรื่องอยู่นะ แถมปากก็ขั้นสุดหมายังเรียกเขาว่าตัวพ่อ” ตะวันอธิบายให้คนด้านข้างฟังที่เธอรู้เพราะรู้จักกับรุ่นพี่มาอีกที เห็นว่าเพื่อนสนใจเลยพูดให้ฟัง
จันทร์ที่ได้ยินแบบนั้นยิ่งคิดหนักเข้าไปใหญ่เพราะหากแค่เขาปกติยังดูจีบอยากแล้ว ถ้าเป็นพวกเพลย์บอยอีกเธอไม่ต้องไปตบตีกับบรรดาสาวๆ เขาเหรอ
“ดูทำหน้าเข้า รู้แค่นี้ทำไมจะถอยแล้วหรือไง ไอ้จันทร์ที่กูรู้จักมันกล้าได้กล้าเสีย ไม่ใช่มานั่งซึมแบบนี้”
นั่นดิไอ้ฝุ่นพูดถูกเธอจะมานั่งเป็นหมาหงอยแบบนี้ไม่ได้ พึ่งจะลุกเขาแค่สองครั้งเองจะท้อแบบนี้ไม่ได้
“ใครบอก ว่ากูจะถอย มึงคอยดูเลยนายพรานแบบกูจะปราบเสือให้ดู”
วันต่อมา
เช้านี้จันทร์เจ้าไม่ได้ตื่นสายเหมือนวันที่ผ่านมาเพราะเธอมีบางอย่างต้องทำนั่นก็คือการทำขนมปังแซนด์วิชไปฝากพี่เข็ม จะว่าไปเธอก็ไม่รู้ว่าเขาจะชอบในสิ่งที่เธอทำให้หรือเปล่าแต่ของแบบนี้ไม่ลองไม่รู้
“หึ น้ำมันจะท่วมโลกแล้วมั้งลูกสาวพ่อตื่นเช้าขนาดนี้” เสียงของคนเป็นพ่อเอ่ยแซวลูกสาวที่วันนี้ตื่นตั้งแต่ไก่ยังไม่ขันฟ้ายังไม่เปิด
“ถ้ามันจะท่วมคงท่วมที่อู่เราอันดับแรก”
“ไอ้แสบนิ แช่งร้านพ่อทำไม”
“ก็พ่อแซวหนูก่อน” หันไปค่อนแคะพ่อที่เดินเข้ามาพร้อมถ้วยกาแฟในมือแทบยังเอาแขนอีกข้างมาพาดบ่าเธออีก
“แล้วนี่อะไร ทำไมเยอะจัง” มองดูแซนวิชที่วางเรียงรายเต็มไปหมดคิดว่าจะไปทำโรงทานที่ไหน
“ก็เอาไปฝาก ไอ้ฝุ่นกับตะวัน ส่วนอันนี้เอาไปฝากลูกเขยพ่อ” หยิบอันที่ตัดเป็นรูปหัวใจยืนให้คนเป็นพ่อดู
“ลูกเขย ใครมันกล้ามาจีบลูกสาวพ่อกัน”
“ไม่ใช่เขา แต่หนูเนี่ยไปจีบเขาเอง” พูดแล้วก็เขินเกิดมาพึ่งเคยจีบผู้ชายก่อนเป็นครั้งแรก
“แย่เลยสิแบบนี้”
“ก็นิดหน่อย”
“ไม่ๆ พ่อหมายถึงเขาก็แย่เลยสิ ที่เจอลูก ฮ่าๆๆๆ” ผู้เป็นพ่อหัวเราะออกมาด้วยความชอบใจ ผิดกับคนตัวเล็กที่ได้แต่ถอนหายใจให้ความกวนนี้
“เหอะ ขำไปเถอะถ้าหนูจีบติดเมื่อไหร่จะเอามาอวดทุกวันเลยคอยดู” ว่าพลางเก็บของใช้กระเป๋าผ้าแล้วเดินออกด้วยท่ากระฟัดกระเฟียด พ่อนะพ่อ ชอบพูดแบบนี้ตลอดเลยแถมไม่วายยังตะโกนตามหลังอีก
“แล้วพ่อจะคอยดู”
มหาลัย
