บทที่ 12 ขนมอร่อย
หลังจากที่ซูเม่ยเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเธอเดินลงมาด้านล่างเห็นชิงเถากับยูร์เหยามานั่งเล่นที่ห้องนั่งเล่นทั้งสองจ้องมองเธอด้วยสายตาไม่พอใจอย่างมากก่อนที่แม่สามีจะลุกเดินมาหาเธอ
“แหม แหมแต่งตัวอย่างนี้คิดจะยั่วยวนให้เฉาจื่อลูกชายของฉันไม่ยอมหย่ากับเธอใช่ไหม ไหนปากบอกว่าจะหย่ากับลูกชายของฉันเมื่อเขากลับมาอย่างไรล่ะ”
"ฉันเองก็อยากจะหย่ามาก ๆ ค่ะ แต่ไม่ว่าจะพูดอย่างไรลูกชายของคุณแม่ไม่ยอมหย่าสักที คุณแม่ไม่ลองพูดเรื่องนี้กับลูกชายเองละคะ ส่วนเรื่องเสื้อผ้าไม่ว่าจะแต่งแบบไหนถ้าเขาไม่สนใจก็ไม่สามารถดึงดูดเขาได้หรอกคะ " ซูเม่ยพูดก่อนจะเดินออกไปรอด้านนอกเห็นท่าทางของชิงเถาที่อยากขับไล่เธออกจากบ้านเต็มทน จนเธอไม่อยากจะมีปากเสียงด้วย
ไม่นานเฉาจื่อได้เดินลงมาด้านล่างพร้อมอ้ายเยว่
เด็กน้อยเห็นคุณย่ารีบวิ่งไปหาเธอทั้งรอยยิ้ม
"คุณย่าครับวันนี้คุณย่ามีแขกเลยไม่ได้ไปเที่ยวกับอ้ายเยว่แต่คุณย่าไม่ต้องเสียใจไปนะครับเดี๋ยวผมจะซื้อขนมอร่อย ๆ มาฝากเอง " ชิงเถาที่ยืนอารมณ์เสียอยู่เมื่อได้ยินคำพูดของหลานชายเธอใบหน้ายิ้มแย้มทันที
"โธ่ ๆ หลานชายของย่าทำไมถึงจิตใจดีอย่างนี้นะเที่ยวให้สนุกนะ " เธอลูบหัวของเด็กชายเบา ๆ ก่อนจะโบกมือลา
เฉาจื่อพาอ้ายเยว่มาที่รถในตอนแรกคิดว่าซูเม่ยจะยังไม่มาเสียอีกแต่เมื่อมาถึงรถเห็นเธอยืนคอยอยู่แล้วเขาได้พูดออกมาเบา ๆ
"เพราะลูกสินะเธอถึงได้ยอมทำตามเร็วอย่างนี้"
"ว๊าววว ^ ^ วันนี้แม่ของอ้ายเยว่สวยที่สุดเลยใช่มั้ยครับคุณพ่อ" เด็กน้อยกตะตุกมือของคุณพ่อให้มองดูแม่ของตัวเอง วันนี้ซูเม่ยเลือกใส่ชุดใหม่ที่เธอซื้อมามื้อวานนี้เป็นชุดเดรสทรงแนววินเทจส่วนบนของชุดมีคอปกสีขาวที่ตัดกันและกระดุมที่เรียงเป็นแถว ส่วนล่างของชุดเป็นทรงสวิงที่พลิ้วไหวและให้ความรู้สึกที่เป็นผู้หญิงเข็มขัดที่เอวช่วยเพิ่มความเพรียวบางโค้งเว้าให้กับรูปร่างของเธอ ชุดสีฟ้าที่ดูเหมาะสมกับใบหน้ายิ่งทำให้เธอน่ามองยิ่งกว่าเดิม เขาตะลึงเล็กน้อยไม่คิดเลยว่าผู้หญิงคนที่เขาเคยเกลียดชังจะมีใบหน้างดงามได้ขนาดนี้
"นั่นสิ " ใบหูของเฉาจื่อแดงระเรื่อเมื่อซูเม่ยหันมามอง
