Share

ตำหนักจันทรา ข้ามเวลารักนิรันดร์
ตำหนักจันทรา ข้ามเวลารักนิรันดร์
Author: จ้าวฮุ่ยอิง

ตอนที่ 1 บทนำ

last update Last Updated: 2025-08-01 23:39:54

เคยรักใครสักคนไหม

ผูกพัน... แม้ว่าจะอยู่ห่างไกลคนละชาติภพ

หัวใจเฝ้ารอคอยอย่างมีความหวัง...

ว่าสักวันเราสองจะมีโอกาสได้พบกัน

สักเพียงครั้งก็ยังดี

 แผ่นดินจีนในสมัยโบราณ

 ยุคชุนชิวและยุคจ้านกว๋อ

 ยุคจ้านกว๋อหรือเลียดก๊ก (477 ปีก่อนคริสต์ศักราช – 222 ปีก่อนคริสต์ศักราช) เป็นยุคสำคัญยุคหนึ่งในประวัติศาสตร์จีน ยุคนี้เป็นยุคที่มีการต่อสู้อย่างดุเดือดและรุนแรงระหว่างแคว้นทั้งเจ็ดในแผ่นดินจีน ถ้าพูดถึงความดุเดือดแล้ว อาจจะเข้มข้นกว่ายุคสามก๊กเสียด้วยซ้ำไป ยุคนี้คือยุคก่อนการรวมแผ่นดินของจิ๋นซีฮ่องเต้ 

 ต้นยุคชุนชิวแผ่นดินจีนมีประมาณสองร้อยนครรัฐ แต่สงครามแย่งชิงอำนาจหรือแผ่ขยายอิทธิพลต่างผนวกดินแดนต่างๆ เข้ากับรัฐผู้ชนะจนกระทั่งเหลือเพียงรัฐใหญ่เจ็ดรัฐมหาอำนาจในตอนปลายยุคชุนชิวนักประวัติศาสตร์จีนเรียกว่า เจ็ดมหานครรัฐแห่งยุคจ้านกว๋อ ได้แก่ รัฐฉี รัฐฉู่ รัฐเยียน รัฐฉิน รัฐหาน รัฐเว่ย และรัฐจ้าว ยุคสมัยนี้มีสงครามดุเดือดระหว่างรัฐต่อเนื่อง รัฐฉินกับรัฐฉีได้รับการขนานนามเป็นสองรัฐมหาอำนาจฟากตะวันออกและฟากตะวันตก ซึ่งถือเป็นดุลอำนาจต่อกัน

 ยุคนี้สิ้นสุดโดยการขึ้นครองอำนาจของ อิ๋งเจิ้ง แห่งรัฐฉิน หรือที่รู้จักกันในนาม จิ๋นซีฮ่องเต้ (พระเจ้าฉินสื่อหวงตี้) โดยถือเป็นจักรพรรดิองค์แรกของจีน

 ซึ่งเจ็ดแคว้นใหญ่แห่งยุคจ้านกว๋อประกอบไปด้วย

           “รัฐจ้าวหรือแคว้นจ้าว” เป็นรัฐจีนโบราณหนึ่งในเจ็ดรัฐใหญ่แห่งยุครณรัฐ เกิดขึ้นเมื่อรัฐจิ้นแยกออกเป็นสามรัฐ คือ รัฐจ้าว, รัฐหาน, และรัฐเว่ย เมื่อศตวรรษที่ห้าก่อนคริสตกาล จากนั้นรัฐจ้าวปฏิรูปทหารในรัชสมัยพระเจ้าจ้าวอู่หลิง ทำให้แข็งแกร่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แต่ภายหลังพ่ายแพ้ยับเยินให้แก่รัฐฉิน ในยุทธการที่ฉางผิง และถูกผนวกอาณาเขตของรัฐจ้าว ประกอบด้วยดินแดนซึ่งปัจจุบันเป็นมองโกเลียใน, เหอเป่ย์, ชานซี, และฉ่านซี รายล้อมด้วยดินแดนของรัฐฉิน, รัฐเว่ย์, ซยงหนูและหานตาน 

 รัฐจ้าวเป็นที่กำเนิดของเชิ่น เต้า นักนิติปรัชญา, กงซุนหลง นักตรรกวิทยา, และสวินข้วง ปรัชญาเมธีลัทธิขงจื๊อ 

