“ถ้าไม่มีอะไรจะมาหา ผอ.อย่างมึงไม่ได้เหรอ”
“อย่างกูมันทำไม พูดดี ๆ นะไอ้ภัทร”
“ต้องให้บอกด้วยเหรอ ระวังไว้เถอะสักวันจะโป๊ะแตก เจอลูกศิษย์ตัวเองเข้าสักวัน”
“กวนกูอีก ตกลงมานี่มีอะไร” เจตตัดบทกวน ๆ ของเพื่อนแล้วเข้าประเด็นในทันที
“ถ้ากลัวก็หยุดทำตัวแบบนั้นก็จบ” อยู่ข้างนอกเจตจะไม่ใช่คนนิ่งและเคร่งขรึมเหมือนเช่นตอนนี้เลย
“เลิกให้โง่! เอาดี ๆ มีอะไรก็ว่ามา ลีลาอยู่นั่นกูมีงานต้องทำต่อนะ” ใครมันจะไปเลิกทำสิ่งที่ชอบได้ ชายหนุ่มเลี่ยงพูดเรื่องที่จะเข้าตัวเองไปมากกว่านี้
มาอีหรอบนี้คงจะให้หา ‘ของ’ ให้สินะ พวกนักธุรกิจพออยากได้อะไร เป็นต้องหาคำว่านล้อมอีกฝั่งให้ยอมจำนนจนได้สิน่า
“กูไม่ได้จะให้มึงช่วยฟรี ๆ สักหน่อย ทำเป็นอารมณ์เสียไปได้”
“หึ” ผิดจากที่เขาคิดที่ไหนล่ะ
“ทุนการศึกษาร้อยทุน เท่านี้พอที่จะทำให้มึงช่วยกูได้ไหม”
“ร้อยทุน! ทุนละเท่าไหร่” อันที่จริงก็จะตอบตกลงตั้งแต่แรกนั่นแหละ
“ห้าพัน เอาไม่เอา ไม่เอากูกลับ”
“เฮ้ย ๆ เดี๋ยวก่อนสิ เป็นนักธุรกิจประสาอะไรใจร้อนแบบนี้วะ นั่งลงก่อน” เจตรั้งณภัทรไว้เสียก่อนที่อีกคนจะลุกออกไป
“ก็แค่นี้ทำเป็นลีลาอยู่นั่น”
“ลงทุนขนาดนี้งานคงไม่ธรรมดาแน่ไหนลองว่ามาสิ จะให้กูไปติดต่อใครให้ ว่าแต่ทำไมถึงไม่ให้ไอ้ธามมันช่วย น่าจะหาได้ดีกว่ากูนะ”
พอรู้ถึงจำนวนเงินที่เสนอมาไม่ใช่น้อย ๆ เลยสำหรับคนกำลังฟื้นฟูบริษัทตัวเองอย่างณภัทร ใครกันทำให้เพื่อนของเขาอยากได้ตัวในราคามากมายอย่างนี้
“ถ้าอยากได้แบบนั้นก็คงไม่มาหามึงหรอก ไปหาไอ้ธามไม่ง่ายกว่าเหรอ” ที่แท้เจตก็คิดว่าตนเองอยากได้คู่นอนอย่างนั้นเหรอ
ไอ้นี่! สมองมีแต่เรื่องใต้สะดือหากไม่สนิทกันจริงคงไม่รู้ว่าผู้อำนวยการคนนี้รับหาคู่นอนหรือคู่ควงด้วย สายปาร์ตี้ตัวจริงย่อมรู้จักคนวงการเดียวกันดีอยู่แล้ว แต่ก็รองลงมาจากธาดาอยู่ดี
“อ้าวถ้าไม่ใช่เรื่องนั้นมึงจะให้กูช่วยเรื่องอะไร”
“ให้เด็กคณะการแสดง ไปช่วยงานเปิดตัวเครื่องเพชรตัวใหม่ให้กูหน่อย”
“พูดเป็นเล่นไป! เด็ก ๆ ไม่ได้รับงานแสดงสักหน่อย ถ้าอยากได้นักแสดงจริง ๆ ไม่สู้เอาเงินที่เสนอมาไปจ้างมืออาชีพไม่ดีกว่าเหรอวะ”
แม้ว่าจะต้องการทุนมากแค่ไหน ทว่านักศึกษายังไม่เคยออกรับงานแสดงอย่างจริงจังเลยสักครั้ง แล้วเป็นงานเปิดตัวด้วยคงจะไม่ธรรมดาแน่ หากมีข้อผิดพลาดอะไรขึ้นมา ณภัทรนั่นแหละจะซวยเอง
“ได้ข่าวว่าครูสอนพิเศษที่นี่เป็นมืออาชีพนี่หว่า ขึ้นแสดงงานใหญ่ ๆ มาตั้งเยอะ อีกอย่างกูไม่ได้อยากได้แบบเลิศหรูอลังการอะไร แค่ขึ้นไปแสดงนิด ๆ หน่อย ๆ พอเป็นพิธีแค่นั้นก็พอ”
“แต่เธอไม่เคยบอกนะว่าให้รับงานได้” เจตบอกด้วยความลำบากใจ
“อะไร! เป็นถึง ผอ.จะต้องขออนุญาตผู้ใต้บังคับบัญชาก่อนด้วยเหรอ”
“แพรวไม่ใช่ลูกน้องกูเหมือนครูคนอื่น ๆ นี่หว่า อากูขอเธอมาช่วยสอนเท่านั้นเอง”
ณภัทรสะดุดคำเรียกชื่อของหญิงสาวจากเพื่อน ไหนจะอาการแบ่งรับแบ่งสู้นั้นอีก ซึ่งปกติหากเป็นอะไรเกี่ยวกับผลประโยชน์ไม่เคยเลี่ยงขนาดนี้ หรือเป็นเพราะจะหลงเสน่ห์ผู้หญิงคนนั้นเข้าให้แล้ว ถึงได้ยืนกรานไม่อยากให้เจ้าหล่อนรับงานนี้กัน!
