Share

บทที่ 6 สงคราม

last update Huling Na-update: 2025-06-27 11:00:14

วันที่สองของการรักษาตัว อาการของไต้ฝูหรงดีขึ้นมาก นางเริ่มพูดได้ สร้างความยินดีให้กับท่านหมอจ้าวเป็นอย่างมาก

ในขณะเดียวกันกงเหล่ยก็กำลังต่อสู้อยู่ในสนามรบ ทำศึกกับเว่ยอ๋อง

ราชสำนักส่งกองทัพเสริมมาร่วมรบกับเว่ยอ๋องด้วย อย่างไรเสียเว่ยอ๋องก็เป็นญาติของฮองเฮาองค์ปัจจุบัน เกาฮ่องเต้ย่อมไม่อาจนิ่งดูดายได้

เหล่าทหารต่างสู้รบกันอย่างเอาเป็นเอาตาย พื้นหญ้าบนสนามรบอาบย้อมไปด้วยโลหิตสีแดงฉาน สองวันนี้แคว้นเว่ยเป็นฝ่ายปราชัยติดต่อกัน ทำให้เว่ยอ๋องหัวเสียเป็นอย่างยิ่ง

"บัดซบ! แม้แต่ทหารของราชสำนักยังทำลายกองทัพของตระกูลกงไม่ได้เช่นนั้นหรือ พวกเจ้าจงฟังข้า ไปเกณฑ์ชายฉกรรจ์ในแคว้นมาเป็นทหารเพื่อช่วยออกรบ ผู้ใดไม่ยินยอมก็ฆ่าล้างตระกูลมันให้หมด!"

เหล่าทหารเมื่อได้ฟังก็ถึงกับเอ่ยวาจาใดไม่ออก ยามนี้แม้แต่ทหารของราชสำนักยังไม่อาจต้านทานทหารของเซี่ยอ๋องได้ แล้วชาวบ้านเหล่านั้นเล่าจะนับเป็นตัวอันใดกัน

อีกทั้งยามนี้แคว้นอื่นๆก็เก็บตัวเงียบ เพราะไม่อยากสูญเสียกำลังทหารของตน เนื่องจากสงครามใหญ่คราก่อนทำให้สูญเสียกำลังพลไปไม่น้อย อีกทั้งหลายปีมานี้เกาฮ่องเต้ก็สั่งห้ามท่านอ๋องใต้อาณัติฝึกฝนทหารเพราะเกรงว่าจะเป็นภัยต่อราชสำนัก ทำให้สถาณการณ์ยิ่งย่ำแย่เข้าไปทุกขณะ

        แม่ทัพใหญ่ผู้หนึ่ง รีบเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล

"ท่านอ๋อง คนหนุ่มพวกนั้นไม่เคยออกรบ ไม่เคยทำสงครามมาก่อน ทำเช่นนี้ไม่เท่ากับส่งราษฎรไปตายหรือขอรับ!"

"ยามนี้เรามีทางเลือกไม่มาก เจ้าจะให้ข้า ทำเช่นไร หากไม่ชนะ ก็คงคือต้องทิ้งเมืองไปขอความช่วยเหลือจากแคว้นเกาแล้ว!"

เว่ยอ๋องสบถออกมาอย่างหัวเสีย ยามนี้เส้นผมบนศีรษะของเขาขาวโพลนจนดูแก่ชราลงไปหลายสิบปี ในใจนึกด่าทอเกาฮ่องเต้ที่ไร้ความสามารถไม่อาจสังหารคนตระกูลกงล้างตระกูลได้ และยังเป็นต้นเหตุที่ทำให้เขาต้องมาพบเจอกับเรื่องยุ่งยากเช่นนี้ อีกทั้งจะยอมสวามิภักดิ์ก็ไม่ได้เพราะเกรงว่าจะส่งผลเสียต่อฉินฮองเฮา

ภายในค่ายทหารของกงเหล่ยตอนนี้ก็ค่อนข้างวุ่นวายไม่น้อย แม้จะได้รับชัยชนะ แต่ทว่าทหารของเขากลับบาดเจ็บล้มตายไปไม่น้อย เหล่าทหารที่ถูกหามกลับเข้ามาในค่ายล้วนบาดเจ็บสาหัส บางคนแขนขาด บางคนขาขาด บางคนถูกลูกธนูแทงจนทะลุกลางลำตัว ท่านหมอที่ช่วยรักษาคนเจ็บในยามนี้ก็มีเพียงท่านหมอจ้าวคนเดียว

