Share

ตอนที่ 8 ของฝากจากท่านย่า

last update Last Updated: 2025-05-16 22:18:54

ตอนที่ 8

ของฝากจากท่านย่า

จากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกันกลับเรือนของตน นางก็คิดว่าท่านย่าจะลงโทษซูเจินบ้าง แต่เพียงต่อว่าไม่กี่คำก็ไล่นางกับแม่ออกไป คงเพราะไม่อยากเห็นหน้าให้เคืองอารมณ์อีก

แต่อย่างน้อยนางก็ได้รู้ว่าท่านย่ารักนางกับท่านแม่มาก หากท่านย่าไม่ออกไปถือศีลที่วัด ความเป็นอยู่ของนางแม่ลูกคงไม่แย่ขนาดนี้

“เจียวเอ๋อร์แม่ขอโทษที่ไม่อาจช่วยเจ้าได้ จนถูกแย่งคู่หมั้นไปเช่นนี้” เสียงท่านแม่เอ่ยขึ้น เมื่อสาวใช้ในห้องออกไปหมดแล้ว

“ไม่เป็นไรเลยเจ้าค่ะท่านแม่ คุณชายเหยียนไม่ได้ชอบข้าตั้งแต่แรก แต่งกับเขาไปก็มีแต่ข้าที่จะเสียใจภายหลัง เป็นเช่นนี้ก็ดีแล้วเจ้าคะ”

นางเอ่ยปลอบใจมารดา เพราะมองเข้าไปในแววตานั้นพบว่าท่านแม่รู้สึกผิดกับเรื่องที่เกิดขึ้นมาแค่ไหน

“แต่เจ้ารักคุณชายเหยียนไม่ใช่หรือ”

“นั่นมันเมื่อก่อนเจ้าค่ะ ตอนนี้ข้าไม่ได้รักเขาแล้วและไม่ได้เสียใจที่เรื่องเป็นเช่นนี้ด้วย”

“ลูกแม่เจ้าโตขึ้นมากแล้วจริง ๆ ” เสิ่นเจียอี๋เอ่ยพลางดึงตัวบุตรสาวเข้ามากอด

“ข้าแต่งไปตั้งเมืองหมิงเว่ยท่านแม่อยู่คนเดียวต้องดูแลตัวเองให้ดีนะเจ้าคะ อย่าให้ใครมาทำร้ายท่านได้อีก” นางเอ่ยเสียงอู้อี้กับหน้าอกท่านแม่

“เจ้าเด็กบ้าใครจะทำอะไรแม่ได้กัน ที่ผ่านมาแม่ยอมเพราะมีเจ้าต่างหาก จากนี้แม่จะไม่ยอมให้ฮูหยินรองของบิดาเจ้าแล้ว” เสิ่นเจียอี๋เอ่ย

เริ่มแรกแต่งงานเพราะรัก แต่เมื่อไม่ได้รักตอบนางก็หันมาเอาใจใส่บุตรสาวนางแทน ที่นางยอมทุกอย่างเพราะกลัวว่าบุตรสาวจะได้รับอันตรายเท่านั้น

“เออ...ทะ ท่านแม่ปล่อยข้าก่อนได้หรือไม่ ข้าเริ่มหายใจไม่ออกแล้วเจ้าค่ะ”

นางเอ่ยเพราะเริ่มหายใจไม่ออกจริง ๆ ก็หน้าอกหน้าใจท่านแม่มโหฬารขนาดนี้

“แม่ขอโทษ” ท่านแม่เอ่ยก่อนจะยอมปล่อยนางพลางยิ้มแล้วมองบุตรสาวอย่างอ่อนโยน

จากนั้นเราก็คุยกันตามประสาแม่ลูก ทำให้ได้รู้ว่าตระกูลเดิมของมารดานางไม่ธรรมดาเลย

ท่านยายแม้เป็นฮูหยินเอกของคหบดีทั่วไป แต่กลับได้เป็นถึงสหายคนสนิทของไทเฮา เวลามีงานเลี้ยงในวังครั้งไหนก็จะได้รับจดหมายเชิญพิเศษจากไทเฮาเสมอ

