บทที่ 11 แขกของคุณแม่
แต่ทว่าสายตาของเฉาจื่อที่จ้องมองไปยังยูร์เหยากลับเย็นชาแถมคิ้วยังขมวดเข้าหากันอีกด้วย
"คนนี้เป็นแขกของคุณแม่หรือครับ อย่างนั้นผมขอพาอ้ายเยว่ไปกินข้าวเช้าก่อนนะครับวันนี้จะพาอ้ายเยว่ออกไปเที่ยวข้างนอก "สีหน้าของยูร์เหยาซีดเซียวเมื่ออีกคนจำตนเองไม่ได้ ชิงเถาเห็นอย่างนั้นรีบเข้ามาตีเข้าที่แขนของเฉาจื่อ
“ทำไมถึงขี้ลืมอย่างนี้หนูยูร์เหยาอย่าน้อยใจไปเลยนะ เฉาจื่อคงทำแต่งานคงเลอะ ๆ เลือน ๆ ใครจะไปลืมหนูยูร์เหยาได้ใช่มั้ยล่ะ หนูเองยังไม่ได้กินข้าวเช้ามาสินะไปนั่งกินข้าวด้วยกัน เฉาจื่อน้องนำของมาให้รีบรับไว้สิ” ซูเม่ยยืนอยู่หัวเราะคิกคักรู้สึกสะใจเล็กน้อยที่เห็นว่าเฉาจื่อจำคนที่แม่อยากได้เป็นลูกสะใภ้ไม่ได้ ชิงเถาเห็นรีบเดินเข้าไปใกล้ดันกายของซูเม่ยออกเพื่อให้ยูร์เหยาเดินเคียงข้างไปกับลูกชายของตนเอง
เฉาจื่อรับของเล่นของอ้ายเยว่ก่อนจะเดินไปที่โต๊ะอาหารสายตาของเขาจ้องมองมายังซูเม่ย เขาคิดว่าเธอจะไม่ลงมาตามที่สั่งเสียอีก วันนี้เขาตั้งใจจะพาเธอกับอ้านเยว่ออกไปเที่ยวเล่นด้านนอก ชดใช้เวลาที่ผ่านมาให้แก่เธอแต่ทว่าเมื่อเขาลงมาได้เห็นหญิงสาวที่เขาเองแทบจำไม่ได้ด้วยซ้ำมาว่าเป็นใคร ดูเหมือนคุณแม่จะชอบเธอมากเสียด้วย
"มานั่งข้าง ๆ ฉัน" เมื่อถึงโต๊ะอาหารวางอ้ายเยว่ให้นั่งลงข้าง ๆ ตัวเองก่อนจะหันไปบอกกับซูเม่ยให้เธอมานั่งข้าง ๆ เขา
"เฉาจื่อแม่ว่าวันนี้หนูยูร์เหยามาหาลูกต้องต้อนรับน้องสิ ส่วนเธอมานั่งข้าง ๆ ฉันช่วยตักอาหารให้แม่สามีทำหน้าที่ลูกสะใภ้จะดีกว่า " ชิงเถาจับกายของยูร์เหยาให้นั่งลงเก้าอี้ตัวติดกับเฉาจื่อและดึงแขนของซูเม่ยให้มานั่งใกล้ตัวเอง
'ฮึ! คงอยากเปิดโอกาสให้ทั้งสองคนใกล้ชิดกันสินะ แม่สามีฉันรู้หมดแล้วว่าต้องการอะไร ฉันจะช่วยคุณเองเพราะฉันก็ไม่อยากจะอยู่ที่นี่นักหรอก '
"ได้ค่ะคุณแม่ฉันจะดูแลตักอาหารป้อนคุณแม่เอง อ้ายเยว่ลูกก็ตั้งใจกินนะกินเยอะๆ เข้าใจมั้ย" ซูเม่ยนั่งลงที่เก้าอี้ตัวจับตะเกียบคีบอาหารให้อ้ายเยว่ก่อนจะคีบอาหารให้ชิงเถา