ไต้ฝูหรงก้าวเดินออกมาจากกระโจมที่พักของตน สองวันมานี้นางเริ่มพูดได้บ้างแล้ว แม้จะยังไม่ค่อยคุ้นชินเท่าใดนัก แต่ก็สามารถสื่อสารกับผู้อื่นได้ดี นางรีบเดินเข้าไปหาท่านหมอจ้าวทันที พร้อมกับเอ่ยถามเขาด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล

"ท่านหมอจ้าว เอ่อ ให้้ข้า ช่วยนะเจ้าคะ"

ช่วงเวลาสองวันมานี้นางและท่านหมอจ้าวเริ่มจะสนิทสนมกันมากขึ้นเพราะสนทนากันถูกคอ เขาถึงกับเรียกนางว่านังหนูไต้เพราะเอ็นดูนางมาก

ท่านหมอจ้าวหันมามองไต้ฝูหรง ก่อนจะเอ่ย

“นังหนูไต้ เจ้ากระอักโลหิตไปไม่น้อยก่อนหน้านี้  อีกทั้งสุขภาพยังไม่สู้ดี เจ้ารีบกลับไปพักเถอะ ทางนี้ข้าจัดการเอง"

"ข้าไม่เป็นอันใดเจ้าคะ ให้ข้าช่วยท่านเถอะ"

เอ่ยจบนางก็รีบเข้าไปเป็นผู้ช่วยท่านหมอจ้าวทำแผลให้เหล่าทหาร ไต้ฝูหรงหัวไวยิ่ง ท่านหมอจ้าวสอนเพียงไม่นาน นางก็ทำได้ตามที่เขาบอก อีกทั้งยังช่วยทุ่นแรงเขาไปได้ไม่น้อยเลย

"สมุนไพรห้ามเลือดไม่มีเหลือแล้ว  ท่านอ๋อง เราต้องหามาเพิ่มขอรับ ทำเช่นไรดี เหล่าทหารไม่มีผู้ใดรู้จักสมุนไพรนั่น และข้าเองก็ทิ้งคนเจ็บไปไม่ได้!"

ท่านหมอจ้าวรีบหันไปเอ่ยกับกงเหล่ยที่กำลังเดินเข้ามาด้วยความร้อนลน กงเหล่ยเมื่อได้ยินก็มีสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมาทันที อย่างไรย่อมต้องรักษาคนเจ็บให้หาย เหล่าทหารที่เหลือจะได้มีขวัญกำลังใจ

ในขณะที่เขากำลังครุ่นคิดว่าจะทำเช่นไรก็ได้ยินไต้ฝูหรงเอ่ยขึ้นมา

"ท่านอ๋อง ข้าจะขึ้นไปเก็บสมุนไพรบนเขาเองเจ้าค่ะ ข้ารู้จักสมุนไพรอยู่หลายตัว รบกวนท่านให้ทหารไปกับข้าสักคนสองคนได้หรือไม่เจ้าคะ?"

กงเหล่ยชะงักไปชั่วครู่ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินเสียงพูดของนาง มันช่างแว่วหวานราวเสียงพิณยิ่งนัก

ชายหนุ่มรีบส่ายหน้าไปมาเพื่อไล่ความคิดไม่เป็นเรื่องนี้ออกไป ก่อนจะหันไปสั่งการเฉิงซานและเซียวเย่ทันที

"พวกเจ้าสองคนไปกับนาง พาทหารไปมากหน่อย เผื่อว่าจะเกิดการดักซุ่มโจมตี หากพบสมุนไพรแล้ว เก็บมาให้มากยิ่งดี"

เฉิงซานและเซียวเย่พยักหน้าทันที ก่อนจะหันไปบอกให้ไต้ฝูหรงตามพวกเขาไป หญิงสาวพยักหน้า ก่อนจะสะพายกระบุงเอาไว้บนหลังและรีบเดินขึ้นเขาไปพร้อมกับเหล่าทหารทันที 

