Share

ไข่พะโล้คืออะไร?

last update Terakhir Diperbarui: 2025-08-30 09:34:54

ระหว่างนั้นหลี่เหมยก็ได้ยินเสียงสนทนาของฮูหยินสองคนดังมาจากมุมหนึ่งของร้าน ฮูหยินทั้งสองแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าราคาแพง มีเครื่องประดับเงินทองเต็มศีรษะ

"ท่านพี่ ข้ากลัดกลุ้มใจนัก สามีของข้ากำลังเจอปัญหาใหญ่ ผู้ตรวจการพร้อมคณะกำลังจะมาที่นี่ แต่คนที่ข้าให้ไปหาซื้อของสดกลับชิ่งหนีไปเพราะหาของตามที่ข้าต้องการไม่ได้ ตอนนี้เหลือเวลาเพียงพรุ่งนี้เท่านั้น หากยังหาวัตถุดิบไม่ได้คงเป็นเรื่องใหญ่แน่"

ฮูหยินเจ้าเมืองพูดด้วยสีหน้าที่เป็นกังวล ญาติผู้พี่ของนางซึ่งเป็นเจ้าของร้านผ้าจึงกล่าวว่า

"น้องหญิงอย่าเพิ่งร้อนใจไปเลย เดี๋ยวข้าจะช่วยอีกแรงหนึ่ง ว่าแต่วัตถุดิบที่เจ้าหามีอะไรบ้างหรือ"

ภรรยาเจ้าเมืองจึงยื่นรายการให้สหายดู ในรายการเขียนว่า ปลาสดขนาดใหญ่ 50 ตัว เนื้อวัว 100 จิน เนื้อหมู 80 จิน เป็ด 100 ตัว ผักสดและผลไม้อีกจำนวนมาก

"ถึงเนื้อหมูกับเป็ดพอจะหาได้ แต่ปริมาณก็ไม่เพียงพอที่ต้องใช้" เจ้าของร้านผ้าพูดอย่างหนักใจ

หลี่เหมยได้ยินแบบนั้นก็หูผึ่ง หากนางสามารถนำของเหล่านี้ออกมาขายได้ นางก็คงมีเงินเก็บซ่อมแซมบ้าน หรือไม่ก็ซื้อบ้านหลังใหม่ ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของเด็ก ๆ ดีขึ้นได้ในเร็ววัน

ขณะเดียวกันคน
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terbaru

  • ทะลุนิยายมาเป็นคุณแม่ลูกสี่ นำพาครอบครัวสู่ความรุ่งโรจน์   จบบริบูรณ์

    การสูญเสียที่ไม่อาจยอมรับได้ทำให้หลี่เหมยเลือกที่จะจบชีวิตตัวเองลงด้วยอาการตรอมใจ แต่ในห้วงเวลาสุดท้ายของการจากไป จิตใจของเธอกลับสงบและเต็มไปด้วยความรักที่บริสุทธิ์ การยอมสละทุกสิ่งในชีวิตเพื่อช่วยเหลือเด็กกำพร้า ทำให้เธอได้สร้างบุญกุศลอันยิ่งใหญ่ ที่ได้กลายเป็นสะพานเชื่อมให้เธอกลับไปสู่จุดจุดเดิมที่ห้วงคะนึงโหยหาอีกครั้งประตูสู่โลกใบเก่าในห้วงเวลาที่ลมหายใจสุดท้ายกำลังจะสิ้นสุดลง วิญญาณของหลี่เหมยพลันหลุดลอยออกมาจากร่างที่ผ่ายผอม เธอพบว่าตัวเองยืนอยู่ในสถานที่อันว่างเปล่าที่เต็มไปด้วยหมอกควันสีขาวเย็นยะเยือก รอบกายไม่มีสิ่งใด นอกจากความเงียบงันและอุณหภูมิที่หนาวเหน็บ ทันใดนั้นเอง เสียงลึกลับที่เคยพาเธอมายังโลกแห่งนิยายในครั้งแรก ก็ดังขึ้นอีกครั้ง"หลี่เหมย... เจ้าได้สร้างบุญกุศลอันยิ่งใหญ่ด้วยการสละทรัพย์สินทั้งหมด เพื่อช่วยเหลือเด็กกำพร้าได้นับร้อยชีวิต ความดีงามของเจ้าได้กลายเป็นแสงสว่างนำทางให้แก่ดวงวิญญาณของเจ้า และด้วยความรักที่บริสุทธิ์ที่เจ้ามีต่อครอบครัว บุญกุศลนี้จึงได้ตอบแทนเจ้า"หลี่เหมยเงียบฟังอย่างตั้งใจ หัวใจของเธอเต้นระรัวด้วยความหวังที่ริบหรี่"เราจะให้โอกาสเจ้าอี

