บทที่ 14 เกิดเรื่องใหญ่
ตะวันเริ่มคล้อยต่ำลงเครื่องจักยังคงทำงานอย่างต่อเนื่องอ้ายเยว่ตื่นขึ้นมามองดูอากาศรอบ ๆ อย่างตื่นตาเช่นเคย
"ดูอ้ายเยว่สักครู่นะเดี๋ยวฉันกลับมา ลูกอยู่กับแม่ก่อนนะพ่อขอตัวไปเข้าห้องน้ำสักครู่"
"พ่อครับผมเองก็อยากเข้าห้องน้ำขอไปด้วยได้มั้ย "
"อย่างนั้นมาเถอะพ่อจะจับมือลูกไปเอง อยู่ได้ใช่มั้ย? " เขาจับมือของอ้ายเยว่ก่อนจะหันมาถามซูเม่ยที่ต้องนั่งคอยอยู่เพียงลำพัง
"ไม่ต้องห่วงฉันดูแลตัวเองได้" เฉาจื่อพาอ้ายเยว่ไปเข้าห้องน้ำระหว่างนั้นซูเม่ยทอดสายตามองไปนอกหน้าต่างดูดวงอาทิตย์กำลังเคลื่อนต่ำลง
"สาวสวยอย่างนี้เดินทางคนเดียวคงเหงามากเลยสินะให้พวกฉันนั่งเป็นเพื่อนมั้ยรับรองว่าจะลืมความเหงาจนกว่ารถไฟจะหยุดที่สถานีเลย" เสียงของชายฉกรรจ์ดังขึ้นซูเม่ยหันขวับมามองใจเต้นแรงระรัว จ้องมองชายที่เดินเข้ามานั่งกับเธอถึงสามคนใบหน้าของแต่ละคนค่อนข้างน่ากลัวแถมร่างกายยังสักลายเต็มตัวอีกด้วย ความหวาดกลัวเริ่มก่อเกิดในใจยิ่งยุคนี้แล้วทุกคนช่างน่ากลัวจริง ๆ
"ออกไปนะ ฉันไม่ได้มาคนเดียวสักหน่อยไม่ต้องการให้คนไม่รู้จักมานั่งเป็นเพื่อนด้วย”
“แหมน้องสาวอย่าเล่นตัวนักเลยให้เรานั่งเป็นเพื่อนกว่าจะถึงสถานีเถอะนะรับรองจะมีแต่เรื่องสนุก ๆ เกิดขึ้นต่อจากนี้” สายตาของชายคนที่พูดออกมาจ้องมองด้วยสายตาหื่นกระจายใจของเธอสั่นไหวไปหมด
“ฉันต้องการนั่งเงียบ ๆ อีกอย่างฉันมากับสามีและลูกชายเขาไปเข้าห้องน้ำอีกไม่นานก็คงกลับมาแล้ว”
“นี่อย่าหลอกพวกพี่เลยคิดว่าพูดแค่นี้แล้วจะปล่อยไปง่าย ๆ หรือนาน ๆ จะได้เห็นคนสวยมาคนนี้อย่างนี้วันนี้เป็นวันที่ดีจริง ๆ " อีกคนหนึ่งได้พูดขึ้นมาไม่ว่าซูเม่ยจะพูดอย่างไรคนพวกนี้ไม่ยอมฟังเธอสักนิด พวกเขานั่งลงข้างๆ ซูเม่ยเริ่มเข้ามาลวนลามจับไม้จับมือเธอพยายามปัดป่ายไม่ให้พวกเขาแตะต้อง
“ออกไปนะ ฉันบอกให้ออกไป”
“อย่าเล่นตัวนักเลยมาเล่นสนุกกับพวกเราดีกว่าผิวขาวเนียนดีเหลือเกินกลิ่นตัวก็หอม ๆ ฮื้มม…ชื่นใจจัง” ชายคนที่นั่งติดกับเธอจับปลายผมของซูเม่ยไปดมทำท่าน่าเกลียดจนเธอตัวสั่นเทาไปหมด ขยะแขยงคนพวกนี้จนไม่สามารถอยู่เฉยๆ ได้เธอกรี๊ดร้องออกมาเสียงดัง