จากตรงนี้เดินทางไปยังภูเขานอกค่ายทหารไม่ไกลมากนัก เมื่อเข้ามาในเขตภูเขาแล้ว นางก็หันไปเอ่ยกับเหล่าทหาร

"สมุนไพรที่ใช้ห้ามเลือดได้มีชื่อว่าต้นซือไช่ ลักษณะของมันจะคล้ายบุปผาดอกเล็ก มีขนสีม่วง พวกเรารีบหากันเถอะเจ้าค่ะ"

เฉิงซานและเซียวเย่พยักหน้า ก่อนจะหันไปสั่งให้เหล่าทหารช่วยไต้ฝูหรงตามหาต้นซือไช่ ไม่นานนักก็พบกับสมุนไพรที่นางบอก อีกทั้งยังมีมากมายเสียด้วย ไม่เพียงเท่านั้นในละแวกเดียวกันยังมีสมุนไพรที่จำเป็นต้องใช้อีกหลายชนิด ไต้ฝูหรงดีใจนัก นางจึงรีบเก็บมันใส่กระบุงอย่างรวดเร็ว ก่อนจะให้เหล่าทหารนำกลับไปมอบให้ท่านหมอจ้าวส่วนหนึ่งก่อน  ส่วนนางยังคงรั้งอยู่ที่นี่เพื่อเก็บสมุนไพรอื่นๆต่ออีกหน่อย เซียวเย่ที่เห็นว่าพวกเขาออกมานานแล้วจึงรีบเอ่ยกับไต้ฝูหรง

"แม่นางไต้ พวกเราออกมานานแล้วที่นี่อย่างไรก็ไม่ปลอดภัย หากสมุนไพรยังไม่พอพวกข้าจะขึ้นเขามาเก็บเพิ่มเอง อย่างไรก็จำลักษณะของมันได้แล้ว"

"เจ้าค่ะ เช่นนั้นก็รีบกลับกันเถอะ"

ไต้ฝูหรงแม้จะเสียดายแต่ก็ไม่ได้เอ่ยอันใดต่ออีก จึงเดินลงจากเขามาพร้อมกับพวกเขา

ทว่าในขณะที่นางกำลังเดินลงเขา กลับมีลูกเกาทัณฑ์หลายดอกพุ่งฝ่าอากาศเข้ามาหาพวกนาง เฉิงซานที่เห็นเช่นนั้นจึงรีบดึงตัวนางให้หลบ แต่ธนูกลับเฉียดผ่านแขนซ้ายของนางจนเป็นแผลใหญ่ โลหิตไหลลงมาตามแขนจนเป็นทางยาว อาบชุ่มชายเสื้อของนางจนเป็นสีแดงฉาน

"แม่นางไต้!"

"ข้าไม่เป็นอันใดเจ้าค่ะ! ข้าทนได้ พวกเรารีบกลับค่ายทหารกันโดยเร็วเถอะเจ้าค่ะ!"

แม้จะเจ็บแผลมากแต่ใบหน้าของไต้ฝูหรงกลับเรียบเฉยยิ่ง ที่ผ่านมานางถูกทุบตีมาไม่น้อย การถูกธนูยิงเฉียดแขนเพียงเท่านี้ไม่นับเป็นอันใด

เซียวเย่รีบสั่งให้ทหารจัดการต่อสู้กับพวกนักฆ่าที่ซุ่มโจมตีทันที  ก่อนจะพบว่าพวกมันคือทหารของแคว้นเว่ยที่ลอบมาสังหารพวกเขา

"ศิษย์พี่รอง ท่านพาแม่นางไต้กลับค่ายทหารไปก่อน ทางนี้ข้าจะจัดการเอง!"

"น้องเล็ก เจ้าระวังตัวด้วย!"

