คริก!
แชะ! แสงสว่างจากกล้องที่ส่องเข้ามาแยงตา ทว่านางแบบสาวตรงหน้ากลับไม่มีท่าทีแม้แต่จะกระพริบตา เมื่อเธอทำงานนี้มาจนประสบความสำเร็จ ขึ้นแท่นมาเป็นถึงตัวแม่แห่งวงการนางแบบโด่งดังไปทั่วเมืองฝรั่งเศส แต่น่าเสียดายที่เวลานี้แม้จะมีบริษัทท็อปหลายต่อหลายที่เข้ามาแย่งตัว แต่ก็ถูกเธอปฏิเสธออกไปจนหมด “เรียบร้อยครับ เยี่ยมมากเลยนะครับ ภาพออกมาดีทุกรูป สมกับเป็นคุณพิชชาจริงๆ ผมชื่นชมคุณมากเลยนะครับ ยิ่งคุณออกตัวมาเป็นนางแบบแบรนด์ตัวเองแบบนี้ ทำให้ตอนนี้นํ้าหอมคุณเป็นที่นิยมสุดๆเลยล่ะครับ ภรรยาผมเป็นแฟนคลับตัวยงคุณเลยนะครับ ซื้อนํ้าหอมแบรนด์คุณพิชชาไปสะสมจนผมจะไม่เหลือเงินในบัญชีแล้ว“ ตากล้องเปล่งคำชมออกมาไม่หยุดหย่อน ตามด้วยประโยคติดตลกชวนขำตามหลัง ”แหม คุณชมเกินไปแล้วค่ะฮะๆ ฝากทักทายภรรยาคุณด้วยนะคะ ไว้มีโอกาสพิชจะส่งนํ้าหอมกลิ่นโปรดของพิชไปให้เป็นของขวัญ“ ทุกครั้งที่มีการถ่ายแบบให้เธอเกิดขึ้น ตากล้องจะปริปากชื่นชมเธอในความเป็นมืออาชิพของพิชชาเสมอมา สาวน้อยที่เริ่มเข้าวงการนางแบบตัวคนเดียว เธอใช้เวลาไม่ถึงปีที่จะสร้างชื่อเสียงด้วยความสง่าของเธอ จนตอนนี้ผ่านไปสองปีผู้คนก็เริ่มแต่งตั้งเธอขึ้นมาเป็นตัวแม่แห่งวงการ ถึงเวลานี้เธอจะก้าวออกมาจากการเป็นพรีเซนเตอร์ให้แก่แบรนด์ดังต่างๆเพราะจุดประสงค์ที่หันมาทำแบรนด์นํ้าหอมเป็นธุรกิจส่วนตัว แต่นั่นไม่ได้ทำให้ชื่อเสียงเธอลดลงแม้แต่น้อย มีแต่จะพุ่งขึ้นเรื่อยๆ.. “งั้นไม่อะไรแล้ว พิชขอตัวก่อนนะคะ” หลังจากการสนทนาที่นานมาหลายนาทีสิ้นสุด พิชชาไม่ลืมที่จะเอ่ยลาก่อนจะหันหลังเดินออกมา โดยมีชายร่างสูงรูปร่างหน้าตาดี ผู้มีศักดิ์เป็นผู้ช่วยส่วนตัวของพิชชาเดินตามหลังเธอมาติดๆ ระหว่างทางกลับบ้าน บนรถหรูคันสีชมพูบาร์บี้ พิชชานั่งนิ่งสายตาทอดมองออกนอกหน้าต่าง ภาพรถต่างๆที่แล่นกันไปมาในสายตาของเธอ ทำให้เหม่อลอยเข้าไปในภวังค์แห่งความคิด ทว่าเสียงมือถือที่ดังก้อนขึ้นทำเธอหลุดออกมาจากจินตนาการ (ยัยพิชชชช เมื่อไหร่แกจะกลับมา แกรู้บ้างป่ะเนี่ย ข่าวที่ว่าคุณเดนนิสเรื่องผู้หญิงไม่แผ่วเลย ได้ยินว่ากำลังหลงเด็กคนหนึ่งอยู่หัวปักหัวปําด้วยนะเว้ย!) ทันทีที่สายถูกกดรับ ยังไม่ทันที่จะปริปากทัก ฝั่งตรงข้ามก็ไม่รอช้า สวดเข้ามาเป็นบทจนคนฟังต้องเก็บปากเงียบถึงปลายสายจะกล่าวเสร็จ “งั้นหรอ..”