"อ้ายเยว่มาแล้วเหรอ วันนี้อ้ายเยว่ของแม่ก็หล่อมาก ๆ เลยรู้มั้ย" เด็กชายปล่อยมือของเฉาจื่อวิ่งไปสวมกอดซูเม่ยแนบแน่น
"อ้ายเยว่ดีใจที่สุดเลยที่เราจะได้ไปเที่ยวด้วยกัน คุณพ่อครับรีบไปกันเถอะอ้ายเยว่อยากเห็นแล้วว่าที่คุณพ่อพาไปจะเป็นอย่างไร " เฉาจื่อรีบเดินไปเปิดประตูรถให้ซูเม่ยขึ้นไปนั่งกับอ้านเยว่วันนี้เขาตั้งใจจะพาทั้งสองไปที่สวนสาธารณะก่อนจะไปนั่งรถไฟชมเมือง
ช่วงนี้อากาศเย็นสบายนั่งรถมาได้ไม่นานก็ถึงสวนสาธารณะเด็ก ๆ พากันวิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน อ้ายเยว่ตื่นตาตื่นใจ เฉาจื่อจอดรถและให้ซูเม่ยพาอ้ายเยว่ลงไปรอก่อน วันนี้ที่สวนสาธารณะมีผู้คนมาผ่อนคลายกันมากมายอ้ายเยว่เห็นเด็กชายรุ่นราวคราวเดียวกันจึงขอแม่ไปเล่นกันเพื่อ ๆ ซูเม่ยปล่อยให้อ้ายเยว่ได้พบเพื่อนใหม่ ๆ เธอยืนคอยจนกระทั่งเฉาจื่อเดินถือของมาใกล้ ๆ
"อ้ายเยว่ไปไหนเสียแล้วทำไมไม่ดูลูกให้ดี ๆ "
"นี่ก่อนจะด่าฉันช่วยดูก่อนได้มั้ยอ้ายเยว่วิ่งเล่นกับเพื่อนใหม่อยู่ตรงหน้านั้นไง ตาบอดหรือไงถึงมองไม่เห็นหรือว่าตั้งใจจะหาเรื่องกันอย่างนี้ยิ่งกว่าตาบอดแต่เป็นใจบอดซ่ะมากกว่า" เฉาจื่อมองไปตามนิ้วมือของซูเม่ยที่ชี้ไปด้านหน้าเห็นรอยยิ้มของเด็กชายหัวเราะออกมาอย่างร่าเริง ทำให้เขาฉุดคิดเวลาผ่านมาตั้ง 5 ปีทำไมเขาถึงไม่อยากกลับมากันนะ เพราะคุณแม่ที่ใส่ร้ายซูเม่ยหรือเพราะเขาไม่มีความรู้สึกกับผู้หญิงคนนี้กัน
"ฉันไม่ได้ตาบอดหรือใจบอดทั้งนั้น ฉันเป็นห่วงอ้ายเยว่กลัวเกิดอันตรายนะสิ"
"มาห่วงเอาอะไรตอนนี้ หากเป็นห่วงและรักลูกจริงคงไม่ปล่อยให้ลูกต้องลืมตามาดูโลกถึงห้าปีหรอกนะ ถามจริง ๆ เถอะในเมื่อคุณเองก็ไม่ได้รักฉัน และฉันเองก็ไม่ได้รู้สึกอะไรกับคุณทำไมเราไม่หย่ากันให้สิ้นเรื่อง " ซูเม่ยถามระหว่างที่เฉาจื่อกำลังปูเสื่อที่นำมาด้วยลงสนามหญ้า
"ฉันจะไม่ให้มันเกิดเรื่องอย่างที่เคยเกิดขึ้นมาตลอดห้าปี ช่วยทนอยู่อีกสักหน่อยได้มั้ยให้อ้ายเยว่โตกว่านี้สักหน่อยแล้วเราค่อยมาคุยเรื่องนี้กันอีกครั้งเธอไม่เห็นหรือไงว่าวันนี้อ้ายเยว่ยิ้มกว้างมากแค่ไหน วันนี้อากาศดีเลิกพูดเรื่องหย่าให้อารมณ์ขุ่นมัวกันเลย" ซูเม่ยกอดอกเบะปากไม่เข้าใจชายร่างใหญ่ตรงหน้าเลย ต่อให้ช้าหรือเร็วก็ต้องหย่าอยู่ดีสู้หย่าตอนนี้เลยไม่ดีกว่ารึไงกัน!
