“ถ้าไม่มีอะไรจะมาหา ผอ.อย่างมึงไม่ได้เหรอ”
“อย่างกูมันทำไม พูดดี ๆ นะไอ้ภัทร”
“ต้องให้บอกด้วยเหรอ ระวังไว้เถอะสักวันจะโป๊ะแตก เจอลูกศิษย์ตัวเองเข้าสักวัน”
“กวนกูอีก ตกลงมานี่มีอะไร” เจตตัดบทกวน ๆ ของเพื่อนแล้วเข้าประเด็นในทันที
“ถ้ากลัวก็หยุดทำตัวแบบนั้นก็จบ” อยู่ข้างนอกเจตจะไม่ใช่คนนิ่งและเคร่งขรึมเหมือนเช่นตอนนี้เลย
“เลิกให้โง่! เอาดี ๆ มีอะไรก็ว่ามา ลีลาอยู่นั่นกูมีงานต้องทำต่อนะ” ใครมันจะไปเลิกทำสิ่งที่ชอบได้ ชายหนุ่มเลี่ยงพูดเรื่องที่จะเข้าตัวเองไปมากกว่านี้
มาอีหรอบนี้คงจะให้หา ‘ของ’ ให้สินะ พวกนักธุรกิจพออยากได้อะไร เป็นต้องหาคำว่านล้อมอีกฝั่งให้ยอมจำนนจนได้สิน่า
“กูไม่ได้จะให้มึงช่วยฟรี ๆ สักหน่อย ทำเป็นอารมณ์เสียไปได้”
“หึ” ผิดจากที่เขาคิดที่ไหนล่ะ
“ทุนการศึกษาร้อยทุน เท่านี้พอที่จะทำให้มึงช่วยกูได้ไหม”
“ร้อยทุน! ทุนละเท่าไหร่” อันที่จริงก็จะตอบตกลงตั้งแต่แรกนั่นแหละ
“ห้าพัน เอาไม่เอา ไม่เอากูกลับ”
“เฮ้ย ๆ เดี๋ยวก่อนสิ เป็นนักธุรกิจประสาอะไรใจร้อนแบบนี้วะ นั่งลงก่อน” เจตรั้งณภัทรไว้เสียก่อนที่อีกคนจะลุกออกไป
“ก็แค่นี้ทำเป็นลีลาอยู่นั่น”
“ลงทุนขนาดนี้งานคงไม่ธรรมดาแน่ไหนลองว่ามาสิ จะให้กูไปติดต่อใครให้ ว่าแต่ทำไมถึงไม่ให้ไอ้ธามมันช่วย น่าจะหาได้ดีกว่ากูนะ”
พอรู้ถึงจำนวนเงินที่เสนอมาไม่ใช่น้อย ๆ เลยสำหรับคนกำลังฟื้นฟูบริษัทตัวเองอย่างณภัทร ใครกันทำให้เพื่อนของเขาอยากได้ตัวในราคามากมายอย่างนี้
“ถ้าอยากได้แบบนั้นก็คงไม่มาหามึงหรอก ไปหาไอ้ธามไม่ง่ายกว่าเหรอ” ที่แท้เจตก็คิดว่าตนเองอยากได้คู่นอนอย่างนั้นเหรอ
ไอ้นี่! สมองมีแต่เรื่องใต้สะดือหากไม่สนิทกันจริงคงไม่รู้ว่าผู้อำนวยการคนนี้รับหาคู่นอนหรือคู่ควงด้วย สายปาร์ตี้ตัวจริงย่อมรู้จักคนวงการเดียวกันดีอยู่แล้ว แต่ก็รองลงมาจากธาดาอยู่ดี
“อ้าวถ้าไม่ใช่เรื่องนั้นมึงจะให้กูช่วยเรื่องอะไร”
“ให้เด็กคณะการแสดง ไปช่วยงานเปิดตัวเครื่องเพชรตัวใหม่ให้กูหน่อย”
“พูดเป็นเล่นไป! เด็ก ๆ ไม่ได้รับงานแสดงสักหน่อย ถ้าอยากได้นักแสดงจริง ๆ ไม่สู้เอาเงินที่เสนอมาไปจ้างมืออาชีพไม่ดีกว่าเหรอวะ”
แม้ว่าจะต้องการทุนมากแค่ไหน ทว่านักศึกษายังไม่เคยออกรับงานแสดงอย่างจริงจังเลยสักครั้ง แล้วเป็นงานเปิดตัวด้วยคงจะไม่ธรรมดาแน่ หากมีข้อผิดพลาดอะไรขึ้นมา ณภัทรนั่นแหละจะซวยเอง
