공유

บทที่ 2 สามีที่หล่อเหลา

작가: sanvittayam
last update 최신 업데이트: 2025-07-02 16:00:39

บทที่ 2 สามีที่หล่อเหลา

ส่วนทางด้านโม่กวนหยาง

ขณะที่ชายหนุ่มทำงานอยู่นั้น มีคนมาบอกเรื่องที่ภรรยาเขาล้มหัวฟาด จึงรีบลางานเพื่อเดินทางมาโรงพยาบาลทันที แม้จะรู้ว่าจะต้องถูกหักเงินจำนวนไม่น้อยเลยก็ตาม

เมื่อมาถึงหน้าโรงพยาบาล ก็พบภรรยาและแม่ยายกำลังเดินออกมาพอดี

“นั่นกวนหยางไม่ใช่หรือไง สงสัยรีบมาเพราะเป็นห่วงลูกแน่เลย” จางฮุ่ยอีพูดขึ้นมาเมื่อเห็นลูกเขยกำลังเดินเข้ามาหา พร้อมกับชี้ให้ลูกสาวดู

หลินซินเยว่ได้ยินอย่างนั้นก็เงยหน้าขึ้น และเมื่อเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งเดินมาถึงและยืนอยู่ตรงหน้าก็อึ้งไปชั่วขณะ พร้อมกับคิดในใจว่า ‘นี่หรือโม่กวนหยาง ไม่คิดว่าเขาจะหล่อเหลาขนาดนี้’

“ซินเยว่ คุณเป็นยังไงบ้าง” โม่กวนหยางถามขึ้นมาอย่างห่วงใย สีหน้าของเขาดูตื่นตระหนกไม่น้อยเลย พร้อมกับใช้สายตากวาดมองทั่วร่างของภรรยาสาวเพื่อดูให้แน่ใจว่าเธอไม่เป็นอะไร

“เอ่อ ฉันไม่เป็นอะไรค่ะ” หญิงสาวที่ถูกถามและถูกมองอย่างนั้น ก็ไม่รู้จะตอบอย่างไรเหมือนกัน เพราะความไม่คุ้นชินในตอนที่ตอบกลับไป จึงดูเก้อเขินไม่น้อย

“จะไม่เป็นอะไรได้ยังไง ล้มหัวฟาดพื้นจนสลบไปตั้งนาน นี่ก็ดื้อไม่ยอมนอนโรงพยาบาล แม่ไม่รู้จะทำอย่างไรแล้วล่ะ” จางฮุ่ยอีได้ยินคำตอบของลูกสาวก็อดที่จะบ่นออกมาคล้ายกับฟ้องลูกเขยไม่ได้

พอได้ยินแม่ยายพูดแบบนั้น ชายหนุ่มทำเพียงพยักหน้า จากนั้นจึงมองไปที่ภรรยาต่อ เมื่อดูจนแน่ใจแล้วว่าเธอไม่ได้เป็นอะไรก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจ ก่อนจะพูดขึ้นมาอย่างอ่อนโยน

“พวกเรากลับบ้านกันเถอะ เดี๋ยวผมไปตามรถสามล้อมาให้”

 โม่กวนหยางพูดจบ และกำลังจะผละออกไปเรียกรถสามล้อ เนื่องจากเขารู้ดีว่าภรรยานั้นไม่ชอบเดิน เพราะเธอมักจะบอกเสมอว่าร้อนและเหนื่อย

แต่เท้าทั้งสองข้างของเขาก็ต้องชะงักลง เมื่อจู่ ๆ ผู้เป็นภรรยาพูดขึ้นมาว่า “ไม่ต้องเรียกรถสามล้อหรอกค่ะพี่กวนหยาง เดี๋ยวเรากลับด้วยรถประจำทาง ฉันคิดว่าเดินไปพร้อมกันจะสะดวกกว่า พี่เองก็จะได้ไม่เหนื่อยที่ต้องเดินกลับไปกลับมา”

เมื่อได้ยินคำพูดของหญิงสาว ไม่เพียงแค่โม่กวนหยางที่รู้สึกแปลกใจและตกใจ แม้กระทั่งแม่ของหลินซินเยว่เองก็ยังมีความรู้สึกเช่นเดียวกัน ที่ลูกสาวดูจะเปลี่ยนไปมาก หลังจากที่ล้มหัวฟาดพื้นแล้วฟื้นคืนสติกลับมา