เซียวเย่พยักหน้าก่อนจะออกหน้ารับมือกับทหารของแคว้นเว่ยจัดการสังหารพวกมันให้สิ้นซาก  ด้านเฉิงซานก็พาไต้ฝูหรงกลับค่ายทหารได้อย่างปลอดภัย

เมื่อไต้ฝูหรงกลับมาที่ค่ายทหารได้อย่างปลอดภัยแล้วก็รีบมาช่วยท่านหมอจ้าวดูแลคนเจ็บต่อ ท่านหมอจ้าวรู้สึกเหนือความคาดหมายอยู่ไม่น้อย เขาไม่คิดว่าสตรีที่ดูอ่อนแอบอบบางเช่นไต้ฝูหรงจะมีความรู้เรื่องสมุนไพรเหล่านี้ด้วย

ไต้ฝูหรงนำสมุนไพรไปล้างน้ำจนสะอาด ก่อนจะนำมาตำให้ละเอียด และนำไปวางลงบนบาดแผลของทหารที่ได้รับบาดเจ็บ ไม่นานเลือดของเขาก็หยุดไหล นางทำงานอย่างรวดเร็วและตั้งใจอีกทั้งยังมีสติที่มั่นคงเป็นอย่างมาก ทำให้ช่วยเบาแรงของท่านหมอจ้าวไปได้มาก

เพราะการรักษาที่ทันท่วงทีทำให้ทหารหลายคนปลอดภัยรอดชีวิต แต่ก็มีทหารหลายนายที่ไม่อาจจะรักษาชีวิตเอาไว้ได้ 

กงเหล่ยสั่งให้คนนำศพของทหารผู้กล้าที่พลีชีพในสนามรบไปฝังที่เนินเขา อีกทั้งยังกำชับท่านเฉิงซุนว่าจะต้องปูนบำเหน็จให้ครอบครัวของพวกเขาอย่าได้ขาดตกบกพร่อง ท่านเฉิงซุนพยักหน้ารับคำสั่งและรีบไปจัดการอย่างรวดเร็ว

ไม่นานเซียวเย่ก็กลับมาบอกว่าจัดการทหารแคว้นเว่ยท่ี่มาดักซุ่มโจมตีเรียบร้อยแล้ว เมื่อหันไปเห็นว่าไต้ฝูหรงกำลังดูแลทหาร เขาก็รีบเอ่ยถามทันที

"แม่นางไต้ เจ้าได้รับบาดเจ็บเป็นเช่นไรบ้าง ทำแผลแล้วหรือ?"

เซียวเย่เอ่ยถามออกไปโดยที่ไม่ได้คิดอันใด แต่ทว่ากงเหล่ยกลับหันไปมองไต้ฝูหรงทันที

"แผลอันใด เจ้าได้รับบาดเจ็บหรือ?!"

เมื่อครู่เขาไม่ทันได้สังเกตนาง เพราะมัวแต่วุ่นวายกับการดูแลทหาร ไต้ฝูหรงยิ้มออกมา เพียงแค่แผลเล็กน้อยเท่านั้น นางไม่ได้เก็บมาใส่ใจเลยแม้แต่น้อย

"แผลเพียงเล็กน้อยเจ้าค่ะ อีกเดี๋ยวข้าค่อยกลับไปทำแผล"

อยู่ๆกงเหล่ยก็เดินเข้ามาดึงตัวนางไปสำรวจอย่างละเอียด หญิงสาวตกใจไม่น้อย แม้กระทั่งเหล่าทหารยังมองมาที่พวกเขาสองคนเป็นตาเดียว 

เซียวเย่ยิ้มตาหยี ก่อนจะเอ่ย

"ศิษย์พี่ใหญ่กง จะมัวยิืนมองนางอยู่ทำไมกัน รีบอุ้มกลับกระโจมไปเลยสิ พวกข้าสัญญาว่าจะไม่ไปรบกวนแน่นอน"

กงเหล่ยหันขวับมามองเซียวเย่ ก่อนจะพบว่าเด็กเวรนั่นวิ่งหนีไปเสียแล้ว เขาทำหน้าไม่ถูก จึงหันไปด่าเฉิงซานเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกกระอักกระอ่วนนี้แทน เฉิงซานถึงกับยกมือเกาศีรษะไม่รู้ว่าตนเองทำอันใดผิดจึงมาโดนด่าเช่นนี้ อีกเดี๋ยวจะต้องไปเอาคืนกับเซียวเย่เด็กเปรตนั่นแทน!

