-สิบปีผ่านไป-
‘ล้อมจับแก๊งค้าอาวุธเถื่อนย่านอรัญประเทศ พบอาวุธสงครามและเครื่องกระสุนเป็นจำนวนมากเตรียมส่งออกมาเล บุกยึดของกลางได้จำนวนไม่ตำกว่าสามร้อยล้านบาท ตำรวจคาดการณ์ทายาทลูกชายตระกูลดังเป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลัง’
พรึ่บ!
บุรินทร์เหลือบหางตามองเพียงนิดเมื่อถูกแผ่นเอกสารจำนวนมากฟาดเข้าที่ใบหน้าอย่างแรง
ตอนนี้เขากำลังเป็นที่จับตามองจากสังคมหลังจากถูกตำรวจบุกค้นโกดังสินค้าจนไปเจอหลักฐานสำคัญ
“ของเฮียใช่ไหม”
“…..”
“ทำไมถึงยังไม่เลิกทำงานพวกนี้”
“…..” ไม่มีคำตอบจากปากของชายหนุ่ม ‘บุรินทร์’ ในวัยยี่สิบเก้าปี เขาเป็นถึงอดีตแพทย์ฝีมือดีที่ผันตัวมาเป็นนักธุรกิจสืบทอดกิจการต่อจากผู้เป็นพ่อ
“ตอบคำถามป๊าด้วย”
“…..” บรรยากาศภายในห้องเงียบสงัด ได้ยินเพียงเสียงเครื่องปรับอากาศที่กำลังทำงานอยู่
บุรินทร์มองหน้าคนทั้งสองสลับกันเพียงนิด บุรินทร์ภัทร(แฟรงก์-แฝดพี่)คือพ่อผู้ให้กำเนิด ส่วนบุรินทร์วัชร์(ฟริน-แฝดน้อง) คือคนที่เลี้ยงมา ให้ความเคาคนับถือเสมือนพ่อแท้ๆ
“ต้องรอให้ป๊าตายก่อนใช่ไหมถึงจะคิดได้”
“เอาน่าไอ้แว่น แค่เรื่องเล็กน้อยมึงจะทำให้มีปัญหาทำไม” ผู้เป็นพ่อใบหน้าซีดเผือด หันซ้ายมองขวาอย่างร้อนรน นานมากแค่ไหนแล้วที่ไม่เห็นได้น้องชายโมโหจนฟิวส์ขาดเลือดขึ้นหน้าขนาดนี้
“เล็กน้อยอะไรไอ้แฟรงก์ ลูกเราทำเกินไปนะ”
“เดี๋ยวกูจัดการเรื่องนี้เอง มึงจะทำให้เป็นเรื่องใหญ่ทำไม”
“เพราะเฟยมีพ่อแบบมึงไง ให้ท้ายลูกจนไม่รู้อะไรถูกผิด”
“ถ้ามึงจะด่าก็ด่ากูคนเดียว แต่อย่าว่าเฮีย” แฟรงก์เดินเข้าไปขวางหน้าระหว่างคนทั้งสอง รีบออกหน้ารับแทนลูกชาย
“มึงจำคำกูไว้นะ ถ้ายังคุมลูกไม่ได้แบบนี้ อีกไม่นานมึงคงได้ฉิบหายทั้งหมดนี้แน่!” ฟรินถอนหายใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า มองหน้าคนทั้งสองอย่างเอือมระอา มันเลี้ยงลูกตามใจให้ท้ายจนเสียผู้เสียคน บุรินทร์ถึงมีนิสัยก้าวร้าว หัวรุนแรงไม่ฟังใคร
ปึง! บานประตูห้องทำงานถูกปิดดังลั่นพร้อมกับบุรินทร์วัชร์ที่เดินออกจากห้องไปด้วยอารมณ์เดือดดาล ขืนทนอยู่ต่อไป คงอดไม่ไหวหยิบปืนขึ้นมาเป่าสมองสองพ่อลูกตรงนี้แน่
