แอด…
เสียงเปิดประตูห้องดังขึ้น ‘บุรินทร์’ ละสายตาจากหนังสือกองโตตรงหน้า ถอนหายใจลากยาวเมื่อมองเห็นเด็กน้อยตัวอ้วนกลมผมหน้าม้าแหว่ง สวมชุดเจ้าหญิงฟูฟ่องสีชมพูเดินเข้ามาในห้องนอนส่วนตัวโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต
‘เดมี่’ คือเด็กหญิงลูกครึ่งไทยรัสเซียวัยสิบขวบ ดวงตาของเธอกลมโตเป็นประกายไร้เดียงสา ปากได้รูปเป็นกระจับ มีผิวพรรณนุ่มนิ่มขาวผ่องอมชมพู รูปร่างอวบอ้วนชอบถักผมเปียสองข้าง
เธอเป็นลูกสาวเพื่อนสนิทของพ่อ ครอบครัวทั้งสองมักจะไปมาหาสู่กันอยู่เป็นประจำ
“เข้ามาทำไม”
“มี่เอาของขวัญมาให้” เด็กน้อยบอกผ่านเสียงเจื้อยแจ้ว ค่อยๆ คลานขึ้นไปบนเตียงนอนของชายหนุ่มด้วยความทุลักทุเล “ตุ๊กตาน้องไข่เน่าของมี่เอง”
บุรินทร์ในวัยสิบเก้าปี เขาสวมแว่นสายตากรอบหนา ทรงผมถูกเซตเสยขึ้นโชว์ใบหน้าหล่อเหลาเหมือนที่เธอเคยเห็นอยู่บ่อยๆ เฟยเป็นนักศึกษาคณะแพทย์ เขามีหัวสมองอันหลักแหลม เป็นถึงนักเรียนทุนอันดับหนึ่งของมหาวิทยาลัยชื่อดัง
“เหม็นแต่น้ำลาย เอามาให้ฉันทำไม”
“เดี๋ยวมี่ต้องไปอยู่ไกลแล้ว เวลาเฮียคิดถึงมี่ จะได้กอดตุ๊กตาน้องไข่เน่าตัวนี้ไง” อีกไม่กี่เดือนเดมี่และครอบครัวต้องย้ายถิ่นฐานไปอาศัยอยู่ต่างประเทศ และไม่รู้ว่าจะได้กลับมาที่ประเทศไทยอีกเมื่อไหร่
“แล้วทำไมต้องคิดถึงเธอด้วย”
“เพราะเฮียรักมี่ แล้วมี่ก็รักเฮีย คุณอาบอกเป็นพี่น้องต้องรักกัน”
“ฉันเป็นลูกคนเดียว และฉันก็ไม่เคยเห็นเธอเป็นน้อง!” ไม่พูดเปล่าแต่เขายังโยนตุ๊กตาตัวโปรดสุดหวงของเธอทิ้งลงขยะ
เด็กน้อยเบะปากเมื่อถูกดุ เฮียเฟยไม่ค่อยชอบเธอ มิหนำซ้ำยังออกแนวว่ารำคาญ
“วันนี้ขอเล่นด้วยได้ไหม มี่เหงา ไม่มีเพื่อนเลย” ไปโรงเรียนก็มักจะถูกเพื่อนรุมแกล้งเพราะตัวอ้วน ทำให้เดมี่ไม่มีเพื่อนและมักจะต้องเล่นอยู่คนเดียว
“อ่านหนังสือเตรียมสอบอยู่”
“มี่อยากเล่นกับเฮีย”
เดมี่พูดอย่างไร้เดียงสา จ้องมองชายหนุ่มตาแป๋ว เฮียเฟยของเธอรูปหล่อแต่ดุมาก ส่วนเฮียนินทร์ก็หล่อมากแถมยังใจดี ชอบซื้อของเล่นและขนมมาฝากอยู่เป็นประจำ
“ไม่ว่าง ไปเล่นกับคนอื่นก่อน”