พิชชาเอ่ยปากถามนํ้าเสียงเรียบนิ่ง เมื่อได้ยินถึงเรื่องของชายผู้นั้นที่ฝังลึกอยู่ในหัวใจไม่มีวันสลายหาย ทว่าเท่าที่เธอได้ยิน ดูเหมือนเขาจะแตกต่างจากเธออย่างสิ้นเชิงสินะ (งั้นหรอ…เนี่ยนะ? ไม่รู้แหละ ยังไงมึงก็ต้องรีบกลับมา มึงทำทุกอย่างเพื่อที่จะสามารถยืนอยู่เคียงข้างเค้าอย่างเหมาะสมได้ไม่ใช่หรอ ตอนนี้ไม่มีใครเหมาะสมกับคุณเดนนิสเท่ามึงแล้วยัยพิช!) ปลายสายตะโกนลั่นจนเสียงทะลุออกมาแม้จะไม่ได้เปิดสปีกเกอร์โฟน แต่พิชชากลับนิ่งเฉยดั่งกับว่าชินกับเพื่อนสนิทคนนี้ แม้จะได้ยินเสียงตะโกนลั่นออกมาอีกกี่ครั้งก็คงไม่ตกใจ เธอเอ่ยปากตอบปลายสายไปอย่างใจเย็น “อืม ถึงไทยแล้วค่อยว่ากัน” (ห้ะ ถึงไทย?? แปลว่ามึงจะกลับมาหรอ กรี๊ด!!!) “ตามนั้น” สิ้นสุดคำพูด นิ้วบางกดตัดสายทันที ก่อนจะหันหน้าไปหาชายผู้ช่วยที่กำลังขับรถพร้อมกล่าวสั่งออกมา “เตรียมเครื่องให้ฉันด้วย คืนนี้เราจะกลับไทย ทุกอย่างเพิ่งจะเริ่ม..” “ครับ ผมจะจัดการให้“ ————————————————————— #ประเทศไทย.. ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูดังขึ้นจากด้านนอกห้องประธานแห่งบริษัทยักษ์ใหญ่ในประเทศไทย ชายร่างใหญ่หน้าตาไร้ที่ติ คิ้วเข้มจมูกโด่งปากเป็นเอกลักษณ์ กำลังนั่งจ้องจอคอมตรงหน้าด้วยสีหน้านิ่งเฉย ก่อนเสียงประตูที่ถูกเปิดเข้ามาจะดังขึ้นอีกครา ทว่าสายตาคมยังคงจดเจาะอยู่กับจอคอม “บอสครับ นี่เอกสารของบริษัทที่อยากร่วมทำงานกับเราครับ”แดนกล่าวพรางวางใบเอกสารไว้บนโต๊ะ เดนนิสผละสายตาที่กำลังโฟกัสอยู่บนหน้าจอ หันมามองใบซองเอกสารสีนํ้าตาล “เป็นบริษัทนํ้าหอมครับ เป็นที่นิยมมากในฝรั่งเศส แล้วตอนนี้ก็กำลังเริ่มจะเป็นกระแสในไทยมากขึ้นครับ” “อืม ค่อยมาบอกกูอีกทีเวลานัด” “ครับ…“ “เรียกฟางมาหากูด้วย” “ได้ครับ” แดนรีบก้าวออกไปทำตามคำสั่งเจ้านายอย่างรู้ใจ ไม่นานประตูห้องผู้บริหารก็ถูกเปิดออกอีกครั้ง ทว่าครั้งนี้กลับแตกต่าง เมื่อหญิงที่เดินเข้ามาไม่ลืมที่จะล็อคประตูแน่นหนาอย่างรู้หน้าที่ ก่อนจะเดินเข้ามานั่งบนตักแกร่งคนที่นั่งรออยู่บนเก้าอี้ทำงาน “เดนขาาา~” มืออวบยกขึ้นมาคล้องคออีกคนพร้อมสายตาออดอ้อนเอาใจ คนร่างใหญ่ก็ไม่รอช้า ลูบไล้ต้นขาอวบสาวบนตักอย่างชอบใจพร้อมโน้มหน้าเข้าไปไซร้ต้นคอขาว “อื้มม ใจเย็นๆสิคะ” ปากกล่าวเช่นนั้น แต่ก็รีบยื่นมือไปปลดกระดุมเสื้ออีกคนออกอย่างเร่งรีบ บดเอวเบาๆอยู่บนตักแกร่งเย้าอารมณ์อีกคน ทำเอาเดนนิสหมดความอดทน รีบถอดชิ้นส่วนขวางกั้นบนตัวฟางฟางโยนลงพื้น ก่อนจะซ้อนมือเข้าใต้ก้นหญิงสาวพาเธอไปที่โซฟาขนาดมหึมากลางห้อง หญิงไต้ร่างไม่ลีลา รีบอ้าขาสองข้างออกกว้างรอรับแกนอีกคนเข้ามาอย่างเต็มที่ เดนนิสรีบหยิบถุงยางออกมาสวมใส่เข้าไปอย่างเร่งรีบ ก่อนจะนำแท่งเอ็นยักษ์เสียบเข้าไปในรูสวาททันทีมิดด้าม “อ๊าาาส์“ คนไต้ร่างเปร่งเสียงครางออกมาอย่างเสียวซ่าน ยกมืออวบขึ้นมาคล้องคอหนา ส่วนล่างเปิดรับแรงกระแทกจากแท่งเอ็นใหญ่ที่กำลังแทงเข้าออกอย่างบ้าครั่ง “อ๊าาเดนขาา อื้มมอ๊าาส์ส..เสียวไม่ไหวแล้วค่ะอ๊าา” ปัก ปัก ปัก!เช้ารุ่งวันต่อมา ในยามที่หญิงสาวยังคงหลับไหล เธอไม่รู้ตัวเลยว่าชายคนรักอุ้มเธอขึ้นรถมาด้วย จนถึงท่าเรือไปยันเกาะแห่งหนึ่ง พอลืมตาตื่นก็พบกับเจ้าตัวที่นอนอยู่ในห้องที่ไม่เคยคุ้นตา ทว่าสิ่งแปลกรอบตัวไม่ได้ทำให้เธอเป็นกระวนกระวาย เมื่อมองไปแล้วมีเขานอนกอดอยู่ข้างกาย เวลานี้เธอรับรู้ได้เลยว่าเขาคือพื้นที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับตัวเอง ไม่กี่ชั่วโมงต่อมาก็ถึงเวลาที่ชายผู้หลับไหลอยู่ในอ้อมกอดหญิงสาวลืมตาตื่น จึงพาคนน้องออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์ข้างนอก ทันไดเปิดประตูออกมา ดวงตาคู่สวยเปร่งประกายทันที เมื่อวิวด้านหน้าคือกลางทะเลใหญ่ บนพื้นนํ้ามีเงาของท้องฟ้าสีประกายอากาศบริสุทธิ์ที่ห่างหายมานานแตะเข้าปลายจมูก พิชชารีบเดินต้อนออกไปยืนอยู่กลางแจ้งของมุมหนึ่งบนเรือ ซึ่งมีพร้อมทั้งที่นอนอาบแดด หรือแม้กระทั่งสระว่ายนํ้าในตัว หญิงสาวรีบเดินไปยืนสูดเอาอากาสสดชื่นเข้าปอด มองไปยันวิวด้านหน้าที่ใครได้เห็นก็นำพาแต่ความสงบเจ้าสู่จิตใจ ”อื้มมม สงบสุขที่สุดดด“ ร่างระหงสูดเอาอากาศเข้าเต็มปอด ด้วยรอยยิ้มหวานที่แต่งแต้มบนใบหน้า บ่งบอกว่าเธอพึงพอใจกับมันขนาดไหน ”ขนาดนั้นเชียวหรอพิชชา หื้ม” ชายที่เดินตามหลังมาอดที