“กรี๊ด!!! ปล่อยฉันนะ” ครั้นนั้นเฉาจื่อกับอ้ายเยว่กลับจากห้องน้ำได้ยินเสียงกรี๊ดร้องของผู้หญิงแว่ว ๆ ในใจภาวนาไม่ให้เกิดเรื่องขึ้นกับซูเม่ยแต่เมื่อทั้งสองเดินมาใกล้ ๆ เห็นเธอกำลังถูกลวนลามจิตใจของเขาร้อนรุ่มดวงตาแข็งกร้าวกัดฟันกรามจนเส้นเลือดปูดบวม
“คุณพ่อนั่นคุณแม่ไม่ใช่หรือครับ?คุณแม่กำลังโดนแกล้งผมจะไปช่วยแม่เอง”
“ลูกไม่ต้อง..ยืนคอยพ่ออยู่ตรงนี้พ่อจะจัดการเอง”
“ครับ” อ้ายเยว่ยืนคอยอยู่ห่าง ๆ มองดูคุณพ่อเข้าไปจัดการกับคนพวกนั้น
“ไม่รู้อะไรซ่ะแล้วพ่อของฉันคือนายพลใหญ่คนพวกนี้ต้องถูกคุณพ่อจัดการจนร้องขอชีวิตแน่ ๆ ” อ้ายเยว่ยืนกอดอกจ้องมองแผ่นหลังของพ่ออย่างภูมิใจ
ตอนนั้นชายทั้งสามคนกำลังลวนลามใช้มือลูบไล้ใบหน้าของเธอ ร่างเล็กสั่นระริกด้วยความกลัว
"เอามือสกปรกของพวกแกออกจากภรรยาของฉันเดี๋ยวนี้" เสียงเข้มขรึมของเฉาจื่อทำให้คนพวกนั้นชะงักหันไปมองเป็นตาเดียวกัน จิตใจของซูเม่ยเริ่มมีหวังเมื่อเห็นกลับมาทันเวลาพอดี
"ฮ่า ฮ่า นี่คิดว่าจะเชื่อหรือไงว่าเป็นสามีของผู้หญิงคนนี้ ทำเป็นอวดเก่งพวกฉันมีตั้งสามคนแกคนเดียวจะสู้ไหวหรือ? "
"ฉันขอเตือนพวกแกถ้ายังไม่ออกห่างจากเธออย่าหาว่าฉันไม่เตือน " เฉาจื่อจ้องเขม็งดวงตาโกรธเกรี้ยวคล้ายจะฆ่าคนพวกนั้นด้วยสายตา
"ฮ่า ฮ่า ดูไอ้หน้าอ่อนนี่สิวะทำเป็นอวดดีอยากให้สาวประทับใจหรือไง ไม่รู้จักพวกฉันสินะพวกฉันคือแก๊งมังกรดำคนแถวนี้ต่างไม่กล้ายุ่งหากอยากอยู่อย่างสงบสุข แกไปนั่งที่ของแกเถอะถ้าไม่อยากเดือดร้อนถึงตระกูล" ชายคนหนึ่งได้พูดข่มขู่ในอำนาจของแก๊งตัวเองแต่มีหรือที่เฉาจื่อจะกลัว เขาได้ยินชื่อเสียงของแก๊งมังกรดำมานานแต่ไม่เคยข้องเกี่ยว เขาจ้องมองคนทั้งสามคงเป็นลูกกระจ๊อกของแก๊งนี่มากกว่าหากเกิดการต่อสู้เขาคงเอาชนะได้
"มังกรดำแล้วอย่างไรในเมื่อพวกแกกำลังลวนลามภรรยาของฉันอยู่" เขาพูดจบพุ่งตัวเข้าไปชกเข้าที่ใบหน้าของผู้ชายปากดีที่พูดอยู่เมื่อครู่
พลั่ก ...!!!