“หมดธุระหรือยัง ถ้าเสร็จจะได้กลับ” บุรินทร์ถามผ่านน้ำเสียงเรียบนิ่ง ล้วงหยิบมวนบุหรี่ที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อขึ้นมาจุดสูบต่อหน้าผู้เป็นพ่อ
“ดูเหมือนว่าครั้งนี้ป๊าฟรินจะโกรธจริง เฮียรีบไปขอโทษเลยนะ” แฟรงก์รีบเดินเข้าไปหาลูกชายหัวแก้วหัวแหวนที่นั่งอยู่
บนตักของบุรินทร์มีตุ๊กตากระต่ายเก่าๆ ที่คอยถือไปไหนมาไหน เขาหวงมันมากคนรอบตัวต่างรู้ดี
“ขอโทษทำไม ผมทำอะไรผิด ที่พวกมันตายก็สมควรแล้ว”
“แต่ป๊าว่าครั้งนี้เฮียทำเกินไป” ผู้เป็นพ่อหันซ้ายมองขวา กระซิบบอกลูกชายข้างใบหู
“เป็นคนสอนเองไม่ใช่เหรอ ไม่ให้หายใจอยู่ร่วมโลกกับศัตรู” ฝ่ามือหนาลูบไล้ตุ๊กตาตัวโปรดราวกับหวงแหนมันนักหนา ก่อนจะคลี่ยิ้มบางเย็นยะเยือกจนทำให้ผู้เป็นพ่อรีบขยับตัวถอยห่าง “ใครที่มันทำให้เราผิดหวัง อย่าคิดจะเก็บมันไว้!”
“…..”
…
-SBD Casino-
ตึกตัก…
เสียงฝีเท้านับสิบดังขึ้นอย่างรีบร้อน ลูกน้องชายฉกรรจ์ชุดดำที่อยู่บริเวณนั้น ต่างรีบพากันวิ่งวุ่นเข้ามาต้อนรับผู้เป็นนายที่เพิ่งมาถึง
ชายหนุ่มวาดสายตามองไปบริเวณโดยรอบ ก่อนจะก้าวขาลงจากรถตู้คันหรูราคาแพงที่กระจกรอบคันปิดทึบด้วยฟิล์มดำมืด ตัวรถถูกห่อหุ้มด้วยเกาะกันกระสุนชนิดพิเศษ
ความสูงของเขาราวๆ หนึ่งร้อยเก้าสิบเซนติเมตร ริมฝีปากคาบมวนบุหรี่ สีหน้าเรียบนิ่งดูไร้อารมณ์กับสิ่งรอบข้าง ตัดผมทรงสกินเฮดจนเกือบจะติดหนังหัว ใบหน้าเข้มดุรับกับดวงตาเฉี่ยวคม ทำให้ดูน่าเกรงขามจนลูกน้องพากันก้มหน้าหลบสายตา
ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง พ่นควันบุหรี่จนลอยคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ ตามหลังมีลูกน้องคนสนิทคอยเดินประกบทั้งซ้ายและขวา
ใบหน้าคมคายเคลือบไปด้วยหยาดเหงื่อจนเงาวับ เหมือนคนที่เพิ่งผ่านการออกกำลังกายมาอย่างหนักหน่วง หุ่นหนาอัดแน่นไปด้วยมัดกล้ามเนื้อ
‘บุรินทร์’ คือทายาทเพียงคนเดียวของบุรินทร์ภัทร เจ้าของกาสิโนแห่งนี้ อีกไม่นานเขาจะเลื่อนขั้นขึ้นมาเป็นผู้บริหารเต็มตัวแทนผู้เป็นพ่อ
เขาถูกขนานนามกลายเป็นที่รู้จักและยกย่องมีอิทธิพลบารมีกว้างขวางอยู่แถวหน้าในแวดวงธุรกิจสีเทา
บุรินทร์ประสบความสำเร็จสร้างเม็ดเงินได้มหาศาลจนถูกขนานนามตั้งแต่อายุยังน้อยจากเส้นทางที่ผู้เป็นพ่อเตรียมไว้ให้ จนกลายเป็นที่ยอมรับทำให้มีผู้คนมากมายคอยก้มหัวให้ความเคารพนับหน้าถือตา
