“เออ ๆ ยังไงจะช่วยพูดกับแพรวให้แล้วกัน”
“อืม” ณภัทรยกยิ้มให้เพื่อน ถ้าลองได้รับปากว่าจะช่วยออกมาแล้ว ไม่มีงานไหนที่เจตจะทำไม่สำเร็จ
“กดดันกูนักนะมึง” เจตใช้สายตาเคร่งขรึมมองอีกคนอย่างหนักใจ ทว่าก็เข้าใจว่าเพื่อนคงหวังดีจริง ๆ มาคิดอีกทีข้อเสนอนี้ก็ไม่เลว!
รุ่งเช้าอีกวัน
สายน้ำเย็นชุ่มฉ่ำไหลลงกระทบผิวเรียบเนียนฝ่ามือน้อย ๆ ถูไถฟองนุ่มไปตามเรือนร่างช้า ๆ กลิ่นหอมของสบู่บวกกับน้ำเย็นสบายทำให้แพรวพรรณรู้สึกสดชื่นและผ่อนคลาย
หญิงสาวต้องลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่เช้าเนื่องจากมีสอน เพื่อที่จะไม่ต้องไปนั่งติดแหง็กอยู่บนรถเป็นชั่วโมงก็ต้องออกจากบ้านให้เร็วหน่อย
“หวังว่ารถจะไม่ติดนะวันนี้” จากนั้นเสียงฮัมเพลงไปพร้อมกับการอาบน้ำก็คลอออกมาเบา ๆ
ต่อมา…
“มีสอนตอนเช้าเหรอแพรว” แพรวพราวเอ่ยถามลูกสาวกำลังเดินมาใกล้ กลิ่นหอมละมุนลอยมาแต่ไกล ยิ้มอบอุ่นผุดขึ้นเมื่อเธอนั่งลงข้าง ๆ
“ค่ะแม่ พ่อกับอาเกศไปทำงานแล้วเหรอคะ”
“ไปกันตั้งแต่เช้าแล้ว”
“ช่วงนี้หนูว่าพ่อกับอาเกศดูงานยุ่งมาก ๆ เลยนะคะไปแต่เช้ากลับค่ำทุกวันเลย”
“ก็อย่างนี้แหละ งานออกแบบไม่ใช่ว่าใครจะทำก็ได้”
“ก็จริงค่ะ ก็มีแค่เรื่องนี้ที่หนูพอจะรู้ งั้นหนูไปก่อนนะคะ ออกช้าเดี๋ยวรถจะติด” แพรวพรรณหอมแก้มผู้เป็นแม่หลังจากนั้น
“ขับรถระวัง ๆ นะแพรว” แววตาห่วงใยทอดมองลูกสาว
“ค่ะแม่”
มหาลัยวิทยาลัยเจ
ครูสาวก้าวเข้ามายังห้องปฏิบัติการ ยิ้มสดใสส่งให้กับลูกศิษย์ที่รออยู่ก่อนแล้ว หนึ่งในนั้นเดินเข้ามาเสนอท่าใหม่ ๆ เป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร
การสอนประสบผลสำเร็จเพราะนักเรียนสามารถคิดค้นท่าทางออกมาได้เอง ความสุขมากกว่าการเป็นครูสอนพิเศษคือมิตรภาพ
ถึงแม้ว่าแพรวพรรณจะอายุห่างจากพวกเขาไม่มาก ทุกคนก็ยังให้ความเคารพเช่นนักเรียนมีให้กับครูคนหนึ่ง
