แชร์

บทที่ 39 เลี้ยงไก่ (ครึ่งหลัง)

ผู้เขียน: ฮาจิฮาจิ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-07-21 17:30:33

บทที่ 39

เลี้ยงไก่ (ครึ่งหลัง)

            ข้าวของของลู่ซินฟางกับลูกทั้งสองมีไม่มาก อันที่จริง ขนย้ายแค่เสื้อผ้าเท่านั้น เพราะที่เรือนหลักมีเครื่องเรือนพร้อมใช้อยู่แล้ว

            ทว่าในส่วนของเรือนเล็กนั้นยังไม่มีเครื่องเรือนใดๆ ลู่ซินฟางจึงยกโขยงสยงจวินกับพี่น้องกระต่ายและคนอื่นๆ ไปร้านเครื่องเรือนเพื่อซื้อตู้ โต๊ะและเตียงซึ่งอยู่อีกถนนหนึ่ง 

            ตอนลู่ซินฟางพาพวกเขามาเลือกเครื่องเรือนก็เป็นเวลาเย็นมากแล้ว

            แม้ร้านเครื่องเรือนมีของให้เลือกมากมาย เนื่องจากเป็นเครื่องเรือนที่ทำสำเร็จรูป แต่กว่าจะเลือกเครื่องเรือนกันครบ และกว่าจะขนย้ายจากร้านมาถึงคฤหาสน์ก็ต้องใช้เวลา

            สรุปแล้ว กว่าทุกอย่างจะเข้าที่เข้าทางก็เป็นเวลาค่ำมืดพอดี 

            ตอนหัวค่ำ ระหว่างที่พวกเขากำลังจัดการห้อง ลู่ซินฟางกับเหนียงซิ่นซึ่งเป็นภรรยาของสยงจวินเข้าครัวช่วยกันทำอาหารขึ้นโต๊ะหลายอย่าง ถือเป็นการเลี้ยงฉลองเล็กๆ น้อยๆ 

            พอในบ้านมีสมาชิกเพิ่ม ทั้งบรรยากาศบนโต๊ะอาหารยังครึกครื้นเช่นนี้ ลู่ซินฟางรู้สึกว่า แม้อาหารที่ทำจะเป็นของง่ายๆ ธรรมดา แต่พอเห็นทุกคนกินอาหารด้วยความเอร็ดอร่อย สีหน้าเบิกบาน นางก็พลอยมีความสุขไปด้วย

            “นายหญิงยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เชียวนะเจ้าคะ” เหนียงซิ่นเอ่ยถาม

            ลู่ซินฟางอมยิ้มพลางตอบ “ข้ารู้สึกว่าตอนนี้บ้านลู่กลายเป็นครอบครัวใหญ่ไปแล้ว หลังจากนี้คงสนุกไม่น้อย”  

            แฝดทั้งสองพอได้ยินมารดาพูดเช่นนั้นก็หันหน้ามองกัน ก่อนจะหัวเราะคิกๆ

            “ลูกๆ ก็ชอบให้บ้านเรามีสมาชิกเยอะๆ เหมือนกันสินะ” ลู่ซินฟางถามพลางเช็ดข้าวบนแก้มให้เป่าเอ๋อร์

            ศีรษะเล็กของเป่าเอ๋อร์พยักขึ้นลง “อยู่ด้วยกัน ข้าจะได้เล่นกับพี่ชายพี่สาวเยอะๆ เลย”

            พี่น้องกระต่ายยิ้มอ่อนโยนให้กับเด็กน้อยทั้งสอง ตอนอยู่ที่ร้าน พวกเขาเล่นกับเฉิงเอ๋อร์และเป่าเอ๋อร์เฉพาะตอนพัก แต่ถ้าอยู่บ้านเดียวกัน ก็มีเวลาเล่นด้วยกันเพิ่มขึ้น

            ลูกชายคนเล็กของสยงจวินอายุ 8 ขวบชื่อสยงเหยา เพิ่งเจอกับเด็กแฝดครั้งแรก วันนี้ระหว่างที่ผู้ใหญ่ยุ่งๆ เรื่องขนย้ายข้าวของเข้าบ้าน สยงเหยาก็อยู่เล่นกับเฉิงเอ๋อร์กับเป่าเอ๋อร์อย่างดี และเห็นว่าจะเรียนหนังสือด้วยกัน ด้วยอายุที่ห่างกันไม่มาก เลยสนิทกันเร็ว 

