บทที่ 1.1 คนแรกของวีวี่
ห้าปีก่อน
“เอาแต่นั่งซึมกะทืออย่างนี้ก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาหรอกนะ ถ้าแกไม่รู้จักลุกขึ้นมาสู้ แกก็จะสูญเสียทุกอย่างไป รวมถึงสมบัติของพ่อกับแม่แกด้วย”
น้ำเสียงหวานแอบห้าวเอ่ยด้วยความเป็นห่วง ‘สาวิตรี’ เพื่อนรักของจารวี ที่นอกจากจะเปรี้ยวจี๊ดเข็ดฟันแล้ว ยังเป็นที่เลื่องลือเรื่องผู้ชาย หลายคนในมหาวิทยาลัยรู้ว่าหล่อนทำงานไซด์ไลน์ และเคยมีบางคนมาใช้บริการด้วยซ้ำ แต่ถึงอย่างนั้น ความจริงใจและตรงไปตรงมาของผู้หญิงคนนี้ก็ทำให้เธอเปิดใจมอบมิตรภาพให้จนเป็นเพื่อนกันมาถึงปัจจุบัน
นับเวลาดูก็สองปีแล้ว และยังเป็นสองปีที่เป็นรูมเมทแชร์ห้องกันมาอีกด้วย
“แกจะให้ฉันสู้ยังไง นั่นคุณป้านะ คุณพ่อกับคุณแม่คงไม่สบายใจแน่ ๆ ถ้าฉันทำตัวเนรคุณแบบนั้น”
คนฟังถึงกับต้องถอนหายใจ อยากจะทึ้งหัวคนพูดเพื่อเตือนสติสักรอบ
“คนแบบนั้นแกยังนับเป็นป้าอีกเหรอ นอกจากจะฮุบมรดกของแกแล้ว ฉันยังไม่เห็นป้าแกจะทำเรื่องดี ๆ อะไรให้แกเลยสักอย่าง ขนาดผัวป้าเข้าหาแก ป้าแกยังจะเข้าข้างผัวเลย! แถมทำแกเจ็บแสบสารพัด”
“เบา ๆ สิแก อมโทรโข่งไว้ในปากหรือไง”
เธอรีบดึงตัวเพื่อนรักให้นั่งลงตามเดิม เมื่ออีกฝ่ายเริ่มจะอินกับเหตุการณ์ในชีวิตของเธอมากเกินไป
“เอางี้ ฉันไปกับแกเอง ไปทวงเงิน ทวงของทุกอย่างที่เป็นของแกคืน เพราะถ้าแกไม่ทำ…แกไม่ได้เรียนต่อจนจบแน่ แกจะเอาค่าเทอมจากไหนมาจ่าย”
“ฉันถึงได้มาปรึกษาแกไง ว่าจะหาเงินค่าเทอมจากที่ไหนดี”
สาวิตรีรู้ทันทีว่าอีกฝ่ายไม่มีทางบุกไปหาป้าของตนเองแน่ ๆ ไม่ว่าจะเงินทอง บ้าน รถ ทุกอย่างที่ป้าของจารวีใช้อยู่ในตอนนี้ ล้วนเป็นมรดกจากบิดามารดาของหล่อนทั้งสิ้น
“บอกตามตรงเลยนะ แกมาปรึกษาฉันได้ยังไง แกก็รู้ว่าฉันทำงานอะไร ฉันเป็นนักศึกษาไซด์ไลน์ งานที่ไม่ได้มีเกียรติ ไม่ได้มีศักดิ์ศรีอะไรเลย แถมยังโดนดูถูกเหยียดหยามเป็นประจำ แกคิดว่าฉันจะแนะนำอะไรแกได้”
“ไม่เกี่ยวสักหน่อย แกเป็นคนดีจะตายไป แล้วก็เป็นเพื่อนรักของฉันด้วย”
จารวีเอื้อมมือไปจับมือของเพื่อนซี้ ถึงใครจะมองอีกฝ่ายว่าอย่างไรเธอก็ไม่เคยสนใจ
“ขอบใจนะ มีแต่แกนี่แหละ ที่ยังให้ค่าความเป็นมนุษย์ฉันบ้าง”