แต่ในเมื่อมีคนรักมากก็ย่อมมีคนเกลียดมากด้วยเช่นกัน นิสัยเด็ดขาดไม่ยอมอ่อนข้อให้ใครหน้าไหน ทำให้บุรินทร์เป็นที่จับตามองของฝ่ายตรงข้าม ไม่ว่าจะทำอะไรจึงต้องเพิ่มความระมัดระวังขึ้นไปอีก
“กว่าจะเจอตัวเป็นๆ ได้ ยากเย็นเหลือเกินนะเสี่ย”
เสียงทักทายของเพื่อนสนิทช่วยดึงความสนใจจากชายหนุ่มอีกครั้ง
“พวกมึงพากันเสนอหน้าเข้ามาทำไม” บุรินทร์หย่อนตัวนั่งลงบนเก้าอี้ประจำตำแหน่ง มองคนทั้งสองด้วยความรำคาญใจ
เดรกซ์และน็อกซ์ คือเพื่อนสนิทที่เติบโตมาด้วยกัน รู้จักมาตั้งแต่สมัยหัวเกรียนเรียนมัธยมชายล้วน
“คิดถึงเสี่ยน่ะสิ ไม่เจอเกือบครึ่งปี เป็นยังไงบ้าง” กว่าจะเจอเพื่อนรักอย่างตัวเป็นๆ แบบนี้ได้ลำบากลำบนยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร บุรินทร์เข้าถึงยากแถมยังต้องนัดล่วงหน้าเป็นเดือนๆ
“ไม่ต้องบ้าน้ำลาย มีอะไรก็พูดมา”
“เดือนหน้าผมมีธุรกิจที่กำลังจะเปิดใหม่ เลยอยากมาอาศัยบารมีของเสี่ยคุ้มกะลาหัวสักหน่อย” เดรกซ์มองหน้าเพื่อนสนิทก่อนจะยิ้มให้อย่างรู้ใจกัน หยิบเช็คเงินสดจำนวนถึงแปดหลักวางลงบนโต๊ะ “จำนวนตัวเลขเล็กๆ น้อยๆ พอจะเป็นค่าเสียเวลาให้เสี่ยได้ไหม”
“ก็ตามนั้น”
“ขอบคุณมากครับที่กรุณา”
“…..” บุรินทร์ไม่ได้ตอบคำถาม ชำเลืองมองไปยังคนแปลกหน้าที่นั่งอยู่ทางด้านหลังของเพื่อนสนิท
“พวกผมกลัวเสี่ยจะเหงา ผมเลยหาคนมาเล่นเป็นเพื่อน”
นายแบบหุ่นแน่นผิวขาวหน้าตาจัดเข้าขั้นว่าหล่อเหลาไม่ใช่เล่น ส่วนอีกคนเป็นถึงนักแสดงสาวสวยดาวรุ่งสัดส่วนอวบอั๋น
“เด็กใหม่ผมเอง อยากพามาฝากเนื้อฝากตัวกับเสี่ย” เพราะรู้ว่าบุรินทร์มีรสนิยมเป็นไบเซ็กชวลที่ชอบได้ทั้งเพศชายและเพศหญิง ถ้าพบเจอใครที่ถูกชะตาต้องใจ มันจัดได้หมดไม่มีติด “วันนี้เสี่ยอยากได้แบบไหนเลือกเอาสิ หรือถ้าถูกใจ…เสี่ยจะเอาทั้งหมดก็ย่อมได้”
“บอกคนของมึงไปรอในห้อง เดี๋ยวกูตามไป”
“แต่ช่วยเบามือกับน้องมันหน่อยนะ พอดีคนของผมมีงานต่อ”
“คนของมึงมันกระจอกเอง จะมาโทษกูฝ่ายเดียวไม่ได้”
“เชิญตามสบายเลยเสี่ย เดี๋ยวพวกผมกินเหล้านั่งเฝ้าน้องไข่เน่าให้เอง” เดรกซ์ได้แต่มองตามแผ่นหลังของเพื่อนสนิทที่เดินหายเข้าไปในห้องพักส่วนตัว
“…..”