วันนี้เป็นการทดสอบผลการฝึกซ้อมของครั้งที่แล้ว สายตาชื่นชมทอดมองนักเรียนของตนเองด้วยความภูมิใจ พวกเขาโชว์ผลงานออกมาได้เป็นอย่างดี จุดบกพร่องมีอยู่บ้างทว่าก็น้อยมาก ให้ปรับแก้ท่วงท่านิดหน่อยก็ได้แล้ว
แพรวพรรณปรบมือหลังจากลูกศิษย์กลุ่มสุดท้ายกลับเข้ามานั่งประจำที่
“เก่งมาก แสดงว่าขยันซ้อมกันดี ค่อยมีกำลังใจสอนต่อหน่อย”
“ถ้าเป็นอาจารย์พวกหนูขยันแน่นอนค่ะ” นักศึกษาหญิงนั่งอยู่หน้าสุดเอ่ยด้วยรอยยิ้มกว้าง
“อาจารย์ต้องปล่อยเกรดให้พวกผมแล้วนะครับ” นักศึกษาชายนั่งริมสุดพูดต่อ
“ครูปล่อยแน่ถ้าวันสอบจริงพวกเธอทำออกมาได้ดีอย่างวันนี้ ตกลงไหม” แพรวพรรณหันไปทางนักศึกษาชายที่พูดออกมาเมื่อครู่ แล้วค่อยมองไปรอบ ๆ ด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน
จากนั้นเสียงตอบรับอย่างแข็งขันก็ดังขึ้นพร้อมกัน พวกเขารักในการแสดง การเอาใจใส่จากครูสาวจึงเป็นแรงผลักดันที่ดี
แพรวพรรณให้ลูกศิษย์แยกย้ายกันไปซ้อม เมื่อโทรศัพท์แจ้งเตือนข้อความจากผู้อำนวยการเข้ามา
“มีอะไรอีกหรือเปล่านะ”
ห้องผู้อำนวยการ
“นั่งก่อนสิแพรว” เจตวางงานทุกอย่างลงแล้วเดินอ้อมมาหาเธอ
“พี่เจตมีอะไรให้แพรวช่วยเหรอคะ”
“นั่งลงก่อนสิ จะว่าให้ช่วยก็คงไม่ใช่เสียทีเดียว คืออย่างนี้นะ มีคนอยากให้นักเรียนห้องแพรวไปแสดงในงานของเขาหน่อย” ชายหนุ่มเริ่มเข้าประเด็นเมื่อทั้งคู่นั่งเรียบร้อยแล้ว
“ห้องแพรว?”
“ใช่ห้องที่แพรวสอนพิเศษนั่นแหละ”
“ทำไมถึงเป็นห้องแพรวล่ะคะ ห้องใหญ่น่าจะดีกว่าไม่ใช่เหรอพี่เจต” แพรวพรรณเสนอห้องใหญ่ซึ่งหมายถึงสาขาการแสดงที่เรียนกันประจำไม่ใช่ห้องเรียนเสริมพิเศษอย่างนี้
“เพราะห้องที่แพรวสอนเก่งที่สุดไงครับ” เจตพูดตามความจริง เท่าที่เขาเห็นหากจะให้ห้องไหนไปก็น่าจะเป็นห้องของแพรวพรรณนี่แหละ เหมาะสมที่สุดแล้ว
“แต่แพรวว่าห้องของอาจารย์ท่านอื่นก็เก่งไม่แพ้กันนะคะ”
“พี่รู้ครับ แต่เจ้าของงานเขาอยากได้ห้องของแพรวไง”
“เขารู้จักแพรวด้วยงั้นเหรอคะ!”
