ตอนที่ 3
คนไม่ใช่พูดคำเดียวก็มีโทษ
“ยังมีหน้ามายิ้มอีก!! เจ้าไม่เห็นหรือว่าน้องสาวเจ้าเสียใจเพียงใด แค่อภัยให้น้องเรื่องเล็กน้อยเท่านี้จะทำไม่ได้เลยเชียวหรือ!!” ผู้เป็นบิดาเอ่ยต่อว่าถังซูเจียว
“ท่านพ่อ...ข้ายังไม่ได้ยิ้มเลยนะเจ้าคะ อีกอย่างข้ายังไม่เคยพูดสักคำว่าข้าไม่พอใจที่คุณชายรองเหยียนขอถอนหมั้นข้า แล้วไปหมั้นหมายกับน้องสาวแทน มีแต่พวกเขาสองคนที่พูดกันไปเองทั้งนั้น”
คำพูดของถังซูเจียวยิ่งทำให้ผู้เป็นบิดาโกรธมากขึ้นกว่าเดิม จนถึงขั้นเกือบทำร้ายบุตรสาวตรงหน้าไป แต่ดีที่ฮูหยินรองรั้งแขนเอาไว้ได้ทัน
“เจ้าจะบอกว่าน้องสาวเจ้ากำลังโกหกหรือ!!!” ถังซีฮั่นตวาดใส่บุตรสาวคนโตเสียงดังลั่น
“ท่านพี่ใจเย็นก่อนเถิด คุณชายรองเหยียนก็อยู่ด้วยนะเจ้าคะ” ฮูหยินรองกระซิบเตือนสามีทำให้เขาสงบลงเล็กน้อย
“เจ้ากลับเรือนไปสำนึกความผิดตัวเองเสีย ถ้ายังสำนึกไม่ได้อย่าก้าวขาออกจากเรือน!!” ถังซีฮั่นเอ่ย แบบนี้ก็เหมือนเป็นการกักบริเวณนั่นแหละ แค่ไม่ได้พูดออกมาตรง ๆ เท่านั้น
“ขอบคุณท่านพ่อที่สั่งสอนเจ้าค่ะเช่นนั้นลูกขอตัวก่อน น้องรองวันนี้พี่สาวได้เปิดหูเปิดตาแล้ว”
ถังซูเจียวทำท่าจะเดินออกจากศาลานั้น แต่หันไปพูดกับผู้เป็นน้องสาวก่อน พลางยิ้มเล็กน้อยอย่างสื่อความนัย พอก้าวขาไปได้ไม่กี่ก้าวก็ต้องหยุดชะงัก
“ท่านพ่ออย่าลงโทษพี่หญิงเลยนะเจ้าคะลูกขอร้อง แค่นี้ลูกก็รู้สึกผิดต่อพี่หญิงมากพอแล้ว หากท่านพ่อยังลงโทษพี่หญิงอีกนางต้องเสียใจมากเป็นแน่” ถังซูเจินเอ่ยพลางสะอื้น
“โธ่! ลูกแม่ เจ้าจิตใจดีคิดถึงแต่ผู้อื่นเช่นนี้ แต่พี่สาวเจ้าไม่ได้รับรู้ความหวังดีของเจ้าเลย เจ้าช่างน่าสงสารนัก”
ฮูหยินรองเอ่ยเช่นนี้ ทำให้สองบุรุษที่ยืนอยู่ในศาลามองมาที่ถังซูเจียวด้วยสายตาโกรธขึง
“สั่งกักบริเวณคุณหนูใหญ่ให้อยู่แต่ในเรือน ห้ามออกไปไหน จนกว่าจะถึงพิธีแต่งงานของนาง”
ถังซีฮั่นเอ่ยเสียงดังให้บ่าวด้านนอกได้ยิน ก่อนจะสั่งให้มาพาตัวถังซูเจียวออกไป
แผนการทุกอย่างเป็นไปตามที่สองแม่ลูกตั้งใจ แต่ทั้งสองก็ไม่ได้รู้ว่านี่ก็เป็นแผนของสตรีที่ถูกตนกลั่นแกล้งเช่นกัน
หลังเหตุการณ์นั้นคุณชายรองเหยียนป๋อเหวินก็กลับจวนไป ส่วนถังซีฮั่นก็ไปที่เรือนฮูหยินรองอย่างทุกวัน