“ว่าไงไอ้เน่า ไม่เจอกันนานแกดูเก่าขึ้นเยอะเลยนะ” เดรกซ์หยิบตุ๊กตาตัวโปรดของบุรินทร์ที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานขึ้นมาจับ ก่อนจะขยี้มันเบาๆ แล้วโยนเล่นไปมา “ตุ๊กตาเก่าราคาถูก ทำไมพ่อแกถึงหวงนักหนา”
ตุบ! กำปั้นหนักๆ ของไอ้น็อกซ์ทุบลงบนหลังของเขาอย่างแรงแบบไม่ทันได้ตั้งตัว
“ไอ้น็อกซ์ ไอ้เวร! หลังกูแทบหัก”
“ไปจับของมันทำไม อยากตายหรือไง รีบวางลง!”
-บ้านของบุรินทร์-ตึกตัก…เสียงของฝีเท้านับสิบดังขึ้นอย่างรีบร้อน ก่อนจะมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องพักภายในคฤหาสน์ของลูกชาย“เดมี่อยู่ไหน” บุรินทร์ภัทรถามลูกน้องคนสนิทอย่างร้อนใจ พอมีคนของบุรินทร์โทรบอกว่าเจอเดมี่ก็รีบขับรถมาหาในทันที“คุณเดมี่อยู่ในห้องครับนายใหญ่”“เดมี่เป็นยังไงบ้าง”“มีอาการขาดน้ำและอ่อนเพลียครับ”แกร๊ก…บานประตูห้องพักถูกเปิดออก บุรินทร์ภัทรค่อยๆ ก้าวเดินเข้าไปหาหลานสาวที่นอนหมดแรงอยู่บนเตียงด้วยความระมัดระวังตามเนื้อตัวของเดมี่มีแต่ร่องรอยฟกช้ำแถมเสื้อผ้าก็ยังดูเก่าเปรอะเปื้อนน่าสงสาร“เดมี่…เดมี่ได้ยินอาไหม”“คุณอาเหรอคะ” หญิงสาวลืมตาขึ้นมองเมื่อได้ยินเสียงเรียก“ใช่! อาแฟรงก์เอง เดมี่จำอาได้ไหม”“…..” หญิงสาวกระพริบตาถี่ๆ พลางจ้องมองใบหน้าของคนที่เพิ่งมาใหม่ ก่อนจะร้องไห้ออกมาอย่างหนัก“ฮึก…คุณอา”“เล่าให้อาฟังว่ามันเกิดอะไรขึ้น หนูมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”“ฮึก…แด๊ดดี้กับหม่ามี้ตายแล้วค่ะ”“หลานไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม”“จดหมายจากแด๊ดดี้ฝากให้คุณอาค่ะ” เดมี่สะอึกสะอื้นยื่นจดหมายฉบับสุดท้ายที่พ่อฝากไว้ให้ก่อนตายส่งถึงมือเพื่อนคนที่ไว้ใจที่สุด“…..”เขารับมันมาด้วยมือสั่นเทา บ
พลั่ก! หญิงสาวเสียหลักล้มลงไปนอนกองที่พื้นเมื่อถูกชายฉกรรจ์ฉุดกระชากหิ้วปีกมาทิ้งข้างทาง คนมากมายที่เห็นเหตุการณ์ต่างไม่มีใครกล้าเข้ามาช่วยเหลือเพราะรู้ดีว่าชายชุดดำกลุ่มนั้นเป็นคนของใคร“ปล่อยฉันนะ!”