แชร์

บทที่ 16 ต้นไม้โลก

ผู้เขียน: ฮาจิฮาจิ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-07-21 17:20:01

บทที่ 16

ต้นไม้โลก

            “หลินออกไปข้างนอกได้ทันทีเลยหรือเปล่า ต้องมีเงื่อนไขอะไรไหม ถ้ามีสิ่งที่ข้าทำได้ก็ขอให้บอก ข้าจะช่วยเต็มที่เลยนะ!”

            ลู่ซินฟางถามรัวเป็นชุดด้วยสีหน้าอยากรู้ระคนตื่นเต้น ตั้งแต่รู้จักกันมา นางหวังใจว่าจะมีสักครั้งที่หลินได้ออกเที่ยวโลกข้างนอกกับนาง

            ภูตน้อยทำหน้าครุ่นคิด ก่อนตอบว่า “เอาไว้ หลินจะถามท่านต้นไม้โลกให้แล้วกันนะ”

            “อืม ต้องถามให้ได้นะ”

            นับตั้งแต่ที่ลู่ซินฟางเข้ามาพัฒนาพื้นที่ว่างเปล่าจนกลายเป็นฟาร์มขนาดเล็ก สถานที่แห่งนี้ทั้งสงบสุขทั้งอุดมสมบูรณ์ ธรรมชาติเขียวชอุ่ม ไม่ขาดแคลนอาหาร ทั้งยังมี 4 ฤดูกาล แต่ลู่ซินฟางก็อยากให้หลิน หรือแม้แต่สัตว์อสูรตนอื่นได้ออกไปเห็นความครึกครื้นข้างนอกเพื่อเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศ

            หากพวกเขาสามารถออกไปได้ละก็ ระบบเงินตราของโลกทางนี้ก็ละเลยไม่ได้เช่นกัน ต่อไป ต้องมีการจ่ายค่าแรง ให้การศึกษา ถึงจะทำแบบปุบปับไม่ได้ แต่สิ่งเหล่านั้นจำเป็นในอนาคตอย่างแน่นอน  

            คิดแล้ว ลู่ซินฟางก็ประสานมืออธิษฐาน

            “ท่านต้นไม้โลกเจ้าขา ช่วยอนุญาตให้หลินและทุกคนออกมิติต่างโลกด้วยเถิดค่ะ”

            หลินเป็นผู้ดูแลโลกนี้ก็จริง แต่ผู้สร้างคือต้นไม้โลก

            ไม่มีใครรู้ว่าต้นไม้โลกจริงๆ แล้วอยู่ที่ไหน ชื่อว่าอะไร รูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร รู้แค่ว่ามิติโลกนี้คือรากของต้นไม้โลกที่แผ่ขยายไปยังสถานที่ต่างๆ ของแต่ละมิติ แต่ละยุคสมัย แต่ละบุคคล ในมิติเหล่านั้นจะมีภูตเป็นผู้ดูแล

            มาตรฐานของการเลือกเจ้าของมิติขึ้นอยู่กับอะไรนั้น ลู่ซินฟางไม่ทราบและไม่มีเบาะแส

            แต่หลินเคยบอกกับลู่ซินฟางว่านางมีพรสวรรค์ในการเพาะปลูก ปลูกอะไรก็งอกงาม แถมยังมีความคิดสร้างสรรค์ ใช้ทรัพยากรในมิติให้เกิดประโยชน์ และการพัฒนาของนางยังทำให้เกิดทรัพยากรขึ้นอย่างไม่มีขีดจำกัด 

            แต่ละมิติจะเปลี่ยนแปลงเป็นรูปแบบไหนขึ้นอยู่กับเจ้านายรังสรรค์ขึ้นมา ลู่ซินฟางต้องการสร้างฟาร์ม อยากมีสถานที่พักผ่อนหย่อนใจอันเงียบสงบ มีของกินไม่อั้น ขณะเดียวกัน ก็ต้องมีเครื่องอำนวยความสะดวกด้วย

            นางเพลิดเพลินกับการสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ไปพร้อมกับหลินและเหล่าสัตว์อสูร

            ทรัพยากรในมิตินี้คือแหล่งพลังงานหล่อเลี้ยงต้นไม้โลก แต่เพื่ออะไรนั้นลู่ซินฟางไม่ค่อยแน่ใจ อาจมีไว้เพื่อชะลอการรุกรานของสัตว์ประหลาดที่มาพร้อมกับเกตก็เป็นได้ หรือเพิ่มศักยภาพให้กับเหล่าฮันเตอร์? 