เมื่อสามีเผลอฮูหยินรองก็ให้บ่าวออกไปปล่อยข่าวลือ เรื่องที่คุณหนูใหญ่อิจฉาน้องสาวตนเอง ที่คุณชายรองเหยียนขอเปลี่ยนตัวคู่หมั้น จนไปหาเรื่องคุณหนูรองจนถูกกักบริเวณ
และยังปล่อยข่าวลืออีกว่าถังซูเจินกับคุณชายรองเหยียนป๋อเหวินนั้นรักใคร่กันด้วยใจบริสุทธิ์ ทั้งสองแอบชอบกันตั้งแต่เจอหน้ากันครั้งแรก
แต่ด้วยสถานะที่ฝ่ายชายมีคู่หมั้นอยู่แล้ว จะให้คิดเกินเลยกับน้องสาวคู่หมั้นก็ไม่ได้ ส่วนฝ่ายหญิงนั้นเห็นว่าคุณชายรองเหยียนเป็นว่าที่พี่เขย จึงได้เก็บความรู้สึกเอาไว้ในส่วนลึกของจิตใจ
จนเวลาล่วงเลยมาถึงตอนนี้คุณชายรองเหยียนที่ไม่อาจเก็บความรู้สึกเอาไว้ได้อีกต่อไป จึงได้ขอให้บิดาเปลี่ยนตัวคู่หมั้นเป็นคุณหนูรองถังซูเจินแทน
ถังซูเจียวที่นั่งฟังข่าวลือจากปากของลี่ลี่ถึงกับเบะปากอย่างห้ามไม่อยู่
“เฮ๊อะ!! ชอบพอกันตั้งแต่แรกเห็น ไม่อาจเก็บความในใจเอาไว้ได้อีกต่อไป แหวะ!! น้ำเน่าอย่างกับละครหลังข่าว” ถังซูเจียวเอ่ยอย่างหมั่นไส้
“เออ..ละ ละครอะไรนะเจ้าคะ บ่าวไม่เคยได้ยินมาก่อน” ลี่ลี่ที่ไม่เข้าใจประโยคของนายสาวเอ่ยถามขึ้น
“อ่อ...ข้าลืมตัวไป น้ำเน่าอย่างกับงิ้วข้างถนนน่ะ ข้าอยากรู้จริง ๆ ว่าใครคิดบทนี้ให้แม่รองของข้ากัน”
“บ่าวว่าฮูหยินรองน่าจะคิดเองนะเจ้าคะ” ลี่ลี่ตอบแบบซื่อ ๆ ทำให้นางมองหน้าสาวใช้ตัวน้อยก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่
สาวใช้นางใส่ซื่อเกินไปแล้ว แบบนี้ไปอยู่จวนสามีจะเป็นมือตบให้นางได้เหรอเนี่ย
กำหนดการณ์แต่งงานของถังซูเจียวถูกเลื่อนเข้ามาเป็นอีกสองเดือนข้างหน้า จากเดิมที่เป็นสามเดือน เพราะธรรมเนียมที่พี่สาวต้องแต่งออกก่อนน้องสาวนั่นเอง
นางยังไม่ได้เล่าเรื่องแต่งงานสินะ ตอนแรกนางมีสัญญาหมั้นหมายกับคุณชายรองเหยียนป๋อเหวิน บุตรชายคนรองของเจ้ากรมโยธา
แต่เมื่อหนึ่งเดือนที่ผ่านมาคุณชายรองเหยียนมาขอเปลี่ยนตัวเจ้าสาวเป็นถังซูเจินน้องสาวแทน
ท่านพ่อข้าก็แสนจะยินดีจึงยอมเปลี่ยนตัวง่าย ๆ นางเลยต้องแต่งกับคู่หมั้นน้องสาวแทน คนผู้นั้นเป็นท่านเจ้าเมืองที่เคยช่วยท่านพ่อไว้จากโจรป่าตอนเดินทางไปทำธุระให้ฮ่องเต้