แม้จะตกใจและแปลกใจมากเพียงใด แต่ก็ไม่มีใครพูดอะไรออกมา ทั้งสองได้เพียงแต่พยักหน้ารับรู้ แล้วพากันเดินไปที่รถประจำทางเพื่อจะกลับเข้าไปในหมู่บ้าน

ระหว่างทาง หลินซินเยว่ได้แต่คิดทบทวนเรื่องราวต่าง ๆ อยู่ในใจ

‘ฉันคงพยายามทำใจสินะว่าเวลานี้ฉันทะลุมิติมาอยู่ในยุค 80 จริง ๆ  แถมจากความทรงจำ ร่างนี้ก็ร้ายไม่ใช่เล่นเลย ขนาดสามีตัวเองเธอยังใช้งานเขาเยี่ยงทาส สมแล้วที่บ้านสามีจะไม่ชอบร่างนี้ จนขอให้ทั้งสองคนแยกบ้านออกมา

ทั้งที่บ้านสามีล้วนแต่เป็นคนดีทั้งนั้น จะมีก็แต่คนบ้านรองโม่สินะที่คอยแต่จะหาเรื่องเธอ คงจะเป็นเพราะอาสะใภ้รองของสามีต้องการให้หลานสาวตนเองแต่งกับโม่กวนหยาง เพราะชายหนุ่มขยันทำงาน แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะร่างนี้ทำให้เขามาแต่งงานกับตัวเอง คิดดูแล้วก็ดีเหมือนกันที่แยกบ้านออกมาแบบนี้

เธอคิดไปเงียบ ๆ และมีบางครั้งที่ขมวดคิ้วอย่างลืมตัว จนอีกสองคนที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ สังเกตเห็น

“นั่งเงียบตลอดทางแบบนี้ ปวดหัวหรือเป็นอะไรหรือเปล่าลูก” จางฮุ่ยอีเห็นลูกสาวนั่งเงียบและมีสีหน้าครุ่นคิดมาตลอดทาง เลยกลัวว่าอาการของเธอจะแย่ลง จึงรีบถามออกมา

“ฉันไม่เป็นอะไรหรอกค่ะแม่ แค่คิดอะไรเรื่อยเปื่อยเท่านั้นเอง แม่ไม่ต้องเป็นกังวลหรอกนะคะ” หญิงสาวได้ยินเสียงของแม่ ก็หลุดออกจากภวังค์ความคิด เธอพยายามยิ้มและตอบเบี่ยงประเด็นเพื่อไม่ให้แม่เป็นกังวลไปด้วย

‘นี่คงเป็นเรื่องหนึ่งที่ทำให้ฉันใจชื้นอยู่บ้าง ครอบครัวของร่างนี้นั้นเป็นคนดีทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้เป็นพ่อแม่หรือพี่ใหญ่ของเธอเองต่างก็ดีกับร่างนี้มาก

แต่ก็เป็นเพราะร่างนี้อีกนั่นแหละ ที่ไม่เคยทำดีกับครอบครัวเลย ตั้งแต่เล็กจนโตก็ล้วนเอาแต่ใจ จนคนที่บ้านแทบจะเอือมระอา แต่เมื่อฉันมาอยู่ในร่างนี้แล้ว ต่อไปฉันจะทำดีกับทุกคนเพื่อเป็นการตอบแทนอย่างแน่นอน

หญิงสาวคิดในใจและยิ้มออกมาอย่างสบายใจ เธอตั้งใจว่าต่อไปนี้ใครดีมาเธอจะดีตอบ แต่ถ้าใครร้ายมา เธอจะร้ายกลับไปอย่างสาสม

“คุณไม่เป็นอะไรแล้วแน่นะ จะกลับไปนอนที่โรงพยาบาลสักคืนสองคืนก็คงจะไม่เป็นอะไรหรอก”

โม่กวนหยางพูดขึ้นมาเมื่อเห็นท่าทางของภรรยาไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ เขาเลยคิดจะพาเธอกลับไปที่โรงพยาบาลอีกครั้ง เพื่อให้เธอได้นอนพักฟื้นอีกสักสองสามคืน