“โอ๊ยยย!!” ร่างใหญ่ล้มลงกับพื้นชายที่มาด้วยทั้งสองคนรีบเข้าไปจับกายของเขาลุกขึ้นมาก่อนจะต่อว่าเฉาจื่อ
"เฮ้ย!! นี่แกกล้าลงมือกับพี่ใหญ่ของเราหรืออย่าอยู่เลยวันนี้จะต้องสั่งสอนให้รู้สำนึก "
ย๊ากกก” ชายคนหนึ่งวิ่งปรี่เข้าไปใกล้ง้างมือหวังต่อยเข้าที่ใบหน้าของเฉาจื่อเขาหลบได้อย่างฉับไวพร้อมสวนหมัดของตัวเองใส่ที่ใบหน้าของชายคนนั้นจนล้มลงอีกคน ลูกน้องที่เหลืออีกคนเห็นเพื่อนที่มาด้วยกันทั้งสองถูกทำรายเขาเองก็ปรี่เข้ามาต่อสู้กับเฉาจื่อแต่ทว่าเขาไม่ทันได้มาถึงตัวต้องถูกเฉาจื่อใช้เท้าถีบกระเด็นไปเสียก่อน
“อ๊ากก! อย่าเข้ามานะ อั่ก” เฉาจื่อนั่งคร่อมร่างกระชากคอเสื้อของเขาชกเข้าที่ใบหน้าครั้งแล้วครั้งด้วยความโมโห
ซูเม่ยตื่นตระหนกเธอเคยเห็นแต่ในละครที่มีฉากต่อสู้ไม่คิดว่าจะได้เห็นของจริงซึ่ง ๆ หน้าอย่างนี้ เธอรีบมองหาอ้ายเยว่เห็นห่วงเด็กชายขึ้นมาทันที แต่ทว่าสายของเธอกลับมองไปเห็นว่าชายคนแรกที่เฉาจื่อต่อยนั้นกำลังดึงมีดเล็กออกมาจากประเป๋ากางเกงเธอรีบตะโกนบอกเขาด้วยความเป็นห่วง
“คุณระวังชายพวกนี้มีอาวุธ” แต่ไม่ทันที่เธอจะได้พูดจบชายคนนั้นวิ่งเข้าไปหาเฉาจื่อ เขากำลังต่อยอีกคนอยู่ได้ยินเสียงของซูเม่ยรีบหันขวับกลับมาดูตกใจเล็กน้อยแต่เขาก็ทันได้หลบปลายมีดนั้นได้และโดนบาดเข้าที่แขนเล็กน้อย
“ฉันบอกแกแล้วว่าอย่ามายุ่งกับคนของแก๊งมังกรดำวันนี้จะเป็นวันตายของแก แค่คนคนเดียวจัดการโยนทิ้งข้างทางก็สิ้นเรื่องย๊าก” ยิ่งเห็นเลือดของเฉาจื่อชายคนนั้นคึกคะนองคิดว่าตนเองจะมีทางชนะแต่ใครจะไปรู้ว่าตอนนี้เขาได้ปลุกเสื้อร้ายในตัวของเฉาจื่อจนเสร็จสมบูรณ์
“คำนั้นเป็นฉันเสียมากกว่าที่จะเป็นคนพูดในเมื่อเตือนไม่ฟังฉันจะทำให้เห็นว่าแก๊งมังกรดำของพวกแกก็เป็นได้แค่ไส้เดือนดินเท่านั้น” เฉาจื่อลุกขึ้นยืนตั้งท่ารับมือฝีมือเท่านี้ทหารในค่ายของเขายังเก่งกว่านี้มากมาย
“ดูถูกกันเกินไปแล้ว” เขาวิ่งพุ่งเข้ามาหาเฉาจื่อแต่ตอนนั้นเฉาจื่อไม่ได้หวั่นกลัวสักนิดตาจ้องมองท่วงท่าที่ปรี่เข้ามาหาตัวเอง จับทิศทางเมื่อร่างใหญ่ใกล้เข้ามาขาหลบไปทางซ้ายก่อนจะคว้ามือไปจับมือขวาของเขาให้หักมือปลายมีดเปลี่ยนทิศทางปลายแหลมคมเข้าคอของเขา เฉาจื่อดันมีดเข้าไปครั้นนั้นเลือดสีแดงฉานพุ่งกระจาย เสียงกรี๊ดร้องของคนบนรถไฟตื่นตระหนกตกใจกันดังลั่น ซูเม่ยรีบวิ่งไปกอดอ้ายเยว่ไม่อยากให้เขาเห็นเหตุการณ์โหดร้ายนี้แม้ตนเองยังตกใจกลัวขวัญเสียแต่เธอก็ไม่อยากให้วันที่สดใสของลูกชายสลดหดหู่อย่างนี้