ระหว่างพักที่จวนท่านเจ้าเมืองก็ได้ไปดื่มสุรากับบิดาท่านเจ้าเมือง ด้วยคุยกันถูกคอหรืออย่างไรไม่ทราบได้ ท่านพ่อเลยเผลอสัญญาว่าจะยกบุตรสาวให้แต่งเป็นฮูหยินเอกท่านเจ้าเมือง
ตอนแรกก็จะยกนางให้นั่นแหละ แต่ท่านย่ากับฮูหยินใหญ่เหยียนได้ทำการหมั้นหมายนางกับคุณชายรองเหยียนไว้ก่อนแล้ว คนที่ต้องแต่งกับเจ้าเมืองคนนั้นเลยเป็นถังซูเจินแทน
แต่สาเหตุที่ถังซูเจียวคนเดิมตรอมใจตายไม่ได้เป็นเพราะเสียใจจากการถูกถอนหมั้นอย่างเดียวนะ
จากความทรงจำนางไปเห็นว่าอดีตคู่หมั้นกับน้องสาวแอบนัดพบกันที่ร้านน้ำชานอกเมือง ตอนแรกนางก็ไม่รู้แค่สงสัยว่าน้องสาวตนจะไปที่ใดจึงแอบตามไปดู
จึงได้เห็นทุกอย่างกับตา และเหมือนว่าทั้งสองจะนัดพบกันที่นี่เป็นประจำ เพราะมาถึงหลงจู้ก็เดินนำไปที่ห้องส่วนตัวบนชั้นสองเลย
นางเลยขอเปิดห้องที่ติดกับห้องของทั้งสอง แล้วก็ได้ยินสิ่งที่ทั้งสองคุยกันทั้งหมด มันยิ่งทำให้ถังซูเจียวเสียใจ
อดีตคู่หมั้นบอกว่าไม่เคยรักตนเลยแม้แต่น้อย ทั้งที่เวลาพบหน้ากันกลับพูดว่ารักนางทุกคำ จะทำเพื่อนางอย่างนั้นอย่างนี้วาดอนาคตกับนางมากมาย แต่ทั้งหมดก็เป็นเพียงแค่ลมปากเท่านั้น
คำพูดที่พูดกับถังซูเจียวคนเก่ายังเอาไปพูดกับน้องสาวนางทุกคำ ที่สำคัญทั้งสองแอบลักลอบมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกันแล้วด้วย
ถังซูเจียวก็โง่ฟังทั้งสองมีสัมพันธ์กันจนเสร็จ พอกลับมาถึงจวนก็ล้มป่วย ไม่พอยังรั้นไปนั่งอ่านหนังสือคนเดียวทั้งที่ตนยังไม่หาย สุดท้ายไข้ขึ้นหนักจนช็อกตายแล้วเมย์ก็เข้ามาอยู่ในร่างนี่แหละ
“แต่วันนี้คุณหนูไม่น่าไปตามคำเชิญของคุณหนูรองเลยนะเจ้าคะ เห็นมั้ยถูกนายท่านกักบริเวณเลย” ลี่ลี่เอ่ย
“ก็ข้าอยากถูกกักบริเวณนี่จะได้ไม่ต้องมีใครมายุ่งวุ่นวายด้วย แล้วอีกอย่างข้าอยากรู้ว่าน้องสาวข้าจะมาไม้ไหนเท่านั้นเอง”
เมื่อเช้าถังซูเจินคงเชิญข้าไปเพื่อให้ข้าเห็นว่าคุณชายรองเหยียนรักตนมากเพียงใด
แล้วก็หาเรื่องลงโทษข้าอย่างเมื่อเช้า จากนั้นก็ปล่อยข่าวลือให้ข้าเสียหาย เรื่องทุกอย่างก็เป็นตามที่ข้าคิดไว้ไม่มีผิด
ถ้าเป็นถังซูเจียวคนเก่าป่านนี้คงนอนร้องไห้เสียใจขี้มูกโป่งไปแล้ว แต่ข้าไม่ใช่ไง เพราะงั้นน้องสาวสุดที่รักของข้าก็เตรียมรับผลกรรมเอาไว้ได้เลย
“ลี่ลี่เอาหูมาใกล้ ๆ ข้าสิ” นางเอ่ยพร้อมกับยิ้มอย่างมีเลศนัยจนสาวใช้เริ่มระแวง