  • ทะลุนิยายมาเป็นคุณแม่ลูกสี่ นำพาครอบครัวสู่ความรุ่งโรจน์   ความคิดถึง

    เสียงเครื่องวัดชีพจรในห้องคนป่วยดัง "ติ๊ด…ติ๊ด…ติ๊ด…" เนิ่นนานกว่าหนึ่งปีเต็ม ที่ร่างของหลี่เหมยนอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลแห่งนี้ สีหน้าของเธอนั้นสงบราวกับคนที่หลับใหลไปในห้วงนิทราอันยาวนานข้างกายของหลี่เหมย มีเพียงป้าหลัว หญิงวัยกลางคนที่จงรักภักดี คอยดูแลเธออย่างใกล้ชิดไม่เคยห่างกาย ถึงจะมีพยาบาลพิเศษคอยดูแลเรื่องต่าง ๆ แต่ป้าหลัวก็จะคอยพูดคุยกับร่างที่ไร้การตอบสนองนั้นด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความหวัง ราวกับเชื่อมั่นว่าสักวันหนึ่งเจ้านายของตนจะกลับมากระทั่งเช้าวันหนึ่ง แสงตะวันสีทองอ่อน ๆ สาดส่องลอดผ่านผ้าม่านบาง ๆ เข้ามาในห้อง ดวงตาที่ปิดสนิทของหลี่เหมยค่อย ๆ กะพริบขึ้นอย่างเชื่องช้า นิ้วมือเรียวเล็กขยับสั่นไหวเล็กน้อย ราวกับกำลังไขว่คว้าจับต้องบางสิ่ง ป้าหลัวที่นั่งหลับอยู่ข้างเตียงสะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจ เมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงนั้น ดวงตาของเธอเบิกกว้างด้วยความยินดี ก่อนจะรีบคว้ามือของเจ้านายเอาไว้แน่น"คุณหลี่! คุณหลี่ฟื้นแล้วหรือคะ!" เสียงของป้าหลัวสั่นเครือด้วยความตื้นตันใจและดีใจจนแทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ทันทีที่ได้รับแจ้งผ่านสัญญาณ พยาบาลและแพทย์ก็รีบเข้ามาตรวจ

  • ทะลุนิยายมาเป็นคุณแม่ลูกสี่ นำพาครอบครัวสู่ความรุ่งโรจน์   คำอำลา

    เสียงสะอื้นแผ่วเบาของเด็ก ๆ ทั้งสามดังลอดออกมาจากเรือนนอนที่เงียบสงัด ราวกับสายลมเศร้าที่กำลังร่ำร้องปลุกปลอบวิญญาณของผู้เป็นย่าให้ตื่นขึ้นมา ทว่า...ความเงียบวังเวงกลับเป็นสิ่งเดียวที่โอบล้อมอยู่เซียวติ้งเซิงก้าวเข้ามาด้วยฝีเท้าหนักอึ้ง ใจที่เคยแข็งแกร่งยิ่งกว่าหินผากำลังแหลกสลายอย่างไม่อาจต้าน ดวงตาคมของเขาเบิกกว้าง ก่อนจะพร่ามัวด้วยหยาดน้ำตาเมื่อเห็นภาพตรงหน้าหลี่เหมยนอนนิ่งบนเตียง ผิวซีดขาวเย็นชืดประหนึ่งหยกที่ไร้ชีวิตชีวา มีร่างเล็กจ้อยของซางหนิงอิงซบอยู่กลางอก มือเล็ก ๆ ตบเบา ๆ ราวกับจะปลุกให้ท่านย่าลืมตา ซางจื้อคุกเข่าอยู่ข้างเตียง กอบกุมมือที่เย็นเฉียบไว้แน่น ดวงตาบวมช้ำด้วยน้ำตา ซางหยวนนอนข้างน้องสาวสะอื้นจนตัวสั่นไม่ยอมห่างไปไหน"ท่านย่า...ตื่นเถอะขอรับ...อาจื้ออยู่ตรงนี้แล้ว...ได้โปรดอย่าทิ้งพวกเราไป...""ต้านย่า...ต้านย่ากลับมาก่อน...ฮึก...อย่าไปนะ..."หัวใจของเซียวติ้งเซิงแทบแตกสลาย เขาก้าวเข้าไปอย่างโซซัดโซเซ ก่อนทรุดนั่งลงข้างเตียง มือใหญ่สั่นเทาขณะประคองร่างบอบบางของหลี่เหมยขึ้นมากอดแนบอก ความเย็นชืดนั้นแทงทะลุเข้าถึงกระดูก"อาเหมย...เหตุใดเจ้าจึงจากไปเช่นนี้ ข้าตั้งใ