“อ๊าก คร่อก” เสียงร้องเจ็บปวดของชายคนนั้นร้องโหยหวนไม่ทันไรร่างใหญ่ได้ล้มลงกับพื้นอีกสองคนที่เห็นต่างพากันสั่นกลัวขนาดลูกพี่ของเขายังตายง่าย ๆ แล้วเขาทั้งสองจะเหลือหรือ?รีบคุกเข่าก้มลงกับพื้นอ้อนวอนขอชีวิตจากเฉาจื่อ
“ไว้ชีวิตฉันเถอะนะ ฉันผิดไปแล้วอย่าฆ่าฉันเลย”
“ใช่ ๆ พวกเราแค่ทำตามคำสั่งของลูกพี่เท่านั้นอย่าฆ่าพวกเราเลยนะ พวกเรากลัวแล้ว” เฉาจื่อเช็ดเลือดที่เปื้อนมือหันมามองทั้งสองนั่งอยู่ตรงหน้าร่างกายสั่นกลัว ไม่นานตำรวจรถไฟเดินเข้ามาดูเหตุการณ์
“เกิดเรื่องอะไรขึ้นขอให้ทุกคนอยู่ในนี้ด้วยความสงบ”
“คุณเป็นตำรวจรถไฟสินะ ฉันคิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นครั้งนี้อาจจะไม่ใช่ครั้งแรก คุณปล่อยให้คนพวกนี้มาทำมิดีมิร้ายผู้หญิงบนรถไฟได้อย่างไรกัน” เฉาจื่อเอ่ยปสกถามทันทีที่ตำรวจรถไฟเดินเข้ามาใกล้
“ใช่ฉันเป็นตำรวจรถไฟแล้วคุณเป็นใครถึงกล้ามากล่าวหากันอย่างนี้”
“ตำรวจผู้ชายคนนี้เป็นคนลงมือฆ่าลูกพี่พวกเราช่วยเราด้วยเราโดนทำร้าย” ชายทั้งสองคนรีบขยับกายเข้าไปขอความช่วยเหลือแถมยังใส่ร้ายเฉาจื่ออีกด้วย
“นี่คุณตำรวจอย่าไปเชื่อพวกมัน ฉันต่างหากที่โดนลวนลามหากสามีของฉันกลับมาไม่ทันไม่เป็นฉันหรือที่จะตกเป็นผู้โดนกระทำ” ซูเม่ยอุ้มอ้ายเยว่เข้ามาเพื่ออธิบายความจริงให้ตำรวจรถไฟรับรู้
บทที่ 35 ความสุข1 ปีผ่านมา“อ้ายเยว่ไปโรงเรียนได้แล้ว คุณพ่อรอลูกอยู่ด้านล่างเดี๋ยวจะสายเอาได้นะ” ซูเม่ยเดินเข้ามาในห้องหลังจากอาบน้ำเสร็จเห็นอ้ายเยว่นั่งอยู่บนเตียงนอน“คุณแม่ครับอ้ายเยว่ไม่อยากไปโรงเรียนวันนี้ขออยู่กับเยว่ผิงได้มั้ยครับ ดูสิน้องยิ้มให้อ้ายเยว่ด้วยคงอยากให้อยู่เล่นด้วย” เด็กชายจับมือน้อย ๆ หยอกล้อไปมาพร้อมรอยยิ้มที่บริสุทธิ์“ไม่ได้หลานจะขาดเรียนสองวันติดต่อกันไม่ได้นะ เยว่ผิงไม่หนีไปไหนหรอกนะตอนเย็นกลับมาก็ได้มาเล่นกับน้องหากหลานอยากเป็นพี่ชายที่ดีจะต้องทำตัวดีให้น้องได้เห็น