เธอไม่พูดอะไรนั่งลงเงียบ ๆ สายตาจ้องมองไปที่อ้ายเยว่ ส่วนเฉาจื่อเขาจัดแจงที่เสร็จได้นั่งลงด้านหลังของซูเม่ย เขามองเธอผ่านแผ่นหลังนึกแล้วก็เจ็บจี้ดที่หัวใจคำพูดที่เธอพูด
'เธอเป็นผู้หญิงแบบไหนกันนะ! ทำไมถึงไม่เสียใจสักนิดที่จะหย่ากับฉันหรือเธอเจอคุณแม่รังแกจนไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว' เขาคิดในใจก่อนจะเอ่ยถามเธอขึ้นมา
"ฉันพอรู้แล้วนะว่าระหว่างตลอดห้าปีที่ผ่านมาเธอต้องพบเจออะไรมาบ้าง หากเธอไม่อยากอยู่ที่นี่ไปอยู่ที่กรมทหารกับฉันมั้ย ที่นั้นแม้จะเป็นกรมทหารแต่ก็มีร้านค้ามากมาย แถมยังมีโรงเรียนให้อ้ายเยว่ได้เข้าเรียนด้วย " ซูเม่ยได้ยินกลับหัวเราะออกมาเสียงดัง
"ฮ่า ฮ่า นี่ขนาดคุณรู้แล้วว่าฉันเจออะไรมายังอยากให้ฉันไปอยู่กับคุณเหรอไม่เอาด้วยหรอก ฉันยังยืนยันคำเดิมว่าฉันจะหย่า อีกอย่างคุณเองก็เกลียดฉันมากไม่ใช่หรือไงกัน วันนี้พูดจาแปลก ๆ น่าขนลุก" เธอตอบเขาด้วยน้ำเสียงหนักแน่นทำเอาคนที่ฟังเริ่มคิดหนัก
ครั้นนั้นอ้ายเยว่ได้วิ่งมาหาทั้งสองจึงไม่ได้พูดเรื่องนี้ต่อ
"คุณแม่ครับอ้ายเยว่สนุกมากเลย เพื่อน ๆ ใจดีแบ่งปันขนมให้อ้ายเยว่ด้วย" เด็กชายชูขนมที่เพื่อนแบ่งให้ทั้งสองดูอย่างดีใจ
"ในเมื่อเพื่อน ๆ มีน้ำใจอ้ายเยว่ต้องมีน้ำใจกลับ นี่ขนมที่พ่อเตรียมมานำไปให้เพื่อนสิแล้วค่อยกลับมานั่งกิน "
"ครับได้ครับ "เด็กชายวางขนมที่อยู่ในมือก่อนจะจับขนมที่เฉาจื่อเตรียมมาไปให้เพื่อนตามที่พ่อบอก
"นี่คุณไปเตรียมของพวกนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน คิดว่าเป็นถึงท่านนายพลจะทำเป็นเพียงแค่จับปืนกับออกคำสั่งเท่านั้นเสียอีก"
"ฉันทำอะไรได้มากกว่านั้นอีก และสิ่งหนึ่งที่ฉันทำให้ดูคืออ้ายเยว่ไม่ใช่หรือไง" ซูเม่ยอ้าปากค้างไม่คิดว่าเขาจะพูดคำนี้ออกมา
"เฮอะ! หมดคำจะพูด "
"พ่อครับเพื่อนดีใจที่ได้รับขนมจากอ้ายเยว่ด้วยครับ"
"มานั่งกินขนมเถอะ ดูสิเหงื่อไหลทั้งตัวแล้ว" ซูเม่ยดึงผ้าเช็ดหน้าของเธอมาเช็ดเหงื่อที่ไหลของอ้ายเยว่ก่อนจะใช้ผ้าเช็ดมือรักษาความสะอาดให้เด็กชายอีกด้วย
การกระทำของเธออยู่ในสายตาของเขา เขายิ้มกริ่มอย่างพึงพอใจ ไม่คิดว่าการกลับมาครั้งนี้จะให้เขาได้เห็นอะไรหลาย ๆ อย่าง