หากท่านแม่จะแต่งกับบุรุษที่ดีกว่าท่านพ่อก็ย่อมได้ แต่เพราะความรักบังตามารดาบอกอะไรก็ไม่ฟัง ท่านแม่จึงได้มาทุกข์ระทมเช่นทุกวันนี้

เมื่อไม่เชื่อมารดาตั้งแต่แรก ท่านแม่ของนางเลยไม่กล้ากลับไปสู้หน้าท่านยายอีก ดังนั้นข้าเลยยังไม่เคยเจอท่านยายเลยสักครั้งตั้งแต่เกิดมา

“ท่านแม่ ข้าจะขออนุญาตเขียนจดหมายหาท่านยายได้หรือไม่เจ้าคะ” นางมีความคิดบางอย่างขึ้นมา

“เออ...แม่ไม่ได้ติดต่อกับยายเจ้านานแล้ว...”

“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ข้าอยากลองเขียนจดหมายส่งไปก่อน ฝ่ายนั้นจะตอบหรือไม่ค่อยว่ากัน นะเจ้าคะข้าอยากเจอท่านยายสักครั้งก่อนออกเดินทางไปเมืองหมิงเว่ย” นางเอ่ยพร้อมกับทำท่าทางออดอ้อนมารดา

“เช่นนั้นก็ตามใจเจ้า แต่พรุ่งนี้เช้าอย่าลืมไปคารวะท่านย่าที่เรือนแต่เช้าด้วยล่ะ” เสิ่นเจียอี๋กำชับเรื่องธรรมเนียมกับบุตรสาว

ก่อนหน้านี้ฮูหยินผู้เฒ่าไม่อยู่ เรื่องคารวะยามเช้าจึงได้งดเว้นไป อีกอย่างฮูหยินเอกที่ไม่เคยมีปากเสียงเช่นนางไปสั่งให้ฮูหยินรองสุดรักสุดหวงของสามีตื่นมาคารวะนางแต่เช้าตรู่ นางคงได้ถูกสามีตามมาหาเรื่องเหมือนคราวที่แต่งเข้าจวนมาใหม่ ๆ เป็นแน่

“เจ้าค่ะ” เย็นนั้นสองแม่ลูกกินข้าวด้วยกันที่เรือนถังซูเจียว ก่อนเสิ่นเจียอี๋จะกลับออกไปตอนที่ฟ้ามืดแล้ว

เช้าวันต่อมาถังซูเจียวตื่นตั้งแต่เช้าเพื่อไปคารวะท่านย่าที่เรือน ระหว่างทางเห็นมารดาเดินมาพอดี ทั้งสองจึงเดินไปพร้อมกัน

“คารวะท่านแม่เจ้าค่ะ/คารวะท่านย่าเจ้าค่ะ” ทั้งสองเอ่ยพลางย่อกายเล็กน้อย

“มากันแต่เช้าเลยนะ มา มา มานั่งก่อน เด็ก ๆ รินชาให้ฮูหยินกับคุณหนูใหญ่ที” ฮูหยินผู้เฒ่าเอ่ยพลางยิ้มแย้มอย่างอารมณ์ดี

“เมื่อคืนหลับสบายหรือไม่เจ้าคะ” เสิ่นเจียอี๋เอ่ยถามแม่สามี

“ดีเลยล่ะ จริงด้วยแม่ไปถือศีลที่วัดได้ลูกประคำหยกมา คิดว่าคงเหมาะกับเจ้านัก” ฮูหยินผู้เฒ่าเอื้อมมือไปรับกล่องจากสาวใช้ ก่อนจะเปิดแล้วยื่นให้เสิ่นเจียอี๋

“ขอบคุณท่านแม่เจ้าค่ะ ข้ากำลังนึกอย่างได้ประคำสักเส้นพอดี คิดไว้ว่าหากเจียวเอ๋อร์แต่งออกไปแล้วคงเหงาไม่น้อย เลยจะลองไปถือศีลที่วัดดูเจ้าค่ะ”