แม้ว่าเขาจะแต่งงานกับเธอโดยที่ไม่ได้รักแบบชู้สาว แต่โม่กวนหยางก็รักเธอเหมือนน้องสาวคนหนึ่ง อีกทั้งเขายังมีหน้าที่เป็นสามีที่จะต้องดูแลภรรยา จึงไม่แปลกที่เขาจะเป็นห่วงและเอาใจใส่เธอ

“ฉันหายป่วยแล้วจริง ๆ ค่ะพี่กวนหยาง ว่าแต่พี่เถอะ มาแบบนี้ที่ร้านเขาไม่ว่าอะไรเหรอคะ”

หญิงสาวตอบสามีอย่างอ่อนโยนและถามกลับไปอย่างเป็นห่วง เพราะเธอจำได้ว่าสามีนั้นทำงานอยู่ที่ร้านขายของในเมือง หากออกมาในเวลางานแบบนี้ คงจะถูกหักค่าแรง หรือไม่ก็คงจะถูกตำหนิแน่นอน

“ไม่เป็นอะไรหรอก เถ้าแก่ก็ได้แต่บ่นนั่นแหละที่ผมลางานกะทันหัน ร่างกายของคุณสำคัญที่สุด เรื่องอื่นช่างมันเถอะ อย่างไรเดี๋ยวบ่ายนี้ผมจะลองขึ้นเขาสักหน่อย เผื่อจะได้สัตว์ป่ามาทำอาหารเย็นให้คุณกิน คุณอยากกินอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า” ชายหนุ่มตอบออกไป และไม่วายถามถึงความต้องการของเธอ

โม่กวนหยางรู้ดีว่าภรรยานั้นไม่ค่อยชอบกินผักสักเท่าไร แม้กระทั่งเนื้อปลาเธอยังไม่ค่อยจะกินเลย ทุกครั้งที่ต้องทำอาหาร เขาจะต้องไปหาเนื้อหรือว่าต้องซื้อเนื้อเข้ามาตลอด

“ฉันอยากกินต้มปลาค่ะ เดี๋ยวกลับไปถึงหมู่บ้าน เราไปจับปลาที่ลำธารสักหน่อยดีไหมคะ”

หลินซินเยว่นึกถึงอาหารที่เธออยากกินในตอนนี้ ในที่สุดก็คิดถึงอาหารจำพวกปลาขึ้นมา นั่นเพราะหนึ่งเลยหาง่าย สองมีประโยชน์ต่อร่างกาย จึงตอบสามีไปอย่างสดใส

พอได้ยินว่าภรรยาต้องการกินปลา ชายหนุ่มมีสีหน้าแปลกใจเล็กน้อย แต่ก็พยักหน้าให้อย่างรับรู้ทันที และตั้งใจว่าเมื่อกลับไปถึงหมู่บ้านแล้ว เขาจะต้องไปที่ลำธารสักหน่อยเพื่อไปหาปลามาให้เธอ

“ได้สิ เดี๋ยวกลับไปถึงบ้านแล้วผมจะไปหาปลามาให้นะ”

แม้จะแปลกใจแต่ก็ไม่ได้สงสัยอะไรมากนัก เขาคิดเพียงว่าภรรยาคงอยากกินจริง ๆ จึงบอกความตั้งใจของตนเองให้เธอรับรู้

ส่วนจางฮุ่ยอีชำเลืองมองลูกสาวด้วยความแปลกใจเหมือนกัน เธอนั้นเลี้ยงลูกสาวคนนี้มาตั้งแต่เด็ก ทำไมจะไม่รู้ว่าหลินซินเยว่นั้นไม่ชอบกินปลาเลยสักนิด แต่ก็เลือกที่จะไม่พูดอะไร นั่นเพราะว่าเธอได้ยินมาเหมือนกันว่า คนที่ผ่านความตายมาแล้วมักจะมีท่าทีเปลี่ยนไป และไม่ค่อยเหมือนคนเดิมสักเท่าไหร่ นางเลยคิดว่าลูกตัวเองก็คงจะเป็นแบบนั้น