 แค้วนจ้าวตั้งอยู่ตอนเหนือ ประเทศติดกับเขตอนารยชน เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยคนเก่ง ฉลาดหลักแหลม แต่มักเจอกับปัญหาด้านการเมืองที่ไม่ค่อยมั่นคง มีการชิงอำนาจอยู่ตลอดเวลา เมืองหลวงของแค้วนจ้าวคือหานตาน ปัจจุบันคือเมืองหานตาน มณฑลเหอเป่ย

 “รัฐฉีหรือแคว้นฉี” เป็นเมืองท่าติดกับทะเลเหลือง ถือเป็นเมืองที่มีความสงบสุขสูง วิถีชีวิตของชาวเมืองจะค่อนไปทางสบายๆ แต่เพราะไม่ค่อยระแวดระวังเกินไปจึงไม่ทันรับมือกับภัยสงครามที่ถูกเมืองอื่นบุกมาตี เมืองหลวงของแคว้นฉีคือหลินจือ ปัจจุบันคือเมืองจือป๋อมณฑลซานตง

 “รัฐหานหรือแคว้นหาน” เป็นรัฐจีนโบราณในยุครณรัฐ ตั้งอยู่ในท้องที่ซึ่งปัจจุบันเป็นชานซีและเหอหนาน ที่ตั้งดังกล่าวกีดกันมิให้รัฐฉินเข้าถึงที่ราบจีนเหนือ ทำให้รัฐหานตกเป็นเป้าโจมตีของรัฐฉินบ่อยครั้ง ที่สุดแล้วรัฐหานก็กลับกลายเป็นรัฐแรกในกลุ่มเจ็ดรณรัฐที่ผนวกเข้ากับรัฐฉิน หลังจากการรบราจนเลือดนองแผ่นดินในยุทธการที่ฉางผิงเมื่อสองร้อยหกสิบปีก่อนคริสตกาล

  กล่าวกันว่าแค้วนหานถือเป็นเมืองที่น่าสงสารมากที่สุด เพราะตั้งอยู่ตรงกึ่งกลางของแคว้นใหญ่ๆ ทั้งฉิน ฉู่และเว่ย จึงเป็นเมืองที่ต้องเฝ้าระวังภัยตลอดเวลา แต่ก็ยังถือว่ามีข้อดีในแง่เป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนที่ราบจงหยวนอันอุดมสมบูรณ์ เมืองหลวงของแคว้นหานคือ เจิ้ง ปัจจุบันคือเมืองซินเจิ้งมณฑลเหอหนาน

 “รัฐเว่ยหรือแคว้นเว่ย” เป็นอีกเมืองที่ตั้งตรงกลางรัฐใหญ่ แคว้นเหว่ยเป็นหนึ่งในเจ็ดรัฐสำคัญในช่วงระยะเวลาต่อสู้ของจีนโบราณ ถูกสร้างขึ้นจาก Partition ของ Jin แบบสามทางพร้อมกับ Han และ Zhao ดินแดนตั้งอยู่ระหว่างรัฐฉินและฉีและรวมบางส่วนของเหอหนานสมัยใหม่เหอเป่ย์ชานซีและชานตง หลังจากเมืองหลวงถูกย้ายจาก Anyi ไปยัง Daliang ในช่วงรัชสมัยของกษัตริย์ Hui, Wei แค้วนเว่ยเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยคนเก่ง อีกทั้งยังอยู่ในดินแดนที่อุดมสมบูรณ์ แต่มีข้อด้อยเรื่องปัญหาขุนนางใหญ่แย่งชิงอำนาจกันจนบ้านเมืองเกิดความวุ่นวายไปทั่ว เมืองหลวงของแคว้นเว่ยคือต้าเหลียง ปัจจุบันคือเมืองไคเฟิงมณฑทลเหอหนาน

 “รัฐเหยี่ยนแคว้นเหยี่ยน” เป็นรัฐที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของจีน ติดกับอ่าวปั่วไห่ เชื่อมต่อกับทะเลเหลือง ส่วนทิศใต้จะติดกับแคว้นฉี ทิศตะวันตกติดกับแคว้นจ้าว ส่วนทิศเหนือและทิศตะวันออกติดกับมองโกเลีย ทำให้แคว้นเหยี่ยนมีสภาพอากาศหนาวเย็น ห่างไกลจากแคว้นอื่นๆ เป็นเมืองที่ได้รับความยำเกรงจากรัฐอื่นบ้างเป็นพักๆ แต่ส่วนใหญ่มักเป็นแคว้นที่ต้องพึ่งพาพวกพ้องเมืองพี่เมืองน้อง เมืองหลวงของแคว้นเหยี่ยนคือเมืองจี้ ปัจจุบันอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงเป่ยจิง

 รัฐฉู่หรือแคว้นฉู่ (1030 – 223 ปีก่อนคริสตกาล) เป็นรัฐศักดินาโบราณของจีนในช่วงยุควสันตสารท – ยุครณรัฐ ทรงอำนาจและอิทธิพลอย่างมากทั้งทางด้านการทหารและการปกครองก่อนจะถูกรัฐฉินพิชิตเมื่อสองร้อยยี่สิบสามปีก่อนคริสตกาล เป็นแคว้นใหญ่ มีศักยภาพในการดำเนินการต่างๆ สูง แต่เจอปัญหาการฉ้อโกงภายในอยู่เสมอจนบ้านเมืองระส่ำระสาย เมืองหลวงของแค้วนฉู่คือหยิ่ง ปัจจุบันคือเขตเจียงหลิง เมืองจิงโจวมณฑลเหอเป่ย

 ครั้นมาถึงในช่วงปลายราชวงศ์ฉินราวสองร้อยหกปีก่อนคริสตกาล ได้มีเชื้อพระวงศ์คนหนึ่งของอดีตรัฐฉู่นามว่าเซี่ยงอวี่ ได้ตั้งตนเองเป็นกษัตริย์แห่งรัฐฉู่ตะวันตก และสามารถโค่นล้มราชวงศ์ฉินลงได้สำเร็จ ขณะเดียวกันมีชาวนาซึ่งมาจากอดีตรัฐฉู่เช่นกันนามว่า หลิวปัง ได้ตั้งตนเป็นใหญ่และต่อสู้กับเซี่ยงอวี่หรือ ฌ้อปาอ๋อง นานถึงสี่ปีก็ได้ชัยชนะเหนือเซี่ยงอวี่อย่างเด็ดขาดและตั้งตนเองเป็นปฐมจักรพรรดิแห่งราชวงศ์ฮั่นตะวันตก ทรงมีพระนามว่าจักรพรรดิฮั่นเกาจู่

           รัฐฉินหรือแคว้นฉิน เป็นรัฐจีนโบราณในช่วงราชวงศ์โจว ถือกำเนิดจากการยึดดินแดนฟากตะวันตกที่เคยเสียให้แก่ชาวซีหรง ความที่ตั้งอยู่ชายขอบด้านตะวันตกของอารยธรรมจีนนี้เอง ทำให้รัฐฉินขยายพื้นที่และพัฒนาได้อย่างที่รัฐคู่แข่งทางที่ราบจีนเหนือไม่สามารถทำได้มาก่อน ครั้นเมื่อปฏิรูปกฎหมายขนานใหญ่ในศตวรรษที่สามก่อนคริสตกาล รัฐฉินก็กลายเป็นหนึ่งในผู้ทรงอำนาจที่โดดเด่นของกลุ่มเจ็ดรณรัฐ จนผนวกดินแดนจีนทั้งมวลได้ในปีที่สองร้อยยี่สิบเอ็ดก่อนคริสตกาลภายใต้การนำของฉินฉื่อหฺวังตี้ (“ปฐมจักรพรรดิฉิน”) ก่อตั้งเป็นจักรวรรดิฉิน ซึ่งแม้จะดำรงอยู่ไม่นานแต่ก็มีอิทธิพลมากยิ่งในประวัติศาสตร์จีนยุคหลัง

 แคว้นฉินจัดเป็นสุดยอดแคว้นที่ยิ่งใหญ่ในยุคจ้านกั๋วตอนปลาย แคว้นนี้เต็มไปด้วยคนเก่ง มีความสามารถ มีการจัดการปัญหาบ้านเมืองที่ดีจนก้าวกระโดด ทำให้ท้ายที่สุด เจ้าแคว้นอย่าง “จิ๋นซีฮ่องเต้” สามารถรวบแผ่นดินให้เป็นหนึ่งเดียวได้สำเร็จ เมืองหลวงของแคว้นฉินในยุคโบราณคือ เสียนหยาง ในยุคปัจจุบันคือดินแดนทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองเสียนหยาง ซึ่งอยู่ในเขตของมณฑลส่านซี