“ฉันบอกว่าไม่โอเคไง ไม่รับคนนี้ ไปหาคนใหม่มา!” พิชชาสั่งเสียงลั่น กอดอกมองหน้าสองคนที่ยืนอยู่เบื้องหน้าอย่างเอาจริงเอาจัง บ่งบอกว่าเธอไม่ได้ล้อเล่น ทำเอาชายลูกน้องในสูทดำเหงื่อตกทำตัวไม่ถูก เมื่อผู้เป็นนายเองเอาแต่เงียบ คนที่ออกคำสั่งก็เปรียบเสมือนเจ้านายคนที่สอง ส่วนเลขาสาวที่ยังไม่ทันได้เริ่มทำงานก็กำลังจะถูกไล่ออกนั้นแสดงสีหน้าไม่พอใจออกมาอย่างเห็นได้ชัด “ว่าไงนะคะ!” แนนนี่กัดฟันถาม ผู้หญิงคนนี้คงเป็นแค่เด็กที่ผู้เป็นนายเลี้ยงดูไว้ล่ะสิ มาทำเป็นใช้อำนาจหยิ่งยโส รอให้ตนได้ขึ้นเป็นว่าที่นายหญิงของตระกูลนี้เมื่อไหร่เถอะ จะเอาคืนให้ไม่เหลือแม้แต่ที่ซุกหัวนอนปลายเท้าเลยทีเดียว “ฉันไม่พูดซํ้า” เรียวแขนสองข้างยกขึ้นกอดอกพรางยักคิ้วใส่คนมองข้างนึง เป็นการกวนประสาทที่ได้ผลดีเลยแหละ เมื่อเห็นอีกฝ่ายตอบสนองด้วยสีหน้าที่แดงแปร๊ดดั่งระเบิ่ดจะลงนั่นแล้วก็สาแก่ใจ ยิ่งนึกอยากจะกลั่นแกล้งคนที่คิดแต่จะแย่งผัวชาวบ้าน ใบหน้านวลซบลงบนแผงอกแกร่ง ในขณะที่แววตายังคงจับจ้องอยู่บนหน้าซิลิโคนนั่นไม่ละเลือน “คุณเดนนิสคะ—“เมื่อรอให้เจ้านายปริปากช่วยแต่เขากลับเอาแต่เงียบ จึงตัดสินใจเป็นคนกล่าวเรียกเขาหวังจ
“กรี๊ดดดด!” เสียงกรี๊ดดังสนั่นทั่วห้อง ในขณะที่ในหัวกำลังมีเสียงเรียกจากชายคนหนึ่งดังเข้ามาแทรก ดั่งว่ากำลังร้องเรียกสติให้กลับคืน “พิชชา… พิชชา… น้องเป็นอะไรพิชชา!” “ฮึกกก!” หญิงสาวลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความเหนื่อย ร่างกายเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อที่ผุดออกมา ดั่งกับว่าไปตบตีกับใครมา เมื่อดวงตาเบิ่กกว้างขึ้นสิ่งแรกที่เห็นคือใบหน้าที่คุ้นเคยกำลังโน้มเข้าไกล้เธอพรางเอ่ยเรียกชื่อไม่หยุด ”พิช—-“ เพี๊ยะ!!! คำเรียกยังไม่ทันพ้นคอ ใบหน้าหล่อก็ถูกฝ่ามือเล็กฟาดเข้ามาเต็มแรงจนหันไปตามแรงตบ ทันไดนั้นทั้งความสับสนและอารมณ์หลายอย่างรีบแล่นเข้าสู่โสทประสาท ”ไอ้เดนนิส!!