  • ทะลุนิยายมาเป็นคุณแม่ลูกสี่ นำพาครอบครัวสู่ความรุ่งโรจน์   ท่านย่าไม่รักหยวนหยวนแล้วหรือขอรับ!

    ยามเย็นของวันนั้น แสงอาทิตย์ค่อย ๆ ลาลับทิวเขา สาดทาบเป็นสีทองเรื่อไปทั่วทุ่งนา เสียงจิ้งหรีดเริ่มขับขานทำนองแห่งรัตติกาล กลิ่นหอมจากครัวเล็ก ๆ ของจวนสกุลหลี่ก็ลอยอบอวลไปทั่วทุกห้องบนโต๊ะไม้เรียบง่ายกลางเรือน มีอาหารเรียงรายครบครัน ทั้ง ปลาช่อนทอดสามรส ผัดหน่อไม้ น้ำแกงรากบัวตุ๋นกระดูกหมู กลิ่นหอมอบอวล ชวนให้น้ำลายสอ ทั้งหมดนั้นคืออาหารที่ครั้งหนึ่งหลี่เหมยเคยทำให้ลูก ๆ ลิ้มรส และบัดนี้ถูกถ่ายทอดไปสู่มือหลี่หลินกับเสี่ยวม่าย ที่ตั้งใจปรุงรสราวกับได้รำลึกความหลัง นางทอดสายตามองอาหารตรงหน้าแล้วหัวใจสั่นสะท้าน เหมือนทุกอย่างย้อนคืนกลับสู่วันเก่า ช่วงเวลาแรกที่นางเข้ามาอยู่ในร่างนี้"โอ้โห กับข้าวพวกนี้ทำให้ลูกคิดถึงบ้านหลังเก่าของเรานะขอรับท่านแม่ ลูกยังจำวันที่เราไปสับหน่อไผ่แล้วก็จับงูมาขายได้ขึ้นใจเลย" หลี่ซุนเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นอาหารตรงหน้า"จริงด้วย วันที่พวกเราขึ้นเขาไปเก็บรากบัว ไปจับปลาช่อนตัวใหญ่ ก็เหมือนเพิ่งผ่านไปไม่นาน แม้กระทั่งวันที่พวกเราวิ่งหนีเสือครั้งนั้นลูกก็ยังจำได้ขึ้นใจ" หลี่ซานเอ่ยขึ้นบ้างเมื่อนึกถึงเรื่องราวเก่า ๆ"แม่ก็คิดถึง ช่วงเวลานั้นแม่มีความสุขมากเลยนะ"ห

  • ทะลุนิยายมาเป็นคุณแม่ลูกสี่ นำพาครอบครัวสู่ความรุ่งโรจน์   ลูกจะไม่ทำให้ท่านแม่ผิดหวัง