เป็นเช้าอีกวันที่เหล่านักศึกษาปีหนึ่งต้องตื่นเช้ามาทำกิจกรรมสำหรับนักศึกษาใหม่นั่นก็คือการรับน้องและที่ทุกคนเฝ้ารอ นั้นคือการจับฉลากพี่บัดดี้ เพราะใครหลายคนต่างลุ้นว่าเราจะได้รุ่นพี่ที่หมายปองหรือเปล่า
“ทำไมวันนี้มาเช้า”
อาทิตย์เดินเข้ามาพร้อมม้วนบุหรี่ที่ยกขึ้นจรดริมฝีปากเอ่ยถามไอ้คนที่ปกติกว่าจะมาได้ต้องเลยเวลาเข้าเรียนไปแล้วถึงจะโพล่หัว
เข็มทิศไม่ได้ตอบในทันที เขาพ่นควันสีเทาให้ลอยคุ้งไปในอากาศพลางจะยกมืออีกข้างขึ้นมานวดขมับให้คล้ายความตึงเครียดที่สะสมมาตลอดทั้งคืน
“เป็นอะไร มึงแลเครียดๆ นะ”
“ป่าวเรื่องที่บ้านน่ะ แล้วนี่ไอ้สมุทรมันไปไหนยังไม่ถึงอีกเหรอ”
“กูเห็นมันบอกใกล้ถึงแล้ว คงไปรวมกันที่ลานแหละมั้
ง”
เขาพยักหน้ารับเพียงเท่านั้นก่อนจะหันมาสนใจกับสิ่งที่ถืออยู่ในมือ
“พี่เข็ม! สุดหล่ออยู่นี่เอง”
“เชี่ย”
จันทร์เดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มสดใสตั้งแต่มาถึงคนตัวเล็กวิ่งตามหาเขาจนทั่วมารู้จากรุ่นพี่อีกทีว่าเขามาแล้วแต่เดินไปข้างหลังตึกเธอถึงตามมา“หนูหาพี่ตั้งนานมาอยู่นี่เอง” เธอไม่รอช้ารีบเดินเข้าไปหาคนที่ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดเหมือนเครียดอะไรสักอย่าง แต่คงไม่ใช่เพราะเธอหรอก“หาฉันทำไม” คนตัวสูงรีบทิ้งม้วนบุหรี่เมื่อคนตัวเล็กเข้ามาใกล้ ไม่วายหันไปมองไอ้อาทิตย์ก่อนจะเอ่ยบอกให้มันออกไปก่อน “มึงไปก่อนเลยเดี๋ยวกูตามไป”อาทิตย์พยักหน้าพร้อมกับเดินออกไปด้วยรอยยิ้มมุมปากที่คนทั้งคู่ไม่ทันได้สังเกตเห็น เข็มทิศที่เห็นว่าเพื่อนเดินออกไปแล้วก็จับมืออีกคนให้ไปคุยกันที่อื่นเพราะตรงนี้มันเป็นมุมอับหากใครมาเห็นมันจะดูไม่ดี“อ๊ะ จะพาหนูไปไหน” จันทร์เอ่ยถามเมื่ออยู่ดีๆ ก็ถูกดึงให้เดินมายังหลังตึกคณะที่มีต้นไม้ใหญ่กับโต๊ะพร้อมกับเก้าอี้วางอยู่เพียงตัวเดียวเข็มทิศเหวี่ยงหญิงสาวที่ถูกลากให้มายืนด้านหน้า คนตัวสูงมีสีหน้ายุ่งเหยิงเล็กน้อย เพราะไม่ค่อยชอบที่ถูกอีกฝ่ายมาตามตื๊อแบบนี้หรือเมื่อวานเขาจะพูดไม่ชัดหรือไงเธอถึงได้ดึงดันมาแบบนี้“มีอะไร” ถามด้วยน้ำเสียงห้วนๆ“มีรักมาฝากค่ะ” เอ่ยด้วยรอยยิ้มสดใสชูถุงกระดาษที่บรรจุ