"คุณแม่ครับขนมนี่่น่ากินจังคุณแม่ป้อนผมหน่อยสิครับ" อ้ายเยว่เห็นพ่อกับแม่ไม่แสดงความรักต่อกันและเขาเองก็ไม่เคยเห็นทั้งสองอยู่ด้วยกันเหมือนคนอื่น ๆ เขาจึงคิดหาทางให้พ่อกับแม่ใกล้ชิด
"ได้สิจ้ะ! อ้าปากนะ อ้ำ..อร่อยมั้ย" เธอจับขนมใส่ปากของอ้ายเยว่เขาเคี้ยวเต็มปากใบหน้าเต็มไปด้วยความเอร็ดอร่อยเมื่อกลืนจนหมดปากได้บอกให้แม่ป้อนคุณพ่อบ้าง
"คุณพ่อครับขนมนี่อร่อยมาก ๆ เลยครับ หากไม่เชื่อคุณแม่ลองป้อนคุณพ่อให้ได้ชิมด้วยสิครับจะได้รู้ว่าอร่อยแค่ไหน" ซูเม่ยหันขวับมองหน้าเฉาจื่อ เธอไม่อยากใกล้ชิดเขาสักนิดทำไมอ้ายเยว่ต้องบอกให้เธอทำอย่างนี้ด้วย
"อ้ายเยว่พ่อของลูกก็มีมือให้จับกินเองเถอะนะมือแม่สกปรก"
"แล้วทำไมแม่ป้อนอ้ายเยว่ได้ละครับไม่สกปรกเหรอครับ?รู้มั้ยว่าจับกินเองกับคุณแม่ป้อนแตกต่างกันขนาดไหน" อ้ายเยว่เงยหน้ามองซูเม่ยส่งสายตากระพริบ ๆ มีหรือที่เธอจะไม่ใจอ่อน
"ก็ได้ ก็ได้" ซูเม่ยจำใจจับขนมป้อนให้เขาถึงปาก ตอนนั้นเองเฉาจื่อได้รู้เจตนาของลูกชายว่าเขาต้องการอะไร เขาอ้าปากกินขนมพร้อมรอยยิ้มก่อนจะตอบลูกชาย
"อื้ม... ขนมที่แม่ป้อนอร่อยอย่างที่ลูกชายบอกจริง ๆ อย่างนี้วันนี้แม่ของลูกคงต้องป้อนพ่อกับอ้ายเยว่ทั้งวันแล้วล่ะ" เขาพูดจบหันไปสบตากับซูเม่ยแต่เธอกลับถลึงตาใส่อย่างน่ารำคาญรีบเช็ดมือที่แตะปากของเขาเมื่อครู่
บทที่ 35 ความสุข1 ปีผ่านมา“อ้ายเยว่ไปโรงเรียนได้แล้ว คุณพ่อรอลูกอยู่ด้านล่างเดี๋ยวจะสายเอาได้นะ” ซูเม่ยเดินเข้ามาในห้องหลังจากอาบน้ำเสร็จเห็นอ้ายเยว่นั่งอยู่บนเตียงนอน“คุณแม่ครับอ้ายเยว่ไม่อยากไปโรงเรียนวันนี้ขออยู่กับเยว่ผิงได้มั้ยครับ ดูสิน้องยิ้มให้อ้ายเยว่ด้วยคงอยากให้อยู่เล่นด้วย” เด็กชายจับมือน้อย ๆ หยอกล้อไปมาพร้อมรอยยิ้มที่บริสุทธิ์“ไม่ได้หลานจะขาดเรียนสองวันติดต่อกันไม่ได้นะ เยว่ผิงไม่หนีไปไหนหรอกนะตอนเย็นกลับมาก็ได้มาเล่นกับน้องหากหลานอยากเป็นพี่ชายที่ดีจะต้องทำตัวดีให้น้องได้เห็น เย่วผิงจะได้ภาคภูมิใจที่มีพี่ชายที่ดีและรักเธอมากขนาดไหน ”“ก็ได้ครับคุณย่า อย่างนั้นพี่ไปเรียนก่อนนะเยว่ผิง พี่จะรีบกลับมาเล่าเรื่องที่เรียนมาวันนี้ให้ฟัง” อ้ายเยว่ก้มลงหอมแก้มเล็ก ๆ อวบขาวคล้ายซาลาเปาไม่แปลกใจเลยที่เขาตัวติดน้องไม่อยากห่างไปไหนหลังจากวันนั้นที่เฉาจื่อกับซูเม่ยเข้านอนด้วยกันเธอได้ตั้งท้องลูกคนที่สองของเขา อ้ายเยว่ดีใจมากที่จะมีน้องสาวชิงเถาดูแลเอาอกเอาใจซูเม่ยเป็นอย่างดีไม่ว่าอะไรที่เขาว่าดีต่อคนท้องก็หามาหาเธอกินทุกอย่าง ซูเม่ยมีความสุขมาก ๆ หลังจากเหตุการณ์ที่เลวร้ายจบลง เธ
บทที่ 34 เฉาจื่อบาดเจ็บการต่อสู้ด้วยหมัดได้เริ่มขึ้นและแล้วลูกน้องของเหวินฉิงได้พ่ายแพ้ต่อเฉาจื่อที่เป็นนายพลร่างกายของเขาฝึกอยู่ทุกวันต่างจากลูกน้องของเหวินฉิงเพียงแค่ไม่กี่นาทีเขาทำให้ทั้งสองล้มลงที่พื้นได้ เมื่อเหวินฉิงเห็นว่าตัวเองจะพ่ายแพ้จึงล้วงปืนขึ้นมายิงเข้าที่ขาของเฉาจื่อปัง!“นี่แก แกมันเล่นตุกติกแกมันไม่มีสัจจะ” “ฮ่า ฮ่า ไม่เคยได้ยินคำนี้หรือไงไม่มีสัจจะในหมู่โจร” เหวินฉิงสะใจที่เห็นร่างกายแข็งแกร่งของเฉาจื่อล้มลงต่อหน้า เลือดที่ขาเริ่มไหลรินออกมาจนขากางเกงเปียกไปด้วยเลือด สีหน้าของเราเริ่มซีดเผือกความเจ็บปวดแล่นเข้าสู่ร่างกาย“คนอย่างแกไม่สมควรที่จะปกครองคนมากมาย เพราะแกมันเลวยิ่งเลวเสียอีก”“พูดไปเถอะก่อนจะไม่ได้พูด ยังไงการฆ่านายพลจิ่นเฉาจื่อเป็นความต้องการแต่แรกของฉันอยู่แล้ววันนี้ฉันจะทำให้มันเป็นจริง ฉันจะแก้แค้นแทนน้องรักของฉันเขาจะได้ตายตาหลับ เมื่อจัดการแกได้ก็ไม่มีใครในมณฑลนี้กล้าท้าทายต่ออำนาจของแก๊งมังกรดำอีกต่อไป ” ปลายปืนชี้ตรงมาที่หัวของเฉาจื่อหวังยิงครั้งเดียวให้ตายคาที แต่ทว่าเรื่องราวไม่คาดคิดได้เกิดขึ้นเพราะเขาไม่ทันได้เหนี่ยวไกรปืน ถูกลอบยิงจากด้านหล
บทที่ 33 ต่อสู้“คุณย่าครับคุณแม่จะเป็นอะไรมั้ยครับ? อ้ายเยว่กลัวจังเลย” เด็กน้อยตัวสั่นเทาจ้องมองไปหาซูเม่ย ชิงเถาจับตัวอ้ายเยว่มากอดแน่นพร้อมกระซิบข้างหู“อ้ายเยว่แม่ของลูกต้องไม่เป็นอะไรย่าเชื่อว่าเราต้องรอด หากหลานกลัวหลับตาเอาไว้นะ ” อ้ายเยว่พยักหน้าหลับตาปี๊“น่าเสียดายหากจะฆ่าทิ้งไป เรือนร่างน่ามองใบหน้างดงามหรือว่าเราจะมาเล่นสนุกกับภรรยาของนายพลก่อนดี ฮ่า ฮ่า ดูสิผิวขาวเนียนเชียว ได้ข่าวว่าตลอดห้าปีที่ผ่านมานายพลไม่เคยกลับบ้านเลยด้วยซ้ำปล่อยสาวสวยอย่างนี้ได้ยังไงกันนะ ก่อนฆ่าทิ้งเรามามีความสุขกันก่อนมั้ยคนสวย”“อย่าแตะต้องเธอนะ” เสียงเข้มขรึมของเฉาจื่อดังขึ้นเมื่อมือของเหวินฉิงกำลังแตะลงที่ใบหน้าของซูเม่ย เธอหวาดกลัวยืนตัวแข็งทื่อไม่ขยับ“โอ๊ะ! นี่ท่านนายพลหวงภรรยาก็เป็นหรือนี่ เอาน่าให้ฉันได้ลิ้มลองบ้างว่าภรรยาของท่านนายพลจะเด็ดขนาดไหน” เหวินฉิงดึงกายของซูเม่ยเข้ามาใกล้ตนยามนั้นนั่นเองเสียงปืนดังสนั่นแขนของเหวินเทียนถูกใครสักคนยิงหวังให้เขาเจ็บปัง!!! ทุกคนแตกตื่นยกอาวุธเข้าไปป้องกันเหวินฉิง“โอ๊ย!! ใครกันมันกล้าลงมือในที่ของฉันแบบนี้เหยียบจมูกกันเกินไปแล้วหรือว่าจะเป็นแกนายพ
บทที่ 32 ค่าตอบแทน"พี่เหวินฉิงอยู่ไหน " ยูร์เหยาออกมาจากห้องรีบถามหาเหวินฉิงเพื่อถามเขาให้รู้เรื่อง"ตอนนี้ลูกพี่อยู่ที่ห้องส่วนตัวครับ เชิญทางนี้" ลูกน้องนำทางพายูร์เหยาไปหาเหวินฉิงที่ห้อง เมื่อถึงห้องเธอได้เดินเข้าไปประตูก็ปิดทันที เหวินฉิงดื่มเหล้าด้วยท่าทางสบายใจและอารมณ์ดี เห็นยูร์เหยาเข้ามาหาเขาวางแก้วเหล้าไว้ก่อนจะนั่งลงที่โซฟา"เป็นยังไงบ้าง ตัดสินใจได้หรือยังว่าจะให้พี่จัดการยังไง""พี่เหวินฉิง พี่ไม่ได้ทำตามที่ฉันขอไว้เลย ทำไมต้องจับตัวคุณป้ากับลูกชายของพี่เฉาจื่อมาด้วยฉันบอกให้พี่จับมาแค่นางซูเม่ยไม่ใช่หรือไง แล้วเรื่องที่พี่เฉาจื่อจะมาที่นี่มันหมายความว่ายังไงกัน" เสียงเล็กแหลมเอ่ยถามไม่หยุดย่อน เธอตวาดเสียงใส่เขาอย่างไม่พอใจ เหวินฉิงแสยะยิ้มมุมปากยกแก้วเหล้ากระดกจนหมดแล้วลุกขึ้นเดินเข้ามาใกล้ยูร์เหยาใช้มือจับที่ไหล่ของเธอให้นั่งลงที่โซฟา"ใจเย็น ๆ ก่อนสิทำไมถึงได้โมโหง่ายอย่างนี้ล่ะใบหน้าสวย ๆ จะเกิดริ้วรอยเอาได้นะ ""เฮ้อ!!อย่างนั้นพี่ก็รีบบอกมาสิว่าพี่ทำอย่างนี้ทำไมมันเกินที่ฉันขอร้องแล้วนะ"เขานั่งลงข้าง ๆ เธอมือของเขาไม่อยู่นิ่งจับปลายผมของยูร์เหยาม้วนไปมาก่อนจะตอบคำ