“ว่าแต่…งานแบบที่แกทำ มันได้เงินดีจริง ๆ เหรอ”
สาวิตรีหรี่ตามองคนถามด้วยความสงสัย ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นจะอยากรู้เรื่องแบบนี้ วันนี้นึกคึกอะไรถึงได้อยากรู้กัน
“แกคงไม่ได้คิดจะ…”
“ไม่รู้สิ ฉันก็ลังเลอยู่”
หล่อนถอนหายใจอย่างคิดหนัก ตั้งแต่เกิดมายี่สิบปี แฟนสักคนยังไม่เคยมีเลยด้วยซ้ำ แต่กลับอาจหาญอยากจะลองทำงานแบบสาวิตรีดูบ้าง
เขาเรียกไม่เจียมใช่ไหม…
“คิดให้ดีนะเว้ย วงการนี้เข้าแล้วออกยากนะ เพราะงานมันไม่ได้มีอะไร ที่ต้องทำก็แค่นอนอ้าขาเท่านั้น แต่มันก็เป็นงานที่ได้เงินง่ายที่สุดแล้ว แถมเว็บไซต์ที่ฉันลงสมัครเอาไว้ก็สามารถเลือกลูกค้าได้ด้วยนะ ต่อให้ลูกค้าจะเลือกเรามาแล้ว แต่ถ้าเราไม่โอเคกับเบ้าหน้ามัน ก็ยกเลิกได้เลย ฉันชอบตรงนี้นี่แหละ”
คนฟังได้แต่ยิ้มแห้ง เธอไม่ได้รังเกียจงานแบบนี้ เพียงแต่เกิดมาเป็นคนอ่อนแอ ไม่มีความกล้าอะไรสักอย่าง เลยไม่มั่นใจว่าจะสามารถทำงานนี้ไปได้จนสุดทางหรือเปล่า
“แล้วถ้า…ฉันอยากจะรับลูกค้าแค่หนึ่งหรือสองคน พอให้มีเงินมาจ่ายค่าเทอมล่ะ จะได้หรือเปล่า”
“ถ้าจะรับแค่นั้นจ่ายเงินเปิดแอคเคาน์ไปคงไม่คุ้มหรอก งั้นเอางี้ แกเอาแอคเคาน์ของฉันไปใช้มั้ยล่ะ พอได้เงินตามที่แกต้องการแล้วก็เลิกทำ”
บทที่ 35.2 ให้รางวัล NC คนตัวสูงถูกดึงไปนั่งที่โซฟาก่อนหญิงสาวจะขึ้นไปนั่งคร่อมทับอยู่บนตักแกร่ง นิ้วมือเรียวไล้ไปตามมัดกล้ามที่ปรากฏให้เห็น เธอเลียริมฝีปากราวกับพบของอร่อยอยู่ตรงหน้า“ยั่วเก่งขึ้นนะเรา”“ฉันโตแล้วนี่คะ ก็ต้องมีพัฒนากันบ้าง”คำตอบของเธอทำเอาเขานึกถึงวันแรกที่เจอจารวี ตอนนั้นเธอยังดูเป็นลูกแมวน้อยที่น่ารังแกอยู่เลยมือใหญ่ทำการปลดสายเดี่ยวของชุดนอนลงไปตามไหล่มนก่อนจะตกไปกองอยู่ตรงเอวคอด เผยให้เห็นสองเต้าอวบอิ่ม ที่ไม่ว่าจะได้ลิ้มชิมรสสักกี่ครั้งก็ไม่เคยพอ เควินก้มลงไปแลบลิ้นเลียเข้าที่ยอดถันนั้นกระทั่งมันชูชันโต้ตอบ“อ๊ะ…”เสียงครางหวานเบา ๆ หลุดออกมา มือเล็กเกาะเกี่ยวไหล่แกร่งของชายหนุ่มเอาไว้ เมื่อเขายังคงโลมเลียอกอวบอย่างตะกละตะกลามเควินเลื่อนฝ่ามือต่ำลงไปยังบั้นท้ายกลมกลึงแล้วบีบเคล้น เธอบดเบียดร่างกายเข้าหาเขา ความปรารถนาปะทุขึ้นจนยากจะดับ หวามไหวไปกับทุกส่วนที่มาเฟียหนุ่มปรนเปรอให้ไม่ว่าจะเมื่อไหร่ ร่างกายของเธอกับเขาก็ยังคงเข้ากันได้ดีเสมอ ท่านประธานรู้จุดเสียวของหญิงสาวเป็นอย่างดี เช่นเดียวกับที่เธอเองก็รู้จุดที่จะทำให้ชายหนุ่มรู้สึกดีไม่แพ้กันค่ำคืนอันเร่า