“เอาล่ะ แยกกันตรงนี้นะ เดี๋ยวแม่จะกลับไปที่บ้านเพื่อบอกพ่อและพี่ใหญ่ของลูกว่าลูกปลอดภัยดีและกลับมาอยู่ที่บ้านแล้ว ทั้งสองคนจะได้สบายใจ แล้วค่ำ ๆ แม่จะไปหา กวนหยางแม่ฝากซินเยว่ด้วยนะ” 

เมื่อเดินทางมาถึงหมู่บ้าน จางฮุ่ยอีเห็นว่ามีลูกเขยอยู่กับลูกสาวแล้ว นางเลยเอ่ยปากขอตัวกลับบ้านหลิน เพื่อไปบอกข่าวกับสามีและลูกชายให้รู้ว่าหลินซินเยว่นั้นปลอดภัยดีและกลับมาบ้านแล้ว

“ครับ” โม่กวนหยางตอบรับคำฝากฝังของแม่ยายเพียงสั้น ๆ แต่ก็คอยประคองภรรยาอย่างห่วงใย

ส่วนทางด้านโม่กวนหยาง พอมาถึงบ้านของตนเอง ชายหนุ่มก็พาภรรยาเข้าไปนั่งพักผ่อนในบ้าน แล้วรีบเอาอุปกรณ์มาทำความสะอาดออกมาและกำลังจะลงมือทำความสะอาดบ้าน แต่กลับถูกผู้เป็นภรรยาเอ่ยห้ามไว้เสียก่อน

“งานบ้านมันไม่ใช่หน้าที่ของพี่ เดี๋ยวฉันจัดการเอง พี่จะเข้าป่าหรือไปจับปลาก็ไปเถอะ” เธอบอกเขาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนและลุกมาเพื่อจะทำความสะอาดบ้านด้วยตัวเอง

“เอ่อ…” ชายหนุ่มถึงกับนิ่งอึ้งไป เขาคิดว่าตนเองกำลังหูฝาดที่ได้ยินแบบนี้ เพราะตั้งแต่แต่งงานกันมา หน้าที่ทำงานบ้านเป็นของเขามาเสมอ แล้ววันนี้เกิดอะไรขึ้น ทำไมภรรยาถึงได้อยากทำแบบนี้ขึ้นมา

หลินซินเยว่เหมือนจะรู้ความคิดของสามี เลยรีบพูดขึ้นอีกครั้งด้วยท่าทีจริงจังว่า

“พี่ไม่ต้องแปลกใจอะไรหรอก ไม่ใช่ว่าฉันทำงานบ้านไม่เป็น แต่ก่อนหน้านี้ฉันแค่ไม่อยากทำเท่านั้น ฉันรู้ตัวเองดีว่าเมื่อก่อนฉันนั้นทั้งร้ายกาจและขี้เกียจแค่ไหน แต่การที่ฉันผ่านความเป็นความตายมาแล้ว ทำให้ฉันคิดอะไรได้มากมายเลยล่ะ ฉันจึงอยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้น หรือพี่คิดว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ดี ถ้าฉันจะเปลี่ยนตัวเอง”

“ดีครับ”

นี่คือคำตอบเดียวที่ออกมาจากปากชายหนุ่ม ก่อนที่เขาจะไปหยิบอุปกรณ์จับปลามา แล้วเดินออกจากบ้านไปด้วยความงุนงง

พอเห็นว่าสามีออกจากบ้านไปแล้ว หลินซินเยว่ก็ไปหยิบอุปกรณ์ทำความสะอาดมาทำความสะอาดบ้านทันที เธอไม่ได้รู้สึกเลยว่าการทำงานบ้านจะเป็นเรื่องที่หนักหนาอะไร ในชีวิตที่แล้วก่อนที่จะมาเป็นนักธุรกิจชื่อดัง บ้านเธอก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไร งานบ้านทุกอย่างเธอก็ทำเองทั้งหมด เรื่องแค่นี้จึงสบายมาก

หลังจากทำอะไรทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวก็นั่งนึกถึงเรื่องที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้