“มี่อยากเล่นกับเฮีย”
“ก็บอกแล้วไงว่าไม่ว่าง อ่านหนังสือเตรียมสอบอยู่”
“แง้ง…” เด็กน้อยทำหน้างอ เบะปากร้องไห้เมื่อถูกดุ เธอเป็นลูกสาวคนเดียวเลยมักจะอยู่อย่างโดดเดี่ยวและถูกเลี้ยงดูมาแบบตามใจ
“อย่าร้องไห้ เสียงดังหนวกหู”
“เล่นกับมี่หน่อยนะ”
“…..” ใบหน้าคมคายเหลือบสายตามองมืออ้วนป้อมของเด็กน้อยที่จับอยู่บนต้นขาพลางทำตาใสออดอ้อน “จะเล่นอะไร”
“เล่นซ่อนหา มี่จะแอบส่วนเฮียเป็นคนหานะ” เดมี่พูดด้วยท่าทางตื่นเต้นที่คนเป็นพี่ยอมใจดีมาเล่นกับเธอ แค่อยากให้เฮียเฟยรักและเอ็นดูเธอบ้าง
“งั้นก็รีบไปแอบสิ”
“เฮียหลับตาก่อนนะ เดี๋ยวมี่จะไปแอบ”
รอยยิ้มบางปรากฏบนใบหน้าหล่อเหลา เฟยหรี่สายตามองเด็กน้อยตัวอ้วนที่รีบวิ่งเข้าไปหลบอยู่ในตู้เสื้อผ้า
แกร๊ก…
“แง้ง…” เสียงร้องไห้กรีดร้องดังลั่นไปทั่วบริเวณห้องนอนหลังจากตู้เสื้อผ้าถูกล็อกจากทางด้านนอก “กลัวนะ ปล่อยมี่ออกไป”
“วุ่นวายดีนัก ก็อยู่ในนั้นนั่นแหละ”
“แง้ง…เฮียเฟย ช่วยด้วย มองอะไรไม่เห็นเลย ช่วยมี่ด้วย”
“เวรฉิบ!” เฟยสบถในลำคอ มองของเหลวสีใสกลิ่นฉุนที่ไหลออกจากตู้เสื้อผ้าเป็นจำนวนมาก
ยัยเด็กอ้วนคนนั้น กลัวจนฉี่ราดใส่เสื้อผ้าราคาแพงของเขา
-หลายวันผ่านไป-
“เฮียเฟย…”
เฟยหันมองตามเสียงเรียกที่คุ้นเคย มองเด็กหญิงตัวอ้วนสวมใส่ชุดนักเรียนวิ่งมาหา
“หยุดวิ่ง! เดี๋ยวล้ม”
“มี่มีขนมมาจากโรงเรียนเพียบเลย กินขนมกันไหม” เด็กหญิงยิ้มกว้างพลางยื่นขนมให้อย่างกล้าๆ กลัวๆ
เดมี่เป็นเด็กดี ว่านอนสอนง่ายเพราะอยากให้เฮียเฟยรักและใจดีกับเธอบ้าง
“เลิกทำตัววุ่นวาย อย่าเข้ามาใกล้” บอกปัดอย่างนึกรำคาญ รีบโยนมวนบุหรี่ที่เพิ่งจุดสูบทิ้งลงบนพื้นก่อนจะใช้ส้นเท้าขยี้มันจนดับ
“หม่ามี้เคยบอกว่าสูบบุหรี่ไม่ดีนะ”
“มันเรื่องของฉัน”
“…..”
“มองอะไร?” นอกจากไล่ไม่ไป เด็กอ้วนคนนี้ยังทำหน้าตาออดอ้อนน่าสงสาร
“ถ้ามี่ไม่อยู่แล้ว เฮียเฟยจะคิดถึงมี่ไหม”
“ทำไมต้องคิดถึง”
“แต่มี่คงคิดถึงเฮียนะ เพราะมี่รักเฮีย” เด็กหญิงพูดอย่างไม่รู้ภาษา ไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าคำว่ารักมันคืออะไร
“…..”