    หลายเดือนต่อมา หลังจากที่หลี่เหมยและครอบครัวได้ตั้งรกรากในเมืองเทียนฉางอย่างมั่นคง นางก็เริ่มครุ่นคิดถึงเรื่องที่อยู่อาศัยอย่างจริงจังตั้งแต่แรกนางหมายใจว่าจะซื้อบ้านที่เหมาะแก่การอยู่อาศัยพร้อมหน้าพร้อมตา แต่เมื่อดูอยู่หลายแห่งก็ยังไม่ถูกใจ บ้างก็แคบเกินไป บ้างก็ทรุดโทรมเสียจนต้องซ่อมใหม่หมดสิ้น ใช้เงินมากกว่าที่นางตั้งใจไว้เสียอีกพอฮูหยินผู้เฒ่าเซียวรู้จึงได้บอกให้นางมาดูจวนที่อยู่ติดกัน จวนนี้มีการจัดสรรพื้นที่อย่างเป็นสัดส่วน จวนประเภทนี้สะท้อนให้เห็นถึงรสนิยมและความมั่งคั่งของผู้เป็นเจ้าของ โดยมีรูปแบบจตุรนิเวศ ซึ่งเป็นการสร้างอาคารสี่หลังล้อมรอบลานกว้างไว้ตรงกลาง จวนประเภทนี้เหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่ที่อาศัยอยู่ร่วมกัน เนื่องจากที่นี่เป็นเมืองรอง ไม่ใช่เมืองหลวง ราคาจึงอยู่ที่ 2000 ตำลึง เท่าที่หลี่เหมยหาข้อมูลมา ทว่าจวนหลังนี้นางกลับซื้อได้เพียง 1000 ตำลึงเท่านั้น ช่างโชคดียิ่งนักแต่สิ่งที่นางไม่รู้ก็คือเซียวติ้งเซิงคือผู้อยู่เบื้องหลัง หลายเดือนมานี้เขาไม่ยอมไปทำการค้าต่างแคว้นนาน ๆ เหมือนเคย ไปก็เพียงใกล้ ๆ 1 สัปดาห์ก็รีบกลับมา แถมยังชอบหาของฝากมาให้ลูกหลานของนางอยู่ตลอดบ

  • ทะลุนิยายมาเป็นคุณแม่ลูกสี่ นำพาครอบครัวสู่ความรุ่งโรจน์   จุดจบของสกุลหวัง

    ณ ตรอกเล็ก ๆ ที่อยู่ไม่ไกลจากร้านเต้าหู้สกุลหลี่ บรรยากาศอับชื้นและเย็นยะเยือก หวังเฟยฮวา สตรีผู้ซึ่งมีใบหน้าเต็มไปด้วยความริษยา พูดคุยอย่างออกรสกับญาติผู้น้อง ที่นางจ้างมาเพื่อแสดงละคร "พวกเจ้าสองคนต้องแสดงให้แนบเนียน อย่าให้พวกมันจับพิรุธได้รู้หรือไม่""ข้ารู้แล้วน่าพี่หญิง ว่าแต่ถ้าข้าทำสำเร็จ เมื่อได้เงินมาแล้ว 100 ตำลึงต้องเป็นของข้าตามที่ตกลงกันไว้นะ" เจิ้งฉือญาติห่าง ๆ ของนางกล่าวย้ำชัดถึงข้อตกลงอีกครั้ง"ข้ารู้แล้ว หากทำสำเร็จ เงินก็อยู่ในมือพวกเจ้ามิใช่หรือ พวกเจ้าก็หักไว้เลย 100 ตำลึง ส่วนที่เหลือค่อยเอามาให้ข้า ขอเพียงได้มาจ่ายหนี้พนันให้อาจงก็พอ เรื่องอื่น ๆ ค่อยว่ากันอีกทีหลังจากนี้"หวังเฟยฮวาตอบด้วยน้ำเสียงที่ไม่สบอารมณ์ พูดจบสองสามีภรรยา เจิ้งฉือและเจิ้งหว่านหรู ก็เริ่มการแสดงที่ซักซ้อมกันมาอย่างดี เจิ้งฉือล้มตัวลงนอนในเปลหาม ส่วนเจิ้งหว่านหรูก็รีบเอาผ้าคลุมสีขาวปิดหน้าสามีเอาไว้ แล้วสั่งให้ลูกชายทั้งสองของพวกเขาหามผู้เป็นพ่อเดินตรงไปที่หน้าร้านเต้าหู้สกุลหลี่"ช่วยด้วย...ช่วยด้วยเจ้าค่ะ" เจิ้งหว่านหรูร้องห่มร้องไห้ "...""มาดูความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของเ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status