            พอเผลอคิดถึงโลกเก่า ลู่ซินฟางอดอยากรู้ไม่ได้ พอนางคนเดิมตายไปแล้ว โลกนั้นเป็นยังไงบ้าง

            “หลิน”

            “อะไรเหรอ”

            “โลกเก่าของข้า ตอนนี้เป็นยังไงบ้างเหรอ”

            น้ำเสียงของลู่ซินฟางค่อนข้างเป็นกังวล

            แม้โลกนั้นไม่มีใครให้นางต้องห่วงใยหรืออาวรณ์อีกแล้ว แต่อย่างน้อยๆ ครั้งหนึ่งนางก็เคยอาศัยร่วมกับทุกคนที่นั่น

            หลินวางขนมแป้งทอดแล้วบินเข้ามานั่งบนบ่าของลู่ซินฟาง ลูบผมของนางราวกับต้องการปลอบโยน

            “เจ้านาย โลกเดิมของเจ้านายยังคงมีเกตปรากฏเกิดขึ้นเรื่อยๆ แต่ไม่ต้องห่วงนะ โลกนั้นยังไม่ล่มสลาย ทุกคนช่วยกันปราบสัตว์ประหลาดที่รุกรานโลกอย่างขันแข็งเลยละ”

            “แค่รู้ว่ายังไม่ล่มสลายหรือหายไป ก็สบายใจแล้วเนอะ” นางถอนหายใจพลางยิ้มอย่างโล่งอก

            ต้นไม้โลกมีความสำคัญ แต่ไม่มีอำนาจแทรกแซงโลกจริง หากยังรักษามิติต่างโลกนี้ไว้ ทรัพยากรก็จะเปลี่ยนเป็นพลังงาน และพลังงานนั้นก็จะส่งไปถึงต้นไม้โลกสินะ 

            “มาช่วยกันสร้างที่นี่ให้งดงามและอุดมสมบูรณ์ยิ่งกว่านี้กันเถอะ!” นางบอกอย่างแน่วแน่ 

            “พูดไปแล้ว ถ้าจะพาสัตว์อสูรออกไป พวกเจ้าต้องเปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์เต็มตัว แบบนั้นจะไหวกันไหมนะ” ลู่ซินฟางถามอย่างเป็นห่วง

            เอาจริงๆ ถ้าจะออกไปข้างนอก พวกเขาต้องอยู่ในร่างมนุษย์ แต่ตอนนี้พวกเขาเปลี่ยนร่างได้ครึ่งๆ กลางๆ เท่านั้น ถ้าความแตก คงลำบากแน่

            แล้วอีกอย่าง ประตูมิติอยู่กลางฝ่ามือนาง เข้าออกแต่ละครั้งคงต้องรอนางเปิดปิดประตูให้ แต่ถ้ามีประตูแยกก็คงดีไม่น้อย

            ระหว่างครุ่นคิดอะไรหลายๆ อย่าง หลางไป๋ใช้เวททำให้หูหมาป่าของตนเปลี่ยนเป็นหูคน ดูแล้วไม่ต่างจากมนุษย์

            ลู่ซินฟางเบิกตากว้างอย่างตะลึง

            “หลางไป๋ สุดยอดไปเลย!”

            “หลางไป๋เก่งจัง” หลินปรบมือแปะๆ พร้อมกับชมเชย

            หลางไป๋ยืดอดอย่างภูมิใจ “โฮ่ง! อ...อะแฮ่ม” 

            เมื่อกี้เห่าสินะ

            ลู่ซินฟางหัวเราะจนตาหยี

            ถ้าออกไปได้ คนแรกที่นางเลือกคงเป็นหลางไป๋นี่แหละ

            “อันที่จริง ทั้งทรัพยากรทั้งอาหารในมิติแฝงด้วยพลังเวท พวกเราเกิดและเติบโตที่นี่ก็ได้สะสมพลังเวทไปด้วย เปลี่ยนร่างแค่นี้ไม่ได้ทำให้ลำบากเลยขอรับ” หลางไป๋อธิบาย   

            ลู่ซินฟางฟังแล้วก็คิดว่า ถ้าการเปลี่ยนร่างไม่ทำให้เหล่าสัตว์อสูรต้องลำบาก เช่นนั้นก็เยี่ยมไปเลย!

