ตอนที่ 3
คนไม่ใช่พูดคำเดียวก็มีโทษ
“ยังมีหน้ามายิ้มอีก!! เจ้าไม่เห็นหรือว่าน้องสาวเจ้าเสียใจเพียงใด แค่อภัยให้น้องเรื่องเล็กน้อยเท่านี้จะทำไม่ได้เลยเชียวหรือ!!” ผู้เป็นบิดาเอ่ยต่อว่าถังซูเจียว
“ท่านพ่อ...ข้ายังไม่ได้ยิ้มเลยนะเจ้าคะ อีกอย่างข้ายังไม่เคยพูดสักคำว่าข้าไม่พอใจที่คุณชายรองเหยียนขอถอนหมั้นข้า แล้วไปหมั้นหมายกับน้องสาวแทน มีแต่พวกเขาสองคนที่พูดกันไปเองทั้งนั้น”
คำพูดของถังซูเจียวยิ่งทำให้ผู้เป็นบิดาโกรธมากขึ้นกว่าเดิม จนถึงขั้นเกือบทำร้ายบุตรสาวตรงหน้าไป แต่ดีที่ฮูหยินรองรั้งแขนเอาไว้ได้ทัน
“เจ้าจะบอกว่าน้องสาวเจ้ากำลังโกหกหรือ!!!” ถังซีฮั่นตวาดใส่บุตรสาวคนโตเสียงดังลั่น
“ท่านพี่ใจเย็นก่อนเถิด คุณชายรองเหยียนก็อยู่ด้วยนะเจ้าคะ” ฮูหยินรองกระซิบเตือนสามีทำให้เขาสงบลงเล็กน้อย
“เจ้ากลับเรือนไปสำนึกความผิดตัวเองเสีย ถ้ายังสำนึกไม่ได้อย่าก้าวขาออกจากเรือน!!” ถังซีฮั่นเอ่ย แบบนี้ก็เหมือนเป็นการกักบริเวณนั่นแหละ แค่ไม่ได้พูดออกมาตรง ๆ เท่านั้น
“ขอบคุณท่านพ่อที่สั่งสอนเจ้าค่ะเช่นนั้นลูกขอตัวก่อน น้องรองวันนี้พี่สาวได้เปิดหูเปิดตาแล้ว”
ถังซูเจียวทำท่าจะเดินออกจากศาลานั้น แต่หันไปพูดกับผู้เป็นน้องสาวก่อน พลางยิ้มเล็กน้อยอย่างสื่อความนัย พอก้าวขาไปได้ไม่กี่ก้าวก็ต้องหยุดชะงัก
“ท่านพ่ออย่าลงโทษพี่หญิงเลยนะเจ้าคะลูกขอร้อง แค่นี้ลูกก็รู้สึกผิดต่อพี่หญิงมากพอแล้ว หากท่านพ่อยังลงโทษพี่หญิงอีกนางต้องเสียใจมากเป็นแน่” ถังซูเจินเอ่ยพลางสะอื้น
“โธ่! ลูกแม่ เจ้าจิตใจดีคิดถึงแต่ผู้อื่นเช่นนี้ แต่พี่สาวเจ้าไม่ได้รับรู้ความหวังดีของเจ้าเลย เจ้าช่างน่าสงสารนัก”
ฮูหยินรองเอ่ยเช่นนี้ ทำให้สองบุรุษที่ยืนอยู่ในศาลามองมาที่ถังซูเจียวด้วยสายตาโกรธขึง
“สั่งกักบริเวณคุณหนูใหญ่ให้อยู่แต่ในเรือน ห้ามออกไปไหน จนกว่าจะถึงพิธีแต่งงานของนาง”
ถังซีฮั่นเอ่ยเสียงดังให้บ่าวด้านนอกได้ยิน ก่อนจะสั่งให้มาพาตัวถังซูเจียวออกไป
แผนการทุกอย่างเป็นไปตามที่สองแม่ลูกตั้งใจ แต่ทั้งสองก็ไม่ได้รู้ว่านี่ก็เป็นแผนของสตรีที่ถูกตนกลั่นแกล้งเช่นกัน
หลังเหตุการณ์นั้นคุณชายรองเหยียนป๋อเหวินก็กลับจวนไป ส่วนถังซีฮั่นก็ไปที่เรือนฮูหยินรองอย่างทุกวัน