“ถ้าไม่อยากตาย อย่ากลับมาที่นี่อีก”เดมี่พยุงตัวเองให้ลุกขึ้นยืนทั้งน้ำตา ได้แต่มองตามอย่างสิ้นหวัง แสงสุดท้ายที่เหลือในชีวิตค่อยๆ ดับมืดสนิทมองไม่เห็นหนทางที่จะใช้ชีวิตต่อ-เช้าวันต่อมา-“เฮ้ย…ตื่น! ตื่นได้แล้ว”หญิงสาวปรือตามองด้วยความงัวเงีย ก่อนจะค่อยๆ ขยับตัวลุกขึ้นนั่งด้วยความทุลักทุเลทันทีที่ขยับเพียงนิดก็รู้สึกปวดร้าวระบมเหมือนร่างกายจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ไอความร้อนที่แผ่กระจายผ่านลมหายใจบ่งบอกได้ว่าเธอกำลังป่วยหลังจากที่นอนตากน้ำค้างอยู่ข้างทางมาตลอดทั้งคืน“นี่แกอีกแล้วเหรอ” ชายชุดดำยืนเท้าเอวมองหญิงสาวอย่างรำคาญใจ นังเด็กคนนี้มันดื้อด้านเกินใคร ไล่เท่าไหร่ก็ไม่ยอมไป“ฉันอยากเจอคุณอา”“พูดไม่รู้เรื่องหรือไง“แต่ฉันไม่มีที่ไปจริงๆ พี่พาฉันไปหาคุณอาเถอะนะ ได้โปรด” เดมี่พนมมืออ้อนวอนขอร้องทั้งน้ำตา ยังไงก็ต้องเจอคุณอาให้ได้ เขาเป็นที่พึ่งสุดท้ายเพื่อให้เธอมีชีวิตอยู่ต่อ“เอาไงดีวะ
-สนามบินประเทศไทย-“ฮึก…” ริมฝีปากบางเปล่งเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้น หยดน้ำตารินไหลอาบแก้มทั้งสองข้างครั้งแล้วครั้งเล่าดวงตากลมโตวาดสายตามองอย่างหวาดระแวงพลางกอดกระเป๋าเสื้อผ้าไว้แน่น มองไปทางไหนก็เจอแต่สถานที่แปลกตาไม่คุ้นเคยสิ่งที่ทำได้ตอนนี้คือนั่งก้มหน้าร้องไห้อย่างหมดหนทางเดมี่เติบโตที่ต่างประเทศ เธออ่านภาษาไทยไม่ออก เขียนหนังสือก็ไม่ได้ ทำได้เพียงสื่อสารและพูดคุยให้พอเข้าใจบ้างนิดหน่อย“มีอะไรให้ช่วยหรือเปล่าครับ”“เฮือก!” เดมี่สะดุ้งด้วยความตกใจและตื่นกลัวเมื่อเห็นพนักงานรักษาความปลอดภัยของสนามบินเดินเข้ามาทัก“ไม่ต้องกลัวครับ ผมเป็นพนักงานของที่นี่” เป็นเพราะเห็นเธอนั่งร้องไห้มานานหลายชั่วโมง จึงอยากอาสาเข้ามาช่วย“ฉันอยากไปที่นี่ค่ะ” หญิงสาวพูดเสียงสั่นพลางยื่นนามบัตรให้‘SBD Casino’ ก่อนที่พ่อจะตายท่านได้ให้นามบัตรนี่ไว้กับเธอพร้อมกับจดหมายลายมืออีกหนึ่งฉบับอยู่ที่ต่างประเทศไม่มีญาติพี่น้อง พ่อและแม่ของเธอประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตเมื่อหลายเดือนก่อน เลยต้องอาศัยอยู่ตามลำพังตำรวจสันนิษฐานว่าอาจจะเกิดจากเหตุฆาตกรรมไม่ใช่อุบัติทั่วไป เนื่องจากศัตรูของพ่อมีอิทธิพลมาก เด็กไร้เดีย