            หลังจากนั้นทั้งสามก็พูดคุยเรื่องภายในมิติและโลกข้างนอกกันต่อ ในตอนนี้ลู่ซินฟางได้เพิ่มเป้าหมายลงไปในบันทึกสิ่งที่ต้องทำ อย่างแรก นางต้องสร้างสถานที่ที่ทำให้ทุกคนอยู่ได้อย่างมีความสุขและสบายใจ จากนั้นก็ขยายฟาร์ม ทำธุรกิจกับโลกภายนอก 

            คุยกันเพลิดเพลินไปหน่อย เผลอแป๊บเดียวก็ดึกเสียแล้ว ลู่ซินฟางกลับออกมาจากมิติ ลูกทั้งสองยังคงหลับปุ๋ย นางจุ๊บหน้าผากแฝดน้อยทั้งสอง ขยับผ้าห่มให้กับพวกเขา ก่อนจะล้มตัวนอน

            วันต่อมา ลู่ซินฟางเข้าเมืองพร้อมกับหิ้วตะกร้าใบหนึ่ง โดยให้ลูกทั้งสองอยู่เฝ้าบ้านเหมือนเดิม

            ตลอดช่วงเช้า ลู่ซินฟางสอนพ่อครัวของโรงเตี๊ยมตระกูลกงทำเค้กผิงกั่วตามข้อตกลงในสัญญา

            กงเยียนซูกอดอกยืนดูอยู่ข้างๆ

            “สิ่งนี้เรียกว่า ‘เนย’ หรือ มันทำมาจากอะไร”

            ชายหนุ่มพูดพร้อมชี้ไปที่ก้อนสี่เหลี่ยมสีเหลืองนวล กลิ่นหอมละมุน แต่พอลองชิมกลับมีรสเค็มและมัน

            ลู่ซินฟางตอบแบบคร่าวๆ เพราะนางก็ไม่รู้วิธีทำแบบละเอียดเหมือนกัน

“ก็...มีทั้งที่ทำจากไขมันของสัตว์และทำจากนมวัว นมแพะหรือนมแกะ ช่วยเพิ่มรสชาติและกลิ่นหอมให้กับขนมเจ้าค่ะ” 

            “เจ้าได้ของพวกนี้มาจากที่ไหนหรือ” เขาถามต่อ

            หญิงสาวหันไปยิ้มลึกลับให้กับชายหนุ่ม ตอบสั้นๆ ว่า “จากแดนไกล”

            กงเยียนซูได้ฟังอย่างนั้นก็เลิกคิ้ว ก่อนจะหัวเราะฮะๆ

            “ความลับทางการค้าสินะ ข้าเข้าใจ หากบอกแหล่งที่มา การซื้อขายนี้คงถูกข้าตัดหน้า”

            อันที่จริง ลู่ซินฟางไม่ได้คิดถึงขั้นนั้น เพราะต่อให้กงเยียนซูตะเวนทั่วแคว้นก็หาเนยอย่างที่นางใช้ไม่ได้อยู่ดี วัตถุดิบที่นางขาย นางเอาออกมาจากต่างมิติ แล้วเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ให้เข้ากับยุคสมัย แต่เอาเถอะ เขาคิดเช่นนั้นก็ช่วยนางได้มากเลย

            “ว่าแต่ เจ้าหาอาคารทำหน้าร้านได้หรือยัง” กงเยียนซูเปลี่ยนเรื่อง

            หญิงสาวส่ายหน้าตอบ “ให้พูดตรงๆ ข้ายังหาสถานที่เหมาะๆ ไม่ได้เลยเจ้าค่ะ”

            “ข้าพอจะรู้จักนายหน้าซื้อขายที่ไว้ใจได้ เช่นนั้นให้ข้าแนะนำดีหรือไม่”

            ลู่ซินฟางได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มกว้างทันที ให้คนมีชื่อเสียงอย่างกงเยียนซูช่วยแนะนำ ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะถูกโกง 

            “ถ้าอย่างนั้นคงต้องรบกวนท่านแล้ว”

            “เรื่องเล็กน้อย อีกอย่าง ข้ารู้สึกว่าร้านค้าของเจ้าจะต้องสร้างกำไรให้ข้าได้มากกว่านี้ แล้วข้าจะปล่อยคู่ค้าคนสำคัญเคว้งคว้างได้อย่างไร”