‘แม้ว่าตอนนี้ฉันจะมาอยู่ในยุค 80 และยังเป็นช่วงต้นปี ความยากลำบากก็ยังคงมี ต่อให้การค้าจะมีการเปิดเสรีแล้วก็ตาม แต่สินค้าหลายอย่างก็ยังไม่สามารถซื้อขายได้ตามใจชอบ เนื่องจากยังเป็นสินค้าจำกัดของรัฐ ร้านค้าใหญ่ ๆ ทั่วไปก็คงจะเป็นสหกรณ์ของรัฐ หรือไม่ก็ห้างสรรพสินค้าที่นายทุนได้สร้างร่วมกับรัฐเหมือนกัน ส่วนร้านของชำของชาวบ้านก็คงจะมีประปราย’ 

“แล้วในหมู่บ้านของแห่งนี้ มีสหกรณ์หรือร้านค้าหรือเปล่านะ ลองออกไปดูว่ามีอะไรให้ซื้อดีไหมนะ”

หญิงสาวพึมพำออกมาเพียงลำพัง ก่อนจะถอนหายใจออกมาแล้วคิดว่า ‘ก่อนที่จะคิดว่าไปซื้ออะไร ก็คงจะต้องคิดก่อนว่าจะเอาเงินที่ไหนไปซื้อ ตอนนี้ไปดูในครัวก่อนดีกว่าว่ามีอะไรให้ทำกินได้บ้าง หิวแล้วเหมือนกัน’

คิดได้อย่างนั้นก็รีบเดินเข้าครัวไปทันที

“จะว่าไปบ้าน หลังนี้ก็ไม่ได้ย่ำแย่จนเกินไป ข้าวสารและของแห้งก็ยังคงมีไม่ขาด จะว่าไปบ้านโม่เองก็คงจะไม่ได้ยากจนเหมือนกัน เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว คงไม่ให้เงินลูกชายมาสร้างบ้านในราคาหลายร้อยหยวนแบบนี้หรอก เป็นบุญเธอแท้ ๆ หลินซินเยว่ ที่ทำตัวร้ายกาจและขี้เกียจขนาดนั้นสุขสบาย แถมสามียังคงดูแลและใส่ใจอย่างดีแบบนี้”

ขณะที่หญิงสาวเดินสำรวจในครัวและภายในบ้านแล้ว ก็ได้แต่บ่นร่างเดิมออกมาอย่างหัวเสีย เพราะหากทำตัวดีกว่านี้ ก็คงไม่เกิดเรื่องแย่ ๆ กับเธอหรอกนะ

แม้จะทำใจไว้แล้วว่าเธอจะต้องอยู่ในร่างของหญิงสาวร้ายกาจประจำหมู่บ้าน แต่ก็ไม่คิดว่าร่างเดิมจะร้ายกับครอบครัวตัวเองแบบนี้ด้วยเหมือนกัน

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ทะลุมิติมาเป็นสตรีร้ายกาจ 80s   บทส่งท้าย ความรักที่สมบูรณ์ของหลินซินเยว่

    บทส่งท้าย ความรักที่สมบูรณ์ของหลินซินเยว่ตอนที่ได้ยินว่าภรรยาตั้งท้อง โม่กวนหยางก็ตกใจและดีใจมากแล้ว แต่พอรู้ว่าเธอตั้งท้องแฝด เขากลับยิ่งทั้งดีใจและเริ่มเป็นกังวล เพราะกลัวจะดูแลเธอไม่ดี“ซินเยว่ได้ยินที่คุณหมอบอกแล้วใช่ไหม ต่อไปนี้ไม่ต้องทำงานอะไรอีกแล้วนะ เดี๋ยวพี่จะทำทุกอย่างแทนซินเยว่เอง เรากลับบ้านกันเถอะ ส่วนที่ร้านก็ให้โม่เจิ้งฉีกับน้องสะใภ้ดูแลไปก่อน” โม่กวนหยางพูดกับภรรยาอย่างอ่อนโยน“ก็ได้ค่ะ” หลินซินเยว่ตอบรับอย่างไม่มีข้อโต้แย้งเพราะเธอก็ยังรู้สึกอ่อนเพลียอยู่เมื่อเดินออกมาจากห้องตรวจ ก็พบเข้ากับพ่อแม่จากทั้งสองบ้านมารอถามข่าว เมื่อทุกคนได้รับรู้ข่าวดีก็ยิ้มกว้างอย่างดีใจ“ดีจริง ๆ ต่อไปเจ้าสามจะต้องดูแลสะใภ้สามให้ดี ๆ นะ งานขายของก็พักไว้ก่อน เดี๋ยวพ่อแม่จะมาช่วยดูแลร้านให้เอง แถมตอนนี้ยังมีโม่เจิ้งฉีกับเซี่ยเป้ยนีมาช่วยดูแลด้วย ซินเยว่ก็ไม่ต้องห่วงนะ” ฟางเหนียงพูดกับลูกชายของตนเองกับสะใภ้“นั่นสิ ซินเยว่ต้องพักผ่อนเยอะๆ นะลูก ท้องแรกแถมยังเป็นท้องแฝดด้วย ต้องระวังตัวให้มากๆ เดี๋ยวแม่จะอยู่ช่วยดูแลซินเยว่เองนะลูก เราจะต้องเริ่มบำรุงด้วยอาหารที่เพิ่มน้ำนมแล้วนะฟางเหนียง