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ตำหนักจันทรา ข้ามเวลารักนิรันดร์   ตอนที่ 73 บทส่งท้าย (อวสาน)

    ยุคปัจจุบันพระตำหนักจันทรา“กรุ๊งกริ๊ง! กรุ๊งกริ๊ง! กรุ๊งกริ๊ง!” เสียงกระดิ่งลมส่งเสียงก้องกังวานไพเราะเสนาะหูเป็นยิ่งนักดอกโบตั๋นหลากสีส่งกลิ่นหอมขจรขจายไปทั่วบริเวณ จนเข้ามาถึงห้องนอนใหญ่ของฟ่านชิงเชียง ซึ่งเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของท่านเจ้าสัวฟ่านเต๋อหมิงและคุณวิลาสินีภรรยาชาวไทยสองสามีภรรยาย้ายมาอยู่ในห้องนอนของลูกสาวเพียงคนเดียวหลังจากที่ได้เห็นการหายตัวไปอย่างน่าอัศจรรย์ต่อหน้าต่อตาคนทั้งคู่ รวมไปถึงอู๋หงฮุยเพื่อนสนิทของท่านเจ้าสัวด้วยเช่นกันนับจากวันนั้นจนถึงวันนี้เป็นเวลากว่าสองปีแล้วที่ลูกสาวเพียงคนเดียวของทั้งสองได้หายไปในที่ไหนสักแห่งในยุคอดีตย้อนกลับไปหลายพันปีก่อนของแผ่นดินจีนในสมัยโบราณท่านเจ้าสัวพยายามค้นหาและศึกษาตำราวิชาการมากมายเพื่อให้ได้ล่วงรู้ที่มาที่ไป ของเส้นคู่ขนานที่เชื่อมต่อกับยุคอดีตและยุคปัจจุบัน หวังไว้ว่าสักวันหนึ่งจะได้พบหน้าลูกสาวเพียงคนเดียวอีกสักครั้ง ร่างใหญ่ของท่านเจ้าสัวกำลังนั่งอ่านหนังสือประวัติศาสตร์อยู่ที่โต๊ะทำงานของชิงเชียง โดยมีคุณวิลาสินีนั่งถั

  • ตำหนักจันทรา ข้ามเวลารักนิรันดร์   ตอนที่ 72 ลิขิตแห่งรัก 1.2

    ห้องทรงพระอักษรรายงานมากมายจากขุนนางน้อยใหญ่วางไว้เต็มโต๊ะทรงพระอักษร ฉินอ๋องรูปงามทรงอ่านรายงานเหล่านั้นทุกตัวอักษรและพิจารณาไปด้วยพร้อมกัน ก่อนจะเงยพระพักตร์ขึ้นเมื่อขันทีคนสนิทนำกล่องไม้เครื่องประดับมาวางไว้ตรงหน้าพระพักตร์“เจ้าเอาอะไรมาให้ข้ารึ!” รับสั่งถามด้วยความแปลกพระทัย“หยกจันทราของฝ่าบาทที่ฟ่านอ๋องส่งกลับคืนมา และกำไลหยกของแคว้นฟ่านที่จะต้องส่งกลับคืนไปทั้งสองสิ่งอยู่ภายในกล่องไม้เครื่องประดับนี้แล้วพ่ะย่ะค่ะ รอเพียงพระราชสาสน์ที่จะส่งไปพร้อมกับคืนกำไลหยกให้แก่องค์หญิงชิงเชียงพ่ะย่ะค่ะ” สิ้นเสียงกราบทูลภายในหัวใจเจ้าผู้ครองแคว้นฉินในขณะนี้สะดุดกับพระนามองค์หญิงจากแคว้นฟ่านขึ้นมาทันที“ชิงเชียง!” รับสั่งสุรเสียงเบา ก่อนจะปรากฏภาพเลือนรางขึ้น มาในความทรงจำ สตรีร่างงามระหง ผมดำยาวสลวยจนถึงเอวหากแต่ใบหน้ากลับเลือนราง พร้อมเสียงเรียกในมโนจิต“ชิงเชียงจ๋า!” ในภวังค์เรียกโฉมงามเช่นนั้น“ฝ่าบาท! ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ!” เสียงของเฮ่าหรานเรียกเจ