“คือมึงจะไม่ช่วยใช่ไหม”
น้ำเสียงจริงจังของณภัทร เจตถึงกับคิดหนัก เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาที่หนักใจคือแพรวพรรณมากกว่า ถึงจะเคยขึ้นแสดงมาก่อนพอมาสอนก็ไม่เคยเห็นเธอรับงานที่ไหน หากว่าตนเองทำโดยพลการแล้วครูสาวไม่พอใจจะทำยังไง
‘อีกคนก็เพื่อน อีกคนก็พยายามแจกขนมจีบ’ หนักใจจริง ๆ
“งั้นเอางี้ กูถามเธอก่อนโอเคไหม” เจตยื่นข้อเสนอใหม่ขึ้นมา
“ก็ได้ แต่อย่าลืมว่าร้อยทุนก็ช่วยนักศึกษามึงเพิ่มอีกร้อยคนเลยนะ คิดให้ดี ๆ ที่กูมาก็เพราะเห็นว่ามึงเป็นเพื่อน เงินส่วนนี้น่าจะทำประโยชน์ได้ไม่น้อย จริงไหม!”
“รู้น่า ก็บอกว่าขอถามเธอก่อนไง”
“อีกอย่าง งานนี้ไม่ได้ให้ไปแสดงฟรี ๆ มีค่าเหนื่อยให้ต่างหาก”
“ทำไมลงทุนจังวะ”
“ถ้าไม่ใช่นักเรียนของมึง กูจะให้ไหมอย่ามาคิดเยอะ”
“เออ ๆ ยังไงจะช่วยพูดกับแพรวให้แล้วกัน”“อืม” ณภัทรยกยิ้มให้เพื่อน ถ้าลองได้รับปากว่าจะช่วยออกมาแล้ว ไม่มีงานไหนที่เจตจะทำไม่สำเร็จ“กดดันกูนักนะมึง” เจตใช้สายตาเคร่งขรึมมองอีกคนอย่างหนักใจ ทว่าก็เข้าใจว่าเพื่อนคงหวังดีจริง ๆ มาคิดอีกทีข้อเสนอนี้ก็ไม่เลว!รุ่งเช้าอีกวันสายน้ำเย็นชุ่มฉ่ำไหลลงกระทบผิวเรียบเนียนฝ่ามือน้อย ๆ ถูไถฟองนุ่มไปตามเรือนร่างช้า ๆ กลิ่นหอมของสบู่บวกกับน้ำเย็นสบายทำให้แพรวพรรณรู้สึกสดชื่นและผ่อนคลายหญิงสาวต้องลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่เช้าเนื่องจากมีสอน เพื่อที่จะไม่ต้องไปนั่งติดแหง็กอยู่บนรถเป็นชั่วโมงก็ต้องออกจากบ้านให้เร็วหน่อย“หวังว่ารถจะไม่ติดนะวันนี้” จากนั้นเสียงฮัมเพลงไปพร้อมกับการอาบน้ำก็คลอออกมาเบา ๆต่อมา…“มีสอนตอนเช้าเหรอแพรว” แพรวพราวเอ่ยถามลูกสาวกำลังเดินมาใกล้ กลิ่นหอมละมุนลอยมาแต่ไกล ยิ้มอบอุ่นผุดขึ้นเมื่อเธอนั่งลงข้าง ๆ“ค่ะแม่ พ่อกับอาเกศไปทำงานแล้วเหรอคะ”“ไปกันตั้งแต่เช้าแล้ว”“ช่วงนี้หนูว่าพ่อกับอาเกศดูงานยุ่งมาก ๆ เลยนะคะไปแต่เช้ากลับค่ำทุกวันเลย”“ก็อย่างนี้แหละ งานออกแบบไม่ใช่ว่าใครจะทำก็ได้”“ก็จริงค่ะ ก็มีแค่เรื่องนี้ที่หนูพอจะรู้ งั้นหนูไปก่อ
โรงแรมทิมสัน เวลา 10:50 นาฬิกาแพรวพรรณเดินดูรอบ ๆ สถานที่จัดงาน เพราะอีกไม่กี่วันก็จะต้องพาลูกศิษย์มาซ้อม หลังจากกลับไปนอนคิดเรื่องนี้ ทบทวนถึงผลจะได้รับมีมากกว่าเสีย จึงตัดสินใจรับปากกับผู้อำนวยการของมหาลัย ซึ่งนักศึกษาเต็มใจเป็นอย่างมากทุกคนตื่นเต้นเมื่อจะได้ออกงานแสดงเป็นครั้งแรก“แล้วคนที่จ้างเราล่ะคะ แพรวยังไม่เห็นเขาเลย”“เขาไม่ว่างมาครับ แต่ส่งรายละเอียดมาให้พี่แล้วนะ”เจตเปิดข้อมูลให้กับครูสาวดู ก่อนหน้านี้เขาก็สงสัยว่าทำไมเจ้าตัวถึงไม่ยอมมาเอง ในเมื่อเป็นงานสำคัญ ณภัทรให้เหตุผลว่าติดงานด่วนจึงปลีกตัวมาไม่ได้“แพรวจะรู้ได้ยังไงคะว่าเขาต้องการให้เราจัดงานในรูปแบบไหน” เอารูปสินค้ามาให้เธอดูแล้วจะรู้ได้ยังไง แปลกคนจริง ๆ“นี่ครับ” เขาเปิดรูปแบบและชื่องานให้กับครูสาวดูอีกครั้ง“Gems of beauty for you that are precious” นิ้วเรียวเลื่อนรูปในมือถือของเจตไปเรื่อย ๆ เก็บทุกรายละเอียดที่เจ้าของงานถ่ายส่งมา จากนั้นก็ยื่นมือถือคืนให้กับเจต“เขาจะไม่เบี้ยวค่าจ้างเราใช่ไหมคะ” เพราะเป็นงานแรกที่ผู้ว่าจ้างไว้ใจทีมงานมาก ถึงขนาดปล่อยให้จัดการกันเอง“ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่เบี้ยวแน่นอนครับคนนี้ไว้ใจได้