-สิบปีผ่านไป-‘ล้อมจับแก๊งค้าอาวุธเถื่อนย่านอรัญประเทศ พบอาวุธสงครามและเครื่องกระสุนเป็นจำนวนมากเตรียมส่งออกมาเล บุกยึดของกลางได้จำนวนไม่ตำกว่าสามร้อยล้านบาท ตำรวจคาดการณ์ทายาทลูกชายตระกูลดังเป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลัง’พรึ่บ!บุรินทร์เหลือบหางตามองเพียงนิดเมื่อถูกแผ่นเอกสารจำนวนมากฟาดเข้าที่ใบหน้าอย่างแรงตอนนี้เขากำลังเป็นที่จับตามองจากสังคมหลังจากถูกตำรวจบุกค้นโกดังสินค้าจนไปเจอหลักฐานสำคัญ“ของเฮียใช่ไหม”“…..”“ทำไมถึงยังไม่เลิกทำงานพวกนี้”“…..” ไม่มีคำตอบจากปากของชายหนุ่ม ‘บุรินทร์’ ในวัยยี่สิบเก้าปี เขาเป็นถึงอดีตแพทย์ฝีมือดีที่ผันตัวมาเป็นนักธุรกิจสืบทอดกิจการต่อจากผู้เป็นพ่อ“ตอบคำถามป๊าด้วย”“…..” บรรยากาศภายในห้องเงียบสงัด ได้ยินเพียงเสียงเครื่องปรับอากาศที่กำลังทำงานอยู่บุรินทร์มองหน้าคนทั้งสองสลับกันเพียงนิด บุรินทร์ภัทร(แฟรงก์-แฝดพี่)คือพ่อผู้ให้กำเนิด ส่วนบุรินทร์วัชร์(ฟริน-แฝดน้อง) คือคนที่เลี้ยงมา ให้ความเคาคนับถือเสมือนพ่อแท้ๆ“ต้องรอให้ป๊าตายก่อนใช่ไหมถึงจะคิดได้”“เอาน่าไอ้แว่น แค่เรื่องเล็กน้อยมึงจะทำให้มีปัญหาทำไม” ผู้เป็นพ่อใบหน้าซีดเผือด หันซ้ายมองขวาอย่างร้อน
แอด…เสียงเปิดประตูห้องดังขึ้น ‘บุรินทร์’ ละสายตาจากหนังสือกองโตตรงหน้า ถอนหายใจลากยาวเมื่อมองเห็นเด็กน้อยตัวอ้วนกลมผมหน้าม้าแหว่ง สวมชุดเจ้าหญิงฟูฟ่องสีชมพูเดินเข้ามาในห้องนอนส่วนตัวโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต‘เดมี่’ คือเด็กหญิงลูกครึ่งไทยรัสเซียวัยสิบขวบ ดวงตาของเธอกลมโตเป็นประกายไร้เดียงสา ปากได้รูปเป็นกระจับ มีผิวพรรณนุ่มนิ่มขาวผ่องอมชมพู รูปร่างอวบอ้วนชอบถักผมเปียสองข้างเธอเป็นลูกสาวเพื่อนสนิทของพ่อ ครอบครัวทั้งสองมักจะไปมาหาสู่กันอยู่เป็นประจำ“เข้ามาทำไม”“มี่เอาของขวัญมาให้” เด็กน้อยบอกผ่านเสียงเจื้อยแจ้ว ค่อยๆ คลานขึ้นไปบนเตียงนอนของชายหนุ่มด้วยความทุลักทุเล “ตุ๊กตาน้องไข่เน่าของมี่เอง”บุรินทร์ในวัยสิบเก้าปี เขาสวมแว่นสายตากรอบหนา ทรงผมถูกเซตเสยขึ้นโชว์ใบหน้าหล่อเหลาเหมือนที่เธอเคยเห็นอยู่บ่อยๆ เฟยเป็นนักศึกษาคณะแพทย์ เขามีหัวสมองอันหลักแหลม เป็นถึงนักเรียนทุนอันดับหนึ่งของมหาวิทยาลัยชื่อดัง“เหม็นแต่น้ำลาย เอามาให้ฉันทำไม”“เดี๋ยวมี่ต้องไปอยู่ไกลแล้ว เวลาเฮียคิดถึงมี่ จะได้กอดตุ๊กตาน้องไข่เน่าตัวนี้ไง” อีกไม่กี่เดือนเดมี่และครอบครัวต้องย้ายถิ่นฐานไปอาศัยอยู่ต่างประเทศ และไม่รู้