เย่วผิงจะได้ภาคภูมิใจที่มีพี่ชายที่ดีและรักเธอมากขนาดไหน ”“ก็ได้ครับคุณย่า อย่างนั้นพี่ไปเรียนก่อนนะเยว่ผิง พี่จะรีบกลับมาเล่าเรื่องที่เรียนมาวันนี้ให้ฟัง” อ้ายเยว่ก้มลงหอมแก้มเล็ก ๆ อวบขาวคล้ายซาลาเปาไม่แปลกใจเลยที่เขาตัวติดน้องไม่อยากห่างไปไหนหลังจากวันนั้นที่เฉาจื่อกับซูเม่ยเข้านอนด้วยกันเธอได้ตั้งท้องลูกคนที่สองของเขา อ้ายเยว่ดีใจมากที่จะมีน้องสาวชิงเถาดูแลเอาอกเอาใจซูเม่ยเป็นอย่างดีไม่ว่าอะไรที่เขาว่าดีต่อคนท้องก็หามาหาเธอกินทุกอย่าง ซูเม่ยมีความสุขมาก ๆ หลังจากเหตุการณ์ที่เลวร้ายจบลง เธ
บทที่ 34 เฉาจื่อบาดเจ็บการต่อสู้ด้วยหมัดได้เริ่มขึ้นและแล้วลูกน้องของเหวินฉิงได้พ่ายแพ้ต่อเฉาจื่อที่เป็นนายพลร่างกายของเขาฝึกอยู่ทุกวันต่างจากลูกน้องของเหวินฉิงเพียงแค่ไม่กี่นาทีเขาทำให้ทั้งสองล้มลงที่พื้นได้ เมื่อเหวินฉิงเห็นว่าตัวเองจะพ่ายแพ้จึงล้วงปืนขึ้นมายิงเข้าที่ขาของเฉาจื่อปัง!“นี่แก แกมันเล่นตุกติกแกมันไม่มีสัจจะ” “ฮ่า ฮ่า ไม่เคยได้ยินคำนี้หรือไงไม่มีสัจจะในหมู่โจร” เหวินฉิงสะใจที่เห็นร่างกายแข็งแกร่งของเฉาจื่อล้มลงต่อหน้า เลือดที่ขาเริ่มไหลรินออกมาจนขากางเกงเปียกไปด้วยเลือด สีหน้าของเราเริ่มซีดเผือกความเจ็บปวดแล่นเข้าสู่ร่างกาย“คนอย่างแกไม่สมควรที่จะปกครองคนมากมาย เพราะแกมันเลวยิ่งเลวเสียอีก”“พูดไปเถอะก่อนจะไม่ได้พูด ยังไงการฆ่านายพลจิ่นเฉาจื่อเป็นความต้องการแต่แรกของฉันอยู่แล้ววันนี้ฉันจะทำให้มันเป็นจริง ฉันจะแก้แค้นแทนน้องรักของฉันเขาจะได้ตายตาหลับ เมื่อจัดการแกได้ก็ไม่มีใครในมณฑลนี้กล้าท้าทายต่ออำนาจของแก๊งมังกรดำอีกต่อไป ” ปลายปืนชี้ตรงมาที่หัวของเฉาจื่อหวังยิงครั้งเดียวให้ตายคาที แต่ทว่าเรื่องราวไม่คาดคิดได้เกิดขึ้นเพราะเขาไม่ทันได้เหนี่ยวไกรปืน ถูกลอบยิงจากด้านหล
บทที่ 33 ต่อสู้“คุณย่าครับคุณแม่จะเป็นอะไรมั้ยครับ? อ้ายเยว่กลัวจังเลย” เด็กน้อยตัวสั่นเทาจ้องมองไปหาซูเม่ย ชิงเถาจับตัวอ้ายเยว่มากอดแน่นพร้อมกระซิบข้างหู“อ้ายเยว่แม่ของลูกต้องไม่เป็นอะไรย่าเชื่อว่าเราต้องรอด หากหลานกลัวหลับตาเอาไว้นะ ” อ้ายเยว่พยักหน้าหลับตาปี๊“น่าเสียดายหากจะฆ่าทิ้งไป เรือนร่างน่ามองใบหน้างดงามหรือว่าเราจะมาเล่นสนุกกับภรรยาของนายพลก่อนดี