            ลู่ซินฟางลูบศีรษะเล็กๆ ของลูกทั้งสอง 

            สามวันต่อมา สยงจวินกับสยงอู๋บอกว่าโรงเรือนเลี้ยงไก่สร้างเสร็จเรียบร้อย

            ไม่ใช่แค่เพียงที่สวน ทางมิติต่างโลกก็สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้วเหมือนกัน

            ก่อนจะเกิดเรื่องโจรปล้นบ้าน ลู่ซินฟางเตรียมพื้นที่สร้างโรงเรือนสำหรับเลี้ยงไก่ไว้ทั้งสองโลก ฝั่งทางนี้สยงจวินเป็นคนจัดการ ฝั่งมิติต่างโลกเป็นหน้าที่ของสยงเจ๋อ น้องชายของสยงจวิน

            พอจัดการธุระในร้านเสร็จเรียบร้อย ลู่ซินฟางเดินมาหาชุนกับพวกเด็กๆ ที่พักในเรือนรังรองด้านหลัง

            “ชุน ประเดี๋ยวข้ากับหลางไป๋จะออกไปทำธุระที่สวน ฝากดูแลเด็กๆ ด้วยนะ”

            “ได้เจ้าค่ะ” ชุนตอบอย่างขมักเขม่น

            “ข้าก็จะช่วยนางอีกแรง นายหญิง”

            นั่นเป็นเสียงของชายหนุ่ม ถึงไม่ใช่ของคนแปลกหน้า แต่ก็ทำให้ลู่ซินฟางเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ 

            “แล้วทำไมเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่ได้”

            จิ่นเซี่ยหัวเราะแห้งๆ

            ทว่าก่อนที่ฝ่ายนั้นจะตอบ ลู่ซินฟางก็ตัดบทว่า “ช่างเถอะ ข้าไปธุระกับหลางไป๋คิดว่าอาจจะกลับมาเย็นๆ สักหน่อย มีคนช่วยดูแลเด็กๆ เพิ่มก็ดีเหมือนกัน”

            “ขอรับ”

            “ท่านแม่ รีบกลับมานะ” เป่าเอ๋อร์โผกอดมารดา

            นางเคาะจมูกเล็กๆ ของลูกสาว “ห้ามดื้อกับพี่สาวชุนล่ะ เฉิงเอ๋อร์ด้วยนะ ห้ามออกไปเล่นไกล”

            “เจ้าค่ะ”

            “ขอรับ”

            นางลูบศีรษะเล็กๆ ของลูกทั้งสอง

            จากนั้น ลู่ซินฟางกับหลางไป๋ก็ขึ้นรถม้าตรงมายังถนนปศุสัตว์เพื่อซื้อลูกเจี๊ยบกลับไปที่สวน 100 ตัว ทั้งยังซื้ออาหารไก่ไว้อีกหลายกระสอบ เมื่อมาถึงที่สวน นางแยกลูกเจี๊ยบออกมา 50 ตัวเพื่อนำไปเลี้ยงที่มิติต่างโลก

            อันที่จริง โลกทางนั้นมีไก่ แต่เป็นไก่ป่าสายพันธุ์อสูร

            แม้ออกไข่และกินเนื้อได้ปกติ แต่รสชาติก็ไม่เหมือนไก่ของโลกมนุษย์ที่เนื้อสัมผัสชุ่มฉ่ำ กลิ่นคาวก็น้อย ที่ผ่านมาเคยแต่นำเมล็ดพืชจากโลกมนุษย์มาปลูกในโลกนี้ ยังไม่เคยเลี้ยงสัตว์ ลู่ซินฟางต้องการทดลองว่าสัตว์พวกนี้จะสามารถเข้ากับโลกนี้ได้หรือไม่

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 94 ตอบรับคำเชิญของกงเยียนซู