"แม่สามีต้องกินผักเยอะ ๆ นะคะรู้มั้ยว่าอายุมากขึ้นทุกวันกินเนื้อมากไม่ดี ต้องกินผักให้มากขึ้นจะได้ย่อยง่าย ๆ " ซูเม่ยตั้งใจจะแกล้งแม่สามีแต่เธอทำได้เพียงยิ้มรับการกระทำของซูเม่ยเท่านั้นเพราะตอนนี้ลูกชายของเธอก็อยู่ไหนจะหนูยูร์เหยาอีกด้วย
"พี่เฉาจื่อฉันคีบเนื้อให้นะคะ พี่อยู่ที่กรมทหารคงไม่ค่อยได้กินอาหารดี ๆ วันนี้กินให้เยอะ ๆ นะ" ยูร์เหยาคีบเนื้อให้แก่เฉาจื่อด้วยท่าทางเขินอาย แต่เขากลับตอบกลับเธอทำให้เธอหน้าชาไปหมด
"ฉันอยู่ที่กรมไม่ได้ทุกข์ยากอะไร มีอาหารดี ๆ ให้กินอยู่ตลอดฉันไม่ใช่ทหารยศน้อยแต่เป็นนายพล เนื้อฉันกินบ่อยแล้วเธอกินเองเถอะดูร่างกายของเธอที่ผอมเพรียวอย่างนี้คงไม่ค่อยได้กินเนื้อสินะ" เขาพูดจบหันไปคีบผักมาใส่ชามตัวเองก่อนจะกินมันอย่างอร่อย ไม่สนใจยูร์เหยาที่หน้าซีดอยู่ข้าง ๆ สักนิด ส่วนซูเม่ยเธอหัวเราะในลำคอเพราะไม่คิดว่าเขาจะเป็นคนที่เย็นชากับทุกคนได้ขนาดนี้ เธอคิดว่าเขาจะเย็นชากับเธอเพียงคนเดียวเสียอีก ทำให้ชิงเถาได้ยินเสียงหัวเราะของซูเม่ย
"นี่เฉาจื่อลูกก็พูดเกินไป สมัยนี้สาว ๆ ก็มักจะรักษาหุ่นเพื่อให้สวมใส่เสื้อผ้าได้อย่างสวยงาม ส่วนเนื้อบ้านของหนูยูร์เหยาเองก็ไม่ได้อดอยาก เป็นถึงลูกสาวคนเดียวของนายอำเภอจะอดอยากได้ยังไงนี่หนูยูร์เหยากินสิ" เธอเห็นสีหน้าไม่ดีของยูร์เหยาเลยรีบพูดเพื่อถนอมน้ำใจ
ทุกคนตั้งใจกินข้าวอ้ายเยว่กินจนอิ่มเขาวางตะเกียบลงก่อนจะหันไปถามคุณพ่อ
"วันนี้คุณพ่อจะพาอ้ายเยว่ไปที่ไหนเหรอครับ"
"วันนี้พ่อจะพาอ้ายเยว่ไปสวนสาธารณะเราไปนั่งกินอาหารกลางวันเสร็จแล้วจะพานั่งรถไฟรอบมณฑล กลับมากินอาหารเย็นที่ร้านอาหารแล้วกลับบ้านกัน"
"ว๊าวว... รถไฟหรือครับอ้ายเยว่ไม่รู้จักขอแค่มีคุณพ่อกับคุณแม่อ้ายเยว่ไปได้ทั้งนั้น" เด็กชายดวงตาเป็นประกายแม้ไม่รู้ว่ารถไฟคืออะไรแต่เขาก็ดีใจมาก ๆ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาจะได้ไปเที่ยวอย่างครอบครัวสมบูรณ์แบบ