ฮ่า ฮ่า ดูสิผิวขาวเนียนเชียว ได้ข่าวว่าตลอดห้าปีที่ผ่านมานายพลไม่เคยกลับบ้านเลยด้วยซ้ำปล่อยสาวสวยอย่างนี้ได้ยังไงกันนะ ก่อนฆ่าทิ้งเรามามีความสุขกันก่อนมั้ยคนสวย”“อย่าแตะต้องเธอนะ” เสียงเข้มขรึมของเฉาจื่อดังขึ้นเมื่อมือของเหวินฉิงกำลังแตะลงที่ใบหน้าของซูเม่ย เธอหวาดกลัวยืนตัวแข็งทื่อไม่ขยับ“โอ๊ะ! นี่ท่านนายพลหวงภรรยาก็เป็นหรือนี่ เอาน่าให้ฉันได้ลิ้มลองบ้างว่าภรรยาของท่านนายพลจะเด็ดขนาดไหน” เหวินฉิงดึงกายของซูเม่ยเข้ามาใกล้ตนยามนั้นนั่นเองเสียงปืนดังสนั่นแขนของเหวินเทียนถูกใครสักคนยิงหวังให้เขาเจ็บปัง!!! ทุกคนแตกตื่นยกอาวุธเข้าไปป้องกันเหวินฉิง“โอ๊ย!! ใครกันมันกล้าลงมือในที่ของฉันแบบนี้เหยียบจมูกกันเกินไปแล้วหรือว่าจะเป็นแกนายพ
บทที่ 32 ค่าตอบแทน"พี่เหวินฉิงอยู่ไหน " ยูร์เหยาออกมาจากห้องรีบถามหาเหวินฉิงเพื่อถามเขาให้รู้เรื่อง"ตอนนี้ลูกพี่อยู่ที่ห้องส่วนตัวครับ เชิญทางนี้" ลูกน้องนำทางพายูร์เหยาไปหาเหวินฉิงที่ห้อง เมื่อถึงห้องเธอได้เดินเข้าไปประตูก็ปิดทันที เหวินฉิงดื่มเหล้าด้วยท่าทางสบายใจและอารมณ์ดี เห็นยูร์เหยาเข้ามาหาเขาวางแก้วเหล้าไว้ก่อนจะนั่งลงที่โซฟา"เป็นยังไงบ้าง ตัดสินใจได้หรือยังว่าจะให้พี่จัดการยังไง""พี่เหวินฉิง พี่ไม่ได้ทำตามที่ฉันขอไว้เลย ทำไมต้องจับตัวคุณป้ากับลูกชายของพี่เฉาจื่อมาด้วยฉันบอกให้พี่จับมาแค่นางซูเม่ยไม่ใช่หรือไง แล้วเรื่องที่พี่เฉาจื่อจะมาที่นี่มันหมายความว่ายังไงกัน" เสียงเล็กแหลมเอ่ยถามไม่หยุดย่อน เธอตวาดเสียงใส่เขาอย่างไม่พอใจ เหวินฉิงแสยะยิ้มมุมปากยกแก้วเหล้ากระดกจนหมดแล้วลุกขึ้นเดินเข้ามาใกล้ยูร์เหยาใช้มือจับที่ไหล่ของเธอให้นั่งลงที่โซฟา"ใจเย็น ๆ ก่อนสิทำไมถึงได้โมโหง่ายอย่างนี้ล่ะใบหน้าสวย ๆ จะเกิดริ้วรอยเอาได้นะ ""เฮ้อ!!อย่างนั้นพี่ก็รีบบอกมาสิว่าพี่ทำอย่างนี้ทำไมมันเกินที่ฉันขอร้องแล้วนะ"เขานั่งลงข้าง ๆ เธอมือของเขาไม่อยู่นิ่งจับปลายผมของยูร์เหยาม้วนไปมาก่อนจะตอบคำ