  • ตำหนักจันทรา ข้ามเวลารักนิรันดร์   ตอนที่ 71 ลิขิตแห่งรัก 1.1

    หนึ่งปีผ่านไปแคว้นฟ่านพระราชวังมังกรหิมะ“แปะ!” หยาดน้ำตาร่วงรินตกลงสู่พื้นด้วยความเศร้าทุกข์ระทมเป็นยิ่งนักใบหน้างามแสนสวยของชิงเชียง ซึ่งบัดนี้คือพระราชธิดาของฟ่านซานกงหรือฟ่านอ๋องและอู๋หยู่เหยี่ยนหรืออู๋ฮองเฮา ทั้งสองพระองค์แท้จริงแล้วคืออดีตชาติของเจ้าสัวฟ่านเต๋อหมิงและคุณวิลาสินี ภรรยาชาวไทยนั่นเอง แม้ว่าหญิงสาวจะพลัดพรากบิดาและมารดาในยุคปัจจุบันย้อนกลับมาอยู่ในยุคอดีตก็ตามทว่าในยุคอดีตแห่งนี้เธอได้พบกับบิดาและมารดาอีกครั้งในชาติอดีตของทั้งสองนั่นเอง เรื่องเล่าและตำนานต่างๆ ที่ตระกูลฟ่านเล่าขานกันต่อๆ มา แท้จริงแล้วก็คือเรื่องของเธอนั่นเอง ชิงเชียงกลับมาใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ในแคว้นฟ่านกับบิดาและมารดาในอดีตชาติ ณ พระราชวังมังกรหิมะ อันห่างไกลจากแคว้นอื่นๆ มีเอกภาพและการปกครองที่มีประสิทธิภาพนับตั้งแต่ชิงเชียงได้หวนคืนกลับมา เธอใช้วิชาความรู้ทั้งหมดในยุคปัจจุบันพัฒนาแคว้นที่ห่างไกลเจริญขึ้นอย่างต่อเนื่อง สิ่งปลูกสร้างมากมายเธอก็ใช้ความรู้ในยุคปัจจุบันมาปรับใช้ ตำหนักน้ำแข็งเป็นผลงานชิ้

  • ตำหนักจันทรา ข้ามเวลารักนิรันดร์   ตอนที่ 70 หนีให้ไกลไปสุดหล้า 1.4

    ท่ามกลางสายพระเนตรของฉีอ๋อง ยังทรงยืนหาได้สะทกสะท้านแต่อย่างใด ความลำพองคิดว่าตนมีเครื่องมือทำลายล้างผู้อื่นจึงคิดว่ามีชัยเหนือผู้ใดทั่วหล้า ขวดยาพิษหมื่นบุปผาถูกเก็บเข้าไปไว้ในผ้าคาดเอวของพระองค์ ก่อนจะบังคับม้าที่ทรงประทับอยู่ตรงไปที่เจ้าผู้ครองแคว้นฉิน หมายมุ่งเอาชีวิตเพื่อยึดครองแคว้นอันยิ่งใหญ่และหญิงงามซึ่งเป็นรักแรกพบของพระองค์ให้ตกมาเป็นของตนให้จงได้ในขณะเดียวกันร่างระหงของชิงเชียงอยู่บนหลังม้ากับเจ้าผู้ครองแคว้นฉิน ทั้งสองต่างช่วยกันไล่ฟาดฟันกองทหารของแคว้นฉีและแคว้นหานที่กำลังดาหน้าเข้ามาเพิ่มเรื่อยๆ โดยมีเยี่ยฉางอยู่บนหลังม้าอีกตัวหนึ่ง คอยระแวดระวังภัยถวายอารักขาให้กับฉินอ๋องและองค์หญิงของตนทันใดนั้นเองเสียงฝีเท้าม้าจำนวนมากกำลังวิ่งตรงมาจากพรมแดนอันเป็นเขตรอยต่อของแคว้นเหยี่ยนและแคว้นฟ่าน ทั้งสองแคว้นส่งกองกำลังทหารมาช่วยเจ้าผู้ครองแคว้นฉินและช่วยพระราชธิดาเพียงหนึ่งเดียวของฟ่านซ่านกง“ทหารจากแคว้นเหยี่ยนและแคว้นฟ่านมาช่วยแล้วฝ่าบาท!” เยี่ยฉางตะโกนบอกฉินอ๋องด้วยความดีใจพระพักตร์หล่อเหลาแย้มพระโอษฐ์กว้างด้ว