“ก็ไม่เชิงหรอกครับ แต่เป็นคนที่คุณอาแนะนำมา เขาน่าจะไปปรึกษางานนี้กันก่อน แล้วค่อยมาหาพี่น่ะ”
เมื่อรู้อย่างนั้นเธอก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ อาของเจตเคยเห็นตนเองขึ้นแสดงมาก่อนแล้ว ทว่างานนอกสถานที่อย่างนี้ไม่อยากรับเลย
“พี่เข้าใจนะ แค่แพรวมาช่วยสอนพิเศษให้เด็ก ๆ ก็ไม่รู้จะขอบคุณยังไงแล้ว” เมื่อเห็นสีหน้าแพรวพรรณแสดงถึงความลำบากใจ เจตจึงลดความกดดันนั่นลง
“ขอบคุณนะคะพี่เจตที่เข้าใจ”
“ครับ แต่พี่เสียดายโอกาสดี ๆ ของนักเรียนได้รับในงานนี้นี่สิ” ชายหนุ่มเริ่มหาข้อเสียในการปฏิเสธงานในครั้งนี้
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เดี๋ยวพอพวกเขาจบไปโอกาสเหล่านี้ก็จะเข้ามาหาเอง ถ้ายังมีใจรักในการแสดงอยู่” แพรวพรรณยังไม่อยากรับงานนี้จริง ๆ เนื่องจากเล็งเห็นข้อเสียอยู่ หากว่ารับไปแล้วมีข้อผิดพลาดอาจจะทำให้เสียชื่อเสียงของสถาบันได้
“ไม่ใช่โอกาสแบบนั้นนะสิแพรว พี่หมายถึงเขาจะให้ทุนกับมหาลัยเรา ถึงหนึ่งร้อยทุน หากเราได้ส่วนนี้มาจะช่วยนักเรียนได้อีกหลายคน”
“เขาให้ทุนด้วยเหรอคะ”
“ใช่ครับ ถ้าแพรวตกลงเด็ก ๆ จะได้ทั้งค่าเหนื่อย และได้ช่วยเพื่อนคนอื่นด้วย แพรวก็รู้นี่ว่าเด็กมาเรียนไม่ได้มีแค่ลูกคนรวย ที่ต้องสอบชิงทุนเข้ามาก็มีไม่น้อย พวกเขาจะได้แบ่งเบาภาระจากทางบ้านไปอีกเยอะเลย”
เจตสังเกตปฏิกิริยาของแพรวพรรณ หลังจากฟังคำพูดของตนเองไป อาการนิ่งอย่างนี้หมายความว่าเธอกำลังลังเลอยู่
“ก็จริงที่ว่าทางมหาลัยของเรามีเงินทุนส่วนนี้อยู่แล้ว แต่นักศึกษาเข้ามาทุกปีที่ยังขาดแคลนเรื่องทุนก็มีเยอะเหมือนกัน จะให้ครบทุกคนพี่ก็ทำไม่ได้” ตีเหล็กมันก็ต้องตีตอนที่ยังร้อน ๆ นี่แหละ
ชั้น 25เขมจิรากำลังตระเตรียมข้าวของเพื่อจะลงไปช่วยงานเพื่อน ต้องละในส่วนนั้นแล้วหันมาหาธาดา เอาแต่คลอเคลียตนเองไม่ห่าง“คืนนี้ผมขอสั่งห้ามไม่ให้คุณดื่มเยอะ รู้หรือเปล่า”“คุณย้ำคำนี้กับฉันนับครั้งไม่ถ้วนแล้วนะคะ อีกอย่างเผื่อคุณจะลืมไปว่าฉันมาทำงาน เรื่องแบบนั้นมันก็ต้องมีบ้าง” ทว่าพอพูดจบก็ต้องเอียงหน้าหลบริมฝีปากหยักหนาไปอีกทาง“ต่อปากต่อคำเก่งขึ้นนะเดี๋ยวนี้” เมื่อพลาดโอกาสจะลงโทษริมฝีปากหยักสวย เขาก็เปลี่ยนเป็นทำอย่างอื่น