“ ในขณะที่มือหนากำลังกุมพวงแก้มตัวเองพรางครุ่นคิดกับการกระทำของแฟนสาวยังไม่ทันไร ก็มีหมอนใบใหญ่ถูกฟาดเข้าใส่รัวๆจนต้องยกแขนกั้นด้วยความตกใจ “โอ้ยๆ ที่รัก อะไรของน้องเนี่ยโอ้ยย มาตีพี่ทำไม”มือหนารีบคว้าหมอนใบใหญ่ออกจากมืออีกคนเมื่อ พอตั้งตัวได้แล้วมองหน้าแฟนสาวก็เห็นเธอเบ้ปากนํ้าตาคลอเอ่อ ยิ่งนำพาคนมองตกใจกับสิ่งที่เห็น ”พิชชา.. น้องเป็นอะไรครับ หื้อ? ไหนบอกพี่สิ” แม้จะไม่รู้ถึงเหตุผล ทว่าเวลานี้สิ่งเดียวที่สามารถปลอบประโลมแฟนส
ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูดังขึ้นต่อเนื่องกันเป็นสามครั้ง เรียกความสนใจจากเจ้าของห้องที่นั่งหน้าเครียดทำงาน ก่อนจะส่งเสียงอนุญาตให้คนที่ยืนรอบคำตอบอยู่ด้านนอกได้เข้ามา ประตูเปิดออกนำพาสองคนเดินเข้ามาหยุดอยู่เบื้องหน้าโต๊ะทำงานของประธานบริษัท ทว่าคนที่นั่งอยู่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นให้ความสนใจเลย จนลูกน้องต้องเป็นฝ่ายเอ่ยแจ้งจุดประสงค์ที่มาเยือน “บอสครับ นี่คือเลขาคนใหม่ที่จะเข้ามาทำงานแทนคุณพิ้งค์ชั่วคราวครับ เนื้องจากเธอลาป่วย” แดนกล่าวแจ้งผู้เป็นเจ้านายอย่างเป็นทางการ ก่อนหญิงสาวในชุดรัดรูปเข้าทรงสีแดงสดจะกล่าวแนะนำตัวเองเมื่อเดนนิสเงยหน้าขึ้นให้ความสนใจ “สวัสดีค่ะคุณเดนนิส ฉันแนนนี่ค่ะ เรียกแนนเฉยๆก็ได้ค่ะจะได้สะดวก มีอะไรเรียกใช้แนนได้ตลอดเวลาเลยนะคะ” เลขาสาวคนใหม่พูดเสียงละมุน สิ้นสุดบทพูดไม่ลืมที่จะยิ้มหวานให้กับเจ้าชายมาดนิ่งตรงหน้าไปหนึ่งฉาก “อืม ไม่มีอะไรแล้วก็แยกย้ายกันไปทำงานได้แล้ว” คนฟังไม่ได้มีพิธีกงการอะไรมาก หากเข้ามาทำธุระเสร็จแล้วก็แยกย้ายกันไปทำตามหน้าที่ เมื่อสิ่งตรงหน้าไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ขอเพียงแค่ทำงานได้ไม่ตกบกพร่อง พูดเสร็จก้มหน้าทำงานต่อไม่แม้แต่จะให้ควา
“แล้วหลังจากคืนนั้น พี่ก็หาน้องเจอจริงๆ”หญิงสาวอมยิ้มภูมิใจ เมื่อนึกถึงอดีตที่ผ่านมาของเขาและเธอ มันอาจจะเป็นการพบเจอที่แปลก แต่กลับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี “ถ้าพี่หาน้องไม่เจอ พี่จะคว้าน้องมาครอบครองได้ยังไงล่ะ”เดนนิสกล่าวปนขำเบาๆ เด็กสาวที่กล้าเข้ามาท้าทายเขาคืนนี้ กลายเป็นว่าที่ภรรยาเขาอย่างเต็มตัวแล้วในวันนี้ “ถ้าคืนนั้นพี่เป็นพวกโรคจิต น้องคงแย่” คนพูดยํ้า หากแต่เธอโชคไม่ดีแล้วไปเจอกับคนอื่นที่ไม่ใช่เขาคงไม่มีชะตากรรมแบบนี้ “เพราะยังไงน้องก็เชื่อในความโชคดีของตัวเองไงคะ“รอยยิ้มหวานประกบบนใบหน้านวล ก่อนหญิงสาวจะหันหลังเดินก้าวเข้าไปในซอยมืดนั้น โดยมีฝีเท้ายาวคอยก้าวตามหลังอย่างติดๆ “ยังเหมือนเดิมเลยแฮะ เหมือนจะไม่ค่อยมีคนมา” สายตากวาดมองรอบๆแล้วยังคงรับสัมผัสได้ถึงบรรยากาศเดิมดั่งคืนนั้น แม้จะมืดจนน่ากลัวทว่ากลับมีบางสิ่งที่เรียกว่าความสวยงามปนเปรือ “คงไม่มีใครกล้ามาในที่แบบนี้แล้วแหละ นอกจากคนพิเรนอย่างน้อง” เสียงชายหนุ่มดังลอดเข้ามาจากแผ่นหลัง นำพาคนสวยหันมองเจ้าของคำพูดด้วยสีหน้าหมั่นไส้ “แหม พูดอย่างกับพี่ไม่มาเนาะ ถ้าจะพิเรนคงเป็นพี่มากกว่า” คนตัวเล็กแขวะกลับอย่างไม่ยอ
“ที่นี่….” ชายหนุ่มพึมพำออกมาเสียงเบาพรางหันกลับมามองหญิงคนรักอย่างไม่อยากเชื่อสายตา “อื้ม พี่จำได้มั้ย ตอนที่เราเจอกันครั้งแรก” พิชชาพยักหน้าเบาๆผลอยยิ้มหวานให้กับชายที่ยืนมองหน้าเธอ นึกย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์ครั้งแรกที่เธอได้พบกับผู้ชายคนนี้ เมื่อไม่กี่ปีก่อน พิชชาเป็นเดินตามถนนอย่างไร้จุดหมาย เมื่อรู้สึกว่าชีวิตช่วงนี้มีแต่ความน่าเบื่อ เมื่อเดินเข้ามาถึงซอยหนึ่ง สายตาจึงจับจ้องเข้ากับชายร่างโปร่งคนหนึ่งที่ยืนพิงผนังสูบบุหรี่ด้วยท่าทางหล่อเหลานั่น เธอไม่เคยพบกับใครที่สูบบุหรี่ได้หล่อเท่เท่าชายคนนี้มาก่อน แม้จะไม่เห็นรูปร่างเขาชัดเนื่องจากความมืด ทว่าแสงไฟอ่อนๆที่ส่องเข้าไปเผยให้เห็นถึงใบหน้าคมคายจมูกโด่งเป็นสันนั่นทำให้เธอสัมผัสได้ว่าเขาคือเทพบุตร ด้วยนิสัยดื้อรั้นของหญิงสาวเป็นสิ่งที่พาเธอเดินเข้าไปหาชายคนนั้นในซอยที่มืดเปลี่ยวได้อย่างไม่มีความเกรงกลัว “น่าเบื่อชะมัด” ควันบุหรี่ถูกเป่าออกมากระจัดกระจาย ในขณะที่คนสูบกำลังพึมพำถึงความเบื่อหน่ายของชีวิต เสียงฝีเท้าที่เดินไกล้เข้ามาดึงให้เขาเหลือบไปสนใจ สายตาคมจ้องเข้ากับใบหน้านวลของผู้หญิงคนหนึ่งที่ดูสีหน้าเบื่อหน่ายไม่แพ้กับตน เส