“ได้ข่าวว่าครูสอนพิเศษที่นี่เป็นมืออาชีพนี่หว่า ขึ้นแสดงงานใหญ่ ๆ มาตั้งเยอะ อีกอย่างกูไม่ได้อยากได้แบบเลิศหรูอลังการอะไร แค่ขึ้นไปแสดงนิด ๆ หน่อย ๆ พอเป็นพิธีแค่นั้นก็พอ”
“แต่เธอไม่เคยบอกนะว่าให้รับงานได้” เจตบอกด้วยความลำบากใจ
“อะไร! เป็นถึง ผอ.จะต้องขออนุญาตผู้ใต้บังคับบัญชาก่อนด้วยเหรอ”
“แพรวไม่ใช่ลูกน้องกูเหมือนครูคนอื่น ๆ นี่หว่า อากูขอเธอมาช่วยสอนเท่านั้นเอง”
ณภัทรสะดุดคำเรียกชื่อของหญิงสาวจากเพื่อน ไหนจะอาการแบ่งรับแบ่งสู้นั้นอีก ซึ่งปกติหากเป็นอะไรเกี่ยวกับผลประโยชน์ไม่เคยเลี่ยงขนาดนี้ หรือเป็นเพราะจะหลงเสน่ห์ผู้หญิงคนนั้นเข้าให้แล้ว ถึงได้ยืนกรานไม่อยากให้เจ้าหล่อนรับงานนี้กัน!
“คือมึงจะไม่ช่วยใช่ไหม”
น้ำเสียงจริงจังของณภัทร เจตถึงกับคิดหนัก เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาที่หนักใจคือแพรวพรรณมากกว่า ถึงจะเคยขึ้นแสดงมาก่อนพอมาสอนก็ไม่เคยเห็นเธอรับงานที่ไหน หากว่าตนเองทำโดยพลการแล้วครูสาวไม่พอใจจะทำยังไง
‘อีกคนก็เพื่อน อีกคนก็พยายามแจกขนมจีบ’ หนักใจจริง ๆ
“งั้นเอางี้ กูถามเธอก่อนโอเคไหม” เจตยื่นข้อเสนอใหม่ขึ้นมา
“ก็ได้ แต่อย่าลืมว่าร้อยทุนก็ช่วยนักศึกษามึงเพิ่มอีกร้อยคนเลยนะ คิดให้ดี ๆ ที่กูมาก็เพราะเห็นว่ามึงเป็นเพื่อน เงินส่วนนี้น่าจะทำประโยชน์ได้ไม่น้อย จริงไหม!”
“รู้น่า ก็บอกว่าขอถามเธอก่อนไง”
“อีกอย่าง งานนี้ไม่ได้ให้ไปแสดงฟรี ๆ มีค่าเหนื่อยให้ต่างหาก”
“ทำไมลงทุนจังวะ”
“ถ้าไม่ใช่นักเรียนของมึง กูจะให้ไหมอย่ามาคิดเยอะ”
ชั้น 25เขมจิรากำลังตระเตรียมข้าวของเพื่อจะลงไปช่วยงานเพื่อน ต้องละในส่วนนั้นแล้วหันมาหาธาดา เอาแต่คลอเคลียตนเองไม่ห่าง“คืนนี้ผมขอสั่งห้ามไม่ให้คุณดื่มเยอะ รู้หรือเปล่า”“คุณย้ำคำนี้กับฉันนับครั้งไม่ถ้วนแล้วนะคะ อีกอย่างเผื่อคุณจะลืมไปว่าฉันมาทำงาน เรื่องแบบนั้นมันก็ต้องมีบ้าง” ทว่าพอพูดจบก็ต้องเอียงหน้าหลบริมฝีปากหยักหนาไปอีกทาง“ต่อปากต่อคำเก่งขึ้นนะเดี๋ยวนี้” เมื่อพลาดโอกาสจะลงโทษริมฝีปากหยักสวย เขาก็เปลี่ยนเป็นทำอย่างอื่น ไหล่บอบบางถูกชายหนุ่มหมุนให้กลับมาเผชิญหน้ากัน“ก็ได้ ๆ ฉันจะทำอย่างที่คุณบอก แต่ว่าตอนนี้ต้องลงไปแล้ว” เขมจิราดันตัวออกห่างจากอ้อมกอดของมาเฟียหนุ่ม“ผมไม่ทำอะไรหรอกน่า ก็แค่จะกอดเฉย ๆ” ธาดายิ้มอ่อนเมื่อเห็นอากัปกิริยาต่อต้านเล็กน้อยของหญิงสาวท้องทะเลยามค่ำคืน แม้จะไร้แสงดวงอาทิตย์ส่องสว่างเหมือนยามเช้า แต่ทว่าดวงไฟที่สาดส่องไปมาทั่วบริเวณ เมื่อสะท้อนกับผิวน้ำกลับสวยงามไม่ต่างไปจากกันดวงตากลมโตทอดมองออกไปไกลอย่างใช้ความคิด จากนั้นก็หมุนตัวกลับเข้ามาด้านในห้องของตนเจ้าของหุ่นสวยยืนหน้ากระจกบานใหญ่ หมุนซ้ายหันขวาตรวจดูความเรียบร้อยของชุดเดรสสีดำสนิทจากไหล่ขาวเ
ฝีเท้ากำลังก้าวไปด้านหน้าด้วยจังหวะมั่นคงหยุดลงที่หน้าประตูบานใหญ่ เตชินก็เคาะประตูห้องทำงานของผู้เป็นแม่“ผมเข้าไปนะครับ”“เข้ามา” เสียงอ่อนโยนจากอีกฟากฝั่งก็ดังขึ้นผู้เป็นลูกชายดันประตูเข้าไป ยิ้มหล่อเหลาส่งให้หญิงวัยกลางคนทันทีเมื่อเห็นดวงตาคู่สวยมองมา“มาหาแม่แต่เช้ามีอะไรเหรอเจ้าตัวแสบ” พิชญ์สินีถามลูกชายหัวแก้วหัวแหวน แม้ใช้สรรพนามที่เรียกเขาอย่างนั้นก็ยังคงมองอย่างรักใคร่“ก็คิดถึงไงครับ” รอยยิ้มทรงเสน่ห์เปิดกว้างแล้วเดินเข้าไปใกล้บุคคลนั่งอยู่หน้าโต๊ะทำงานตัวใหญ่ เตชินหอมแก้มนุ่มหลังจากพูดจบ“ก็ปากหวานแบบนี้ไงสาว ๆ ถึงได้ตามติดกันเป็นพรวน”“แต่ผมก็ไม่ได้สนใจใครนี่ครับ” ชายหนุ่มยิ้มทะเล้นตอบผู้เป็นแม่“จ้า...พ่อเนื้อหอม หญิงตามเป็นร้อยไม่เอาแต่เลือกจะตามคนที่ไม่สนใจเนี่ยนะ” พิชญ์สินีค่อนขอดลูกชายกับสิ่งที่เห็นอยู่เป็นประจำ“อย่างที่แม่รู้นั่นแหละครับ”“งานนี้แม่ขอเลยนะ เราต้องทำตัวเป็นกลางเข้าไว้ ไม่งั้นทางผู้ใหญ่จะว่าลูกได้”พิชญ์สินีแม้จะนั่งแท่นผู้บริหารและมีอำนาจสูงสุดเพียงใด ก็ไม่อยากให้เหล่าผู้ถือหุ้นคนอื่นมองลูกชายในทางไม่ดี เรื่องที่เขาตามติดนักธุรกิจสาวซึ่งเข้าร่วมแข่
หลังจากคุยเรื่องงานกันอย่างลงตัวแล้ว ทิวก็ได้แยกตัวกลับไปยังห้องของตนเอง “ข้อมูลที่เหลือทั้งหมดอยู่ในนี้แล้วค่ะ” กานแก้วส่งข้อมูลให้กับเจ้านายหนุ่ม จากนั้นก็ถอยออกไปยืนไกลจากโต๊ะทำงานอีกหลายก้าว“ขอบคุณ ยังมีอะไรที่ขาดอยู่ไหม”“ไม่มีแล้วค่ะ กานตรวจทานอย่างละเอียดแล้ว แต่ว่า...ขอกานถามอะไรอย่างได้ไหมคะ”ณภัทรยกคิ้วเข้มขึ้นสูงเห็นว่าเลขาสาวมีความสนใจอย่างอื่นมากกว่าเรื่องงาน“ว่ามาสิ”“คือว่า...