 กงเหล่ยสั่งให้ท่านหมอจ้าวตรวจดูอาการบาดเจ็บของนางด้วย ก่อนจากไปยังหันไปมองนางคราหนึ่ง พบว่านางก็กำลังมองเขาอยู่เช่นเดียวกัน

ใบหน้าสวยหวานขึ้นสีแดงระเรื่อ รอยยิ้มที่มอบให้เขานั้นมันทำให้แข้งขาของเขาคล้ายจะอ่อนแรงขึ้นมาเสียดื้อๆ ช่วงล่างเริ่มปวดหนึบขึ้นมาอย่างไม่อาจควบคุม

เขารีบกลับมาที่กระโจมของตนทันที เมื่ออยู่เพียงลำพังแล้ว ชายหนุ่มก็ยกฝ่ามือขึ้นตีไปที่หว่างขาของตนเองหลายครา

"กงเหล่ยน้อยบัดซบ เจ้าจะตื่นมาด้วยเหตุใดกัน หลับเดีี่ยวนี้ หลับสิ!"

เฉิงซุนที่เดินเข้ามาเห็นว่าเจ้านายที่แสนโหดเหี้ยมของตนกำลังง้างฝ่ามือตีหว่างขาตนเองอย่างบ้าคลั่งก็ถึงกับเอ่ยวาจาใดไม่ออก ชายวัยกลางคนยกมือขึ้นลูบจมูกตน ก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใย

"หากท่านอ๋องน้อยไม่ยอมหลับ มิสู้ไปหาที่ปลดปล่อยดีหรือไม่ขอรับ ตีไม่หยุดเช่นนี้ หากหักกลางลำขึ้นมาจะลำบากท่านหมอจ้าวเอาได้"

กงเหล่ยหันขวับมามองเฉิงซุนทันที

"ท่านกุนซือ ท่านไม่เข้าใจข้า ท่านอายุขนาดนี้ ซุนซุนน้อยคงไม่ตื่นแล้วกระมัง?"

ท่านเฉิงซุนถึงกับหน้าดำคล้ำ พลางลอบด่าทอกงเหล่ยอยู่ในใจ

ท่านอ๋องบัดซบ! รู้ได้เช่นไรว่าซุนซุนน้อยของเขาไม่ตื่น แม้เขาจะแก่แล้ว แต่ทุกเช้าซุนซุนน้อยยังคงชี้โด่ชี้เด่อยู่ เหอะ!  ตีไปเถอะ ตีให้หักไปเลย เขาไม่สนใจแล้ว!

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • ตามเย้ารักดอกฝูหรง   บทที่ 20 ตอนจบ

    ด้านไต้ฝูหรงนั้นตอนนี้อยู่ในที่ปลอดภัยและมีทหารคุ้มกันอย่างแน่นหนา นางเดินวนไปวนมาอยู่ในเรือนเพื่อรอฟังข่าวของกงเหล่ยเกาฮ่องเต้หนีหัวซุกหัวซุนด้วยความหวาดกลัว แต่ไม่่ว่าจะหนีไปทางไหนก็มีแต่เหล่าทหารไล่ล่าเขา เกาฮ่องเต้ถึงกับก้าวขาไม่ออก ไม่คาดคิดว่าตนเองจะมีวันนี้เดิมทีเขาสะกดวิญญาณของกงอวี้ไปแล้ว และไม่เชื่อว่ากงเหล่ยจะสามารถสังหารตนได้แต่ยามนี้เขารู้แล้วว่าตนเองคิดผิดเกาฮ่องเต้เริ่มลนลานด้วยความหวาดกลัว เขาไม่สนใจคำเตือนของทหาร วิ่งหนีออกมาจากวงล้อมป้องกัน สุดท้ายเมื่อได้เห็นคนตรงหน้าที่กำลังยื่นดาบพาดบนลำคอของเขา เกาฮ่องเต้ก็ถึงกับก้าวขาไม่ออก"เจ้า!""ไม่ได้พบกันานเลยนะ ท่านลุงเกา!"เกาฮ่องเต้มือไม้สั่นเทิ้มไปหมด เมื่อนึกถึงศีรษะของเกาข่ายบุตรชายอันเป็นที่รักซึ่งถูกกงเหล่ยสังหาร เขาก็กัดฟันกรอด"ข้าจะฆ่าเจ้า เอาหัวเจ้ามาเซ่นสังเวยให้กับวิญญาณของบุตรชายข้า!"กงเหล่ยเมื่อได้ฟังกลับส่งเสียงหัวเราะออกมา เกาฮ่องเต้ที่เห็นอย่างนั้นเหงื่อเย็นก็ไหลซึมออกมาเต็มแผ่นหลัง กงเหล่ยยกมือขึ้นส่งสัญญาณ หลัวเยี่ยก็พุ่งเข้าจัดการสังหารทหารและแม่ทัพใหญ่ของเกาฮ่องเต้ตกตายไปจนหมด เกาฮ่องเต้ร้องคำรา