“ชอบฉันหรืออยากโดน เeด ให้พูดอีกที”“มะ หมายความว่าไงคะ”คงไม่ใช่แบบที่เธอคิดใช่ไหม อะไร เน็ดๆ นะ“ก็ผู้หญิงมากมายที่เข้ามาสภาพรักกับฉันส่วนมากก็หวังเรื่องแบบนี้ไม่ใช่หรือไง” ชายหนุ่มว่าด้วยท่าทีที่ไม่แยแส หลายๆ คนที่เคยมาสภาพรักกับเขาสุดท้ายก็แค่หวังจะได้หลับนอนกับเขาเพียงเท่านั้น และตัวเขาเองก็ให้มันเป็นแบบนี้เพราะไม่อยากผูกมัดกับใคร“นั้นมันคนอื่น แต่หนูชอบพี่หมายถึงอยากได้เป็นแฟน”“ฉันไม่ชอบเด็ก”“แต่หนูชอบคนแก่”“แก่บ้านเธอสิ”“ถ้าบ้านหนูมีคนแก่แบบนี้ คงดีแย่เลย คนอะไรหล่อมากๆ” ว่าจบขยิบตาส่งไปให้เขาหนึ่งที แต่คนตรงหน้ากลับถอนหายใจออกมาราวกับรำคาญกันอย่างไรอย่างนั้น“เหอะ ไม่มีใครเตือนเหรอว่าอย่าเล่นของสูง” น้ำเสียงเย้ยหยัน พลางเดินเข้าไปใกล้หญิงสาวอีกนิด จนเธอขยับถอยออกไปเล็กน้อย“สะ สูงแค่ไหนคะ ถ้าไม่เกินเอื้อมหนูไม่ท้อหรอกค่ะ”“หึ ฉันจะเตือนครั้งสุดท้าย คิดจะเล่นของสูงระวังจะตกมาตาย”“ถ้าไม่สูงกว่าเปรตไม่เห็นมีไรต้องกลัว”“หึ กลัวหน่อยก็ดี เพราะคนอย่างฉันไม่ทางชอบผู้หญิงอย่างเธอ”“แบบหนูแล้วมันทำไมคะ”“แรดไง!”@เวลาต่อคำพูดที่เขาพูดทิ้งท้ายเอาไว้ทำเธอเจ็บจี๊ดกันเลยทีเดียว ถึงจ
หลังจากที่ถูกเขาน็อกด้วยประโยคกำกวมจันทร์เจ้าก็เดินเข้าไปทำธุระส่วนตัวเสร็จแล้วก็มานั่งรวมกับเพื่อนเพื่อทำกิจกรรมที่รุ่นพี่เป็นคนสั่ง ซึ่งวันแรกยังไม่มีอะไรมากส่วนใหญ่จะร้องเต้นกับแนะนำตัวประมาณนั้น และข่าวที่พึ่งได้รู้มาหมาดๆ จนเธอดีใจแทบเนื้อเต้นนั่นก็คือ เขาคนนั้น หรือ พี่เข็มทิศ เป็นรุ่นพี่ปีสามของคณะและสาขาเดียวกับเธอ ซึ่งจากที่ฟังรุ่นพี่บอกมาว่าพรุ่งนี้จะมีจัดกิจกรรมจับพี่บัดดี้ที่เปลี่ยนจากระบบพี่ว้ากที่เหี้ยมโหดมาเป็นอ่อนโยนแทน นั่นก็เท่ากับว่ามีโอกาสที่เธอกับเขาจะได้ใกล้ชิดกันแค่คิดก็มีความสุขแล้ว“โอ๊ยยย ปวดขาฉิบเป๋ง รุ่นพี่เขาคิดว่ากูเป็นแดนซ์เซอร์หรือไง ถึงได้เรียกไปเต้นอยู่นั่นแหละ”“เฮ้อ เอาน่ะรับน้องแค่ไม่กี่วันเอง” ตะวันเอ่ยปลอบไต้ฝุ่นที่งอแงไม่หยุดแล้วหันไปมองอีกคนที่เอาแต่นั่งยิ้มหน้าเบิกบาน