แพรวพรรณนั่งตรงขอบเวที วันมาซ้อมหากมีจุดไหนต้องปรับแก้ค่อยว่ากันอีกที“แพรวจะให้เด็ก ๆ มาซ้อมกันที่นี่ช่วงไม่มีเรียน แพรวอาจจะไม่ได้เข้ามหาลัยพี่ไม่ว่าอะไรใช่ไหมคะ”“พี่จะว่าอะไรละครับ งานนี้ต้องยกความดีให้แพรวสิถึงจะถูก” เขาส่งขวดน้ำให้กับเธอ“ความดีอะไรกันคะ เพื่อเด็ก ๆ ทั้งนั้น”“ก็นี่ไงความดี ถ้าไม่ได้แพรวพวกเขาก็ไม่ได้รับโอกาสนี้กันนะ”คำชื่นชมราวกับว่าทำความดีมากมายมหาศาล แพรวพรรณไม่กล้ากล่าวคำใดต่อ เกรงว่าจะเป็นการเสริมคำเยินยอไม่จบไม่สิ้น“งั้นแพรวขอตัวกลับก่อนนะคะ”“เอ่อ! นี่ก็จะเที่ยงแล้วเราไปกินข้าวกันก่อนดีไหมครับ”แพรวพรรณยกนาฬิกาบนข้อมือขึ้นมาดู เหลืออีกแค่ไม่กี่นาทีก็จะเที่ยงแล้ว หากครั้งนี้ปฏิเสธอีกคงจะดูน่าเกลียด“ก็ได้ค่ะ แต่ขอเป็นร้านใกล้ ๆ นี้นะคะ”“ได้ครับ ร้านไหนก็ได้ตามใจแพรวเลย” เจตพูดด้วยความกระตือรือร้น ในที่สุดความพยายามของตนเองก็เกิดผล“จะยืนอยู่ตรงนี้อีกเหรอ! เธอกับไอ้เจตกำลังจะออกมาแล้วเห็นไหม” ทิวสะกิดณภัทร ยังเอาแต่จ้องมองสองคนนั้นอย่างไม่วางสายตา‘จะอยู่ให้ถูกจับได้หรือไง!’สองอาทิตย์ต่อมาบรรยากาศภายในห้องแต่งตัว ติดกับห้องจัดงานแสดงเครื่องเพชรเต็มไปด
ครูสาวเดินนำลูกศิษย์ลงจากเวทีไปหาเจต ซึ่งยืนรอด้วยรอยยิ้มกว้างอยู่ด้านล่าง“เก่งมากครับ ทุกคนทำได้ดีมากเลยรู้ไหม”“ขอบคุณครับ, ขอบคุณค่ะ”คำชื่นชมจากผู้อำนวยการทำให้นักศึกษาหายเหนื่อยในพริบตา ปลาบปลื้มที่เจ้าของสถาบันให้ความสำคัญอย่างนี้“ขอบคุณแทนพวกเขาด้วยนะคะ” แพรวพรรณมองตามหลังนักศึกษากำลังแยกตัวกันออกไปทางประตูด้านข้าง“พี่ถึงบอกไง ว่างานนี้เด็ก ๆ จะได้รับโอกาสเยอะมาก”“งั้นแพรวขอตัวไปเปลี่ยนชุดก่อนนะคะ”“ครับ แต่เดี๋ยวก่อนครับแพรว! พี่ลืมเรื่องหนึ่งที่ยังไม่ได้บอก”“เรื่องอะไรเหรอคะพี่เจต”“คือ...ตอนที่เจ้าของบริษัทขึ้นไปกล่าวเปิดงาน แพรวช่วยเอาดอกไม้ขึ้นไปมอบให้เขาหน่อยนะครับ”“ดอกไม้! ทำไมถึงเป็นแพรวล่ะคะ”“เมื่อกี้ตอนที่แพรวกำลังแสดงอยู่เขาบอกว่าชอบมาก ๆ ก็เลยอยากให้แพรวเป็นคนถือดอกไม้ขึ้นไปแล้วจะขอบคุณแพรวเองด้วยครับ”เจตประดิษฐ์ถ้อยคำเพื่อให้ครูสาวเข้าใจ นั่นก็เพราะเจ้าเพื่อนบ้าดันมาบอกเอาวินาทีสุดท้าย แล้วยังขู่อีกด้วยถ้าไม่ยอมเงินก็ไม่ต้องเอา ถึงจะรู้ว่าณภัทรพูดเล่นก็ตาม“.....”“นะครับพี่ขอร้องอีกสักครั้ง” แววตาเว้าวอนส่งให้ครูสาวต่อมา...“งานแสดงอัญมณี Gems of beauty f