            ความรู้สึกไวต่อเงินของผู้ชายคนนี้ไม่ธรรมดา ลู่ซินฟางอดชมเชยไม่ได้

            ตอนนั้นเอง เค้กผิงกั่วสมบูรณ์แบบโดยฝีมือหัวหน้าพ่อครัวโรงเตี๊ยมตระกูลกงก็ทำเสร็จพอดี กลิ่นหอมของเนย กลิ่นน้ำตาลเคี่ยวหวานๆ และกลิ่นวนิลลาลอยกระทบปลายจมูก เรียกความสนใจของลู่ซินฟางกับกงเยียนซูให้หันมาทางนี้

            หัวหน้าพ่อครัวตัดเค้กออกมาสองชิ้นแล้วส่งให้กับทั้งสองคน พอลองชิมแล้วรสชาติอร่อยไม่ต่างจากเค้กที่ลู่ซินฟางทำ

            “ผะ ผ่านหรือไม่ขอรับ” หัวหน้าพ่อครัวถามกล้าๆ กลัวๆ

            ทั้งสองยกนิ้วโป้ง แทบตอบเป็นเสียงเดียวกัน

            “ผ่าน!”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 94 ตอบรับคำเชิญของกงเยียนซู

    บทที่ 94ตอบรับคำเชิญของกงเยียนซู พอถึงเวลาที่ต้องกลับ เป่าเอ๋อร์ร้องไห้งอแง เฉิงเอ๋อร์น้ำตาคลอเบ้า เด็กทั้งสองกอดเอวลู่ซินฟาง บอกว่าอยากอยู่ที่แดนสวรรค์ต่อ ลู่ซินฟางต้องสัญญาว่าจะพามาเที่ยวอีก พวกเขาถึงยอมฟังแต่โดยดี ได้เที่ยวเล่นกันทั้งวัน พอกลับมาถึงคฤหาสน์ อาบน้ำและกินมื้อค่ำจนอิ่ม เด็กทั้งสองก็หลับปุ๋ยในทันที วันถัดมา หลางไป๋เดินทางมาที่โรงเตี๊ยมตระกูลกง แจ้งเรื่องที่ลู่ซินฟางตอบรับคำเชิญกินมื้อเย็น ทั้งยังบอกจำนวนคนที่จะมา หลักๆ คือลู่ซินฟางกับเจ้าแฝด หลางไป๋และซินหลิน ส่วนชุนกับคนอื่นๆ ไม่ได้มาด้วย พวกเขาให้เหตุผลว่าวางตัวไม่ถูกหากต้องร่วมโต๊ะกับคนสูงศักดิ์ ยามพลบค่ำ ทุกคนเตรียมตัวเสร็จแล้วก็นั่งรถม้ามายังคฤหาสน์ตระกูลกงตามเวลานัดหมาย กงเยียนซูออกมายืนรอหน้าคฤหาสน์ด้วยตัวเอง หลางไป๋ประสานมือโค้งศีรษะให้กับกงเยียนซู จากนั้นหลุบตามองพวกเด็กๆ เจ้าแฝดทั้งสอง รวมถึงซินหลินที่เห็นอย่างนั้น ก็ประสานมือบนหน้าอกแล้วโค้งศีรษะลง ทำแบบเดียวกันกับหลางไป๋ กงเยียนซูมองเด็กทั้งสามด้วยสา

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 93 เที่ยวชมฟาร์ม

    บทที่ 93เที่ยวชมฟาร์ม กินขนมอิ่มกันแล้ว หลินก็ถามเด็กน้อยทั้งสองว่า “พวกเจ้าอยากไปชมฟาร์มกันไหม?” “ไปขอรับ/เจ้าค่ะ” เฉิงเอ๋อร์กับเป่าเอ๋อร์ตอบแบบไม่ต้องคิด เด็กน้อยคิดเหมือนว่า ฟาร์มในแดนสวรรค์กว้างขวางขนาดนี้ ต้องมีพืชผักที่ไม่เคยเห็นอีกเยอะแยะแน่ๆ ยิ่งคิดแล้วก็ยิ่งรู้สึกตื่นเต้น พอช่วยกันเก็บโต๊ะเสร็จเรียบร้อย ทั้งสี่คนก็เดินมาที่ฟาร์มฟาร์มในมิติมีขนาดกว้างใหญ่กว่าฟาร์มตระกูลลู่ที่อยู่ในหมู่บ้านกว่างซูหลายเท่า เด็กทั้งสองยืนมองสวนผักผลไม้ด้วยความตื่นตาตื่นใจ “ท่านแม่ ผักผลไม้พวกนี้ใช่ที่ท่านเอาออกไปวางขายในร้านหรือไม่” เฉิงเอ๋อร์เป็นเด็กฉลาด เห็นผักผลไม้ปุบก็เข้าใจทันที ว่าเป็นสินค้าที่มารดาเอาออกไปวางขายในร้าน “เจ้าเข้าใจถูกแล้ว ผักผลไม้ในแดนสวรรค์ แม่แบ่งออกไปขายข้างนอก เพราะพืชในที่แห่งนี้เติบโตเร็วกว่าข้างนอกหลายเท่า” “เป็นแบบนี้เอง” ตอนนั้นเอง สัตว์อสูรในร่างจำแลงมนุษย์ที่กำลังทำสวนหันมาเห็นลู่ซินฟางกับภูตประจำมิติพอดี พวกเขาต่างโบกมือทักทาย “ท่

