ตอนพิเศษ (2)
สถานที่นี้เรียกว่าฟาร์ม มีทั้งสวนผัก สวนผลไม้ ทุ่งดอกไม้ โรงเรือนเพาะต้นกล้า ไหนจะโรงผลิตสารพัดที่เพิ่มขึ้นเหมือนกับดอกเห็ด
หนำซ้ำ ยังมีหมู่บ้านของเหล่าสัตว์อสูร ถนนที่ปูด้วยอิฐ ตรงลานกว้างของเมืองก็มีน้ำพุขนาดใหญ่
พวกเขาอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข…น่าอิจฉาและดูน่าสนุกกันจังเลย
จิ้งจอกสาวคิด ก่อนจะถอนหายเฮือกออกมาหนึ่ง
หญิงสาวชอบความตื่นตาตื่นใจของฟาร์ม ถึงได้แอบมาดูทุกวัน
ในตอนที่ลำแสงสีทองสาดเข้ามาในป่ารกทึบ จากนั้นเหล่าสัตว์ก็มีวิวัฒนาการกลายร่างเป็นมนุษย์ ตอนนั้นนางตื่นเต้นมาก กระโดดโลดเต้นรอบป่า
ยิ่งค้นพบว่ายังมีสัตว์เผ่าอื่นที่กลายร่างเป็นมนุษย์ นางก็ยิ่งอยากเป็นเพื่อนกับทุกคน เพราะอย่างนั้นตอนที่หมาป่าเพศผู้นามว่าหลางไป๋มาเจรจาขอเป็นพันธมิตรกับเผ่าจิ้งจอก นางอยากให้ท่านพ่อตอบรับการเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับท่านภูต แต่ว่า ท่านพ่อกลับปฏิเสธ
แม้ผิดหวังอย่างมาก แต่คำสั่งของผู้นำเผ่าถือเป็นเด็ดขาด
เช้าตรู่ของวันนี้ จิ้งจอกสาวก็ยังแอบมาที่ฟาร์ม นางหลบหลังต้นไม้ใหญ่ แอบดูพวกสัตว์อสูรทำงานกันอย่างขยันขันแข็ง
ดวงตาเรียวรีของหญิงสาวกวาดมองสวนผลไม้ พลางคิดในใจว่า ผลไม้เหล่านั้นสดน่ากินจัง ผักที่อยู่ตรงนั้นก็สดมาก จะหวานกรอบสักแค่ไหนกันนะ...
ทันใดนั้น สายตาของนางก็ปะทะเข้ากับสายตาคู่หนึ่ง
ด้วยความตกใจ นางผงะถอยหลัง
“อ๊ะ!”
จิ้งจอกสาวตระหนกลนลาน รีบหมุนตัวหันหลัง แปลงร่างเป็นจิ้งจอกแล้ววิ่งหนีด้วยความเร็วรี่
“มองอะไรอยู่” ซินหลินเอ่ยถาม พร้อมกับชะเง้อชะแง้มองตามทิศทางที่หลางไป๋มองไป “ไม่เห็นมีอะไรเลยนี่”
“นางมาที่นี่อีกแล้ว”
พอหลางไป๋เอ่ยประโยคนั้น ซินหลินก็ทำสีหน้าเข้าใจทันที
“จิ้งจอกตนนั้นอีกแล้วสินะ”
แม้ว่าจิ้งจอกสาวตนนั้นจะพยายามแอบซ่อนตัวตนอย่างดี แต่เพราะนางมาที่นี่บ่อยๆ แถมยังเป็นเวลาเดิม ทุกคนจึงรู้ถึงตัวตนของนางมาตั้งนานแล้ว เพียงแต่ไม่มีใครพูดออกมาเท่านั้นเอง
“ทั้งที่อยากเป็นพันธมิตรกับพวกเราแท้ๆ ทำไมไม่พูดออกมาตรงๆ เลยนะ พวกจิ้งจอกเป็นเผ่าที่ปากแข็งกันหรือไง” ซินหลินบ่นพลางกรอกตา