“แล้วไม่มีของหลานบ้างหรือเจ้าคะ” หญิงสาวเอ่ยพลางยิ้มทะเล้นให้คนเป็นย่า

“ย่าจะลืมเจ้าได้อย่างไร นี่เป็นพู่ห้อยหยกที่ไทเฮาประทานมาให้เจ้าโดยเฉพาะ พระองค์บอกว่ายามพกติดกายมักจะพบเจอแต่โชคดี เจ้ารับไว้เสียห้ามปฏิเสธเด็ดขาด”

ฮูหยินผู้เฒ่ายื่นพู่นั่นให้ถังซูเจียว นางจึงต้องรับมาเพราะท่านย่าพูดดักทางไว้แล้ว

“นายหญิงเจ้าคะ ฮูหยินรองกับคุณหนูรองมาแล้วเจ้าค่ะ” บ่าวรับใช้เข้ามารายงาน ทำให้บรรยาชื่นมื่นเมื่อครู่ชะงักไป

“ไปบอกให้พวกนางเข้ามาได้” บ่าวนางนั้นออกไปไม่นานก็เห็นว่าคนทั้งสองเดินเข้ามา

“คารวะท่านแม่เจ้าค่ะ/คารวะท่านย่าเจ้าค่ะ”

“...” ฮูหยินผู้เฒ่าไม่เอ่ยคำใดเพียงโบกมือเล็กน้อยเป็นเชิงให้ลุกขึ้นเท่านั้น

“ขออภัยที่ข้ากับเจินเอ๋อมาช้าเจ้าค่ะ พอดีเมื่อคืนนายท่านมาค้างที่เรือน...”

“เจ้าจะบอกว่าบุตรชายข้าไปค้างที่เรือนเจ้าแล้วเจ้าสามารถมาคารวะข้าผิดเวลาได้หรือ” ฮูหยินผู้เฒ่าเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“ไม่ใช่นะเจ้าคะ ที่ข้าจะบอกคือข้าต้องเตรียมเสื้อผ้าและเครื่องแต่งตัวให้นายท่าน...เลยมาคารวะท่านแม่ช้าเท่านั้นเองเจ้าค่ะ”

“น้องสาวจะบอกว่าข้าไม่ได้เตรียมของพวกนั้นให้ท่านพี่เลยมาคารวะท่านแม่ได้แต่เช้าหรือ”

เสินเจียอี๋ที่ไม่เคยเอ่ยคำใด ยามเอ่ยก็หาเรื่องอีกฝ่ายทันทีทำให้หว่านผู่เยว่แปลกใจเล็กน้อย

“พี่หญิงกล่าวเกินไปแล้ว ข้าหาได้หมายความเช่นนั้นไม่”

“พู่ในมือพี่หญิงได้มาจากที่ใดหรือเจ้าคะงามยิ่งนัก” ถังซูเจินเห็นตั้งแต่เดินเข้ามาแล้ว คล้ายกับพู่หยกของไทเฮาที่นางเคยเห็นนัก

ตอนนี้ความสนใจทั้งหมดจึงไปตกที่คุณหนูทั้งสองแทน ถังซูเจียวมองหน้าน้องสาวพลางยิ้มให้เล็กน้อยก่อนตอบ

“ท่านย่าให้พี่เมื่อครู่นี่เอง เจ้าจะดูหรือไม่” เอ่ยพลางยื่นของไปให้น้องสาวดู

ในใจก็คิดว่านางคงรู้แน่ว่าหยกนี่มีราคาเท่าใด ก็ของไทเฮาเลยนะจะใช้ของธรรมดาได้อย่างไร

“งามยิ่งนักข้าขอได้หรือไม่เจ้าคะ” ถังซูเจินเอ่ยพร้อมกับทำท่าจะเอาของไปไม่ส่งคืนให้จริง ๆ

“ไม่ได้!!! ข้าไม่ได้ให้เจ้าข้าให้เจียวเอ๋อร์ ส่วนของเจ้าอยู่นี่” ฮูหยินผู้เฒ่าพูดด้วยน้ำเสียงเด็ดขาดจนหญิงสาวต้องส่งของคืนพี่สาวไป

กล่องไม้ของถังซูเจินกับมารดาเป็นกำไลหยกทั่วไป ไม่ได้มีความพิเศษอะไร นั่นจึงทำให้ถังซูเจินไม่พอใจอย่างมาก