เมื่อสามีเผลอฮูหยินรองก็ให้บ่าวออกไปปล่อยข่าวลือ เรื่องที่คุณหนูใหญ่อิจฉาน้องสาวตนเอง ที่คุณชายรองเหยียนขอเปลี่ยนตัวคู่หมั้น จนไปหาเรื่องคุณหนูรองจนถูกกักบริเวณ
และยังปล่อยข่าวลืออีกว่าถังซูเจินกับคุณชายรองเหยียนป๋อเหวินนั้นรักใคร่กันด้วยใจบริสุทธิ์ ทั้งสองแอบชอบกันตั้งแต่เจอหน้ากันครั้งแรก
แต่ด้วยสถานะที่ฝ่ายชายมีคู่หมั้นอยู่แล้ว จะให้คิดเกินเลยกับน้องสาวคู่หมั้นก็ไม่ได้ ส่วนฝ่ายหญิงนั้นเห็นว่าคุณชายรองเหยียนเป็นว่าที่พี่เขย จึงได้เก็บความรู้สึกเอาไว้ในส่วนลึกของจิตใจ
จนเวลาล่วงเลยมาถึงตอนนี้คุณชายรองเหยียนที่ไม่อาจเก็บความรู้สึกเอาไว้ได้อีกต่อไป จึงได้ขอให้บิดาเปลี่ยนตัวคู่หมั้นเป็นคุณหนูรองถังซูเจินแทน
ถังซูเจียวที่นั่งฟังข่าวลือจากปากของลี่ลี่ถึงกับเบะปากอย่างห้ามไม่อยู่
“เฮ๊อะ!! ชอบพอกันตั้งแต่แรกเห็น ไม่อาจเก็บความในใจเอาไว้ได้อีกต่อไป แหวะ!! น้ำเน่าอย่างกับละครหลังข่าว” ถังซูเจียวเอ่ยอย่างหมั่นไส้
“เออ..ละ ละครอะไรนะเจ้าคะ บ่าวไม่เคยได้ยินมาก่อน” ลี่ลี่ที่ไม่เข้าใจประโยคของนายสาวเอ่ยถามขึ้น
“อ่อ...ข้าลืมตัวไป น้ำเน่าอย่างกับงิ้วข้างถนนน่ะ ข้าอยากรู้จริง ๆ ว่าใครคิดบทนี้ให้แม่รองของข้ากัน”
“บ่าวว่าฮูหยินรองน่าจะคิดเองนะเจ้าคะ” ลี่ลี่ตอบแบบซื่อ ๆ ทำให้นางมองหน้าสาวใช้ตัวน้อยก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่
สาวใช้นางใส่ซื่อเกินไปแล้ว แบบนี้ไปอยู่จวนสามีจะเป็นมือตบให้นางได้เหรอเนี่ย
กำหนดการณ์แต่งงานของถังซูเจียวถูกเลื่อนเข้ามาเป็นอีกสองเดือนข้างหน้า จากเดิมที่เป็นสามเดือน เพราะธรรมเนียมที่พี่สาวต้องแต่งออกก่อนน้องสาวนั่นเอง
นางยังไม่ได้เล่าเรื่องแต่งงานสินะ ตอนแรกนางมีสัญญาหมั้นหมายกับคุณชายรองเหยียนป๋อเหวิน บุตรชายคนรองของเจ้ากรมโยธา
แต่เมื่อหนึ่งเดือนที่ผ่านมาคุณชายรองเหยียนมาขอเปลี่ยนตัวเจ้าสาวเป็นถังซูเจินน้องสาวแทน
ท่านพ่อข้าก็แสนจะยินดีจึงยอมเปลี่ยนตัวง่าย ๆ นางเลยต้องแต่งกับคู่หมั้นน้องสาวแทน คนผู้นั้นเป็นท่านเจ้าเมืองที่เคยช่วยท่านพ่อไว้จากโจรป่าตอนเดินทางไปทำธุระให้ฮ่องเต้
ระหว่างพักที่จวนท่านเจ้าเมืองก็ได้ไปดื่มสุรากับบิดาท่านเจ้าเมือง ด้วยคุยกันถูกคอหรืออย่างไรไม่ทราบได้ ท่านพ่อเลยเผลอสัญญาว่าจะยกบุตรสาวให้แต่งเป็นฮูหยินเอกท่านเจ้าเมือง
ตอนแรกก็จะยกนางให้นั่นแหละ แต่ท่านย่ากับฮูหยินใหญ่เหยียนได้ทำการหมั้นหมายนางกับคุณชายรองเหยียนไว้ก่อนแล้ว คนที่ต้องแต่งกับเจ้าเมืองคนนั้นเลยเป็นถังซูเจินแทน
แต่สาเหตุที่ถังซูเจียวคนเดิมตรอมใจตายไม่ได้เป็นเพราะเสียใจจากการถูกถอนหมั้นอย่างเดียวนะ
จากความทรงจำนางไปเห็นว่าอดีตคู่หมั้นกับน้องสาวแอบนัดพบกันที่ร้านน้ำชานอกเมือง ตอนแรกนางก็ไม่รู้แค่สงสัยว่าน้องสาวตนจะไปที่ใดจึงแอบตามไปดู
จึงได้เห็นทุกอย่างกับตา และเหมือนว่าทั้งสองจะนัดพบกันที่นี่เป็นประจำ เพราะมาถึงหลงจู้ก็เดินนำไปที่ห้องส่วนตัวบนชั้นสองเลย
นางเลยขอเปิดห้องที่ติดกับห้องของทั้งสอง แล้วก็ได้ยินสิ่งที่ทั้งสองคุยกันทั้งหมด มันยิ่งทำให้ถังซูเจียวเสียใจ
อดีตคู่หมั้นบอกว่าไม่เคยรักตนเลยแม้แต่น้อย ทั้งที่เวลาพบหน้ากันกลับพูดว่ารักนางทุกคำ จะทำเพื่อนางอย่างนั้นอย่างนี้วาดอนาคตกับนางมากมาย แต่ทั้งหมดก็เป็นเพียงแค่ลมปากเท่านั้น
คำพูดที่พูดกับถังซูเจียวคนเก่ายังเอาไปพูดกับน้องสาวนางทุกคำ ที่สำคัญทั้งสองแอบลักลอบมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกันแล้วด้วย
ถังซูเจียวก็โง่ฟังทั้งสองมีสัมพันธ์กันจนเสร็จ พอกลับมาถึงจวนก็ล้มป่วย ไม่พอยังรั้นไปนั่งอ่านหนังสือคนเดียวทั้งที่ตนยังไม่หาย สุดท้ายไข้ขึ้นหนักจนช็อกตายแล้วเมย์ก็เข้ามาอยู่ในร่างนี่แหละ
“แต่วันนี้คุณหนูไม่น่าไปตามคำเชิญของคุณหนูรองเลยนะเจ้าคะ เห็นมั้ยถูกนายท่านกักบริเวณเลย” ลี่ลี่เอ่ย
“ก็ข้าอยากถูกกักบริเวณนี่จะได้ไม่ต้องมีใครมายุ่งวุ่นวายด้วย แล้วอีกอย่างข้าอยากรู้ว่าน้องสาวข้าจะมาไม้ไหนเท่านั้นเอง”
เมื่อเช้าถังซูเจินคงเชิญข้าไปเพื่อให้ข้าเห็นว่าคุณชายรองเหยียนรักตนมากเพียงใด
แล้วก็หาเรื่องลงโทษข้าอย่างเมื่อเช้า จากนั้นก็ปล่อยข่าวลือให้ข้าเสียหาย เรื่องทุกอย่างก็เป็นตามที่ข้าคิดไว้ไม่มีผิด
ถ้าเป็นถังซูเจียวคนเก่าป่านนี้คงนอนร้องไห้เสียใจขี้มูกโป่งไปแล้ว แต่ข้าไม่ใช่ไง เพราะงั้นน้องสาวสุดที่รักของข้าก็เตรียมรับผลกรรมเอาไว้ได้เลย
“ลี่ลี่เอาหูมาใกล้ ๆ ข้าสิ” นางเอ่ยพร้อมกับยิ้มอย่างมีเลศนัยจนสาวใช้เริ่มระแวง
“อะ อะไรเจ้าคะ” แม้จะหวั่นใจแต่ลี่ลี่ก็ยอมทำตาม นางจึงได้เล่าแผนการให้ฟัง ก่อนจะใช้ให้ลี่ลี่ไปหาซื้อของใช้ในตลาด