ไหล่บอบบางถูกชายหนุ่มหมุนให้กลับมาเผชิญหน้ากัน“ก็ได้ ๆ ฉันจะทำอย่างที่คุณบอก แต่ว่าตอนนี้ต้องลงไปแล้ว” เขมจิราดันตัวออกห่างจากอ้อมกอดของมาเฟียหนุ่ม“ผมไม่ทำอะไรหรอกน่า ก็แค่จะกอดเฉย ๆ” ธาดายิ้มอ่อนเมื่อเห็นอากัปกิริยาต่อต้านเล็กน้อยของหญิงสาวท้องทะเลยามค่ำคืน แม้จะไร้แสงดวงอาทิตย์ส่องสว่างเหมือนยามเช้า แต่ทว่าดวงไฟที่สาดส่องไปมาทั่วบริเวณ เมื่อสะท้อนกับผิวน้ำกลับสวยงามไม่ต่างไปจากกันดวงตากลมโตทอดมองออกไปไกลอย่างใช้ความคิด จากนั้นก็หมุนตัวกลับเข้ามาด้านในห้องของตนเจ้าของหุ่นสวยยืนหน้ากระจกบานใหญ่ หมุนซ้ายหันขวาตรวจดูความเรียบร้อยของชุดเดรสสีดำสนิทจากไหล่ขาวเ
ฝีเท้ากำลังก้าวไปด้านหน้าด้วยจังหวะมั่นคงหยุดลงที่หน้าประตูบานใหญ่ เตชินก็เคาะประตูห้องทำงานของผู้เป็นแม่“ผมเข้าไปนะครับ”“เข้ามา” เสียงอ่อนโยนจากอีกฟากฝั่งก็ดังขึ้นผู้เป็นลูกชายดันประตูเข้าไป ยิ้มหล่อเหลาส่งให้หญิงวัยกลางคนทันทีเมื่อเห็นดวงตาคู่สวยมองมา“มาหาแม่แต่เช้ามีอะไรเหรอเจ้าตัวแสบ” พิชญ์สินีถามลูกชายหัวแก้วหัวแหวน แม้ใช้สรรพนามที่เรียกเขาอย่างนั้นก็ยังคงมองอย่างรักใคร่“ก็คิดถึงไงครับ” รอยยิ้มทรงเสน่ห์เปิดกว้างแล้วเดินเข้าไปใกล้บุคคลนั่งอยู่หน้าโต๊ะทำงานตัวใหญ่ เตชินหอมแก้มนุ่มหลังจากพูดจบ“ก็ปากหวานแบบนี้ไงสาว ๆ ถึงได้ตามติดกันเป็นพรวน”“แต่ผมก็ไม่ได้สนใจใครนี่ครับ” ชายหนุ่มยิ้มทะเล้นตอบผู้เป็นแม่“จ้า...พ่อเนื้อหอม หญิงตามเป็นร้อยไม่เอาแต่เลือกจะตามคนที่ไม่สนใจเนี่ยนะ” พิชญ์สินีค่อนขอดลูกชายกับสิ่งที่เห็นอยู่เป็นประจำ“อย่างที่แม่รู้นั่นแหละครับ”“งานนี้แม่ขอเลยนะ เราต้องทำตัวเป็นกลางเข้าไว้ ไม่งั้นทางผู้ใหญ่จะว่าลูกได้”พิชญ์สินีแม้จะนั่งแท่นผู้บริหารและมีอำนาจสูงสุดเพียงใด ก็ไม่อยากให้เหล่าผู้ถือหุ้นคนอื่นมองลูกชายในทางไม่ดี เรื่องที่เขาตามติดนักธุรกิจสาวซึ่งเข้าร่วมแข่
หลังจากคุยเรื่องงานกันอย่างลงตัวแล้ว ทิวก็ได้แยกตัวกลับไปยังห้องของตนเอง “ข้อมูลที่เหลือทั้งหมดอยู่ในนี้แล้วค่ะ” กานแก้วส่งข้อมูลให้กับเจ้านายหนุ่ม จากนั้นก็ถอยออกไปยืนไกลจากโต๊ะทำงานอีกหลายก้าว“ขอบคุณ ยังมีอะไรที่ขาดอยู่ไหม”“ไม่มีแล้วค่ะ กานตรวจทานอย่างละเอียดแล้ว แต่ว่า...