“อะ อะไรเจ้าคะ” แม้จะหวั่นใจแต่ลี่ลี่ก็ยอมทำตาม นางจึงได้เล่าแผนการให้ฟัง ก่อนจะใช้ให้ลี่ลี่ไปหาซื้อของใช้ในตลาด
นางจะใช้ประโยชน์จากความทรงจำที่ได้รับมาทั้งหมด เพื่อทำให้น้องรองของนางเสื่อมเสียจากสิ่งที่ตัวเองทำลงไป เพียงแต่มันต้องใช้เวลาเล็กน้อยเท่านั้น
เช้าวันต่อมาข่าวลือเรื่องที่คุณชายรองเหยียนกับคุณหนูรองถังซูเจินก็ถูกพูดถึงไปทั่วเมืองหลวง
บางคนก็ชื่นชมในความรักของทั้งสอง โดยเฉพาะคุณชายรองเหยียนที่ยอมขอถอนหมั้นกับคนที่ตนไม่ได้รัก แล้วขอหมั้นหมายกับสตรีที่ตนรักแทน แม้นางจะเป็นเพียงบุตรีของฮูหยินรองก็ตาม
บางคนก็ต่อว่าถังซูเจียวที่เป็นสตรีใจแคบไร้น้ำใจ ไปหาเรื่องน้องสาวทั้งที่ฝ่ายชายเป็นขอถอนหมั้นแท้ ๆ ถังซูเจียวจึงกลายเป็นสตรีโหดร้ายใจอำมหิตที่ทำร้ายน้องสาวไป
กลายเป็นว่าคนทำผิดทั้งสองถูกสรรเสริญ แต่คนถูกกระทำอย่างถังซูเจียวถูกต่อว่าไปอย่างนั้น
3 วันผ่านมา
ถังซูเจียวถูกกักบริเวณเลยไม่ได้ออกไปไหน นางนั่ง ๆ นอน ๆ อยู่แต่ในเรือนทั้งวัน จิตใจก็จดจ่อรอคอยวันที่ถังซูเจินจะออกไปข้างนอก และวันนี้ก็มาถึงเสียที
“คุณหนูเจ้าคะ วันนี้คุณหนูรองออกไปข้างนอกแล้วเจ้าคะ” ลี่ลี่วิ่งเข้ามารายงาน เพราะนางสั่งให้ลี่ลี่ไปแอบดูว่าถังซูเจินจะออกจากจวนวันไหน
“ดี!!! เจ้าไปทำตามที่ข้าบอกไว้นะ เสร็จแล้วรีบกลับมา” นางเอ่ยก่อนจะหยิบถุงเงินกับซองจดหมายให้ลี่ลี่ หญิงสาวรับคำก่อนจะรีบออกจากเรือนไป
ตอนพิเศษ5งานเลี้ยงถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ราวกับงานประจำปี มีการจัดเลี้ยงถึงเจ็ดวันเจ็ดคืน จัดตั้งโรงทานนานถึงหนึ่งเดือนเต็ม เรียกได้ว่าคนกองธงนั้นไม่ต้องทำอาหารกินกันเป็นเดือนเลยก็ว่าได้ฮ่องเต้ ฮองเฮาและไทเฮาไม่อาจเดินทางมาร่วมงานเลี้ยงได้ จึงได้ส่งของขวัญมาแทน โดยมีตัวแทนเป็นอ๋องเจิ้งหู่เดินทางมาส่งมอบให้ฮองไทเฮาเองก็เช่นกัน เพราะเข้าฝึกตนไม่อาจรับรู้เรื่องภายนอกได้ ผู้เป็นอาจารย์ที่ได้รับจดหมายจึงอาสามาแทน ความจริงคือหาเรื่องออกมาเที่ยวเล่นขนอกภูเขาท่านั้น“ข้าเป็นตัวแทนของฮองไทเฮามาร่วมแสดงความยินดีกับพระชายาและชินอ๋อง นี่เป็นของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ จากข้า”หลี่ซินเหมยผู้เป็นอาจารย์ของฮองไทเฮาเอ่ยพลางยื่นกล่องไม้เรียบ ๆ ให้ถังซูเจียว“ขอบคุณนายหญิงหลี่ที่อุตส่าห์เดินทางมา ไม่ทราบว่าท่านมี ที่พักหรือยังเจ้าคะ หากไม่รังเกียจข้าจะจัดที่พักในจวนให้ท่าน” ถังซูเจียวเอ่ยพลางยิ้มให้ผู้มีพระคุณตรงหน้านางรู้ว่าสตรีตรงหน้าเป็นอาจารย์ของแม่สามีตัวเอง และที่มาในวันนี้นอกจากมาแทนฮองไทเฮาแล้วคงมีธุระอย่างอื่นด้วย“เช่นนั้นรบกวนพระชายาด้วย”“อย่าใช้คำราชาศัพท์กับพวกข้าเลยขอรับ ข้าไม่ได้เป็นชินอ๋
ตอนพิเศษ4หลังจากทิ้งจดหมายไว้ให้ฮ่องเต้แล้ว หวงเฟยหมิงกับถังซูเจียวก็ออกเดินทางท่องเที่ยวตามแผนที่วางไว้ทันทีโดยทิ้งปัญหาทุกอย่างเอาไว้ข้างหลังแบบที่ไม่คิดจะรับผิดชอบใด ๆ ทั้งสิน“ท่านพี่เจ้าคะ เราจจะไปที่ใดก่อนดี ข้าอยากกินอาหารทะเลอีกแล้ว อยากไปเดินเล่นเก็บเปลือกหอยด้วย” นางเอ่ยออดอ้อนสามี ที่ตนกำลังพิงอกเขาอยู่ “เช่นนั้นเราไปเมืองหมิงเว่ยที่กองธงที่หกดีหรือไม่ ที่นั้นมีชายหาดให้เจ้าเดินเล่นด้วย แถมยังมีพระอาทิตย์ตกดินที่งามนัก สามีว่าเจ้าต้องชอบมาก ๆ แน่” เขาตอบอย่างเอาใจนาง แต่ยังไม่ทันได้คุยอะไรกันต่อ ก็มีเสียงตะโกนมาจากนอกรถม้าเสียก่อน เสียงนั่นฟังดูอาฆาตแค้นอย่างมาก“พวกท่านจะหนีไปโดยทิ้งปัญหาไว้เช่นนี้จริง ๆ หรือ ท่านอาออกมามาคุยกับข้าก่อนเลยนะ!!!” เป็นอ๋องเจิ้งหู่นั้นเองทั้งสองหัมมามองหน้ากันทันที นี่นางเดินทางออกจากเมืองหลวงมาไกลตั้งหลายลี้แล้วนะ เหตุใดยังตามมาทันอีก“หยุดรถม้า!!” หวงเฟยหมิงเอ่ยสั่งคนขับรถม้า ขบวนเดินทางของพวกเขาเลยถือโอกาสแวะพักข้างทางไปด้วย“เจียวเจียว เจ้าต้องช่วยข้านะ!!!” เมื่อนางลงจากรถม้าอ๋องเจิ้งหู่ก็ตรงมากอดขานางแน่นทันที พลางร้องห
ตอนพิเศษ3.2ฮองไทเฮาเริ่มแผนการโดยให้คนไปเชิญถังซูเจียวมาพบ ทั้งที่ในใจตนเองนั้นตื่นเต้นราวกับกำลังจะได้พบหน้าบุรุษที่ตนเองรักก็ไม่ปาน“ฮองไทเฮาเพคะ ท่านหญิงถังซูเจียวมาถึงแล้วเพคะ” พระนางมองสำรวจหญิงสาวตั้งแต่หัวจรดเท้า แม้ใบหน้าจะซีดเซียวจากพิษไข้ไปบ้าง แต่ก็ยังมองออกถึงความงดงาม"คารวะฮองไทเฮาเพคะ" หญิงสาวตรงหน้าคารวะแบบเต็มพิธีการ พระนางมองคนตรงหน้าเพลินไปหน่อยจนคนของตนเอ่ยทัก“ฮองไทเฮานางไม่สบายอยู่นะเพคะ” นางกำนัลคนสนิทเอ่ยเตือนเบา