  • ทะลุมิติมาเป็นสตรีร้ายกาจ 80s   บทที่ 59 งานแต่งของหลินอี้เฉิน

    บทที่ 59 งานแต่งของหลินอี้เฉินเมื่อวันที่บ้านหลินมาสู่ขอคุณหนูหวาง แม้ว่าทั้งสองคนจะฐานะต่างกัน แต่บ้านหลินทำเต็มที่ จนชาวบ้านที่รู้ข่าวตกตะลึงไม่น้อย แล้วยังมีของขวัญจากน้องสาวและน้องเขยคือตึกในแหล่งการค้าอีกด้วย“หลังจากนี้ฉันฝากหลิงหลิงไว้กับนายด้วยนะ ต่อจากนี้ฉันก็กล้าที่จะวางมือแล้ว” นายท่านหวางเอ่ยขึ้นมาอย่างอ่อนโยนเขาไม่ได้สนใจว่าสินสอดที่อีกฝ่ายให้มานั้นจะมากน้อยแค่ไหน เพราะเขาตั้งใจว่ายื่นคืนกลับให้ว่าที่ลูกเขยและลูกสาวไว้ทำทุน เพราะอย่างไรหลินอี้เฉินย่อมก็ต้องเข้ามาช่วยดูแลกิจการของครอบครัวหวางอยู่แล้ว“ครับนายท่าน ผมจะดูแลคุณหนูและกิจการของตระกูลหวางให้ดี” หลินอี้เฉินรับปากอย่างหนักแน่นจริงจัง“ยังจะมาเรียกนายท่าน เรียกคุณหนูอยู่อีก เราจะเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วนะ นายก็ควรเรียกฉันว่าพ่อได้แล้ว ส่วนหลิงหลิงนายจะเรียกชื่อเธอหรือจะเรียกภรรยาก็ตามใจนาย” นายท่านหวางพูดขึ้นมาอย่างอารมณ์ดี“ครับคุณพ่อ ผมจะดูแลหลิงหลิงกับตระกูลหวางให้ดีครับ” หลินอี้เฉินตอบใหม่อีกครั้ง“และเราสองคนจะกลับไปดูแลพ่อกับแม่ที่บ้านหลินบ่อยๆ นะคะ” หวางหลิงหลิงเองก็หันไปพูดกับหลินไป๋หานและจางฮุ่ยอี อย่างนอ