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 92 พรสวรรค์ของเจ้าแฝด (ครึ่งหลัง)

    บทที่ 92พรสวรรค์ของเจ้าแฝด (ครึ่งหลัง) ใต้ร่มไม้ใหญ่ใกล้กับสวนดอกไม้ข้างบ้านทรงตะวันตกจะมีโต๊ะกลมสีขาวหนึ่งชุด ไม่ไกลจากสวนดอกไม้ มองไปก็จะเห็นฟาร์มอันกว้างขวาง หลังจากตัดสินใจว่าจะนั่งเล่นกันที่ใต้ร่มไม้ เด็กน้อยทั้งสองก็ปีนขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้สีขาว เตะขาเล่นในขณะที่รอคอยขนมอร่อยๆ สักครู่หนึ่ง ชุนก็ยกเค้กสตอเบอรี่กับนมอุ่นๆ มาวางบนโต๊ะ ส่วนถาดที่อยู่ในมือของลู่ซินฟางคือชากุหลาบกลิ่นหอมกลมกล่อมกับคุกกี้เนยสด “ท่านแม่ ข้าไม่เคยเห็นของพวกนี้มาก่อนเลย” เฉิงเอ๋อร์บอกด้วยสีหน้าตื่นเต้น ดวงตากลมโตเปล่งประกายขณะกวาดตามองขนมบนโต๊ะ “น่ากินทุกอย่างเลย ขะ…ข้ากินได้หรือไม่” เป่าเอ๋อร์พูดจบก็กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ “กินกันตามสบายเลยนะจ๊ะ” ลู่ซินฟางบอกพลางลูบศีรษะเล็กๆ ของลูกน้อยทั้งสอง เจ้าแฝดตัวน้อย รวมถึงภูตน้อยหลิน หยิบส้อมขึ้นมาตักเค้กสตอเบอรี่ส่งเข้าปาก ทันทีที่ได้กินของหวานแสนอร่อย รอยยิ้มสดใสปรากฏบนใบหน้าของทั้งสามคน แก้มขาวแดงระเรื่ออย่างน่าเอ็นดู ทำเอาลู่ซินฟางกับชุนถึงกับยิ้มตาม “อร

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 91 พรสวรรค์ของเจ้าแฝด (ครึ่งแรก)

    บทที่ 91พรสวรรค์ของเจ้าแฝด (ครึ่งแรก) พอก้าวข้ามประตูมิติ โลกอันงดงามก็ปรากฏต่อหน้าทุกคน ทุ่งข้าวสีทอง สวนผักผลไม้ ป่าไพรอันสีเขียวขจี และไหนจะธารน้ำอันสดชื่น ดวงตาใสแป๋วของเด็กน้อยทั้งสองเบิกโตด้วยความตื่นเต้น ขณะที่มองไปรอบๆ “แดนสวรรค์สวยจังเลย!” “อื้อ สวยมากๆ” “ยังมีสถานที่ที่สวยกว่านี้อีกนะ” ลู่ซินฟางบอกลูกๆ “อยากเห็นจังเลย ท่านแม่” เฉิงเอ๋อร์ตื่นเต้นมาก รีบร้องบอกท่านแม่ “ข้าก็ด้วย!” เป่าเอ๋อร์พยักหน้ารัวๆ ระหว่างที่เด็กน้อยทั้งสองกำลังตื่นตาตื่นใจกับสภาพแวดล้อมอันงดงามที่อยู่ตรงหน้า เสียงเล็กน่ารักพลันดังขึ้น “งั้นข้าจะเป็นคนนำเที่ยวให้เอง ฮิๆๆ” สิ้นเสียงนั้น ภูตน้อยหลินก็ปรากฏตัวต่อหน้าทุกคน ปีกน้อยขยับไปมาพร้อมกับละอองที่มีเปล่งประกายสีทองวิบวับ เจ้าแฝดเบิกตาโตพร้อมกับร้อง “ว้าว” “พวกเขาคือเฉิงเอ๋อร์กับเป่าเอ๋อร์สินะ”หลังบินวนรอบๆ เด็กน้อยทั้งสอง หลินก็กลับมานั่งบนไหล่ของลู่ซินฟาง หญิงสาวยิ้มแล้วพยักหน้าให้ก