ในขณะที่เพื่อนๆ เหนื่อยแทบตาย “แล้วนั่นมึงยิ้มอะไรไอ้จันทร์”“ฮะ กูเหรอ เปล่าๆ แค่คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย” จันทร์ที่พึ่งรู้ว่ามัวแต่เผลอคิดถึงเขาจนเพื่อนจับได้รีบปฏิเสธทันควัน“หิววะ ไปหาอะไรกินกันที่หน้า มอ ไหม ไหนๆ พี่เขาก็ปล่อยแล้ว” ไต้ฝุ่นเปรยขึ้นเพราะตอนนี้ท้องเธอร้องจ๊อกๆ แล
จันทร์!” เสียงเรียกของคนที่กำลังวิ่งหน้าตาตื่นมาด้วยเป็นห่วงทำให้คนทั้งคู่ผละร่างออกจากกัน คนตัวสูงก็เดินออกไปทันที จันทร์ที่เห็นว่าเป็นเพื่อนตัวเองมาก็ทำหน้ามุ่ยด้วยความเสียดายที่ไม่ได้ใกล้ชิดมากกว่านี้“ไอ้จันทร์ มึงเป็นไงบ้าง ไหนกูดูสิ”“นั่นดิ กูเห็นตอนที่รถขับเข้ามา คิดว่ามึงจะเป็นอะไร แล้วไอ้เจ้าของรถคันนั้นก็เหมือนกันขับแม่งไม่เห็นหรือไงว่ามีคนเดินอยู่”ไต้ฝุ่นกับตะวันรั่วคำถามพลางจับคนตัวเล็กหมุนไปหมุนมาอย่างเป็นห่วง แต่เหมือนเพื่อนของเธอจะไม่ได้สนใจพวกเธอเท่าไหร่ เพราะเอาแต่ทำหน้าเหมือนเหม็นเบื่ออะไรแบบนั้น“ทำหน้าอะไรของมึงพวกกูเป็นห่วงแทบตาย ทำเหมือนพวกกูมาขัดจังหวะอะไร”ก็เออน่ะ สิ อยากจะพูดใส่หน้ามันเหมือนกันแต่ทำได้แค่เก็บไว้ในใจ “เปล่าๆ กูแค่ยังช็อกอยู่ไง” แถไปก่อนอย่าให้พิรุธ“แน่ใจนะ”“เออ มึงมาจับผิดอะไรเนี่ย” เธอรีบโวยวายกลบเกลื่อนไม่อยากให้ ไต้ฝุ่น มันซักไซ้มากกว่านี้ ถ้าถามว่าบอกได้ไหม ก็ได้แหละ แต่ขอเก็บเป็นความลับก่อน“แล้วเมื่อกี้กูเห็นว่ามึงยืนอยู่กับใคร ผู้ชายตัวสูงเป็นใคร”รอดจากไต้ฝุ่นมาเจอตะวันอีก โอ๊ยจะบ้าตาย ทำไมเพื่อนเธอมันถึงช่างสังเกต ช่างสงสัยนัก“อ่
แสงแดดยามเช้าสาดส่องผ่านม่านผืนบางกระทบเข้ากับร่างบางที่กำลังนอนหลับใหลฝันหวานจนน้ำลายไหลยืด ดวงตาคู่สวยกระพริบขึ้นลงช้าๆ เมื่อรู้สึกแสบตาจากแสงที่ส่องเข้ามา มือเรียวดึงผ้าห่มขึ้นมาปกปิดใบหน้าหลีกเลี่ยงจากการรบกวนเพื่อนอนต่อ แต่แล้วเสียงสวรรค์หนึ่งก็ดังขึ้นจากด้านล่าง“ไอ้จันทร์โว๊ยยยย!”พรึ่บคนตัวเล็กสลัดผ้าห่มลุกออกเตียงด้วยความเร่งรีบ เธอหยิบนาฬิกาที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาดู ถึงได้เห็นว่าตอนนี้เป็นเวลาเจ็ดโมงเข้าไปแล้ว“ฉิบหาย เปิดเทอมวันแรกก็สายเลยกู” จันทร์กูลีกูจรอาบน้ำแต่งตัวให้ได้ไวที่สุด เสร็จแล้วก็รีบลงมาด้านล่างเพื่อกินอาหารเช้าด้วยความเร็วแสง“เหอะ รีบขนาดนี้จะติดคอตายก่อนเรียนจบ”แค่กๆ“พ่อออ” เธอหันไปหน้าง้อใส่คนเป็นพ่อ ที่พูดเหมือนแช่งกัน“หึ แล้วนี่จะไปอยู่หอเมื่อไหร่”“ก็วันหยุดนี้แหละ หนูไม่อยากนั่งรถไปมาเหนื่อย” ตอบพ่อพร้อมกับตักข้าวเข้าปากไปด้วย“ตั้งใจเรียนล่ะ อย่าเอาเวลาไปตามจีบผู้ชาย”“พ่อไม่ต้องเป็นห่วงหนูหรอก ยังไงหนูก็ไม่มีทางท้องก่อนเรียนจบ”“ใครบอกพ่อห่วงเอง ข้าห่วงผู้ชายโน้น ใครได้แกไปลำบากแย่”“อ้าวทำไม พ่อพูดงี้อ่ะ” เธอสวยใครเห็นก็ต้องชอบไหม ขนาดหมาหน้าปาก
“มึงที่นี่ดีมาก กูบอกเลยขออะไรก็ได้หมด”“ใช่ๆ คนแถวบ้านฉันมาขอเนื้อคู่ที่นี่ พอกลับไปไม่นานได้แต่งงานแล้ว”“อุ้ย พูดแล้วคนขนลุก เราไปขอกันบ้างเถอะ”เสียงเจื้อยแจ้วของผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมา ต่างเล่าลือกันไปทั่วถึงความศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าแม่ที่อยู่หน้าห้างแห่งหนึ่งกำลังเป็นที่โด่งดังมากมายในโลกโซเชียลไม่ว่าใครก็ต่างอยากมากราบไหว้ท่านทั้งนั้นกัษษากร หรือ จันทร์เจ้า หญิงสาวร่างเล็กที่กำลังยืนรอรถเมล์กลับบ้าน เกิดได้ยินบทสนทนานี้เข้า ทำให้เธอรู้สึกสนใจขึ้นมาทันที สองขาเรียวไม่รอช้าที่จะไปขอพรดูกับเขาสักครั้งเผื่อรอบนี้เธอจะได้มีแฟนกลับเขาเสียที“ดอกไม้ขอพรไหมหนู กำละห้าสิบบาท” แม่ค้าที่ทำหน้าที่ขายของบูชาเอ่ยถามเด็กสาวที่เดินมาทางนี้“กำเท่าไหร่นะคะ”“ห้าสิบบาทจ้ะ”“เอาหนึ่งกำค่ะ” เธอบอกกับแม่ค้าพลางล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าหยิบเอาแบงก์สีฟ้าขึ้นมายืนไปให้แม่ค้า“ขอบคุณนะแม่หนู”จันทร์พยักยิ้มก่อนจะเดินออกไปพร้อมกับดอกไม้หนึ่งกำที่แม่ค้าเป็นคนจัดเตรียม เธอมองดูคนมากมายที่ตอนนี้กำลังยืนขยับปากสวดคาถาที่มีโชว์อยู่หน้าแท่น ก่อนจะตรงไปหยิบธูปที่วางเตรียมไว้ขึ้นมาจุด มือเรียวสะบัดไล่ควันไปมาก่อนจ