  • ตามเย้ารักดอกฝูหรง   บทที่ 19 ล้มตระกูลเกา

    สงครามจบสิ้นลง ทหารของเกาข่ายล้วนถูกสังหารจนหมดสิ้นไม่เหลือซาก ครั้งนี้กงเหล่ยไม่ได้ใจดีเฉกเช่นครั้งก่อน ที่จะเก็บทหารจงรักภักดีกลับใจเอาไว้ใช้งาน อย่างไรทหารพวกนั้นก็ถูกเกาฮ่องเต้ฝึกฝนมานานหลายสิบปี ไม่เหมือนกับชาวบ้านที่มีใจภักดี เขาจึงไม่คิดจะเก็บเอาไว้แม้เพียงคนเดียวแคว้นเซี่ยตอนนี้กลับสู่ความสงบเฉิงซานและหลัวเยี่ยนั้นได้รับบาดเจ็บไม่มากนัก แต่ทว่าเซียวเย่กลับได้รับบาดเจ็บที่แขนเป็นแผลใหญ่ กว่าจะห้ามเลือดได้ต้องใช้เวลาอยู่นาน โชคดีที่เขาไม่ได้เสียแขนไป ไต้ฝูหรงและท่านหมอจ้าวสลับกันช่วยดูแลเขา เซียวเย่นอนอยู่บนเตียง ใบหน้าหล่อเหลาซีดเผือดเล็กน้อย เขาเอ่ยขอบคุณท่านหมอจ้าว ก่อนจะหันมาเอ่ยกับไต้ฝูหรง"ศิษย์น้องเล็ก ข้าปลอดภัยดีแล้ว เจ้าไปดูศิษย์ใหญ่กงเถอะ หากเจ้ายังไม่ไปอีก พี่ใหญ่กงคงได้ตามมากระทืบข้าซ้ำแน่ ข้ายังไม่อยากถูกเขากระทืบจนตายหรอกนะ สตรีในหอนางโลมยังรอข้าอยู่"ไต้ฝูหรงหัวเราะออกมาเล็กน้อย แม้นางจะแต่งงานกับกงเหล่ยแล้ว แต่เซียวเย่ยังคงยืนยันที่จะเรียกนางว่าศิษย์น้องเล็ก นางเองก็ไม่ถือสาอันใด อย่างไรสำหรับนางแล้ว เขานับว่าเป็นพี่ชายที่แสนดีสำหรับนางเมื่อทุกคนปลอดภัยไร้กัง