นางจะใช้ประโยชน์จากความทรงจำที่ได้รับมาทั้งหมด เพื่อทำให้น้องรองของนางเสื่อมเสียจากสิ่งที่ตัวเองทำลงไป เพียงแต่มันต้องใช้เวลาเล็กน้อยเท่านั้น
เช้าวันต่อมาข่าวลือเรื่องที่คุณชายรองเหยียนกับคุณหนูรองถังซูเจินก็ถูกพูดถึงไปทั่วเมืองหลวง
บางคนก็ชื่นชมในความรักของทั้งสอง โดยเฉพาะคุณชายรองเหยียนที่ยอมขอถอนหมั้นกับคนที่ตนไม่ได้รัก แล้วขอหมั้นหมายกับสตรีที่ตนรักแทน แม้นางจะเป็นเพียงบุตรีของฮูหยินรองก็ตาม
บางคนก็ต่อว่าถังซูเจียวที่เป็นสตรีใจแคบไร้น้ำใจ ไปหาเรื่องน้องสาวทั้งที่ฝ่ายชายเป็นขอถอนหมั้นแท้ ๆ ถังซูเจียวจึงกลายเป็นสตรีโหดร้ายใจอำมหิตที่ทำร้ายน้องสาวไป
กลายเป็นว่าคนทำผิดทั้งสองถูกสรรเสริญ แต่คนถูกกระทำอย่างถังซูเจียวถูกต่อว่าไปอย่างนั้น
3 วันผ่านมา
ถังซูเจียวถูกกักบริเวณเลยไม่ได้ออกไปไหน นางนั่ง ๆ นอน ๆ อยู่แต่ในเรือนทั้งวัน จิตใจก็จดจ่อรอคอยวันที่ถังซูเจินจะออกไปข้างนอก และวันนี้ก็มาถึงเสียที
“คุณหนูเจ้าคะ วันนี้คุณหนูรองออกไปข้างนอกแล้วเจ้าคะ” ลี่ลี่วิ่งเข้ามารายงาน เพราะนางสั่งให้ลี่ลี่ไปแอบดูว่าถังซูเจินจะออกจากจวนวันไหน
“ดี!!! เจ้าไปทำตามที่ข้าบอกไว้นะ เสร็จแล้วรีบกลับมา” นางเอ่ยก่อนจะหยิบถุงเงินกับซองจดหมายให้ลี่ลี่ หญิงสาวรับคำก่อนจะรีบออกจากเรือนไป
ตอนที่ 7ฮูหยินเอกกับรองย่อมต่างกัน“ท่านย่าอย่าโกรธแม่นมมู่เลยเจ้าค่ะ นางก็เป็นนายคนหนึ่งเหมือนกัน ให้อภัยนางสักครั้งเถอะนะเจ้าคะ”สิ่งที่ถังซูเจียวเอ่ยทำให้คนที่อยู่ตรงนั้นงุนงง แต่แม่นมมู่ตาโตจนแทบถลนออกมาแล้ว“เจ้าหมายถึงอะไรเจียวเอ๋อร์ บ่าวของฮูหยินรองจะมาเป็นนายของจวนได้อย่างไร” เสิ่นเจียอี๋เอ่ยถามบุตรสาวตัวเองอย่างไม่เข้าใจ“ท่านแม่ก็แม่นมมู่บอกว่านางเป็นคนของฮูหยินรอง จะเดินไปที่ใดในจวนนี้ทุกคนต้องก้มหัวให้ประหนึ่งนางเป็นนายของเรือนคนหนึ่ง”“ว่าอย่างไรนะ!!!” ฮูหยินผู้เฒ่าอุทานอย่างไม่เชื่อหู“ที่ผ่านมาหากลูกพบแม่นมมู่แล้วไม่ก้มหัวให้ข้าก็จะถูกสั่งให้คุกเข่าเป็นการลงโทษเสมอเลยนะเจ้าคะ”นางพูดใส่สีตีไข่ให้ดูเกินจริงมากขึ้น แต่เรื่องที่นางถูกแม่นมมู่สั่งให้คุกเข่าเป็นเรื่องจริง เรื่องนี้บ่าวในจวนหลายคนก็เคยเห็นแต่ไม่มีใครกล้าพูดเท่านั้น“เหลวไหล!! เช่นนี้สินะเจ้าถึงกล้าวิ่งไล่ตีหลานสาวข้า เอานางไปรับโทษตามกฎของจวนเสีย เสร็จแล้วขายนางออกไปบ่าวเช่นนี้ไม่ควรเก็บเอาไว้ในจวน!!”“ทะ ท่านแม่บ่าวของข้าเพียงหลงผิดไปเท่านั้น ท่านแม่โปรดอภัยให้นางสักครั้งเถอะ นางแก่ชราแล้วหากถูกโบยถึงห้าสิบ