“เฮียรอก่อนนะ ถ้ามี่โตเป็นสาวเมื่อไหร่จะมาขอเฮียเป็นแฟน”
“เด็กแก่แดด!”
“แก่แดดคืออะไร”
“…..”
“ช่วยสอนการบ้านมี่หน่อยได้ไหม”
“จะไปไหนก็ไป รำคาญ”
“แง้ง…เฮียเฟยดุมี่อีกแล้ว”
“ยัยเด็กวุ่นวาย!”
-บ้านของบุรินทร์-ตึกตัก…เสียงของฝีเท้านับสิบดังขึ้นอย่างรีบร้อน ก่อนจะมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องพักภายในคฤหาสน์ของลูกชาย“เดมี่อยู่ไหน” บุรินทร์ภัทรถามลูกน้องคนสนิทอย่างร้อนใจ พอมีคนของบุรินทร์โทรบอกว่าเจอเดมี่ก็รีบขับรถมาหาในทันที“คุณเดมี่อยู่ในห้องครับนายใหญ่”“เดมี่เป็นยังไงบ้าง”“มีอาการขาดน้ำและอ่อนเพลียครับ”แกร๊ก…บานประตูห้องพักถูกเปิดออก บุรินทร์ภัทรค่อยๆ ก้าวเดินเข้าไปหาหลานสาวที่นอนหมดแรงอยู่บนเตียงด้วยความระมัดระวังตามเนื้อตัวของเดมี่มีแต่ร่องรอยฟกช้ำแถมเสื้อผ้าก็ยังดูเก่าเปรอะเปื้อนน่าสงสาร“เดมี่…เดมี่ได้ยินอาไหม”“คุณอาเหรอคะ” หญิงสาวลืมตาขึ้นมองเมื่อได้ยินเสียงเรียก“ใช่! อาแฟรงก์เอง เดมี่จำอาได้ไหม”“…..” หญิงสาวกระพริบตาถี่ๆ พลางจ้องมองใบหน้าของคนที่เพิ่งมาใหม่ ก่อนจะร้องไห้ออกมาอย่างหนัก“ฮึก…คุณอา”“เล่าให้อาฟังว่ามันเกิดอะไรขึ้น หนูมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”“ฮึก…แด๊ดดี้กับหม่ามี้ตายแล้วค่ะ”“หลานไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม”“จดหมายจากแด๊ดดี้ฝากให้คุณอาค่ะ” เดมี่สะอึกสะอื้นยื่นจดหมายฉบับสุดท้ายที่พ่อฝากไว้ให้ก่อนตายส่งถึงมือเพื่อนคนที่ไว้ใจที่สุด“…..”เขารับมันมาด้วยมือสั่นเทา บ
พลั่ก! หญิงสาวเสียหลักล้มลงไปนอนกองที่พื้นเมื่อถูกชายฉกรรจ์ฉุดกระชากหิ้วปีกมาทิ้งข้างทาง คนมากมายที่เห็นเหตุการณ์ต่างไม่มีใครกล้าเข้ามาช่วยเหลือเพราะรู้ดีว่าชายชุดดำกลุ่มนั้นเป็นคนของใคร“ปล่อยฉันนะ!”“ถ้าไม่อยากตาย อย่ากลับมาที่นี่อีก”เดมี่พยุงตัวเองให้ลุกขึ้นยืนทั้งน้ำตา ได้แต่มองตามอย่างสิ้นหวัง แสงสุดท้ายที่เหลือในชีวิตค่อยๆ ดับมืดสนิทมองไม่เห็นหนทางที่จะใช้ชีวิตต่อ-เช้าวันต่อมา-“เฮ้ย…ตื่น! ตื่นได้แล้ว”หญิงสาวปรือตามองด้วยความงัวเงีย ก่อนจะค่อยๆ ขยับตัวลุกขึ้นนั่งด้วยความทุลักทุเลทันทีที่ขยับเพียงนิดก็รู้สึกปวดร้าวระบมเหมือนร่างกายจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ไอความร้อนที่แผ่กระจายผ่านลมหายใจบ่งบอกได้ว่าเธอกำลังป่วยหลังจากที่นอนตากน้ำค้างอยู่ข้างทางมาตลอดทั้งคืน“นี่แกอีกแล้วเหรอ” ชายชุดดำยืนเท้าเอวมองหญิงสาวอย่างรำคาญใจ นังเด็กคนนี้มันดื้อด้านเกินใคร ไล่เท่าไหร่ก็ไม่ยอมไป“ฉันอยากเจอคุณอา”“พูดไม่รู้เรื่องหรือไง“แต่ฉันไม่มีที่ไปจริงๆ พี่พาฉันไปหาคุณอาเถอะนะ ได้โปรด” เดมี่พนมมืออ้อนวอนขอร้องทั้งน้ำตา ยังไงก็ต้องเจอคุณอาให้ได้ เขาเป็นที่พึ่งสุดท้ายเพื่อให้เธอมีชีวิตอยู่ต่อ“เอาไงดีวะ
-สนามบินประเทศไทย-“ฮึก…” ริมฝีปากบางเปล่งเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้น หยดน้ำตารินไหลอาบแก้มทั้งสองข้างครั้งแล้วครั้งเล่าดวงตากลมโตวาดสายตามองอย่างหวาดระแวงพลางกอดกระเป๋าเสื้อผ้าไว้แน่น มองไปทางไหนก็เจอแต่สถานที่แปลกตาไม่คุ้นเคยสิ่งที่ทำได้ตอนนี้คือนั่งก้มหน้าร้องไห้อย่างหมดหนทางเดมี่เติบโตที่ต่างประเทศ เธออ่านภาษาไทยไม่ออก เขียนหนังสือก็ไม่ได้ ทำได้เพียงสื่อสารและพูดคุยให้พอเข้าใจบ้างนิดหน่อย“มีอะไรให้ช่วยหรือเปล่าครับ”“เฮือก!” เดมี่สะดุ้งด้วยความตกใจและตื่นกลัวเมื่อเห็นพนักงานรักษาความปลอดภัยของสนามบินเดินเข้ามาทัก“ไม่ต้องกลัวครับ ผมเป็นพนักงานของที่นี่” เป็นเพราะเห็นเธอนั่งร้องไห้มานานหลายชั่วโมง จึงอยากอาสาเข้ามาช่วย“ฉันอยากไปที่นี่ค่ะ” หญิงสาวพูดเสียงสั่นพลางยื่นนามบัตรให้‘SBD Casino’ ก่อนที่พ่อจะตายท่านได้ให้นามบัตรนี่ไว้กับเธอพร้อมกับจดหมายลายมืออีกหนึ่งฉบับอยู่ที่ต่างประเทศไม่มีญาติพี่น้อง พ่อและแม่ของเธอประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตเมื่อหลายเดือนก่อน เลยต้องอาศัยอยู่ตามลำพังตำรวจสันนิษฐานว่าอาจจะเกิดจากเหตุฆาตกรรมไม่ใช่อุบัติทั่วไป เนื่องจากศัตรูของพ่อมีอิทธิพลมาก เด็กไร้เดีย