กานก็ไม่ได้อะไรนะคะ แค่สงสัยว่าคุณภัทรจะทำอย่างนี้จริงนะเหรอคะ” เธอมองไปที่เอกสารในมือของณภัทร“มันเป็นงาน ถ้าไม่ทำแล้วบริษัทเราจะอยู่ยังไง”คำตอบของณภัทรทำให้กานแก้วได้แค่ยิ้ม ในเมื่อเขายืนยันมาอย่างนี้สิ่งที่ต้องทำก็มีแต่เดินหน้าอย่างเต็มที่แค่นั้น“งั้น...ก็สู้ ๆ นะคะ”ท่าสองมือยกขึ้นทำให้ณภัทรถึงกับหลุดยิ้มขำออกมา“ไปทำแบบนี้ให้เพื่อนผมดูคนเดียวเถอะคุณกาน”ยิ้มสดใสหุบลงในทันที เมื่อความหวังดีของตนเองถูกโยนให้เอาไปใช้กับอีกคนเสียได้“คนอุตส่าห์เป็นห่วง” หญิงสาวพึมพำจากนั้นก็เดินออกมาจากห้องทำงานของเจ้านายคล้อยหลังเลขาสาวไปยิ้มที่อยู่บนใบหน้าก็ค่อย ๆ คลายลงทีละนิดจนเหลือเพียงสีหน้าราบเรียบภา
บริษัทพีเจ“คุณดางานที่แพรวให้ทำไปถึงไหนแล้วคะ” เจ้านายสาวละจากงานแล้วเงยหน้าขึ้นมามองเลขา“ดาจองที่พักแล้วก็เตรียมข้อมูลภายในงาน ไว้หมดแล้วค่ะคุณแพรว” ลดาส่งแฟ้มที่ถูกกล่าวถึงให้เจ้านายสาวแพรวพรรณรับจากมือเลขาเปิดอ่าน รายละเอียดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือแม้แต่ความชื่นชอบของผู้จัดงาน ลดาก็เรียบเรียงมาได้เป็นอย่างดีส่วนไหนต้องเน้นเป็นพิเศษก็ไฮไลท์สีเข้มเอาไว้เพื่อให้จดจำได้ง่ายช่างเป็นคนละเอียดรอบคอบสมกับผู้เป็นอาเลือกมาให้เธอเห็นอย่างนี้พลอยนึกถึงผู้ล่วงลับไปแล้วหากไม่เกิดเรื่องนั้นขึ้น หล่อนก็คงได้ช่วยพ่อแล้วนำพาพีเจดำเนินไปในทิศทางเจริญก้าวหน้าแน่ ครั้นความคิดเหล่านั้นแทรกซ้อนเข้ามาในหัว ผู้บริหารสาวจึงรีบตั้งสติปิดแฟ้มเอาไว้หันมาสนใจสิ่งที่อยู่ตรงหน้าอีกครั้ง“ขอบคุณนะคะคุณดา เหนื่อยหน่อยนะช่วงนี้”“คุณแพรวเองก็เหนื่อยเหมือนกัน พักผ่อนเยอะ ๆ พวกเราต้องการคุณมากเลยนะคะ”“ขอบคุณที่เชื่อใจแพรวค่ะ ถ้าไม่ได้คุณดาให้คำแนะนำ แพรวก็ไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มจากตรงไหนเหมือนกัน”“เราจะสู้ไปด้วยกันค่ะ” ความยินดีฉายขึ้นเต็มดวงหน้า สองมือชูขึ้นเป็นสัญลักษณ์ให้ฝั่งผู้เป็นเจ้านายได้เห็นว่ายังมีอี
