Share

งานแต่งงาน 1

Penulis: lianlian
last update Terakhir Diperbarui: 2025-06-08 07:48:19

เช้าวันรุ่งขึ้น จื่อหนี่น้อยกับเฉี่ยวเหมยมองสบตากันและพร้อมใจกันกระเถิบร่างเข้ามาชิดติดกันในทันที

"เฉี่ยวหลาง บรรยากาศอึมครึมนี่มันอะไรกันหรือ?" นางกระซิบ สายตาปราดมองที่มาของบรรยากาศชวนอึดอัดนี้

"เฉี่ยวหลางก็ไม่รู้นะ แต่บรรยากาศตอนนี้ชวนกินข้าวต่อไม่ลงจริงๆ นั่นล่ะ"

หมิงเสวี่ยกลับไปเศร้าซึมเหมือนครั้งที่ถูกช่วยจากน้ำมือหงเช่อ ส่วนนายของเขาก็กลับไปเย็นชาดังเช่นสมัยก่อน

นี่มันอะไรกัน!??

สองคน ต่างคนต่างนั่งกินข้าวกันเงียบเชียบ ไม่มีท่าทีกระหนุงกระหนิงหรือต่อปากต่อคำกันอย่างทุกที

"เสวี่ยเอ๋อร์ กับข้าวไม่อร่อยหรือ" จื่อหนี่ถามขึ้นก่อน

"อือ ก็อร่อยดี" นางหันไปยิ้มแกนๆ ตอนจื่อหนี่แล้วกินข้าว ที่แทบไม่พร่องไปจากชามต่อ

เฉี่ยวเหมยเบนสายตามองไปที่เจ้านายของตนที่กำลังวางชามข้าว ที่พร่องไปเพียงเล็กน้อยเช่นกัน พลันเห็นชายหนุ่มวางตะเกียบลงพลางเอ่ย "ข้าอิ่มแล้ว จะออกไปเดินเล่นเสียหน่อย" พูดจบก็ลุกออกไปตามลำพัง

ส่วนหมิงเสวี่ย พอเขาลุกไปแล้วก็ราวกับเส้นอารมณ์ขาดผึง น้ำตาหยดเล็กหยดน้อยหล่นพราวจากดวงตา จื่อหนี่เห็นท่าไม่ดี จึงหันไปพยักเพยิดกับเฉี่ยวเหมยตามจิ้งเหอไป แล้วหันไปชวนหมิงเสวี่ยเก็บสำรับกับข้า
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terbaru

  • ตื๊อรักวาณิช   งานแต่งงาน 3

    "เขา...เขาไม่ได้รังแกข้า...ฮึก..." หมิงเสวี่ยไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน นางเองยังจับต้นชนปลายไม่ถูกเลย "ข้า...ข้ารักเขา...""เจ้ารักเขา? แน่ใจหรือไม่?" นางกลัวว่าสหายของนางจะถูกคำหวานหรือการกระทำอ่อนหวานของชายอื่นล่อลวง พอเขาหน่ายรสหวานก็ทิ้งขว้างไม่ต่างกับบุรุษที่มีชาติกำเนิดสูงส่งคนอื่นๆหมิงเสวี่ยพยักหน้าแรงๆ นางถามตนเองมาตั้งแต่เมื่อคืน ยิ่งถามก็ยิ่งแน่ใจถึงความรู้สึกเหล่านี้นางต้องการอยู่เคียงข้างเขา ตอนนี้นางไม่สนแล้วว่านางจะต้องอยู่ในสถานะใด จะฮูหยินจะสาวใช้ นางไม่สนใจอีกแล้ว นางขอเพียงได้อยู่ข้างกายเขาเท่านั้น"เขา...เขาก็รักข้า...ฮึก""แล้วไปทำอย่างไรให้เขาโกรธเล่า?""ข้า...แค่พูดว่า ถ้าข้าเป็นภรรยา เข้าจะรัก...จะดูแลเขา...""หมายความว่าถ้ายังไม่เป็นภรรยาก็ยังไม่รัก?""ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น...""แล้วบอกเขาหรือไม่?"หมิงเสวี่ยส่ายหน้า เขาโกรธเช่นนี้จะเอาหน้าที่ไหนไปบอกอีกฝ่ายถอนใจน้อยๆ และมองเพื่อนสาวอย่างเอ็นดู หงเอ๋อร์บีบจมูกหมิงเสวี่ยเบาๆ"เสวี่ยเอ๋อร์หนอเสวี่ยเอ๋อร์ ข้าเห็นเจ้าเก่งไปเสียทุกเรื่อง เหตุใดมาตายน้ำตื้นด้วยเรื่องนี้กันหนอ..." หงเอ๋อร์ยิ้มหวาน บีบมือหมิงเสวี่ย