"รถไฟก็เหมือนรถยนต์ใช้ในการเดินทางขับเคลื่อนไปในที่ต่าง ๆ ข้างทางมีวิวทิวทัศน์สวยงามเห็นแม่น้ำทุ่งหญ้าแม้กระทั่งสัตว์ที่ชาวบ้านตามชนบทเลี้ยงไว้ "
"ตอนนี้อ้ายเยว่อิ่มแล้วเราไปกันเลยมั้ยครับ " เด็กน้อยตื่นเต้นรีบเช็ดปากทันที
"อะไรกันจะไปเที่ยวไม่เห็นบอกแม่สักคำ อย่างนี้แม่จะเตรียมตัวทันหรือไหนจะหนูยูร์เหยาที่มาหาวันนี้อีกด้วย อ้ายเยว่เอาไว้ครั้งหน้ารอคุณพ่อของหลานกลับมาเมื่อมีหยุดยาวอีกครั้งเราค่อยไปกันเถอะนะ" ชิงเถาเธออุตส่าห์คิดแผนการให้ยูร์เหยามีเวลาร่วมกันเฉาจื่อแต่ไม่คิดเลยว่าลูกชายของเธอจะไปเที่ยวข้างนอกอย่างนี้ อ้ายเยว่หุบยิ้มทันทีก้มหน้าลงต่ำอย่างเสียดาย
"ไม่ครับผมตั้งใจแล้วอีกอย่างยูร์เหยาเป็นแขกของคุณแม่ คุณแม่ก็ต้องอยู่ต้อนรับสิเพราะผมไม่ได้จะให้คุณแม่เดินทางไปกับพวกเราตั้งแต่แรกแล้ว ผมอยากพาครอบครัวออกไปเที่ยวอ้ายเยว่ไปเตรียมของกันเถอะ" เขาพูดจบจับมืออ้ายเยว่เดินไปชั้นบน
"ฮึ ฮึ " ส่วนซูเม่ยยังคงนั่งกินอาหารอย่างสบายใจ เธอคิดว่าเขาจะทำตามใจแม่ของเขาเสียอีก สมแล้วที่เป็นนายพลเผด็จการ
"นี่หัวเราะอะไรย่ะ! "
"เปล่านี่คะ " ซูเม่ยรีบตอบก่อนจะคีบเนื้อย่างเข้าปากตัวเองแต่ไม่ทันได้เข้าไปถึงปาก มือหนามาคว้ามือของเธอก่อนจะออกคำสั่ง
"ลุกขึ้นเลิกกินได้แล้วเดี๋ยวจะไม่ทันรถไฟรอบบ่าย ไปเตรียมตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าเดี๋ยวนี้" ซูเม่ยเงยหน้ามองคนตรงหน้าอย่างตกใจเธอไม่คิดจะเดินทางไปด้วยสักหน่อย "
"ไม่เอาฉันไม่อยากไป"
"คุณแม่ไม่อยากไปกับอ้ายเยว่เหรอครับ อ้ายเยว่ต้องมีความสุขมากแน่ ๆ หากคุณแม่ไปด้วย" เด็กน้อยพูดออกมาน้ำเสียงสั่นเครือมีหรือที่ซูเม่ยจะไม่ใจอ่อน
"โธ่! อ้ายเยว่หากนี่เป็นความสุขของลูกทำไมแม่จะทำให้ไม่ได้ละจ้ะ อย่างนั้นขอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะ"
เด็กชายยิ้มร่าอย่างสดใสทั้งสามเดินขึ้นไปชั้นบนเพื่อเก็บของแต่ทว่าคนที่ยังนั่งที่โต๊ะอาหารกลับร้อนรุ่มหัวใจไปหมด
"หนูยูร์เหยาป้าต้องขอโทษด้วยนะจ้ะป้าเองก็ไม่รู้ว่าเฉาจื่อจะพาอ้ายเยว่ออกไปเที่ยว "