  • ทะลุมิติมาเป็นสตรีร้ายกาจ 80s   บทที่ 58 ซื้อที่ดินสร้างกิจการของตัวเอง

    บทที่ 58 ซื้อที่ดินสร้างกิจการของตัวเอง“นายมาหาฉันทำไม” หญิงสาวถามหลวนหมิงด้วยน้ำเสียงเย็นชา เพราะเธอพอจะสืบเรื่องนี้มาได้เหมือนกัน“ผมมีเรื่องมาสารภาพครับ” หลวนหมิงพูดออกมาด้วยท่าทางนอบน้อมจากนั้นชายหนุ่มจึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังตั้งแต่ต้นจนจบ โดยไม่มีคำไหนตกหล่นเลยแม้แต่น้อย ครั้งนี้เขาก็ไม่รู้ว่าหน้าที่การงานจะยังอยู่เหมือนเดิมหรือเปล่า แต่ก็ตัดสินใจที่จะพูดออกมาทั้งหมดเพื่อรักษาชีวิต“ฉันดีใจนะหลวนหมิง ที่นายมาสารภาพด้วยตนเองแบบนี้ ครั้งนี้ฉันถือว่านายได้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง เพราะถ้าเมื่อไหร่ที่นายทำตามคำขอของหญิงคนนั้น หน้าที่การงานรวมถึงชีวิตของนายก็จะไม่เหลือ เพราะฉันเองก็คงจะต้องตามล่านายเหมือนกัน นายรู้ใช่ไหมว่าตอนนี้ตระกูลหลินกับตระกูลหวางมีความเกี่ยวดองกันแล้ว”หวางหลิงหลิงพูดขึ้นมาด้วยความรู้สึกยินดี ที่ลูกน้องของคุณพ่อคนนี้กล้ามาพูดตรงๆ และกล้ายอมรับความผิดทั้งหมดด้วยตัวเอง เธอจึงพร้อมที่จะให้อภัย และให้เขาทำหน้าที่เดิมต่อไป “ครับคุณหนู” หลวนหมิงตอบกลับมาเพียงเท่านี้ ก่อนจะก้มหน้ารู้สึกผิดอีกครั้ง“ถ้าอย่างนั้นนายก็ทำหน้าที่ของนายต่อไป และเมื่อไรที่นายพบผู้หญิงที่อยากจะ

  • ทะลุมิติมาเป็นสตรีร้ายกาจ 80s   บทที่ 57 จบสิ้นเรื่องวุ่นวาย

    บทที่ 57 จบสิ้นเรื่องวุ่นวายส่วนทางด้านหลินอี้เฉิน เขาได้พาหวางหลิงหลิงมาเดินเล่นในหมู่บ้านโดยมีสายตาของชาวบ้าน ต่างก็มองอย่างอยากรู้อยากเห็น“ทำไมคุณต้องเดินห่างฉันขนาดนี้ หรือว่าคุณมีคนรักอยู่ในหมู่บ้านนี้ เลยกลัวว่าเธอจะเห็นเราสองคนเดินด้วยกันเหรอ” หญิงสาวถามขึ้นมาคล้ายกับจะหยอกล้อ แต่ความจริงเธอต้องการคำตอบนี้อย่างมาก“ผมยังไม่มีคนรักครับ แต่ที่ผมต้องเดินเว้นระยะห่างกับคุณเพราะกลัวชาวบ้านจะเอาไปนินทา แล้วจะทำให้คุณเสียหาย”หลินอี้เฉินตอบกลับอย่างจริงจัง ขณะที่ตอบก็สบตาหญิงสาวอย่างไม่หลบเลี่ยง เพราะกลัวว่าเธอจะไม่เชื่อในสิ่งที่เขาได้บอกไป“เป็นไปได้เหรอที่คุณจะไม่มีคนรัก ดูจากอายุแล้วน่าจะเลยวัยที่จะต้องแต่งงานแล้วนะ” เธอแสร้งถามอย่างหยอกล้ออีกครั้ง ทั้งที่หัวใจนั้นพองโตไม่น้อยกับคำตอบที่ได้รับรู้“เมื่อก่อนบ้านผมจนน่ะ ไม่มีใครอยากให้ลูกสาวต้องมาลำบากหรอกครับ” คราวนี้เขาตอบออกไปด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ๆ เพราะนึกถึงฐานะของตนเองกับหญิงสาวที่แตกต่างกันมาก“แต่ตอนนี้บ้านของคุณมีฐานะดีขึ้นแล้วนี่ จะกลัวการแต่งงานทำไม ถ้าอย่างนั้นคุณลองมาคบหากับฉันไหม แต่คุณจะรับความเสี่ยงได้หรือเปล่าล่ะ เพร