ขอกานถามอะไรอย่างได้ไหมคะ”ณภัทรยกคิ้วเข้มขึ้นสูงเห็นว่าเลขาสาวมีความสนใจอย่างอื่นมากกว่าเรื่องงาน“ว่ามาสิ”“คือว่า...กานก็ไม่ได้อะไรนะคะ แค่สงสัยว่าคุณภัทรจะทำอย่างนี้จริงนะเหรอคะ” เธอมองไปที่เอกสารในมือของณภัทร“มันเป็นงาน ถ้าไม่ทำแล้วบริษัทเราจะอยู่ยังไง”คำตอบของณภัทรทำให้กานแก้วได้แค่ยิ้ม ในเมื่อเขายืนยันมาอย่างนี้สิ่งที่ต้องทำก็มีแต่เดินหน้าอย่างเต็มที่แค่นั้น“งั้น...ก็สู้ ๆ นะคะ”ท่าสองมือยกขึ้นทำให้ณภัทรถึงกับหลุดยิ้มขำออกมา“ไปทำแบบนี้ให้เพื่อนผมดูคนเดียวเถอะคุณกาน”ยิ้มสดใสหุบลงในทันที เมื่อความหวังดีของตนเองถูกโยนให้เอาไปใช้กับอีกคนเสียได้“คนอุตส่าห์เป็นห่วง” หญิงสาวพึมพำจากนั้นก็เดินออกมาจากห้องทำงานของเจ้านายคล้อยหลังเลขาสาวไปยิ้มที่อยู่บนใบหน้าก็ค่อย ๆ คลายลงทีละนิดจนเหลือเพียงสีหน้าราบเรียบภา
บริษัทพีเจ“คุณดางานที่แพรวให้ทำไปถึงไหนแล้วคะ” เจ้านายสาวละจากงานแล้วเงยหน้าขึ้นมามองเลขา“ดาจองที่พักแล้วก็เตรียมข้อมูลภายในงาน ไว้หมดแล้วค่ะคุณแพรว” ลดาส่งแฟ้มที่ถูกกล่าวถึงให้เจ้านายสาวแพรวพรรณรับจากมือเลขาเปิดอ่าน รายละเอียดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือแม้แต่ความชื่นชอบของผู้จัดงาน ลดาก็เรียบเรียงมาได้เป็นอย่างดีส่วนไหนต้องเน้นเป็นพิเศษก็ไฮไลท์สีเข้มเอาไว้เพื่อให้จดจำได้ง่ายช่างเป็นคนละเอียดรอบคอบสมกับผู้เป็นอาเลือกมาให้เธอเห็นอย่างนี้พลอยนึกถึงผู้ล่วงลับไปแล้วหากไม่เกิดเรื่องนั้นขึ้น หล่อนก็คงได้ช่วยพ่อแล้วนำพาพีเจดำเนินไปในทิศทางเจริญก้าวหน้าแน่ ครั้นความคิดเหล่านั้นแทรกซ้อนเข้ามาในหัว ผู้บริหารสาวจึงรีบตั้งสติปิดแฟ้มเอาไว้หันมาสนใจสิ่งที่อยู่ตรงหน้าอีกครั้ง“ขอบคุณนะคะคุณดา เหนื่อยหน่อยนะช่วงนี้”“คุณแพรวเองก็เหนื่อยเหมือนกัน พักผ่อนเยอะ ๆ พวกเราต้องการคุณมากเลยนะคะ”“ขอบคุณที่เชื่อใจแพรวค่ะ ถ้าไม่ได้คุณดาให้คำแนะนำ แพรวก็ไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มจากตรงไหนเหมือนกัน”“เราจะสู้ไปด้วยกันค่ะ” ความยินดีฉายขึ้นเต็มดวงหน้า สองมือชูขึ้นเป็นสัญลักษณ์ให้ฝั่งผู้เป็นเจ้านายได้เห็นว่ายังมีอี