บทที่ 35.1 ให้รางวัล ‘ตอนนี้ที่บ้านใกล้ล้มละลายแล้วล่ะค่ะ ตัวของน้าเองก็ตั้งใจว่าจะกลับบ้านนอกเพราะคุณผู้หญิงคงไม่มีเงินจ่ายเงินเดือนให้น้าแล้ว ข้าวของในบ้านก็มีเจ้าหนี้มาเตรียมยึดทรัพย์เอาไปทั้งหมด มีทั้งหนี้ในระบบ นอกระบบ อีกไม่นานบ้านหลังนี้ก็คงถูกธนาคารยึดแล้วขายทอดตลาดแล้วล่ะค่ะ’ น้าแจ่มเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟังด้วยสีหน้าถอดใจ อาจเป็นเพราะรักและผูกพันกับบ้านหลังนี้ด้วยทำงานกับบิดามารดาของหญิงสาวมานาน แต่เมื่อรู้ว่าบ้านจะต้องถูกยึดก็เลยอดรู้สึกเศร้าใจไม่ได้‘แล้วทำไมน้าแจ่มถึงไม่ลาออกไปตั้งนานแล้วล่ะคะ ทนอยู่ทำไม’‘น้าทนอยู่เพื่อรอคุณหนูค่ะ ได้แต่หวังว่าสักวันคุณหนูจะกลับมาแล้วบอกน้าว่าคุณหนูยังสบายดี ขอแค่ไม่ต้องมีห่วงเรื่องของคุณหนูอีกน้าก็ไปจากที่นี่ได้อย่างหมดห่วง’ จารวีมองคนตรงหน้าทั้งน้ำตา ไม่เคยรู้เลยว่าเหตุผลที่ทำให้น้าแจ่มยังคงทนอยู่กับลุงและป้าจะเป็นเพราะเธอ ‘หนูขอโทษนะคะ ที่คิดถึงแต่ตัวเองจนลืมไปเลยว่าในบ้านหลังนี้ยังมีน้าแจ่มที่รักและเป็นห่วงหนูจริง ๆ อยู่ ขอโทษนะคะที่ทำให้ต้องอดทนรอหนูมาตั้งหลายปี’ เธอยกมือไหว้แล้วก้มลงกราบแทบตักของน้าแจ่ม การที่ได้รู้ว่ายังมีใค
บทที่ 34.2 เบอร์หนึ่งในชีวิตพอเลิกงาน ตะวันก็มารับจารวีตามที่หญิงสาวส่งข้อความไปบอก ทั้งสองพากันมาที่บ้านใหญ่โตหลังหนึ่งซึ่งอยู่ภายในหมู่บ้านของพวกคนมีอันจะกิน ชายหนุ่มไม่เข้าใจเลยว่าเธอขอให้เขาพามาที่นี่ทำไม“บ้านใครเหรอวี”“บ้านเก่าของวีเอง เมื่อก่อนวีอาศัยอยู่ที่นี่กับพ่อแม่ แต่พอพวกท่านเสียไป วีก็เลยหนีออกมา”คนฟังเบิกตากว้างทันที เขาจำเรื่องราวพวกนี้ได้เพราะสาวิตรีเล่าให้ฟังบ่อยมากเรื่องที่หญิงสาวถูกผู้เป็นป้าฮุบมรดกทั้งหมดไป“ที่นี่เองเหรอ แล้ววีมาทำไม หรือมีหนทางจะเอาทุกอย่างกลับคืนมาแล้ว”หญิงสาวรีบส่ายหน้าปฏิเสธ เธอไม่ได้ต้องการทรัพย์สมบัติอะไรคืนทั้งนั้น ก่อนจะตัดสินใจหนีออกมาก็ตั้งใจแล้วว่าจะยกทุกอย่างให้ผู้เป็นป้าไปเพื่อแลกกับอิสรภาพของตนเอง“วีไม่ได้มาเพราะเรื่องนั้น แต่มีบางอย่างที่วีอยากจะรู้ แล้วต้องรู้ให้ได้”“อะไรเหรอ”ตะวันอดถามไม่ได้ ในเมื่อเธอเป็นคนขอให้เขาพามา ก็ย่อมต้องบอกให้อีกฝ่ายรับรู้บ้างว่ากำลังทำอะไรอยู่“เร็ว ๆ นี้จะมีการประมูลสัมปทานกาสิโนทางตอนใต้ของประเทศ มูลค่าการประมูลสูงกว่าพันล้าน และในรายชื่อตัวเก็งของผู้ประมูลทั้งหมดนอกจากท่านประธานของเคกรุ๊ปแล้
บทที่ 34.1 เบอร์หนึ่งในชีวิตแม้เธอจะขอร้องตะวันให้ช่วยปิดเรื่องของเควินเป็นความลับจากสาวิตรี แต่ก็ไม่รู้เลยว่ามันจะเป็นความลับไปได้อีกนานแค่ไหน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเควินเอาแต่ทำตัวติดกับเธอจนเป็นที่น่าสังเกตแบบนี้[คุณจารวี เข้ามาพบผมที่ห้องหน่อยครับ]คนตัวเล็กได้แต่ตีหน้ายุ่งอย่างคาดโทษ หล่อนเพิ่งออกมาจากห้องเขายังไม่ถึงห้านาทีเลยด้วยซ้ำ ชายหนุ่มก็กดเรียกให้เข้าไปหาอีกแล้วโชคดีที่บริเวณนี้มีโต๊ะทำงานของเธอแค่คนเดียว เพราะโต๊ะของการะเกดก็ว่างด้วยเจ้าตัวลาคลอดไปเรียบร้อยแล้ว ไม่อย่างนั้นพนักงานคนอื่นคงผิดสังเกตกันแย่“ได้ค่ะท่านประธาน”ในเวลางานแบบนี้มีแต่ต้องจำยอมไปหาตามคำสั่งเท่านั้น เมื่อไปถึงก็เคาะประตูพอเป็นพิธีก่อนจะเปิดเข้าไป หากถามว่าอีกฝ่ายมีธุระอะไรหรือไม่ เธอก็ตอบได้ทันทีเลยว่าไม่มีหมับ!“คิดถึงจังเลยครับ”นั่นปะไร คิดเอาไว้ไม่มีผิดว่าต้องเรียกมาด้วยเรื่องไร้สาระอย่างแน่นอนเควินที่แอบอยู่หลังประตูตรงเข้ามากอดจากทางด้านหลังทันทีที่เธอเดินเข้ามา เขาหอมแก้มซ้ายขวาราวกับไม่ได้เจอกันมานานหลายปี ทั้งที่เธอเพิ่งเดินออกไปเมื่อไม่กี่นาทีก่อน“ท่านประธานต้องหยุดทำอย่างนี้ได้แล้ว
บทที่ 33.2 ตะวัน“คืออย่างนี้นะตะวัน ไม่รู้ว่าตะวันจำได้หรือเปล่า ที่วีกับสาเคยบอกตะวันเกี่ยวกับเรื่องรักแรกและแฟนคนแรกของวี”คนฟังทำท่านึกอยู่ครู่หนึ่งก่อนพยักหน้า แม้จะนานมากแล้วแต่เขาก็พอจำเรื่องราวได้บ้าง เอาเข้าจริงทั้งสองคนเล่าเรื่องนั้นให้ฟังเฉพาะแค่ตอนเมา เวลาปกติแทบจะไม่เล่าอะไรเลยด้วยซ้ำ“คนที่สาบอกว่าทิ้งวีไปใช่มั้ย”“ใช่แล้ว