หลังยกน้ำชาให้ฮูหยินผู้เฒ่าเสร็จ สองแม่ลูกนั่นก็ถูกท่านย่าไล่กลับเรือนไป เหลือเพียงเสิ่นเจียอี๋กับถังซูเจียวที่อยู่ทานข้าวกับฮูหยินผู้เฒ่าต่อ

สองแม่ลูกกลับถึงเรือนด้วยใบหน้าบิดเบี้ยวเพราะความโกรธ บ่าวคนสนิทรีบไล่บ่าวคนอื่น ๆ ออกห่างจากเรือนทันที

“ท่านแม่เห็นพู่ห้อยหยกนั่นหรือไม่ ข้ามั่นใจว่าเป็นของที่ไทเฮาพกติดกายแน่นอน แต่ท่านแม่ดูสิท่านย่ากลับเอาให้นังซูเจียวมันเสียได้ ข้าไม่ยอมนะเจ้าคะ ท่านแม่ต้องไปเอามาให้ลูกด้วย”

ถังซูเจินเอ่ยกับมารดาพลางกระทืบเท้าอย่างขัดใจ ผู้เป็นมารดาเองก็มีสีหน้าย่ำแย่ไม่แพ้บุตรสาว

“แม่ก็เห็นว่านังเจียอี๋ได้ประคำหยกเช่นกัน ดูแล้วฮูหยินผู้เฒ่าคงต้องการประกาศสงครามกับเราเป็นแน่” หว่านผู่เยว่เอ่ย

“เราจะทำอย่างไรดีเจ้าคะท่านแม่ ถ้าท่านย่าเข้าข้างพวกมันเช่นนี้เราก็แย่นะสิ”

“เจ้าไม่ต้องห่วง เตรียมแต่งเข้าจวนตระกูลเหยียนก็พอ ที่เหลือแม่จะจัดการเอง” หว่านผู่เยว่เอ่ยก่อนจะแสยะยิ้มอย่างมีเลศนัย

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ถังซูเจียว ฮูหยินที่ท่านไม่รัก   ตอนพิเศษ 5

    ตอนพิเศษ5งานเลี้ยงถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ราวกับงานประจำปี มีการจัดเลี้ยงถึงเจ็ดวันเจ็ดคืน จัดตั้งโรงทานนานถึงหนึ่งเดือนเต็ม เรียกได้ว่าคนกองธงนั้นไม่ต้องทำอาหารกินกันเป็นเดือนเลยก็ว่าได้ฮ่องเต้ ฮองเฮาและไทเฮาไม่อาจเดินทางมาร่วมงานเลี้ยงได้ จึงได้ส่งของขวัญมาแทน โดยมีตัวแทนเป็นอ๋องเจิ้งหู่เดินทางมาส่งมอบให้ฮองไทเฮาเองก็เช่นกัน เพราะเข้าฝึกตนไม่อาจรับรู้เรื่องภายนอกได้ ผู้เป็นอาจารย์ที่ได้รับจดหมายจึงอาสามาแทน ความจริงคือหาเรื่องออกมาเที่ยวเล่นขนอกภูเขาท่านั้น“ข้าเป็นตัวแทนของฮองไทเฮามาร่วมแสดงความยินดีกับพระชายาและชินอ๋อง นี่เป็นของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ จากข้า”หลี่ซินเหมยผู้เป็นอาจารย์ของฮองไทเฮาเอ่ยพลางยื่นกล่องไม้เรียบ ๆ ให้ถังซูเจียว“ขอบคุณนายหญิงหลี่ที่อุตส่าห์เดินทางมา ไม่ทราบว่าท่านมี ที่พักหรือยังเจ้าคะ หากไม่รังเกียจข้าจะจัดที่พักในจวนให้ท่าน” ถังซูเจียวเอ่ยพลางยิ้มให้ผู้มีพระคุณตรงหน้านางรู้ว่าสตรีตรงหน้าเป็นอาจารย์ของแม่สามีตัวเอง และที่มาในวันนี้นอกจากมาแทนฮองไทเฮาแล้วคงมีธุระอย่างอื่นด้วย“เช่นนั้นรบกวนพระชายาด้วย”“อย่าใช้คำราชาศัพท์กับพวกข้าเลยขอรับ ข้าไม่ได้เป็นชินอ๋