    บทที่ 94ตอบรับคำเชิญของกงเยียนซู พอถึงเวลาที่ต้องกลับ เป่าเอ๋อร์ร้องไห้งอแง เฉิงเอ๋อร์น้ำตาคลอเบ้า เด็กทั้งสองกอดเอวลู่ซินฟาง บอกว่าอยากอยู่ที่แดนสวรรค์ต่อ ลู่ซินฟางต้องสัญญาว่าจะพามาเที่ยวอีก พวกเขาถึงยอมฟังแต่โดยดี ได้เที่ยวเล่นกันทั้งวัน พอกลับมาถึงคฤหาสน์ อาบน้ำและกินมื้อค่ำจนอิ่ม เด็กทั้งสองก็หลับปุ๋ยในทันที วันถัดมา หลางไป๋เดินทางมาที่โรงเตี๊ยมตระกูลกง แจ้งเรื่องที่ลู่ซินฟางตอบรับคำเชิญกินมื้อเย็น ทั้งยังบอกจำนวนคนที่จะมา หลักๆ คือลู่ซินฟางกับเจ้าแฝด หลางไป๋และซินหลิน ส่วนชุนกับคนอื่นๆ ไม่ได้มาด้วย พวกเขาให้เหตุผลว่าวางตัวไม่ถูกหากต้องร่วมโต๊ะกับคนสูงศักดิ์ ยามพลบค่ำ ทุกคนเตรียมตัวเสร็จแล้วก็นั่งรถม้ามายังคฤหาสน์ตระกูลกงตามเวลานัดหมาย กงเยียนซูออกมายืนรอหน้าคฤหาสน์ด้วยตัวเอง หลางไป๋ประสานมือโค้งศีรษะให้กับกงเยียนซู จากนั้นหลุบตามองพวกเด็กๆ เจ้าแฝดทั้งสอง รวมถึงซินหลินที่เห็นอย่างนั้น ก็ประสานมือบนหน้าอกแล้วโค้งศีรษะลง ทำแบบเดียวกันกับหลางไป๋ กงเยียนซูมองเด็กทั้งสามด้วยสา

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 93 เที่ยวชมฟาร์ม

    บทที่ 93เที่ยวชมฟาร์ม กินขนมอิ่มกันแล้ว หลินก็ถามเด็กน้อยทั้งสองว่า “พวกเจ้าอยากไปชมฟาร์มกันไหม?” “ไปขอรับ/เจ้าค่ะ” เฉิงเอ๋อร์กับเป่าเอ๋อร์ตอบแบบไม่ต้องคิด เด็กน้อยคิดเหมือนว่า ฟาร์มในแดนสวรรค์กว้างขวางขนาดนี้ ต้องมีพืชผักที่ไม่เคยเห็นอีกเยอะแยะแน่ๆ ยิ่งคิดแล้วก็ยิ่งรู้สึกตื่นเต้น พอช่วยกันเก็บโต๊ะเสร็จเรียบร้อย ทั้งสี่คนก็เดินมาที่ฟาร์มฟาร์มในมิติมีขนาดกว้างใหญ่กว่าฟาร์มตระกูลลู่ที่อยู่ในหมู่บ้านกว่างซูหลายเท่า เด็กทั้งสองยืนมองสวนผักผลไม้ด้วยความตื่นตาตื่นใจ “ท่านแม่ ผักผลไม้พวกนี้ใช่ที่ท่านเอาออกไปวางขายในร้านหรือไม่” เฉิงเอ๋อร์เป็นเด็กฉลาด เห็นผักผลไม้ปุบก็เข้าใจทันที ว่าเป็นสินค้าที่มารดาเอาออกไปวางขายในร้าน “เจ้าเข้าใจถูกแล้ว ผักผลไม้ในแดนสวรรค์ แม่แบ่งออกไปขายข้างนอก เพราะพืชในที่แห่งนี้เติบโตเร็วกว่าข้างนอกหลายเท่า” “เป็นแบบนี้เอง” ตอนนั้นเอง สัตว์อสูรในร่างจำแลงมนุษย์ที่กำลังทำสวนหันมาเห็นลู่ซินฟางกับภูตประจำมิติพอดี พวกเขาต่างโบกมือทักทาย “ท่