ๆ พระนางจึงมองค้อนมามาคนสนิทไปเล็กน้อย“ลุกขึ้นเถอะ” เสียงทรงอำนาจเอ่ยขึ้น ถังซูเจียวจึงลุกขึ้นแล้วนั่งลงที่เก้าอี้ว่าง"ขอบพระทัยเพคะ"ระหว่างนั้นมามาคนสนิทก็แสร้งโน้มตัวลงมารินชาให้พระนาง ก่อนจะกระซิบ ข่าวลือ เมืองหลวง"เจ้ารู้หรือไม่ว่าคนที่เมืองหลวงพูดถึงเจ้าว่าอย่างไรบ้าง" ฮองไทเฮาเอ่ยขึ้นทันทีที่นางนั่งลง“ไม่ทราบเพคะ”"หึ!! เช่นนั้นเปิ่นกงจะบอกให้ก็ได้ คนเขาพูดกันทั่วว่าเจ้าเป็นสตรีแพศยา สามีหย่าขาดแล้วจึงรีบหาที่คุ้มหัวใหม่ ยอมแม้กระทั่งเป็นสตรีของชายตัดแขนเสื้ออย่างอดีตชินอ๋อง" แล้วมหกรรมแสร้งขับไล่ว่าที่ลูกสะใภ้ก็เกิดขึ้น พระนางยกเอาทั้งเร
ตอนพิเศษ3.1ฮองไทเฮาได้รับข่าวว่าบุตรชายคนเล็กพาสตรีเข้าจวน ตนจึงเร่งเดินทางมาหาทันทีด้วยความร้อนใจแต่ใจจริงคืออย่างมาดูให้เห็นกับตาต่างหาก จึงได้เร่งร้อนจนแทบไม่เอาอะไรไปสักอย่าง หากมามาคนสนิทไม่ห้ามไว้ก่อน พระนางคงควบม้าไปแต่ตัวแล้วกว่าจะเดินทางมาถึงก็ใช้เวลาหลายวันเลยทีเดียว ป่านนี้คนของพระนางที่ส่งมาก่อนคงกำลังแสดงอำนาจอย่างเต็มที่ เพราะพระนางเลือกแต่คนที่หน้าไหว้หลังหลอกมาทั้งนั้นและก็เป็นเช่นนั้นจริง เพียงพระนางก้าวขาลงจากรถม้าก็ได้ยินเสียงร้องโหยหวนแหลมเล็กของเหล่าขันทีดังมาให้ได้ยิน“ฮองไทเฮาต้องท่องไว้นะเพคะ ต้องสง่างาม น่าเกรงขาม และเด็ดขาดให้เหมือนแม่สามีผู้ร้ายกาจ” มามาคนสนิทเอ่ยเตือนนายตนฮองไทเฮาที่มายืนอยู่หน้าจวนบุตรชายสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพยักหน้ารับก่อนจะเดินเข้าจวนไปที่มามาเอ่ยเช่นนั้นเพราะพระนางจะทดสอบว่าที่ลูกสะใภ้ผู้นี้นั่นเอง และที่ผ่านมาในสายตาบุตรชายพระนางเป็นสตรีสูงศักดิ์เกินเอื้อมถึง ทำให้ความสัมพันธ์แม่ลูกไม่ค่อยดีนัก“ฮองไทเฮาเสด็จ!!!” ท่ามกลางเสียงร้องโหยหวยมีเสียงขันทีประกาศการมาถึงของพระนาง ทำให้ทุกคนที่อยู่ในลานกว้างรีบคุกเข่าก้มหน้ากับพื้นทันท