  • ถังซูเจียว ฮูหยินที่ท่านไม่รัก   ตอนพิเศษ 4

    ตอนพิเศษ4หลังจากทิ้งจดหมายไว้ให้ฮ่องเต้แล้ว หวงเฟยหมิงกับถังซูเจียวก็ออกเดินทางท่องเที่ยวตามแผนที่วางไว้ทันทีโดยทิ้งปัญหาทุกอย่างเอาไว้ข้างหลังแบบที่ไม่คิดจะรับผิดชอบใด ๆ ทั้งสิน“ท่านพี่เจ้าคะ เราจจะไปที่ใดก่อนดี ข้าอยากกินอาหารทะเลอีกแล้ว อยากไปเดินเล่นเก็บเปลือกหอยด้วย” นางเอ่ยออดอ้อนสามี ที่ตนกำลังพิงอกเขาอยู่ “เช่นนั้นเราไปเมืองหมิงเว่ยที่กองธงที่หกดีหรือไม่ ที่นั้นมีชายหาดให้เจ้าเดินเล่นด้วย แถมยังมีพระอาทิตย์ตกดินที่งามนัก สามีว่าเจ้าต้องชอบมาก ๆ แน่” เขาตอบอย่างเอาใจนาง แต่ยังไม่ทันได้คุยอะไรกันต่อ ก็มีเสียงตะโกนมาจากนอกรถม้าเสียก่อน เสียงนั่นฟังดูอาฆาตแค้นอย่างมาก“พวกท่านจะหนีไปโดยทิ้งปัญหาไว้เช่นนี้จริง ๆ หรือ ท่านอาออกมามาคุยกับข้าก่อนเลยนะ!!!” เป็นอ๋องเจิ้งหู่นั้นเองทั้งสองหัมมามองหน้ากันทันที นี่นางเดินทางออกจากเมืองหลวงมาไกลตั้งหลายลี้แล้วนะ เหตุใดยังตามมาทันอีก“หยุดรถม้า!!” หวงเฟยหมิงเอ่ยสั่งคนขับรถม้า ขบวนเดินทางของพวกเขาเลยถือโอกาสแวะพักข้างทางไปด้วย“เจียวเจียว เจ้าต้องช่วยข้านะ!!!” เมื่อนางลงจากรถม้าอ๋องเจิ้งหู่ก็ตรงมากอดขานางแน่นทันที พลางร้องห

  • ถังซูเจียว ฮูหยินที่ท่านไม่รัก   ตอนพิเศษ 3.2

    ตอนพิเศษ3.2ฮองไทเฮาเริ่มแผนการโดยให้คนไปเชิญถังซูเจียวมาพบ ทั้งที่ในใจตนเองนั้นตื่นเต้นราวกับกำลังจะได้พบหน้าบุรุษที่ตนเองรักก็ไม่ปาน“ฮองไทเฮาเพคะ ท่านหญิงถังซูเจียวมาถึงแล้วเพคะ” พระนางมองสำรวจหญิงสาวตั้งแต่หัวจรดเท้า แม้ใบหน้าจะซีดเซียวจากพิษไข้ไปบ้าง แต่ก็ยังมองออกถึงความงดงาม"คารวะฮองไทเฮาเพคะ" หญิงสาวตรงหน้าคารวะแบบเต็มพิธีการ พระนางมองคนตรงหน้าเพลินไปหน่อยจนคนของตนเอ่ยทัก“ฮองไทเฮานางไม่สบายอยู่นะเพคะ” นางกำนัลคนสนิทเอ่ยเตือนเบา ๆ พระนางจึงมองค้อนมามาคนสนิทไปเล็กน้อย“ลุกขึ้นเถอะ” เสียงทรงอำนาจเอ่ยขึ้น ถังซูเจียวจึงลุกขึ้นแล้วนั่งลงที่เก้าอี้ว่าง"ขอบพระทัยเพคะ"ระหว่างนั้นมามาคนสนิทก็แสร้งโน้มตัวลงมารินชาให้พระนาง ก่อนจะกระซิบ ข่าวลือ เมืองหลวง"เจ้ารู้หรือไม่ว่าคนที่เมืองหลวงพูดถึงเจ้าว่าอย่างไรบ้าง" ฮองไทเฮาเอ่ยขึ้นทันทีที่นางนั่งลง“ไม่ทราบเพคะ”"หึ!! เช่นนั้นเปิ่นกงจะบอกให้ก็ได้ คนเขาพูดกันทั่วว่าเจ้าเป็นสตรีแพศยา สามีหย่าขาดแล้วจึงรีบหาที่คุ้มหัวใหม่ ยอมแม้กระทั่งเป็นสตรีของชายตัดแขนเสื้ออย่างอดีตชินอ๋อง" แล้วมหกรรมแสร้งขับไล่ว่าที่ลูกสะใภ้ก็เกิดขึ้น พระนางยกเอาทั้งเร

  • ถังซูเจียว ฮูหยินที่ท่านไม่รัก   ตอนพิเศษ 3.1

    ตอนพิเศษ3.1ฮองไทเฮาได้รับข่าวว่าบุตรชายคนเล็กพาสตรีเข้าจวน ตนจึงเร่งเดินทางมาหาทันทีด้วยความร้อนใจแต่ใจจริงคืออย่างมาดูให้เห็นกับตาต่างหาก จึงได้เร่งร้อนจนแทบไม่เอาอะไรไปสักอย่าง หากมามาคนสนิทไม่ห้ามไว้ก่อน พระนางคงควบม้าไปแต่ตัวแล้วกว่าจะเดินทางมาถึงก็ใช้เวลาหลายวันเลยทีเดียว ป่านนี้คนของพระนางที่ส่งมาก่อนคงกำลังแสดงอำนาจอย่างเต็มที่ เพราะพระนางเลือกแต่คนที่หน้าไหว้หลังหลอกมาทั้งนั้นและก็เป็นเช่นนั้นจริง เพียงพระนางก้าวขาลงจากรถม้าก็ได้ยินเสียงร้องโหยหวนแหลมเล็กของเหล่าขันทีดังมาให้ได้ยิน“ฮองไทเฮาต้องท่องไว้นะเพคะ ต้องสง่างาม น่าเกรงขาม และเด็ดขาดให้เหมือนแม่สามีผู้ร้ายกาจ” มามาคนสนิทเอ่ยเตือนนายตนฮองไทเฮาที่มายืนอยู่หน้าจวนบุตรชายสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพยักหน้ารับก่อนจะเดินเข้าจวนไปที่มามาเอ่ยเช่นนั้นเพราะพระนางจะทดสอบว่าที่ลูกสะใภ้ผู้นี้นั่นเอง และที่ผ่านมาในสายตาบุตรชายพระนางเป็นสตรีสูงศักดิ์เกินเอื้อมถึง ทำให้ความสัมพันธ์แม่ลูกไม่ค่อยดีนัก“ฮองไทเฮาเสด็จ!!!” ท่ามกลางเสียงร้องโหยหวยมีเสียงขันทีประกาศการมาถึงของพระนาง ทำให้ทุกคนที่อยู่ในลานกว้างรีบคุกเข่าก้มหน้ากับพื้นทันท