หลางไป๋ส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า “ไม่ใช่เพราะปากแข็งหรือความหยิ่ง พวกจิ้งจอกเป็นพวกรักสงบ อีกอย่าง ตอนที่ข้าไปเจรจาด้วย ผู้นำเผ่าจิ้งจอกก็ไม่ได้แสดงความยโสอวดดีอะไร”
“แล้วทำไมไม่ตอบรับคำชวนของเจ้าล่ะ” ซินหลินถาม
“คงมีเหตุผลอะไรละมั้ง” หลางไป๋หยักไหล่ตอบ
“ยังไงก็ช่างเถอะ ข้าทำงานต่อกันดีกว่า” ซินหลินตัดบท
หลางไป๋เองก็ไม่พูดพร่ำเพื่อ ทำงานของตนต่อไป
พวกเขามาที่มิติเพื่อเอาผักผลไม้ไปเติมในร้าน และเช็คสต็อกของในโกดัง ส่วนจิ้งจอกสาวตนนั้น ถ้าไม่ได้มาเพื่อทำร้ายใคร พวกเขาก็ไม่ได้ถือสาอะไร
วันต่อมา และวันต่อๆ มา
หญิงสาวเผ่าจิ้งจอกยังคงมายังคงมาแอบมาที่ฟาร์มเหมือนเดิม
แต่หนนี้ หลางไป๋มาดักรอเพื่อคุยกับนางโดยเฉพาะ พอเห็นนางมาด้อมๆ มองๆ หลังต้นไม้ที่เก่าเวลาเดิม หลางไป๋ก็ทักนางทันที
“เจ้ามาที่นี่อีกแล้ว?”
“เหวอ!”
จิ้งจอกสาวตกใจจนเก็บอาการลนลานไม่อยู่ นางถอยหลังเตรียมวิ่งหนี แต่แล้วขาของนางก็พันกันจนล้มก้นจ้ำเบ้า
หลางไป๋ส่ายหน้าเอือมๆ ก่อนจะยื่นมือให้นาง
หญิงสาวมองมือของชายหนุ่มที่ยื่นมาตรงหน้า สักครู่ก็จับมือของเขาแล้วพยุงตัวลุกขึ้น
“ขอบคุณ”
“เจ้ามีชื่อหรือไม่” หลางไป๋ถาม
จิ้งจอกสาวส่ายหน้า
แน่ละ สัตว์อสูรไม่รู้ตัวหนังสือจึงไม่มีชื่อ
ชายหนุ่มมองข้ามชื่อ แล้วถามเข้าเรื่อง
“เห็นมาแอบดูทุกวัน เจ้าอยากมาทำงานที่ฟาร์มหรือ”
หญิงสาวก้มหน้า เม้มปากแน่นและไม่ได้ตอบ
อย่างไรก็ตาม หมาป่าหนุ่มมองออกว่าจิ้งจอกสาวตนนี้อยากมาทำงานที่ฟาร์ม
หลังจากถอนหายใจทีหนึ่ง หลางไป๋ก็ชี้แนะนางต่อ “แทนที่จะแอบมอง ไปบอกพ่อเจ้าว่าอยากทำงานที่ฟาร์มไม่ดีกว่าหรือ”
“คือว่า ถ้าท่านพ่อของข้าอนุญาต เจ้านายของท่านจะรับข้าให้มาอยู่ที่นี่ด้วยใช่หรือไม่”
“นายหญิงของพวกเราเป็นคนใจดี ขอแค่ไม่คิดร้าย นายหญิงย่อมรับเจ้ามาทำงานด้วยอยู่แล้ว ว่าแต่ เจ้าถนัดทำงานอะไร”
นางส่ายหน้าอีกครั้ง “ไม่รู้”
ชายหนุ่มครุ่นคิดสักครู่ แล้วพูดขึ้นว่า “เอาอย่างนี้ กลับไปขออนุญาตพ่อเจ้าก่อน แล้วก็ค่อยๆ คิดว่าอยากทำอะไร หรือถนัดงานด้านไหน แล้วค่อยมาบอกข้า”
“ท่านพูดจริงหรือ ท่านผู้ช่วย!”