ตอนที่ 6แย่งของผู้อื่นไป สุดท้ายก็ไม่ได้ดี ถังซูเจียวนั่งฟังลี่ลี่เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเงียบ ๆ เสียงทะเลาะกันของนายท่านของเรือนดังลั่นจนบ่าวไม่ต้องแอบฟังก็ได้ยิน “เมื่อเช้าพ่อบ้านหลี่บอกว่าฮูหยินผู้เฒ่าส่งจดหมายมาแจ้งว่ากำลังเดินทางกลับจวน คาดว่าไม่เกินสองวันคงถึงเจ้าค่ะ” ลี่ลี่รายงาน “อืม...ท่านย่าคงกลับมาเพราะเรื่องของถังซูเจินนั่นแหละ” “คงเป็นเช่นนั้นเจ้าคะ แต่เราทำเช่นนี้มันจะเป็นผลดีหรือเจ้าคะ หากสตรีนางนั้นพูดเรื่องจดหมายขึ้นมา...”ลี่ลี่หมายถึงเรื่องลี่ถิงบุตรสาวคหบดีลำดับที่แปดของเมืองหลวง หรือก็คือหญิงสาวที่เหยียนป๋อเหวินแอบคบหานั่นแหละ ที่นางรู้เพราะในความทรงจำลี่ถิงมักมาแสดงตัวให้รู้เสมอว่าตนมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับอดีตคู่หมั้นตัวเอง แต่ถังซูเจียวคนเก่าโง่เกินไปเลยมองไม่ออก นางละอนาถใจแทนจริง ๆ แล้วเรื่องที่นางให้ลี่ลี่ไปทำคือใช้ให้คนส่งจดหมายให้ลี่ถิงบอกว่าคนรักของนางแอบไปมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับคู่หมั้นที่โรงน้ำชานอกเมือง แล้วลงท้ายว่าท่านจะทำอะไรก็ลองพิจารณาดู เท่านี้ทุกอย่างก็เป็นไปตามแผนนาง แต่มีเรื่
ตอนที่ 6แย่งของผู้อื่นไป สุดท้ายก็ไม่ได้ดีถังซูเจียวนั่งฟังลี่ลี่เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเงียบ ๆ เสียงทะเลาะกันของนายท่านของเรือนดังลั่นจนบ่าวไม่ต้องแอบฟังก็ได้ยิน“เมื่อเช้าพ่อบ้านหลี่บอกว่าฮูหยินผู้เฒ่าส่งจดหมายมาแจ้งว่ากำลังเดินทางกลับจวน คาดว่าไม่เกินสองวันคงถึงเจ้าค่ะ” ลี่ลี่รายงาน“อืม...ท่านย่าคงกลับมาเพราะเรื่องของถังซูเจินนั่นแหละ”“คงเป็นเช่นนั้นเจ้าคะ แต่เราทำเช่นนี้มันจะเป็นผลดีหรือเจ้าคะ หากสตรีนางนั้นพูดเรื่องจดหมายขึ้นมา...”