แพรวพรรณเลี่ยงออกมาจากกลุ่มของณภัทร หลังจากเขาออกไปคุยเรื่องงานกับลูกค้ารายสำคัญ ถึงแม้จะไม่ชอบเจ้าของงาน แต่ก็ต้องยอมรับเลยว่าเป็นคนที่เก่งมาก ๆ อัญมณีถูกนำออกโชว์ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ทั้งจากกลุ่มคุณหญิงคุณนายและเหล่าไฮโซ รวมไปถึงกลุ่มนักธุรกิจยังสนใจอยากจะร่วมลงทุนด้วยเธอยืนอยู่ตรงมุมห้องเพียงลำพัง ซึ่งงานประเภทนี้ตนไม่ค่อยถนัดเอาเสียเลย แม้กระทั่งในพีเจก็มีเพียงพ่อและอาสาวที่มักออกงานสังคมพวกนี้ จะว่าไปทำไมพวกท่านถึงไม่ได้มาร่วมงานนี้ด้วย ทั้ง ๆ ที่อยู่แวดวงเดียวกัน!“สวัสดีครับผมชื่อริว บนเวทีคุณเต้นได้สวยมาก ๆ ไม่ทราบว่าสนใจอยากจะทำงานร่วมกับทางเราไหมครับ นี่ครับนามบัตรของผม”แพรวพรรณหันมาตามเสียง ชายหนุ่มรูปร่างสูงแต่งตัวภูมิฐาน กำลังส่งนามบัตรมาให้ เธอยิ้มให้กับเขา แล้วรับบัตรมาถือไว้“ต้องขอโทษด้วยนะคะ พอดีว่าฉันไม่ได้รับงานแสดงเป็นประจำ ที่มาในวันนี้ก็เพราะเป็นเพื่อนของเพื่อนอีกทีค่ะ” แพรวพรรณปฏิเสธเสียงนุ่ม“อ้อ ไม่เป็นไรครับ เผื่อว่าวันข้างหน้าคุณสนใจ ติดต่อมาได้ทุกเมื่อเลยนะครับ ผมชอบทักษะและไลน์เต้นของคุณมาก ถ้าหากมีโอกาสได้ร่วมงานกันคงดีไม่น้อย” ชายหนุ่มผู้มาใหม่ม
แกรก!เมื่อทนฟังวาจาปรักปรำเหล่านั้นไม่ไหว แพรวพรรณจึงเปิดประตูออกมา“.....”“.....”หญิงสาวทั้งสองหันไปพร้อม ๆ กัน ดวงตาของพวกเธอเบิกโพลงเมื่อเห็นว่าเป็นใครเดินออกมาจากด้านหลัง“ตกใจเหรอคะที่เป็นฉัน!” ดวงตาวาวโรจน์มองหญิงสาวทั้งสอง ชุดที่พวกเธอสวมใส่ล้วนหรูหราดูแพงแต่วาจากลับต่ำตมสิ้นดี เธอเดินออกมายืนด้านนอก“อย่าคิดว่าคนอื่นจะนิสัยเหมือนตัวเองสิ” แพรวพรรณพูดต่อ“อย่าแก้ตัวไปหน่อยเลย” หญิงสาวในชุดเกาะอกสีดำขลับยาวละพื้นพูดอย่างเย้ยหยัน ในน้ำเสียงของเธอก็ยังดูแคลนแพรวพรรณอยู่“ฉันไม่ได้แก้ตัว อีกอย่างก็ไม่เคยคิดที่จะไปนอนให้ผู้ชายเอาเล่น ๆ แล้วเที่ยวออกมาป่าวประกาศในที่สาธารณะ ให้คนอื่นรับรู้อย่างพวกคุณ ไม่อายกันบ้างหรือคะ”“นี่แก!”คำบริภาษของแพรวพรรณทำให้สองสาวโมโห จนควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ หนึ่งในนั้นปรี่เข้าหาหมายจะฟาดฝ่ามือบนแก้มเนียน ด้วยความที่ระวังตัวอยู่ก่อนแล้วเธอจึงคว้าข้อมือของหล่อนเอาไว้ได้ทัน“สันดานคนมองกันจากภายนอกไม่ได้จริง ๆ พวกคุณแต่งตัวดูดีมีชาติตระกูล ใส่เพชรใส่พลอยหรูหรา แต่ทำไมถึงมีความคิดที่ต่ำ ให้ร้ายผู้หญิงด้วยกันได้ถึงขนาดนี้” พูดจบแพรวพรรณก็ผลักหญิงสาวออก
ลานจอดรถของโรงแรมชั้นพรีเมียมติ้ง!เมื่อประตูลิฟต์เปิดแพรวพรรณก็รีบเดินออกมา เปิดกระเป๋าควานหากุญแจรถเร่งจ้ำฝีเท้าโดยเร็วที่สุด พอเจอแล้วนิ้วเล็กกดปลดล็อก ดึงประตูฝั่งคนขับวางกระเป๋าลงไว้อีกฝั่ง จากนั้นก็สอดตัวลงไปนั่งประจำที่คนขับ ทว่ากลับปิดประตูรถไม่ได้“คุณ!” แพรวพรรณมองมือใหญ่จับขอบประตูไว้ ก่อนจะเลื่อนไปยังใบหน้าเรียบตึง“คิดจะหนีผมงั้นเหรอ” ณภัทรถามเสียงแข็ง นัยน์ตาเคร่งขรึมก้มมองคนในรถ“ปล่อยมือของคุณออกจากรถฉันเดี๋ยวนี้ ฉันจะกลับบ้าน” เธอคิดว่าตนเองออกมาเร็วแล้ว แต่ก็ยังหนีเขาไม่พ้น!ใบหน้านวลเนียนซีดเผือดลงเมื่อผลออกมาเป็นอย่างนี้“ผมบอกคุณว่าไง ให้รอกลับพร้อมผมไม่ใช่เหรอ ไม่เอาแล้วใช่ไหมเงินทุนของนักเรียน”“คุณนี่มันเลวจริง ๆ งั้นก็แล้วแต่ละกัน จะจ่ายไม่จ่ายมันก็เรื่องของคุณ ถ้าคิดจะเอาเปรียบเด็ก ๆ ด้วยการใช้งานฟรี ๆ ก็แล้วแต่เลย ยังไงก็เป็นคนประเภทชอบเอาเปรียบคนอื่นอยู่แล้วนี่ ส่วนของฉันก็จะถือเสียว่าทำบุญทำทานไปก็แล้วกัน ฉันไม่ต้องการเงินของคุณแม้แต่แดงเดียว!” นับเป็นประวัติศาสตร์ทีบริภาษยืดยาวใส่ใครสักคนอย่างนี้“ปากเก่งดีนี่ งั้นก็ช่วยเก่งให้ตลอดแล้วกัน” กรามแกร่งขึ้นส