“ข้าไม่เคยหลอกลวงใคร (หากไม่จำเป็นละก็)” หลางไป๋ตอบ พร้อมกล่าวเสริมในใจ
“เข้าใจแล้ว ข้าจะไปขออนุญาตท่านพ่อ”
หญิงสาวยิ้มพูดด้วยความใสซื่อ
ระหว่างพูดคุยกับจิ้งจอกสาวตนนี้ หลางไป๋รู้สึกขัดแย้งในใจ เคยได้ยินมาว่า จิ้งจอกเป็นพวกเจ้าเล่ห์ แต่ทำไมจิ้งจอกสาวตนนี้ถึงใสซื่อบริสุทธิ์อย่างไม่น่าเชื่อ
“เอาเถอะ เจ้าไปขออนุญาตพ่อเจ้า ได้คำตอบอย่างไรก็มาบอกข้าแล้วกัน”
“เข้าใจแล้ว”
“ท่านไม่เพียงแค่หล่อ ยังเป็นคนดีอีกด้วย ขอบคุณนะ!” นางยิ้มแย้ม พร้อมยังพูดจาอย่างเปิดเผย หลังจากพูดจบ นางก็วิ่งออกไปทันที
หัวคิ้วของหมาป่าหนุ่มขมวดเข้าหากัน หัวใจเต้นแรงด้วยความรู้สึกบางอย่าง...จิ้งจอกตนนี้ เป็นสตรีที่แปลกคนเสียจริง
ตอนพิเศษ (5)จบบริบูรณ์ หลังจากปรับอารมณ์ได้แล้ว จิ้งจอกสาวก็เช็ดน้ำตาบนแก้มจนแห้ง สูดหายใจลึกๆ ทีหนึ่ง ก่อนจะออกจากห้องเพื่อไปขอโทษหลางไป๋ ทว่าทุกครั้งที่นางเข้าใกล้ เขากลับผละหนี แสร้งทำทีเป็นยุ่งง่วนกับงาน ท่าทางแบบนั้นราวกับจงใจหลบหน้านางไม่มีผิด เมื่อตระหนักได้เช่นนั้น เจียงจวีก็น้ำตาซึม รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก นับวันหัวใจของนางก็ยิ่งปวดแปลบ ท้ายที่สุด นางที่รู้สึกระอายใจเป็นทุนเดิม ยิ่งไม่กล้าสู้หน้าเขา หลายวันต่อมา เจียงจวีเก็บข้าวของ หนีกลับเผ่าจิ้งจอก ณ เผ่าจิ้งจอก ผู้นำเผ่าจิ้งจอกในร่างของชายวัยคนกับจิ้งจอกหนุ่มต่างยืนกอดอกหน้าตาขึงขัง ในขณะที่มองจิ้งจอกสาวกอดเข่าน้ำตาซึม “ตั้งแต่นางกลับมาก็เอาแต่นั่งอมทุกข์ทั้งวันทั้งคืน สงสัยจะเจอแย่ๆ มา หากรู้อย่างนี้ ข้าไม่น่าอนุญาตให้นางออกไปเจอโลกภายนอกเลย เป็นข้าที่ตัดสินใจผิดพลาดเอง” ผู้นำเผ่าพูดกับลูกชาย “ท่านพ่อไม่ได้ตัดสินใจผิดพลาดหรอกขอรับ ให้นางออกไปเผชิญโลกภายนอก นับเป็นประสบการณ์ของนางด้วย” จิ้งจอกหนุ่มกล่าว
ตอนพิเศษ (4) หลังจากเห็นว่าเจียงจวีเหมาะกับตำแหน่งพนักงานขาย หลางไป๋ก็ให้นางทำงานในร้านซินหลินคู่กับห่จือเหมย เพียงไม่กี่อาทิตย์ เจียงจวีก็เป็นพนักงานขายอันดับต้นๆ ของร้าน ด้วยความที่เป็นจิ้งจอกใสซื่อ จึงทำให้ผู้คนชื่นชอบและเอ็นดูไม่น้อย ไม่เว้นแม้แต่หลางไป๋ “ทำงานแค่ไม่กี่อาทิตย์ เจ้าก็ทำกำไรให้ร้านซินหลินไม่น้อย…ทำดีมาก” หลางไป๋เอ่ยชมเจียงจวี พร้อมกับยื่นมือไปลูบศีรษะ ตอนแรก หมาป่าหนุ่มทำไปโดยไม่ได้คิดอะไร แต่พอเห็นจิ้งจอกสาวผงะ ทั้งแก้มนวลเนียนยังขึ้นสีแดงระเรื่อ มือใหญ่ที่กำลังลูบศีรษะของนางพลันชักกลับมา จากนั้นเขาก็หมุนตัวเดินไปตรวจงานแผนกอื่น และไม่พูดไม่จาใดๆ หัวใจของเจียงจวีเต้นระส่ำระส่ายไม่หยุด แม้ยกมือขึ้นลูบหน้าอกพร้อมสูดหายลึกๆ แล้ว หากแต่หัวใจยังคงเต้นแรงเหมือนจะกระเด็นออกมา อย่างไรก็ตาม อาการใจเต้นแรงนี้ ทำให้จิ้งจอกสาวอดรู้สึกกังวลไม่ได้ หมิงฮวาเข้าร้านมาในจังหวะนั้นพอดี นางมองหลางไป๋สลับกับมองเจียงจวี สักครู่ ดวงตาของอสรพิษสาวก็หรี่ลงเล็กน้อย เมื่อเห็นหลางไป๋ขึ้นไปที่ชั้
ตอนพิเศษ (3) วันต่อมา จิ้งจอกสาวหอบห่อผ้ามาที่ฟาร์มอีกครั้ง แต่หนนี้นางมาพร้อมกับพี่ชาย “พวกเจ้าสองพี่น้องจะมาอยู่ที่ฟาร์มด้วยกันหรือ” หลางไป๋สอบถาม การได้คนหน่วยกร้านดีเพิ่ม มีใครบ้างไม่ชอบ ทว่าจิ้งจอกหนุ่มโบกมือแล้วตอบ “ไม่ใช่ขอรับ ข้าแค่มาส่งน้องสาว อีกอย่าง ที่มาวันนี้ก็เพื่อขอร้องท่านให้ช่วยดูแลนางด้วย นางค่อนข้างซื่อน่ะขอรับ” หลางไป๋พยักหน้าเหมือนเข้าใจ หญิงสาวเผ่าจิ้งจอกยิ้มใสซื่อ โค้งศีรษะให้กับหลางไป๋ทีหนึ่ง “จากนี้ข้าต้องขอฝากตัวด้วยเจ้าค่ะ” หลางไป๋หันไปยิ้มให้กับหญิงสาวเผ่าจิ้งจอกพลางตอบว่า “ทางนี้ก็ต้องฝากตัวด้วยเช่นกัน” จากนั้นก็หันไปพูดกับทางพี่ชายด้วยสีหน้าเสียดาย “พูดก็พูดเถอะ เจ้าเองก็หน่วยกร้านดีไม่เบา น่าจะมาอยู่ที่ฟาร์มด้วยกัน” “ความจริงข้าก็อยากมาทำงานที่นี่นะขอรับ แต่เพราะท่านพ่อของพวกเรากำลังป่วย ข้าที่เป็นลูกชาย และยังเป็นว่าที่หัวหน้าเผ่าคนต่อไป ต้องคอยจัดการหลายๆ เรื่อง ตอนนี้ก็เลยออกจากเผ่าไม่ได้” “ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกนะ” “ขอบคุณท่านผู
ตอนพิเศษ (2) สถานที่นี้เรียกว่าฟาร์ม มีทั้งสวนผัก สวนผลไม้ ทุ่งดอกไม้ โรงเรือนเพาะต้นกล้า ไหนจะโรงผลิตสารพัดที่เพิ่มขึ้นเหมือนกับดอกเห็ด หนำซ้ำ ยังมีหมู่บ้านของเหล่าสัตว์อสูร ถนนที่ปูด้วยอิฐ ตรงลานกว้างของเมืองก็มีน้ำพุขนาดใหญ่ พวกเขาอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข…น่าอิจฉาและดูน่าสนุกกันจังเลย จิ้งจอกสาวคิด ก่อนจะถอนหายเฮือกออกมาหนึ่ง หญิงสาวชอบความตื่นตาตื่นใจของฟาร์ม ถึงได้แอบมาดูทุกวัน ในตอนที่ลำแสงสีทองสาดเข้ามาในป่ารกทึบ จากนั้นเหล่าสัตว์ก็มีวิวัฒนาการกลายร่างเป็นมนุษย์ ตอนนั้นนางตื่นเต้นมาก กระโดดโลดเต้นรอบป่า ยิ่งค้นพบว่ายังมีสัตว์เผ่าอื่นที่กลายร่างเป็นมนุษย์ นางก็ยิ่งอยากเป็นเพื่อนกับทุกคน