ลี่ลี่หมายถึงเรื่องลี่ถิงบุตรสาวคหบดีลำดับที่แปดของเมืองหลวง หรือก็คือหญิงสาวที่เหยียนป๋อเหวินแอบคบหานั่นแหละที่นางรู้เพราะในความทรงจำลี่ถิงมักมาแสดงตัวให้รู้เสมอว่าตนมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับอดีตคู่หมั้นตัวเองแต่ถังซูเจียวคนเก่าโง่เกินไปเลยมองไม่ออก นางละอนาถใจแทนจริง ๆ แล้วเรื่องที่นางให้ลี่ลี่ไปทำคือใช้ให้คนส่งจดหมายให้ลี่ถิงบอกว่าคนรักของนางแอบไปมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับคู่หมั้นที่โรงน้ำชานอกเมือง แล้วลงท้ายว่าท่านจะทำอะไรก็ลองพิจารณาดูเท่านี้ทุกอย่างก็เป็นไปตามแผนนาง แต่มีเรื่องที่เกินคาดหมายตรงที่ถังซูเจินไม่ได้เป็นอนุ แต่ได้เป็นฮูหยินรอ
ตอนที่ 5จากเอกเป็นรองข่าวลือแผ่กระจายไปทั่วเมืองหลวงอย่างรวดเร็วราวกับไฟลามทุ่ง โรงน้ำชาหรือร้านอาหารที่ใดก็หยิบยกเรื่องคุณชายรองเหยียนป๋อเหวินกับคุณหนูรองถังซูเจินขึ้นมาพูดข่าวลือจากปากต่อปากความจริงก็เริ่มลดลง จนกลายเป็นว่าตอนนี้ถังซูเจินกำลังตั้งท้องลูกของคุณชายรองเหยียนไปเสียแล้วแถมยังบอกว่าทั้งสองแอบลักลอบมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกันตั้งแต่ที่ฝ่ายหญิงยังไม่ได้ปักปิ่นด้วยซ้ำ น่าสงสารพี่สาวอย่างถังซูเจียวที่ไม่รู้เรื่องอะไรแม้แต่น้อยฮูหยินรองได้ยินข่าวลือก็บุกไปหาบุตรสาวที่เรือนทันที ถังซูเจินที่คิดว่าจะทำตัวตามปกติก็ต้องถูกมารดาคาดคั้น จนสุดท้ายต้องยอมเล่าความจริงทุกอย่างออกมา“น่าอับอายยิ่งนัก ข้าสอนให้เจ้าเอาใจบุรุษแต่ใช่ว่าให้เจ้าเอาตัวเข้าแลกเช่นนี้” ฮูหยินรองหว่านผู่เยว่เอ่ยพลางทอดถอนใจนางสอนบุตรสาวเสมอแต่ก็ยังพลาดจนได้ ทั้งที่อุตส่าห์แย่งคู่หมั้นของนังลูกเลี้ยงมาได้แล้วเชียว“ท่านแม่ลูกผิดไปแล้วเจ้าค่ะ ท่านแม่ต้องช่วยลูกด้วยนะเจ้าคะ เป็นเพราะนังลี่ถิงคนเดียวที่มันป่าวประกาศออกไปเช่นนั้น” ถังซูเจินเอ่ยขอร้องมารดาทั้งน้ำตา“เจ้าไม่ต้องโทษผู้อื่น หากบิดาเจ้ารู้เรื่องนี้เจ้าตายแน่
ตอนที่ 4รักนี้เกินห้ามใจไหวถังซูเจินออกไปนอกจวนโดยบอกมารดาว่าไปพบสหายอย่างเช่นทุกครั้ง แต่ความจริงนางนัดพบกับคุณชายรองเหยียนต่างหากรถม้ามุ่งหน้าออกนอกเมืองไปที่โรงน้ำชาเจ้าประจำ สาวใช้ส่วนตัวของหญิงสาวก็ไม่เคยแพร่งพรายเรื่องนี้ออกไปแม้แต่น้อยเมื่อมาถึงสองนายบ่าวก็ถูกเชิญขึ้นไปยังห้องเดิม เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็เห็นคุณชายรองเหยียนป๋อเหวินรออยู่ในห้องแล้ว