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 92 พรสวรรค์ของเจ้าแฝด (ครึ่งหลัง)

    บทที่ 92พรสวรรค์ของเจ้าแฝด (ครึ่งหลัง) ใต้ร่มไม้ใหญ่ใกล้กับสวนดอกไม้ข้างบ้านทรงตะวันตกจะมีโต๊ะกลมสีขาวหนึ่งชุด ไม่ไกลจากสวนดอกไม้ มองไปก็จะเห็นฟาร์มอันกว้างขวาง หลังจากตัดสินใจว่าจะนั่งเล่นกันที่ใต้ร่มไม้ เด็กน้อยทั้งสองก็ปีนขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้สีขาว เตะขาเล่นในขณะที่รอคอยขนมอร่อยๆ สักครู่หนึ่ง ชุนก็ยกเค้กสตอเบอรี่กับนมอุ่นๆ มาวางบนโต๊ะ ส่วนถาดที่อยู่ในมือของลู่ซินฟางคือชากุหลาบกลิ่นหอมกลมกล่อมกับคุกกี้เนยสด “ท่านแม่ ข้าไม่เคยเห็นของพวกนี้มาก่อนเลย” เฉิงเอ๋อร์บอกด้วยสีหน้าตื่นเต้น ดวงตากลมโตเปล่งประกายขณะกวาดตามองขนมบนโต๊ะ “น่ากินทุกอย่างเลย ขะ…ข้ากินได้หรือไม่” เป่าเอ๋อร์พูดจบก็กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ “กินกันตามสบายเลยนะจ๊ะ” ลู่ซินฟางบอกพลางลูบศีรษะเล็กๆ ของลูกน้อยทั้งสอง เจ้าแฝดตัวน้อย รวมถึงภูตน้อยหลิน หยิบส้อมขึ้นมาตักเค้กสตอเบอรี่ส่งเข้าปาก ทันทีที่ได้กินของหวานแสนอร่อย รอยยิ้มสดใสปรากฏบนใบหน้าของทั้งสามคน แก้มขาวแดงระเรื่ออย่างน่าเอ็นดู ทำเอาลู่ซินฟางกับชุนถึงกับยิ้มตาม “อร

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 91 พรสวรรค์ของเจ้าแฝด (ครึ่งแรก)

    บทที่ 91พรสวรรค์ของเจ้าแฝด (ครึ่งแรก) พอก้าวข้ามประตูมิติ โลกอันงดงามก็ปรากฏต่อหน้าทุกคน ทุ่งข้าวสีทอง สวนผักผลไม้ ป่าไพรอันสีเขียวขจี และไหนจะธารน้ำอันสดชื่น ดวงตาใสแป๋วของเด็กน้อยทั้งสองเบิกโตด้วยความตื่นเต้น ขณะที่มองไปรอบๆ “แดนสวรรค์สวยจังเลย!” “อื้อ สวยมากๆ” “ยังมีสถานที่ที่สวยกว่านี้อีกนะ” ลู่ซินฟางบอกลูกๆ “อยากเห็นจังเลย ท่านแม่” เฉิงเอ๋อร์ตื่นเต้นมาก รีบร้องบอกท่านแม่ “ข้าก็ด้วย!” เป่าเอ๋อร์พยักหน้ารัวๆ ระหว่างที่เด็กน้อยทั้งสองกำลังตื่นตาตื่นใจกับสภาพแวดล้อมอันงดงามที่อยู่ตรงหน้า เสียงเล็กน่ารักพลันดังขึ้น “งั้นข้าจะเป็นคนนำเที่ยวให้เอง ฮิๆๆ” สิ้นเสียงนั้น ภูตน้อยหลินก็ปรากฏตัวต่อหน้าทุกคน ปีกน้อยขยับไปมาพร้อมกับละอองที่มีเปล่งประกายสีทองวิบวับ เจ้าแฝดเบิกตาโตพร้อมกับร้อง “ว้าว” “พวกเขาคือเฉิงเอ๋อร์กับเป่าเอ๋อร์สินะ”หลังบินวนรอบๆ เด็กน้อยทั้งสอง หลินก็กลับมานั่งบนไหล่ของลู่ซินฟาง หญิงสาวยิ้มแล้วพยักหน้าให้ก