  • ตื๊อรักวาณิช   งานแต่งงาน 2

    นางมองพัดในมือเขาแล้วคลี่ออกมา เป็นพัดที่มีลวดลายสวยงาม ตัวอักษรอันทรงพลัง แน่นอนว่ามูลค่าของมันนั้นมากพอจะเป็นของขวัญแต่งงาน...แต่การที่เขาห่างเหินกับนางยังคงทำให้นางปวดใจอย่างที่สุดอยู่ดีตลอดชีวิตที่ผ่านมา นางไม่เคยต้องเจอกับเรื่องหนักใจเพียงนี้มาก่อน ร่างกายที่ลำบากยากจนข้นแค้น จะอย่างไรก็ฝืนทนสู้มาเพราะใจที่แกร่งกว่าสิ่งใด งานหนักเท่าใดไม่เคยปริปาก มือไม้แตกแห้งไม่เคยใส่ใจ ร้อนหนาวไม่เคยย่นท้อ แต่ไม่มีสักครั้งที่ใจจะร้าวรานถึงเพียงนี้จิ้งเหอเหลือบมองสาวน้อยที่เดินหน้าเศร้าอยู่ไม่กี่อึดใจก็หันกลับไปมองเบื้องหน้าอีกครั้ง ถ้านางต้องการให้เขากับนางเป็นเพียงได้บ่าวนั้น เขาทำได้...จนกว่านางจะรู้หัวใจตัวเองและเป็นฝ่ายเอ่ยปากบอกรักเขา...ไม่ว่าจะเจ็บเพียงไหน เขาก็จะรอ..."เชิญด้านในขอรับนายท่าน..." เสียงคนรับแขกร้องเสียงดังขณะประสานมือออกมาต้อนรับพวกเขาหมิงเสวี่ยเดินเลี่ยงๆ ไปกระซิบถามคนรับแขก"ท่านลุงเจ้าคะ ข้าน้อยหมิงเสวี่ย เป็นเพื่อนกับหงเอ๋อร์เจ้าค่ะ ไม่ทราบว่าหงเอ๋อร์อยู่ที่ใดหรือเจ้าคะ" นางขอไปพบเจ้าสาวเสียหน่อย"ได้สิ นางอยู่ที่ห้องน่ะ" ชายวัยกลางคนตอบอย่างอารมณ์ดี ก่อนกวักมือเร