สาวใช้รู้หน้าที่จึงปิดประตูให้นายสาวก่อนจะลงไปรอด้านล่าง“น้องซูเจินพี่คิดถึงเจ้ายิ่งนัก” เหยียนป๋อเหวินเข้าไปสวมกอดคนรักของตนทันที“ปากหวานเสียจริงนะเจ้าคะ” ถังซูเจินเอ่ยพลางตีแขนเขาไปเบา ๆ อย่างเอียงอาย“จะหวานเท่าปากของเจ้าได้หรือ” เขาเอ่ยพร้อมกับประกบริมฝีปากตนกับริมฝีปากบางของหญิงสาวอย่างหิวกระหาย“อื้อ!!...อื้ม!!! ดะ เดี๋ยวก่อนเจ้าค่ะ” ถังซูเจินเคลิ้มไปเล็กน้อยก่อนจะผลักอกชายหนุ่มออก“ทำไมล่ะ สามวันที่ไม่ได้พบหน้าพี่คิดถึงเจ้ามากนะรู้หรือไม่” ชายหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ใบหน้าก็เริ่มซุกไซร้ที่ซอกคอขาวผ่องแล้วสูดดมกลิ่นกายสาวเข้าไปเต็มปอดมือไม้เริ่มเลื้อยไปทั่วตัวหญิงสาวจนนางต้องเผลอร้องครางออกมาอย่างห้ามไม่อยู่“อื้ม...อ๊
ตอนที่ 3 คนไม่ใช่พูดคำเดียวก็มีโทษ“ยังมีหน้ามายิ้มอีก!! เจ้าไม่เห็นหรือว่าน้องสาวเจ้าเสียใจเพียงใด แค่อภัยให้น้องเรื่องเล็กน้อยเท่านี้จะทำไม่ได้เลยเชียวหรือ!!” ผู้เป็นบิดาเอ่ยต่อว่าถังซูเจียว“ท่านพ่อ...ข้ายังไม่ได้ยิ้มเลยนะเจ้าคะ อีกอย่างข้ายังไม่เคยพูดสักคำว่าข้าไม่พอใจที่คุณชายรองเหยียนขอถอนหมั้นข้า แล้วไปหมั้นหมายกับน้องสาวแทน มีแต่พวกเขาสองคนที่พูดกันไปเองทั้งนั้น”คำพูดของถังซูเจียวยิ่งทำให้ผู้เป็นบิดาโกรธมากขึ้นกว่าเดิม จนถึงขั้นเกือบทำร้ายบุตรสาวตรงหน้าไป แต่ดีที่ฮูหยินรองรั้งแขนเอาไว้ได้ทัน“เจ้าจะบอกว่าน้องสาวเจ้ากำลังโกหกหรือ!!!” ถังซีฮั่นตวาดใส่บุตรสาวคนโตเสียงดังลั่น“ท่านพี่ใจเย็นก่อนเถิด คุณชายรองเหยียนก็อยู่ด้วยนะเจ้าคะ” ฮูหยินรองกระซิบเตือนสามีทำให้เขาสงบลงเล็กน้อย“เจ้ากลับเรือนไปสำนึกความผิดตัวเองเสีย ถ้ายังสำนึกไม่ได้อย่าก้าวขาออกจากเรือน!!” ถังซีฮั่นเอ่ย แบบนี้ก็เหมือนเป็นการกักบริเวณนั่นแหละ แค่ไม่ได้พูดออกมาตรง ๆ เท่านั้น“ขอบคุณท่านพ่อที่สั่งสอนเจ้าค่ะเช่นนั้นลูกขอตัวก่อน น้องรองวันนี้พี่สาวได้เปิดหูเปิดตาแล้ว”ถังซูเจียวทำท่าจะเดินออกจากศาลานั้น แต่หันไปพูดก