ชายหนุ่มย่นหน้าทุกครั้งที่เห็นว่าเจ้านายโดนฟาด เป็นพัลวันเพราะเอาแต่สู้รบกับณภัทร จึงไม่ทันได้สังเกตว่ารอบตัวเปลี่ยนไป เส้นทางของรถยนต์ขับเคลื่อนอยู่ในตอนแรก จากถนนใหญ่ที่มีการสัญจรอยู่ตลอดเวลา กลายเป็นทางสายเปลี่ยวจนแทบจะไม่มีรถขับสวนผ่าน แพรวพรรณเริ่มหวาดระแวงมองบรรยากาศโดยรอบด้วยความตื่นกลัว‘เขาจะพาเธอมาฆ่าหรือเปล่า’หัวใจเต้นรัวเมื่อคิดไปไกลถึงขั้นนั้นณภัทรเห็นปฏิกิริยาเปลี่ยนไปของแพรวพรรณ จึงนึกบางอย่างขึ้นมา“ถ้ายังไม่หยุด ผมจะโยนคุณลงจากรถเดี๋ยวนี้”“.....”จนกระทั่งรถหรูได้เลี้ยวเข้าไปจอดในอาณาเขตของบ้านหลังใหญ่“ลงมา”“.....”การกระทำของเธอเหมือนกำลังท้าทาย ทั้งที่มาอยู่ในอาณาเขตเขาแล้วแต่ก็ยังอวดเก่งไม่เลิก มือที่จับอยู่บนต้นแขนบีบเนื้อนุ่มอย่างแรงพลางกระชากเพื่อให้หญิงสาวลงมาจากรถ“ผมบอกให้ลงมา” เสียงห้วน ๆ ออกคำสั่ง“ฉันเจ็บนะ” แพรวพรรณแผดเสียงร้องใส่หน้าณภัทร ถลึงตาให้เขาอย่างไม่นึกเกรงกลัว“บอกดี ๆ แล้วฟังไหม”“คุณบังคับให้ฉันมา ฉันไม่ได้เต็มใจมาเลยสักนิด แล้วทำไมต้องฟังคุณด้วยเล่า”ณภัทรกัดฟันกรอดกับความดื้อดึงของอีกฝ่าย ดูเหมือนว่าหากปล่อยแล้วรอให้เดินลงมาเองคงเป็นเ
“แต่จะว่าไปหนูเขมไม่ได้มาบ้านเรานานแล้วนะ เพื่อนเป็นยังไงบ้างแพรว”สาวน้อยที่มักจะมาเที่ยวหาและเล่นกับลูกสาวอยู่บ่อย ๆ เมื่อครั้งยังเรียนที่เดียวกัน ทำให้แพรวพราวเอ็นดูราวกับว่าเขมจิราเป็นลูกสาวอีกคน เมื่อไม่ค่อยได้เจอหน้าก็อดเป็นห่วงไม่ได้“ช่วงนี้ยัยเขมกำลังออกแบบชุดใหม่อยู่ค่ะ ก็เลยไม่ค่อยว่างมาสักเท่าไหร่”“คุณยุทธนี่ก็เก่งนะ เลี้ยงหนูเขมมาคนเดียว ส่งเสียจนลูกสาวจบมามีงานทำดี ๆ ในบริษัทใหญ่โตแบบนี้”“ใช่ค่ะพ่อยุทธเก่งมาก ๆ เหมือนพ่อของแพรวนี่ไง” แพรวพรรณซบลงที่ไหล่อันแสนอบอุ่นของผู้เป็นพ่ออย่างเอาใจและชื่นชม“พ่อต้องเก่งอยู่แล้ว ก็มีกำลังใจที่ดีอย่างหนูกับแม่นี่ไง” วงแขนกว้างยกขึ้นโอบไหล่สาวสวยทั้งสองนั่งกันคนละฝั่ง“อาเกศด้วย” เธอไม่ลืมจะเอ่ยชมอีกหนึ่งคน ซึ่งได้ยกให้เป็นคนเก่งของตนเองตลอดมา“อือ ๆ อาเกศด้วย” ไพศาลตอบรับคำลูกสาวด้วยรอยยิ้มสุขใจ“เกศทำไมเหรอคะ?”หญิงสาวผู้มาใหม่เอ่ยถามมาแต่ไกล เดินเข้ามาในเขตตัวบ้านแล้วได้ยินประโยคช่วงท้ายแต่ไม่ชัดเจนนัก เธอส่งยิ้มให้กับทุกคนพอเข้ามายังห้องรับรองหลังจากคุยงานเสร็จเกวรินก็รีบตรงกลับบ้านทันที เพื่อจะคุยงานกับพี่ชาย แต่พอได้ยินเสียงส
1เดือนต่อมา“อาเกศไม่ลงมากินข้าวเหรอคะ” ดวงตาทอประกายสดใสมองรอบโต๊ะอาหารไม่เห็นอาสาวจึงได้หันไปถามผู้เป็นแม่ ซึ่งกำลังตักข้าวให้กับพ่ออยู่“อาเข้าไปดูงานที่บริษัทน่ะ” ตักข้าวให้สามีเสร็จแล้ว ด้วยความที่เป็นคนดูแลทุกอย่างภายในบ้าน ลูกนั่งลงเธอจึงตักให้ลูกสาวอีกเช่นกัน“ขอบคุณค่ะแม่ แต่วันหยุดไม่ใช่เหรอคะทำไมอาถึงไปทำงานล่ะ หรือว่ามีงานด่วน” หญิงสาวเปลี่ยนไปถามผู้เป็นพ่อ เพราะท่านอยู่แต่ทำไมอาถึงต้องไปทำงาน“พอดีมีงานด่วนเข้ามา อาเกศก็เลยเข้าไปดูแทนพ่อ...