พอดีพวกเราได้กลับมาเจอกันอีกครั้งโดยบังเอิญ แล้ว…”จารวีหยุดคำพูดเอาไว้ที่ตรงนี้ ด้วยไม่รู้ว่าจะอธิบายต่ออย่างไรดี หากแต่คนฟังกลับสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง ดวงตาคมหม่นลงเมื่อความคิดหนึ่งผุดขึ้นในหัว“หรือว่า…วีกลับไปคบกับเขา”“ตะวัน…”หล่อนเรียกชื่อเขาเสียงเบา การไม่ปฏิเสธก็เหมือนเป็นการตอบรับสิ่งที่ตะวันพูด ชายหนุ่มอยากจะยิ้มแต่ก็ฝืนไม่ไหว รอบดวงตาเริ่มแดงก่ำ ถึงอย่างนั้นก็พยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลลงมาสุดฤทธิ์“แต่ผู้ชายคนนั้นทิ้งวีไปไม่ใช่เหรอ ถ้าเขาทำแบบเดิมอีกจะทำยังไง ตะวันไม่อยากเห็นวีต้องเจ็บอีกแล้วนะ”เขาจับมือเธอแล้วมองด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วง ถึงในใจจะเจ็บเมื่อรู้ว่าหญิงสาวตัดสินใจกลับไปหาคนเก่า แต่ความรักความเป็นห่วงที่ชายหนุ่มมีให้
บทที่ 33.1 ตะวัน“คุณวีล่ะครับคุณการะเกด”เควินที่ตั้งใจจะกลับบ้านพร้อมกับจารวีเดินเข้ามาถามเลขาส่วนตัวที่กำลังเก็บของเพื่อจะกลับบ้านเมื่อถึงเวลาเลิกงาน“ออกไปแล้วค่ะท่านประธาน พอได้เวลาเลิกงานก็รีบออกไปเลย รู้สึกเหมือนจะมีนัดนะคะ”“นัดกับใครครับ ?”แฟนของเธอก็ยืนทนโท่อยู่ตรงนี้ แล้วยังมีคนอื่นให้นัดกันอีกอย่างนั้นหรือ ในใจของชายหนุ่มว้าวุ่นไปหมด ยิ่งการกลับมาคบกันครั้งนี้ถูกปิดเอาไว้เป็นความลับ เขาก็ยิ่งกังวลว่ามันจะจบลงเมื่อไหร่ก็ได้“ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ ฉันไม่ได้ถามเอาไว้ ให้เกดโทรตามให้มั้ยคะ”“ไม่ต้องครับ เดี๋ยวผมจัดการเอง แล้วคุณจะกลับบ้านเลยหรือเปล่า ให้ผมไปส่งมั้ย ?”คนตัวสูงเปลี่ยนเรื่องแล้วถามอีกฝ่ายด้วยความเป็นห่วง“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวสามีของเกดมารับ ขอบคุณท่านประธานมากนะคะ สามเดือนหลังจากนี้หวังว่าทุกอย่างจะราบรื่น ถ้ามีอะไรให้เกดช่วยก็โทรมาได้เลยค่ะ เกดจะรีบแว้นมาเลย”“ขอบคุณมากนะครับ แล้วนี่ส่งงานต่อทั้งหมดให้กับคุณจารวีแล้วใช่มั้ย”เขาถามต่อ สายตาสอดส่องมองไปที่โต๊ะของการะเกดว่ายังมีเอกสารหรืองานอะไรหลงเหลืออยู่หรือไม่“เรียบร้อยหมดแล้วค่ะ ท่านประธานไม่ต้องห่วงเลย วันนี