ตอนพิเศษ2.3ฮูหยินใหญ่ตระกูลฮุ่ยถึงกับหลั่งเหงื่อเย็น เพราะจากสภาพที่นางพบฮุ่ยเยว่เล่อเมื่อเช้าก็มีความเป็นไปได้ตามที่ชายเหล่านั้นเอ่ยไม่นานบ่าวอาวุโสคนนั้นก็กลับมาด้วยใบหน้าซีดเผือด ก่อนจะเข้ามานั่งคุกเข่าตรงหน้านายท่านหวังตอนนี้เหล่าชายหนุ่มทั้งหลายถูกเชิญเข้ามาคุยกันในจวนแล้ว เพราะแขกเหรื่อที่มางานเริ่มออกมามุงดูอย่างสนใจ“เป็นอย่างไรเจ้าลองพูดมาซิ” นายท่านหวังสั่ง“เออ...สภาพของอี๋เหนียงเล็ก...เออ...”“จะอะไรเจ้าก็รีบพูดมาสิ จะมัวอ้ำอึ้งทำไม” คุณชายหวังเอ่ยอย่างหงุดหงิด“อี๋เหนียงมีสภาพราวกับเพิ่งผ่านคืนวสันต์มาไม่ผิดแน่เจ้าค่ะ ข้าน้อยมีประสบการณ์กล้ารับประกันได้” บ่าวอาวุโสเอ่ยพร้อมกับ ก้มหน้าหลบสายตาทุกคนแต่คนที่อยู่ตรงนั้นตกใจจนทำอะไรไม่ถูก แขกที่มาในงานเริ่มซุบซิบกันจนเกิดเสียงอื้ออึงไปทั่วบริเวณฮูหยินใหญ่หวังนั่นเป็นลมไปแล้ว นายท่านฮุ่ยกับฮูหยินใหญ่ฮุ่ยเองก็ไม่ต่างกันมากนัก ส่วนนายท่านหวังนั่นโกรธจนเลือดขึ้นหน้า“ไปลากตัวนางมา!!!” คุณชายหวังตวาดบ่าวของตน“นายท่านฮุ่ยท่านจะอธิบายเรื่องนี้อย่างไร” นายท่านหวังหันไปถามบิดาฝ่ายเจ้าสาว“ข้าขออภัยนายท่านหวัง เรื่องในวันนี้ข้าขอ
ตอนพิเศษ2.2รถม้าเคลื่อนมาหยุดที่หน้าโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง ก่อนจะมีชายรูปร่างสูงใหญ่ใส่หมวกสานเข้ามาอุ้มหญิงสาวบนรถม้าออกไปขึ้นรถม้าอีกคัน“ท่านรู้หรือไม่นั่นน่ะนายท่านของข้าเอง เขามารับภรรยากลับจวนเพราะนางต้องไปเฝ้าไข้มารดาตั้งเป็นเดือน ที่นางหลับไม่รู้เรื่องเช่นนี้คงเพราะนางอ่อนเพลียมากเป็นแน่ น่าสงสารนายหญิงของข้าจริง ๆ ”ชายที่ร่วมคารวานมาด้วยเอ่ยกับหลงจู้โรงเตี๊ยมพลางมองไปที่ผู้เป็นนายทั้งสองอย่างปลาบปลื้มใจ“นายท่านของเจ้าช่างรักภรรยายิ่งนัก ข้าละนับถือจิตใจเขาจริง ๆ ว่าแต่พวกท่านจะเดินทางไปที่ใดงั้นหรือ” หลงจู้เอ่ยถามตามมารยาท“พวกข้าจะไปเมืองหลวงกัน ข้าคงต้องไปแล้วไว้พบกันใหม่” ชายผู้นั้นเอ่ยก่อนจะรีบวิ่งไปขึ้นม้าตัวเอง แล้วคารวานนั้นก็ออกเดินทางไปฮุ่ยเยว่เล่อตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็พบว่าตัวเองอยู่ในห้องที่ประดับไปด้วยผ้าแดง กลิ่นกำยานแสบจมูกจนนางต้องยกมือขึ้นมาปิด“นางตื่นพอดีเลยเจ้าค่ะนายท่าน” เสียงสตรีแหลมเล็กดังขึ้นขณะที่ประตูถูกเปิดเข้ามาภาพตรงหน้าเป็นเฉินโม่วโฉวกับสตรีร่างท้วมแต่งหน้าจัดนางหนึ่ง ด้านนอกมีกลุ่มบุรุษหน้าตาโหดเหี้ยมอีกนับสิบ“ดีเลย นางจะได้รับรู้ถึงความสุขที่ข้