"ไม่เป็นอะไรค่ะคุณป้าอย่างไรยูร์เหยาก็เป็นแค่คนนอกไร้ความหมายกับพี่เฉาจื่ออยู่แล้ว "
"หนูอย่าพูดอย่างนั้นสิจ้ะ รู้มั้ยว่าป้ามองหนูเสมือนลูกสาวคนหนึ่ง หนูก็รู้นี่น่าว่าป้าไม่ชอบลูกสะใภ้คนนี้เธอเข้ามาที่นี่เพราะหวังความสุขสบาย ป้าจะหาวิถีทางกำจัดให้เธอออกไปจากที่นี่ให้ได้เมื่อวานป้าได้ยินทั้งสองมีปากเสียงกัน ก่อนกลับมาจากเที่ยวครั้งนี้ไม่แน่อาจจะพากันไปหย่าที่อำเภอก็ได้ เมื่อถึงเวลานั้นป้าจะพาหนูเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ในฐานะลูกสะใภ้ ภรรยาคนใหม่ของนายพลจิ่นเฉาจื่อเอง" ยูร์เหยาคลายมือที่กำกันแน่นออกเมื่อรู้สึกสบายใจอย่างน้อยยังมีป้าชิงเถาที่ยังเข้าข้างเธอ เธอจะไม่ยอมให้ผู้หญิงคนอื่นมาเคียงข้างพี่เฉาจื่อของเธอ เพราะคนที่จะเดินเคียงข้างออกงานจะมีเพียงเธอเท่านั้นที่คู่ควร
บทที่ 35 ความสุข1 ปีผ่านมา“อ้ายเยว่ไปโรงเรียนได้แล้ว คุณพ่อรอลูกอยู่ด้านล่างเดี๋ยวจะสายเอาได้นะ” ซูเม่ยเดินเข้ามาในห้องหลังจากอาบน้ำเสร็จเห็นอ้ายเยว่นั่งอยู่บนเตียงนอน“คุณแม่ครับอ้ายเยว่ไม่อยากไปโรงเรียนวันนี้ขออยู่กับเยว่ผิงได้มั้ยครับ ดูสิน้องยิ้มให้อ้ายเยว่ด้วยคงอยากให้อยู่เล่นด้วย” เด็กชายจับมือน้อย ๆ หยอกล้อไปมาพร้อมรอยยิ้มที่บริสุทธิ์“ไม่ได้หลานจะขาดเรียนสองวันติดต่อกันไม่ได้นะ เยว่ผิงไม่หนีไปไหนหรอกนะตอนเย็นกลับมาก็ได้มาเล่นกับน้องหากหลานอยากเป็นพี่ชายที่ดีจะต้องทำตัวดีให้น้องได้เห็น เย่วผิงจะได้ภาคภูมิใจที่มีพี่ชายที่ดีและรักเธอมากขนาดไหน ”“ก็ได้ครับคุณย่า อย่างนั้นพี่ไปเรียนก่อนนะเยว่ผิง พี่จะรีบกลับมาเล่าเรื่องที่เรียนมาวันนี้ให้ฟัง” อ้ายเยว่ก้มลงหอมแก้มเล็ก ๆ อวบขาวคล้ายซาลาเปาไม่แปลกใจเลยที่เขาตัวติดน้องไม่อยากห่างไปไหนหลังจากวันนั้นที่เฉาจื่อกับซูเม่ยเข้านอนด้วยกันเธอได้ตั้งท้องลูกคนที่สองของเขา อ้ายเยว่ดีใจมากที่จะมีน้องสาวชิงเถาดูแลเอาอกเอาใจซูเม่ยเป็นอย่างดีไม่ว่าอะไรที่เขาว่าดีต่อคนท้องก็หามาหาเธอกินทุกอย่าง ซูเม่ยมีความสุขมาก ๆ หลังจากเหตุการณ์ที่เลวร้ายจบลง เธ