บทที่ 31 เป็นฝีมือเธอสินะสายตาที่จ้องมองซูเม่ยทำให้เธอขนลุกซู่ แต่เมื่อเธอได้ยินคำพูดของชายคนนี้ต้องสงสัย ใครกันคือที่รักของเขาแล้วเธอไปทำอะไรให้ ตั้งแต่ทะลุมิติมาที่นี่เธอไม่เคยไปก่อเรื่องหรือมีเรื่องกับใครสักคน จะมีแต่ยูร์เหยา!!!‘อะไรน่ะ คนที่ชายคนนี้เรียกที่รักคือยูร์เหยาหรอกเหรอ?เฮอะน่าตลกชะมัดเรื่องเล็กน้อยแค่นี้เธอถึงกับสั่งให้แก๊งมังกรดำจับตัวของมา’ ซูเม่ยคิดในใจพรางมองไปที่ใบหน้าของชายคนนั้น ครั้นนั้นเธอคิดสงสัยในความสัมพันธ์ของทั้งสองมากกว่า ยูร์เหยาเป็นลูกของนายอำเภอมายุ่งเกี่ยวกับคนนิสัยไม่ดีทำไมกัน หรือว่าเรื่องรับส่วยไม่ใช่แค่นายตำรวจเล็ก แม้แต่นายอำเภอยังเป็นคนของพวกแก๊งมังกรดำหรือเนี่ย!!!“ใช่ฉันเป็นภรรยาของเฉาจื่อ แต่ฉันไม่เคยไปทำอะไรให้ใครหากคนที่คิดแค้นฉันคนเดียวก็ให้คนนั้นมาจัดการฉันสิ จับคุณแม่กับลูกชายของฉันมาทำไมกัน ““ว๊าววว ปากดีจริง ๆ อีกไม่นานที่รักของฉันคงเดินทางมาถึงดูสิว่าที่รักของฉันกับนายพลจิ่นเฉาจื่อใครจะมาถึงก่อนกัน เตรียมตัวเตรียมใจไว้ล่ะ เพราะวันนี้อาจจะเป็นวันสุดท้ายของตระกูลนายพลหน้าโง่ ที่ไม่เกรงกลัวอำนาจของแก๊งมังกรดำ ถ้าอยู่เงียบ ๆ นิ่ง ๆ หลับ
บทที่ 30 ไล่ล่าตงฉวนพยายามขับรถยนต์เข้ามาตามซอยเล็ก ๆ เพื่อหลบหนีคนของแก๊งมังกรดำแต่ทำยังไงคนพวกนั้นก็ตามมาติด ๆ จนกระทั่งสิ้นสุดหนทาง เขาไม่อาจจะพาคุณนายทั้งสองและอ้ายเยว่หนีได้อีกต่อไปเมื่อขับรถด้วยความเร็วไปด้านหน้าแต่ทว่ากลับเป็นทางตัน“ตงฉวนนั้นมันทางตัน” เสียงของซูเม่ยร้องออกมาด้วยความตกใจเพราะรถยนต์เคลื่อนมาด้วยความเร็ว ตงฉวนเหยีบนเบรกทันทีทำให้รถที่มาด้วยความเร็วล้อท้ายปัดรถสะบัดหมุนไปชนกำแพงปูนที่เป็นทางตันเอี๊ยด...!! โคร้ม!!!กรี๊ดดดด.....เสียงร้องกรีดของชิงเถาดังสนั่นแม้เธอจะกลัวแต่แขนของเธอยังคงโอบกอดอ้ายเยว่ไม่ให้ได้รับบาดเจ็บ ส่วนซูเม่ยกับตงฉวนหัวของทั้งสองได้กระแทกเข้าด้านหน้าทำให้ได้รับบาดเจ็บที่หัว ซูเม่ยรู้สึกเจ็บทีหัวมึนไปชั่วขณะก่อนจะตั้งสติหันไปมองอ้ายเยว่ด้วยความเป็นห่วง“คุณแม่อ้ายเยว่เป็นอย่างไรบ้างคะ ได้รับบาดเจ็บหรือไม่”“คุณแม่อ้ายเยว่ไม่เจ็บแต่ว่าที่หัวของคุณแม่มีเลือดด้วย อึก อึก คุณแม่เจ็บมั้ยครับ” เด็กน้อยเห็นแม่ของตัวเองเริ่มสั่นเทาร้องไห้สะอึกสะอื้น“นั่นสิเธอคงเจ็บมากใช่มั้ย ฉันกับอ้ายเยว่ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรแค่เจ็บร่างกายเล็กน้อย”“เจ็บแค่นี้ไม่เท่