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 90 พาเจ้าแฝดไปต่างมิติ

    บทที่ 90พาเจ้าแฝดไปต่างมิติ “ท่านจะตอบรับคำเชิญของเขาหรือไม่ขอรับ” ทันทีที่ลู่ซินฟางเปิดประตูเดินออกจากห้องทำงาน เสียงทุ้มของหลางไป๋ก็ดังขึ้น หญิงสาวหันมอง เห็นหมาป่าหนุ่มยืนกอดอกอยู่ข้างประตู เฮ้อ… ลู่ซินฟางถอนหายใจด้วยรู้สึกคิดไม่ตก ก่อนจะตอบกลับไป “ข้าในชาติก่อนไม่เคยสับสนกับเรื่องแบบนี้ ไม่รู้ว่าควรจะตอบรับคำเชิญของเขาหรือไม่” คำพูดของหญิงสาวทำเอาหมาป่าหนุ่มกระดกยิ้มตรงมุมปากอย่างขบขัน “ใครจะคิดว่านายหญิงที่คอยชี้นำเหล่าสัตว์อสูรจะเผชิญกับความสับสนเสียเอง” “ก็ข้าไม่เคยคิดนี่น่า คนที่มีศักดิ์ฐานะสูงส่งแบบกงเยียนซูจะมาสนใจหญิงหม้ายลูกติด” “นายหญิงขอรับ อย่างที่ท่านกงบอกนั่นละ การจะชอบใครสักคนทำไมต้องมีเหตุผล สำคัญกว่าฐานะ นายหญิงคิดเช่นไรกับเขาต่างหาก” ลู่ซินฟางคิดตาม ก็รู้สึกว่าหลางไป๋พูดถูก ปัญหาไม่ใช่เรื่องฐานะ สำคัญที่สุดคือลู่ซินฟางคิดกับกงเยียนซูอย่างไร? อย่างไรก็ตาม ลู่ซินฟางหรี่ดวงตาด้วยความสงสัยขณะจ้องมองหมาป่าหนุ่ม “เมื่อก่

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 89 ถูกสารภาพรักครั้งแรก

    บทที่ 89ถูกสารภาพรักครั้งแรก หมายความว่ายังไง เขาไม่ได้โกหก เขาที่ประกาศต่อหน้าทุกคนว่า ‘ชอบ’ นาง บอกว่าไม่ได้โกหก ลู่ซินฟางนั่งตัวแข็งทื่อ อึ้งจนทำอะไรไม่ถูกอยู่ชั่วขณะ ต่อมา หัวใจของนางก็เต้นอย่างรุนแรง ใบหน้าร้อนผ่าวและแดงระเรื่อ ในโลกก่อนและโลกนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่ลู่ซินฟางถูกชายหนุ่มสารภาพว่าชอบ นางจึงสับสนและรับมือกับอารมณ์ในตอนนี้ไม่ถูก ผ่านไปครู่หนึ่ง ดวงตาคู่สวยกะพริบมองชายหนุ่มอยู่หลายครั้ง กงเยียนซูเลิกคิ้วมองตอบลู่ซินฟาง ดวงตาของเขาแฝงด้วยความสงสัย ว่ากันตามจริง ลู่ซินฟางไม่ใช่สาวน้อยวัยแรกแย้ม ทำไมท่าทางเขินอายนั้นถึงทำให้รู้สึกราวกับว่านางเพิ่งถูกสารภาพรักครั้งแรก “ท่านไม่ได้เข้าใจอะไรผิดใช่หรือไม่” หลังจากเงียบอยู่สักพัก ในที่สุดลู่ซินฟางก็เอ่ยออกมา “ข้าไม่ได้เข้าใจผิด คิดมาดีแล้วถึงได้มาหาเจ้าวันนี้” “ถึงท่านจะพูดแบบนั้น แต่ข้ากลับนึกไม่อออก เหตุใดท่านถึงชอบข้า ทั้งฐานะของข้ากับท่านก็แตกต่างกันมาก” “จ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status