เพราะอย่างนั้นตอนที่หมาป่าเพศผู้นามว่าหลางไป๋มาเจรจาขอเป็นพันธมิตรกับเผ่าจิ้งจอก นางอยากให้ท่านพ่อตอบรับการเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับท่านภูต แต่ว่า ท่านพ่อกลับปฏิเสธ แม้ผิดหวังอย่างมาก แต่คำสั่งของผู้นำเผ่าถือเป็นเด็ดขาด เช้าตรู่ของวันนี้ จิ้งจอกสาวก็ยังแอบมาที่ฟาร์ม นางหลบหลังต้นไม้ใหญ่ แ
ตอนพิเศษ (1) ต้นฤดูหนาวของปีนั้น ชุนกับจิ่นเซี่ยได้จัดพิธีแต่งงานแบบเรียบง่าย โดยหลางไป๋เป็นญาติฝ่ายหญิง ส่วนจิ่นเซี่ยนั้น เนื่องจากองครักษ์หนุ่มผู้นี้เป็นเด็กกำพร้า ญาติฝ่ายชายจึงเป็นกงเยียนซู แม้เป็นงานแต่งที่เรียบง่าย แต่เพราะได้ลู่ซินฟางเป็นแม่งาน อาหารสุราจึงขึ้นเต็มโต๊ะตลอดทั้งวันทั้งคืน แขกเหรื่อที่มาร่วมงานล้วนเป็นคนกันเอง งานแต่งของชุนกับองครักษ์หนุ่ม จึงเหมือนกับวันรวมญาติมากกว่าเป็นงานมงคล ลู่ซินฟางอนุญาตให้ชุนหยุดได้เท่าที่ต้องการ หลังเสร็จสิ้นงานแต่ง ทุกคนกลับมาใช้ชีวิตปกติเหมือนเดิม หลายวันหลังจากนั้น อุณหภูมิเริ่มลดต่ำ สายลมหนาวเย็นพัดมาเป็นระลอก ลู่ซินฟางยืนอยู่บนระเบียง มองพวกเด็กๆ วิ่งเล่นกันที่ลานกว้าง “เด็กๆ เนี่ย ไม่รู้จักความหนาวกันเลยหรือไงนะ” ลู่ซินฟางพึมพำด้วยความเอ็นดู “แอร๊…!” ตอนนั้นเอง เสียงเล็กๆ ของจินเอ๋อร์ดังมาจากในเปล ลู่ซินฟางผละสายตาออกจากพวกเฉิงเอ๋อร์ เดินกลับมาหาลูกน้อยที่นอนในเปล จินเอ๋อร์อา
บทที่ 128บทพิเศษ มิติที่สมบูรณ์ และ รักจนแก่เฒ่า (ครึ่งหลัง) จบบริบูรณ์ เมื่อกลับมาจากมิติ ซินหลินก็มาหาลู่ซินฟางที่คฤหาสน์ เจ้าแฝดพอเห็นพี่ชายมาหา ก็วิ่งเข้าไปเกาะแขน กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ “พี่ชายซินหลิน เมื่อกี้พวกเราไปมิติมาด้วย” “พี่ชายซินหลิน พวกเราไปอ่านหนังสือกันเถอะ” ซินหลินส่ายหน้าพร้อมเคาะปลายจมูกน้อยๆ ของเด็กทั้งสองเบาๆ คนละที “พวกเจ้าเรี่ยวแรงเหลือเฟือจริงๆ เลยนะ เพิ่งกลับมาจากมิติไม่ใช่หรือ คิดจะเล่นกันอีกแล้ว?” “ฮะๆ” “คิๆ” เจ้าแฝดหัวเราะชอบใจ ซินหลินยิ้มให้กับน้องๆ ก่อนหันมาบอกลู่ซินฟางว่า “ข้าเพิ่งเอาผักไปให้เหนียงซิ่น นางบอกว่าอากาศน่าจะเริ่มหนาวแล้ว นางว่าจะทำหม้อไฟชุดใหญ่ เลยให้ข้ามาบอกน่ะ” “ขอบใจมาก รอเยียนซูกลับมาแล้วข้าจะพาเด็กๆ ไปที่คฤหาสน์นะ” ลู่ซินฟางตอบกลับ “อืม” “หม้อไฟ” “เย่ หม้อไฟ!” หม้อไฟฝีมือเหนียงซิ่นอร่อยมาก แถมนานๆ ครั้งจะได้สักที พวกเด็กๆ จึงชูแขนร้องด้วยความดีใจ