  • ตื๊อรักวาณิช   งานแต่งงาน 1

    เช้าวันรุ่งขึ้น จื่อหนี่น้อยกับเฉี่ยวเหมยมองสบตากันและพร้อมใจกันกระเถิบร่างเข้ามาชิดติดกันในทันที"เฉี่ยวหลาง บรรยากาศอึมครึมนี่มันอะไรกันหรือ?" นางกระซิบ สายตาปราดมองที่มาของบรรยากาศชวนอึดอัดนี้"เฉี่ยวหลางก็ไม่รู้นะ แต่บรรยากาศตอนนี้ชวนกินข้าวต่อไม่ลงจริงๆ นั่นล่ะ"หมิงเสวี่ยกลับไปเศร้าซึมเหมือนครั้งที่ถูกช่วยจากน้ำมือหงเช่อ ส่วนนายของเขาก็กลับไปเย็นชาดังเช่นสมัยก่อนนี่มันอะไรกัน!??สองคน ต่างคนต่างนั่งกินข้าวกันเงียบเชียบ ไม่มีท่าทีกระหนุงกระหนิงหรือต่อปากต่อคำกันอย่างทุกที"เสวี่ยเอ๋อร์ กับข้าวไม่อร่อยหรือ" จื่อหนี่ถามขึ้นก่อน"อือ ก็อร่อยดี" นางหันไปยิ้มแกนๆ ตอนจื่อหนี่แล้วกินข้าว ที่แทบไม่พร่องไปจากชามต่อเฉี่ยวเหมยเบนสายตามองไปที่เจ้านายของตนที่กำลังวางชามข้าว ที่พร่องไปเพียงเล็กน้อยเช่นกัน พลันเห็นชายหนุ่มวางตะเกียบลงพลางเอ่ย "ข้าอิ่มแล้ว จะออกไปเดินเล่นเสียหน่อย" พูดจบก็ลุกออกไปตามลำพังส่วนหมิงเสวี่ย พอเขาลุกไปแล้วก็ราวกับเส้นอารมณ์ขาดผึง น้ำตาหยดเล็กหยดน้อยหล่นพราวจากดวงตา จื่อหนี่เห็นท่าไม่ดี จึงหันไปพยักเพยิดกับเฉี่ยวเหมยตามจิ้งเหอไป แล้วหันไปชวนหมิงเสวี่ยเก็บสำรับกับข้า

  • ตื๊อรักวาณิช   เลยเถิด...5

    ปลายนิ้วเล็กค่อยเรียวไล้ พยายามทำความคุ้นเคยทีละน้อยโดยยังมีเนื้อผ้ากั้นกลาง มือนุ่มไล้ไปตามความยาวก่อนสูดลมหายใจลึก พลางมองเขาที่หอบหายใจ "ท่านรู้สึกดีหรือไม่?""มากทีเดียว เสวี่ยเอ๋อร์"คราวนี้เป็นนางที่รวบรวมความกล้า ดึงกางเกงเขาลงทีละน้อยจนสิ่งนั้นปรากฏออกมาเต็มสายตา นางกล้ำกลืนความหวาดหวั่นด้วยคำสัญญาที่นางเอ่ยออกไปแล้ว ไม่ว่าอย่างไร นางก็จะทำ มือน้อยค่อยประคองจับลงไป สัมผัสนุ่มหยุ่นยามที่ต้องมือนางกลับทวีความแข็งขึง ยิ่งนางลูบคลำหนักหน่วง อีกฝ่ายยิ่งส่งเสียงครางต่ำ ยิ่งมือเล็กรูดดึงไปตามความยาวนั้นเขายิ่งเกร็งสั่น สายตานางเริ่มกังวลว่าเขาจะเป็นอะไรไป "ข้า...ข้าหยุดมือได้หรือไม่?""ไม่...ต้อง"“แต่ท่านตัวสั่น ไม่สบายหรือ?"จิ้งเหอส่งมืออุ่นลงทาบทับอย่างต้องการเป็นฝ่ายคุมจังหวะโดยที่มือนางอยู่กั้นกลาง จังหวะที่เขารูดรัดนั้นทั้งเร็วและเน้นไปที่ส่วนปลายของลำตัวร่างสูงกดหน้าลงจูบนาง คำรามออกมาเสียงสั่นคล้ายจะห้ามไม่ไหว ตัวตนในมือนางยิ่งตื่นตัวขึ้นอีก นางตกใจเล็กน้อยที่จู่เขาก้มลงจูบแต่ไม่ได้คิดหนี นางออกแรงที่มือไปพร้อมกับเขา จนกระทั่งเขาหยุดการกระทำทุกอย่างลง มือเล็กรู้สึกได้ถึงผ้า