บทที่ 34 เฉาจื่อบาดเจ็บการต่อสู้ด้วยหมัดได้เริ่มขึ้นและแล้วลูกน้องของเหวินฉิงได้พ่ายแพ้ต่อเฉาจื่อที่เป็นนายพลร่างกายของเขาฝึกอยู่ทุกวันต่างจากลูกน้องของเหวินฉิงเพียงแค่ไม่กี่นาทีเขาทำให้ทั้งสองล้มลงที่พื้นได้ เมื่อเหวินฉิงเห็นว่าตัวเองจะพ่ายแพ้จึงล้วงปืนขึ้นมายิงเข้าที่ขาของเฉาจื่อปัง!“นี่แก แกมันเล่นตุกติกแกมันไม่มีสัจจะ” “ฮ่า ฮ่า ไม่เคยได้ยินคำนี้หรือไงไม่มีสัจจะในหมู่โจร” เหวินฉิงสะใจที่เห็นร่างกายแข็งแกร่งของเฉาจื่อล้มลงต่อหน้า เลือดที่ขาเริ่มไหลรินออกมาจนขากางเกงเปียกไปด้วยเลือด สีหน้าของเราเริ่มซีดเผือกความเจ็บปวดแล่นเข้าสู่ร่างกาย“คนอย่างแกไม่สมควรที่จะปกครองคนมากมาย เพราะแกมันเลวยิ่งเลวเสียอีก”“พูดไปเถอะก่อนจะไม่ได้พูด ยังไงการฆ่านายพลจิ่นเฉาจื่อเป็นความต้องการแต่แรกของฉันอยู่แล้ววันนี้ฉันจะทำให้มันเป็นจริง ฉันจะแก้แค้นแทนน้องรักของฉันเขาจะได้ตายตาหลับ เมื่อจัดการแกได้ก็ไม่มีใครในมณฑลนี้กล้าท้าทายต่ออำนาจของแก๊งมังกรดำอีกต่อไป ” ปลายปืนชี้ตรงมาที่หัวของเฉาจื่อหวังยิงครั้งเดียวให้ตายคาที แต่ทว่าเรื่องราวไม่คาดคิดได้เกิดขึ้นเพราะเขาไม่ทันได้เหนี่ยวไกรปืน ถูกลอบยิงจากด้านหล
บทที่ 33 ต่อสู้“คุณย่าครับคุณแม่จะเป็นอะไรมั้ยครับ? อ้ายเยว่กลัวจังเลย” เด็กน้อยตัวสั่นเทาจ้องมองไปหาซูเม่ย ชิงเถาจับตัวอ้ายเยว่มากอดแน่นพร้อมกระซิบข้างหู“อ้ายเยว่แม่ของลูกต้องไม่เป็นอะไรย่าเชื่อว่าเราต้องรอด หากหลานกลัวหลับตาเอาไว้นะ ” อ้ายเยว่พยักหน้าหลับตาปี๊“น่าเสียดายหากจะฆ่าทิ้งไป เรือนร่างน่ามองใบหน้างดงามหรือว่าเราจะมาเล่นสนุกกับภรรยาของนายพลก่อนดี ฮ่า ฮ่า ดูสิผิวขาวเนียนเชียว ได้ข่าวว่าตลอดห้าปีที่ผ่านมานายพลไม่เคยกลับบ้านเลยด้วยซ้ำปล่อยสาวสวยอย่างนี้ได้ยังไงกันนะ ก่อนฆ่าทิ้งเรามามีความสุขกันก่อนมั้ยคนสวย”“อย่าแตะต้องเธอนะ” เสียงเข้มขรึมของเฉาจื่อดังขึ้นเมื่อมือของเหวินฉิงกำลังแตะลงที่ใบหน้าของซูเม่ย เธอหวาดกลัวยืนตัวแข็งทื่อไม่ขยับ“โอ๊ะ! นี่ท่านนายพลหวงภรรยาก็เป็นหรือนี่ เอาน่าให้ฉันได้ลิ้มลองบ้างว่าภรรยาของท่านนายพลจะเด็ดขนาดไหน” เหวินฉิงดึงกายของซูเม่ยเข้ามาใกล้ตนยามนั้นนั่นเองเสียงปืนดังสนั่นแขนของเหวินเทียนถูกใครสักคนยิงหวังให้เขาเจ็บปัง!!! ทุกคนแตกตื่นยกอาวุธเข้าไปป้องกันเหวินฉิง“โอ๊ย!! ใครกันมันกล้าลงมือในที่ของฉันแบบนี้เหยียบจมูกกันเกินไปแล้วหรือว่าจะเป็นแกนายพ
บทที่ 32 ค่าตอบแทน"พี่เหวินฉิงอยู่ไหน " ยูร์เหยาออกมาจากห้องรีบถามหาเหวินฉิงเพื่อถามเขาให้รู้เรื่อง"ตอนนี้ลูกพี่อยู่ที่ห้องส่วนตัวครับ เชิญทางนี้" ลูกน้องนำทางพายูร์เหยาไปหาเหวินฉิงที่ห้อง เมื่อถึงห้องเธอได้เดินเข้าไปประตูก็ปิดทันที เหวินฉิงดื่มเหล้าด้วยท่าทางสบายใจและอารมณ์ดี เห็นยูร์เหยาเข้ามาหาเขาวางแก้วเหล้าไว้ก่อนจะนั่งลงที่โซฟา"เป็นยังไงบ้าง ตัดสินใจได้หรือยังว่าจะให้พี่จัดการยังไง""พี่เหวินฉิง พี่ไม่ได้ทำตามที่ฉันขอไว้เลย ทำไมต้องจับตัวคุณป้ากับลูกชายของพี่เฉาจื่อมาด้วยฉันบอกให้พี่จับมาแค่นางซูเม่ยไม่ใช่หรือไง แล้วเรื่องที่พี่เฉาจื่อจะมาที่นี่มันหมายความว่ายังไงกัน" เสียงเล็กแหลมเอ่ยถามไม่หยุดย่อน เธอตวาดเสียงใส่เขาอย่างไม่พอใจ เหวินฉิงแสยะยิ้มมุมปากยกแก้วเหล้ากระดกจนหมดแล้วลุกขึ้นเดินเข้ามาใกล้ยูร์เหยาใช้มือจับที่ไหล่ของเธอให้นั่งลงที่โซฟา"ใจเย็น ๆ ก่อนสิทำไมถึงได้โมโหง่ายอย่างนี้ล่ะใบหน้าสวย ๆ จะเกิดริ้วรอยเอาได้นะ ""เฮ้อ!!อย่างนั้นพี่ก็รีบบอกมาสิว่าพี่ทำอย่างนี้ทำไมมันเกินที่ฉันขอร้องแล้วนะ"เขานั่งลงข้าง ๆ เธอมือของเขาไม่อยู่นิ่งจับปลายผมของยูร์เหยาม้วนไปมาก่อนจะตอบคำ
บทที่ 31 เป็นฝีมือเธอสินะสายตาที่จ้องมองซูเม่ยทำให้เธอขนลุกซู่ แต่เมื่อเธอได้ยินคำพูดของชายคนนี้ต้องสงสัย ใครกันคือที่รักของเขาแล้วเธอไปทำอะไรให้ ตั้งแต่ทะลุมิติมาที่นี่เธอไม่เคยไปก่อเรื่องหรือมีเรื่องกับใครสักคน จะมีแต่ยูร์เหยา!!!‘อะไรน่ะ คนที่ชายคนนี้เรียกที่รักคือยูร์เหยาหรอกเหรอ?