แค่ก แค่ก”ยังพูดไม่ทันจบไพศาลก็ไออีกครั้ง ช่วงนี้สุขภาพของเขาเริ่มแย่ลงจึงต้องให้น้องสาวเข้าไปทำงานในส่วนของเขาแทนก่อนสักระยะ“พ่อไม่สบายเหรอคะ ไปหาหมอกันไหมเดี๋ยวแพรวไปด้วย” มือที่กำลังจะตักข้าวขึ้นมาทานชะงัก หลายวันมานี้เธอเห็นว่าท่านมีอาการแบบนี้อยู่บ่อย ๆ จึงขันอาสาจะเป็นคนพาไปเอง“ไม่ต้องหรอกลูก คงเป็นเพราะอากาศมันเปลี่ยน เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาวก็เลยเป็นหวัดน่ะ” แววตาเป็นห่วงเป็นใยของบุตรสาวสร้างรอยยิ้มให้ไพศาล อีกอย่างก็คิดว่าตนเองไม่ได้เป็นอะไรมาก น่าจะเกิดมาจากสภาพอากาศเสียมากกว่า“งั้นพ่อก็ต้องดูแลตัวเองนะคะ หนูเป็นห่วง ถ้าไม่ไหว
วันต่อมาไพศาลไล่อ่านข่าวพาดบนหน้าหนังสือพิมพ์ธุรกิจฉบับรายวัน บริษัทคู่แข่งกลายเป็นที่สนใจของเหล่านักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ไหนจะหุ้นกำลังพุ่งทะยานสูงขึ้นตามไปด้วยในขณะสภาวการณ์ของพีเจกลับดิ่งลงมาเรื่อย ๆ ซ้ำร้ายเหล่าผู้ถือหุ้นก็ทยอยถอนตัวออกไปหลายรายแต่ทว่านักธุรกิจวัยกลางคนเครียดหนักเห็นจะเป็นภาพถ่ายประกอบบนหัวข้อข่าว นักแสดงสาวสุดสวย กลายเป็นจุดสนใจภายในงานเธอคือคนที่ณภัทรยกให้เป็นขวัญใจในค่ำคืนนี้....หนังสือพิมพ์ยับไปตามแรงขย้ำของมือใหญ่ ไพศาลใจเต้นแรงจนรู้สึกเจ็บหน้าอกข้างซ้าย ความตึงเครียดเพิ่มขึ้นทวีคูณ‘นักแสดง’ งั้นเหรอเขาไม่เคยรู้เลยว่าลูกสาวรับงานนี้ด้วย!ก๊อก ก๊อก...เสียงเคาะประตูทำให้เจ้าของห้องหลุดออกมาจากภวังค์ผู้เดินเข้ามาก็คือน้องสาวนั่นเอง“พี่ไพศาล!” สีหน้าของพี่ชายเกวรินอุทานอย่างเป็นกังวล“นั่งก่อนสิเกศ”“พี่เห็นแล้วใช่ไหม”“อืม”“คิดว่าทางนั้นจงใจหรือเปล่าที่จ้างแพรวไปงานนั่น”“แค่ก แค่ก” ด้วยความเครียดสะสมร่างกายจึงอ่อนเพลียไพศาลไอในขณะกำลังจะตอบน้องสาว“พี่เป็นอะไรหรือเปล่า” หญิงสาวเดินเข้าไปใกล้ด้วยความเป็นห่วง“ไม่เป็นอะไร เรื่องยัยหนูมันอาจจะไม่ได้ม
รุ่งเช้าอีกวันณภัทรเดินออกมาจากห้องน้ำ หลังจากทำธุระส่วนตัวของเขาเสร็จ ชายหนุ่มทิ้งตัวลงข้างเตียงมือใหญ่ยังเช็ดเส้นผมเปียกชุ่มด้วยผ้าขนหนูผืนเล็กสายตาคมทอดมองไปยังใบหน้านวลเนียนของคนที่ยังนอนหลับสนิท เมื่อคืนร้องอยากกลับบ้าน แต่จนป่านนี้ยังขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนาอย่างสบายอุราอยู่เลยเขาเพ่งมองดวงหน้าหวานประดับประดาไปด้วยแพขนตางอนยาว จมูกโด่งสวย ปากอวบอิ่มแม้จะไร้การเติมแต่งก็ยังดูน่ามอง‘น่ามอง’ งั้นเหรอณภัทรส่ายหัวไปมาไล่ความคิดแสนตลก ก่อนจะหวนกลับไปยังภาพกิจกรรมบนเตียงในค่ำคืนที่ผ่านมา ก็ไม่น่าแปลกถ้าหากว่าแพรวพรรณจะยังหลับอย่างหมดเรี่ยวแรงอยู่อย่างนี้“เตียงผมมันสบายมากใช่ไหมคุณถึงไม่อยากลุกขึ้นมาน่ะแพรวพรรณ” เสียงเข้มเอ่ยเมื่อเห็นร่างใต้ผ้าห่มเริ่มขยับแพรวพรรณลืมตาในทันใด ดวงตากลมโตเบิกโพลงด้วยความตื่นตระหนกลุกขึ้นนั่งลนลานถอยห่างออกไปไกล มือเล็กยังกระชับผ้าห่มผืนหนาเอาไว้แน่น“ลุกขึ้นไปอาบน้ำได้แล้วผมจะไปส่ง”“.....”“มองผมแบบนั้น...จะต่ออีกงั้นเหรอ”“หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ”“ก็เห็นยังอิดออดก็นึกว่าอยากจะต่ออีกสักรอบ”แววตาวาวโรจน์จ้องณภัทรอย่างขุ่นเคือง ไม่กระดากอายบ้างเลยหรืออ
“ซี้ด...เอามือออกแพรวพรรณ อื้ม...” ณภัทรขบกรามแน่น ส่วนหัวได้ผลุบหายเข้าไปพร้อมที่จะสำรวจด้านในแล้ว แต่กลับถูกมือเล็กของคนใต้อาณัติดันไว้ ทำให้ชายหนุ่มหัวเสียณภัทรพ่นลมหายใจออกมาอย่างแรงเมื่อถูกขัดใจ‘ในเมื่อทำดี ๆ ไม่ชอบ’งั้นก็ต้องยอมรับในความดื้อดึงของตัวเองเถอะแพรวพรรณ! เขาดันเอวสอบเข้าอย่างแรง กระแทกแท่งร้อนขนาดใหญ่เข้าไปในช่องคับแคบสุดแรง“อ๊ะ โอ๊ย อ๊ะ อื้อ” ร่างบอบบางผวาเฮือกอีกครั้ง“อย่าเกร็ง อ่า” ณภัทรฟุบหน้าลงที่ซอกคอหอมกรุ่น แพรวพรรณตอดรัดจนเขาปวดหนึบ“ฉันเจ็บ”“ผ่อนคลายหน่อย แล้วจะหาย อ่า” โทนเสียงอ่อนลงบอกอย่างเอาใจจากความเจ็บแสบแปรเปลี่ยนเป็นเสียวซ่านหญิงสาวร้องครางผะผ่าว ณภัทรขยับเอวอย่างดุดันเร่าร้อนสร้างความวาบหวามรัญจวนใจ“อ๊ะ อ๊ะ”“อื้อ...ซี้ด...”ร่างบอบบางแอ่นอกอวบอิ่มรับริมฝีปากกำลังครอบครองเนินเนื้ออย่างบ้าคลั่ง แพรวพรรณบิดกายเร่าสองมือกำผ้าปูเตียงจนยับเยิน สะโพกสวยเด้งรับแท่งร้อนอย่างกระสันณภัทรหลงใหลมัวเมาไปกับไฟสวาทที่หญิงสาวตอบสนองกลับมา แม้ว่าเธอจะไม่เก่งไม่เร่าร้อน แต่ก็ยากจะถอนตัวออกมาได้ มือใหญ่ยกก้นสวยขึ้นมานั่งอยู่บนเอวอย่างรวดเร็วโดยเธอไม่ทันได้ต
ณภัทรบีบเข้าที่กรอบหน้าเรียวอย่างแรง ใช้ดวงตาคมดุจ้องเข้าไปในดวงตาสุกใสผ่านม่านน้ำตา‘แค่นี้ก็ทำจะเป็นจะตาย’ยิ้มร้ายยกขึ้นอย่างเย้ยหยัน“ฉันกลับบ้านได้แล้วใช่ไหม” สุ้มเสียงเอ่ยออกมายังสั่นจากแรงสะอื้น“ใครบอก! คืนนี้คุณต้องค้างที่นี่กับผม” ณภัทรเพิ่มแรงบีบขึ้นอีก เขาไม่ชอบเลยเวลาที่เธอทำตัวถือดี“ไหนคุณบอกว่าถ้าฉันเอ่อ...อย่างที่คุณต้องการแล้วจะให้ฉันกลับไง” หญิงสาวกัดฟันตอบ“หึ!” ชายหนุ่มหัวเราะผ่านลำคอ หล่อนเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า เขาบอกว่า‘ถ้าทำให้เขาพอใจ’นี่ยังไม่ได้ทำอะไรเลยก็ร้องจะกลับแล้ว แค่รีดน้ำออกได้ก็คิดว่าตัวเองทำดีแล้วเหรอ ยัยซื่อบื้อณภัทรแยกขาคร่อมเธออยู่ออก ช้อนร่างบางขึ้นไปวางกลางเตียงนุ่ม“คุณควรให้ฉันกลับสิ” หญิงสาวดิ้นหลบหนีมือใหญ่“คุณไม่มีสิทธิ์ออกไปไหนทั้งนั้น ถ้าผมไม่อนุญาต” ชายหนุ่มรวบสองแขนเรียวของคนใต้อาณัติ ใช้ร่างใหญ่กำยำบดเบียดแนบชิดสร้างแรงเสียดสี ให้เธอรู้สึกถึงส่วนเริ่มขยายตัวขึ้นอีกครั้งสัมผัสอันร้อนผ่าวบริเวณหน้าขาแพรวพรรณเม้มปากเข้าหากันแน่น ใบหน้าแดงก่ำกระดากอายกับสัมผัสถูไถอย่างจงใจซอกคอขาวเนียนทำให้ณภัทรกลืนน้ำลายลงคออย่างลืมตัวในความกระหา
เสียงฉีกขาดของเดรสแสนสวยก็ดังขึ้น กลายเป็นเศษผ้าขาดวิ่นไปตามแรงกระชากของมือใหญ่ เผยให้เห็นเนินเนื้ออวบอิ่มล้นออกมา“ทำอะไรของคุณ!” แพรวพรรณปัดป้องมือใหญ่พัลวัน“ทำให้คุณเห็นไงว่าคนที่กล้าตบผมจุดจบมันจะเป็นยังไง”ณภัทรไม่สนใจว่าแพรวพรรณจะเจ็บหรือหวาดกลัวแค่ไหนกับการกระทำของตน ไม่เคยมีใครกล้ากับเขาเช่นนี้มาก่อนความเกรี้ยวกราดจึงเพิ่มขึ้นอย่างน่ากลัว ใบหน้าหล่อเหลาฝังเนินเนื้ออวบอิ่ม ปากหยักหนาดูดดึงขบเม้มบริเวณนั้นอย่างแรง