  • ตามเย้ารักดอกฝูหรง   บทที่ 18 ชัยชนะที่วาดหวัง

    ไต้ฝูหรงตกใจจนแทบสิ้นสติ นางหันมองซ้ายขวาตอนนี้มีแต่ห่าธนูที่พุ่งเข้ามาหมายจะสังหารพวกนาง แต่ยามนี้ไม่อาจปล่อยให้ท่านเฉิงซุนอยู่ที่นี่ต่อได้ โลหิตของเขาไหลออกมามากเกินไป ต้องหาทางผ่าเอาลูกธนูออกและห้ามเลือดโดยเร็วที่สุด!ไต้ฝูหรงสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนจะตัดสินใจประคองท่านเฉิงซุนขึ้นมาและพาเขาเดินฝ่าลูกธนูออกไปโดยมีเหล่าทหารที่ยังรอดชีวิตคอยคุ้มกัน ท่านเฉิงซุนยังไม่ได้หมดสติ เขาจ้องมองสตรีข้างกายที่ประคองตนเดินฝ่าลูกธนูอย่างไม่เกรงกลัวด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย"นะ นายหญิง ปล่อยข้าเอาไว้บนนี้เถอะขอรับ! "ไต้ฝูหรงเม้มริมฝีปากแน่น นางพาเฉิงซุนลงมาด้านล่างได้อย่างปลอดภัย ก่อนที่เขาจะหมดสติไป พลันได้ยินเสียงของนางเอ่ยกับเขาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ"ข้าไม่มีวันทิ้งท่าน พวกเราถ้าอยู่ก็อยู่ด้วยกัน ถ้าตายก็ต้องตายด้วยกัน กงเหล่ยยังอยู่ข้างนอก เขาเคารพท่านดั่งบิดา ข้าเองก็เช่นกัน เฉิงซานหลานของท่านและแม่ทัพทุกคนก็ยังรอให้ท่านต้อนรับพวกเขากลับเข้าเมืองหลังจากพวกเรารบชนะ หากท่านตาย ข้าคงไม่อาจมองหน้าพวกเขาได้ ท่านจะต้องอดทนไว้นะเจ้าคะ ข้าจะไม่มีทางยอมให้ท่านตายเด็ดขาด!"ท่านเฉิงซุนยิ้มอย่างอ่อ

  • ตามเย้ารักดอกฝูหรง   บทที่ 17 ศึกครั้งใหญ่

    เสียงต่อสู้ดงกึกก้องไปทั่วทุกหย่อมหญ้า ยามนี้กองทัพแคว้นเซี่ยกำลังสู้รบกับกองทัพของเกาข่ายอย่างไม่กลัวตาย พวกเขาใช้สมุนไพรพิษที่ไต้ฝูหรงมอบให้นำไปอาบย้อมบนอาวุธ ก่อนจะเข้าห่ำหั่นกับศัตรู กงเหล่ยควบม้าห้อตะบึงอยู่ท่ามกลางซากศพของเหล่าทหารทั้งสองฝ่าย ใบหน้าหล่อเหลามีโลหิตสาดกระเซ็นเปรอะเปื้อนเป็นวงกว้าง ขับเน้นให้ใบหน้าเย็นชาของเขาดูดุดันขึ้นไปอีกหลายเท่าวิธีของไต้ฝูหรงนั้นใช้ได้ผล ทหารของฝ่ายตรงข้ามเพียงถูกพิษนั้นเข้าสู่โลหิตไม่นานก็ค่อยๆอ่อนแรงและล้มตายลงไปในที่สุด เพียงไม่นานกำลังทหารของเกาข่ายก็ลดลงไปมากกว่าครึ่งเกาข่ายมองภาพเบื้องหน้าด้วยแววตาตื่นตระหนก เห็นๆอยู่ว่าแรกเริ่มนั้นเขาเป็นฝ่ายได้เปรียบอยู่แท้ๆ แต่แล้วเหตุใดสถาณการณ์จึงพลิกผันเช่นนี้เล่าชายหนุ่มกัดฟันกรอด พลางมองไปเบื้องหน้า "ห้ามถอย ต้องตัดหัวกงเหล่ยและสังหารทหารแคว้นเซี่ยให้จงได้!"เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ พลางกำมือแน่น ชายหนุ่มรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติแต่ไม่รู้ว่าผิดปกติตรงที่ใด เขาไม่เข้าใจว่าเหตุใดวันนี้ทหารแคว้นเซี่ยจึงใช้ผ้าปิดบังใบหน้าเอาไว้ครึ่งหนึ่ง เผยให้เห็นเพียงดวงตา หรือว่าพวกมันกลัวตาย หากว่าเจ้าน