ตอนที่ 2น้องสาวผู้เป็นที่รักของบิดาระหว่างนั้นเมย์ในร่างถังซูเจียวก็นั่งรอสาวใช้อยู่ที่ห้องหนังสืออย่างเชื่อฟัง ไม่นานลี่ลี่ก็กลับมาพร้อมหมอแต่ตรวจแล้วก็ไม่เจออะไรก็แน่ละสินางไม่ได้เป็นอะไรเสียหน่อย แค่ทะลุมิติมาอยู่ในร่างของคนอื่นแค่นั้นเองหมอบอกว่าร่างกายนี้น่าจะเพลียจากการอดนอน และมีความเครียด หมอจึงจัดยาบำรุงให้เอาไว้ต้มกินแล้วหมอก็กลับไป ลี่ลี่จึงพานายสาวกลับเรือน“คุณหนูซูเจียว!!!! คุณหนูซูเจียว!!!!” เสียงเรียกจากหน้าเรือนทำให้ถังซูเจียวคนใหม่กับลี่ลี่มองหน้ากัน นี่นางเพิ่งอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเองนะ“ลี่ลี่เจ้าออกไปดูหน่อยว่าใครมา” นางบอกลี่ลี่ บ่าวตัวน้อยจึงเดินออกไปดูต่อไปนี้คงต้องทิ้งตัวตนเก่าไปให้หมดแล้วใช้ชีวิตเป็นถังซูเจียวแทน แต่เรื่องความแค้นเก่าก่อนก็ไม่ได้ละทิ้งนะ ถังซูเจียวคนใหม่นี้จะแก้แค้นให้เอง“คุณหนูรองให้มาเชิญคุณหนูไปจิบน้ำชาชมดอกไม้ที่สวนด้วยกันเจ้าค่ะ” ลี่ลี่กลับเข้ามารายงาน“หืม...ปกตินางไม่ชวนข้านี่” จากความทรงจำทุกครั้งถ้าถังซูเจินจะจิบน้ำชาที่สวน นางจะให้บ่าวคอยกันพื้นที่ไว้ไม่ให้ใครเข้าโดยเฉพาะเจ้าของร่างคนเก่า แต่วันนี้มาแปลกคงต้องไปดูเสียหน่อยแล้ว“บ
ตอนที่ 1เกิดใหม่ในร่างสตรีต่างมิติแค่ก! แค่ก! แค่ก! เฮือก!!!เมย์ แม่ค้าสาววัยยี่สิบเจ็ดสำลักบางอย่างก่อนจะสะดุ้งเฮือกเอาอากาศเข้าเต็มปอด คิดว่าจะตายแล้วอีเมย์เอ้ย!!ตอนนี้ฉันก็น่าจะอยู่ที่โรงพยาบาลสินะ คิดพลางมองไปรอบ ๆ แต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อตอนนี้ตัวเองกำลังอยู่ในห้องที่คาดว่าเป็นห้องหนังสือ เพราะมองไปรอบ ๆ มีแต่ชั้นหนังสือเต็มไปหมดนี่มันอะไรกัน!! ฉันกำลังฝันอยู่หรือเปล่า เมื่อก้มมองดูชุดที่ตัวเองใส่ก็เป็นชุดจีนโบราณอย่างที่ชอบดูในซีรี่ย์ อย่าบอกว่าฉันทะลุมิติมาอยู่ในร่างคนอื่นนะ แย่แล้วอีเมย์!!!! เธอทรุดตัวลงกับพื้นก่อนจะสลบไปตรงนั้นเพราะรับไม่ได้กับเรื่องที่เกิดขึ้นในฝันเธอกำลังเดินไปตามทางที่ไหนสักที่ รอบตัวเธอตอนนี้มีแต่ความมืดจนมองไม่เห็นสิ่งรอบข้าง นอกจากทางที่กำลังเดินไปเท่านั้น“เมย์ เมย์ เจ้าได้ยินข้าหรือไม่” เสียงแววหวานของสตรีดังมาจากที่ไหนสักแห่ง“ใครคะ!! ช่วยฉันด้วยค่ะฉันอยู่ตรงนี้!” เมย์รีบร้องขอความช่วยเหลือทันที“เจ้าไม่ต้องตกใจไป เพียงเดินตามทางนี้ไปเจ้าจะปลอดภัยเอง” เสียงนั้นตอบกลับมา“แล้วคุณเป็นใครคะ ฉันมองไม่เห็นคุณเลย” เมย์ตะโกนถามออกไปอีกครั้ง พลางมองซ้ายมอ