-สิบปีผ่านไป-‘ล้อมจับแก๊งค้าอาวุธเถื่อนย่านอรัญประเทศ พบอาวุธสงครามและเครื่องกระสุนเป็นจำนวนมากเตรียมส่งออกมาเล บุกยึดของกลางได้จำนวนไม่ตำกว่าสามร้อยล้านบาท ตำรวจคาดการณ์ทายาทลูกชายตระกูลดังเป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลัง’พรึ่บ!บุรินทร์เหลือบหางตามองเพียงนิดเมื่อถูกแผ่นเอกสารจำนวนมากฟาดเข้าที่ใบหน้าอย่างแรงตอนนี้เขากำลังเป็นที่จับตามองจากสังคมหลังจากถูกตำรวจบุกค้นโกดังสินค้าจนไปเจอหลักฐานสำคัญ“ของเฮียใช่ไหม”“…..”“ทำไมถึงยังไม่เลิกทำงานพวกนี้”“…..” ไม่มีคำตอบจากปากของชายหนุ่ม ‘บุรินทร์’ ในวัยยี่สิบเก้าปี เขาเป็นถึงอดีตแพทย์ฝีมือดีที่ผันตัวมาเป็นนักธุรกิจสืบทอดกิจการต่อจากผู้เป็นพ่อ“ตอบคำถามป๊าด้วย”“…..” บรรยากาศภายในห้องเงียบสงัด ได้ยินเพียงเสียงเครื่องปรับอากาศที่กำลังทำงานอยู่บุรินทร์มองหน้าคนทั้งสองสลับกันเพียงนิด บุรินทร์ภัทร(แฟรงก์-แฝดพี่)คือพ่อผู้ให้กำเนิด ส่วนบุรินทร์วัชร์(ฟริน-แฝดน้อง) คือคนที่เลี้ยงมา ให้ความเคาคนับถือเสมือนพ่อแท้ๆ“ต้องรอให้ป๊าตายก่อนใช่ไหมถึงจะคิดได้”“เอาน่าไอ้แว่น แค่เรื่องเล็กน้อยมึงจะทำให้มีปัญหาทำไม” ผู้เป็นพ่อใบหน้าซีดเผือด หันซ้ายมองขวาอย่างร้อน
แอด…เสียงเปิดประตูห้องดังขึ้น ‘บุรินทร์’ ละสายตาจากหนังสือกองโตตรงหน้า ถอนหายใจลากยาวเมื่อมองเห็นเด็กน้อยตัวอ้วนกลมผมหน้าม้าแหว่ง สวมชุดเจ้าหญิงฟูฟ่องสีชมพูเดินเข้ามาในห้องนอนส่วนตัวโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต‘เดมี่’ คือเด็กหญิงลูกครึ่งไทยรัสเซียวัยสิบขวบ ดวงตาของเธอกลมโตเป็นประกายไร้เดียงสา ปากได้รูปเป็นกระจับ มีผิวพรรณนุ่มนิ่มขาวผ่องอมชมพู รูปร่างอวบอ้วนชอบถักผมเปียสองข้างเธอเป็นลูกสาวเพื่อนสนิทของพ่อ ครอบครัวทั้งสองมักจะไปมาหาสู่กันอยู่เป็นประจำ“เข้ามาทำไม”“มี่เอาของขวัญมาให้” เด็กน้อยบอกผ่านเสียงเจื้อยแจ้ว ค่อยๆ คลานขึ้นไปบนเตียงนอนของชายหนุ่มด้วยความทุลักทุเล “ตุ๊กตาน้องไข่เน่าของมี่เอง”บุรินทร์ในวัยสิบเก้าปี เขาสวมแว่นสายตากรอบหนา ทรงผมถูกเซตเสยขึ้นโชว์ใบหน้าหล่อเหลาเหมือนที่เธอเคยเห็นอยู่บ่อยๆ เฟยเป็นนักศึกษาคณะแพทย์ เขามีหัวสมองอันหลักแหลม เป็นถึงนักเรียนทุนอันดับหนึ่งของมหาวิทยาลัยชื่อดัง“เหม็นแต่น้ำลาย เอามาให้ฉันทำไม”“เดี๋ยวมี่ต้องไปอยู่ไกลแล้ว เวลาเฮียคิดถึงมี่ จะได้กอดตุ๊กตาน้องไข่เน่าตัวนี้ไง” อีกไม่กี่เดือนเดมี่และครอบครัวต้องย้ายถิ่นฐานไปอาศัยอยู่ต่างประเทศ และไม่รู้