  • ทะลุมิติมาเป็นสตรีร้ายกาจ 80s   บทที่ 56 ไม่หาเรื่อง เรื่องก็มาหา

    บทที่ 56 ไม่หาเรื่อง เรื่องก็มาหา“พี่คิดว่าฉันโหดร้ายเกินไปหรือเปล่าคะ ที่ตัดสินใจทำตามแผนการนี้”“ไม่เลย ในเมื่อลูกสาวบ้านตู้คิดจะเล่นงานน้องก่อน อย่างไรเธอก็ควรจะได้บทเรียนในครั้งนี้”โม่กวนหยางรีบตอบกลับไปอย่างอ่อนโยนทันที เขาไม่ได้มองว่าภรรยาตนเองนั้นโหดร้าย และไม่ว่าเธอตัดสินใจจะทำอย่างไร เขาก็พร้อมจะสนับสนุนทุกอย่าง แม้ว่าสิ่งที่ภรรยาของเขาทำนั้น จะเป็นเรื่องที่ร้ายแรงแค่ไหนก็ตาม “ขอบคุณมากนะคะที่เข้าใจฉัน” หลินซินเยว่พูดขอบคุณและยิ้มให้สามีอย่างอ่อนโยน“ถ้าอย่างนั้นเราทำตามแผนการที่วางไว้เลยนะคะ กลับไปฉันจะได้สั่งให้คนดำเนินการเลย ส่วนคุณ เมื่อถึงเวลานั้นก็แสร้งทำทีพาคนไปพบ เรื่องนี้ตู้หลินเซียนไม่อาจหนีชะตากรรม ที่เธอได้ทำไว้ในตอนแรกแน่” หวางหลิงหลิงพยักหน้าอย่างพอใจเมื่อเห็นว่าหลินซินเยว่มีความเด็ดขาด ไม่ยอมให้คนที่ทำร้ายตนเองลอยนวล“ขอบคุณมากนะคะคุณหนูหวางที่ช่วยในเรื่องนี้ ฝากขอบคุณไปถึงนายท่านหวางด้วย จริงสิ รอสักครู่นะคะ” หลินซินเยว่ยิ้มและเอ่ยขอบคุณอย่างจริงใจ ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปที่ห้องตัวเอง แล้วหยิบเอารังนกออกมาชุดใหญ่“นี่ฉันฝากไปให้นายท่านหวางด้วยนะคะ ฉันไม่รู้ว่าจ

  • ทะลุมิติมาเป็นสตรีร้ายกาจ 80s   บทที่ 55 ต้องจัดการให้เด็ดขาด

    บทที่ 55 ต้องจัดการให้เด็ดขาด“ครับ แต่อย่างไรเรื่องนี้ผมจะต้องไปคุยกับซินเยว่และพี่กวนหยางดูก่อน แต่เชื่อว่าทั้งสองคนน่าจะเห็นด้วยกับความคิดนี้ และหากจะหาใครสักคนให้แต่งงานกับตู้หลินเซียน ก็น่าเป็นชายหนุ่มจากหมู่บ้านอื่น หรือไม่ก็คงจะเป็นพวกพรานป่า หรือไม่ต้องเป็นคนที่โหดสักหน่อย เพื่อที่จะจัดการให้เธออยู่ในโอวาทได้ ไม่อย่างนั้นแล้วก็คงจะเอาผู้หญิงคนนี้ไม่อยู่”หลินอี้เฉินพูดขึ้นมาตามความคิดของเขา โดยที่เขายังไม่มีใครอยู่ในใจ แต่อย่างไรเรื่องนี้ก็คงจะต้องไปคุยกับน้องสาวและน้องเขยให้ชัดเจนเสียก่อนว่า จะจัดการลูกสาวบ้านตู้อย่างไร“แต่ฉันเห็นต่างเล็กน้อย เรื่องอื่นไม่มีปัญหา แต่ชายที่จะมาแต่งงานกับตู้หลินเซียนนั้น จะต้องเป็นคนที่ยากจนเพิ่มขึ้นมาด้วย ผู้หญิงคนนั้นจะได้เลิกเชิดหน้าชูคอสักที”หวางหลิงหลิงพูดขึ้นมาอย่างจริงจัง ใครจะคิดว่าเธอนั้นจะโหดร้ายเกินไปก็ช่าง แต่เพราะผู้หญิงร้ายกาจแบบตู้หลินเซียน จะต้องจัดการขั้นเด็ดขาดแบบนี้เท่านั้นพอได้ยินอย่างนั้น หลินอี้เฉินก็หันไปมองหญิงสาวเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มมุมปากออกมาอย่างพึงพอใจ เขาไม่มองเลยว่าเธอนั้นโหดร้ายกับผู้หญิงด้วยกัน เพราะคนอย่างตู้ห

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status