บทที่ 31 เป็นฝีมือเธอสินะสายตาที่จ้องมองซูเม่ยทำให้เธอขนลุกซู่ แต่เมื่อเธอได้ยินคำพูดของชายคนนี้ต้องสงสัย ใครกันคือที่รักของเขาแล้วเธอไปทำอะไรให้ ตั้งแต่ทะลุมิติมาที่นี่เธอไม่เคยไปก่อเรื่องหรือมีเรื่องกับใครสักคน จะมีแต่ยูร์เหยา!!!‘อะไรน่ะ คนที่ชายคนนี้เรียกที่รักคือยูร์เหยาหรอกเหรอ?เฮอะน่าตลกชะมัดเรื่องเล็กน้อยแค่นี้เธอถึงกับสั่งให้แก๊งมังกรดำจับตัวของมา’ ซูเม่ยคิดในใจพรางมองไปที่ใบหน้าของชายคนนั้น ครั้นนั้นเธอคิดสงสัยในความสัมพันธ์ของทั้งสองมากกว่า ยูร์เหยาเป็นลูกของนายอำเภอมายุ่งเกี่ยวกับคนนิสัยไม่ดีทำไมกัน หรือว่าเรื่องรับส่วยไม่ใช่แค่นายตำรวจเล็ก แม้แต่นายอำเภอยังเป็นคนของพวกแก๊งมังกรดำหรือเนี่ย!!!“ใช่ฉันเป็นภรรยาของเฉาจื่อ แต่ฉันไม่เคยไปทำอะไรให้ใครหากคนที่คิดแค้นฉันคนเดียวก็ให้คนนั้นมาจัดการฉันสิ จับคุณแม่กับลูกชายของฉันมาทำไมกัน ““ว๊าววว ปากดีจริง ๆ อีกไม่นานที่รักของฉันคงเดินทางมาถึงดูสิว่าที่รักของฉันกับนายพลจิ่นเฉาจื่อใครจะมาถึงก่อนกัน เตรียมตัวเตรียมใจไว้ล่ะ เพราะวันนี้อาจจะเป็นวันสุดท้ายของตระกูลนายพลหน้าโง่ ที่ไม่เกรงกลัวอำนาจของแก๊งมังกรดำ ถ้าอยู่เงียบ ๆ นิ่ง ๆ หลับ
บทที่ 30 ไล่ล่าตงฉวนพยายามขับรถยนต์เข้ามาตามซอยเล็ก ๆ เพื่อหลบหนีคนของแก๊งมังกรดำแต่ทำยังไงคนพวกนั้นก็ตามมาติด ๆ จนกระทั่งสิ้นสุดหนทาง เขาไม่อาจจะพาคุณนายทั้งสองและอ้ายเยว่หนีได้อีกต่อไปเมื่อขับรถด้วยความเร็วไปด้านหน้าแต่ทว่ากลับเป็นทางตัน“ตงฉวนนั้นมันทางตัน” เสียงของซูเม่ยร้องออกมาด้วยความตกใจเพราะรถยนต์เคลื่อนมาด้วยความเร็ว ตงฉวนเหยีบนเบรกทันทีทำให้รถที่มาด้วยความเร็วล้อท้ายปัดรถสะบัดหมุนไปชนกำแพงปูนที่เป็นทางตันเอี๊ยด...!! โคร้ม!!!กรี๊ดดดด.....เสียงร้องกรีดของชิงเถาดังสนั่นแม้เธอจะกลัวแต่แขนของเธอยังคงโอบกอดอ้ายเยว่ไม่ให้ได้รับบาดเจ็บ ส่วนซูเม่ยกับตงฉวนหัวของทั้งสองได้กระแทกเข้าด้านหน้าทำให้ได้รับบาดเจ็บที่หัว ซูเม่ยรู้สึกเจ็บทีหัวมึนไปชั่วขณะก่อนจะตั้งสติหันไปมองอ้ายเยว่ด้วยความเป็นห่วง“คุณแม่อ้ายเยว่เป็นอย่างไรบ้างคะ ได้รับบาดเจ็บหรือไม่”“คุณแม่อ้ายเยว่ไม่เจ็บแต่ว่าที่หัวของคุณแม่มีเลือดด้วย อึก อึก คุณแม่เจ็บมั้ยครับ” เด็กน้อยเห็นแม่ของตัวเองเริ่มสั่นเทาร้องไห้สะอึกสะอื้น“นั่นสิเธอคงเจ็บมากใช่มั้ย ฉันกับอ้ายเยว่ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรแค่เจ็บร่างกายเล็กน้อย”“เจ็บแค่นี้ไม่เท่