  • ถังซูเจียว ฮูหยินที่ท่านไม่รัก   ตอนพิเศษ 2.3

    ตอนพิเศษ2.3ฮูหยินใหญ่ตระกูลฮุ่ยถึงกับหลั่งเหงื่อเย็น เพราะจากสภาพที่นางพบฮุ่ยเยว่เล่อเมื่อเช้าก็มีความเป็นไปได้ตามที่ชายเหล่านั้นเอ่ยไม่นานบ่าวอาวุโสคนนั้นก็กลับมาด้วยใบหน้าซีดเผือด ก่อนจะเข้ามานั่งคุกเข่าตรงหน้านายท่านหวังตอนนี้เหล่าชายหนุ่มทั้งหลายถูกเชิญเข้ามาคุยกันในจวนแล้ว เพราะแขกเหรื่อที่มางานเริ่มออกมามุงดูอย่างสนใจ“เป็นอย่างไรเจ้าลองพูดมาซิ” นายท่านหวังสั่ง“เออ...สภาพของอี๋เหนียงเล็ก...เออ...”“จะอะไรเจ้าก็รีบพูดมาสิ จะมัวอ้ำอึ้งทำไม” คุณชายหวังเอ่ยอย่างหงุดหงิด“อี๋เหนียงมีสภาพราวกับเพิ่งผ่านคืนวสันต์มาไม่ผิดแน่เจ้าค่ะ ข้าน้อยมีประสบการณ์กล้ารับประกันได้” บ่าวอาวุโสเอ่ยพร้อมกับ ก้มหน้าหลบสายตาทุกคนแต่คนที่อยู่ตรงนั้นตกใจจนทำอะไรไม่ถูก แขกที่มาในงานเริ่มซุบซิบกันจนเกิดเสียงอื้ออึงไปทั่วบริเวณฮูหยินใหญ่หวังนั่นเป็นลมไปแล้ว นายท่านฮุ่ยกับฮูหยินใหญ่ฮุ่ยเองก็ไม่ต่างกันมากนัก ส่วนนายท่านหวังนั่นโกรธจนเลือดขึ้นหน้า“ไปลากตัวนางมา!!!” คุณชายหวังตวาดบ่าวของตน“นายท่านฮุ่ยท่านจะอธิบายเรื่องนี้อย่างไร” นายท่านหวังหันไปถามบิดาฝ่ายเจ้าสาว“ข้าขออภัยนายท่านหวัง เรื่องในวันนี้ข้าขอ

  • ถังซูเจียว ฮูหยินที่ท่านไม่รัก   ตอนพิเศษ 2.2

    ตอนพิเศษ2.2รถม้าเคลื่อนมาหยุดที่หน้าโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง ก่อนจะมีชายรูปร่างสูงใหญ่ใส่หมวกสานเข้ามาอุ้มหญิงสาวบนรถม้าออกไปขึ้นรถม้าอีกคัน“ท่านรู้หรือไม่นั่นน่ะนายท่านของข้าเอง เขามารับภรรยากลับจวนเพราะนางต้องไปเฝ้าไข้มารดาตั้งเป็นเดือน ที่นางหลับไม่รู้เรื่องเช่นนี้คงเพราะนางอ่อนเพลียมากเป็นแน่ น่าสงสารนายหญิงของข้าจริง ๆ ”ชายที่ร่วมคารวานมาด้วยเอ่ยกับหลงจู้โรงเตี๊ยมพลางมองไปที่ผู้เป็นนายทั้งสองอย่างปลาบปลื้มใจ“นายท่านของเจ้าช่างรักภรรยายิ่งนัก ข้าละนับถือจิตใจเขาจริง ๆ ว่าแต่พวกท่านจะเดินทางไปที่ใดงั้นหรือ” หลงจู้เอ่ยถามตามมารยาท“พวกข้าจะไปเมืองหลวงกัน ข้าคงต้องไปแล้วไว้พบกันใหม่” ชายผู้นั้นเอ่ยก่อนจะรีบวิ่งไปขึ้นม้าตัวเอง แล้วคารวานนั้นก็ออกเดินทางไปฮุ่ยเยว่เล่อตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็พบว่าตัวเองอยู่ในห้องที่ประดับไปด้วยผ้าแดง กลิ่นกำยานแสบจมูกจนนางต้องยกมือขึ้นมาปิด“นางตื่นพอดีเลยเจ้าค่ะนายท่าน” เสียงสตรีแหลมเล็กดังขึ้นขณะที่ประตูถูกเปิดเข้ามาภาพตรงหน้าเป็นเฉินโม่วโฉวกับสตรีร่างท้วมแต่งหน้าจัดนางหนึ่ง ด้านนอกมีกลุ่มบุรุษหน้าตาโหดเหี้ยมอีกนับสิบ“ดีเลย นางจะได้รับรู้ถึงความสุขที่ข้

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status