  • ตำหนักจันทรา ข้ามเวลารักนิรันดร์   ตอนที่ 69 หนีให้ไกลไปสุดหล้า 1.3

    ณ จุดพรมแดนแคว้นฉี ห้าชีวิตของสี่บุรุษและหนึ่งสตรีกำลังเดินเข้าเขตพรมแดนแคว้นเหยี่ยนเพื่อไปให้ถึงถ้ำหิมะ ซึ่งถ้ำดังกล่าวอยู่ในเขตพรมแดนของแคว้นฟ่าน ด้วยเช่นกันครึ่งหนึ่ง จึงเป็นจุดนัดพบของทั้งสองแคว้นได้เป็นอย่างดี ซึ่งกองทหารจากแคว้นฟ่านและกองทหารองครักษ์จากแคว้นฉินของฉินเสวี้ยนกง กำลังรอคอยเจ้าผู้ครองแคว้นและองค์หญิงชิงเชียงจากแคว้นฟ่าน ซึ่งฟ่านซานกงหรือฟ่านอ๋องทรงรอคอยพระราชธิดาเพียงหนึ่งเดียวอย่างใจจดใจจ่อ พร้อมกับองค์รัชทายาท อีกเพียงสี่ชั่วยามก็จะเข้าสู่พรมแดนของแคว้นเหยี่ยน ซึ่งจะทำให้กองทหารของแคว้นฉีติดตามได้ยากลำบากมากขึ้น เพราะทันทีที่พ้นเขาสูงเบื้องหน้าก็จะต้องพบกับหิมะและน้ำแข็งไปทั่วทุกพื้นที่เลยเดียว หญิงสาวในชุดคลุมอย่างมิดชิดทำมาจากขนสุนัขจิ้งจอกกำลังเดินฝ่าความหนาวเหน็บ ท่ามกลางหิมะที่เริ่มโปรยปราย ใบหน้างามเปล่งปลั่งเป็นสีชมพูและริมฝีปากอวบอิ่มแดงแจ๋ เพราะถูกความเย็นขับออกมาจนคนตัวใหญ่ข้างกายต้องคอยหันกลับมามองใบหน้างามนั้นอยู่ตลอดเวลาจนต้อง

  • ตำหนักจันทรา ข้ามเวลารักนิรันดร์   ตอนที่ 67 หนีให้ไกลไปสุดหล้า 1.1

    ภายในคุกหลวง ยามสาม คบไฟพวยพุ่งอยู่ภายในคุกหลวง ถูกมือปริศนาพันด้วยผ้าสีดำจนมิดชิดกำลังโรยผงสีขาวลงบนเปลวเพลิงไปทุกจุดส่งกลิ่นและควันขาวตลบอบอวลไปทั่ว เพียงครู่บรรดาทหารหลวงที่ยืนเฝ้ายามตามจุดที่ได้รับมอบหมายค่อยๆ ยืนโงนเงนไปมาก่อนจะทรุดฮวบลงไปกับพื้นทันที ร่างสันทัดในชุดสีดำทะมึนปกปิดหน้าตาอย่างมิดชิดด้วยผ้าสีดำสนิทตลอดทั้งศีรษะและใบหน้า เหลือเพียงดวงตาเอาไว้เท่านั้น ครั้นเห็นทหารที่เฝ้าเวรยามอยู่ในคุกต่างพากันหมดสติเพราะผงหลงลืมอดีตราชองครักษ์ของแคว้นฟ่านในชุดสีดำทะมึนดังกล่าวปรากฏตัวมาพร้อมกับราชองครักษ์ของแคว้นฉินอีกสองนาย ซึ่งเพิ่งหนีรอดไปเมื่อวานได้หวนกลับมาสืบข่าวคราวเจ้าผู้ครองแคว้นของตน จนล่วงรู้แผนการใหม่ล่าสุดขององค์หญิงชิงเชียง ราชองครักษ์ทั้งสามปรากฏตัวขึ้นภายในห้องคุมขังของฉินอ๋องรูปงาม ก่อนจะตรงดิ่งเข้าไปปลดโซ่ตรวนที่ล่ามพระวรกายอยู่ในขณะนั้นให้เป็นอิสระ &

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status