  • ตื๊อรักวาณิช   เลยเถิด...4

    เขากลับยิ้มในความมืดนั้น "เจ้าบอกกลัว"ได้ยินเสียงนางหายใจแรง น้ำเสียงเขาจึงตึงเครียดขึ้นมา "หมิงเสวี่ย ขอบอกใ้ห้เจ้าเข้าใจ ข้ายังยืนยันคำเดิมว่าหากเจ้าไม่เต็มใจ ข้าก็จะไม่ทำ""ข้าไม่เต็มใจน่ะสิ แต่ท่านก็ยังแกล้งข้า!" นางโวยวาย น้ำตารื้น "พอกันที ข้าจะไปนอนกับหนี่เอ๋อร์!""ข้าไม่คิดว่านั่นเป็นความคิดที่ดี..." จิ้งเหอท้วง ป่านนี้สองคนนั้นคงกำลัง..."ไม่ต้องมายุ่งกับข้า!""เสวี่ยเอ๋อร์"เด็กดื้อรีบโดดข้ามตัวเขาแล้ววิ่งออกไปจากห้อง เขาได้แต่ถอนใจก่อนลุกเดินตามไปเงียบๆหญิงสาววิ่งปาดน้ำตาไปยังบ้านที่จื่อหนี่อยู่กับเฉี่ยวเหมย สองมือทุบประตูเรียกสาวน้อยอีกคน "จื่อหนี่ จื่อหนี่!"แต่ไม่มีใครขานตอบ มีแต่เสียงครางแผ่วดังลอดออกมา หมิงเสวี่ยจึงตัดสินใจมองลอดไปยังกรอบหน้าต่าง ยามเพ่งมองไปในความมืดนั้น นางเห็นเงาร่างบนเตียงกำลังนั่ง บัดเดี๋ยวเป็นร่างเดียว บัดเดี๋ยวเป็นสองร่างย...อย่าบอกนะว่าเรือนผมยาวสยายพร้อมทรวงอกอวบหยุ่นแลเห็นเป็นเงาชัดแม้ในความมืด นางอยู่ในท่วงท่าคุกเข่าหมอบอยู่ในท่าคลาน จากนั้นร่างก็ถูกดึงไปข้างหลังพร้อมแรงกระแทกหนักหน่วง"ดูพอหรือยัง?" เสียงปนโทสะนั้นเอ่ยลอดไรฟันที่ข้างหูน

  • ตื๊อรักวาณิช   เลยเถิด...3

    หมิงเสวี่ยเดินไปนั่งข้างๆ อย่างว่าง่าย ก่อนเอ่ยถาม "อ่านอะไรน่ะเจ้าคะ?""เจ้าอยากรู้จริงรึ?" ริมฝีปากนั้นเหยียดยิ้มบาง เขาปิดและยื่นส่งให้นาง"ข้าอ่านอักษรยากๆ ไม่ค่อยได้อยู่ด้วย" นางกลัวว่าเขาจะแกล้งเอาหนังสือรวมบทกลอนที่เข้าใจยากให้อ่าน"ไม่ค่อยมีตัวหนังสือหรอก มีแต่ภาพ คิดว่าแค่ดูรูปเจ้าก็น่าจะเข้าใจ" เขาตอบเรียบๆ นางพยักหน้ารับ ก่อนเปิดหน้าแรก...อา...เป็นรูปดอกโบตั๋นงามนัก เขียนว่า บันทึกรักดอกโบตั๋น น่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับผู้หญิงนางเปิดหน้าถัดไป ปากก็ร้องอูวอา ภาพวาดถัดไปเป็นภาพสตรีหน้าตางดงามหมดจด รูปร่างอ้อนแอ้น สวย...สวยเหลือเกินพอเปิดหน้าที่สาม มีบุรุษรูปงามอยู่ในห้องกับหญิงสาวสองต่อสองหน้าที่สี่...!!!สตรีและบุรุษผู้นั้นเริ่มถอดเสื้อผ้า ท่าทางที่นั่งอยู่ด้วยกันนั้นหมิ่นเหม่เหลือใจ!หน้าที่ห้า...หมิงเสวี่ยกลืนน้ำลายฝืดแห้ง...ภาพชายหญิงกำลังร่วมอภิรมย์!!คิ้วบางขมวดมุ่นเมื่อพลิกหน้าหนังสือเร็วๆ ไปหน้าหก เจ็ดและหลังจากนั้นก็ไม่แตกต่างกัน...แถมยิ่งอ่านไป ท่วงท่าเหล่านั้นยิ่งพิสดารเข้าไปทุกที"เป็นอย่างไร?" มือใหญ่โอบเอวบางเอาไว้ "เจ้าชื่นชอบหรืออยากลองท่วงท่าไหน ขอให้บอกเ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status