เฮอะน่าตลกชะมัดเรื่องเล็กน้อยแค่นี้เธอถึงกับสั่งให้แก๊งมังกรดำจับตัวของมา’ ซูเม่ยคิดในใจพรางมองไปที่ใบหน้าของชายคนนั้น ครั้นนั้นเธอคิดสงสัยในความสัมพันธ์ของทั้งสองมากกว่า ยูร์เหยาเป็นลูกของนายอำเภอมายุ่งเกี่ยวกับคนนิสัยไม่ดีทำไมกัน หรือว่าเรื่องรับส่วยไม่ใช่แค่นายตำรวจเล็ก แม้แต่นายอำเภอยังเป็นคนของพวกแก๊งมังกรดำหรือเนี่ย!!!“ใช่ฉันเป็นภรรยาของเฉาจื่อ แต่ฉันไม่เคยไปทำอะไรให้ใครหากคนที่คิดแค้นฉันคนเดียวก็ให้คนนั้นมาจัดการฉันสิ จับคุณแม่กับลูกชายของฉันมาทำไมกัน ““ว๊าววว ปากดีจริง ๆ อีกไม่นานที่รักของฉันคงเดินทางมาถึงดูสิว่าที่รักของฉันกับนายพลจิ่นเฉาจื่อใครจะมาถึงก่อนกัน เตรียมตัวเตรียมใจไว้ล่ะ เพราะวันนี้อาจจะเป็นวันสุดท้ายของตระกูลนายพลหน้าโง่ ที่ไม่เกรงกลัวอำนาจของแก๊งมังกรดำ ถ้าอยู่เงียบ ๆ นิ่ง ๆ หลับ
บทที่ 30 ไล่ล่าตงฉวนพยายามขับรถยนต์เข้ามาตามซอยเล็ก ๆ เพื่อหลบหนีคนของแก๊งมังกรดำแต่ทำยังไงคนพวกนั้นก็ตามมาติด ๆ จนกระทั่งสิ้นสุดหนทาง เขาไม่อาจจะพาคุณนายทั้งสองและอ้ายเยว่หนีได้อีกต่อไปเมื่อขับรถด้วยความเร็วไปด้านหน้าแต่ทว่ากลับเป็นทางตัน“ตงฉวนนั้นมันทางตัน” เสียงของซูเม่ยร้องออกมาด้วยความตกใจเพราะรถยนต์เคลื่อนมาด้วยความเร็ว ตงฉวนเหยีบนเบรกทันทีทำให้รถที่มาด้วยความเร็วล้อท้ายปัดรถสะบัดหมุนไปชนกำแพงปูนที่เป็นทางตันเอี๊ยด...!! โคร้ม!!!กรี๊ดดดด.....เสียงร้องกรีดของชิงเถาดังสนั่นแม้เธอจะกลัวแต่แขนของเธอยังคงโอบกอดอ้ายเยว่ไม่ให้ได้รับบาดเจ็บ ส่วนซูเม่ยกับตงฉวนหัวของทั้งสองได้กระแทกเข้าด้านหน้าทำให้ได้รับบาดเจ็บที่หัว ซูเม่ยรู้สึกเจ็บทีหัวมึนไปชั่วขณะก่อนจะตั้งสติหันไปมองอ้ายเยว่ด้วยความเป็นห่วง“คุณแม่อ้ายเยว่เป็นอย่างไรบ้างคะ ได้รับบาดเจ็บหรือไม่”“คุณแม่อ้ายเยว่ไม่เจ็บแต่ว่าที่หัวของคุณแม่มีเลือดด้วย อึก อึก คุณแม่เจ็บมั้ยครับ” เด็กน้อยเห็นแม่ของตัวเองเริ่มสั่นเทาร้องไห้สะอึกสะอื้น“นั่นสิเธอคงเจ็บมากใช่มั้ย ฉันกับอ้ายเยว่ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรแค่เจ็บร่างกายเล็กน้อย”“เจ็บแค่นี้ไม่เท่