  • ตามเย้ารักดอกฝูหรง   บทที่ 16 สมุนไพรพิษ

    ไต้ฝูหรงมุ่งหน้ามายังภูเขาลูกหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับวัดบนเขา ห่างจากเมืองหลวงของแคว้นเซี่ยมาไม่ไกลมากนัก ฮูหยินผู้เฒ่าให้เหล่าทหารติดตามมาพร้อมสาวใช้อีกหลายคน ไม่นานรถม้าก็หยุดลง ไต้ฝูหรงจึงรีบลงจากรถม้าพร้อมกับเอ่ยกำชับสาวใช้และทหาร"พวกเจ้าคงจำลักษณะของสมุนไพรที่ข้าบอกเอาไว้ก่อนหน้านี้ได้แล้ว รีบเก็บมาให้มากหน่อย ยิ่งมากยิ่งดี เข้าใจหรือไม่"เหล่าสาวใช้และเหล่าทหารต่างพยักหน้ารับ ก่อนจะรีบแยกย้ายกันไปเก็บสมุนไพรตามที่เจ้านายของตนสั่ง ไต้ฝูหรงเองก็เดินขึ้นเขาไปเก็บสมุนไพรหลายอย่างมาเพิ่มเช่นเดียวกัน นางสะพายกระบุงไว้บนหลังตน และเก็บสมุนไพรอย่างรวดเร็ว เหล่าสาวใช้และทหารต่างมองนางด้วยสายตาที่ตกตะลึง นายหญิงของพวกเขายามปกติดูบอบบางและน่าทะนุถนอมยิ่ง แต่ในยามนี้กลับดูแข็งแรงและว่องไวมาก แรกเริ่มพวกเขาต้องขึ้นลงเขาเพื่อหาสมุนไพรจึงรู้สึกเหนื่อยล้าเหลือเกิน แต่เมื่อได้เห็นว่านายหญิงยังไม่บ่นสักคำ อีกทั้งยังไม่มีท่าทีเหน็ดเหนื่อย พวกเขาจึงมีแรงใจมากยิ่งขึ้นใช้เวลาไม่นานก็สามารถเก็บสุมนไพรที่ต้องการได้สำเร็จ ไต้ฝูหรงยิ้มด้วยความดีใจ ก่อนจะรีบเดินทางกลับจวน จากนั้นจึงจัดการล้างทำความส

  • ตามเย้ารักดอกฝูหรง   บทที่ 15 ออกรบ

    กงเหล่ยรีบเปลี่ยนมาสวมชุดเกราะ ก่อนจะมุ่งหน้ามายังค่ายทหารในช่วงกลางดึก เมื่อมาถึงก็พบว่าตอนนี้เหล่าทหารต่างเตรียมพร้อมเรียบร้อยแล้ว สีหน้าทุกคนมีความมุ่งมั่นปรากฏชัดบนใบหน้า ไม่มีความเกรงกลัวใดใดให้เห็นเลยแม้แต่น้อย มีเพียงความฮึกเหริมและพร้อมออกรบเพื่อปกป้องแว่นแคว้น กงเหล่ยยืนอยู่เบื้องหน้าเหล่าทหาร ในมือถือดาบเอาไว้ แววตาฉายแววมุ่งมั่นเป็นอย่างยิ่งเกาฮ่องเต้ไม่มีทางปล่อยแคว้นเซี่ยไป อีกทั้งยังไม่มีทางยอมให้คนตระกูลกงเหลือหนทางรอด ศึกครานี้หนักหนาไม่น้อย อีกทั้งอาจจะต้องสูญเสียกำลังพลไปไม่น้อยเลย แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาย่อมไม่อาจถอย หลายปีที่หลบซ่อนตัวเขาได้ซ่องสุมกำลังทหารลับเอาไว้ร่วมหลายแสนนาย ยามนี้ถึงเวลาที่จะต้องเรียกออกมาใช้งานแล้ว"ศึกครานี้ใหญ่หลวงนัก แต่ข้าเชื่อว่าพวกเราทุกคนจะผ่านมันไปได้ ขอให้พวกเจ้าเชื่อมั่นในตัวข้า เชื่อมั่นในตัวเอง ช่วยกันปกป้องแว่นแคว้นและขจัดคนชั่วไปให้หมดจากแผ่นดินนี้เสีย!"ทันทีที่กงเหล่ยเอ่ยจบเหล่าทหารต่างชูดาบขึ้นสูง พลางตะโกนกู่ร้องก้องแผ่นดินแคว้นเป่ยและแคว้นฉีบุกประชิดชายแดน อีกทั้งยังยึดเมืองด่านหน้าสำคัญต่างๆของแคว้นเซี่ยไปได้หลายเมือง และ

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status