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 90 พาเจ้าแฝดไปต่างมิติ

    บทที่ 90พาเจ้าแฝดไปต่างมิติ “ท่านจะตอบรับคำเชิญของเขาหรือไม่ขอรับ” ทันทีที่ลู่ซินฟางเปิดประตูเดินออกจากห้องทำงาน เสียงทุ้มของหลางไป๋ก็ดังขึ้น หญิงสาวหันมอง เห็นหมาป่าหนุ่มยืนกอดอกอยู่ข้างประตู เฮ้อ… ลู่ซินฟางถอนหายใจด้วยรู้สึกคิดไม่ตก ก่อนจะตอบกลับไป “ข้าในชาติก่อนไม่เคยสับสนกับเรื่องแบบนี้ ไม่รู้ว่าควรจะตอบรับคำเชิญของเขาหรือไม่” คำพูดของหญิงสาวทำเอาหมาป่าหนุ่มกระดกยิ้มตรงมุมปากอย่างขบขัน “ใครจะคิดว่านายหญิงที่คอยชี้นำเหล่าสัตว์อสูรจะเผชิญกับความสับสนเสียเอง” “ก็ข้าไม่เคยคิดนี่น่า คนที่มีศักดิ์ฐานะสูงส่งแบบกงเยียนซูจะมาสนใจหญิงหม้ายลูกติด” “นายหญิงขอรับ อย่างที่ท่านกงบอกนั่นละ การจะชอบใครสักคนทำไมต้องมีเหตุผล สำคัญกว่าฐานะ นายหญิงคิดเช่นไรกับเขาต่างหาก” ลู่ซินฟางคิดตาม ก็รู้สึกว่าหลางไป๋พูดถูก ปัญหาไม่ใช่เรื่องฐานะ สำคัญที่สุดคือลู่ซินฟางคิดกับกงเยียนซูอย่างไร? อย่างไรก็ตาม ลู่ซินฟางหรี่ดวงตาด้วยความสงสัยขณะจ้องมองหมาป่าหนุ่ม “เมื่อก่

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 89 ถูกสารภาพรักครั้งแรก

    บทที่ 89ถูกสารภาพรักครั้งแรก หมายความว่ายังไง เขาไม่ได้โกหก เขาที่ประกาศต่อหน้าทุกคนว่า ‘ชอบ’ นาง บอกว่าไม่ได้โกหก ลู่ซินฟางนั่งตัวแข็งทื่อ อึ้งจนทำอะไรไม่ถูกอยู่ชั่วขณะ ต่อมา หัวใจของนางก็เต้นอย่างรุนแรง ใบหน้าร้อนผ่าวและแดงระเรื่อ ในโลกก่อนและโลกนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่ลู่ซินฟางถูกชายหนุ่มสารภาพว่าชอบ นางจึงสับสนและรับมือกับอารมณ์ในตอนนี้ไม่ถูก ผ่านไปครู่หนึ่ง ดวงตาคู่สวยกะพริบมองชายหนุ่มอยู่หลายครั้ง กงเยียนซูเลิกคิ้วมองตอบลู่ซินฟาง ดวงตาของเขาแฝงด้วยความสงสัย ว่ากันตามจริง ลู่ซินฟางไม่ใช่สาวน้อยวัยแรกแย้ม ทำไมท่าทางเขินอายนั้นถึงทำให้รู้สึกราวกับว่านางเพิ่งถูกสารภาพรักครั้งแรก “ท่านไม่ได้เข้าใจอะไรผิดใช่หรือไม่” หลังจากเงียบอยู่สักพัก ในที่สุดลู่ซินฟางก็เอ่ยออกมา “ข้าไม่ได้เข้าใจผิด คิดมาดีแล้วถึงได้มาหาเจ้าวันนี้” “ถึงท่านจะพูดแบบนั้น แต่ข้ากลับนึกไม่อออก เหตุใดท่านถึงชอบข้า ทั้งฐานะของข้ากับท่านก็แตกต่างกันมาก” “จ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status