จนผิวเนียนขึ้นรอยช้ำเป็นสีม่วง“ฮึก เจ็บ อย่า พอแล้วฉันเจ็บ” น้ำตาร่วงเผาะลงข้างแก้มใส เมื่อถูกซาตานร้ายกระทำอย่างป่าเถื่อนเสียงสะอื้นทำให้ณภัทรผละออกห่างจากผิวนวลเนียน ไม่ใช่ความสงสารแต่เป็นเพราะว่าต้องการเห็นคนที่เคยพยศจะเป็นเช่นไรดวงตากลมโตสั่นระริกสองแก้มเปื้อนคราบน้ำตา ชายหนุ่มแสยะยิ้มร้ายกาจอย่างชอบใจ“ลองเจ็บดูบ้างไหมแพรวพรรณ ถ้าคุณยังกล้าทำผมเลือดออกอีกครั้ง รอยพวกนี้มันจะไม่อยู่แค่ตรงนี้ มันจะไปอยู่ทั่วเรือนร่างของคุณ ไม่เชื่อก็ลองดู” เขาตะคอกใส่หน้าหญิงสาวอย่างไม่คิดสงสารแพรวพรรณเบือนหน้าหนีไปอีกทาง ไม่กล้าสบตากับดวงตาเกรี้ยวกราดคู่นั้น“ถอดชุดออก” คำสั่
ชายหนุ่มย่นหน้าทุกครั้งที่เห็นว่าเจ้านายโดนฟาด เป็นพัลวันเพราะเอาแต่สู้รบกับณภัทร จึงไม่ทันได้สังเกตว่ารอบตัวเปลี่ยนไป เส้นทางของรถยนต์ขับเคลื่อนอยู่ในตอนแรก จากถนนใหญ่ที่มีการสัญจรอยู่ตลอดเวลา กลายเป็นทางสายเปลี่ยวจนแทบจะไม่มีรถขับสวนผ่าน แพรวพรรณเริ่มหวาดระแวงมองบรรยากาศโดยรอบด้วยความตื่นกลัว‘เขาจะพาเธอมาฆ่าหรือเปล่า’หัวใจเต้นรัวเมื่อคิดไปไกลถึงขั้นนั้นณภัทรเห็นปฏิกิริยาเปลี่ยนไปของแพรวพรรณ จึงนึกบางอย่างขึ้นมา“ถ้ายังไม่หยุด ผมจะโยนคุณลงจากรถเดี๋ยวนี้”“.....”จนกระทั่งรถหรูได้เลี้ยวเข้าไปจอดในอาณาเขตของบ้านหลังใหญ่“ลงมา”“.....”การกระทำของเธอเหมือนกำลังท้าทาย ทั้งที่มาอยู่ในอาณาเขตเขาแล้วแต่ก็ยังอวดเก่งไม่เลิก มือที่จับอยู่บนต้นแขนบีบเนื้อนุ่มอย่างแรงพลางกระชากเพื่อให้หญิงสาวลงมาจากรถ“ผมบอกให้ลงมา” เสียงห้วน ๆ ออกคำสั่ง“ฉันเจ็บนะ” แพรวพรรณแผดเสียงร้องใส่หน้าณภัทร ถลึงตาให้เขาอย่างไม่นึกเกรงกลัว“บอกดี ๆ แล้วฟังไหม”“คุณบังคับให้ฉันมา ฉันไม่ได้เต็มใจมาเลยสักนิด แล้วทำไมต้องฟังคุณด้วยเล่า”ณภัทรกัดฟันกรอดกับความดื้อดึงของอีกฝ่าย ดูเหมือนว่าหากปล่อยแล้วรอให้เดินลงมาเองคงเป็นเ
ลานจอดรถของโรงแรมชั้นพรีเมียมติ้ง!เมื่อประตูลิฟต์เปิดแพรวพรรณก็รีบเดินออกมา เปิดกระเป๋าควานหากุญแจรถเร่งจ้ำฝีเท้าโดยเร็วที่สุด พอเจอแล้วนิ้วเล็กกดปลดล็อก ดึงประตูฝั่งคนขับวางกระเป๋าลงไว้อีกฝั่ง จากนั้นก็สอดตัวลงไปนั่งประจำที่คนขับ ทว่ากลับปิดประตูรถไม่ได้“คุณ!” แพรวพรรณมองมือใหญ่จับขอบประตูไว้ ก่อนจะเลื่อนไปยังใบหน้าเรียบตึง“คิดจะหนีผมงั้นเหรอ” ณภัทรถามเสียงแข็ง นัยน์ตาเคร่งขรึมก้มมองคนในรถ“ปล่อยมือของคุณออกจากรถฉันเดี๋ยวนี้ ฉันจะกลับบ้าน” เธอคิดว่าตนเองออกมาเร็วแล้ว แต่ก็ยังหนีเขาไม่พ้น!ใบหน้านวลเนียนซีดเผือดลงเมื่อผลออกมาเป็นอย่างนี้“ผมบอกคุณว่าไง ให้รอกลับพร้อมผมไม่ใช่เหรอ ไม่เอาแล้วใช่ไหมเงินทุนของนักเรียน”“คุณนี่มันเลวจริง ๆ งั้นก็แล้วแต่ละกัน จะจ่ายไม่จ่ายมันก็เรื่องของคุณ ถ้าคิดจะเอาเปรียบเด็ก ๆ ด้วยการใช้งานฟรี ๆ ก็แล้วแต่เลย ยังไงก็เป็นคนประเภทชอบเอาเปรียบคนอื่นอยู่แล้วนี่ ส่วนของฉันก็จะถือเสียว่าทำบุญทำทานไปก็แล้วกัน ฉันไม่ต้องการเงินของคุณแม้แต่แดงเดียว!” นับเป็นประวัติศาสตร์ทีบริภาษยืดยาวใส่ใครสักคนอย่างนี้“ปากเก่งดีนี่ งั้นก็ช่วยเก่งให้ตลอดแล้วกัน” กรามแกร่งขึ้นส