เตชินหันไปทางแพรวพรรณก่อน แล้วค่อยหันกลับมาตอบคำถามของเขมจิรา“ไม่มีอะไรหรอกครับ พอดีผมแค่จะพาพี่แพรวมาดื่มกันสนุก ๆ เฉย ๆ”ทว่าเจ้าของคำถามกลับไม่ค่อยอยากจะเชื่อคำพูดของชายหนุ่มสักเท่าไหร่ สถานบันเทิงมีมากมายทั่วกรุงเทพแล้วทำไมถึงต้องเลือกมาดื่มกันที่นี่!นัยน์ตาสวยหันไปทางเพื่อนรักยังทำเป็นไม่ยินดียินร้ายกับสายตาของเธอเลยสักนิด เห็นแล้วก็ได้แต่ถอดถอนหายใจออกมาแรง ๆรู้ทันแล้วยังไงก็ในเมื่อแพรวพรรณเป็นเพื่อนรักเธอนี่ชั้นห้าห้องทำงานเจ้าของสถานบันเทิง Tclubบรั่นดีราคาแพงไหลลงไปอยู่ในแก้วทรงอ้วนตรงหน้าเจ้าของห้องโทนสีขวัญบุหรี่เขากำลังส่งสายตาราบเรียบไปยังบุรุษฝั่งตรงข้าม“มึงจะปล่อยไว้แบบนี้อีกนานแค่ไหน”“อีกไม่นานหรอก” ณภัทรตอบคำถามของธาดาเสียงเข้ม“ลีลาอยู่นั่น เสียเธอไปจริง ๆ กูนี่แหละจะเป็นคนสมน้ำหน้าคนแรก”“ไม่มีวันนั้นแน่”“ให้มันจริงเถอะ”วาจาดุดันตอบกลับกันไปมาอย่างไม่มีใครยอมลงให้กันก่อน ในขณะนั้นเสียงทุ้มจากบุคคลด้านนอกก็เอ่ยขออนุญาตขัดจังหวะพวกเขาธาดาก็หันเหความสนใจไปที่ประตูแทน ชาก้าวเข้ามายืนตรงหน้าโต๊ะกลมตัวใหญ่ ก้มหน้าลงเพื่อรายงานความเคลื่อนไหวของอีกคนให้เจ้านายได้
สองชั่วโมงต่อมาลานกว้างภายในคลับดังเต็มไปด้วยนักท่องราตรี กำลังขยับร่างกายส่ายสะโพกไปพร้อมกับดนตรีแนว EDM อย่างเมามันทว่าหนึ่งในนั้นกลับเลือกนั่งดูเฉย ๆ นัยน์ตาสีอ่อนอันทรงเสน่ห์จับจ้องเพียงแค่หญิงเดียวกำลังโยกย้ายเรือนร่างด้วยท่าทางเย้ายวนอยู่กลางฟอร์ดวงตาพราวเสน่ห์หวานฉ่ำกลายเป็นอาวุธทำร้ายหัวใจชายหนุ่มรอบข้างได้เป็นอย่างดี เตชินยกแก้วสีอำพันในมือขึ้นดื่มโดยพิกัดของสายตา ไม่ได้ละไปจากเจ้าของหุ่นสวยเลยแม้แต่วินาทีเดียวรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของแพรวพรรณในเวลานี้ เขาอยากจะปกป้องไว้มากที่สุด แม้ในใจจะแอบหวงอยู่บ้างกับความฮอตเมื่อมีผู้ชายมากหน้าหลายตาวนเวียนเข้ามาหาเธอ แต่กิริยาเหล่านั้นเขาไม่คิดจะแสดงออกมาให้อีกคนรู้สึกอึดอัดอย่างแน่นอนเมื่อเห็นว่าหญิงสาวกำลังเดินกลับมา ยังส่งยิ้มหวานมาแต่ไกล หัวใจก็เต้นรัวราวกับกลองกำลังถูกตีอย่างบ้าระห่ำ เตชินวางแก้วในมือลงขยับนั่งในท่าเตรียมพร้อมกับการเป็นเบาะรองรับอีกคนด้วยความเคยชิน“เหนื่อยแล้วเหรอครับ”เมื่อมาถึงแพรวพรรณก็หย่อนตัวนั่งบนตักกว้าง เรียวแขนสวยวาดขึ้นคล้องคอเจ้าของนัยน์ตาสีอ่อนหวานซึ้งอย่างมีจริต“อืม เหนื่อยแล้ว” ริมฝีปากอวบอิ่มต