เตชินหันไปทางแพรวพรรณก่อน แล้วค่อยหันกลับมาตอบคำถามของเขมจิรา“ไม่มีอะไรหรอกครับ พอดีผมแค่จะพาพี่แพรวมาดื่มกันสนุก ๆ เฉย ๆ”ทว่าเจ้าของคำถามกลับไม่ค่อยอยากจะเชื่อคำพูดของชายหนุ่มสักเท่าไหร่ สถานบันเทิงมีมากมายทั่วกรุงเทพแล้วทำไมถึงต้องเลือกมาดื่มกันที่นี่!นัยน์ตาสวยหันไปทางเพื่อนรักยังทำเป็นไม่ยินดียินร้ายกับสายตาของเธอเลยสักนิด เห็นแล้วก็ได้แต่ถอดถอนหายใจออกมาแรง ๆรู้ทันแล้วยังไงก็ในเมื่อแพรวพรรณเป็นเพื่อนรักเธอนี่ชั้นห้าห้องทำงานเจ้าของสถานบันเทิง Tclubบรั่นดีราคาแพงไหลลงไปอยู่ในแก้วทรงอ้วนตรงหน้าเจ้าของห้องโทนสีขวัญบุหรี่เขากำลังส่งสายตาราบเรียบไปยังบุรุษฝั่งตรงข้าม“มึงจะปล่อยไว้แบบนี้อีกนานแค่ไหน”“อีกไม่นานหรอก” ณภัทรตอบคำถามของธาดาเสียงเข้ม“ลีลาอยู่นั่น เสียเธอไปจริง ๆ กูนี่แหละจะเป็นคนสมน้ำหน้าคนแรก”“ไม่มีวันนั้นแน่”“ให้มันจริงเถอะ”วาจาดุดันตอบกลับกันไปมาอย่างไม่มีใครยอมลงให้กันก่อน ในขณะนั้นเสียงทุ้มจากบุคคลด้านนอกก็เอ่ยขออนุญาตขัดจังหวะพวกเขาธาดาก็หันเหความสนใจไปที่ประตูแทน ชาก้าวเข้ามายืนตรงหน้าโต๊ะกลมตัวใหญ่ ก้มหน้าลงเพื่อรายงานความเคลื่อนไหวของอีกคนให้เจ้านายได้
สองชั่วโมงต่อมาลานกว้างภายในคลับดังเต็มไปด้วยนักท่องราตรี กำลังขยับร่างกายส่ายสะโพกไปพร้อมกับดนตรีแนว EDM อย่างเมามันทว่าหนึ่งในนั้นกลับเลือกนั่งดูเฉย ๆ นัยน์ตาสีอ่อนอันทรงเสน่ห์จับจ้องเพียงแค่หญิงเดียวกำลังโยกย้ายเรือนร่างด้วยท่าทางเย้ายวนอยู่กลางฟอร์ดวงตาพราวเสน่ห์หวานฉ่ำกลายเป็นอาวุธทำร้ายหัวใจชายหนุ่มรอบข้างได้เป็นอย่างดี เตชินยกแก้วสีอำพันในมือขึ้นดื่มโดยพิกัดของสายตา ไม่ได้ละไปจากเจ้าของหุ่นสวยเลยแม้แต่วินาทีเดียวรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของแพรวพรรณในเวลานี้ เขาอยากจะปกป้องไว้มากที่สุด แม้ในใจจะแอบหวงอยู่บ้างกับความฮอตเมื่อมีผู้ชายมากหน้าหลายตาวนเวียนเข้ามาหาเธอ แต่กิริยาเหล่านั้นเขาไม่คิดจะแสดงออกมาให้อีกคนรู้สึกอึดอัดอย่างแน่นอนเมื่อเห็นว่าหญิงสาวกำลังเดินกลับมา ยังส่งยิ้มหวานมาแต่ไกล หัวใจก็เต้นรัวราวกับกลองกำลังถูกตีอย่างบ้าระห่ำ เตชินวางแก้วในมือลงขยับนั่งในท่าเตรียมพร้อมกับการเป็นเบาะรองรับอีกคนด้วยความเคยชิน“เหนื่อยแล้วเหรอครับ”เมื่อมาถึงแพรวพรรณก็หย่อนตัวนั่งบนตักกว้าง เรียวแขนสวยวาดขึ้นคล้องคอเจ้าของนัยน์ตาสีอ่อนหวานซึ้งอย่างมีจริต“อืม เหนื่อยแล้ว” ริมฝีปากอวบอิ่มต